Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เศรษฐกิจตกเรียนนอกไม่กระทบ 'บริหารธุรกิจ' ยังฮิตในเด็กไทย

    เอามาแปะให้อ่านค่ะ จากเดลินิวส์

    เศรษฐกิจตกเรียนนอกไม่กระทบ 'บริหารธุรกิจ' ยังฮิตในเด็กไทย


    “การศึกษา” ปัจจัยหนึ่งของการก้าวขึ้นสู่แท่นความสำเร็จของหน้าที่การงานที่ทรงเกียรติ และรายได้ที่มั่นคง โอกาสทางการศึกษาในระดับสูงระดับปริญญาตรี-เอกไม่ได้มีได้ทุก คน ขึ้นอยู่กับฐานะและความรู้ความสามารถ

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าการศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นนำ ตลอดจนในรายสาขาต้องมีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงการเดินทางไกลไปศึกษาต่อต่างประ เทศ ต้องมีทุนทรัพย์มากพอ จึงจะเดินทางไปได้ หากบุคคลนั้นไม่มีมันสมองล้ำเลิศถึงขั้นสอบชิงทุนไปได้

    “แม้ว่าเศรษฐกิจบ้านเราจะดีหรือไม่ดี ตัวเลขการศึกษาต่อต่างประเทศของคนไทยไม่ได้ลดลง ยังมีตัวเลขเพิ่มขึ้นทุกปี พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีเงินก็ยินดีที่จะส่งลูกไปเรียนในต่างประเทศ เพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตในปัจจุบัน” อุดม ดิษฐสำเริง นายกสมาคม-แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (สนต.) ยืนยันให้เห็นภาพว่าการศึกษาคือการลงทุนที่เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับสังคมไทย

    อุดม บอกว่า วิชาบริหารธุรกิจยังเป็นวิชายอดฮิตสำหรับนักเรียนไทย สำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโท รองลงมาคือด้านการตลาด ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนระบบไฟแนนซ์หรือบัญชี ตกลงมาเนื่องจากตอนนี้ระบบสถาบันการเงินทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยทำงานด้านประมวลผล เก็บข้อมูล ดังนั้นการพึ่งพาบุคลากรด้านนี้จึงน้อยลงด้วย

    ส่วนประเทศยอดนิยมที่เด็กไทยยังให้ความสนใจไปเรียนสาขาด้าน บริหารธุรกิจคือสหรัฐอเมริกา รองลงมาออสเตรเลีย อังกฤษ ทั้งนี้จากการทำแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นของสมาคมเมื่อครั้งจัดงานแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ แยกเป็นประเทศได้ดังนี้ ให้ความสนใจไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา 20 เปอร์เซ็นต์ ออสเตรเลียกับอังกฤษเท่ากับคือ 16 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นนิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น แคนาดา

    “การไปเรียนต่อต่างประเทศได้หลายอย่าง อย่างน้อยก็ได้ภาษากลับมา และยังได้ความเชื่อมั่นในตนเอง เพราะส่วนใหญ่เด็กไทยที่มีฐานะ ที่บ้านจะเลี้ยงลูกให้สะดวกสบายมีคนรับใช้ มีรถรับส่ง เมื่อต้องไปอยู่ต่างประเทศคนเดียว เขาได้ช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างบางคนไม่เคยเข้าครัว เลยก็ไปทำอยู่ที่เมืองนอก และอีกอย่างเขาได้เห็นโลกกว้าง ได้เรียนรู้เศรษฐกิจสังคม อันนี้จะเป็นประ โยชน์ ซึ่งเด็กนักเรียนในไทยที่อยู่ในเมืองไทยจะไม่มีโอกาสเห็นอย่างนี้” นายกสมาคม-แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (สนต.) บอกเล่า

    ผู้ไปเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากความรู้ด้านวิชาภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับแล้ว ปัจจุบันภาษาอังกฤษอย่างเดียวอาจไม่เดินทางไปสู่หน้าที่การงานอันก้าวหน้าได้ ในยุคที่จีนผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ เคียงคู่มากับสหรัฐอเมริกา ภาษาจีนเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เด็กไทยหันกลับมาสนใจศึกษาภาษาจีนมากขึ้น

    อุดม บอกเล่าต่อว่า ตอนนี้คนไทยนิยมไปเรียนภาษาจีนมากกว่าที่จะไปเรียนต่อในระดับสาขาวิชาอื่นในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่การจัดการเรียนการสอนภาษาจีนจะมีเปิดสอนทั้งในระดับมหาวิทยาลัย และวิทยาลัย มีหอพักให้ ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายพอสมควร และที่สำคัญไม่แพง ใช้ระยะเวลาเรียนไม่นาน 6 เดือน - 1 ปี

