ความคิดเห็นที่ 1 อ่านแล้วอืมม์ ใช่เลย จากคุณ : ศรีธนา - [ 7 เม.ย. 51 04:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาใจช่วยค่ะ เคยมีผู้หญิงไทยเล่าให้ฟังว่า ตอนเขากับสามีฝรั่ง และลูกวัยหัดเดินไปเที่ยว ป่าตอง ภูเก็ต... เขาพักโรงแรม เขาต้องการประหยัดผ้าอ้อมสำเร็จรูป จึงไม่ต้องใส่ผ้าอ้อมให้ลูก... เขาให้ลูกฉี่บนพรม บนเตียงในห้องพักแทน ... เขาไปพัก ๑ อาทิตย์.. ใช้วิธีนี้ เราถามไปว่า แล้วไม่ทำความสะอาดพรมเหรอ... แขกคนต่อไปพักก็ได้กลิ่นฉี่อ่ะสิ... เขาบอกว่า.. มันไม่ใช่บ้านของเขา เขาไม่สนใจ ยังไงเขาไม่กลับไปพักโรงแรมนั้น และถ้าจะพักคราวหน้าก็ขอห้องใหม่ มีคนไทยมักง่ายแบบนี้เยอะ พอๆกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมักง่าย จากคุณ : JidNince - [ 7 เม.ย. 51 04:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เจอนักท่องเที่ยวชาวจีนที่บางบุญครอง..พูดไทยไม่ซัด อุ้มลูกวัยขวบนึงได้จับกางขาให้ปัสสาวะที่อ่างล้างมือในห้องน้ำ คิดดูเเล้วกันเราเสร์จภาระกิจที่สำคัญต้องการล้างมือ.. ไปเจอยายคนนี้ เลยถามว่า คุณทำเเบบนี้ชาวต่างชาติที่มาเห็น จะนึกว่าคนไทยทำนะ เข้าห้องน้ำกับเด็กก็ได้นี่ คำตอบของคนจีนคือ" ไม่เห็นไปไร..เด็กไม่ สก-กะ-ปก หรอก " อยากหาอะไรหนักๆ เหวี่ยงเป็นของกำนัลเหลือเกิน เรื่องนี้ไม่เคยลืมเเละไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ..คงไม่มีใครเชื่อ จากคุณ : ศิริกัลยา (YUCCA) - [ 7 เม.ย. 51 05:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จิตสำนึกดี สังคมดีค่ะ จากคุณ : ตัวน้อยยังเห็นค่า - [ 7 เม.ย. 51 07:23:43 A:118.174.121.230 X: TicketID:172167 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าเหมารวมนะคะ คุณโชคร้ายเจอคนสกปรก ไม่ใช่จะเข้าข้างใครนะ แต่เราเห็นแฟนเราที่เป็นต่างชาติ สูบบุหรี่เสร็จ เค้าจะมีห่อใส่รวบรวมไปทิ้งถังขยะ เวลาสูบบุหรี่ ก้อต้องเปิดหน้าต่างหรือระเบียงไว้ และเป็นคนที่สะอาดมาก ฉะนั้น ทุกชาติมีดีและไม่ดีปนเปไป..คนไทยเวลาเห็นต่างชาติมาก้อขูดเลือดซิบๆเลยนะ เจอบ่อยจนชินแล้ว ถ้าไม่ทิปหนักๆเจอบ่นต่อหน้าเลย...ที่รู้เพราะเราเป็นคนหน้าตากระเดียดไปทางญี่ปุ่น พนักงานนินทาแขกให้ได้ยินเลย..คุณแน่ใจเหรอว่าชาติเราบางคนเวลาไปที่อื่นจะไม่ทำอย่างที่คุณเห็น.... จากคุณ : j_bookworker - [ 7 เม.