ความคิดเห็นที่ 1 ยังมีอะไรเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่เราไม่รู้คงต้องศึกษาต่อไป ในประเทศที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ตอนนี้เราก็ได้เรียนรู้ว่า คนญี่ปุ่น ไม่ได้ใจเย็นไปซะทุกคน และไม่ได้นอบน้อม อ่อนโยน เป็นระเบียบกันหมด ญี่ป่นมีระบบชนชั้น มีบ้านนอก ชนบท และ มีคนเมือง คนญี่ปุ่นก็ชอบยุ่งเรื่องครอบครัว ชาวบ้านเหมือนกัน เพื่อนร่วมงานบริษัท มีนินทากลั่นแกล้ง คนอ่อนกว่าก็โดนนินทา จนสามีสงสาร  มาเล่าให้เล่าฟัง สามียังไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร ยกเว้นเรื่องงาน งานเป็นหนึ่งจริงๆ ต่อให้เราตายหรือ ประสบอุบัติเหตุอย่างไร ........... คงตายก่อนที่สามีจะมาดูใจแน่ๆ เวลารับโทรศัพท์ ยังไม่มีเลย ........... ฯลฯ นี่คือสิ่งที่เราได้พบเห็น เพื่อนๆ เจออะไรบ้างค่ะเล่าสู่กันฟังค่ะ........................................... เหนื่อยค่ะ จึงมาเอาบางส่วนออก ((((((((((( ไม่ดีเลยเนอะ )))))))))) แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 51 09:53:13 จากคุณ : My life in Japan. - [ 10 มี.ค. 51 12:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราก็อยู่มาไม่มากไม่น้อยไปกว่าคุณซักเท่าไหร่เลยค่ะ ถ้าให้ตอบตามความคิดเรานะคะ พวกทีุ่ถือมารยาทมาก(ใส่หน้ากากนั่นเอง เรีัยกให้ดูดีนิดหนึ่ง)นี่ก็คงเยอะล่ะค่ะ ่โดยส่วนตัวไม่ค่อยพบเห็นเท่าไหร่ (จะไปเห็นยังไงคะ อยู่แต่ในบ้านนี่ล่ะค่ะ) แต่เพื่อนๆที่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็นับว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีน้ำจิตน้ำใจดีทีเดียว เมื่อสมัยรู้ก่อนมีเรื่องอยู่ว่า เพื่อนคนไทยของเราคนหนึ่งโดนคนรู้จักกึ่งๆญาติไล่ออกจากบ้านกลางดึก (เหตุการณ์ไม่ได้เกิดในเมืองไทย หรือญี่ปุ่นนะคะ) เพื่อนก็โทรมาหาเรา บอกว่าหาบ้านให้หน่อย คืนนึ้จะไปอาศัยอยู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่งก่อน แต่พรุ่งนี้ไม่มีบ้านอยู่แล้ว เราก็เลยโทรไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนญี่ปุ่นของเรา ก็อธิบายให้เค้าฟัง เค้าก็บอกว่า บอกเพื่อนเราไปเลย ให้หิ้วกระเป๋ามารอหน้าโรงเรียนพรุ่งนี้ได้เลย ไปอยู่ด้วยกันจนกว่าจะหาบ้านได้ เราก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะตกลงง่ายขนาดนี้ ทั้งๆที่ไม่เึคยเห็นหน้าเพื่อนเรามาก่อนเลย ก็เลยถามเขาว่าแน่ใจนะ เขาก็บอกว่าทีเธอช่วยเหลือฉัน ยังไม่ต้องคิดเลย แล้วนี่เรื่องแค่นี้ เพื่อนเธอก็คือเพื่อนฉัน โอ้โห...น้ำตาซึมเลยค่ะ กับเพื่อนญี่ปุ่นอีกคน ก็เอ่ยปากช่วยทั้งๆที่ไม่ได้ขอร้องซักนิด ไม่เกี่ยงไม่งอนใดๆ เคยถามเขาว่าทำไมใจดีกับเราจัง เขาก็บอกว่า เมื่อตอนเขามาถึงใหม่ๆไม่ีมีใคร มีแต่เรานี่ล่ะช่วยทุกอย่าง ชวนไปกินข้าว ช่วยบอกทาง ช่วยพาไปทำเอกสาร ที่บอกมาไม่ใช่ว่าตัวเองดีนะคะ แต่คิดว่าเมื่อเราจริงใจ บริสุทธิใจ ถ้าคนอื่นเค้าบริสุทธิเหมือนเรา เค้าก็รับรู้ได้ ส่วนคนที่เค้ารับรู้ไม่ได้ ก็ต้องปล่อยเค้าไปล่ะค่ะ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจมากกว่า กาีรศึกษา หรือเชื้อชาติ ส่วนเรื่องที่ปากไม่ตรงกับใจ ที่บ้านเป็นบ่อยๆเลยค่ะ บางทีทำกับข้าวแล้วถามว่าอร่อยไหม เขาก็บอกว่าก็ดี(it`s ok) เราเลยสวนกลับไปว่า ก็ดีแสดงว่ายังดีไม่พอ ไม่ชอบก็บอกมา ( for me have only good and bad,it`s ok mean not good enough) คุณแม่แฟนเลย บอกออกมาว่ามันเค็มไปหน่อย เราก็เลยว่า ก็แค่นั้นล่ะ ถ้าไม่บอกจะทำสิ่งที่ถูกต้อง ถูกใจได้ยังไง หลังๆมา เลยค่อยเปิดเผยขึ้นมาหน่อย ส่วนกับคนอื่นจริงๆไม่ทราบเลยค่ะ เพื่อนญี่ปุ่นก็มีแต่กลุ่มข้างบน (ที่หลังย้ายสำมะโนกลับมาอยู่ญี่ปุ่นกันหมด แต่ดันอยู่โตเกียว ไปทีไรต้องไปหาและชวนกันไปดื่มอยู่เสมอๆ) จากคุณ : Hergest - [ 10 มี.ค. 51 13:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวที่เจอมาก็จะเป็นพวกชอบนินทาอ่ะนะ แต่เราว่า ที่ไหนก็เป็นเหมือนกันหมดแหละ เมืองไทยพวกชอบใส่หน้ากากเข้าหากันก็มีเยอะ บางทีมันก็เหมือนเป็นมารยาททางสังคมไป ส่วนเรื่องกินอาหาร ถ้าไม่อร่อย ก็จะบ่นเบาๆ กะแฟน ไม่ถึงกะโวยวาย แฟนก็เป็นเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นแม่สามีทำล่ะก็ จะไม่พูดตรงๆ ว่าไม่อร่อยอ่ะ (แต่แฟนพูดแทน อิอิ) เราก็ยิ้มๆ แล้วก็บอกว่า ทานได้ค่ะ ส่วนเรื่องงานมาเป็นที่หนึ่งนั้น ก็จริงส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหากถึงขั้นคอขาดบาดตายแล้วล่ะก็ เราว่า เขาต้องคิดถึงเราเป็นอันดับแรกแน่ๆ ค่ะ จากคุณ : fruitlove - [ 10 มี.ค. 51 13:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การใส่หน้ากากเข้าหากันมันก็มีทั้งข้อดีและไม่ดี มองว่าไม่ดีก็คือ เหมือนไม่จริงใจต่อกัน ทำไมไม่พูดตรงๆ แต่มองในแง่ดีคือ เค้าให้เกียรติและไว้หน้าซึ่งกันและกันไงคะ คนไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน พูดขวานผ่าซากไป อาจทำร้ายจิตใจเค้าได้ เอาไว้สนิทกันเมื่อไหร่ เค้าเริ่มรู้ว่าพูดยังไงกับเราได้ ถ้าอยากให้เค้าพูดตรงๆก็ค่อยบอกกันได้ค่ะ การเป็นตัวของตัวเองเกินไป บางทีมันก็ใกล้เคียงกับการเอาแต่ใจนะคะ ถ้าอ้างแต่ว่าเราจริงใจน่ะ อยากทำอะไรก็ทำก็ชั้นจริงใจนี่นา โดยที่มันไม่ถูกตาถูกใจคนอื่นๆเค้าเลย มันก็มองไปเหมือนคนทำอะไรผิดมารยาท ผิดกาลเทศะนั่นล่ะค่ะ อยู่ในสังคมก็ต้องมีการปรับตัวนะคะ ถ้าเรามัวหวังแต่ให้คนอื่นปรับตัวให้เหมือนที่เราต้องการ โดยที่ตัวเราพูดแต่ว่า เราจริงใจ เราเป็นของเราอย่างนี้ ไม่เสแสร้ง คนอื่นสิ ต้องจริงใจให้เหมือนเรา อย่างนี้คงเรียกได้ว่าเห็นแก่ตัวไปนิด แทนที่จะมานั่งคิดว่าเค้าโกหกเราไปวันๆ ก็หันมาคิดว่า เค้าเห็นแก่หน้าเรา ดีกว่ามั๊ยคะ เราว่าคงไม่มีใครชอบที่จะถูกใครก็ไม่รู้มาพูดหักหน้ากันท่ามกลางสาธารณชนหรอกค่ะ แต่ถ้าเรารู้เท่าทันมารยาทของเค้า ไม่ติดกับคำอวยมากไป เราก็น่าจะรู้ได้เองล่ะค่ะ ว่าความจริงมันเป็นยังไง จากคุณ : White Amulet - [ 10 มี.ค. 51 13:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมาท์กันเก่งอ่ะ เมาท์หน้าซื่อๆเลยล่ะ นั่งๆคุยกันอยู่ พออีกคนลุกออกไป พวกที่เหลือก็นินทา แต่ว่านะ คนไทยก็เหมือนกันล่ะ คนไทยก็เมาท์กันเก่งซะจนเสียงานเสียการเลย หลังจากอยู่ญี่ปุ่น มานานมาก ทำให้คิดว่า คนไทย ดูไม่ค่อยตั้งใจทำงาน อ่ะ ( ญี่ปุ่น ถึงมันจะเมาท์ มันก็เมาท์กันนอกเวลางานน่ะ ฮ่าๆๆๆ ) แต่ผู้หญิงไทยก็จริงๆนั่นล่ะ ผู้หญิงไทยแบบที่ใช้เงินซื้อได้มันเยอะจริงๆ เวลาโดนต่างชาติดูถูก ก็ต้องพิจารณาตัวเองเหมือนกัน จากคุณ : จำฉันได้ไหม - [ 10 มี.