ความคิดเห็นที่ 1 สอบไปเมื่อปลายปี 2549 ได้คะแนนน้อยค่ะ แต่รู้จุดอ่อนของตัวเองว่าเพราะไม่ได้ฝึกทำข้อสอบมากมายนัก ได้แค่นั้นก็บุญแล้ว...หุหุ.. ตอนนี้กำลังจะสอบใหม่อีกในเดือน มิ.ย. หวังว่าคงจะได้คะแนนดีขึ้น จากคุณ : JC2002 - [ 12 เม.ย. 51 21:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยสอบไปตั้งแต่กลางปี 49 น่ะค่ะ ช่วงที่เริ่มเปลี่ยนเป็น iBT ใหม่ๆ เลย ก็ได้คะแนนมาผ่านเกณฑ์ที่ใช้สมัครเรียนได้อะค่ะ จำได้ว่าเมื่อซักพักมาแล้วมีกระทู้ที่เขียนแนะนำเกี่ยวกับเตรียมตัวสอบ TOEFL น่ะค่ะ เขียนไว้ดีมากๆ เลย (ต้องขอโทษด้วยที่จำชื่อเจ้าของกระทู้ไม่ได้...แต่ว่าเดี๋ยวจะลองหาดูค่ะ ว่าได้เก็บไว้รึป่าว) ถ้าสอบได้คะแนนไม่ค่อยน่าพอใจ ก็ฝึกทำโจทย์เยอะๆ ค่ะ หาจุดอ่อนของตัวเอง แล้วก็พัฒนาตรงจุดนั้นไป ส่วน GRE ก็คงขึ้นอยู่กับว่าจะเรียนทางด้านสายวิทย์หรือว่าศิลป์ค่ะ ถ้าเรียนทางวิทย์ เค้าก็ไม่ค่อยเน้น verbal กันมาก เพราะว่ามันเป็นศัพท์ที่นานๆจะโผล่มาให้เห็นซะที (ฝรั่งบางคนก็ยังว่ายากไปเลยค่ะ) ก็ต้องพยายามทำคะแนนด้านเลขให้ดี แต่ถ้าเรียนสายศิลป์ ส่วน verbal ก็อาจจะสำคัญด้วยค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : Frappemania - [ 12 เม.ย. 51 22:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จริงๆ แล้ว IBT นี่ค่อนข้างโหดนะคะ ในความคิดเรา แต่ว่าเวลาไปเรียนจริงๆ แล้ว ถึงรู้ว่าทำไมเค้าถึงให้เราสอบ IBT มากกว่าแบบอื่น (ก็เวลาเรียนจริงมีทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน เต็มไปหมด) เรื่องการฝึกฝน คงต้องใช้เวลากับการทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ค่ะ เรามาเรียนภาษาที่อเมริกาก่อน แล้วก็สอบหลังจากมาเรียนได้ 6 เดือน คะแนนค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจค่ะ ได้ 79 ในตอนสอบครั้งแรก ครั้งที่สองก็เขยิบขึ้นมาหน่อย สอบครั้งแรกค่อนข้างจะตื่นเต้น พอครั้งที่สองเริ่มรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เลยสบายหน่อยค่ะ ลองเข้าไปทดลองทำแบบฝึกหัดในเวปไซด์ ets ดูนะคะ ช่วยได้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ~~FrOm NoW oN~~ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 04:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สอบเดือน แรกที่ เปลี่ยน เป้น iBt เลย ฮือๆๆ อุตส่าห์ เตรียม CBT มาซะเต็มที่ แต่ก็ผ่านครับ iBT ยากมากเลย โดยเฉพาะ speaking เนี่ย ได้น้อยที่สุดแล้วอ่ะครับ แต่ writing เนี่ยได้เยอะสุดเลยอ่ะครับ เพราะว่าเรียนรู้จาก GRE มาเยอะเหมือนกัน GRE นับว่ายากครับ ท่องศัพท์ไว้เลย เยอะๆๆๆๆๆๆ เล่น Barron เอาให้หมดเลยนะครับ เลขก็ทำโจทย์เยอะๆนะครับ จากคุณ : pittboy2603 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 08:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณค่ะสำหรับประสบการณ์ที่มาช่วยแชร์ คิดว่าคงมีหวังที่จะเขยิบคะแนนตัวเองขึ้นได้ จะพยายามเตรียมตัวดีๆ ไปสอบครั้งแรกมา แล้วรู้สึก เฮ้ยยย ทำไมๆๆ มันยากอย่างงี้ พอคะแนนออก ก็ใจออก สงสัยเรา จะไม่สามารถพอที่เรียนเมืองนอก แต่คิดๆไป พยายามฮึดว่า เออ เราคงเตรียมตัวมาน้อยเอง ต้องใช้เวลากับการเตรียมตัวมากๆ ++ GRE พอได้เห็น ตย ข้อสอบ เลข โอ๊ยอยากตาย เรียนศิลป์ภาษามาตลอด เลขไม่ได้แตะต้องมาเกือบๆสิบปีแล้วมั้ง คิดว่าไปเรียนพิเศษดีมั้ยคะ? อ้อ ลืมไป สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ จขกท ขออยู่บ้าน กลัวเปียก อิอิอิ ขอให้สนุกนะคะ จากคุณ : จขกท (ไม่ได้ลอกอินค่ะ) (sixteenbm88) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 09:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะสำหรับประสบการณ์ที่มาช่วยแชร์ คิดว่าคงมีหวังที่จะเขยิบคะแนนตัวเองขึ้นได้ จะพยายามเตรียมตัวดีๆ ไปสอบครั้งแรกมา แล้วรู้สึก เฮ้ยยย ทำไมๆๆ มันยากอย่างงี้ พอคะแนนออก ก็ใจออก สงสัยเรา จะไม่สามารถพอที่เรียนเมืองนอก แต่คิดๆไป พยายามฮึดว่า เออ เราคงเตรียมตัวมาน้อยเอง ต้องใช้เวลากับการเตรียมตัวมากๆ ++ GRE พอได้เห็น ตย ข้อสอบ เลข โอ๊ยอยากตาย เรียนศิลป์ภาษามาตลอด เลขไม่ได้แตะต้องมาเกือบๆสิบปีแล้วมั้ง คิดว่าไปเรียนพิเศษดีมั้ยคะ? อ้อ ลืมไป สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ จขกท ขออยู่บ้าน กลัวเปียก อิอิอิ ขอให้สนุกนะคะ จากคุณ : sixteembm88 (sixteenbm88) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 09:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 27 เมษา นี้ก้อจะไปสอบอะคับ ทาง รร จะจัดสอนทำข้อสอบ toefl ก่อน 1 อาทิตย์ก่อนสอบ ไม่รู้ว่าน้อยไปหรือป่าว ตื่นเต้นมากเลยกลัวคะแนนน้อย จากคุณ : meeton - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 11:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราก็ศิลป์ภาษาเหมือนกัน ตอนสอบ GRE ก็ค่อนข้างเครียด ไม่ได้แตะเลขมาเกือบ 10 ปีแล้วเหมือนกันค่ะ เราก็เลยไปเรียน แต่บอกตรงๆว่า พอไปเรียนเค้าก็บอก techniques มาให้ แต่ถ้าพื้นฐานอ่อน บอกไป เราก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ก็เลยอ่านเองเป็นหลัก แนะนำหนังสือ GRE/GMAT MATH ของ ARCO มันเหมาะกับคนไม่เก่งเลขมากๆ เพราะปูพื้นฐานตั้งแต่ต้นค่ะ ถ้าจะไปเรียนสายศิลป์เหมือนเดิม เลขแค่ให้เอาให้เกิน 650 ก้หยวนแล้วค่ะ ไม่ต้องไปให้ได้เกิน 700++ เหมือนพวกสายวิทย์เค้า มาฟิตทาง verbal ให้ได้สูงๆจะดีกว่าค่ะ (สูงๆที่ว่า แค่ให้เกิน 450 ก็หรูแล้วสำหรับนักเรียนต่างประเทศที่ไม่ใช่ จีน กับอินเดีย) จากคุณ : zizzi - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ได้มาขายของนะครับ แต่ผมเขียนไว้ในบลอกแล้วครับ ลองอ่านดูครับ หัวข้อ TOEFL + GRE จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 14:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สู้ตายค่ะ กะว่าจะสอบซักปลายสิงหาอ่ะค่ะ /// คหที่ 9 เดี๋ยวเข้าไปอ่านบลอกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : sixteembm88 (sixteenbm88) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 IBT ของเรา เอาคะแนนเฉลี่ยสองครั้งประมาณ 80 กว่าๆอ่ะ รอบแรกประมาท ต้องสอบใหม่อีกรอบอ่ะ รอบแรกได้ เกือบ 80 เอง จากคุณ : SFP (SFP) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากได้ซัก 80-100 แต่ไม่รู้ว่าจะได้มั้ย T_T จากคุณ : sixteembm88 (sixteenbm88) - [ วันเนา (14) 08:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราอยากได้ 100+ อะตัวเอง มาสู้ด้วยกันซักทีนะพี่น้อง จากคุณ : Living Extreme - [ วันเนา (14) 08:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถูกต้องนะคร๊าบบบ สู้ๆ จากคุณ : sixteembm88 (sixteenbm88) - [ วันเนา (14) 15:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คาดว่าคะแนน TOEFL iBT ของคนไทย ในระดับ Bachelor กับ Master (ที่ไม่ใช่ Law หรือ Social Science ที่ควรจะเหยียบ 100+ นะ) Range น่าจะอยู่ที่ประมาณ 80-90 ต้นๆ อ่ะคะ...แต่รู้สึกสำหรับ Speaking นี่ ได้เกิน 22-23 ก็เริ่ดแล้ว -_-" แต่อยากจะบอกว่า จริงๆแล้ว คะแนน TOEFL มีผลแค่สำหรับ Screen เด็ก "ทิ้ง" น่ะค่ะ คือ เป็น Preliminary ขั้นต้นของทาง Undergrad/Grad Admission ส่วนกลาง ที่เหมือนตาข่ายคอยดักไว้ ก่อนปล่อยไปให้ทาง Deapartment ย่อยอีกที...เพราะฉะนั้น การได้ TOEFL สูงกว่า Requirement มากๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะเป็นตัวเลือกที่เด่นกว่า (ยกเว้นอย่างที่บอกนะคะ ถ้าเรียนด้านกฎหมาย, Soc Sci. หรือ Linguistic ที่คะแนนภาษามีผลโดยตรง) เท่านั้นเอง ส่วน GRE ถ้าอยากเข้าพวก 1st-Tier ขั้นต่ำ Verbal + Math เกิน 1200 ไว้เป็นดี...Verbal ต้องเข็นให้ผ่าน 400 ให้ได้ (หลายคนได้ Math เต็ม แต่ Verbal 300 กว่าๆ เห็นแล้วเสียดายแทน) ส่วน Math เด็กไทยคะแนนสูงอยู่แล้ว 650+ แต่พยายามเล็งไว้ที่ 700...ส่วน Analytical Writing เฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 >> ถ้าได้ 4.0 ก็แจ่มค่ะ จากคุณ : WaRPer - [ วันเนา (14) 17:35:38 ]