ความคิดเห็นที่ 1 ขอเป็นกำลังใจให้ครับ   ขอให้ผ่านมรสุม ร้าย  ไปโดยดี จากคุณ : otto - [ 22 มี.ค. 51 10:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นกำลังใจให้ดีกว่า ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเราเอง อย่าสนใจกับคนรอบข้างที่ไม่รู้จักเราและเราไม่รู้จักนะคะ ความสุขอยู่ที่ใจเราเอง  สร้างได้ด้วยตัวเองค่ะ ชนะใจตัวเองถือว่าชนะได้ทุกสิ่ง นะคะ จากคุณ : praseew - [ 22 มี.ค. 51 10:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าทุกคนที่มีสามีต่างชาติ  คงเจออะไรแปลกๆ ไม่เข้าท่ามากบ้างน้อยบ้างกันแทบทุกคน อยู่ที่ว่าเราอย่าเอาเก็บสิ่งเหล่านั้นมาบั่นทอนจิตใจ  ให้มองในมุมฮาไว้ค่ะ  แม้บางครั้งจะฮาไม่ออก.. จากคุณ : ตกตะกอน - [ 22 มี.ค. 51 10:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กำลังเพิ่งเริ่มมีแฟนเป็นต่างชาติเหมือนกันค่ะ ตุ้ยนุ้ยและแอบโทรม แต่ไม่เป็นไร เพราะดิชั้นก็แอบสวย สร้างความสมดุลเวลาเดินด้วยกัน คริคริ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอประสบการณ์ไม่ดีนะคะ ไปพักโรงแรม พนักงานก็ต้อนรับดี นั่งแท๊กซี่ ก็โอเค แต่ขับรถแย่มากมาย ซื้อของส่วนใหญ่จะได้ราคาถูกกว่าปกติ เพราะเราไม่ค่อยต่อ แต่แฟนต่อกระจาย ที่ผ่านมายังประสบการณ์ดีอยู่ ถือว่ายังโชคดี จากคุณ : HuGGie - [ 22 มี.ค. 51 11:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5  "เพิ่งเจอแม่บ้านหน้าเลือด เก็บเงินค่าข้าวเกินจริงทั้งสองครั้งเลย (โทรไปถามราคาถูกต้องมาแล้ว สรุปแม่บ้านได้ไป)" ^^ ^^ อย่ากลับไปทานอาหารร้านนั้นอีก เพราะเขาจะแกล้งแน่ๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่าเอามาใส่ใจ รู้ตัวว่าเราเป็นใคร ทำอะไร แค่นั้นพอ ปัญหาทางด้านปัญญา ความคิด ของคนอื่น ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาไป มีคู่เป็นคนต่างชาติต้องทำใจ โดยเฉพาะในเวลาที่เจอคนใจแคบ แต่คนใจกว้างก็มีเยอะ ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ ขอให้อยู่เมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างมีความสุขค่ะ   Best wishes.   จากคุณ : Siamese Girl - [ 22 มี.ค. 51 11:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านมาถึงตอนท้าย ๆ ที่บอกว่า เป็นเหตุการณ์ของเมื่อปีที่แล้ว เลยถึงบางอ้อว่า อ๋อ...เพิ่งแต่งกันไม่นาน ธรรมดาค่ะ อีกหน่อยก็ชินไปเอง ไม่ต้องไปสนใจ ใครเค้าพูดอะไร ก็ยิ้ม  ๆ ไป ไม่ต้องตอบอะไรเค้า เสียใจด้วยที่แท้งน้องนะคะ จากคุณ : Lilac Girl - [ 22 มี.ค. 51 11:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : this is jenni - [ 22 มี.ค. 51 11:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าไปใส่ใจให้มันมากนักเลยคะ เราก็ทำตัวปรกติของเราไป เคยเป็นยังไงก็ทำตัวอย่างนั้น สำหรับเราเอง เราไม่เคยเจอแบบคุณ จขกท แต่อย่างนึงที่เราจะปฎิบัติคือจะพูดจากับคนแปลกหน้า ก็ต้องพูดจาสุภาพเข้าไว้คะ ให้เกียรติคนอื่น ถ้าทำแล้วเค้ายังไม่ให้เกียรติเรา ก็คงต้องมีการตำหนิบ้างว่านี่ลูกค้านะ คนบางคนใจแคบแล้วไมู่้รู้ตัว ถ้าเรายิ่งเงียบ เค้าก็อาจจะนึกว่าเราเป็นอย่างที่เค้าคิด จากคุณ : Scooterella - [ 22 มี.ค. 51 12:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ ดิฉันทำใจได้แล้วเรื่องลูก เดี๋ยวค่อยลองกันใหม่ค่ะ ส่วนเรื่องแปลกๆที่จะต้องเจอ บางครั้งมองก็น่าสนุกดีนะคะ ได้เรียนรู้มนุษย์หลายรูปแบบ จะเก็บไว้เป็นเรื่องราวนึงที่ผ่านมาแล้วผ่านไป จะไม่เอามาคิดมาก เพราะมันก็เรื่องไร้สาระทั้งนั้น ขำๆ อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินอย่างที่ คุณ Lilac Girl บอก คุณ SMG คะ มื้อกลางวันเมื่อกี้นี้ ดิฉันเลยสั่ง KFC มากินเลยค่ะ ตัดปัญหา ทั้งๆที่อยากกินอาหารไทย เพราะเพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน ไม่เป็นไร ยังมีเวลากินอีกนานเลย  คริคริ จากคุณ : Year after Year - [ 22 มี.ค. 51 12:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เจอจนชินแล้วค่ะ เดี่ยวนี้ไม่คิดมากเหมือนเมื่อก่อน ปล่อยสบายๆค่ะ จากคุณ : กวางน้อย - [ 22 มี.ค. 51 13:03:24 A:125.27.3.80 X: TicketID:169119 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้น ไม่เคยโดนการปฏิบัติแบบนั้น... ปกติแล้ว ไปเมืองไทย เราชอบไปแบบติดดินมากกว่าไปเที่ยวย่านศูนย์การค้า... ไปคนเดียวมีปัญหาอยู่แล้ว ไม่เคยได้ซื้อของถูกเลย... คนขายตาถั่ว... เลยต้องไปซื้อตามห้างที่มีราคาแปะไว้แล้ว ครั้งหนึ่งนั่งแท้กซี่ นั่งไปกันสามคนแม่ลูกๆ... นั่งไปสักพัก คนขับชวนคุย... คุยกันไปคุยกันมาเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งคลาสสิคที่เราชอบฟัง... คนขับเอ่ยว่า... คุณเป็นคนมีบุญวาสนาดี ถึงมีชีวิตที่ดี เมื่อคุณคิดดี สิ่งที่ดีจะเกิดกับคุณเอง..... ก่อนออกจากรถมา เขายังอวยพรให้เรา.... ยังจำคำพูดของคนขับนั้นได้ ในโลกความเป็นจริง... เรายึดความอ่อนน้อมกับคนทั่วๆไปก่อน... เราไม่คาดหวังว่าคนอื่นจะทำให้กับเรา...... มันช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการคิดทำหลายๆอย่าง... เป็นส่วนมาก จากคุณ : JidNince - [ 22 มี.ค. 51 13:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรากลับโดนถามตรงกันข้ามค่ะ ด้วยความที่สามีเป็นคนง่ายๆสบายๆ ที่สำคัญเป็นคนขี้ร้อนมาก เจออากาศเมืองไทยที่ร้อนชื้นมักจะมีผดขึ้นประจำ ทีนี้เราก็จับแกแต่งตัวสบายๆ ใส่เสื้อยืด กางเกงสามส่วน ดีหน่อยสามีไม่ชอบใส่แตะต้องเป็นผ้าใบหรือรองเท้าหนังเท่านั้น แต่ดิฉันนี่สิถ้าไปใหนไม่ได้แต่งตัวจะไม่มั่นใจ ยังไงๆต้องแต่งตัวใว้ก่อน ต้องเริ่ดค่ะ กลับกลายเป็นว่าบางคนกลับถามว่าได้ฝรั่งขี้นกมาเป็นสามีอย่างนี้ก็ลำบากสิหนู แล้วต้องเลี้ยงสามีด้วยใหมนี่ ฟังแล้วก็ขำ  ขำ จากคุณ : Idel - [ 22 มี.ค. 51 14:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โดนเหมือนกันค่ะ แต่พลอยว่ามันอยู่ที่การวางตัวมากกว่านะคะ บางทีพลอยทนไม่ไหวก็ตอกกลับไปแรงๆ ให้หน้าแหกไปเลย เช่น ... ถาม...ไปส่งแขกหรือคับ อ๋อไม่ใช่ค่ะ ถาม...อ้าวแล้วใครล่าคับ เป็นพ่อบังเกิดเกล้าค่ะ ถาม...โอ้วววว...คงรวยงั้นสิ ดีกว่าขับแท็กซี่ค่ะ หาเช้ากินค่ำยังไม่พอยาไส้เลย ยังเอาปากมาดูถูกคนอื่นอีก Taxi Driver : !!@#$%%##@@&&%%$ (สีหน้าเปลี่ยนไปค่ะ รู้สึกว่าโมโหพลอยมากๆ แต่เค้าก็ระงับอารมณ์ไว้ได้ค่ะ) แฟนถาม มีเรื่องอะไรกันหรือ ....ก็เล่าให้เค้าฟังค่ะ แฟนโกรธค่ะ เลยบอกเค้าไปว่า... คุณดูถูกแฟนผม ก็เท่ากับว่าคุณดูถูกผมด้วยเช่นกัน ถ้าปากคุณดีกว่านี้ อาชีพของคุณอาจจะดีขึ้นก็ได้.... คือพลอยแปลให้ taxi ฟังค่ะ ...พอเค้าได้ยินแบบนั้น สีหน้าเจื่อนเลยค่ะ สรุปอดได้ทิป สมน้ำหน้า... พลอยเจอมาเยอะเลยค่ะ ..