ค. 51 14:05:46 A:218.179.102.233 X: TicketID:036500 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อยู่ญี่ปุ่นมาแปดปี ตอนแรกๆก็คิดเหมือนกันว่าคนญี่ปุ่นไม่มีความจริงใจ แต่พออยู่นานไปเริ่มจะเข้าใจ(นิดหน่อย) อาจจะเป็นเพราะธรรมเนียม การเข้าสังคมของคนญี่ปุ่นซะมากกว่า สังคมไทยจะเป็นแบบ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า  ชาวญี่ปุ่นจะเป็นประมาณ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตอนเรียนช่วงมหาลัย เราไม่เข้าใจอะไรไปถามเพื่อนญี่ปุ่น เค้าก็จะตอบประมาณว่า  เค้าก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเหมือนกัน  ทั้งๆที่เค้ารู้ (แอบด่าในใจ แกเรียนมาตั้งแต่เกิด ไม่เข้าใจใช่มะ ขอให้สอบตก) เรื่องอาหารอะไรที่ไม่อร่อย แต่เค้าบอกว่าอร่อย นั่นก็คงเป็นการรักษามารยาทของชาวญี่ปุ่น  แต่เราเป็นคนไทย ถ้าไม่อร่อยเราก็ไม่กิน เดินออกจากร้านเลย ถ้าเป็นเพื่อนกันก็แตะนิดหน่อย ขนาดเราไม่สบายสามีเราทำกับข้าวให้ รสชาติไม่อร่อยมาๆเรายังบอกว่าพอกินได้ เพราะกลัวเค้าจะเสียใจ เรื่องที่ผู้หญิงไทยถูกมองไม่ดี เพื่อนๆของสามีก็ถามเหมือนกัน(แต่ไม่ได้พูดดูถูก) เราจะอธิบายว่า ที่ญี่ปุ่นก็มีโสเพณีนะ ไม่น้อยด้วย ไม่ว่าประเทศไหนก็มีทั้งนั้น  อย่าได้มองประเทศ ขอให้มองคน เท่าที่เจอมายังไม่เคยเห็นเพื่อนสามีดูถูกประเทศไทยนะ   อย่าไปสนใจให้เสียสุขภาพจิตเลย  บ้านอยู่ไหนเหรอค่ะ  ถ้าเวลาไม่สบายเด่วไปเยี่ยมเอง จากคุณ : ลายตา - [ 10 มี.ค. 51 15:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คิดเหมือนหลายๆท่าน ว่าเป็นมารยาท ทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ตอนแรกๆก็ไม่เข้าใจ ไม่ชอบ เวลามีคนมาชมๆก็จะเขิน (ทั้งๆที่ก็รู้ตัวเองดีว่าไม่เป็นอย่างที่เขาชม) ถ้าถามว่าชอบมั้ย ไม่ชอบค่ะ เพราะตัวเองเป็นคนตรง ถือว่าจริงใจกัน พูดตรงๆดีสุด ถึงไม่อยากมีเพื่อนชาวญี่ปุ่น (ทั้งๆสามีอยากให้มีมากๆ) แต่เดียวนี้ก็นึกว่าเป็น aisatsu อย่างหนึ่ง ไม่ต้องไปฟังมาก ไม่ต้องเชื่ออะไรตามที่เขาพูด นอกจากคนที่มีนิสัยเหมือนเรา คือพูดตรงๆ และก็คนในครอบครัวค่ะ จากคุณ : NeneShin - [ 10 มี.ค. 51 16:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาอ่าน  แต่ยังได้แค่ครึ่งเดียว  จะกลับมาอ่านหใหม่ค่ะ อิชั้นอาภัพอยู่มา ? ทศวรรษ  มีคนญี่ปุ่นที่รักแค่ไม่ถึง 5 นิ้ว แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 16:57:08 จากคุณ : akebi1 - [ 10 มี.ค. 51 16:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อยู่ญี่ปุ่นเหมือนตัวเองต่ำต้อยด้อยค่า ไปกว่าคนญี่ปุ่นมากๆ   เป็นพลเมืองชั้น ชั้น 1 คนญี่ปุ่น ชั้น 2  ก็จีน เกาหลี ฯ ประเทศที่เคยตกเป็นของญี่ปุ่น หรือครอบครัวคนญี่ปุ่นที่ ออกจากประเทศไปตั้งแต่สมัยยากจนแล้วกลับมา ชั้น 3 ต่างประเทศ แต่เราว่าพวกหัวแดงน่าจะเข้าค่ายชั้นหนึ่งนะ เห็นอะไรๆ ก็ของนอก  นิยมกันเหลือหลายยยยยยยย ชั้น 4 ........................ ^ ^ ^ ^ ^ ข้อความข้างบนคิดเองเออเองค่ะ แต่อยู่ญี่ปุ่นก็มีข้อดีอย่าง คือ รู้จักภาษาอื่นๆ ที่นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ รู้เรื่อง เปียนโน ( ถ้าที่ไทย คงไม่มีวันได้สัมผัส ) และอื่นๆ คิดก่อน อืม ขนมมากมายเหลือเกินเค๊กด้วย จากคุณ : My life in Japan. - [ 10 มี.ค. 51 17:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยู่ญี่ปุ่นมาสิบปีกว่า รู้จักญี่ปุ่นไม่กี่คนหรอก ก็ศึกษาเรียนรู้จากพวกละครในทีวี มันก็เป็นภาพสะท้อนมาได้บ้าง เรื่องอาหารอร่อยหรือไม่อร่อยแล้วเขาชม ก็เห็นในทีวีอีกนั่นแหละ ไปชิมอะไรก็บอก โออิชิ เรื่องสามีทำตัวเคร่งขรึมต่อหน้าพ่อแม่ และดูเหมือนข่ม ก็คงเป็นนิสัยของผู้ชายญี่ปุ่น ที่ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่าเมียสำคัญ ดูเป็นการเสียเชิงชาย เหมียวยังอายุน้อย ยังมีเวลาเรียนรู้อะไรอีกมากมาย คิดว่าเวลาจะช่วยให้เหมียวปรับตัวได้ดีกว่านี้ สังคมแต่ละสังคมก็ไม่เหมือนกัน ผู้ชายญี่ปุ่นที่มีการศึกษาดีๆ ก็คิดอีกอย่าง ส่วนที่ไม่ค่อยได้เรียนหนังสือ ก็จะมีทัศนคติต่อสาวไทยไปอีกแบบหนึ่ง อยู่ที่ว่าเขาอยู่ในสังคมระดับไหน จากคุณ : พนอจัน - [ 10 มี.ค. 51 17:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีคนญี่ปุ่นที่นับว่าเป็นเพื่อนจริงๆ น้อยมากๆ ค่ะ  ไม่ต้องนับเลย คือว่า มีคนเดียว แต่ถ้ารวมสามีเข้าไปด้วยก็เป็น 2 คนค่ะ   เพื่อนคนไทย ที่รักมากๆ นับเป็นพี่น้องกันได้ ก็มีแค่คนเดียวเอง  คนรู้จักมีมากมายค่ะ แต่นับว่าเป็นเพื่อนมีไม่มาก แต่พอนับเป็นเพื่อน  ก็จริงใจกันนะคะ  มีอะไรก็บอกกันตรงๆ  ทั้งเพื่อนไทย เพื่อนญี่ปุ่น จริงใจเท่ากันเลย เรื่องคนญี่ปุ่นใส่หน้ากากเข้าหา หรือมีความจริงใจต่อกันรึปล่าวนั้น คิดว่าเรื่องพูดชมโน่นนี่ นั่นเป็นมารยาททางสังคมแบบหนึ่งของเขานะคะ  คนถูกชมเองก็คงเข้าใจว่ามันไม่ได้หมาย ความยังงั้นหรอก   ให้คิดๆ ซะว่าเป็นคำอุทานอย่างหนึ่งละกัน เรื่องนินทานั้น   รู้แต่ในแวดวงแม่ๆ เด็กอนุบาลน่ะค่ะ  มีครั้งเดียวที่เห็นเม้าส์คนในวงแบบเต็มสองหู ตอนนั้นประชุมกรรมการ รร. คนที่แยกตัวไปก่อน คนนั้นถูกเม้าส์ แต่เขาก็แปลกจริงๆ แหล่ะค่ะ   ตอนนั้น ก็ฟังเฉยๆ นะคะ ไม่ได้ไปร่วมเม้าส์ด้วย ดิฉันมีกลุ่มสังสรรค์แม่บ้านวันจันทร์น่ะค่ะ  เรื่องเม้าส์สุดฮิต ไม่พ้น เรื่องสามีและพ่อแม่ สามีค่ะ  แต่ก็เป็นแบบขำๆ  ไม่ได้เครียดอะไร   อันนี้ก็ฟังเค้าขำๆ ไปเหมือนกัน แต่ไม่เคยเอาสามีไปนินทาด้วย  คือก็จะระวังตัวนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องดูถูกผู้หญิงไทยในทำนองที่ว่า  สาวไทยมาทำอาชีพเอนเตอร์เทนชายญี่ปุ่น เยอะแยะ  คงต้องตอบไปว่า  ของอย่างงี้ มันหลักเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ ไงคะ  อุปสงค์ กะ อุปทาน น่ะค่ะ    (พูดเล่นๆ นะคะ  ถ้าเป็นเรื่องจริง คงจะเฉยๆ ยิ้มๆ ไป)   ส่วนตัวแล้วไม่กลัวใครมองว่าเป็นคนทำงานแบบนั้นเลยค่ะ ดูจากสภาพแล้ว  ทุกคนคงจะเข้าใจแหล่ะค่ะว่ามันไม่เหมาะกับอาชีพ ให้ความบันเทิงกะใครได้เลย  เพราะดูสภาพแล้วไม่น่ารื่นรมย์อย่างยิ่ง จากคุณ : วดี - [ 10 มี.ค. 51 17:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยู่ญี่ปุ่นเข้าปีที่ 4 แล้ว แต่ไม่คบคนญี่ปุ่นเลยสักคน ไม่ใช่เกลียด แต่ว่าไม่ชอบคุย ( แน่นอนพูดภาษาเค้าไม่ได้ด้วย ) ส่วนตัวไม่ค่อยชอบพวกขาเม้าท์แม่บ้านญี่ปุ่น เพราะเมาส์กันต่อหน้าต่อตาเลย ร้ายมากๆ และก็ชอบทำท่าว่า  ชั้นนี่เหนือว่าพวกเธออะไรประมาณนั้น สรุปว่า  ไม่ชอบไปเสวนากับใครเลยคะ เพราะดูพวกเธอ เฟคๆกัน เราเป็นคนไม่ชอบเสแสร้งเช่นกัน ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ จากคุณ : Cafe'_latte - [ 10 มี.ค. 51 18:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สามีทำงาน บริษัท วิศวคอมฯ ค่ะ แต่ละคน ก็มีการศึกษาสูงๆทั้งนั้น การศึกษาคงไม่ได้ช่วย ให้คนดีขึ้นได้ นะค่ะ สามีออกแนวทะลึ่งๆ เฮฮา มากๆ กับเพื่อนฝูง และเพื่อน แก่ๆ สามี แต่ละคน แม้แต่ บอส ยังไปเที่ยวไทย รู้จัก ธนิยะ และพัทยา ยังมีหน้าพูดว่าไม่ชอบ พัทยา อีก เฮอะๆๆๆๆ เดี๋ยวมาต่อ จากคุณ : My life in Japan. - [ 10 มี.