ความคิดเห็นที่ 1 อิฉาค่ะ เราได้เงินใช้น้อยกว่าคุณอีก ส่งไปให้ทางบ้านไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ ที่ส่งไปก็ให้แม่เอาไปจ่ายค่างวดรถเรา และก็ค่าอินเทอร์เน็ตที่ไทย ไหนจะค่า กู้เงินเรียนอีก ............................ เงินที่สามีให้ก็เอาไว้ซื้อกับข้าวและ ใช้จ่ายส่วนตัว เราคิดว่า ก็พอรอดได้ ไม่ลำบาก ถ้าไม่อยากได้โน้นได้นี่ เราว่าคุณก็ได้ตังค์ใช้เยอะนะค่ะ เยอะกว่าแม่บ้านอย่างเรา อิจฉาค่ะ คนญี่ป่นทำงานจะได้สักเท่าไหร่กันเชียว เจียอดให้ภรรยาแล้วต้องจ่ายค่า น้ำไฟแก๊ส อีก ตอนนี้เราปลงคิดได้แล้ว เรื่องเงิน บอบบางมากๆ สามีเราก็โกธรเหมือนกัน เราขอเพิ่มแค่ พันเยน สามีว่า ตั้ง สามร้อยบาทแหนะ อิอิ คุณโชคดีค่ะ ที่ได้สามีรวย อิจฉาอีกครั้ง จากคุณ : My life in Japan. - [ 19 เม.ย. 51 08:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ได้เงินเดือน สิบห้าใบ ค่ะ สำหรับค่ากับข้าวและ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของสามคนพ่อแม่ลูก(แต่บางเดือนแอบจิ๊กให้พ่อแม่ที่ไทยบ้างเป็นบางโอกาสค่ะ) ค่าน้ำค่าไฟและอื่นๆสามีจ่ายค่ะ จากคุณ : Tottoro - [ 19 เม.ย. 51 08:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราเปล่าเป็นแม่บ้าน แต่พยายามจัดค่าใช้จ่ายของตัวเองอยู่ไม่กินวันละ 2000 เยน และในหนึงสัปดาห์ไม่ให้เกินหมื่นเยนค่ะ จะได้พอมีเงินเก็บบ้าง เราว่าเงินที่สามีคุณให้ก็ไม่น้อยนะ... 40000 บาทนี่ก็แสนกว่าเยนแล้ว แถมยังให้ 50000 เยนใช้แค่ 15-17 วัน - -"  คิดว่าเยอะอ่ะ เราพยายามประหยัดหลายๆ ทาง ทำข้าวกล่องไปกินที่มหาลัยทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : แพนด้าหน้าใส - [ 19 เม.ย. 51 09:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราว่าสองหมื่นบาทนี่เยอะแล้วนะคะ  สามีเราส่งให้แม่เราเดือนละหมื่น ใช้คนเดียว เราถือว่าพอแล้ว ไม่ต้องการเพิ่ม ข้าราชการบางคนเงินเดือนเหลือไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ กินทั้งครอบครัวอีกต่างหาก เรื่องเงินเดือนจะว่าให้ก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ให้ก็ไม่เชิง เพราะเราใช้เงินในกระเป๋าสามีเลย เงินอยู่กับเขา แต่การตัดสินใจซื้อของทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราบอกไม่ได้ เขาก็ไม่ซื้อ   ครอบครัวทางนั้นก็สำคัญ ครอบครัวทางนี้ก็สำคัญ  ตัวเราก็ต้องเป็นกลางด้วย ไม่ลำเอียง อะไรที่มากไปก็ไม่ดี ต้องพิจารณาด้วยตัวเอง   สิ่งที่ผู้ชายไม่ชอบ คือความไม่รู้จักพอ  เขาจะคิดเอาได้ว่าแม่คุณขอเพิ่ม ถ้าเกิดเขารู้สึกไม่ชอบแม่คุณขึ้นมาคนที่ลำบากใจที่สุดคือคุณนะคะ ตอนนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็แย่ อะไรก็แพง ค่าใช้จ่ายทางนี้ก็เยอะ เห็นใจสามีด้วยนะคะ  คิดซะว่าสามีคุณเขาก็ทำดีที่สุดแล้ว จากคุณ : น้องหนูจิ๋ว - [ 19 เม.