เบื่อมากๆ เลยค่ะ จะหนีไปอยู่เมืองนอกกับแฟนแล้วค่ะ ทรมานสมองค่ะ ไม่อยากคิด และรับรู้อะไรอีกแล้ว จากคุณ : Life@Texas - [ 22 มี.ค. 51 16:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดิฉันขอเล่าที่เจอมาบ้างนะคะคุณจขกท คือเพิ่งกลับไทยไปเดือนที่แล้วเหมือนกัน มีบางแห่งเหมือนกันที่เค้าไม่อยากพูดกับเรา อยากจะพูดแต่กับสามี  ช่างเค้าค่ะ ให้คิดว่าเค้าอยากฝึกภาษา ปล่อยไป บางที่ตอนแรกนึกว่าทำไมไม่พูดกะเราหว่า สุดท้ายก็มา อ๋อ !!...เค้าคือพม่า เค้าพูดไทยไม่ได้ ไม่ชัด พูดอังกฤษง่ายกว่า เลยหลังๆ ไม่ค่อยงอนแล้วเวลาเห็นคนหน้าตาแบบเราแต่ไม่อยากพูดกับเรา เจออันเดียวที่ไม่ประทับใจเลยจริงๆ คือ ไปเดินดูเสื้อในห้าที่ถนนสีลม เข้าไปในร้านเสื้อผ้ามีชือแห่งนึงกับสามี เห็นชุดที่ชอบ ก็ถามเค้าว่าลองได้มั้ย เค้าก็บอกลองได้ แต่ทีนี้เราลองแล้วมันไม่ใช่งัย หุ่นมันน่าเกลียด ซื้อมาก็เสียตังค์เปล่า เลยคิดว่าไม่เอาล่ะ ไม่เข้ากับเรา แต่ด้วยมารยาทเราก็พยายามจะรูดซิบกลับไป ตอนนั้นสามีเดินมาข้างๆเราน้ะ  เราพยายามจะจัดชุดมันให้ดีก่อนจะคืนเค้า เค้าบอกว่า "เอามานี่เดี๋ยวทำเอง" แล้วก็ดึงจากมือเราไปเลยอ่ะ เราได้แต่ยืนตาค้าง นี่คือเหตุการณืในห้างน้ะ แต่ถ้าไปเดินตลาดละก็ได้รับการบริการดีด้วย มันกลับกันแล้วนะ เรื่องต่อราคา บอกมาเลยจะขายเท่าไหร่ ดิฉันส่งซิกให้สามี ว่า..ชอบ แล้วเดินหนี ให้สามีต่อ พอดีสามีทำจัดซื้องัย  แม่ค้าเจอต่อต่ำกว่าครึ่ง จากที่บอกมา สามีต่อเค้าให้น้ะ แต่เราต่อเค้าไม่ให้แล้วด่าด้วย หลังจากที่เรารู้ว่าจะเจอแบบนี้แล้วให้สามีผจญเพลิงแทนตลอด น้องชายสามีก็เด็ด ต่อเหมือนพี่เลย แล้วได้อีกต่างหาก เราเลยให้เค้าเที่ยวเองเพราะดูท่าทางคงถูกหลอกยากกว่าเรา เราเดินคนเดียวหรือเดินกับเพื่อนคนไทยในห้าง ก็โดนบริการไม่ดีเหมือนกัน เพื่อนเรายังพูดเลยว่าเดี๋ยวนี้เค้าเป็นแบบนี้แหล่ะ   ทำใจเห็อะ คุณ จขกท อย่าคิดมากเลยนะคะ ยังคิดในใจเลยว่าถ้าขืนเมืองไทยขายของแบบนี้อีกหน่อยคนก็หนีไปที่อื่นหมด  ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวนี้คนไทยยังไม่ค่อยเที่ยวในไทยกันเองเลย ก็เพราะเค้าเจอแบบนี้แหล่ะ จากคุณ : hamble pie - [ 22 มี.ค. 51 17:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เคยเจอคะ แต่ก็พยามทำเป็นไม่ได้ยิน ถ้าไม่ได้ร้ายแรงมาก ต้องทำใจคะ  มันหงุดหงิดเหมือนกัน บางทีดิฉันอยากพักผ่อน ไม่อยากมานั่งตอบคำถามคนไม่รู้จัก หรือ ถูกมองแบบscan ตั้งแต่หัวจรดเท้า  นานๆกลับบ้านทีคงไม่เป็นไร ลืมเล่า ที่เคยเจอมา เมื่อปีที่แล้วไปเที่ยวทะเลที่ ตจว กับ สามี ไปพักโรงแรมหนึ่ง  ก็ไม่ได้แต่งตัวโป้นะ ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น คุณลุงที่เป็นพนักงานเรียกรถให้ลูกค้า พูดว่า 'หนู หนูมาพักโรงแรมนี้กับแขกหลายคืน อย่าลืมให้ทิปลุงนะ' ดิฉันเอ๋อไปเลย  ดิฉันเล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกให้ฟ้องผู้จัดการ แต่ดิฉันสงสารลุง ไม่อยากให้แกเดือดร้อน  แต่แกอดทิป แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 17:50:48 จากคุณ : บางทีก็เบื่อ...... (fiony) - [ 22 มี.ค. 51 17:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราพาแฟนกลับไปเยี่ยมบ้านที่ใต้ พาไปเดินตลาดนัดตอนเช้า ๆ ๆ แม่ค้าถาม : หนูมาจากภูเก็ตเหรอ เรา : ป่าวค่ะ กรุงเทพฯ ค่ะ กลับไปถึงบ้านสักพักคิดได้ อยากกลับมาสวนกลับแม่ค้าเหลือเกินค่ะ จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท - [ 22 มี.ค. 51 17:46:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 บอกตามตรงนะค่ะ ว่าอยากเจอค่ะ (ไม่ชอบเลยค่ะพวกที่คิดว่าผู้หญิงไทยแต่งกับฝรั่งต้องเปนอย่างนั่นอย่างเดียว) สู้ๆค่ะ จากคุณ : faree - [ 22 มี.ค. 51 17:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กลุ่มคนประเภท ดังกล่าว คือ 1. Taxi Drivers 2. แม่ค้าตลาดสด 3. ชาวบ้าน/ญาติ 4. พนักงานในห้าง 5. คนทั่วไป แต่ที่พลอยโดนบ่อยๆ ก็จะเป็นพวกแม่ค้า กะ Taxi ค่ะ จากคุณ : Life@Texas - [ 22 มี.ค. 51 18:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้ เพื่อนๆคนอื่นก็เจอเหมือนกัน ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ยังไงข้าพเจ้าก็จะเข้มแข็งต่อไป อย่างไรเมืองไทยก็บ้านเรา สู้ๆ .......................... ขอแอบเล่าเรื่องก๋วยเตี๋ยวเป็ดนิดนะคะ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาไปกินมาค่ะ ดีใจมากค่ะเพราะอยากกินมาก หลายคนคงเข้าใจความรู้สึกได้ใช่ไหมคะ ก๋วยเตี๋ยวชามแรกที่เพิ่งกลับมาไทย พอตอนคิดเงินเท่านั้นล่ะค่ะ ความดีใจหายไปเลย เพราะคนคิดเงินคนแรกบอก 30 อีกคนบอก ไม่ใช่ 35 เราก็อ้าวในใจ เพราะป้ายก็บอกอยู่ เป็ดหั่น 30 เป็ดตุ๋น 35 (ดิฉันกินเป็ดหั่นค่ะ) แต่ก็ให้ไปน่ะแหละค่ะ ช่วยเค้าให้มีความสุข เหมือนว่าหลอกเงินฝรั่งได้เพิ่มชามละ 5 บาท คุณๆคะ มันก็เรื่องเล็กๆน้อยๆ จุกจิกธรรมดา แต่เจอบ่อยๆนี่มันทำให้เราเกิดความคิดนะคะว่า เราผิดปกติตรงไหน ทำไมต้องเจอแบบนี้บ่อยๆ เรารู้สึกน้อยใจ เพราะก็คนไทยเหมือนกัน แต่ปฏิบัติเหมือนเป็นอะไรเลย ...ภรรยาฝรั่งก็มีหัวใจนะคร้า.... อ้าว บ่นอีกแล้ว ขอโทษนะคะ จากคุณ : จขกท. (Year after Year) - [ 22 มี.ค. 51 18:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตัวเองไม่เคยเจอ สาเหตุน่าจะมาจาก หุ่นและหน้าตาไม่น่าจะมีฝรั่งคนไหนยอมจ่ายเงิน ถ้าเอาเงินไปจ่ายเพิ่อหิ้วฝรั่งมา อาจจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เห็นใจคนที่มีประสปการณ์แย่ๆค่ะ มันคงจะน่ารำคาญและระคายเคืองฝ่าเท้าไม่มากก็น้อย เพื่อนสนิทคนนึงโดนบ่อยมาก ทั้งที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอก ไปไหนมันจะโดนเหมาตลอดว่ามีอาชีพจับฝรั่ง ไปเที่ยวตามคลับแพงๆมันก็โดนกันไม่ให้เข้า บินไปไหนคนเดียวจะโดนกักตัวตามสนามบินประจำ บางทีเค้ามารอหน้าประตูเครื่องบินเลย จนกลายเป็นเรื่องฮาในหมู่เพื่อนไป           ทางที่ดีคงต้องไม่เก็บมาใส่ใจนะคะ อารมณ์เสียเปล่าๆ เพื่อนดิฉันมันมองเห็นเป็นเรื่องขำๆไป จากคุณ : Gisele - [ 22 มี.ค. 51 18:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6446927/H6446927.html อิอิ ไหนๆ ก็ไหนๆ ค่ะ มาช่วยพลอย เลือกชุดแต่งงานด้วยเถอะค่า จากคุณ : Life@Texas - [ 22 มี.ค. 51 18:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เฮ้อ เค้าว่าคนที่ดูถูกคนอื่นมักมีปมที่น่าสงสาร ให้อภัยเค้าเหอะ จากคุณ : rainfull - [ 22 มี.ค. 51 18:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องโก่งราคานี่โดนเหมือนกันค่ะ แม่ค้า2คนบอกราคาไม่ตรงกันซะงั้น   เราก็เลยบอกไปว่าตกลงยังไงกันแน่เลือกเอามาสักราคาสิแล้วก็เดินออกไปซื้อร้านอื่น สรุปแม่ค้า2คนหันมาทะเลาะกันเอง ขำๆดีเหมือนกัน จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล - [ 22 มี.