ค. 51 18:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนตัวติดว่าคนญปมีเส้นขีดคั่นระหว่างคนในกับคนนอกชัดเจนกว่าคนชาติ อื่นค่ะ ตราบใดที่คนนอกยังก้าวข้ามเส้นนั้นมาไม่ได้ ทุกอย่างก็จะผิวเผินค่ะ หากคบหาสนิทใจกัน คนญปก็ไม่แล้วน้ำใจหรอกค่ะ ขนาดในแวดวงการทำ ธุรกิจ หากคนญปไว้เนื้อเชื่อใจแล้ว เค้าก็ไม่ทรยศคู่ค้าค่ะ ซื่อสัตย์มาก ต่อ ให้มีเจ้าใหม่มาลดราคาสะบั้นหั่นแหลก ญปก็ไม่เปลี่ยนใจไปจากคู่ค้าเก่าค่ะ เรื่องการแสดงออกต่อหน้าพ่อแม่ เรื่องนี้พี่ว่าเป็นเพราะน้องเหมียวยังไม่คุ้น กับท่านน่ะค่ะ ครอบครัวแฟนพี่ทำตัวสบาย ๆ ค่ะ แฟนพี่ปฎิบัติต่อพี่ในที่ลับ ยังไง ต่อหน้าพ่อแม่ก็ทำแบบนั้นค่ะ...เพียงแต่เราจะไม่แสดงความรักในที่ ที่ไม่รโหฐาน...ก็จะไม่มีการมากอดกัน หรือkiss กันต่อหน้าท่าน...ยกเว้น รู้สึก หมั่นเขี้ยวสามี ก็อาจจะจุ๊บหน้าผากเค้าต่อหน้าพ่อแม่บ้าง (แต่ไม่บ่อยค่ะ) นอกนั้นก็ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่กัน ๒ คนค่ะ คนญปก็เหมือนกับไทยน่ะค่ะ พี่ไม่เคยมองว่าแตกต่างไปจากคนไทยเลยค่ะ มีรัก มีเกลียด จริงใจ ใส่หน้ากาก ทุกรสชาติครบถ้วนเหมือนกัน *แก้ไขคำผิด ขอบคุณคุณHergestที่ช่วยกระซิบมาค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 22:21:28 จากคุณ : fudge-a-mania - [ 10 มี.ค. 51 18:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่มเติม อันนี้พี่ไม่ได้ตำหนินะคะ ขอออกตัวไว้ก่อน อย่างบางทีน้องเหมียวเองก็เคย เขียนไว้บ่อย ๆ ในบล็อคว่า เซลขายบ้านคนนี้หล่อ เห็นคนหล่อมองเหลียว หลังเลย ฯลฯ เรื่องแบบนี้พี่ไม่เป็นนะคะ พี่ไม่เคยเห็นใครหล่อกว่าสามีตัวเอง เลยนะ เวลาเห็นคนหล่อพี่ไม่ตื่นเต้นนะ แต่หากเห็นผู้หญิงสวย ๆ พี่จะมอง เหลียวหลัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องเสียหาย....ที่เห็นคนหล่อแล้ว ตื่นเต้น หรือมองเหลียวหลัง (เพราะมันก็ได้แค่มอง) ผู้ชายญปบางคนก็เป็นประเภทนี้ แต่บางคนก็ไม่เป็นเอาเสียเลย อย่างแฟน พี่ หากลงให้วิจารณ์ผู้หญิง ฟังแล้วkii hod tod haai เคยวิจารณ์Mariah Carey ฟังแล้วพี่ต้องขอให้รีบหยุด เพราะตัวเราเองก็ขี้เหร่ขนาดนี้ Mariah สวยกว่าเราตั้งเยอะ แฟนพี่ยังวิจารณ์เสียสะบั้นหั่นแหลก ชายไทยเองที่ไปลงอ่างนวด นิยมมีบ้านเล็กบ้านน้อยก็ใช่ว่าจะน้อย เหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะญปหรือไทย สามีญปของเพื่อนพี่ น่ารักกันทุกคนเลย เวลาไปสังสรรค์รวมกลุ่มที กลับมา ก็ยังเอามาชมกันต่อว่าดีเนอะ ได้รู้จักกับเพื่อนแบบนี้ สามีเพื่อนแบบนี้ ญปในชนิดที่น้องเหมียวเจอมา ไม่สามารถจะมาสรุปว่าคนญปส่วนใหญ่เป็น แบบนี้ได้ค่ะ เอาเป็นว่า....ตำหนิไปเป็นรายคนดีกว่า นะจ๊ะ จากคุณ : fudge-a-mania - [ 10 มี.ค. 51 18:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องการแบ่งเกรดพลเมืองชั้น ๑ ๒ ๓ น้องเหมียวอย่าไปคิดสิคะ บางทีหาก เราปิดตา ปิดปาก ปิดหูตัวเองได้ไม่ต้องรับข่าวสารจากภายนอกมันคงจะทำ ให้เรามีความสุขมากกว่ามั้ยคะ พี่อยากให้น้องเหมียวคิดไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรร้ายแรงเท่าเราดูถูกตัวเราเอง นะคะ คนอื่นเค้าจะคิดอย่างไร มองอย่างไรกับตัวเรา ไม่สำคัญเท่าเรามองตัว เราอย่างไร คนบางคนก็self esteemเหลือล้น แต่บางคนก็ไม่มีเอาเสียเลย... เอาเป็นว่าเราคิดว่าคนอื่น(ในที่นี้ญป)มองว่าเราเป็นพลเมืองชั้นอะไรก็แล้ว แต่ สำคัญคือเราว่าเราเป็นอย่างที่เค้ามองหรือเปล่า หากไม่ใช่จะต้องไป สนใจทำไมคะ แต่สิ่งหนึ่งที่พี่ให้ความสำคัญมาก ๆ คือการวางตัวของเราค่ะ ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากสังคมมีบรรทัดฐานที่วางไว้อย่างหนึ่งซึ่งคนส่วนใหญ่ถือปฎิบัติกันมา นาน ยอมรับว่าเป็นสิ่งถูกต้อง แต่คนหนึ่งกลับไม่เคารพกฎนั้น...อย่างนี้พี่ดู ถูกคนนั้นค่ะ เช่น - พวกที่แอบถ่ายรูปในสถานที่ ๆ ห้ามถ่าย - พวกที่แต่งตัวไม่สมกาละเทศะ ไม่เคารพสถานที่ - พวกที่แต่งหน้าแต่งตัวทาปากทาแก้มในที่สาธารณะ เห็นได้ชัดสาว ๆ ญปใน รถไฟ (พี่เคยหวีผมในรถเมล์ พ่อแม่พี่ว่าไม่ควรทำ) - พวกที่คุยมือถือในรถไฟ - ไอจามในที่สาธรณะโดยไม่ยอมปิดปาก - พวกแม่ ๆ ที่ปล่อยให้ลูกกระโดดโลดเต้นในร้านอาหารโดยไม่ดูแลว่ากล่าวตักเตือน ฯลฯ การกระทำจะฟ้องสามัญสำนึกของคน ๆ นั้นค่ะ อย่างนี้ถึงน่าดูถูกใช่มั้ยคะ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 19:16:00 จากคุณ : fudge-a-mania - [ 10 มี.ค. 51 19:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ ^ ^ ^ โดนเหมียวหมดเลย อิอิ แงๆๆๆๆๆๆๆๆ  เรื่องมองหนุ่ม เอ๊า จะพยายามใจไม่แคบ แอบถ่ายภาพบ่อยๆ ช่วงนี้เพลาๆ แล้วนะค่ะ ไปดูที่บล็อกได้ อิอิ แต่งหน้า ทาปากที่รถไฟ มีบ้างเห็นสาวๆ ญี่ปุ่นแต่งกันอย่างเมามันส์ เขียนอายลายเนอร์ บางคนปัดตัดขนตาอีก แงๆ ต่อไปจะไม่ทำจ๊า บางทีคนญี่ปุ่น ................บางคน ก็แสดงสีหน้า ให้คิดค่ะ พวกเจ้ายศเจ้าอย่าง   เรื่องแต่งตัว ต่อหน้าพ่อแม่สามี จะแต่งเรียบร้อยนิดๆ แต่งหน้าจัดเขียนขอบตาบางวัน .........  ส่วนที่อื่นๆ ตามสไตล์ค่ะ จากคุณ : My life in Japan. - [ 10 มี.ค. 51 19:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับเรามองว่าคนยปที่เขาชมเพราะมารยาทมากกว่านะค่ะเพราะเพื่อนญปเราคนที่สนทเขายังบอกเลยว่าคนยปดูยากแม้แต่คนญปด้วยกันเองเลย อย่างเพื่อนลุกที่ร.รเจอกันก็ทักทายปกติแต่จะมีคนที่สนิทๆกันแค่3คนเท่านั้นเองที่มีนอกรอบนัดไปทานข้าวไปเที่ยวด้วยกันบ่อยแล้วเวลาไปก็จะคุยกันแค่เรื่องของลุกๆเท่านั้นจะไม่มีใครคุยเรื่องส่วนตัวเลย แต่ที่ทำงานสามีเราดีนะไม่เคยมีใครถามเลยว่าคนไทยเป็นแบบใหนหรือว่าเป็นอย่างไรหรือว่าคุณสามีเราอายุมากแล้วไม่รู้เลยไม่ค่อยมายุ่งเท่าไหร่นะหรือว่าสามีเราไม่เล่าไม่แต่ว่าเวลาไปงานเลี้ยงหรืออะไรภรรยาเพื่อนๆสามีก็มาทักทายปกติไม่มีการมองว่าแบบใหนนะค่ะ อันนี้เราไม่ได้ว่านะค่ะที่เราเจอมาเพื่อนคนไทยแท้กับไม่มีน้ำใจยังมีเลยเราว่าเป็นที่คนนะค่ะอย่าไปเหมารวมอย่างเพื่อนเราคนนี้นะลุกเรียนร.รเดียวกันเขาขับรถได้แต่เราขับรถไม่ได้เจริงๆแล้วถ้าคนมีน้ำใจนะค่ะต้องมีชวนบ้างว่ามาอย่างไรแล้วกลับอย่างไรไม่เคยถามเราสักคำแต่เพื่อนคนญปจะถามว่ากลับบ้านสามีมารับใหมถ้าไม่มาเขาจะมาส่งเรายังว่าคนยปบางคนมีน้ำใจกว่าเพื่อนเราคนนี้เลยจริงๆแล้วถึงเขาชวนแค่สักนิดเราจะดีใจมากลุกเรียนด้วยกัน2ปีไม่เคยมีสักครั้งที่จะถามเราเลยแต่เวลาไปใหนชอบมาขอจอดรถที่จอดรถบ้านเราเพราะที่บ้านติดสถานีรถไฟ จากคุณ : ฮารุกะ - [ 10 มี.