ย. 51 08:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อย่างนี้ต้องส่งไปให้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์  รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา   และคุณ นพดล ปัทมะ  รมว. ต่างประเทศ   ร่วมกันพิจารณา ให้เน้นไปในเรี่องการปรับปรุง  อาจจะเป็นว่า ถ่ายวีดีประจานความไม่ดีของคนเหล่านั้น ส่งกลับไปแพร่ภาพให้คนที่ประเทศเของเขาดูเป็นตัวอย่าง หรีอไปบอกให้คุณสมัคร สุนทรเวช สั่งยิงเป้า  เอ้ย! สั่งลงหวายกับพวกสกปรก เช่นเดียวกับประเทศสิงโปร์  ที่คิดจะลงหวายกับเด็กอเมริกัน แตถ้าดุมากๆใครเขาจะกล้าเข้าประเทศ  และรายได้ของประเทศไทยอันดับหนึ่ง  ก็มาจากการทอ่งเที่ยวไม่ใช่หรีอ ทางเดียวที่จะช่วยกันได้  คีอประชาชนคนไทย "เช่น จขกท" ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาในเรี่องเหล่านี้  ด้วยการเอาออกประจานบ่อยๆ   อีกหนอ่ยคนชั่วต่างชาติก็ไม่กล้าที่จะทำ จากคุณ : hollywop - [ 7 เม.ย. 51 09:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่แล้ว นักท่องเที่ยวเหลือขอบางคน บางกลุ่ม ทำความเสียหายมากกว่ารายได้เข้าประเทศซะอีก แต่คนไทยแค่คนเดียวที่ไปจี้ปล้น ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน ฆ่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างโหดเหี้ยม  เป็นข่าวทั่วโลกออกบ่อย จะส่งเสริมปีการท่องเที่ยวอย่างไร จากคุณ : jeejeeberry - [ 7 เม.ย. 51 11:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะคนยึดกับคำว่าตัวกู ของกูหรือเปล่าคะ คือถ้าเป็นบ้านของตัวเองก็จะสะอาดเอี่ยม  เปื้อนนิดนึงไม่ได้ แต่ไปข้างนอกพฤติกรรมเปลี่ยน  สกปรกสุดอี๋ เป็นข้าวของของตัวเองก็ใช้อย่างประหยัด พอเข้าห้องน้ำ มีกระดาษชำระให้ใช้ฟรีก็ดึงเข้าไปซะ5-6เมตร ไม่รู้เอาไปเช็ดอะไรนักหนา พอไปประเทศอื่นบ้านเมืองอื่นก็ล้างผลาญกันเต็มที่  อุตส่าห์จ่ายเงินแพงๆมาเที่ยวหาความสำราญแล้วนี่นา   เคยอ่านกระทู้ของนักศึกษาสถาบันหนึ่งมาบ่นและเรียกร้องให้เพื่อนๆช่วยกันเก็บขยะและภาชนะต่างๆหลังจากใช้พื้นที่โรงอาหารอ่านหนังสือตอนค่ำๆแล้ว  เพราะพอวันต่อมาตอนเช้าจะสกปรกมาก ไม่น่าดูและสงสารแม่บ้าน  กลับมีคนมาแสดงความคิดเห็นว่าแม่บ้านมีหน้าที่ทำความสะอาดก็ทำไปสิ  ถ้าไม่มีขยะ เดี๋ยวไม่มีงานให้ทำแล้วจะจ้างไปทำไม  เรามาเรียนหนังสือก็จ่ายค่าเทอมแล้ว  โอ้แม่เจ้า  อุตส่าห์เรียนหนังสือสูงๆก็ยังมัความคิดแบบนี้อีก เบื่อจังคำว่าลดโลกร้อน  ใครบอกว่าลดการใช้ถุงพลาสติกเป็นการลดโลกร้อน  มันเป็นแค่การไม่ทำให้โลกร้อนเพิ่มขึ้นต่างหาก  ความร้อนไม่เพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด  ประหนึ่งว่าอยู่เฉยๆ  ไม่ได้ทำดีแต่ไม่ทำชั่วเพิ่มขึ้น  หรือว่าต้องให้รณรงค์กันเพิ่มอีกว่าปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน  ถ้าไม่รณรงค์หรือว่ามีใครมาบอกแล้วก็แยกแยะไม่ออกว่าควรทำแบบไหน  พูดกันปาวๆว่าใช้ถุงผ้าลดโลกร้อนเพราะได้ยินมาว่าเค้าบอกให้ทำอย่างนี้  แต่ถ้าไปไหนๆแล้วไม่พกถุงผ้าไปด้วย  จะเอาถุงผ้าที่ไหนมาใส่ของ  หรือถ้าเอาของใส่ถุงพลาสติกแล้วก็มาใส่ถุงผ้าอีกทีแล้วมาภูมิใจว่าฉันใช้ถุงผ้าแล้วนะ  ก็ไม่ได้ช่วยอะไร  มีพระรูปหนึ่งเคยเทศน์สอนว่าคนเราควรดีได้ด้วยตัวเอง  หมายถึง ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี อะไรควรทำไม่ควรทำ ส่วนตัวพยายามใช้สิ่งของอย่างคุ้มค่ามาตลอด ไม่ใช่เพราะงก  แต่รู้ว่าทุกกิจกรรมที่มนุษย์ทำในชีวิตประจำวัน  ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น  เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องล้างหน้าแปรงฟัน กินอาหารและอื่นๆอีกมากมาย  แต่เราก็พยายามใช้ให้น้อยลงได้  ก็จะพยายามใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้คุ้มค่า  กินอาหารก็กินให้หมดทุกครั้งเพราะตระหนักว่านั่นคือชีวิตที่สละมาให้เรามีชีวิตอยู่ต่อได้  กินหมูไม่ได้มองว่าเนื้อหมูแต่นั่นคือชีวิตของหมูตัวหนึ่ง  นานมาแล้วนานมากๆ ก่อนที่ไทยจะรณรงค์ใช้ถุงผ้า ก็ทำมาก่อนแล้ว  ทุกครั้งเวลาซื้อของก็จะบอกว่าไม่เอาถุงพลาสติกค่ะ  แต่เพราะไม่มีการรณรงค์  พ่อค้าแม่ค้าไม่เข้าใจเรา  บางทีถูกล้อเลียนว่าเราไม่ชอบถุงเหรอแล้วหัวเราะ  พ่อค้าแม่ค้าบางคนหวังดีบอกว่าไม่เป็นไรๆ  แล้วก็ยัดใส่ถุงมาให้เหมือนเดิม  บางทีก็คิดว่าการทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่นแต่คนอื่นไม่เข้าใจนี่มันก็ลำบากเหมือนกันเนอะ  เหอะๆ   คนชอบคิดว่าการปัดกวาดขยะทิ้งไปบ้านเรือนเราสะอาดก็จบแล้ว  ทำดีแล้ว  แล้วถามว่าขยะไปไหนต่อ  มันก็ยังอยู่บนโลกเรานี่แหละ  แค่ผลักภาระไปให้ส่วนอื่นรับผิดชอบเท่านั้นเอง  แล้วสุดท้าย  มันก็จะย้อนกลับมาหาเราในที่สุด ขออภัยที่แอบบ่นยืดยาวค่ะ  เกี่ยวกับกระทู้นี้มั่งไม่เกี่ยวมั่ง  แต่ดิฉันอยากให้คนมองในภาพรวมของโลกทั้งโลกมากกว่าจะมองประเทศใครประเทศมัน  และเพราะยังคิดถึงน้ำใสๆ  โลกสวยๆ  อากาศบริสุทธิ์ที่เคยมี  แต่ตอนนี้โลกเราแย่ลงทุกที  ก็ไม่รู้จะทำยังไง  เพราะมันต้องอาศัยการร่วมมือของคนทั้งโลก  คนเพียงแค่คนสองคนทำไม่ได้  ไม่ได้ว่าตัวเองทำอยู่คนเดียว  ไม่ได้ตั้งใจมาด่าประณามใคร  