    “การปรับปรุงเรื่องการเรียนการสอนภาษาจีนให้กับนักศึกษาต่างชาติ เขาจะให้ความสำคัญมาก เขาจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณภาพ เขาจะฉลาดเมื่อเด็กไปเรียนเขาจะให้ทำแบบสอบถามหอพักเป็นอย่างไร อาหาร การเรียนการสอนเป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วเขาจะปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจีนตอนนี้เขารวย

    ส่วนเรื่องการเรียนการสอนเท่าที่สอบถามเด็กที่ไปเรียน กลับมาเขาบอกว่าโอเคบางคนไปเรียน 6 เดือน เดือนแรก ๆ จะงง ๆ ต่อมาจะเข้าใจเขาจะประยุกต์การเรียนการสอนให้เป็นโปรแอ๊คทีฟ คือใช้เกมใช้รูปภาพ เข้ามาช่วย ไม่เน้นให้ท่องจำ พาเด็กออกไปนอกห้องเรียนไปเจอสถานการณ์จริง นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์โต้ตอบเพื่อฝึกทักษะทางภาษาให้ใช้ฟรีหลังเลิกชั่วโมงเรียน”

    สนนราคาค่าเล่าเรียนภาษาจีนในแผ่นดินเจ้าของภาษานั้น จะแตกต่างกันอยู่ที่ว่าเลือกเรียนในเมืองใหญ่ ที่มีความเจริญทันสมัยอย่างปักกิ่ง หรือเมืองที่อยู่ไกลออกไป โดยเฉลี่ยหลักสูตร สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ในศูนย์ภาษา ณ มหาวิทยาลัยของปักกิ่ง ถ้าเป็นหลักสูตรภาษาจีน ระยะยาว ประมาณ 8,000 หยวน/ เทอม หลักสูตรระยะสั้น ประมาณ 2,700 หยวนต่อเดือน

    ส่วนสถานที่เช่น มหาวิทยา ลัยในเมือง กุ้ยหลิน หลักสูตรภาษาจีนระยะยาว ประมาณ 4,800 หยวนต่อเทอม หลักสูตรภาษาจีนระยะสั้น ประมาณ 1,280 หยวนต่อเดือน

    แม้ไม่บ่อยครั้งนัก ที่เหล่านักเรียนไทยที่เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศถูกบริษัทนายหน้าโกงเงินไม่ยอมส่งค่าเล่าเรียน หรือไม่จัดหาสิ่ง อำนวยความสะดวกตามข้อระบุของสัญญา

    นายกสมาคม-แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (สนต.) ออกตัวก่อนว่า ปัญหาที่พักไม่ดีเด็กต้องนอนรวมกันในห้องพักเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มเด็กนักศึกษาที่ไปในลักษณะ นักเรียนแลกเปลี่ยน โครงการเวิร์กแอนด์แทรเวิล คือไปทำงานแล้วได้ท่องเที่ยวเรียนรู้ภาษาวัฒน ธรรมในช่วงเวลาปิดเทอม ลงทุนค่าใช้จ่ายราว 1 แสนบาท

    แต่เมื่อไปถึงอเมริกาแล้วไปทำงานเป็นงานระดับแรงงาน เด็ก เสิร์ฟประมาณนี้ ปัญหานี้แก้ไขได้ก่อนไปต้องตรวจสอบให้แน่ใจ ทั้งเรื่องที่พักและที่ทำงาน บางครั้งไปทำงานหนักเกินไปรับไม่ได้ เพราะเด็กบางคนมีฐานะเมื่อไปอยู่อย่างนั้นอาจทำใจไม่ได้

    ลักษณะโครงการเวิร์กแอนด์แทรเวิลไม่ได้อยู่ในความดูแลของสมาคมในอนาคตจะพยายามรวบรวมเหล่าบริษัทที่ดำเนินการโครงการเหล่านี้มาอยู่ด้วย แต่สมาคมจะมีสมาชิกที่ทำธุรกิจเรื่องศึกษาต่อต่างประเทศอยู่ 60 บริษัท แต่ในแวดวงนี้มีบริษัท ทำธุรกิจด้านนี้อยู่ประมาณ 150 บริษัท

    ดังนั้นการเลือกใช้บริการด้านนี้เพื่อความแน่ใจอันดับแรกตรวจสอบก่อนว่าเป็นสมาชิกสมาคมหรือ ไม่ เพราะสมาคมจะดูแลเรื่องของราคาค่าเล่าเรียนต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานเดียวกัน เมื่อมีปัญหาขึ้นมาสมาคมเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยได้ (เว็บ ไซต์ สมาคมฯ www.tieca.com)