ค. 51 19:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อยู่ที่นี่มาปีกะสามเดือนแล้ว ก็ คิดว่าสังคมที่นี่เหมือนกับสังคมไทย มีผู้คนหลากหลายเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ชาตินิยมมากๆ เราทำดีให้ตายแค่ไหน เราไม่ใช่คนญี่ปุ่น อย่าหวังว่าเค้าจะชื่นชมเราจริงๆ จากคุณ : สงสัยจัง - [ 10 มี.ค. 51 19:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โชคดีที่เราไม่เคยเจอเท่าไหร่น่ะค่ะ คนเฟค ๆ ๆนี่ ที่บ้านทุกคนจะเป็นคนตรงมาก เราซะเองที่ยังอาย ยิ่งแม่สามีนี่ยิ่งไม่เฟค ชอบบอกชอบ ไม่ชอบก็บอกตรง ๆๆ แต่แกเป็นคนใจดีมากๆๆๆ รอดตายมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะคุณแม่สามีอุปถัมป์ทุกอย่าง ญาติทางเค้าก็เหมือนกัน เห็นอะไรผิดปกติจะบอกเลย ยิ่งสามีนี่ต่อหน้าคนอื่นเค้าก็เก็บอาการได้อยู่แล้ว เพราะปกติเค้าเป็นคนใจเย็น เรียบร้อย เราต่างหากไม่ค่อยเก็บอารมณ์เก็บบ้าง แล้วมาระเบิดกับแฟน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วเพราะชินไปเอง เราต้องปรับตัวด้วยน่ะค่ะ กับเพื่อนญี่ปุ่นนี่มีสนิทที่คบหากันมาเกือบ2ปี 2คนอ่ะค่ะ มีอะไรก็ไปมาหาสู่ที่บ้าน ระบายสิ่งต่าง ๆ ให้ฟัง มีปัญหาอะไรก็โทรคุย แต่เค้าก็ไม่เฟคนะค่ะ มีอะไรก็พูดแบบตรง ๆ เหมือนกัน แบบเปิดเผยมาก เราก็ชอบเอาผักที่ปลูกเองไปฝาก ไปไหนก็ซื้อของมาฝากตลอด ทางเค้าก็เหมือนกันเลยกลายเป็นมิตรภาพที่ดี แต่กับครูที่โรงเรียนบางคนชมเราจนเวอร์ทั้ง ๆที่เราไม่เก่งขนาดนั้น กับที่ศูนย์เด็กเหมือนกันเวลานัดไปฉัดวัคซีน บางคนไม่อยากคุยกับเรา ทำท่ารังเกียจ เพราะเราเป็นต่างชาติมั้ง คุยด้วยก็เฉย ๆๆ บางคนก็คุยดี เราก็ช่างเถอะๆๆๆ แต่ที่เราว่านินทาลับหลังนี่คนไทยมากกว่าค่ะ เพราะเจอมาหลายหลายแล้ว บางทีเดินเข้าไปในร้านใหม่ ๆ ไม่เคยรู้จักกัน ทาน ๆ ไป สุมหัวคุยกันมองมาที่เรา บางทีเดินมาหาถามว่าคนไทยไหม อยู่ไหน ได้เงินเดือนเท่าไหร่  แฟนเป็นไง แต่เราไม่เคยคุย และสนใจคนพวกนี่เท่าไหร่ เพราะบางทีเค้ามาทำงานแบบไม่มีวีซ่า แต่ทำเป็นซ่า ต่างคนต่างนานาจิตตังค่ะน้องเหมียว อยู่ ๆ ไปเดี๋ยวเราก็ชินเอง เราว่าอยู่ญี่ปุ่นคนญี่ปุ่นดีกว่าคนไทยบางคนที่อยู่ไทยนะค่ะ จากคุณ : หนูริวจัง - [ 10 มี.ค. 51 20:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แต่มีปัญหาอย่างหนึ่งที่ยังรู้สึกด้อยมาก ๆ คือ เรื่อง ภาษา อย่างอ่านคันจิให้ได้หมดทุกตัว ตอนนี้ก็กำลังเรียนเอง จำวันละตัว บางทีเค้าก็มองเราดูถูกที่อ่านเขียนภาษาเค้าไม่ได้ เราเองก็รู้สึกด้อยมาก ๆ  แต่จะพยายาม มันเลยทำให้อึดอัด ท้อแท้ในบางครั้ง จากคุณ : หนูริวจัง - [ 10 มี.ค. 51 20:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาดู... คุณเหมียวท่าทางจะเก็บกดมากๆ วันไหนว่างๆ ไปตะโกนนอกบ้าน You're too late!  I hear! จะช่วยได้บ้าง อย่าว่าแต่ญี่ปุ่นเลยครับ ถ้าอยู่เมืองไทยก็คือกัน คือ สังคมสมัยเรียน กับ สังคมสมัยทำงานมันก็คนละแบบแล้ว เพื่อนรักของเรามักจะเป็นเพื่อนสมัย เรียนเพราะมันไม่มีผลประโยชน์มาเป็นข้อกังขา (มีแต่เกรด) แต่พอโตขึ้น หน่อย ทำงานก็เริ่มมีผลประโยชน์ที่บางคนก็จะกลัวขัดขา กลัว... สารพัด ก็เลยกลายเป็นไม่กล้าคบใครจริงจัง สังคมที่นี่ก็เหมือนกัน  เมื่อวันก่อน ถามนักเรียนว่ามีเพื่อนกี่คน นักเรียนบอกว่าไม่มี เพราะแต่งงานแล้วเพื่อน หดหาย แต่เพราะมาเรียนภาษาไทย นักเรียนเลยได้เพื่อนร่วมห้องที่สนิท ยิ่งกว่าคนที่ทำงาน เพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และไม่มีเรื่องงานมาบั่นทอน ความสัมพันธ์  เสียดายที่ครูไม่โหด เพราะถ้าครูโหดนักเรียนจะยิ่งรักกันมาก คิดเสียว่า "ประสาท...ดี" จากคุณ : อ.ปมโปโกะ - [ 10 มี.ค. 51 20:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่หนูริวจัง เก่งมากๆ จ๊าวันๆ เหมียวไม่ได้ ดูหนังสือเลย มีแต่ไปเรียนแค่นั้น ภาษาที่ได้ส่วนมากมาจากเพลงที่ฟังแล้วถามสามี ชอบฟังเพลง จ๊า แต่สามีก็บอกนะว่า ที่ทำงาน ไม่คุยเรื่องส่วนตัว แต่วันนั้นสามีเมาแล้วดันเผลอพูดออกมา งง ไม่รู้จะถามดีไหมว่าใครพูดหรือปล่อยวาง เมา ไม่เมา คนละเรื่องเลย นะ ต้องใช้เวลาที่นานถึงจะเรียนรู้ได้หมด +++ เรื่องอย่างว่า ช่วยไม่ได้ใช่ไหมที่ ประเทศเรามีอย่างนั้นจริงๆ ญี่ป่นมี ก็จริงแต่ของเขาสวย และราคาแพง ต้องนำเสนอด้วยของแบรนด์เนม กรรมจริงๆที่สามีมีเพื่อนร่วมงานแบบนี้ กรรมจริงๆ ที่เราไม่มีเพื่อนคนไทยคนไหนเลยที่ญี่ปุ่นที่สนิทพอจะตายแทนได้ กรรมจริงๆ ที่เพื่อนคนเดียว ชาวฟิลิปปินส์ที่มี หายไปจากชีวิต ที่แวดล้อม ต่างชาติรอบตัวมีแต่ผู้ชาย กรรมจริงๆที่ไม่ชอบ คนเกาหลีและประเทศเกาหลี อคติก็ว่าได้ ลำบากจริงๆที่เป็นคนขี้เกียจหนังสือมีเยอะแต่ ไม่จับ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : My life in Japan. - [ 10 มี.ค. 51 20:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้อยู่ญี่ปุ่น แต่เมืองที่อยู่มีคนญี่ปุ่นไปทำงานที่นั่นมาก เลยมีโอกาสได้รู้จักกับเพื่อนญี่ปุ่นที่ติดตามสามีมาที่นี่หลายคนตอนช่วงที่ไปเรียนภาษา จากประสบการณ์นิดหน่อยที่ได้สัมผัสนะคะ คิดว่าการที่เขาชมไม่ได้เป็นการไม่จริงใจ แต่เป็นวัฒนธรรมอย่างนึง พอคบไปนานๆเราจะอ่านจากภาษากายหรือลัษณะการพูดได้ค่ะว่า ว่าจากใจหรือจากวัฒนธรรม พูดถึงสาวญี่ปุ่นจะมีลัษณะประจำตัวอย่างนึงเวลามาอยู่ที่เมืองที่เราอยู่ คือสนใจใฝ่เรียนรู้มากๆ ทั้งภาษา ศาสนา ศิลปะ วัฒนะธรรม ทำให้คบด้วยแล้วสนุก เราจะไปเรียนภาษา คัมภีร์ไบเบิล เรียนการฝีมือ ด้วยกัน ตอนบ่ายก็หมุนเวียนกันแลกเปลี่ยนความคิดหรือสอนเทคนิคงานฝีมือที่เราสนใจร่วมกัน โดนทุกคนจะหอบขนมฝีมือตัวเองมาด้วย ถ้าเพื่อนๆชอบก็แลกเปลี่ยนสูตรอาหารกัน แต่ก็สังเกตุได้อย่างคือ สำหรับเราเป็นคนต่างชาติมีความคิดแปลกแยกไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นด้วยกัน ถ้าแตกแถวจากกฎของสังคม บางทีเพื่อนก็ไม่ชอบ อีกอย่างที่ชอบคือคนญี่ปุ่นจะเป็นคนเอเซียที่มีความตรงไปตรงมาเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้จากรัฐบาลไม่ทำตัวเป็นภาระ ไม่พยายามซิกแซกเพื่อเอาเปรียบรัฐบาล ทำให้คนที่นั่นมองภาพของคนเอเซีย ว่าเป็นคนมีคุณภาพ ตอนนี้เพื่อนๆก็กลับญี่ปุ่นกันหมดแล้ว แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ ยังไปมาหาสู่กันเมื่อมีโอกาส บางคนสนิทกันมากขนาดเตือนกันตรงๆwfh บางคนก็ภาษาสื่อสารกันได้นิดหน่อย แต่คุยสัมผัสความจริงใจกันได้ด้วยใจ เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆค่ะ แต่ที่ไม่จริงใจก็มี เราก็คบห่างๆกัน จากคุณ : wheel of forture - [ 10 มี.