ย. 51 09:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ แพนด้า ไม่ใช่ 20,000 บาทหรอ คือของแม่ 10,000 +ของลูก 10,000 บาท รวมเป็น 20,000 บาท ดูจากที่คุณ เล่ามา มันก็ไม่น้อยนะ ถือว่าเยอะเลยหล่ะ ส่งให้ทางบ้านคุณ เดือนละ 20,000 บาท เป็นเงินเยนประมาณ 60,000เยน ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถ ค่าประกัน จิปาถะ ที่เขาต้องรับผิดชอบ 50,000เยน 15-17 วันนี่ เยอะมากก ขนาดเราเที่ยว กิน กัน สองคน ที่เหลือๆๆเลย แบบว่าไม่เกี่ยวกับซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยนะ คือ ค่ารถ ค่าอาหาร แบบที่จำเป็น คุณ มีลูก ติดจากสามีเก่า ใช่ไหมคะ?ถ้าใช่ มันก็พูดยาก และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่คุณ จะนั่งคุยกันด้วยเหตุ ต่างๆๆที่มี และหาทางออก ที่ดีที่สุด เอาใจเขามาใส่ใจเรามาก การที่เขามีภรรยา เลี้ยงภรรยาคนเดียว ยังไม่เท่าไหร่ แต่ต้องมีจ่ายแบบนี้รายเดือน ทุกๆๆเดือน คนทำงาน กลับไม่ได้ใช้เงิน นี่เหนื่อยมากๆๆเลยนะ คุณ พอทราบเงินเดือน ของสามีในแต่ละเดือนไหม...เอาแบบหักโน่นนี่แล้วเหลือให้ ใช้หน่ะค่า เพราะบางคน ไม่ทราบ ทราบแต่ยอดเงินเดือน แบบยังไม่หักค่าใช้จ่าย บางที่มันดูเหมือนเยอะมากก แต่ที่จริงไม่เยอะหรอก ของเรา ไม่มี ให้รายเดือนหรอก เงินใช้ ด้วยกัน ช่วยกันหา ช่วยกันใช้ 555 อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากไปไหนก็ไป เพราะยังไม่มีลูก แต่ที่กล่าวมา คือใช้แล้ว ไม่เดือดร้อน คือต้องมีเงินจ่ายค่า ใช้จ่ายหลักๆๆ และเงินส่งประกัน และต้องมีเงินติดบัญชี แค่นั้นเอง ส่วนทางบ้านเราไม่ได้ส่ง เป็นรายเดือน ถ้าไปถึงจะให้ แต่ก็ไม่ได้ให้เยอะหรอกให้ใช้ไว้ซื้อของที่เขาอยากซื้อนิดๆๆหน่อย จากคุณ : maguro - [ 19 เม.ย. 51 09:30:32 A:210.131.4.144 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เงินเดือนของสามีประมาณ๒๐๐๐๐๐กว่าบาท เมื่อก่อนเขาเคยบอกเรา[ มีบริษัทรับเหมาของตัวเอง]เราเพียงแต่น้อยใจว่าเวลาเขากับกินเหล้าหรือกินข้าวกับเพื่อน[ส่วนมากเขาจะจ่าย]๒๐๐๐๐เยนบ้าง๓๐๐๐๐เยนบ้าง มันไม่ใช่นานๆครั้งแต่มันบ่อย และบางทีเวลาเขาโมโหเราทำอะไรไม่ถูกใจ เขาก็จะทิ้งกับข้าว ซึ่งเราไม่สามารถพูดได้ มีอะไรอีกหลายอย่างที่มันทรมาน อะไรก็ไม่ได้เลย จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ - [ 19 เม.ย. 51 10:12:54 A:210.149.120.125 X: TicketID:173616 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ๕๐๐๐๐เยนคือรวมค่าเบียร์ที่เขาดื่มทุกวันและรวมค่าข้าวที่ออกไปกินข้าวข้างนอกกัน๒คนแล้วมันจะไปพออะไร ไม่เหลือก็ว่าเราแถมกินแต่ของแพงๆ เราอยากทำงานช่วยเหลือเขา แต่เขาไม่ยอม เราจะออดไปไหนก็ไม่ได้ เขากลัวเราหนี เพราะเขารับรอง แม้แต่วีซ่าเขายังฉีกการเข้าออกประเทศไทย-ญี่ปุ่น เราไปทำมาใหม่แล้วแต่เขาไม่รับรองว่าทางตร.