Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องจริงที่เกิดขึ้น เมื่อไปนิวซีแลนด์แบบถูกต้องแต่เข้าประเทศไม่ได้ แถมโดนกักขังในคุกของโรงพักอีก 1 คืน ก่อนส่งกลับ

    อยากจะเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และสดๆ ร้อนๆ เพราะพึ่งกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อคืน เพราโดนส่งกลับจากประเทศนิวซีแลนด์ โดยไม่มีเหตุผลอันควร เหมือนโดนกลั่นแกล้ง แถมยังโดนกักขัง หน่วงเหนี่ยวจากเจ้าหน้าที่ ตม. ไม่ให้โทรไปหาใครด้วย

    เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันได้ไปขอวีซ่าเข้าประเทศนิวซีแลนด์พร้อมสามี โดยยื่นขอพร้อมกัน โดยสามีเป็นหลักในการขอ เมื่อยื่นเอกสารทางการเงิน และ ประวัติการเดินทางของเราทั้งคู่ให้สถานทูตแล้ว ไม่ได้มีข้อสงสัยใดๆ พร้อมนัดวันมารับในอีก1 อาทิตย์

    ต่อมาเนื่องด้วยสามีติดธุระด่วน และเปลี่ยนใจจะนำลูกชายเดินทางไปพร้อมกัน เลยพาลูกชายไปทำพาสปอร์ต และเตรียมไปยื่นขอวีซ่า แต่เนื่องจากดิฉันมีวันหยุดได้แค่ 15 วัน หรือเต็มที่ 20 วัน สามีจึงบอกให้ดิฉันเดินทางกลับก่อน เพราะเห็นว่าเคยเดินทางคนเดียวเป็นประจำ และสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะทำงานเกี่ยวกับด้านทางประเทศ โดยโทรบอกเพื่อน(ผู้หญิง) ที่อยู่ที่นิวซีแลนด์ให้มารับ และอำนวยความสะดวกให้ ระหว่างที่รออยู่ที่นั้น

    ดังนั้นดิฉันจึงเดินทางเมื่อวันอังคารที่ 11 มีนาคม 2551 โดยสารการบินสิงคโปร เมื่อไปถึงเมื่อง ไครเชิรต์ ประเทศนิวซีแลนด์ ดิฉับกลับโดนเรียกตัวเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเห็นดิฉันมาคนเดียว โดยสอบถามข้อมูลต่างๆ ว่า จะไปเที่ยวที่ไหน ดิฉนก็บอกว่า เพื่อนมารับแล้วจะพาเที่ยว โดยได้ให้เบอร์โทรของเพื่อนไป และดิฉันยังได้แจ้งอีกว่าสามีและลูกจะเดินทางตามมา โดยสามีทำเรื่องให้ลูกอยู่ และลูกก็ยังป่วยอยู่ จึงน่าจะตามมาอีกอาทิตย์ ปรากฎว่าเมื่อเจ้าหน้าที่โทรไปหาเพื่อน เพื่อนของสามีก็แจ้งว่ารู้จักดิฉันดี และกำลังรอดิฉันมาเพื่อจะชวนมาลงทุนในนิวซีแลนด์ แต่ดิฉันแจ้งว่า เคยคุยกันเหมือนกันเรื่องการลงทุน แต่ดิฉันเห็นว่าจะมาเที่ยวก่อน ยังไม่คิดจะลงทุนใดๆ ทางเพื่อนสามีคงหวังจะให้มาลงทุนด้วย ซึ่งดิฉันก็ไม่เห็นว่าจะเเปลกอะไร ที่ความคิดเห็นเรื่องการลงทุนจะไม่ตรงกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ นำเรื่องนี้มาอ้างในการที่ไม่ให้ดิฉันเข้าประเทศเค้า โดยแจ้งว่า ไม่เชื่อว่าสามีจะเดินทางตามมาจริง และไม่เชื่อว่าดิฉันมามาท่องเที่ยวจริง เพราะพูดไม่ตรงกับเพื่อน โดน ลง avoid ลงบนหนังสือเดินทาง พร้อมกับแจ้งว่าจะต้องส่งตัวกลับประเทศไทย

    แต่ได้ให้โอกาสดิฉันได้โทรไปสถานทูตไทย เพื่อแจ้งเรื่อง แต่ทางสถานทูตไทยแจ้งกลับมาว่า ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะเป็นสิทธ์ของเค้า ประเทศของเค้า ดิฉันจึงขอร้องให้ช่วยโทรไปหาสามีและเพื่อนว่าไม่สามารถเข้าประเทศได้ และทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ใช้โทรศัพท์ใดๆเลย