ค. 51 20:54:15 A:24.1.3.243 X: TicketID:048459 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ก็มีเพื่อนญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง ไปคลุกคลีสังคมญี่ปุ่นมาบ้าง เท่าที่สังเกต พบว่า เค้าจะมีระยะห่างของเค้า เรียกว่าสังคมพึ่งตนเอง คนของเค้า เข้าใจว่าไม่แคร์คำพูดของคนรอบข้างเท่าไร ที่เม้าท์กันก็แค่เอามันส์เท่านั้น ไม่ได้ไปจริงจังอะไร คือ นินทาจบก็จบไป แล้วตัวเองก็ไปวุ่นๆยุ่งๆกับงานกับเรื่องส่วนตัวของตัวเอง ก็เลยคิดว่า เพื่อดำรงตนอย่างมีความสุขในสังคม อย่าไปใส่ใจ หรือตีความการกระทำของใครๆ ก็ดีนะคะ เราจะได้สงบสุขในใจเราเอง อยากมาเป็นเพื่อนก็มา อยากคุยด้วยก็คุย คุยด้วยแล้วไม่คุยด้วย ช่างปะไร ถามเรื่องไทยๆเหรอ อธิบายรากฐานที่มาสังคมให้ฟังไปเล้ยย คือเลคเชอร์ประวัติศาสตร์ให้ฟังไปเรยย เคยลองหลายครั้ง สนุกดีค่ะ กลายเป็นสัมมนาวิชาการย่อมๆไป แล้วเค้าก็จะมาทำท่าครุ่นคิดวิเคราะห์สังคมกับเราไปด้วย เพราะเราก็ถามว่า แล้วของญี่ปุ่นเป็นไง ถามกลับไปเลย แล้วก็ตามด้วย why why why เยอะๆ เดี๋ยวเค้าก็ลืมเม้าท์ลืมดูถูกเรื่องสังคมไทยไปเอง จะว่าไป ทุกสังคมก็มีคนแบบนี้อยู่นะคะ ไม่ว่าไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งมังค่า เนาะ จากคุณ : ยูเคย์ (youkay) - [ 10 มี.ค. 51 22:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คาดว่าต่อไปจะโม้ เอามันส์ อวดก็อวดเฮอะ   ให้เลิกดูถูก   ++++++++ อยากทราบว่า ที่ญี่ปุ่น แถวไหน เหมือน ธนิยะ พัทยา บ้างค่ะ จะได้ตอกกลับ ไอ้พวก ไม่ลืมหูลืมตาดูโลกภายนอก อืมไม่ชอบแบบว่า เราพูดภาษาอังกฤษ แล้ว ตอบช้าๆ มากๆ ไปจนถึงไม่พูด แล้วเราถามว่า ไมไม่พูดอังกฤษอ่ะ จากนั้น เมลล์เป็นภาษาอังกฤษมา อายเลย เราผิดอ่ะเราผิด +++++++++ นัดไปดูซากุระด้วยกันไหมค่ะเพื่อน ๆ จากคุณ : My life in Japan. - [ 10 มี.ค. 51 22:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาอ่านดู  คุณ White Amulet กับพี่ fudge  พูดได้ตรงใจทุกอย่างเลยค่ะ.... สิงที่น้อง จขกท  พูดมา คิดว่าเป็นเรื่องปกตินะคะ ที่ไหนในโลกก็คงไม่ต่างกัน   เรื่องใส่หน้ากาก  เฟค  อคติ  เมาท์  ดูถูก  สิ่งนี้จะมีผลกับตัวเรามั้ย? ส่วนตัวแล้วคิดว่า อยู่ที่ตัวเราเองสำคัญที่สุดนะ  วางตัวยังงัย  ไลฟ์สไตล์แบบไหน  ตัวเองอยู่ญี่ปุ่นมาก็ไม่นาน  แต่ก็ไม่น้อย ก็ไม่มีปัญหากับสังคมทั่วไปของที่นี่นะคะ ไม่ว่าเรื่องงานของสามี เรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อน เรื่องคนรู้จัก  ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ....  ตัวเองหากเจอใคร หรืออะไรที่ดูแล้วมันน่าดูถูก เราก็ดูถูกนะ (ในมุมมอง ในที่ทางของเรา ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่เมาท์  ไม่ร้องยี้ หรือแบ่งชนชั้นกับเค้าต่อหน้าโต้ง ๆ หรอก)  ในทำนองกลับกัน หากสิ่งที่เราทำ บังเอิญว่ามันเป็นสิ่งแปลก สิ่งที่คนที่นี่เค้าไม่ทำกัน ก็คงจะต้องเป็นเราเองที่โดนเค้าดูถูก ร้องยี้ หรือแบ่งเกรด และแน่นอนว่าคนเหล่านั้นเค้าก็ต้องแอบเมาท์ แอบนินทา แอบยี้ในที่ในทางของเค้า เราคงไม่ได้ยินด้วย (ถ้าได้ยิน  คงไม่เรียกว่านินทา....)  ส่วนเรื่องแบ่งชนชั้น , ดูถูกคนไทย (หญิงไทย) , ดูถูกต่างชาติ อันนี้ขอข้ามไปค่ะ เพราะยังไม่เคยได้คุย สนทนากับใครในหัวข้อเหล่านี้เลย คือยังไม่เคยเจอคนญี่ปุ่นที่รู้จัก หรือพบเจอ แสดงอาการเหล่านี้กับเรา หรือกับต่างชาติคนอื่นที่เรารู้จักค่ะ  เรื่องบ้างาน  ทำงานเก่ง (จนดูเหมือนลืมลูกเมีย....แค่ดูเหมือนค่ะ  จริง ๆ แล้ว ยังงัยลูกเมียก็ต้องมาที่หนึ่งล่ะค่ะ  ที่ทำงานหนัก นอกจากเพื่อชาติแล้ว ก็เพื่อลูกเพื่อเมียนั่นแหล่ะค่ะ)  อันนี้ต้องภูมิใจนะคะ น้อง จขกท ไม่ต้องน้อยใจจ้า...(สามีน้องอาจจะเป็นประเภท พูดไม่ค่อยเก่ง  แต่รักหมดใจ รึเปล่าคะ ?) จากคุณ : tukuta - [ 10 มี.ค. 51 23:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาอ่านต่อ  โห  สุดยอด   เราว่ามันอยู่ที่ว่าใครอยู่ในสภาพไหนด้วยมั้ง   เป็นต้นว่า เคยรู้จักผู้ชายญี่ปุ่นคนหนึ่งได้ภรรยาไทยเป็นลูกสาวเจ้าของร้าน ขายทองขนาดใหญ่ในเยาวราช  พ่อแม่ผู้หญิงออกเงินทุนให้เขาตั้งบริษัท โห  พ่อนี่เขาเอาใจภรรยาไทยของเขาเสียยังกะอะไรดี   หนูตกถังข้าวสารอ่ะนะ   ภรรยาไทยคนนี้ก็เห็นคนญี่ปุ่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไปว่าทำไมถึง คนญี่ปุ่นถึงได้แสนดีขนาดนี้     ทำไมจะไม่ดีล่ะ  ใครๆก็รู้ว่าแกเป็นลูกสาวเศรษฐีไทย แต่ถ้าร้านขายทองของฝ่ายหญิงเจ๊งเมื่อไร (ไม่ได้แช่ง แค่ยกตัวอย่าง) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสภาพหวานๆแวดล้อมผู้หญิงไทยจะเป็นยังไงต่อไป ที่อิชั้นรู้ คนญี่ปุ่นนะ "ดู" คนเก่งมากๆ   จมูกดีเยี่ยม   สิ่งไหนที่เกี่ยวกับผลประโยชน์จะแสดงออกให้เห็นชัดเจนโดยไม่เขิน เข้าใจง่ายมากๆ   เรื่องอย่างนี้ถ้าเป็นคนไทยเรา ที่แสดงให้เห็นชัดก็อาจจะมี แต่ส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกเต็มๆ   ส่วนใหญ่ยังมิดเมี้ยนปิดบังความในใจ จากคุณ : akebi1 - [ 11 มี.ค. 51 07:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ : My life in Japan. - [ 11 มี.ค. 51 09:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เคยคิดเหมือนกันว่าคนญี่ปุ่นสุภาพมากเกินไป แต่ความสัมพันธ์ลักษณะนี้จะมีก็เฉพาะกับคนที่พึ่งรู้จักกันหรือคนนอกเท่านั้นค่ะ (สำหรับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวเดียวกันแล้วก็ทำตัวเป็นกันเองได้) คนไทยอาจจะรู้สึกว่าไม่จริงใจ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วมันเป็นมารยาทขั้นพื้นฐานที่ควรปฏิบัติ เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาความรู้สึกอันดีระหว่างกันแล้ว ยังเป็นการทิ้งช่องว่างระยะห่างสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักกันดีหรือคนที่ไม่ได้อยากคบหาด้วยแบบสุภาพๆ (ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียหน้า) คนญี่ปุ่นมีพื้นที่ส่วนตัวสูง ส่วนใหญ่มีเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ ไม่มาก แต่ถ้านับเป็นคนในด้วยกันแล้วถึงไหนถึงกันค่ะ การทำตัวสนิทสนมคุ้นเคยกันตั้งแต่แรกเป็นเรื่องค่อนข้างเสียมารยาท คนญี่ปุ่นที่มีการศึกษาส่วนใหญ่เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าประเทศไหนๆ ก็มีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีปนกันไป แต่สำหรับคนที่มีมารยาทแล้วเค้าก็จะเลือกชมแต่สิ่งที่ดีๆ เท่านั้นค่ะ ไม่เคยได้ยินเพื่อนสามีคนไหนพูดถึงพัทยาหรือธนิยะให้ได้ยินแม้แต่น้อย มีแต่บอกว่าชอบอาหารไทย คนไทยใจดี ส่วนใหญ่ชอบไปเล่นกอล์ฟ กับเที่ยวทะเลที่เมืองไทย ดิฉันโชคดีที่เพื่อนสามีไม่ว่าจะที่มหาลัยหรือที่ทำงานมีภรรยาน่ารักกันทุกคน ส่วนใหญ่เคยผ่านการใช้ชีวิตในต่างประเทศมาก่อนและทำงานนอกบ้านกันหมด (supermom ของแท้) เป็นทนายความก็เยอะ เป็นผู้บริหารบริษัทต่างชาติชั้นนำก็ไม่น้อย นอกจากจะเก่งมากๆ แล้วยังมีบุคลิกนิสัยดีสุดๆ ตรงไปตรงมา จริงใจไม่เสแสร้ง ไม่เคยได้ยินใครนินทาใครให้ฟัง มีแต่ชื่นชมความสำเร็จของเพื่อนคนอื่น ดังนั้นการจะเหมารวมว่าคนญี่ปุ่นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ก็คงไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ด้วย ไม่ว่าที่ไหนในโลกก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไปเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ จากคุณ : เปิดใจให้กว้าง - [ 11 มี.