 |
[แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่า] วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาผ่านแล้วค่ะ
ไปสัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม ค่ะ เวลานัด 9 โมงเช้า ก็ตื่นตั้งแต่ 6โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัว ไปถึงสถานทูต 8.00 ก็เข้าคิว รอฝากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค(พวกมือถือ MP3) ตรงทางเข้า ให้ใบขับขี่แลกกับบัตรฝากของไว้ ส่วนบัตรประชาชนดิฉันเก็บไว้เผื่อเค้าเรียกให้ตอนสัมภาษณ์
8.15 น. พอเข้าไปก็ต่อคิวเพื่อตรวจเอกสาร ตรงแก๊งสาวเสื้อแดง วันนี้คนค่อนข้างเยอะ เอกสารที่ใช้ก็มี - Passport เล่มเก่าของใครมีวีซ่าอเมริกาให้เอามาด้วยนะคะ หมดอายุแล้วก็ต้องเอามานะคะ - ใบเสร็จค่าธรรมเนียม เอาเฉพาะใบสีขาวนะคะ ใบสีฟ้าเค้าไม่ใช้ - DS 156 เค้าจะเรียงเอาหน้าที่มี บาร์โค้ด ขึ้นก่อน ไม่ใช่หน้าที่ติดรูปนะคะ แนะนำว่าไม่ต้องแม็คมาค่ะ - DS 157 - ใบรับรองการทำงาน ระบุวันลา เงินเดือน เริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ - จดหมายเชิญจากแฟน เค้าก็จะเอาทั้งหมดนี่ใส่แฟ้มใสๆ แล้วก็แนบกระดาษเล็กๆ สีฟ้ามาด้วย บางคนได้สีเขียว เดี๋ยวดิฉันจะบอกต่อไปว่าแตกต่างกันอย่างไร จากนั้นก็เดินไปซื้อซองEMS ราคา 75 บาท ค่ะ นอกจากเอกสารด้านบนนี้ยังมีเอกสารอื่นๆอีกที่ดิฉันเตรียมไป แต่ไม่ได้ใช้เลยค่ะ
9.00 พอซื้อซองEMS ก็เดินไปต่อคิวตรงหน้าประตู เพราะเหลือบมาเห็น กระดาษสีฟ้าที่สาวเสื้อแดงแนบมาให้ตอนจัดเอกสาร ว่าให้ติดต่อ ช่อง12, 13 ด้านใน ดิฉันก็เลยเดินไปข้างใน แล้วก็ไปยืนต่อคิว (อีกแล้ว) เพื่อจะสแกนนิ้ว ทั้ง 10 นิ้ว มาถึงตอนนี้ดิฉันก็เจอคนรู้จักก็เลยดีใจ มีเพื่อนแล้วเรา เค้ามาขอวีซ่าท่องเที่ยวเหมือนกันค่ะ คุยไปคุยมาเลยรู้ว่าไอ้กระดาษสีฟ้า เนี่ยจะให้สำหรับคนที่เคยได้วีซ่าอเมริกา ส่วนคนที่ไม่มีมาก่อนจะได้ใบสีเขียวแล้วจะต้องไปยื่น เอกสารที่ช่อง 1,2,3 ด้านนอกห้องสัมภาษณ์ หลังจากซื้อซองEMS
ระหว่างที่รอต่อคิวนะคะ คุยกับคนที่อยู่ข้างหน้าเรา เค้าบอกว่าไม่ต้องบอกว่ามีคนรู้จัก เดี๋ยวเค้าจะถามมาก เราก็ยิ้มๆให้ผู้หญิงคนนั้น ในใจก็คิดว่า เรานี่คงจะโดนถามมากๆ แน่ๆ เพราะว่าให้แฟนเป็นสปอนเซอร์ให้ แถมแฟนยังเป็นซิติเซ่นอีก แถมใน DS 156 ยังเขียนว่า To visit my boyfriend and his family อีก แต่ดิฉันก็ทำใจไว้ก่อนตั้งแต่เตรียมเอกสารแล้วว่าอาจจะไม่ได้วีซ่า ก็เลยไม่ตื่นเต้นถ้าจะโดนถามเยอะ ถ้าถามมาดิฉันก็พร้อมจะตอบทุกอย่างตามความจริง