ใครทำดีอยู่แล้วก็ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ทำต่อไปแม้จะไม่มีใครเห็นแต่ตัวเราเองภูมิใจใช่ไหมคะ ไม่ว่าเราอยู่ตรงส่วนไหนในโลกนี้  ทุกการกระทำของเราสุดท้ายก็ส่งผลกระทบกลับมายังเราทั้งสิ้น  ไม่ใช่ว่าเราไปทำในประเทศอื่นแล้วเราจะไม่เป็นอะไร  มันอาจกระทบมากกระทบน้อยต่างกันเท่านั้นเอง  ดั่งคำที่ว่า เด็ดดอกไม้กระเทือนถึงดวงดาว ถ้าทุกคนใช้สิ่งของทุกอย่างเหมือนเป็นของของตัวเอง ดีกับคนทุกคนและทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกเหมือนเป็นครอบครัวของเรา โลกเราก็คงจะดีขึ้น ถ้ามีพื้นดินว่างๆ  ลองหันมาปลูกต้นไม้วันละต้นสองต้นกันบ้างนะคะ  เริ่มจากเมล็ดผลไม้ที่เรากินก็ได้  ดีกว่าทิ้งไปเปล่าๆ ทำดีไม่ต้องอายค่ะ โหวตค่ะ จากคุณ : pidpipid (pidpipid) - [ 7 เม.ย. 51 13:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คงจะลำบาก เรื่องการคัดกรองนักท่องเที่ยว ทำยากและรอเห็นผลนาน เศรษฐกิจบ้านเราพึ่งการท่องเที่ยวมาก ก็รู้ๆกันอยู่ พวกผู้ประกอบการเขาไม่ยอมหรอก คือระดับล่างที่จับกลุ่มลูกค้าเกรดซีก็ต้องๆทนๆกันไป จากคุณ : yuy - [ 7 เม.ย. 51 16:22:08 A:124.121.19.54 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นึกได้ เจอด้วยครั้งหนึ่ง ที่โรงแรม นักท่องเที่ยวจากจีน หลังทานอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์เสร็จ อาม่าเธอก็หยิบน้ำตาล พริกไทยบนโต๊ะ มานั่งเทใส่จานข้าว ไม่ยอมลุกสักที คุยกับเพื่อนไปเทน้ำตาลไป เรางี้คันปาก พยายามบอกแก ก็ทำเป็นไม่เข้าใจ เลยใช้ภาษามือ แต่ชีก็เล่นจนหมดขวดแล้ว พอลุกออกจากเก้าอี้ ดิฉันเลยถามพนักงาน เขาบอก บ่อยมาก พวกทัวร์จีน ไต้หวัน พนักงานไม่กล้าพูด เพราะพวกนี้ชอบโวยวาย จากคุณ : jeejeeberry - [ 7 เม.ย. 51 17:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ได้ว่าคนจีนทั้งหมดนะ แต่ตอนไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ไปนอนโรงแรมเค้าจะเเจกนสพ.เป็นภาษาอังกฤษมาให้อ่าน อุ๊เเม่จ้าว ข้าวเหนียวนึ่ง ขนาดพวกจีนฮ่องกงเค้ายังเขียนข่าวดถูกพวกคนจีนแผ่นดินใหญ่เลยว่าพวกนี้เป็นพวก ด้อยมารยาท การศึกษา (อันนี้เห็นด้วยบางส่วน แต่จะไปเหมารวมว่าคนทั้งประเทศเป็นแบบนั้นก็ไม่ถูก) ตอนไปเที่ยวOcean Parkที่ฮ่องกง เราปวดฉี่โคดๆ อุส่าห์ไปยืนต่อแถวบิดตะกรูดไปมา พอถึงคิวเราพาน้องไปร้องไห้ อีซิ่มม่า(จากแผ่นดินใหญ่ ที่รู้คือพวกมันจะเสียงดังช้งเช้งล้งเล้งตุ้มเม้งกันมากมาย) มันเดินตัดหน้าเราเข้าไปในห้องน้ำเฉยเลย