ค. 51 18:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดิฉันเองก็เจอค่ะ เป็นเรื่องในโรงแรมระดับห้าดาวที่ภูเก็ต ตอนนั้นรู้สึกโกรธมากว่าทำไมใช้สายตาได้ดูถูกมากๆ เลย ตั้งแต่ตอนเช็คอิน ซึ่งดิชั้นบุ้คไว้เป็นชื่อดิฉันค่ะ  ก็โอเค ผ่านไป มาเจอตอนขับรถกลับเข้ามาในโรงแรมหลังจากเราขับรถเที่ยวภูเก็ตกันน่ะค่ะ คือดิชั้นไปเรียนต่างประเทสหลายปีอยู่และไม่ได้มาเที่ยวภูเก็ตนานมากแล้ว ก็เลยเช่ารถจีฟ ขับไปเที่ยวกันน่ะค่ะ มาต่อเรื่องที่โรงแรม ทีนี้มาถึงที่โรงแรม เราต้องเปิดกระจกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจหาวัตถุระเบิดหรือสิ่งต้องสงสัยตามกฎระเบียบโรงแรม ค่ะ ดิชั้นก็เปิดกระจกออก ยามก็บอกอัลโหล ฮาวอาร์ยู แล้วยื่นหน้ามาใกล้กับกระจกมากๆ และหัวเราะ เราก็ตอบ ฟาย  ยามนั่น มันบอกต่อว่า เปิดกระโปรงด้วยสิจ๊ะ เราก็งง เอ๊ะ เปิดกระโปรง รถมันเป็นรถจีฟ เปิดกระโปรงตรงไหนอ่ะ เพราะดิชั้นก็แปลให้คุณสามีเปิดกระโปรง คุณสามีก็งง จากนั้นมันก็กวักมือให้ไป และตะโกนบอกว่า เอาให้สนุกนะน้อง วินาทีนั้นดิชั้นโมโหมากกกกกกกกก หน้าดิชั้นเปลี่ยนทันที สามีถามเกิดไรขึ้นดิชั้นก็เล่าให้ฟัง เค้าหยุดรถ บอกจะไปตั๊นหน้ามันเดี๋ยวนี้ ดิชั้นบอกไม่ต้องไปที่เคาน์เตอร์ เดี๋ยวดิชั้นจัดการเอง พอไปที่เคาน์เตอร์ ตอนนี้คงเป็นพนักงานเวรบ่าย ยิ้มแย้มดีค่ะ ดิชั้น เพมื่อได้รับคีย์การ์ด ก็ถามหาดิตี้ เมเนเจอรืค่ะ ดิชั้นจะคอมเพลน ดิชั้นก็เล่าไป ทางพนง เค้าก้ขอโทา ขอโพยมา ดิชั้นบอกต่อไปว่า อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นผู้หญิงที่เค้ามีอาชีพมาพัก คุรก็ต้องให้เกียรติเค้า เพราะณ ตอนนั้น เค้าคือแขกของคุณ ไม่ควรมาทำเช่นนี้ โรงแรมคุณระดับนี้ แต่มีการดูถูกลูกค้าแบบนี้ ต่อไปก็คงไม่มาพัก ให้เสียความรู้สึกหรอก จากนั้นก็มีโดนต่ออีกที่ร้านอาหารในโรงแรม เฮ้อ เสียความรู้สึกมากๆ ค่ะ กลับบ้านเ่ล่าให้คุณพ่อ คุณแม่ฟัง ท่านก็โกรธมากเลย แต่ทำไงได้ล่ะคะ เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ ในเมื่อจิจตใจที่ไม่ดี ไม่มองคนอื่นในแง่ดี สิ่งนั้นก็คงต้องย้อนกลับเข้าหาตัวผู้นั้นไป ต้องขออภัย จขกท ที่มาใช้เนื่อที่ระบายค่ะ จากคุณ : amore mio - [ 22 มี.ค. 51 21:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อย่าว่าแต่ได้สามีฝรั่งจะโดนเลยค่ะ เราสามีเป็นคนจีน ประเทศเพื่อนบ้านแค่นี้เอง เรายังเหมือนเป็นตัวอะไรซักอย่างงั้นแหละ ไปเที่ยววัดพระแก้ว ยังโดนมองแบบเราเป็นอากาศธาตุ คุยกับสามีเราจ้อยๆๆๆๆ ส่วนตัวเราอุ้มลูกเดินตาม คุณสามีก็คอยแต่จะหันมามองและหยุดคอยเรา คุณป้าไกค์ก็คะยั้นคะยอ คอยแต่จะบอก ว่าไม่เป็นไร ปล่อยให้เค้า (หมายถึงเรา) เดินดูไปเรื่อยๆ ส่วนคุณมาทางนี้ดีกว่า เดี๋ยวเค้าก็เดินตามทันเราเองแหละ ดุ๊ดู.... สุดท้าย คุณสามีทนไม่ใหว บอกยกเลิกป้าไกค์คนนั้น บอกว่ากลับไปเถอะ เราพ่อแม่ลูกจะเที่ยวกันเอง...(แอบสะใจค่ะ) จากคุณ : แม่น้องเบนส์ - [ 22 มี.ค. 51 21:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่บ่อย แต่เข้าใจได้ว่าคนที่เจอคงจะหงุดหงิด ที่เคยเจอคือ พนักงานไม่พูดกับเราแต่ไปพูดกับสามีแทน หรือโดนโก่งราคาน่ะ จะเจอในที่ๆฝรั่งเยอะ สังเกตสิ อย่างแท็กซี่สนามบิน หรือที่ท่องเที่ยวที่ฝรั่งเยอะอย่างภูเก็ต เพราะงั้น เราไม่ค่อยพยายามไปที่แถบนั้น ถ้าไม่จำเป็น ถ้าไปตามชนบท หรือชานเมือง หรือกรุงเทพย่านศิวิไลท์ ไม่ค่อยมีปัญหา จากคุณ : yuy - [ 22 มี.ค. 51 21:52:29 A:124.121.17.197 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอระบายเช่นกันค่ะ พาสามีไปเที่ยวัดพระแก้ว มีป้าแม่ค้ามาถามขายร่ม บอกว่ากันแดด  เราบอกว่า ไม่หรอกจ้า  ชอบแดด    ป้าแกมองเรากับแฟน แล้วพูดว่า  ระวังฝรั่งมันฟันท้องไม่มีพ่อนะ    อ้าว ... ถ้าไม่อยู่ในวัดสวยไปแล้วนะป้า  ครั้งที่สองไปกับแฟน ไปซื้อกล้วยไม้ ทำจากดินปั้นสวยๆ  ถามแม่ค้าว่า เท่าไร บอกอันละยี่สิบ เราเอาสองอัน  พอดีแม่ค้าอีกคนเดินมา  สองอันแปดสิบห้านะ  เค้าบอกว่าเค้าเป็นจเของร้านตัวจริงๆ  งง ครั้งที่สาม จากบางรัก สีลมจะไปมาบุญครอง  ถามรถตุ๊กๆ เท่าไร  บอกสี่สิบ     พอเราขึ้นรถแล้วเรียกแฟนขึ้นด้วย   อ้าว... มีฝรั่งด้วยหรอ   งั้นขอหกสิบล่ะกันนะ   .. งง เลย   ไปไหนไม่อยากให้แฟนไปด้วยเลย  ข้าวของมันขึ้นราคา จากคุณ : violetsand - [ 22 มี.ค. 51 22:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องทำใจและก็ทำใจอย่างเดียวค่ะ ทั้ง จขกท และเพื่อนๆที่โดนกัน ตัวเราเองไม่รู้ว่าโดนว่าหรือนินทาลับหลังบ้างหรือเปล่านะ(ที่กรุงเทพฯ) เพราะสามีและเราเป็นประเภทเดินเร็ว ยิ่งกว่าไล่ควาย ไม่ได้สนใจดูของที่ขายตามทางเท้าค่ะ คือเดินมุ่งหน้าตรงไปจุดหมายปลายทางอย่างเดียวเลย และอีกอย่างนึงก็เลือกที่จะไปต่างจังหวัดที่บ้านเกิดเสียมากกว่าค่ะ และคนที่นั้นก็ต้อนรับเราดีด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าที่ตลาดสด ร้านตัดผมที่สามีชอบไปใช้บริการ โรงแรมที่เราเคยเป็นพนักงาน ร้านอาหาร ทุกสถานที่ว่าวั้นเถอะ จากคุณ : ฟ้าหลังฝน (กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน) - [ 22 มี.ค. 51 22:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เดินกับเด็กลูกครึ่ง บางทีก็โดนโก่งราคาค่ะ.. จตุจักรนี่แหล่ะ ขนาดไปบ่อยๆ ทุกอาทิตย์เวลาอยู่เมืองไทย เวลาไปกับลูกที่หน้าออกฝรั่ง ราคาไม่เท่ากับไปคนเดียวนะคะ ตลกดี เลยเอาลูกไว้บ้าน 555 จากคุณ : *พิณ* - [ 23 มี.ค. 51 01:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 23 มี.ค. 51 02:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โดนโก่งราคา เหมือนกันค่ะ จะเรียกแท็กซี่จากวัดพระแก้วไปสยาม มันเรียก 300 ค่ะ นึกได้ว่ามากะแฟนฝรั่ง เลยให้ไปยืนห่างๆ แล้วเรียกรถคนเดียวดู ปรากฎว่ามันไม่รับคนไทยค่ะ สุดท้ายเลยต้องยืนเรียตุ๊กๆ กับแฟน ได้ผล ได้ไปสยามค่ะ แต่จ่าย 200... ครั้งหลังสุดที่กลับ กทม เลยใช้แต่ บริการรถไฟฟ้า หรือ ไม่ก็ขับเอาเอง สบายใจกว่า ส่วนเรื่องดูถูกด้วย คำพูด และ ท่าท่าง เคยโดนอยู่บ้าง   แต่โชคดีที่ว่า ตัวเองมีหน้าที่ ไม่เป็นมิตร ดูถูกกว่า เป็นอาวุธค่ะ จากคุณ : pennapa4817 - [ 23 มี.ค. 51 02:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้าใจเลยเพราะเจอมาตลอดแต่เราไม่เคยทำใจปล่อยไปเฉยๆ สวนกลับทุกครั้งที่มีโอกาส อย่างน้อยต้องให้พวกไร้มารยาทรู้ตัวเสียบ้าง อยู่เมืองนอกก็เจออคติทางสังคมอีกแบบนึงยังพอทนทำใจเพราะไม่ใช่บ้านเรา แต่ในถิ่นกำเนิดตัวเองเราไม่ยอมรับเรื่องบ้าๆ บอๆ อย่างนี้เด็ดขาด แทนที่จะเก็บไว้เครียดคนเดียวเราปล่อยไปเสียบ้าง สนุกจะตาย เป็นสีสันของชีวิต ใครมาดีก็ดีไปใครมารยาททรามรับรองเจอของจริงแน่ พนักงานโรงแรมต้องกราบขอโทษเราตรงล๊อบบี้ต่อหน้าผู้คนมาแล้ว จากคุณ : รายต่อไปจะเป็นใครน้อ - [ 23 มี.ค. 51 04:52:15 A:193.157.236.155 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอแสดงความเสียใจเรื่องแท้งด้วย และก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณเข้มแข็ง ปล่อยวาง เพราะไม่ว่าจะห้ามอะไรก็คงได้ แต่ความคิดคนห้ามยากที่สุด กลับเมืองไทยล่าสุด คนของเราอยากไปพัทยา คือได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้ว แต่อยากไปเห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมคนต้องพูดถึง นึกภาพเอานะว่านั่งเครื่องมา 12 ชม. แล้วตีรถต่อไปพัทยา สภาพเนี่ยโทรมสุดๆ ไม่ได้จองโรงแรมล่วงหน้า walk in เข้าไปโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่งซึ่งมีสาขาทั่วไทย เนื่องจากเหนื่อยมากขี้เกียจตระเวนหา (ปกติพักกระต๊อบริมทะเลกันเวลาไปทางภาคใต้ของไทย) ก็ปล่อยคนของเราไป check in สักพักเค้ากลับมาบอกว่าทางโรงแรมต้องการบัตรประชาชนของเรา เราก็เลยเดินไปเอง (โรงแรมเค้าไม่สนหรอกว่าความสัมพันธ์ทางนิตินัยจะแน่นแฟ้น ถูกต้องแค่ไหน ต่อให้คนของเรายืนยัน หรือถึงเอาทะเบียนสมรสมาแขวนคอก็ไม่ช่วยอะไร) จนท. ก็เอาบัตรประชาชนเราไปซีรอกซ์ เราก็เลยเดินไปนั่งรอตรง lobby แบบว่าเหนื่อยมากและคิดว่าการ check in ไม่น่าจะยุ่งยากอะไรเพราะพักแค่คืนเดียว ทีนี้ก็มาถึงตอนฮา ฮา กัน (คนของเราเล่าให้ฟังทีหลัง) จนท. โรงแรมถามว่า จนท. "May I have your credit card, Sir?" คนของเรา " I am sorry. I do not have any credit card." จนท. ทำหน้าประหลาดใจมากเพราะเค้าคงคิดว่าคนต่างชาติทุกคนคงมีเครดิตการ์ด ยิ่งมาเข้าพักโรงแรมประดับดาวลูกไก่ซะขนาดนี้ (อันนี้คิดเอง) คนของเรา " I am happy to pay you cash. Is it alright?, else I will ask my wife." จนท. เงียบ.........งง เดินกลับมาปรึกษากับเรา แล้วเดินกลับไปพร้อมกับเรา คนของเรา "My wife has credit card. Would you mind to accept her credit card? จนท. "Of course, Sir" แล้วก็หันมาอธิบายว่าเธอจะทำอะไรกับเจ้าบัตรพลาสติกนั่น (เงินคนอื่นนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าเครดิตก็เถอะ) ร่ายซะละเอียด เราบอกเราเข้าใจแล้วจ้ะ และเชื่อใจการบริการ ตอนนั้นสรรพนามที่เธอเรียกเราคือ "คุณผู้หญิง" เราเลยบอกว่าไม่ต้องเรียกแบบนั้นหรอก ฟังแล้วเหมือนเรากับคุณกำลังเล่นละครหลังข่าว เรียกคุณอย่างเดียวก็พอ อีกอย่างถ้าคุณบริการด้วยใจ ไม่มองว่าคนไทย คนฝรั่ง หรือเมียฝรั่ง หรือสามีฝรั่ง แต่ให้มองว่าเป็นมนุษย์เหมือนๆกัน ไม่ต้องแยกเผ่าพันธุ์ แยกเชื้อชาติ ไม่ว่าลูกค้าคุณจะเป็นใคร และไม่ต้องถึงกับ ยกย่องเชิดชู ลูกค้าก็สามารถรับรู้และสัมผัสการบริการด้วยใจของคุณได้ จนท. ยิ้มเขินๆ แล้วตอบว่า "ขอบคุณค่ะ" (เรารู้กันอยู่ในใจ) คนของเรา "I am a poor farang and I do not have much money. She just picked me from A-go-go bar while I was dancing. I am a A-go-go boy. (อันนี้มุขของคนของเรา) พูดเล่นขำๆให้ จนท. ยิ้มออกเพราะรู้ว่าเริ่มเครียดนิดนึงแล้ว หลังๆพอไปที่ไหน ถ้าเห็นว่าที่ไหนไม่คุยหรือไม่ให้ความเอาใจใส่เรา (ไม่ว่าในเมืองไทยหรือนอกเมืองไทย) คนของเราจะหยุดพูดทันที แล้วจะบอกให้มาถามเราแทนเพราะคนที่ตัดสินใจทุกอย่างคือเรา เจอไม้นี้เข้าไป อึ้งจนพูดไม่ถูกทุกราย ไม่ว่าที่ไหนในโลกนี้ ส่วนพัทยานั้น พอตื่นตอนสายๆมาเดินได้ 3 ชั่วโมง พ่อคุณเธอร้องกลับแทบไม่ทัน บอกคิดถึงเกาะสิมิลัน เกาะเต่า หมู่เกาะตะรุเตา ไม่เอาแล้วพัทยา มันก็เหมือนกับ nightlife ทั่วโลกนั่นแหละ จากคุณ : เราอย่าใกล้กันเลย - [ 23 มี.ค. 51 05:56:59 A:77.186.30.107 X: TicketID:138260 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เราเข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วบอกตรงๆว่า "เราคิดว่า เราเรียนรู้อะไรเยอะมากๆเลย" เราเองก็มีสามีฝรั่ง แล้วเราสองคนกำลังจะกลับเมืองไทยด้วยกัน อีก สองเดือนข้างหน้านี้ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ที่ไทยเค้าดูถูกเหยียดหยามผู้หญิงที่มีสามีฝรั่งกันขนาดนี้ อ่านแล้วเราจะได้เตรียมตัว เตรียมใจไว้ก่อน อ่านดูแล้ว แต่ละคนได้รับประสบการณ์ที่ไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ เราเริ่มไม่อยากกลับแล้ว เหมือนจะกลับไปเยี่ยมบ้านคนเดียวง่ายกว่า จากคุณ : [7th Heaven] - [ 23 มี.ค. 51 08:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อิอิ เชิญแจมค่ะ สืบเนื่องมาจากกระทู้นี้เองค่ะ แฮ่ๆ ๆ >>>>> http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6448698/H6448698.html จากคุณ : Life@Texas - [ 23 มี.ค. 51 08:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีทุกคนค่ะ จขกท.ค่ะ เจอเหตุการณ์กันเกือบทุกคนเลย มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเราๆเลยเน๊าะ ขนาดมากับเด็กลูกครึ่ง ก็โดนโก่งราคา แหมๆๆๆ คนเรานี่นะ กะเด็กฝรั่งยังทำกันได้ ดิฉันคิดตลกๆกับสามีว่า จะพาเค้าไปทำศัลยกรรม เอาจมูกออก โกรกผมสีดำเข้ม ใส่คอนแทคเลนส์สีดำ ออกไปไหนด้วยกัน จะได้ไม่เจอเรื่องจุกจิก อะไรแบบนี้ แต่ก็นะ ต้องทำใจ และอดทน ต่อปาย..... คุณ 7th Heaven คะ อย่างไรก็ทำใจไว้บ้างก็ดีนะคะ ดิฉันไม่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ก่อนแต่งงานเลย เจอช่วงแรกๆติดกัน ก็แอบจิตตกเล็กน้อย เรื่องท้องอีกครั้ง ดิฉันจะลองใหม่อีกสัก 3-4 เดือนหน้านี้ แล้วยังไงถ้าโอเค จะไปอัพเดตห้องชานเรือนนะคะ ขอให้ทุกๆคน มีความสุชกับครอบครัว และกับทุกๆเรื่อง รวมทั้งขอให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วยนะคะ ปล. บางครั้งดิฉันนึกอยากเสนอร่างกฏหมายคุ้มครองภรรยาต่างชาติขึ้นมา แต่ก็คงไม่มีใครสนใจเราหรอก ก็แค่คิดเฉยๆ เท่านั้น ขำๆ จากคุณ : จขกท. (Year after Year) - [ 23 มี.ค. 51 12:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มีเราคล้ายๆ  สามีคุณความเห็นที่ 34 ค่ะ ส่วนมากถ้าไปไหนกันแล้วเค้าเห็นว่าพนักงานใช้สายตาแปลกๆ กับเรา  พอถึงเวลาต้องจ่ายเงิน  หรือตัดสินใจอะไร  สามีจะบอกพนักงาน 'Hold on a second, I have to ask my boss.' ที่รักกันก็เพราะอย่างงี้หล่ะ  เค้าให้เกียรติเรามาก   ถึงคุณเจ้าของกระทู้   พยายามต่อไปนะคะ  นอกจากร่างกายแข็งแรงแล้ว  จิตใจก็สำคัญค่ะ  ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ จากคุณ : timtam_yummy - [ 23 มี.