10.10 สแกนนิ้วเสร็จ ก็ไปยืนต่อแถว หน้าช่อง 10,11เลยค่ะ ดิฉันได้สัมภาษณ์หนุ่ม หน้าไม่เหมือนฝรั่ง ผมสีดำ ช่อง11 ค่ะ สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะคะ ดิฉัน: Good morning จนท. : Good morning แฟนเป็นคนซิติเซ่นใช่ไหม ? ดิฉัน: ใช่ค่ะ (เอาตั้งแต่คำถามแรก เลยนะพ่อคูณ..ณ..) จนท. : เค้าทำอะไร? ดิฉัน: เป็น......ที่.........แล้วก็เป็นนักเรียนด้วย จนท. : เอานิ้วโป้งขวาวางไว้ที่สแกน คุณกับเค้าเจอกันได้ไง? ดิฉัน: เรียนที่มหาวิทยาลัย...... ด้วยกัน เค้ามาแลกเปลี่ยน จนท. : คุณทำงานอะไร ? ดิฉัน: เป็น.......ที่......... จนท. : ทำที่นี่มานานหรือยัง? ดิฉัน: 3 เดือน จนท. : ครั้งนี้จะไปกี่วัน? ดิฉัน: 9 วัน จนท. : ครั้งที่แล้วไปทำอะไรที่อเมริกา ? ดิฉัน: ไปWork and Travel ที่......... รัฐ.......... ระหว่างนี้จนท.ก็อ่านเอกสารที่เราให้ไป สังเกตว่าเค้าจะอ่านค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว(เอกสารที่ยื่นเราถือติดตัวตลอด จะให้จนท.ดูก็ตรงสาวเสื้อแดง ตรงที่สแกนนิ้ว 10 นิ้ว แล้วก็ตรงที่สัมภาษณ์เนี่ยค่ะ) จนท. : อ้าว คุณจะแต่งงานนี่ เมื่อไหร่? ดิฉัน: เดือนมิถุนายนนี้ ที่เมืองไทย จนท. : ที่ไหนนะ? ดิฉัน: เมืองไทย เนี่ยแหละจ้า จนท. : อย่าไปแต่งงานที่นู่นนะ เดี๋ยวจะเกิดปัญหาได้ บลา...บลา... ดิฉัน: พยักหน้าว่าฉันเข้าใจ จนท. : โอเค แล้วจะส่งวีซ่าไปให้ ดิฉัน: ได้กี่ปีค่ะ? จนท. : เริ่มทำหน้าสงสัย แล้วก็บอกว่า regular ดิฉัน: ขอบคุณ แล้วก็รีบเดินออกมา กลัวว่าเดี๋ยวเค้าจะเปลี่ยนใจไม่ให้วีซ่าเรา 5555+
โทรไปบอกแฟน แฟนก็ดีใจมาก ตอนแรกก็ทำใจเผื่อไว้ว่าอาจจะไม่ได้วีซ่า เพราะดิฉันเรียนจบเมื่อปีที่แล้ว เพิ่งทำงานได้ไม่นาน มีแฟนเป็นอเมริกันซิติเซ่นอีก แต่ก็ได้วีซ่า ดิฉันคิดว่าดิฉันพูดความจริงทุกอย่าง ก็เลยได้วีซ่า ข้อนี้คงลบความเชื่อที่ว่า ถ้าบอกว่ามีคนรู้จักอยู่ที่อเมริกาจะไม่ได้วีซ่า ไม่จริงเสมอไปนะคะ แล้วเวลาตอบคำถามเนี่ยก็ตอบดีๆนะคะ แบบมีความมั่นใจ ส่วนตัวดิฉันเชื่อว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ได้วีซ่าค่ะ
ทีนี้ดิฉันก็รอลุ้นว่าจะได้กี่ปีค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ - คุณ Susie คุณ BMW และ คุณ VEVARA สำหรับ Blog ที่เนื้อหาแน่น เต็มเปี่ยม ไว้เตรียมตัวไปขอวีซ่า - ชาวพันทิปที่เคยมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่า ให้ดิฉันได้อ่านเป็นแนวทางก่อนไปสัมภาษณ์จริง - ห้องไกลบ้าน และเวปพันทิป ที่เป็นสื่อกลางให้ดิฉันได้รับความรู้ ความคิดเห็นต่างๆมากมายค่ะ
จากคุณ :
Bowles
- [
1 เม.ย. 51 15:31:48
]
|
|
|
|
|