ค. 51 13:29:05 A:124.32.148.171 X: TicketID:122208 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาเพิ่มเติมนิดนึงว่าความจริงใจเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่ขวานผ่าซากนี่ไม่ดีค่ะต้องแยกกันให้ออก ถ้าพูดอะไรออกไปแล้วมันไม่สร้างสรรค์หรือทำให้คนอื่นรู้สึกเสียหน้าเสียอารมณ์ไปโดยเปล่าประโยชน์ละก็ ที่ไหนๆ เค้าก็ไม่พูดกันนะคะ การที่เราไม่ชอบอะไรแล้วแสดงออกอย่างออกนอกหน้าจนทำให้คนอื่นเซ็งไปด้วย โดยเฉพาะในเรื่องที่ควบคุมไม่ได้หรือไม่ค่อยเป็นเรื่องแล้วละก็ ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นเค้าถือว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวค่ะ (ไม่ค่อยมีมารยาทอะไรแบบนี้) ยกเว้นถ้าสนิทกันแล้ว มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่จะรักษาน้ำใจกันอยู่ดี ที่สำคัญคืออย่าทำตัวให้ใครดูถูกได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นกิริยามารยาท คำพูดคำจา การวางตัว การแต่งกาย อย่างเรื่องภาษาถ้าเราสามารถฟังพูดอ่านเขียนได้ดี รับรองว่าไม่มีคนญี่ปุ่นคนไหนดูถูกเราแน่ค่ะ มีแต่จะชื่นชมซะอีก จากคุณ : เปิดใจให้กว้าง - [ 11 มี.ค. 51 13:56:46 A:124.32.148.171 X: TicketID:122208 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เราไม่ได้ " เหมารวม " หนิค่ะ เขียนแต่เฉพาะ ที่เราเจอเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เราได้พบเห็น........................... แบบที่เขียนในข้างต้น จากคุณ : My life in Japan. - [ 11 มี.ค. 51 14:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 +++++++++ ว่างมากไปค่ะ จึงตั้งกระทู้นี้ขึ้น ++++++++++++++ จากคุณ : My life in Japan. - [ 11 มี.ค. 51 14:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ดีๆ ของคนญี่ปุ่นที่รู้จักให้ฟังค่ะ ไม่ได้บอกว่าคนญี่ปุ่นดีไปหมด พวกเสแสร้งก็มีมาก แต่คนดีๆ ที่จริงใจก็ยังมีอีกเยอะนะคะ เพียงแต่คุณอาจจะไม่ค่อยได้เจอก็เท่านั้นเอง (ไม่อยากให้มองในแง่ร้าย เพราะจะทำให้เราอยู่อย่างไม่มีความสุขค่ะ) คนญี่ปุ่นเค้าไม่ได้มองว่าการชมแหลกเป็นเรื่องไม่จริงใจ เพราะส่วนใหญ่เค้าแยกออกว่าอันไหนพูดจริง อันไหนพูดตามมารยาทค่ะ ถ้าอยู่ไปเรื่อยๆ ก็คงพอแยกออกได้เองมั้งคะ อย่าไปจริงจังมาก มันก็แค่วัฒนธรรมประจำชาติอย่างนึงที่เราต้องเรียนรู้ ยอมรับและทำความเข้าใจก็เท่านั้นเอง คิดซะว่าเค้าชมดีกว่าเค้าด่านะคะ แต่ก็ฟังหูไว้หู อย่างน้อยเค้าก็เลือกที่จะรักษาหน้าเรามากกว่าทำให้เราขายหน้านะคะ (ถ้าคิดว่าเขียนแรงไปก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่ได้มีเจตนาทำให้โกรธ มีแต่ความหวังดีให้ค่ะ) จากคุณ : Goodwill - [ 11 มี.ค. 51 15:33:56 A:124.32.148.171 X: TicketID:122208 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ยาวมาก อ่านจนตาลาย ง่ายๆ ถ้าอยากเข้าใจญี่ปุ่น ก็ต้องอ่านต้องศึกษาเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี และ ขนบธรรมเนียมญี่ปุ่น ก็ช่วยให้เข้าใจว่าทำไมคนญี่ปุ่นเป็นอย่างนี้ อย่างเราอ่านประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นด้วย ก็ทำให้เข้าใจเขาและทำเนียนๆอยู่ประเทศเขาอย่างสบายๆ เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม จ้า โอย แต่ อย่างเดียว คนหัวเก่า ชาตินิยมน่ากลัวๆ ทำไมต้องมาเกี่ยวข้องกันด้วยยยย ช่วยหนูด้วยจ้า  แง แง จากคุณ : A Legend of Love - [ 11 มี.ค. 51 18:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เปล่าค่ะ หน้านี้เราเขียนแต่เรื่องไม่ดี คนที่ดีๆ ที่เจอเราไม่ได้เขียน ก็เลย ดูว่า เราเจอแต่คนไม่ดี คนดีๆ เยอะค่ะ แต่ คนแปลกๆ ก็ทำให้เราฉุนตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา รื้อฟื้นเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ในรอบ ปี มาเล่า ..............แค่นี้เอง ยังถือว่าน้อย นะ เราเจอแค่นี้ เดี๋ยวมาต่อ จากคุณ : My life in Japan. - [ 11 มี.ค. 51 19:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ที่ไหนในโลกเหมือนกันหมด กลับมาอยู่เมืองไทย ก็เป็นอย่างที่ จขกท. บอกแหล่ะค่ะ ญี่ปุ่นอาจจะดีกว่าซะด้วยซ้ำ สิ่งที่ จขกท.เล่ามาเนี่ย เราเนี่ยแหล่ะ เจอในสังคมบริษัทคนไทยที่ทำงานอยู่ตอนนี้ทั้งนั้น ชาติไหนก็มี ทั้งนั้นแหล่ะ ค่ะ ไอ้พวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน เรื่องชมหรือวิจารณ์ก็คงเป็นมารยาทสังคม ที่สำคัญที่สุด คือการที่เราไม่ดูถูกตัวเองค่ะ แล้วจะดำเนินชีวิตอย่างมี ความสุข จากคุณ : ทรมานเธอราพี - [ 11 มี.ค. 51 22:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ^ ^ ^ มาไกลนะเจ๊ จากคุณ : My life in Japan. - [ 11 มี.ค. 51 22:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาเก็บข้อคิดของแต่ละคน เพื่อปรับตัวเองให้อยู่ในประเทศนี้ให้ได้อ่ะครับ ไม่ทราบว่าพวกพี่ๆ เพื่อนๆ มีใครกำลังทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นอยู่บ้างครับ? เคยเจอพวก ชอบพูดจากดดันเราไหมครับ ขู่เราสารพัด สร้างภาพอันเลวร้ายให้เราคิด ถ้าเราทำไม่ได้ตามที่เขาต้องการ มันเหมือนเป็นการ press ให้เราพยายามเอาชนะตัวเองให้ได้ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม คนญี่ปุ่นถึงทุ่มเทจริงจังการทำงานอย่างมาก เหนื่อยจริงๆ ครับ แต่อย่างว่าถ้าไม่ทำแบบนี้ ประเทศเขาก็คงไม่พัฒนามาได้ขนาดนี้หรอกครับ จากคุณ : T-E-N-A - [ 12 มี.ค. 51 01:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องการแยกความเป็นส่วนตัวออกจากงาน บางบริษัทกำหนดออกมาเป็นนโยบายบริษัท (จากการแปลเอกสารของหลายๆบริษัท)  การทุ่มเทให้กับงานแต่ผลได้ที่ครอบครัวค่ะ การเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่นจะช่วยให้เราหูตาสว่างค่ะว่าทำไมเค้าเป็นแบบนั้น อ่านหนังสือเยอะๆจะช่วยได้มากทีเดียว บางครั้งคำชมของคนที่ไม่สนิทกันไม่ว่าไทยหรือญี่ปุ่นถือเป็นมารยาทค่ะ ถ้าคนเพิ่งรู้จักกันมาบอกกับข้าวเราไม่อร่อยสิเป็นเรื่องแน่ๆ  ส่วนสามีเรารู้กันค่ะถ้าคำตอบว่า OK จะรู้ว่ากับข้าววันนี้ไม่อร่อยถ้าอร่อยก็บอกว่าอร่อยแล้วก็ทานท่าทางเอร็ดอร่อยจริงๆ จากคุณ : แม่นางแอบสตางค์ - [ 12 มี.