ปกติเราเป็นคนปากจัด แต่เจออะไรกระชั้นชิดแบบนั้น อิเฮี๊ยนตั้งตัวไม่ทันเจงๆ รู้สึกโดนผีอำเข้าสิงห์ เหมือนปากกำลังอมอมสากยังไงอย่างงั้น อยากจะตะโกนด่าอะไรไปซักหน่อย แต่มันเข้าไปเย่วก่อนหน้าเราซะแล้ว ส่วนตัวเราเย่วก็จะเล็ดแอนด์แค้นเเสนสาหัสอยู่หน้าห้องน้ำ ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ทำใจ แล้วแผ่ส่วนกุศลแอนด์อโหสิกรรมไปให้มัน ยังม่ะวาย.................... พอบินจากฮ่องกงกลับอังกฤษ เอาอีกแล้วครับทั่น เครื่องบินใกล้ลงจอด พวกตาแปะChow Mein นังกิมรั้ง ยัยกิมเล้ง อิกิมจ๊อ ไอ้กิมจิ พร้อมใจกันลุกขึ้นยกกระเป๋าตัดหน้าหมู่เฮาIncludeฝรั่งด้วย พวกเฮาต่างพากันตกใจว๊ายกรี๊ดกับพฤติกรรมของพวกมันกัน แต่ไม่มีใครกล้าด่าหรือพูดอะไรออกไปสักคน ตอนนั้นเราอยากให้วิญญาณอาจารย์แม่เข้ามาสิงห์ในร่างเราดีแท้ จะได้ จับตบๆเรียงตัวเลย มารยืดซามวัยกันดีหนอ เข้าใจเจ้าของเรื่องอย่างเเรงเลยว่ารู้สึกกันยังไงกับพวกนักท่องเที่ยวประเภทนั้น จากคุณ : เล็กไม่งอก - [ 7 เม.ย. 51 18:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องของหมากฝรั่งนี่ ไม่ใ่ช่แค่ที่เมืองไทย ตามร้านอาหารในเมกา ถ้าก้มไปดูใต้โต๊ะนี่ ก็มีเยอะแยะค่ะ คนฝรั่งที่ไม่มีมารยาท หรือไม่ได้รับการอบรมก็มีเยอะแยะไปค่ะ เคยได้ยินหรือเปล่า ที่ประเทศสิงค์โปร์เค้าไม่ให้เอาหมากฝรั่งเข้าประเทศเค้า เพราะว่าเคยมีเหตุการณ์ที่ว่า มีคนทิ้งหมากฝรั่งลงไปในซอกรถไฟฟ้า ทำให้ประตูรถไฟฟ้าปิดไม่ได้ รถไฟฟ้าก็วิ่งไม่ได้ ทำให้ธุรกิจเสียหาย คนมักง่ายมันเยอะ คิดเอาแต่ตัวเองเป็นหลักเยอะแยะไป คนดีๆ ก็มีเยอะ แต่คนเรามักจำไม่ได้ จากคุณ : ลิงน้อย - [ 7 เม.ย. 51 20:59:06 A:216.206.197.131 X: TicketID:145647 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไปเที่ยวประเทศเค้า แล้วยังดูถูกคน+สถานที่บ้านเค้า เป็นการกระทำของมนุษย์ผู้ไร้ซึ่งมารยาทและวัฒนธรรมที่ดี จากคุณ : thaispicy - [ 7 เม.ย. 51 23:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปเที่ยวประเทศเค้า ก็เห็นตามที่เค้าเล่ามาส่วนใหญ่ แต่คนในประเทศเค้าไม่คิดว่ามันเสียมารยาทอะไรนิ แย่งได้แย่ง แซงได้แซง เสิร์ฟของก็โยนให้ มันเป็นมารยาทของประเทศเค้ามั้ง ถ้ามัวกระมิดกระเมี้ยนก็อด เคยเห็นฝรั่งดีแตกที่โน่น พอเค้าจะแย่ง จะแซงจริง ๆ อาซิ้มทั้งหลายไม่อาจเบียดแย่งเขาได้เลย อาจจะไม่ได้เรียกดีแตกก็ได้ ต้องเรียกว่าบรรลุมากกว่า จากคุณ : เอก ฟุตบอล - [ 10 เม.ย. 51 18:06:19 ]