    ระหว่างนั้น ดิฉันก็ถามว่า แล้วจะให้ดิฉันรอที่ไหน เค้าก็แจ้งว่า จะให้ไปอยู่ที่สถานีตำรวจ ดิฉันก็ตกใจ ดิฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิด และทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหา ทำไมต้องกักตัวไว้สถานีตำรวจ เค้าก็ไม่ยอมอธิบายใดๆ สรุปว่าดิฉันต้องโดนกระทำเยี่ยงนักโทษ คือเข้าห้องขังเดียว มีลูกกรงล็อกแน่นหนา ดิฉันขอสิทธ์ในการโทรศัพท์ เค้าก็ไม่ยอม พอบอกว่าดิฉันไม่เข้าหรอกห้องขัง ขอนั่งรอใน ออฟฟิสก็ได้ ตำรวจก็ไม่ยอม ล๊อกแขนดิฉันสองข้าง แล้วจับกดลงบนที่นอนในห้องขัง พร้อมบอกว่า คุณจะต้องอยู่ที่นี่ตามกฎเหมือนนักโทษของที่นี่ ดิฉันกดดัน+เครียดมาก ปวดศรีษะเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่อยู่สนามบิน โดนสอบสวน จนถึงโดนส่งตัวมา ก็เป็นเวลา 8 ชั่วโมง และดิฉันยังอยู่ในห้องขังเป็นเวลากว่า 15 ชั่วโมง ยาวนานและทรมาน จนคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังพอมีสติว่า ลูกเรายังเล็ก แล้วเราไม่ผิด ออกไปเราต้องหาทางเรียกร้องสิทธิ์ของเรากลับคืนมาให้ได้

    ตลอดทั้งคืน ดิฉันไม่สามารถนอนหลับ ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของนักโทษคนอื่น ตลอด เสียงกลอนประตู เสียงเคลื่อนประตูเปิดๆ ปิดๆ มันทรมานมากที่สุด คิดแต่ว่า เสียเงิน 43,000 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อมาติดคุก คิดถึงแต่ แม่ สามีและลูก ร้องไห้ก็ไม่ออก มันกดดันไปหมด รอๆๆๆๆ ก็ยังไม่มีใครมารับ จนดิฉันคิดจะทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บ เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ที่นี่ ไปอยู่โรงพยาบาลก็น่าจะดีกว่า จนในที่สุด ก็มีพนักงานตำรวจมารับตอน 10 โมง และพาไปหาเจ้าหน้าที่ ตม. จัดแจงเรื่องตั๋ว พร้อม นำตัวดิฉันส่งเข้าไปถึงในเครื่องบิน สร้างความอับอายให้ดิฉันเป็นอย่างมาก เพราะมีตำรวจเดินตามมาตลอดทาง

    ดิฉันต้องนั่งเครื่องบินกลับ ใช้เวลา กว่า 17 ชั่วโมง เพราะต้องรอเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร เกือบ 3 ชั่วโมง ดิฉันโทรหาสามี เอาแต่ร้องไห้ตลอด จนรู้สึกกลัวสามีจะพลอยเศร้าไปด้วย เรื่องหยุดร้อง และนัดเวลาเจอกันที่สนามบินเมืองไทย เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย เข้าใจเลยว่า ทำไม ใครๆถึงบอกว่า บ้านเราดีที่สุด

    ตอนนี้จิตใจมันห่อเหี่ยว รู้สึกสิ้นหวัง คิดถึงแต่เรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนกินข้าวไม่ลง นอนก็นอนไม่หลับ ปวดหัวตลอดเวลา เขียนเล่าเรื่องไป จิตใจก็รู้สึกเศร้าหมอง มือไม้สั่น แต่ร้องไห้ไม่ออก มันเครียดมากๆ

    มาถึงตอนนี้ อยากได้ความเห็นเพื่อนๆ ว่าดิฉันและสามีควรทำเรื่องฟ้องสถานฑูตนิวซีแลนด์ในประเทศไทยหรือไม่ หรือพวกเราควรจะทำอย่างไรต่อไป เผื่อพอจะมีใครให้คำแนะนำได้

    จากคุณ : โลกมันกลม - [ 14 มี.ค. 51 17:27:34 A:124.120.19.50 X: TicketID:170830 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom