ความคิดเห็นที่ 1 ถ้ายังไม่เคยมี credit card มาก่อน แนะนำให้ทำกับธนาคารที่มีบัญชีอยู่ค่ะ การทำบัตรเครดิตส่วนใหญ่ต้องมี SSN แต่บางธนาคารก็อนุโลมให้ Credit History ก็คือประวัติการจับจ่ายใช้สอย และจ่ายเงินบัตร credit ของ เราค่ะ การจ่ายเงินคืนบัตรเค้าจะมี bill มาเรียกเก็บทุกเดือน ประมาณว่ารูด ไปก่อนจ่ายคืนทีหลัง APR = Annual percentage rate คืออัตราดอกเบี้ยที่เก็บค่ะ ถ้าเรารูดไปแล้วไม่มีเงินจ่าย บริษัทก็จะเริ่มเก็บดอกเบี้ยหลังจากกำหนดจ่ายเงิน ซึ่งปกติ แล้วก็คือ 15-45 วันหลังจากวันที่ได้รูดใช้จ่ายไปแล้ว จากคุณ : pixp - [ 21 ก.พ. 51 12:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราไม่มี credit history เหมือนกันค่ะ ถึงมี ssn ก็เถอะ เพราะเราไม่เคยใช้ชื่อเราทำธุรกรรมอะไรที่นี่เลย มีแต่ชื่อแม่ทั้งนั้น ขอยากค่ะ ใช้เวลาอีกนาน มีเครดิตการ์ดเราว่าดีตรงที่ ถ้าเราจ่ายทุกครั้ง ตรงเวลา มันจะสร้างเครดิตให้เราน่ะค่ะ จะได้เอาไว้ทำอะไรๆได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ เช่าอพาร์ตเมนท์ เพราะที่นี่ เกือบทุกอย่างย้อนดูเครดิตเราหมดค่ะ ถ้าดี เค้าจะรีบเอามาประเคนให้เลยค่ะ ถ้าไม่ดี เค้าก็ไม่อนุมัติให้ หรือไม่ต้องเครดิตการ์ดก็ได้ค่ะ ไม่ว่าธุรกรรมสัญญาอะไรก็แล้วแต่ ที่เราสัญญาว่าจะจ่ายเค้าเท่านั้นเท่านี้ ถ้าไม่เบี้ยว จ่ายครบ ก็สร้างเครดิตดีดีได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 51 12:53:07 จากคุณ : Little Love Bug - [ 21 ก.พ. 51 12:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่มี Credit History จะขอยากมากเลยค่ะ กว่าจะได้ใบแรกมาได้โดนปฏิเสธหลายทีเหมือนกัน ที่ได้ใบแรกมาได้ก็เพราะทำกับธนาคารที่ฝากเงินอยู่น่ะค่ะ เค้าบอกให้เราฝากเงินแบบพิเศษไว้จำนวนหนึ่ง (secured saving) ได้ดอกเบี้ยเหมือนเงินฝาก saving แต่ทำหน้าที่เหมือนเป็นเงินประกันไปได้ตัวด้วย ทำนองว่าถ้าเราเบี้ยวไม่จ่ายเงินเค้าก็ยึดเงินก้อนนี้ไปอ่ะค่ะ ลองไปติดต่อธนาคารที่มีบัญชีอยู่ดูนะค่ะ ปรึกษากับพนักงานว่าพอมีวิธีบ้างมั๊ยสำหรับคนที่ไม่มี Credit History เลย จากคุณ : Marojung - [ 21 ก.พ. 51 15:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การสร้างเครดิตจริงๆทำไม่ยากหรอกค่ะ แต่ต้องมีวิธี และใจเย็นๆ อย่างแรกก็คือ ถ้าไม่มีเวลา อยากทำเร็วๆ ก็ติดต่อกับธนาคารที่เปิดใช้อยู่ จ่ายเงินค้ำประกันเค้าไว้ เป็น Fixed ไปเลย อย่างที่สอง พ่วงกับบัตรคนอื่น อันนี้ได้แน่ๆ ถ้าคนที่คุณพ่วงเครดิตดี อย่างที่สาม การเซ็นต์สัญญาเช่าบ้าน ซื้อมือถือ รวมถึงค่าใช้จ่ายพวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าขยะ ตรงนี้ก็สามารถใช้เป็นเอกสารการทำธุรกรรมได้ค่ะ แล้วก็เป็นการสร้างเครดิตอย่างนึง อย่างที่สี่ ไปขอเครดิตการ์ดกับห้างร้านก่อน มันอาจจะไม่ได้ให้เป็นแบบ Visa, Mastercard แต่สามารถใช้กับห้างร้านเค้าเท่านั้น การสร้างเครดิต จะใช้เวลาประมาณปีหนึ่งค่ะ เครดิตจะขึ้นเร็ว ถ้าจ่ายหมด ตรงเวลา หลังจากนั้น เชื่อเถอะว่า การ์ดสารพัดการ์ด จะส่งมาให้คุณเยอะแยะ ฉีกทิ้งไม่ทันเลย สำหรับเครดิตการ์ดที่แนะนำ ลองดู American Express นะคะ ดูบัตรสำหรับนักเรียน วงเงินน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไร ยี่ห้ออื่นให้ยากค่ะ เชื่อว่าหลังจากนั้น คุณก็ไม่อยากจะเปลี่ยนยี่ห้อ เพราะว่ายี่ห้ออื่นไม่เห็นความสำีคัญของคุณตอนที่อยากได้จริงๆ (เอาตัวเองเป็นหลักเลยนะเนี่ย) Discover เป็นบริษัทเครดิตการ์ดเช่นกันค่ะ เป็นคู่แข่งของ American Express นี่แหละ ร้านค้าหลายๆร้าน ไม่รับ เพราะว่าค่าธรรมเนียมในการรูดแพงกว่ายี่ห้ออื่น Chase ถ้าใช้บัตรนี้ก็ระวังหน่อยนะคะ จ่ายให้ตรงเวลาจริงๆ ไม่งั้นถูกดอกเบี้ยอื้อเลยค่ะ ไม่มีผ่อนผันเหมือนเจ้าอื่นๆ วิธีการใช้บัตรเครดิตการ์ดไม่ให้ถูก Finance Charge ง่ายก็คือ จ่ายหมด ภายใน Due Date ไม่ต้องสนใจคำว่า Minimum Payment เพราะมันเป็นการหลอกล่อให้คุณจ่ายต่ำๆ แล้วมันจะชาร์จดอกเบี้ยคุณเกือบยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของยอดเงินต้น วิธีการชำระเงินค่าบัตรเครดิต ทุกๆเดือนบริษัทบัตรเครดิตจะส่งบิลมาให้คุณดูว่า เดือนที่แล้ว คุณรูดการ์ดไปทั้งหมดเท่าไหร่ อย่างแรกที่คุณควรจะเช็คก็คือ Transaction ที่อยู่ใน Statement ตรงกับยอดที่คุณใช้หรือไม่ ถ้าใช่ คุณก็จ่ายบัตรเครดิต มีสามวิธี หนึ่ง ส่ง Personal Check (จาก Checking Account ของธนาคารที่คุณเปิด) พร้อมกับแนบ ส่วนที่เค้าให้ฉีกจาก Statement ส่งกลับไปให้บริษัท ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมติดแสตมป์ และระุบุหมายเลขบัญชีบัตรเครดิตในช่อง For บนเช็คของคุณด้วย สอง ถ้าคุณมีแบงค์ คุณสามารถตั้ง Bill Pay เป็นการจ่ายเงินออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถตั้งเวลาได้ว่าคุณจะจ่ายเงินให้กับบริษัทเครดิตการ์ดเมื่อไหร่ ตรงนี้คุณควรที่จะหาข้อมูลเอง เพราะว่าแบงค์แต่ละแบงค์ไม่เหมือนกัน ถ้าคุณใช้ Bank of America นี่ง่ายมาก คุณแค่ระบุว่าคุณจะจ่ายให้บริษัทอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ แบงค์นี้เค้ามีในสำเร็จรูปแล้ว คุณแค่เติมเลขที่บัญชีบัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่งการใช้บริการ Bill Pay นี้ สะดวกและประหยัด ไม่เสียค่าแสตมป์ แถมเป็น Free Service จากแบงค์ด้วย สาม คุณอาจจะไปตั้งค่าจ่ายเงินออนไลน์ จากบริษัทบัตรเครดิตที่คุณใช้เลย แต่ก่อนอื่น คุณต้อง Sign up ก่อน แล้วก็ค่อยไปตั้งว่า คุณจะให้บัตรตัดเงินจากแบงค์ไหน เมื่อไหร่ เอา แบบครั้งเดียว หรือว่าจะให้ตัดอัตโนมัติทุกเดือน แต่โดยมาก ก็จะตัดครั้งเดียว เพื่อความปลอดภัย บริการนี้ก็ฟรีเช่นกัน ข้อดีอีกอย่างก็คือ ถ้าคุณตั้งเวลาให้ตัดภายใน Due Date คุณไม่ควรที่จะโดน Finance Charge ค่ะ การมีบัตรเครดิตก็ดีอย่างนึงก็คือ การใช้เงินปัจจุบัน แต่จ่ายในอนาคต คุณไม่ต้องควักกระเป๋าจ่าย ณ วันนี้ แต่คุณสามารถตอบสนองความต้องการของคุณปัจจุบันได้ แม้ว่าคุณจะมีตังค์ หรือไม่มีตังค์ก็ตาม นอกจากนี้ ถ้าในแง่ของทฤษฎีการเงิน ก็คือ คุณเก็บเงินไว้คุณให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งในช่วง Grace Period ที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินในเครดิตการ์ด คุณสามารถนำเงินไปฝาก ให้ได้ดอกเบี้ย หรือเอาไปลงทุนอย่างอื่น อย่างน้อยๆ คุณไม่ต้องเสียเงินสดทันที ถ้าคุณใช้เงินสด หรือ เดบิตการ์ด ซึ่งเงินนั้นหายไปเลย คุณไม่สามารถเอาไปไว้ใช้หาดอกเบี้ยได้ เรียกง่ายๆก็คือ การใช้เงินสด ทำให้คุณเสียโอกาสในการลงทุนดีๆนี่เอง ข้อคิดของการใช้บัตรเครดิต หนึ่ง อย่ารูดเพลิน รู้จักยั้งใจบ้าง หรือทำงบประมาณการรูด ว่าควรจะรูดเท่าไหร่ ไม่งั้น เป็นหนี้ หัวโตไม่รู้ด้วย สอง จ่ายให้หมด ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ไม่ต้องเห็นแต่ Minimum Payment ให้คุณคิดแต่ว่า ถ้าคุณจ่ายไม่หมด ดอกเบี้ยแพงหูฉู่ รอคุณอยู่ เคยได้ผลิตภัณฑ์ Balance Transfer มั้ยค่ะ นั่นก็เป็นวิธีการโอนย้ายหนี้ จากที่ที่คิดดอกเบี้ยแพง ไปยังที่ที่ ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า แต่ถ้าคุณบริหารเงินเป็น คุณจะไม่ต้องสนใจบริการพวกนี้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะหาเงินมาใช้ได้อย่างไร ไม่ต้องกลัวที่จะหนี้เจ้าหนี้ ไม่ปวดหัวค่ะ หวังว่าตอบคำถามครบหมดนะคะ จากคุณ : ลิงน้อย - [ 21 ก.พ. 51 20:55:35 A:70.220.95.142 X: TicketID:145647 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกอย่างที่น่าคิดถึงคือ คุณจะอยู่ที่อเมริกานานแค่ไหน ถ้าอยู่ไม่นาน ปีสองปีเรียนจบก็กลับ เราว่าบางทีอย่าทำเลย เพราะเดี๋ยวนี้ Identity Theft เยอะมาก ๆ มี SSN ก็มีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ (นี่ตัวเองยังเสียว ๆ ต้องเช็คบ่อย ๆ จะสมัครบริการแบบที่แจ้งให้เรารู้ทุกครั้งที่ credit history มีการเคลื่อนไหว ก็โน่น ปีล่ะ 80 เหรียญขึ้นไปอ่ะนะ) การเปิดบัญชีแบบ Secured Credit ถ้าไม่ต้องการสร้างเครดิตจริง ๆ เราก็ไม่เห็นด้วย เพราะมัน reverse หลักการของการมีเครดิตคาร์ดเห็น ๆ แทนที่จะยืมตังก์ของ credit card issuer มาใช้ก่อน กลายเป็นว่าคุณเอาตังก์คุณไปฝากไว้ให้เค้าใช้ก่อน จากที่เห็นมา Discover ให้ง่ายสุดและให้ credit limit สูงกว่าบัตรอื่น ๆ ในช่วงแรก คิดว่าถ้าคุณจะเริ่มสมัคร ควรเริ่มจากบัตรนี้ (แต่ไม่แน่ใจว่าเค้า require SSN หรือเปล่า) จากการบริการ ชอบ Amex ที่สุด ทว่า Discover และ Amex มีสถานที่รับน้อยกว่า Visa/Mastercard ข้อดีที่เราชอบใช้ credit card ก็เพราะว่า 1. ไม่ต้องพกเงินสด 2. เวลามีปัญหาอะไรกับของที่ซื้อมา สามารถ dispute ได้ ก็รู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบ เพราะเงินยังไม่ได้จ่ายออกไป ถ้าจ่ายเงินสด ก็เหมือนอ้อยเข้าปากช้าง จะเอาคืนก็ยาก 3. perks อื่น ๆ เช่นเช่ารถก็มีประกันให้ส่วนหนึ่ง ไม่ต้องซื้อ ซื้อของที่มีประกัน ก็แถมประกันเพิ่มฟรี ๆ หรือมีสะสมไมล์ หรือคืนเป็นเงินสด ฯลฯ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ถ้าคุณมี SSN แล้วจะเริ่มสมัคร อย่าสมัครมากหลายใบ เพราะไม่ว่าคุณจะได้อนุมัติหรือไม่ การยื่นใบสมัครจะทำให้มีการตรวจเช็ค credit history ของคุณ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ FICO score ตกได้ จากคุณ : Genuine XXX - [ 21 ก.พ. 51 21:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยครับ ถ้าเรียนหนังสือแล้วจะไม่อยู่ที่นี่ ไม่ควรทำบัตรเครดิตครับ เพราะยุ่งยาก แต่ถ้าอยู่ที่นี่ก็ควรทำครับ บัตรเครดิตที่นี่จริงๆมี 4 ยี่ห้อหลักๆครับ (master card / visa card / discover card / american express) แต่ละอย่างก็มีประเภทย่อยๆมากมายครับ ผมมีทั้ง 4 ยี่ห้อ ถ้าสมัครครั้งแรกควรสมัครประเภทนักเรียนครับ เมื่อสมัครแล้ว credit limit จะให้ประมาณ 1000 เหรียญ แต่ไม่ควรใช้เกินครึ่ง ($500) บัตรเครดิตทุกยี่ห้อจะมีแบบสะสมแต้ม พอแต้มถึงก็ส่งเช็คเงินสดมาให้เรา แต่ว่าอย่าสมัครบัตรเครดิตตามห้างนะครับ อย่าเด็ดขาด ผมเคยสมัครแล้วแย่มากครับ คือปกติ credit score ผม 776 (excellent) ผมสมัครบัตรเครดิตของห้าง คะแนนจะลบไป 20-80 / 1 credit card และคะแนนก็ลดลง ต้องใช้เวลา 2 ปี กว่าคะแนนจะเหมือนเดิม มันมีเบอร์โทรฟรี ขอดูว่าเราเคยมีบัตรเครดิตอะไรด้วยนะครับ ของทั้ง Equifax / Experian /TransUnion บริษัทเลยครับ 1-877-322-8228 (1-877 fact-act) ขอได้ปีละครั้งครับ (12 months / 1 year) จากคุณ : JM - [ 21 ก.พ. 51 23:25:40 A:198.22.236.230 X: TicketID:154817 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกคนนะคะ จากคุณ : Doki Doki Jang - [ 22 ก.พ. 51 08:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 23 ก.พ. 51 05:43:37 ]