ค. 51 07:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สำหรับเรา บอกตัวเองเสมอ เราก็มีดีในตัวเรา ไม่เคยดูถูกตัวเอง ไม่เปรียบเทียบกับคน ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำดีได้ เว้นคนที่เขาด้อยโอกาสมากว่าเรา เช่น คนพิการ .... คนที่ชอบนินทาว่าร้าย บางทีตัวเรา( ดิฉัน)ก็เป็นใช่มั้ย "ก็มันหมั่นไส้ ไม่ได้อิจฉานะ อะไรประมาณนี้" เราก็มนุษย์ปุถุชนธรรมด๊า ธรรมดา.... สำหรับเราเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ก็ไม่อยากคบ มีอะไรมั้ย เป็นกำลังใจให้คุณเหมียว ขอบคุณกับทุกๆครั้งที่เข้ามาตอบกระทู้โดยเฉพาะ กระทู้ช่วยทำการบ้านภาษาญี่ปุ่น จำได้มั้ยคะ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 51 07:26:38 จากคุณ : มูมู (pnn2) - [ 12 มี.ค. 51 07:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านกระทู้นี้แล้วได้ประโยชน์จริงๆค่ะ ก่อนมาก็กลัวว่าคนญี่ปุ่นจะเป็นอย่างที่เหมียวเล่า คือหน้าไหว้หลังหลอกหรือเปล่า แต่บังเอิญมาเป็นนักเรียน เพื่อนๆก็เลยค่อนข้างโอเคกันทุกคน แต่บางทีเค้าชมว่า "โห สุดยอด พูดภาษาญี่ปุ่นสำเนียงเหมือนเด๊ะ!" อะไรเงี๊ยะ แบบว่าชั้นก็พูดของชั้นได้ประโยคเดียวเนี่ย ชั้นก็รู้ด้วยว่ามันไม่เหมือนเนี่ย ช่วยคอมเม้นแบบสร้างสรรหน่อยได้ไม๊ แต่พอมาอ่านบางความเห็นแล้วก็รู้สึกว่าจริง ว่ามันเป็นมารยาทของเค้า จริงๆแล้ว ถ้าเราทำได้อย่างเค้าก็คงจะดี แบบว่าคงกลายเป็นคุณนายมารยาทงามไปเลย แต่ก็ยังทำไม่ได้อ่ะค่ะ ต้องฝึกต่อไป คุณเหมียวก็พยายามด้วยนะ จากคุณ : booklovers - [ 12 มี.ค. 51 07:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มาอยู่ญี่ปุ่นไม่ถึงปี แต่พอจะทำความเข้าใจได้บ้างว่าการที่จะอยู่ญี่ปุ่นแบบมีความสุขนั้น ต้องจิตใจเข้มแข็งและก็ต่อสู้พอสมควร เพราะคนญี่ปุ่นบางทีก็พูดตรงๆ หักหาญน้ำใจกันบ้าง แต่การพูดตรงๆบางทีมันก็คือการไม่เฟค แต่สำหรับตัวเอง เคยชินแต่การพูดเอาใจตามมารยาท ช่วงแรกๆก็สะเทือนใจบ่อยๆ แต่ที่นี่มีเหตุผลอะไร ไม่เข้าใจอะไรกัน เอามาคุยกัน ประชุมกันเลยค่ะ ถ้าเหตุผลดี ยอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราจะยึดตัวเองไว้ เค้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะ แต่เค้าจะบอกก่อนว่า ใจเค้าน่ะอยากได้แบบนั้น แบบนี้ อยากให้เราเป็นแบบนั้น แบบนี้ เพราะฉนั้นถ้าเรามีหลักการและเหตุผลที่ดีของตัวเอง ก็พูดไปตรงๆเลยค่ะ แค่นี้จบ สำหรับเพื่อน ก็ไม่ว่าคนไทยคนญี่ปุ่น คบได้แต่จะหาสนิทใจและดีจริงๆมันก็มีไม่กี่คนน่ะค่ะ  ด้วยภาษา ทำให้ไม่สนิทกับคนที่นี่เท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกบ้างคบตามมารยาทและเป็นมิตรกันไว้ดีกว่า  แต่ไอ้ส่วนนินทามันคงมีทุกที่แหล่ะ  บางทีก็เลือกไม่สนใจฟังค่ะ  บางทีได้ยินแต่ก็เฉยๆค่ะ  เพราะบางทีเราก็มีนินทาเค้าเหมือนกัน จากคุณ : Mnki - [ 12 มี.ค. 51 08:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ้อ ไอ้เรื่องคำชมของคนญี่ปุ่น ก็รู้ๆ มาว่า ถ้าเขาชมต้องบอกว่า "ไม่ค่ะ ไม่"  หรือ "ขอบคุณ" แต่มาเจอกับตัว ก็อึ้งมาก ชมเกินไปเหมือนหลอกลวงๆ ครั้งหนึ่ง แฟนบอกว่าที่บริษัทอยากรู้จัก ก็เลยไปทานข้าวด้วยกัน มีทั้งผู้จัดการแผนก หัวหน้าฝ่าย  รวมๆแล้วสิบคน เจอะวินาทีแรก มาเลย "ว้าว คุณคนไทยจริงเหรอ เหมือนญี่ปุ่นเลย"  ( ห๊า เหมือนตรงไหนวะ งง สงสัยตาพร่ามัว ) "น่ารักมาก เหมือนไอดอลเลย "  ( ไอดอลไหน ศรีลังกาเร๊อ ) "ถ้าสูงกว่านี้ มาเป็นไอดอลที่ญี่ปุ่นได้เลยนะเนี้ย"  ( อ๋อ ที่จริงจะบอกว่าเตี้ยงั้นสิ) "แฟนสวยมาก"  ( ในใจคงคิดว่า  อย่างนี้เหรอ สวย แหวะ ) เขาถามว่าคิดยังไงกับผู้ชายญี่ปุ่น ( ที่เราแล้ว ยอสุดๆไปเลย)" พวกคุณหล่อมากค่ะ  ดูดีมากกว่าดาราในทีวี นะคะ ดิฉันคิดอย่างนั้นจริงๆค่ะ " (พร้อมกับทำหน้าจริงจัง คิดในใจ "เนียนมั้ยเนี่ยตรู" ) อิ อิ ก็สนุกดีค่ะ สตอเบอร์รี่เต็มโต๊ะ จากคุณ : A Legend of Love - [ 12 มี.ค. 51 08:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่มีความคิดเห็นค่ะ คงเป็นเฉพาะคนๆ ไปบอกไม่ได้เพราะทุกชาติ ทุกภาษามีคนทุกแบบให้เห็น อยู่ที่ว่าเราได้สัมผัสในแง่มุมไหนค่ะ... ถ้าน้องเหมียวไม่สบายใจหรือคิดมาก ลองกลับด้านหรือกลับหัวมองดู... มุมมองน่าจะเปลี่ยนไป สุดท้ายชอบความเห็น  44 คุณ A Legend of Love ... กินข้าวอยู่ แทบพุ่งเลย เขียนได้สนุกมากๆ ขำได้ใจไปเลย... จากคุณ : noot (thangthai_ladypink) - [ 12 มี.ค. 51 11:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ่า พี่สู้ๆต่อไปนะคะ ไม่ได้ไปอยู่ก็เลยไม่รู้เช่นกัน จากคุณ : pikzy - [ 12 มี.ค. 51 13:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ A Legend of Love น่ารักดีอ่ะ เราก็แรกๆ ก็พยายามตีความไอ้ที่เค้าชมมา ว่าเค้าชมจริงป่าวเนี่ย หลังๆเหนื่อยละ ใครชมมาก็รับหมดเลยค่ะ ไม่มีตอบว่าไม่ค่ะ ไม่ค่ะ ตามมารยาทเลย บางทีคนชมก็พูดต่อไม่ออกเหมือนกัน สนุกดี แต่ใช้สิทธิความเป็นคนต่างชาตินะ คิดว่าเค้าคงไม่ติดใจอะไร อิอิ จากคุณ : fat attack - [ 12 มี.ค. 51 14:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ยังไม่เคยเจอกับตัวเลย .. ทั้ง ทั้งได้ยินมาก็เยอะ อย่างที่ทำงาน .. เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ก็เทคแคร์ ให้เกียรติดี จนบางทีรู้สึกเหมือนกัน ว่าเค้าจ้างมาเป็น ลูกจ้าง หรือ เจ้านายกันแน่ ใครดีมา .. เราก็อยากมอบสิ่ง ดี ดี ให้ ใครร้ายมา .. ยังไม่เคยเจอ ไม่อยากเจอด้วย ไม่อาวว..ด้วย please. ใครชมมา ปกติทำตัวอย่างไรกันคะ ?? (จริงใจ จิงโจ้ไม่รู้ เหมาว่า จริงไว้ก่อน) เราก็ยิ้ม ขอบคุณ และสมยอม คำชมล่ะ (หลงตัวเองสิ้นดี อิ อิ ) และเราก็ไม่ชมตอบง่าย ๆ นะ หากไม่รู้สึกจากใจจริง จริง เรียนรู้ไป คนประเภทไหน ทำอะไรไม่ดี แบบที่เราไม่ชอบ เราก็อย่าไปทำอย่างนั้นกับคนอื่น .. ก็แค่นั้นเอง แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 51 14:18:55 จากคุณ : il y a (il y a) - [ 12 มี.ค. 51 14:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แอบอ่าน ขอร่วมวงหน่อยทั้งๆ ที่เราไม่ค่อยรู้จักคนญี่ปุ่นเท่าไร ตอนก่อนไป ก็ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปบ้าง อะไรที่ไม่เลวร้ายถึงขนาดฝืนใจมาก ก็พอหยวนๆ จากประสบการณ์ที่เคยเจอ คนญี่ปุ่นมีทั้งดีและเฮงซวยเหมือน ที่เราเจอคนไทยดีๆ และเฮงซวย แต่เคยเจอคนญี่ปุ่นที่ดีกับเรามาก จนเราไม่แน่ใจว่าถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนั้นในเมืองไทย จะมีใครกล้าทำแบบนั้นให้เรารึเปล่า ส่วนที่เฮงซวย บางคนเป็นถึง sensei ในแลบ (แต่ไม่ใช่ Prof. ของเรา) ก็ยังทำตัวเฮงซวยกับเราเพราะเห็นว่าเราเป็นคนต่างชาติ และรู้ดีว่า ด้วยสถานะของการเป็น sensei จะไม่มีใครว่า แต่เรารู้สึกได้ว่าคนญี่ปุ่น คนอื่นก็ไม่ชอบพฤติกรรมเฮงซวย เพียงแต่เขาไม่พูด จะแสดงออกในรูป แบบอื่น เช่น เวลาขอความช่วยเหลือ หรือตอนที่เห็นว่าเราลำบาก ก็จะยื่น มือมาช่วยโดยไม่ต้องขอร้อง ที่เราโดนหนักคือ ทั่นเอาเราไปด่าสาดเสียเทเสียให้กับแลบที่อยู่ติดกัน ด่าขนาดไม่ต้องจัดฌาปนกิจเลยแหละ (เพราะสั่งงานที่ไม่มีมนุษย์ที่ไหน ทำได้ สงสัยเห็นผู้หญิงไทยตัวเท่าลูกหมา เป็นแรมโบ้กล้ามบึก) แต่หลังจากนั้นอีกสองสามปีต่อมา เราถึงได้รู้ว่าไอ้ที่เขาด่าเราน่ะ คนที่ต้องทนได้ยิน เขาไม่สนใจหรอก เพราะคนๆ นี้ พฤติกรรม เอาคนไปด่า ไปนินทาลับหลัง ด่าแม้แต่คนญี่ปุ่นด้วยกันเอง เขาเอือมกันแต่ไม่พูด จากคุณ : Canossa - [ 12 มี.