จะผ่านหรือเปล่า พอมีใครช่วยแนะนำงานให้บ้าง งานลางจานก็ได้ ทำตอนกลางวัน ที่yokkaichiหรือ ใกล้ถานีรถไฟnagoyaก็ได้ ช่วยแนะนำหน่อยน่ะค่ะ จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ - [ 19 เม.ย. 51 10:48:10 A:210.149.120.125 X: TicketID:173616 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สามีคุณจขกท เงินเดือนก็มากพอสมควร การกินเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนฝูงอาจจะเพื่องานหรือเปล่า สังคมญี่ปุ่น เพื่อนมาก งานมากตามมา เหมือนเป็นการลงทุนทางหนึ่ง เหมือนคนพวกซาโจ้ที่ต้องเล่นกอล์ฟเพื่อหางาน ไปคุยเรื่องงานในสนามกอล์ฟ สามีคุณอาจจะคุยเรื่องงานหางานจากวงเหล้า และเป็นเรื่องของหน้าตาเขาด้วย คนเป็นหัวหน้าคนจะให้ใจแคบ ไม่เลี้ยงดูใครเลย ก็ไม่มีใครอยากคบ ดูด้วยว่าที่เขาใช้เงินในการกินเหล้า มาจากสาเหตุนี้หรือเปล่า เรื่องเจ้าอารมณ์ วางตัวเป็นศูนย์กลางของบ้าน เป็นธรรมดาของผู้ชายญี่ปุ่น และยิ่งเป็นผู้ชายที่กินเหล้ายิ่งเป็นมากใหญ่ เรียกว่าคุณก็ต้องได้อย่างเสียอย่าง คุณได้สามีที่อุปการะเลี้ยงดู รับผิดชอบครอบครัวทั้งไทยทั้งญี่ปุ่น ก็นับว่าโชคดีกว่าอีกหลายๆคน ชีวิตการเป็นแม่บ้านญี่ปุ่น บางอย่างก็ต้องใช้ความอดทน เรียนรู้และปรับตัวให้ได้ เอาความดีของเขามาชั่งดู ระหว่างความไม่ดี อย่างไหนมีมากน้อยกว่ากัน ถ้าไปหาใหม่จะได้แบบนี้ไหม อะไรที่ไม่ถูกใจ ก็พูดจากันให้เข้าใจ ถ้าเขาถือตัวเป็นใหญ่ บังคับจิตใจจนเกินไป ก็เปิดใจให้เขาฟัง ถ้าเขายังไม่ฟัง และเราไม่มีทางไป ก็ต้องหาทางผ่อนหนักให้เป็นเบา หาเพื่อนฝูงที่ไว้ใจได้ พูดคุยระบายความในใจ เรื่องเงินเดือนแม่บ้านคนอื่นเท่าไหร่นั้น ก็คงแล้วแต่ละบ้าน มีรายได้ รายจ่ายเท่าไหร่ ที่สามีสามีจัดสรรให้เราได้ การครองชีพที่ญี่ปุ่น มีเหตุจำเป็นต้องเสียเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หลายอย่าง เช่นภาษี และการประกันสุขภาพ เงินที่คุณบอกมา ก็นับว่าสามีคุณให้คุณมากพอสมควร ไปทำงานเองจะได้เท่านี้หรือเปล่า คิดดูให้ดี จากคุณ : พนอจัน - [ 19 เม.ย. 51 10:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เงินเดือนขนาดนี้ ยัง อยากทำงาน ขยันจังเลยค่ะ เป็นเราๆคงไม่ทำใช้เงินอย่างเดียวเลย จากคุณ : My life in Japan. - [ 19 เม.ย. 51 10:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอห้าหมื่นเยนครึ่งเดือน เดือนนึงแสนเยน ไม่พอหรอคะ อยู่สองคนหรือป่าวเอ่ย ฉันสามคนสิบห้าใบ เดือนนึงยังเหลือเก็บอีกนะคะ (แต่สามีไม่ดื่มเหล้า) เป็นกำลังใจให้แล้วกันค่ะ จากคุณ : นานาจิตตัง (Tottoro) - [ 19 เม.