ค. 51 13:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อยากแสดงความคิดเห็นน่ะค่ะ คือมีเพื่อน ๆ หลายคนที่โดนคนไทยด้วยกันดูถูก บางคนถึงกับไม่อยากไปเมืองไทย เราก็เห็นใจนะที่คุณโชคร้ายไปเจอคนไม่มีมารยาทแบบนั้น ถ้าเราเจอแบบนั้นคงลมออกหูแน่ เราเองยังไม่เคยเจอแบบโดน ๆ ซักที ทั้ง ๆ ที่ไปเมืองไทยกับสามีบ่อยมาก เจอแต่คนใจดี ๆ โอเคนับว่าโชคดีไป เรากลับคิดว่าฝรั่งนี่แหละตัวดูถูกเราเลย เพียงแต่เค้าไม่มาพูดให้เราฟังแค่นั้น แต่อ่านจากสายตาง่ายมาก เรื่องคนที่ดูถูกคนอื่นนี่ หนีไปไหนไม่พ้นจริง ๆ น่าเสียดายที่มีคนแบบนี้เยอะ จากคุณ : Schnuckiputz - [ 23 มี.ค. 51 16:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อย่าไปใส่ใจคะ คนมีหลายประเภท ให้อภัยเขาเถอะ เราจะได้สบายใจ ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ จากคุณ : powerfulthinking - [ 23 มี.ค. 51 17:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ใช่ค่ะ ฝรั่งดูถูกคนไทยสุด ๆ เหมือน หมาอยากได้ กระดูก (เงินฝรั่ง) ชอบคิดว่าคนไทย จน ๆ ไม่รู้จัก ไมโครเวฟ ไม่รู้จัก อะไรเยอะไปหมด ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีโรงเรียน จากคุณ : สาวบ้านนา - [ 23 มี.ค. 51 18:34:10 A:118.172.96.113 X: TicketID:169393 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอบแบบอย่าเคืองกันละ   คุณสาวบ้านนา เมื่อก่อนคนไทยที่ไม่รู้จักไมโครเวฟ แล้วอยากได้บางอย่างมันก็มีอยู่จริง ขึ้นอยู่กับฝรั่งไปเจอที่ไหน  ส่วน จขกท เราแนะนำได้อย่างคือ การแต่งตัว วางตัวให้ดี ก็แค่นั้นเอง เสียใจเรื่องลูกด้วยนะ สำเร็จแล้วขอสูตรด้วยละ เอาใจช่วย แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 51 21:44:19 จากคุณ : R-NO - [ 23 มี.ค. 51 19:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 43 - -" ค่าฝรั่งเนี่ย มันแพงจังเนอะ..จากค่ารถ 200 เป็น 300 นี่ก็คบกับแฟนต่างชาติ แถมผิวสีด้วยคะ มีโครงการว่า เขาจะมาหา ยังคิดอยู่ว่าจะเจออะไรมั่งนะเนี่ย - -" จากคุณ : วิหคลม - [ 23 มี.ค. 51 20:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ของเจโลหนักกว่านี้อีก บางคนพอรู้ว่าสามีเราเป็นทหารอเมริกัน ก็ประมาณว่่า อ๋อ เมียจีไอ เจอกันตอนพวกยกพลขึ้นบกมาล่ะสิ ไอ้เราขี้เกียจอธิบายยืดยาว ก็แค่บอกไปสั้นๆว่าเราเจอกันที่อเมริกาไม่ใช่เมืองไทย บางคนฟังแล้วทำสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ เออ สงสัยหน้าตาเราเหมือนคนไม่มีปัญญาไปอเมริกาด้วยลำแข้งของตัวเองมั๊ง ช่างมันเหอะ ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อดิ ใครสนเล่า จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 23 มี.ค. 51 21:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาขอระบายด้วยอีกคนจ้า เมื่อเร็ว ๆ นี้ไปพักโรงแรมที่พัทยา เนื่องจากตอนเช้าเราจะไปเกาะล้านกัน พอถึงโรงแรมเราก็กินข้าวกัน และถ่ายรูปเล่นกัน....แฟนบอกให้ทำท่าบ้า ๆ หน่อย คือครอบครัวแฟน เวลาถ่ายรูป เค้าจะมีท่าเรียบร้อย และ ทำท่าบ๊อง ๆ ด้วยเราก็ไม่กล้าทำ ก็เลยแค่ยกขาไปข้างหลัง แค่นั้น    พนักงานคงคิดว่าเราไม่ได้ยิน เธอพูด " โหยย น่ารักตายเลย" เราหันกลับไปจ้องหน้า เลย  พวกเธอเลยหลบหน้าเรา  ทีนี้ติดต่ออะไรพอพูดเสร็จ เราก็จ้องหน้า พวกหล่อน นาน ๆ เลย แล้วก็ทำหน้าแบบดุ ๆ ไว้ และด้วยความที่เราชอบว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ เราก็ว่ายซะนานเลย แต่สระก็ว่างนะส่วนใหญ่แขกไปเดินเล่นข้างนอกกันแล้วเพราะเริ่มมืดแล้ว ได้ยินเสียงพนักงาน "โหย ว่ายยังก็คนไม่เคยว่ายยังงั้นแล่ะ" แต่เราก็ไม่ได้สนใจ ได้แต่สมเพชพวกเค้าที่คอยกระแนะกระแหน ผู้หญิงไทย สงสัยจะโดนลูกค้าด่ามามาก แต่ถ้าเหลืออดก็ไม่แน่ค่ะ ส่วนแม่ค้า ข้างล่างอพาร์ทเม้น ค่ะ...เวลาแฟนลงไปซื้อของกิน เค้าชอบยัดเยียด ของที่ไม่ต้องการซื้อมาให้ด้วยทุกครั้งเลยแฟนก็ปฏิเสธทุกครั้ง  พอเจอหน้าเราแม่ค้าเค้าก็มีการบอกเราด้วยนะว่า ป้าหยิบให้เองล่ะ แล้วทำเป็นขำ  ๆ ไป  แต่คราวหน้าคงต้องเอาลงไปคืนแล้วไม่ไหวเลย เวลาไปจ้างบริษัทเอกชน จดทะเบียนแต่งงาน ให้เรากะแฟน พนักงานชายคนนึงไม่ยอมคุยกับเรา  เค้าจะคุยแต่ภาษาอังกฤษกับแฟนเราเท่านั้น ไอ้เราตอนแรกไม่รู้ก็เผลอคุยด้วย แต่พนักงานไม่สนใจเราเลย  แต่เจ้าของเค้าคุยดีกะเรามาก ก็ยังไม่อยากอารมณ์เสีย ก็ปล่อยเค้าไป แล้วเราก็ไม่สนใจจะคุย หรือ ยิ้ม กับพนักงานคนนั้นเลย คุยแต่กะเจ้าของเท่านั้น ถ้าใครไม่ให้เกียรติเรา  เราก็ไม่ควรให้เกียรติเค้าเหมือนกันนะเราว่า  หลังจากอ่านในกระทู้นี้ เห็นบางคนโดนแรง มาก ก็น่าเห็นใจนะคะ   ขอให้ทุกคนเข้มแข็งนะคะ ในอนาคต ยังต้องโดนอีกเยอะค่ะ จากคุณ : คุณนายขยัน - [ 23 มี.ค. 51 21:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มีแฟนฝรั่งมันต้องอดทนจริงๆ นะเนี่ย ขอแสดงความเห็นใจทุกท่าน ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างเป็นธรรมดา รักษาสุขภาพจิตไว้ดีกว่า จากคุณ : เข้ามาอีกรอบ - [ 24 มี.ค. 51 00:57:14 A:193.157.236.155 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาเก็บประสบการณ์เพิ่มค่ะ..ยังไม่ค่อยเจออะไรมากเท่าไหร่ ..แต่ไม่เข้าใจทำไมแท็กซี่ชอบมาแนะนำให้แฟนเราไปพัฒน์พงษ์ ไปพัทยา..แหล่งโสโครกโสมม อโคจร ..ทั้งนั้นเลย เราก็บอกทันที เค้าไม่อยากไปหรอกค่ะไม่ต้องแนะนำ..ไปไหนเดี๋ยวหนูแนะนำเอง ..มีเหมือนกันที่ถามทำนองว่าทำงานแถวไหนเหรอ..ไมมากินข้าวแถวนี้ ก็บอกว่าแบงค์..ตรงที่ลุงรับหนูมาไงคะ..นิดๆหน่อยๆไม่ค่อยคิดมาเท่าไหร่ เรื่องซื้อของเนี่ย..ต่อเหมือนเดิมค่ะถ้าคนขายบอกแพง..เพราะบอกว่า ฝรั่งมีตังค์ก็ไม่เอาเลยค่ะ..ต่อให้ชอบแค่ไหนก็ไม่เอา..แต่คุณแฟนเนี่ยชอบ แล้วก็จะเอาๆอยู่นั่นบอกว่าไม่เป็นไรซื้อที่ประเทศเค้าแพงกว่าเยอะ นอกจากแท็กซี่ปากไม่ค่อยดี..ก็ไม่ค่อยเจออย่างอื่นมากค่ะ..ไปหาแฟนที่ โรงแรม..พนักงานก็บริการดีตอนเช้าก็สวัสดีทุกวัน....ถึงบางวันเราจะใส่ กางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามดูกะโปโล..ถ้าแฟนมาอีกก็คงจะพักที่นั่นอีกค่ะ จากคุณ : ส้มน้อยน่ารักผู้พิทักษ์คุณธรรม - [ 24 มี.