    ข้อพึงระวังอีกอย่างเมื่อต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ส่วนใหญ่บริษัทรับจัดการดำเนินการเรื่องเรียนต่อ จะไม่รับเงินสดหรือเช็คจากลูกค้าโดยตรง หลังจากได้ใบตอบรับจากมหาวิทยา ลัย จะส่งรายการค่าเล่าเรียนค่าที่พักมาให้ แต่จะให้คนที่ไปศึกษาต่อไปซื้อแบงก์ดราฟต์สั่งจ่ายเงินไปยังมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนโดยตรง แล้วนำหลักฐานมาส่งให้บริษัทวิธีนี้จะป้องกันปัญหาบริษัทเอาเงินไปหมุนก่อน

    สิ่งสำคัญถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อบริษัทนายหน้าไม่เป็นธรรม ผู้เดินทางควรศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองในบางส่วนผ่านทางเว็บไซต์ หรือ สอบถามจากผู้มีประสบการณ์ แทนที่จะผลักภาระทั้งหมดให้กับบริษัท นายหน้าจัดการทุกขบวนการ.

    เปรียบเทียบค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพ ในประเทศที่ได้รับความนิยมของคนไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐ และอังกฤษ หลักสูตรระดับมหาวิทยาลัย

    ** ออสเตรเลีย **

    - ระดับปริญญาตรี ประมาณปีละ 10,000-16,500 เหรียญออสเตรเลีย (ทั้งนี้แล้วแต่สาขาวิชา ถ้าเป็นวิชาบริหารทั่วไปจะอยู่ที่ระดับหลักหมื่นเหรียญออสเตรเลีย แต่ถ้าเรียนในสาขาวิชาเฉพาะทางเช่น วิศวกรรมศาสตร์ ค่าเล่าเรียนจะสูงตาม)

    - ระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก ประมาณปีละ 11,000-20,000 เหรียญออสเตรเลีย (หลักสูตรปริญญาโท ใช้เวลา 2 ปี แต่ถ้าลงเรียนในซัมเมอร์ด้วยสามารถจบได้ภายใน 1 ปี ครึ่ง)

    - หลักสูตรประกาศนียบัตรและอนุปริญญา สายอาชีพต่าง ๆประมาณปีละ 5,500-18,000 เหรียญออสเตรเลีย

    ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปีในออสเตรเลียเป็นเงินเท่ากับ 9,306 เหรียญออสเตรเลีย ตัวเลขนี้รวมค่าที่พัก ค่าอาหาร การเดินทาง เสื้อผ้า เชื้อเพลิง ไฟฟ้า และสิ่งบันเทิงแล้ว

    ** อังกฤษ **

    -ทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท อัตราค่าเล่าเรียนประมาณ 9,600-12,700 ปอนด์ ต่อปี (หลักสูตรปริญญาโทในอังกฤษส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาศึกษา 1 ปี)

    - อัตราค่าครองชีพเป็นเงินเฉลี่ยราว 6,500 ปอนด์ต่อปี

    ** สหรัฐอเมริกา **

    - ในสถานที่ที่นักศึกษาไทยนิยมไปเรียนคือ บอสตัน (เมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐ) ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยกว่า 100 แห่งในเมืองบอสตัน มหาวิทยาลัยที่สำคัญและมีชื่อเสียงต่าง ๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยบอสตัน วิทยาลัยบอสตัน มหาวิทยาลัยทัฟส์ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในมหาวิทยาลัยดัง ๆ เหล่านี้ราคาค่าเล่าเรียนสูงถึงปีละประมาณ 30,000 เหรียญสหรัฐ

    หากเป็นสถานที่ที่คนไทยไปศึกษาน้อยหน่อยเช่นแถบอเมริกากลาง เช่นรัฐมิสซูรี เมื่อเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ ราคาค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 8,200 เหรียญสหรัฐ หากไม่ใช่มหาวิทยาลัยของรัฐจะตกที่ 19,000 เหรียญสหรัฐ

    - ค่าครองชีพในสหรัฐเฉลี่ยเป็นเงิน 12,861 เหรียญสหรัฐต่อปี

    ** สมาคมไทยแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ (สนต.) มหกรรมแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ ครั้งที่ 20

    พบตัวแทนสถาบันการศึกษาชั้นนำนานาประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 80 สถาบันการศึกษาชั้นนำ จะมาให้รายละเอียดค่าเล่าเรียน ระเบียบการ ขั้นตอนการสมัคร ขอวีซ่า และอื่น ๆ และยังมีกิจกรรม ทดสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษฟรี ระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคม 2551 เวลา 13.00-18.30 น. รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

    ที่มา:http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=157172&NewsType=1&Template=1

    จากคุณ : ลิงน้อย - [ 11 มี.ค. 51 22:09:48 A:216.206.197.131 X: TicketID:145647 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom