ความคิดเห็นที่ 13
ตอนเราสมัครเรียนที่นี่ เราเขียน statement of purpose เอง บางมหาวิทยาลัยเค้าจะมีหัวข้อคร่าวๆว่าต้องการอะไรบ้างในนั้น เราก็เอาหัวข้อตามนั้นมาเขียน โดยจะแนะนำตัวเองคร่าวๆก่อน แล้วก็ให้เพื่อนแม่ที่เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษแก้ภาษาให้ (เพราะภาษาอังกฤษเราแย่มากๆ สอบ TOEFL ยังไม่ผ่านเลย อิ อิ) แล้วก็ใช้ pattern คล้ายๆกันกับมหาวิทยาลัยอื่น แต่ถ้าคุณ Academic จะดูจากตัวอย่างในหนังสือก็น่าจะช่วยให้ได้ไอเดียมากขึ้นค่ะ ......... คือที่เราเขียนเอง เพราะตอนนั้นยังเซ่ออยู่ ไม่รู้ว่ามีตัวอย่างให้ดู 55555
การสมัครเรียนที่นี่ เค้าจะแยกการพิจารณารับเข้าเรียนเป็น 2 ส่วน คือ 1 Office of admission เค้าจะพิจารณาว่าคุณผ่านคุณสมบัติขั้นพื้นฐานหรือไม่ คือ คะแนน TOEFL ต้องเกิน minimum requirement, คะแนน GRE เกินมั๊ย ถ้ามี minimum requirement ค่ะ (แต่ส่วนใหญ่เค้าไม่ค่อย require นะคะ), แล้วเค้าก็จะดู financial statement ซึ่งต้องมีอย่างน้อยเท่ากับค่าใช้จ่ายที่เค้าประมาณว่าต้องใช้ในปีแรก
2 ทางคณะก็จะพิจารณาจาก statement of purpose, three letters of recommendation, GRE scores, and TOEFL scores ซึ่งการพิจารณาของคณะส่วนใหญ่เค้าจะแยกผู้สมัครออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ขอทุนจากทางคณะ และไม่ขอทุนจากทางคณะ โดยเค้าจะพิจารณาแยกกัน หรืออาจจะพิจารณาจากกลุ่มขอทุนก่อน แล้วค่อยนำคนที่ไม่ได้ทุนมาพิจารณารวมกับกลุ่มที่ไม่ได้ขอทุน ซึ่งอันนี้แล้วแต่นโยบายของแต่ละมหาวิทยาลัย ดังนั้นที่แน่ๆ ถ้าคุณไม่ได้ขอทุนจากทางมหาวิทยาลัย คุณจะไม่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนที่ได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงน่าจะเพิ่มโอกาสให้ได้รับตอบรับมากยิ่งขึ้นค่ะ
การจะได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นต้องผ่านการคัดเลือก (ได้รับตอบรับ) จากทั้ง Office of admission และทางคณะค่ะ
คะแนน GRE ที่คุณได้ถือว่าสูงมากแล้วสำหรับเด็กไทย อย่ามาเทียบกับเพื่อนเราเลย พวกนี้เค้าขั้นเทพกันทั้งนั้น เพื่อนเราในคณะประมาณ 80% เป็นคนจีน ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่เค้าก็ขยันกันมากๆ เค้าต้องท่องศัพท์ทั้งหมด 35,000 คำให้ได้ทั้งหมดก่อนจะสอบค่ะ แล้วที่เค้าได้สูงกันขนาดนี้ เพื่อนเราที่เป็นคนจีนเล่าให้เราฟังว่า มีเว็บไซด์ข้อสอบรั่ว คือคนจีนที่สอบก่อน (ตอนต้นเดือน) เค้าจะเอาคำถามมาโพสต์เอาไว้ แล้วคนที่สอนที่หลังก็โชคดีเพราะได้เห็นข้อสอบก่อน (ประเทศจีนเค้ายังใช้ระบบ paper based อยู่ ซึ่งข้อสอบจะเหมือนกันถ้าสอบในเดือนเดียวกันค่ะ) ส่วนเพื่อนเกาหลีเรา ก็บอกว่าเค้าจ้างให้คนจีนแปลมาจากเว็บไซด์นั้นให้ แล้วของเกาหลีเค้าก็มีเว็บไซด์โดยเฉพาะของเค้าเช่นกันค่ะ เราก็เคยเข้าไปดูทั้ง 2 เว็บแล้ว แต่เสียดายอ่านไม่ออก เหอะๆ ...... ส่วน Quantitative part ก็ไม่แปลกที่จะได้กันเต็ม เพราะพวกเราเรียนสาขาสถิติค่ะ (ถ้าได้น้อยนี่ซิแปลก)