ค. 51 15:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ จขกท. เราก็วนเวียนอยู่แถวๆ นี้แหล่ะ ไม่ได้ไปไหนไกลๆ เพียงแต่ไม่ค่อยเข้ามาตอบกระทู้ซักเท่าไหร่ จากคุณ : ทรมานเธอราพี - [ 12 มี.ค. 51 15:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อยู่มาไม่นานเท่าไหร่ ประมาณสองปีค่ะ ( ไม่รวมที่เคยมาแลกเปลี่ยนหนึ่งปี ) อ่านจากความเห็นบนๆ บวกกับสิ่งที่ตัวเองเจอมา กับที่เคยทำงานบริษัทญี่ปุ่น ( ในไทย ) มาบ้าง ทำให้คิดว่า ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็มีคนทั้งดีและไม่ดีปนๆกันไป แต่ญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมที่ว่าพูดไปตามมารยาท ทำให้หลายครั้งรู้สึกว่าเค้าไม่จริงใจเลย แต่ตอนนี้ชักเฉยๆแล้วค่ะ พูดมาตามมารยาท ก็ตอบไปตามมารยาทเช่นกัน แล้วก็จบตรงนั้น ไม่เอามาคิดต่อค่ะ อย่างเรื่องชมไปตามมารยาท ยังไม่ทันเคี้ยว ( อาหารที่เราทำ ) ก็บอกว่าอร่อย หรือชมว่าน่ารักแบบเว่อร์ๆ ( ซึ่งเรารู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอก )อย่างที่คุณจขกทกับความเห็นด้านบนเจอมาอันนี้ตอนแรกๆก็เอ๋อเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวนี้เฉยๆแล้ว เพราะรู้ว่าเค้าพูดไปอย่างงั้นเอง แต่จะโมโหคนที่คบกันเพราะต้องการผลประโยชน์จากเราเนี่ยค่ะ อย่างที่มหาลัยก็เหมือนกัน ด้วยความที่ไม่ใช่คุณหนู แถมเป็นต่างชาติ โดนดูถูกเหมือนกันค่ะ เคยยิ้มให้แต่เค้าทำเป็นไม่เห็นบ้าง เชิดใส่บ้าง แต่พอจำเป็นต้องทำวิจัยเกี่ยวกับไทย เสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นมาเลยราวกับคนละคน พอช่วยงานเค้าเสร็จก็สะบัดหน้าใส่เราเหมือนเดิม  แล้วก่อนหน้านี้เคยไปโฮมสเตย์เกือบๆอาทิตย์ โดนบังคับให้สอนภาษาไทยทุกวันถึงเที่ยงคืน ไม่พาเราไปไหน ไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมเหมือนคนอื่นๆที่ไปพร้อมกัน พอวันสุดท้ายจะกลับ คงเห็นเราหมดประโยชน์แล้วก็ไม่ได้มาส่งเรา ( ทั้งๆที่มันไกลมาก ) คนข้างบ้านคงสงสารเลยมาส่งแทน เนี่ยก็ทำให้ซึ้งน้ำใจคนญี่ปุ่นเหมือนกัน  แต่อีกบ้านนึงที่เคยไปโฮมสเตย์เค้ากลับไม่ต้องการอะไรจากเราเลย กลับกัน เค้ารักเรามากๆราวกับลูกคนนึงเลยทีเดียว ไปเกียวโตทีไรก็ไปหาทุกครั้ง ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าคนชาติไหนก็คงมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันอยู่จริงๆ เลยไม่อยากจะเหมารวมค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 51 21:43:34 จากคุณ : มอนจะ - [ 12 มี.ค. 51 21:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แวะมาทักทายค่ะ หนูเหมียวจำได้ไหมเอ่ย? ถ้ามีเวลาว่างๆตอนกลางคืนอยากให้ดูทีวีละครญี่ปุ่น วันพุธ เวลา ๒๒.๐๐น SAITO SAN (ไซโต้ซังเขียนถูกหรือเปล่า?) วันพฤหัสเวลา ๒๒.๐๐น. DAISUKI วันอาทิตย์เว!ลา ๒๑.๐๐น. SASAKIFUSAI NO JINKI NO TATAKAI (ไม่รู้เขียนผิดไหม ?) ช่องอะไรจำไม่ได้ แต่จะมีสอนสังคมการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นในหลายรูปแบบค่ะ อยากให้มีความสุขกับชีวิตที่เราเลือกค่ะ ปล.อยากเห็นรูปยิ้มสวยๆของหนูเหมียวค่ะ ขำ You're too late! I hear! ของ อ.ปมโปโกะ ค่ะ ที่บ้านจะใช้ I ba! ฟังจนรู้แล้วค่ะ จากคุณ : khun jim - [ 13 มี.ค. 51 07:25:35 A:58.0.164.185 X: TicketID:150214 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กระทู้นี้ดีค่ะ ขอแชร์จากประสบการณ์การทำงานกับคนญี่ปุ่น ทั้งงานวิจัยที่มหาลัยและงานร้านอาหาร -คนที่นี่ชอบนินทาและพูดถึงเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องสักเท่าไหร่ เรื่องน้อยนิดก็เก็บเอามาเป็นสาระมานินทากันได้ รำคาญมาก -แขกที่ร้านอาหารที่ทำ หลายคนชอบมาพูดจาประมาณดูถูกผู้หญิงไทย เคยมีลูกค้ามาถามว่าอยากมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นไหม ชวนออกไปเที่ยวบ้างล่ะ พอรู้ว่าเราเป็นนักเรียน เรียนเอกที่มหาลัย คำพูดคำจาก็เปลี่ยนไป -ไม่เคยสักครั้งที่ลูกค้าจะบอกว่าอาหารรสชาติอ่อนไป เผ็ดไป แปลกไป ทั้งๆที่บางทีพ่อครัวใส่เครื่องปรุงผิด รสชาติไม่ได้เรื่อง ก็ชมซะ -เด็กที่แลบไม่เคยไว้วางใจ เชื่อใจ นักเรียนต่างชาติ คงคิดว่าเราพูดภาษาเค้าไม่ได้ไหนจะไปรู้ดีเท่าคนญี่ปุ่น แต่หลายต่อหลายครั้งที่พวกเรารู้มากกว่ามาก รู้สึกว่าทักษะการดำรงชีวิตและการเอาตัวรอดของเด็กที่นี่ค่อนข้างต่ำ และอีกมากมาย......แต่ยังไงก็ชอบญี่ปุ่น ความรู้สึกส่วนตัวคือ ชอบวัฒนธรรม อาหาร บ้านเมือง ทิวทัศน์ ระบบ แต่ไม่ชอบสังคมและคน ญี่ปุ่นน่าอยู่มากหากไม่มีคนญี่ปุ่น สังคมที่มีระบบเป็นตัวขับเคลื่อนมัน Static จนน่าเบื่อ ขอย้ำว่าประสบการณ์ที่ดีๆก็มี แต่เขียนตามหัวข้อกระทู้ค่ะ สังคมไหนๆก็มีทั้งดีเลวปะปน เก็บเอาประสบการณ์มาปรับใช้ หาความสุขให้กับตัวเองดีกว่า จากคุณ : Coastline (Coastline) - [ 13 มี.ค. 51 08:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องศึกษาต่อไป ขนาดคนไทยด้วยกัน ( บางคน ) ยังไว้ใจไม่ได้ไม่จริง ใจ คน ต่างซาติญี่ปุ่น จะไว้ใจได้แค่ไหนกันเชียว................................ สู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : My life in Japan. - [ 13 มี.ค. 51 09:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ยาวมาก อ่านไม่หมด แต่เห็นด้วยกับ คุณ จขกท เราอยู่ญี่ปุ่น สองปีครึ่ง แล้วรีบจรลี กลับก่อนกำหนด ขอมาตายแถวนี้ ยังดีกว่า จากคุณ : friday (friday) - [ 13 มี.ค. 51 22:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ก็มีคนหลายประเภทล่ะค่ะ ดีๆก็คงมีเยอะแต่เราไม่ค่อยเจอ ขนาดชมกันอยู่ตะกี้แป๊บๆ หันหลังให้เราก็กลายเป็นหัวข้อสนทนามันซะแล้ว เราก็ทำตาใสไม่เข้าใจอะไรเหรอ..... พอดีเธอคงมันส์ในอารมณ์ไปหน่อยนินทาเสียงดัง สักพักก็เดินมาถามว่าเนี่ยเข้าใจไหม เราก็ยิ้ม.... เค้าก็ถามอีก... ก็เลยบอกไปว่าเข้าใจค่ะ... ม้วนต้วนทำหน้าไม่ถูก ยิ้มแหยๆเดินกลับไป โดยมีเรายิ้มพิมพ์ใจไทยแท้ส่ง... เออ เราก็เรียนรู้มาจากเค้าเหมือนกันนะ ไอ้ยิ้มแบบนี้ ไม่อยากยิ้มก็ฉีกยิ้มให้เป็นมารยาทเนี่ย -_-' จากคุณ : Angeltetsu - [ 18 มี.ค. 51 01:06:29 ]