ค. 51 03:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอเล่าให้ฟังด้วยคนนะคะ เรื่องโดนดูถูกไม่ค่อยเจอคะ แต่เจอครั้งนึง ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ต้องขอวีซ่า เป็น visitor visa ซึ่งต้องขอใบรับรองความประพฤติจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไปกะเพื่อน ก็จริงๆ ก็นับว่าให้บริการดีนะคะ โดยเฉพาะ 1 ท่านในนั้น ท่านจะตามไปทุกโต๊ะ ที่เราต้องติดต่อ เริ่มต้นจากการกรอกเอกสาร เค้าก็ดูเอกสารให้ เห็นใบทะเบียนสมรสเราที่แต่งงานกับต่างชาติ ซึ่งจริง ๆ เราไม่รู้ว่าเค้าไม่ต้องยื่น เพียงแต่เอาติดตัวไปด้วย คุณท่านก็ดึงออกให้ ก็คิดว่าท่านหวังดีจัดเอกสารให้อ่ะ แล้วเราก็ทำทุกอย่างตามขั้นตอน จนเสร็จ ท่านก็ยังอุตส่าห์เดินตามออกมาข้างนอก ซึ่งเราก็กำลังจะกลับละ มาถามว่า น้องทำงานที่พัทยาหรอ พร้อมกับสายตาดูถูก หน้าชาเลยค่ะตอนนั้น แต่ก็ฝืนยิ้ม แล้วก็บอกเค้าตามตรงไป ว่าทำทัวน์ แต่เรื่องที่ไม่ชอบมากมาย คือบ้านเกิดตัวเองค่ะ เป็นคนอีสานค่ะ ที่ไม่ขอบคือ ทัศนคติของคนที่บ้านเราทำไม ต้องคิดว่า ได้สามีฝรั่งแล้วรวย แล้วแข่งขันกันไม่เข้าใจ แต่ต้องขอบคุณแม่มาก ที่แม่เป็นคนเข้มแข็งและไม่เหมือนคนอื่น แม่ไม่เคยขออะไรเลย ที่บ้านไม่รวยค่ะ ก็ยังหาเช้ากินค่ำอยู่ ที่บ้านมีลูกเขยฝรั่ง 3 คน แต่ฐานะยังเหมือนเดิม พี่สาวก็ส่งให้แม่ทุกเดือน แต่ไม่เยอะ จากเงินที่เค้าทำงาน เรายังไม่ได้ทำงานค่ะ ก็เลยยังไม่ได้ช่วยอะไรแม่มาก รู้ดีตลอดค่ะ ว่าคนอื่นพูดจา คุยเกทับ รึว่าถากถาง แต่แม่ไม่เคยเล่าให้ฟัง เพราะแม่กลัวไม่สบายใจ เมื่อปลายปีที่แล้ว ต้องอยู่ที่นั่นรอวีซ่า คือปกติ เราอยู่ กท. เกือบ 10 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ก็เลยไม่สนิทกะคนแถวนั้นแล้ว ก็ไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็น่ะ แม่คุณก็ยังอุตส่าห์เคาะประตู มาคุยว่า บ้านโน้น ได้แล้วรวย บ้านนี้เป็นอย่างงี้ ญาติเราบางคนมาบ้าน ก็พูดว่า ได้สามีฝรั่ง ขอตังค์ใช้หน่อยสิ ฟังแล้วมันหดหู่ คือเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องทำมาหากินแล้วใช่มะ ถึงต้องรอแต่ว่ามีสามีฝรั่งแล้วสบาย ทัศนคติอย่างนี้ทำให้ฝรั่งบางกลุ่มดูถูกคนไทย แล้วก็ขยาด ว่า แต่งงานกะผู้หญิงคนเดียวต้องเลี้ยงทั้งบ้าน เฮ้อ เหนื่อยจริง ๆ กะเรื่องนี้ จากคุณ : sarin - [ 24 มี.ค. 51 09:01:00 A:203.184.53.100 X: TicketID:171686 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาอ่านอีกรอบก็ทำให้ตัวเองมีกำลังใจขึ้นมามากโขเลยค่ะ เพราะเมื่อก่อนคิดว่าแต่ตัวเองที่โดนอยู่คนเดียว... ทุกๆ คนในที่นี้โดนเหมือนๆ กันหมดเลย  ตัวเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เบื่อสังคมแบบนี้ค่ะ ก็เลยอยากไปอยู่ในที่ๆ ไม่มีใครรู้จักเลยจะดีกว่า...อยากลองดู ว่ามันจะดีขึ้นหรือไม่ จากคุณ : Life@Texas - [ 24 มี.ค. 51 09:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เพิ่งเข้ามาเจอกระทู้ดีๆแบบนี้ค่ะ ไม่รู้มองข้ามไปได้ไง ก่อนอื่นก็ขอแสดงความเสียใจที่คุณ จขกท. สูญเสียน้องในท้องไปนะคะ อาจยังไม่ใช่โอกาสของเรา อ่านเรื่องของ จขกท. แล้วก็ท่านอื่นๆด้วย มีปัญหาคล้ายๆกันค่ะ ขนาดว่าดิฉันขาวๆ อย่างนี้นะคะ คนขับแท็กซี่ก็ยังคิดว่าเป็นอย่างว่าเลย หรือว่ามันเป็น สเตอริโอไท้ ของคนขับแท็กซี่ว่า คนที่มากับฝรั่ง ต้องเป็นอย่างว่า คือถามมาเลยอ่ะค่ะว่า ทำงานดึกไหมเมื่อคืน เอ่อ อยากตอกไปเหมือนกัน แต่ขี้เกียจมีปัญหา เรายิ่งเป็นคนเชียงใหม่ ต้องไม่ทำตัวเป็นบ้านนอกเข้ากรุงให้เห็น -- **เรื่องราวเด็ดๆ ของ taxi กับคุณแฟนฝรั่งของดิฉันตอนเป็นแฟนกัน** เวลาประมาณตีห้า เราโบก taxi จากประตูน้ำจะไปดอนเมือง (ส่งแฟนกลับประเทศ) แหกขี้ตาตื่นแต่เช้า โบกได้หนึ่งคัน taxi พาคุยไปเรื่อยงั้นงี้ คุณแฟนตาไวเห็นว่าพี่ท่านไม่ยอมกดมิเตอร์ ก็ให้กดมิเตอร์ แต่สงสัย taxi จะไม่รู้เรื่องหรือทำหูทวนลม ไม่ยอมกดค่ะ ดิฉันเลยแปลให้ฟังว่า ช่วยกดมิเตอร์ได้ไหมคะ ไม่กดอีก เถียงกันไปๆ มาๆ บน taxi เลยค่ะ กำลังขึ้นทางด่วนพอดี taxi บอกจะจอดให้ลงเอาไหม คนอื่นเค้าก็คิดเหมากัน ไม่เห็นมีปัญหาเลย แหมขู่เลยนะ แต่ก็ไม่ทำหรอกค่ะ คุณแฟนทำหน้ามุ่ยเลย ดิฉันก็ใจสั่นวิตกกังวลเหมือนกัน... มาถึงที่ดอนเมือง taxi บอก 200 ค่าเหมารถมา เอ่อ ไม่ได้ตกลงกันก่อนนี่คะ คุณแฟนให้ไปร้อยเดียวหน้าด้านๆ เลยค่ะ บอกว่าในเมื่อคุณไม่ยอมกดมิเตอร์ ผมก็ให้คุณได้เท่านี้ คุณไม่มีหลักฐาน เราสองคนก็รีบเดินเข้าไปในตึกค่ะ taxi ตามมาอยู่นะ เดินมาจี้ก้นติดๆเลย บอกว่าเอามาอีกร้อย ฝรั่งขี้โกง ขี้เหนียว บลาๆๆๆ ดิฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไง บอกแฟนว่าให้เค้าไปเหอะ นิดเดียวเอง แต่ยังไงแฟนไม่ยอมค่ะ taxi เดินตามได้หลายเมตรอยู่ค่ะ แล้วพี่ท่านก็เลิกราไปเอง ตะโกนโหวกเหวกเลย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าคิดจะเอาเปรียบฝรั่งก่อน ระวังจะโดนฝรั่งเอาเปรียบกลับนะ อิอิ จากคุณ : thaispicy - [ 24 มี.ค. 51 09:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คบกับแฟนมาหลายปี แต่ไมเคยโดนนะคะ คงโชคดี หรือไม่หน้าตาคงเอาเรื่อง เลยไม่มีคนอยากมาแหยม แต่แฟนเข้าใจสถานการณ์ดีค่ะ เวลาเค้ามาเมืองไทยหรือไปเที่ยวเมืองนอกด้วยกันเค้าจะเอาเงินให้เราถือแล้วใช้กระเป๋าเดียวกัน เวลาไปไหนมาไหนเราออกเงินเลยดูเหมือนเราไม่ได้มาเกาะเค้ากิน จากคุณ : GIA - [ 24 มี.ค. 51 11:07:24 A:203.154.179.3 X: TicketID:169707 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ^^^ ห้า ห้า ห้า สอนอนอ แท๊กซี่คันนั้นจัง (ของคุณ thaispicy) ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ เราว่าบางคนเค้าก็ไม่มีนิสัยโกงอะไรหรอกมั้ง แต่พอเห็นฝรั่งเนี่ย มันเหมือนกับต่อมอะไรสักอย่างในร่างกายมันสั่งการให้ต้องสูบ และตอดเงินสักนิดสักหน่อยก็ยังดี แล้วก็แฮปปี้ด้วยนะกับสิ่งที่ทำน่ะ เหมือนเด็กเล่นเกมส์แล้วชนะ โดยไม่ได้นึกถึงจิตใจกันเลย (อยากรู้จังคนที่มีชื่อเสียงในสังคม แล้วมีสามีต่างชาติเนี่ย เค้าถูกกระทำเหมือนกับเราๆบ้างไหมนะ) ...บ่นอีกละเรา ไม่เป็นไรเพื่อนๆ อดทนและทำใจต่อไป ****  "May the Force be with you."  **** จากคุณ : Year after Year - [ 24 มี.ค. 51 11:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 .... ทำไมรูปไม่ขึ้น ลองใหม่.... จากคุณ : Year after Year - [ 24 มี.ค. 51 11:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 Thanks to khun Sarin rep# 49.... so now we all know that not all Isan girls/ladies are like that ka   agree with u all that some thai people in thailand have such bad attitude towards ladies who have farang bfs /husbands...Do not Care naka..ignore it and live our lives happily ^0^   but to be honest..im a bit more angry with farangs who look down on asian people in general ka จากคุณ : nu yim (sweetkiwi) - [ 24 มี.ค. 51 11:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอ ก๊อป คคห. ของคุณ sarin นะคะ "ได้สามีฝรั่งแล้วรวย แล้วแข่งขันกันไม่เข้าใจ แต่ต้องขอบคุณแม่มาก ที่แม่เป็นคนเข้มแข็งและไม่เหมือนคนอื่น แม่ไม่เคยขออะไรเลย ที่บ้านไม่รวยค่ะ ก็ยังหาเช้ากินค่ำอยู่ ที่บ้านมีลูกเขยฝรั่ง 3 คน แต่ฐานะยังเหมือนเดิม พี่สาวก็ส่งให้แม่ทุกเดือน แต่ไม่เยอะ จากเงินที่เค้าทำงาน เรายังไม่ได้ทำงานค่ะ ก็เลยยังไม่ได้ช่วยอะไรแม่มาก รู้ดีตลอดค่ะ ว่าคนอื่นพูดจา คุยเกทับ รึว่าถากถาง แต่แม่ไม่เคยเล่าให้ฟัง เพราะแม่กลัวไม่สบายใจ เมื่อปลายปีที่แล้ว ต้องอยู่ที่นั่นรอวีซ่า คือปกติ เราอยู่ กท. เกือบ 10 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ก็เลยไม่สนิทกะคนแถวนั้นแล้ว ก็ไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็น่ะ แม่คุณก็ยังอุตส่าห์เคาะประตู มาคุยว่า บ้านโน้น ได้แล้วรวย บ้านนี้เป็นอย่างงี้ ญาติเราบางคนมาบ้าน ก็พูดว่า ได้สามีฝรั่ง ขอตังค์ใช้หน่อยสิ ฟังแล้วมันหดหู่ คือเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องทำมาหากินแล้วใช่มะ ถึงต้องรอแต่ว่ามีสามีฝรั่งแล้วสบาย ทัศนคติอย่างนี้ทำให้ฝรั่งบางกลุ่มดูถูกคนไทย แล้วก็ขยาด ว่า แต่งงานกะผู้หญิงคนเดียวต้องเลี้ยงทั้งบ้าน เฮ้อ เหนื่อยจริง ๆ กะเรื่องนี้ " เหมือนกันเลยค่ะ มันกลยเป็นแฟชั่นไปแล้วค่ะ เมื่อก่อนทางบ้านพลอย จะอายผู้คนค่ะ ว่าทำไมลูกเขยของเค้าไม่เห็นสร้างบ้านหลังใหญ่โต เหมือนพวกที่ไปเจอกันที่พัทยาเลย พลอยก็ได้แต่พยายามบอกพวกเค้าว่า พลอยรักแฟนพลอย เป็นรักที่ไม่อยากได้สิ่งของตอบแทน....บอกพวกท่านบ่อยๆ เมื่อไม่นานมานี้พวกท่านก็ปลงและเข้าใจเราแล้วค่ะ เพื่อนๆ รู้เปล่าคะ ใครที่มีสามีฝรั่งแถวบ้าน สร้างบ้านหลังใหญ่โตกันท้างน้านเลยค่ะ ไม่เคยอิจฉาเลย แต่รู้สึกสมเพท ความคิดของชาวบ้านค่ะ จากคุณ : Life@Texas - [ 24 มี.ค. 51 12:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 57 #56 ดีใจจังเลยค่ะ ไม่หัวเดียวกระเทียมลีบละ พวกนี้เค้าชอบมาพูดใส่เรา ราวกะว่า เราเป็นลูกที่ไม่ดีไม่ซื้อรถสวย ๆ ให้แม่ ไม่สร้างคฤหาสถ์ อย่างงั้นแหละ แต่ก็ช่างเถอะนะคะ สุขอยู่ที่ใจ อยากได้อยากเด่น ก็ทุกข์ของเค้าเอง แต่เข้ามาอีกรอบ มาขอฝากเรื่องแท๊กซี่อีกคนค่ะ คือตอนก่อนตัดสินใจแต่งงานกะแฟน ก็ได้มาเยี่ยมแม่แฟนที่ประเทศเค้าก่อนอ่ะค่ะ เค้าก็ถามซะเยอะ คือก็อยากจะรู้ภูมิหลังว่าที่ลูกสะใภ้เป็นเรื่องปกติ ก็ตอบตามจริง ซึ่งเค้าก็โอเคกะเราค่ะ แต่ที่สะเทือนใจอย่างนึงคือ 1 ในคำถาม ผู้หญิงไทยขายตัวกันเยอะหรอ เพราะว่าเมื่อหลายปีก่อน พ่อของเค้า ได้ไปเที่ยวที่เมืองไทย พอนั่งแท๊กซี่ เสนอขายผู้หญิงให้เลย ซึ่งเป็นเด็กด้วย พ่อเค้าไม่พอใจมาก แล้วตัวเค้าเอง ก็ไม่คิดมาเที่ยวเมืองไทย ตัดออกจากสารระบบ ความคิดไปเลยค่ะ อยากจะขอร้อง คุณ ๆ แท๊กซี่ คือฝรั่งที่อยากเที่ยวผู้หญิงเค้ารู้แหล่งอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเสนอขายหรอกค่ะ แค่นี้ก็ดังจะแย่อยู่แล้ว ถ้าสนามบินเป็นประตูบ้าน คุณก็เป็นบันได ขึ้นบ้าน คุณนำพาไปที่สร้างสรรค์จะได้มั้ยคะ จากคุณ : sarin - [ 24 มี.ค. 51 13:14:38 A:203.184.53.100 X: TicketID:171686 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีตอนบ่ายจากประเทศไทย..วันแรกของการกลับมาเยี่ยมบ้าน..นับเป็นครั้งที่ห้าที่มากับสามี.. ตอนแต่งงานใหม่ๆ..ก็รู้สึกไม่ดีกับ dirty look ที่บางคนให้กับเราที่เมืองไทย..ยังเคยเล่าให้คุณ Siamese Girl ฟังเรื่องอาม่าเยาวราช..นินทาภาษาจีนต่อหน้าเราว่าไม่มีปัญญาหาปั๋วคนไทย คนจีนรึไง ทำไมต้องไปเอาผีฝรั่ง(อั่งม้อกุ้ย)มาทำปั๋ว..เลยจับแขนเหี่ยวๆอาม่าคุยเลย..อาม่า..อั๊วอ่ะลูกคนจีน..ปั๋วคนจีนก็เคยมี..แต่มันเฮงซวย..ไม่รักดี..มีปั๋วฝรั่งอ่ะ..เลี้ยงดี ให้ขี่เบนซ์ ไม่ต้องทำงาน..จาทำมายเหรอ..เอิ๊กๆ..เดี๋ยวอาทิตย์นี้..จะไปเดินกวงทีงอาม่าเล่นๆที่เยาวราช เดี๋ยวนี้..ไม่แคร์..ไม่สน..ใครจะมองยังไง..พูดอะไรไม่ดีเข้าหู..ไม่สน..ไม่ได้มาเลี้ยงเรา..ไม่ได้ไปเอาเงินเขามาใช้..หน้าไม่เหมือนพ่อ..ไม่เหมือนแม่..แท็กซี่ไม่นั่ง..ขับรถเอง..จะไปเที่ยวต่างจังหวัด..ก็โทรหาเพื่อนที่มีโรงแรม..หลายครั้งที่เจอคนน่ารัก ต้อนรับดีดีก็มีมากมายค่ะ.. เอาใจช่วยค่ะ..อย่าคิดมาก จากคุณ : Panissar - [ 24 มี.ค. 51 15:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาให้กำลังใจคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ สู้ๆนะคะ เข้ามาเก็บข้อมูลของุคณหลายๆคนในนี้ด้วย ได้รู้เรื่องของคนอื่นเยอะแยะเลย บางเรื่องก็น่าโมโหแทนจริงๆค่ะ เรามีแฟนเป็นฝรั่งค่ะ แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ส่วนมากเวลาไปไหนกับแฟน คนก็จะคิดว่าเราเป็นคนจีน ไม่ก็คิดว่าเราเป็นเพื่อนกันมากกว่า  เพราะเค้าอ่อนกว่าเราตั้ง 7 ปี แต่หน้าพอๆกัน เลยเหมือนรุ่นๆเดียวกันไปซะงั้น แต่เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็จะถูกมองแปลกๆ ซึ่งเราไม่ชอบเลย แต่ก็ยังดีที่ยังไม่มีใครมาว่าอะไรเราแรงๆ  ถ้าพูดมาเราคงสวนกลับทันทีเลยอ่ะ แต่โดนเอาเปรียบนี่ บ่อยมาก ประมาณว่าของจะราคาแพงกว่าปกติ จนเราอดโมโหไม่ได้ เรากับแฟนวีนกลับไปหลายทีเหมือนกัน เวลาไปเที่ยวก็จะมีแต่คนแนะนำให้แฟนเราไปเที่ยวที่ย่านไม่ดีๆทุกที แฟนเรามันด่ากลับไปทุกทีเหมือนกัน จนทะเลาะกับแท็กซี่ไปหลายคนละ .. จากคุณ : ปืนใหญ่ที่ไฮบิวรี่ - [ 24 มี.ค. 51 15:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ จากคุณ : kameron - [ 24 มี.ค. 51 17:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 24 มี.ค. 51 20:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เวลาไปเมืองไทย ถ้าอยากได้อะไรเร็วๆ อยากได้บริการดีๆ ต้องให้พ่อบ้านเป็นคนพูด เป็นคนคอมเพลน ไม่งั้นหญิงไทยหัวดำอย่างดิฉันไปพูดปากฉีกถึงหู ก็ไม่ค่อยอยากจะมาบริการกัน เห็นหัวทองตาสีฟ้าแค่นั้นล่ะ เอามือกุมไข่วิ่งมาหาเลย Sir อย่างนั้น Sir อย่างนี้ จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 24 มี.ค. 51 23:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อ้อ อีกอย่างนึง เมื่อก่อนเวลากลับไปพักผ่อนที่เมืองไทย จองโรงแรมสามีจะใช้แต่ชื่อสามีจองคนเดียว (สามีคิดไม่ถึง) พวกพนักงานโรงแรมเห็นหน้าอิฉันก็คงคิดว่าสามีไปหิ้วมาจากไหน ดิฉันไม่ได้แม้แต่รอยยิ้มหรือเสียงทักทายจากพนักงาน ทั้งๆที่ดิฉันก็คิดว่าดิฉันเป็นคนแต่งตัวดีคนนึง ได้รับบทเรียน คราวนี้ต้องกำชับสามีเวลาจองโรงแรมที่ใดก็แล้วแต่ต้องใส่ชื่อดิฉันเข้าไปด้วย และต้องใช้เครดิต การ์ดของดิฉันเป็นผู้จ่าย ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ดิฉันจะถูกสายตาดูถูกจากพนักงานโรงแรม / รีสอร์ท ตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถหน้าประตูโรงแรมเลยละค่ะ จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 24 มี.ค. 51 23:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ดิฉันเริ่มชินแล้วค่ะ แรก ๆ โดนทีไร เป็นออกอาการ แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกขำ ๆ เสียอีก บางทีก็นึกสังเวชพวกพนักงานที่คอยแต่วิ่งบริการฝรั่ง เห็นคนไทยอย่างเราไม่มีความหมาย หารู้ไม่ว่า คนอนุมัติค่าทิปแต่ละครั้งน่ะ ดิฉันทั้งนั้น ถ้าดิฉันไม่พอใจล่ะก้อ ไม่ได้ซักบาทก็มี เพราะดิฉันน่ะ ขี้เหนียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยโดนแล้วค่ะ ล่าสุดก็เพิ่งไปพักที่รอสอร์ทระดับโฟร์สตาร์ทางใต้ ก็ไม่เจออะไรเลย อาจเป็นเพราะหน้าตาดิฉันเอาเรื่องอยู่ด้วยละมัง แฟนยังดูหนุ่ม(ทั้งที่ 40 กว่าแล้ว) และมีรูปร่างหน้าตาดีด้วยมั้ง คนเลยไม่มองว่า เราเป็นประเภทหิวเงิน หิ้วฝรั่งโดยไม่สนใจว่าหน้าตาจะอัปลักษณ์ พุงจะพลุ้ยขนาดไหน หรือวัยคุณพ่อ คุณลุง ปล.สำหรับคนที่รักกันจริง ๆ โดยที่ไม่ได้คำนึงเรื่องรูปลักษณ์ ก็อย่าเพิ่งเดือดร้อนไปนะคะ พูดถึงเรื่องหลักความเป็นจริงแล้ว มันเชื่อยากค่ะ ที่สาวสวยวัยใส จะมารักมาหลง สนิทเสน่หา กับฝรั่งแก่ๆ รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ อย่างแท้จริงน่ะ จะมีสักกี่รายที่กันด้วยใจจริงๆ ล่าสุดเจอคำถามที่ ฟังแล้ว ชาๆ เหมือนกัน แต่ก็คิดว่า มันเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้บอกถึงความรู้สึกของเรา ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ใจ ก็ถามมาเองนี่ว่า ทำไมไม่เลือกคนแก่ล่ะ คนแก่น่ะมีเงินเยอะน๊า... ดิฉันเลยได้โอกาสตอบไปว่า เราคบกันที่ใจค่ะ เรารักกัน สำหรับดิฉันแล้ว เงินไม่มีความหมาย ถ้าปราศจากความรักและความจริงใจต่อกัน (ฟังเราตอบแล้วคงอยากจะวิ่งไปอ๊วกนะ) แต่ติดว่าต้องทำหน้าที่ นวด ต่อไป และก็ตามเคย หลังใช้บริการเสร็จ แฟนก็จะต้องถามดิฉันก่อนทุกครั้ง ว่ายูโอเคมั๊ย ให้ทิปเท่าไหร่ หึๆ นึกแล้วก็ขำ พนักงานคนนั้นพูดกับดิฉันแบบไม่ให้เกียรติ ทั้งคำถามและสรรพนามที่เรียก คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่ควรมาเรียกเราว่า "เธอ" แต่เราก็ไม่โกรธ แค่ไม่ชอบเท่านั้น พอแฟนเห็นเราหน้ามุ่ย ก็จะไม่จ่ายทิป เราก็เกิดสงสาร ต้องฝืนยิ้มๆ โอเค จ่ายเค้าไปเหอะ ไม่มากหรอกแต่ก็ดีกว่าไม่ได้เลย เพราะเราไม่ปล่อยให้แฟนจ่ายทิปเยอะๆ อยู่แล้ว อย่าหวังเลยทิปทีละ 4-5 ร้อย จากคุณ : คนไม่เอาไหน.. - [ 25 มี.ค. 51 01:16:59 A:202.91.19.204 X: TicketID:167489 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ต้องทำใจเนอะค๊า เพราะคนเราต่างจิตต่างใจ นานาจิตตังค์กันแทบทุกคน และคนไทยแทบทุกคน ก็มักจะมีอคติกับผู้หญิงไทยที่ได้สามีเป็นฝรั่ง มักจะมองด้วยสายตาดูถูก เหยียดหยาม หรือกระทั่งอิจฉาตาร้อนก็มีนะ สำหรับอีฉันเคยเจอค่ะ ตอนไปเมืองไทยกับแฟนค่ะ มีแต่คนมองแปลกๆๆ แต่อีฉันไม่ถือสาหรอกค่ะ คิดว่าเราไม่ได้ไปขอใครกิน และสร้างความเดือดร้อนให้ใคร อยากมองก็มองไปสิ ไม่ใช่พ่อ ใช่แม่อีฉัน  จะไปแคร์อะไรมากมายค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค๊า จากคุณ : ออย (Borken) - [ 25 มี.ค. 51 01:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อ่านมาเจอเรื่องแท็กซี่ เลยขอเล่าบ้างก็แล้วกัน ตอนนั้นแต่งงานใหม่ ๆ แฟนก็กลับมาอเมริกา มาทำเรื่องวีซ่าคู่สมรสให้ พอเรื่องผ่านทางนี้และส่งไปที่สถานทูตอเมริกาที่ กทม. เราก็ต้องดำเนินการฝั่งเรา คือพวกเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้วีซ่าผ่าน ทีนี้พอวันที่ต้องไปสัมภาษณ์วีซ่า ก็นั่งแท็กซี่จากที่พักไป ตอนนั่งแรก ๆ ก็ไม่ได้คุยอะไรกับแท็กซี่นะ ขึ้นไปก็บอกแค่ว่าไปสถานทูตอเมริกา และจากนั้นก็นั่งเงียบ แต่ซักพักแท็กซี่เริ่มคุย เริ่มถามว่า "ไปสถานทูตอเมริกาทำไมเหรอครับ" ก็เลยบอกว่า "ไปสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ" มีถามต่ออีกนะว่า "จะไปเที่ยวเหรอครับ" ไอ้เราก็ดันพาซื่อ ก็ตอบไปตรง ๆ ว่า "ไม่ใช่ค่ะ พอดีแฟนขอวีซ่าคู่สมรสให้ จะไปอยู่ที่นั่นเลย" ทีนี้แกคงได้โอกาส แท็กซี่คงรับรู้แล้วว่า เมียฝรั่ง (ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้พูดเลยว่าแฟนเป็นฝรั่งหรือไทย) จากนั้นพี่แกก็เริ่มบทสนทนาแบบสกปรก ๆ แล้ว คือสกปกรกจริง ๆ แกไม่ได้คุยลามปามมาที่ตัวเราโดยตรง แต่เริ่องที่แกคุยนั้นเกี่ยวกับผู้หญิงอย่างว่าที่นานา แต่มันก็เหมือนลามปามเป็นนัย ๆ อยู่ดี เพราะเรื่องที่แกคุยมันเป็นเรื่องอย่างว่า พูดเรื่องผู้หญิงนานาจับแขก และแถมพูดลามไปถึงเรื่องบนเตียงของพวกเธอแบบโจ่งแจ้งเลยชนิดที่เรียกคำพวกนั้นโจ้ง ๆ เลย ตอนนั้นเราไม่รู้จะทำยังไงให้แกหยุดพูดเรื่องนี้ เพราะเรานั่งในรถคนเดียวก็กลัว ๆ ในเมื่อคนขับพูดเรื่องแบบนี้ก็เกิดอาการกลัว ๆ ก็ได้แต่เงียบและมองออกนอกหน้าต่างรถ ทำเป็นไม่ฟัง ซักพักว่าจะตัดสินใจให้แกจอด จ่ายตังค์แกแล้วเราไปเรียกแท็กซี่คันใหม่ไปต่อ แต่พอดีกับจังหวะที่กำลังจะบอกนั้นมีพี่ที่ทำงานโทรเข้ามือถือพอดี บอกงานมีปัญหา เครื่อง Server เดี้ยง Database ก็เดี้ยง ทุกคนทำงานไม่ได้ ต้องรอเราเข้าไปช่วยดู Server (เพราะตอนนั้นที่แผนกคอมฯ เหลือเราทำงานอยู่คนเดียว เพราะหัวหน้างานเพิ่งลาออกเพราะได้งานใหม่) จากนั้นเราเลยแกล้งคุยเรื่องงาน เรื่องปัญหาอื่น ๆ ในที่ทำงานกับพี่คนนั้นนาน ๆ แบบฆ่าเวลาไปเลย แท็กซี่ก็ได้แต่นั่งฟังมั๊ง พอถึงสถานทูต ตอนลงแกมองหน้าเราแบบจ๋อย ๆ เหมือนรู้สึกผิดนิด ๆ พอเราจ่ายตังค์ แกก็ขอบคุณน่ะและบอกโชคดีนะครับ เราเลยแอบมองหน้านิดนึง คือเห็นสายตาเหมือนคนรู้สึกผิดนิด ๆ น่ะ คือในหัวของแกคงคิดเหมารวมแบบว่าผู้หญิงที่แต่งงานกับฝรั่งเป็นแบบนั้นมั๊ง ส่วนเรื่องสายตาคนนั้น แรก ๆ ก็เอามามีผลกับความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ถึงขนาดบอกแฟนเลยว่า เราจะไม่ไปแถวสีลมหรือสุขุมวิทนะ แต่ช่วงหลัง ๆ ทำใจได้ และไม่แคร์ด้วย และพยายามคิดในแง่ที่ว่า ครั้งนึงเราก็เคยมองผู้หญิงที่เดินกับฝรั่งแบบในแง่ลบเหมือนกัน ยอมรับตรง ๆ ว่าสมัยเด็ก ๆ มีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะยังโลกแคบอยู่ ความคิดเราก็แคบตาม และไม่เคยคิดว่าจะได้มาแต่งงานกับฝรั่งด้วย เพราะสเป็คตอนนั้นไม่เคยมีฝรั่งอยู่ในหัวเลย สเป็คคือหนุ่มไทยเท่านั้น ทีนี้พอมีแฟนเป็นฝรั่ง และเจอสายตาแบบนั้น ก็พยายามเข้าใจว่า บางคนเค้าก็ถูกฝังหัวให้คิดแบบนั้น เราเปลี่ยนความคิดเค้าไม่ได้ จนกว่าวันนึงถ้าเค้าอยู่ในสถานการณ์แบบเรา เค้าก็จะเข้าใจเอง อีกอย่างในเมื่อพ่อแม่ พี่น้อง ครอบครัวเรา เพื่อนฝูงเราทั้งที่ทำงานและสมัยเรียนรู้ว่าเราเป็นใคร เป็นคนยังไงอยู่แล้ว แล้วเราจะไปแคร์สายตาคนอื่นที่ไม่รู้จักเราทำไม ตราบใดที่เราทำตัวเราปกติธรรมดา แต่คนเหล่านั้นคิดไปเอง ก็ช่วยไม่ได้ ตอนนี้คิดแบบนี้จริง ๆ ค่ะ "เราไม่สามารถควบคุมความคิดคนอื่น แต่เราสามารถควบคุมความคิดตัวเราเองได้ค่ะ" แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 51 20:31:31 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 51 20:26:34 จากคุณ : JC2002 - [ 25 มี.ค. 51 20:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ใช่เลยค่ะคุณ JC2002 "เราไม่สามารถควบคุมความคิดคนอื่น แต่เราสามารถควบคุมความคิดตัวเราเองได้ค่ะ" ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนอีกครั้งนะคะ จากคุณ : Year after Year (Year after Year) - [ 26 มี.ค. 51 08:35:22 ]