เราอยากจะบอกว่าคะแนนอย่างนี้ แล้ว Statement of purpose and letters of recommendation ไม่แย่จนเกินไป แล้วสมัครแบบไม่ขอทุนจากทางมหาวิทยาลัย น่าจะได้ตอบรับค่ะ แต่เพื่อความไม่ประมาทอยากจะแนะนำให้เลือกมหาวิทยาลัยกลางๆ แต่ไม่ต้องต่ำมากนะคะ เอาที่ถ้าได้แล้วจะไปเรียนนะคะ ไว้สักอันก็น่าจะดีค่ะ หรืออาจจะใช้สูตรตามที่คุณ Roby แนะนำก็ได้ค่ะ ........ ที่เราบอกว่าน่าจะได้เพราะ ตอนแรกที่เราสมัครเรียนมาที่นี่ เราสอบ TOEFL ไม่ผ่านเกณฑ์ที่เค้าจะรับ แต่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่มาเรียนแบบมีเงื่อนไขภาษาอังกฤษได้ เราไม่ได้สอบ GRE มา (เพราะ TOEFL ยังไม่ผ่านเลย ก็เลยขี้เกียจสอบ) แต่เราสมัครมาด้วยทุนตัวเอง และอาจารย์เขียน recommendation ให้เราดีมากๆ คือท่านเขียนจากจุดอ่อนของเรา ให้เป็นจุดแข็งแทนหล่ะ (คือเราจบป.ตรีบริหารฯ ซึ่งไม่เกี่ยวกับสาขาที่เราจะเรียนต่อป.เอกทางด้านสถิติเลย แต่ท่านเขียนถึงเราจะไม่มีพื้นฐานมา แต่เราก็สามารถเรียนจบป.โทได้ด้วยคะแนน GPA ที่ดี) คุณสมบัติของเราด้อยกว่าคุณ Academic เยอะมาก แต่เราก็ยังได้ตอบรับจากทุกมหาวิทยาลัยที่เราสมัคร (3 มหาวิทยาลัย เพราะว่า งก 5555) ซึ่งทั้ง 3 มหาวิทยาลัยนี้ rank อยู่ที่ประมาณ 20-50 ค่ะ ..... เพราะฉะนั้น จงสู้ๆค่ะ อย่าเพิ่งท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกสตาร์ท
เรามีความเห็นว่าถ้าอาจารย์ที่ท่านเคยผ่านการสมัครเรียนต่อ หรือจบจากเมืองนอกมา หรือท่านที่รู้จักและคุณเคยเรียนด้วยหลายวิชา น่าจะเขียน recommendation ให้เราได้ strong กว่าค่ะ .........แต่ตอนนั้นเราเลือกอาจารย์ที่มีตำแหน่งทางวิชาการ (ศ.,รศ.,...) แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะมีผลหรือเปล่านะคะ......... อ๋อ แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าอาจารย์จะเขียนให้เราไม่ดี เพราะค่อนข้างเป็นมารยาทสากลว่า ถ้าท่านไม่สามารถเขียน recommendation ให้เรา strong ได้ ท่านก็จะปฎิเสธ หรืออาจจะพูดอ้อมๆ ให้ไปลองขอจากอาจารย์ท่านอื่นดูค่ะ ........ อีกอย่างนึง อาจารย์บางท่านอาจจะงานยุ่ง ดังนั้นเราควรจะติดต่อท่านตั้งแต่เนิน ควรมีเวลาให้ท่านเขียนก่อน due date อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ปล. มีเรื่องน่าสนจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่เพื่อนๆ เค้าเล่าให้ฟังอีกที ว่ามีรุ่นพี่ที่เค้ารู้จักคนนึง สมัครเรียนต่อที่นี่ แต่ได้รับการปฏิเสธจากทุกมหาวิทยาลัย ยกเว้น Harvard University ...... อีกเรื่องคือมีพี่คนไทยคนนึงอยากจะย้ายที่เรียน เพราะสนใจงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนั้น ซึ่งไม่ดังเท่าที่พี่เค้าเรียนอยู่ ทางมหาวิทยาลัยใหม่ตอบรับ แต่มีเงื่อนไขให้พี่เค้าไปสอบ GRE ใหม่ ทั้งๆ ที่มหาวิทยาลัยเดิมที่พี่เค้าเรียนไม่ได้ให้พี่เค้าไปสอบ GRE ใหม่ค่ะ ...............เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งคิดว่ามหาวิทยาลัยที่ rank สูงกว่าจะเข้ายากกว่ามหาวิทยาลัยที่ rank ต่ำกว่า ของอย่างนี้ก็ต้องวัดดวงกันเอาเอง
Good luck,
จากคุณ :
น้องน้อยกลอยใจในกรงทอง
- [
5 เม.ย. 51 15:32:31
]
|
|
|