ย. 51 11:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องเงินเรื่องทองเป็นเรื่องเซนซิทิฟ ต้องค่อยๆคุยกันนะคะ สมัยทำงานที่ไทยก็ช่วยคุณพ่อเดือนละ 3 พันค่าใช้จ่ายในบ้าน (แม่กับน้อง ชายก็ช่วยพ่อคนละ 3 พันเหมือนกัน ทุกคนมีงานประจำของตัวเองหมด) ค่า ใช้จ่ายอย่างอื่นพ่อรับผิดชอบหมด แต่ก็มีบ้างที่เวลาทานข้าวนอกบ้านกับพ่อ 2 คน ดิฉันเลี้ยงพ่อ (มื้อถูก หน่อย) พ่อเลี้ยง (ส่วนใหญ่) ดิฉันตั้งแต่ออกเรือนมาไม่เคยส่งเงินให้บ้านทางไทยเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะซื้อ เป็นของให้มากกว่า เพราะกลัวว่าหากให้ปุ๊บ เราจะหยุดไม่ได้ เพราะเหมือน กับเป็นcommitmentกับครอบครัวทางโน้น แล้วก็ไม่เคยคิดจะขอเงินสามีส่ง ให้ทางบ้าน เพราะคิดว่าหน้าที่ดูแลพ่อแม่เรา คือ หน้าที่เรา ไม่ใช่หน้าที่สามี เรา เรื่องเงินเดือนจากสามี ดิฉันกันเงินที่สามีให้เก็บได้เดือนละ 7 หมื่นเยน (ไม่ ขอบอกว่าได้เท่าไรนะคะ) ด้วยความที่เป็นคนชอบเก็บตังค์ จะมีความสุขที่ สุดเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีเงินฝากเพิ่มขึ้น บวกกับตอนก่อนทำIVF ก็ทำงาน นอกบ้าน ก็เก็บเงินเดือนตัวเองเหนียวแน่น ไม่เคยเอาแชร์ค่าใช้จ่ายในครอบ ครัวเลย จนกระทั่งสามีได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ไม่มีค่าโอทีในการทำงาน ถึงจะ ได้เงิบประจำตำแหน่งมากกว่าเดิม แต่รวมเบ็ดเสร็จแล้ว รายรับต่อเดือนน้อย ลง ถึงรายรับต่อปีคำนวณดูแล้วเท่าเดิม (เพราะโบนัสสูงขึ้นตามฐานเงิน เดือน) แต่ว่าค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนต้องรัดกุม รอบคอบ และประหยัด ดิฉันเคยถือวิสาสะเปิดดูกระเป๋าตังค์สามี เงินสลิปบัตรเครดิตที่สามีไปกดขอ advanceเงินสดออกมาใช้ล่วงหน้าประมาณ 8 แสนเยน ดิฉันตกใจมาก ขอ คุยกับสามีตรง ๆ เลย เค้าบอกว่าตั้งแต่ได้เลื่อนตำแหน่ง รายรับแต่ละเดือน ลดลง...แต่เค้าก็ยังรับภาระค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม เค้าไม่กล้าที่จะลดเงินเดือน แต่ละเดือนที่ให้ดิฉัน เพราะทนไม่ได้กับคำพูดที่ดิฉันชอบพูดว่า "เดี๋ยวนี้ จนๆๆๆ" ก็เลยคิดว่าหากได้โบนัสมา จะรีบเอาเงินไปตัดจ่าย ดิฉันร้องไห้เลย...หลังจากคิดใคร่ครวญอะไรต่าง ๆ การadvanceเงินสดจาก บัตรเครดิตมาใช้ก็ต้องเสียดอกเบี้ยทุกวัน ดิฉันจึงตัดสินใจเอาเงิน 1 ล้านเยน ของตัวเองที่เตรียมไว้จะเอากลับไปแลกเงินฝากที่ไทย ให้สามีเอาไปตัดหนี้ ส่วนนี้เสีย พร้อมกับบอกสามีว่า หากมีอะไรก็บอกกันตรง ๆ จะได้ช่วยกันคิด แล้วนับจากวันนั้น ดิฉันก็ขอลดเงินเดือนตัวเองลง มันจะมีประโยชน์อะไร หากเรามีเงินเก็บมากมาย ในขณะที่สามีมีหนี้สินขนาดนี้ แล้วดิฉันก็เริ่มทำ รายรับรายจ่ายประจำเดือนของบ้าน (kakeibou) *แต่ช่วงท้องหยุดไปเพราะ ค่อนข้างแพ้ท้อง แล้วสามีก็จ่ายตลาดบ้าง* ขอบอกก่อนว่าเงินเดือนที่ได้จากการทำงานของดิฉันไม่ได้มากมาย และเงิน เดือนที่สามีให้แต่ละเดือนก็ไม่ได้มากมาย แต่ดิฉันเป็นคนเขียม และไม่มี ภาระทางเมืองไทย ตอนตัดสินใจซื้อบ้านที่ญี่ปุ่น ดิฉันก็เอาเงินเก็บของตัว เอง 4 ล้านเยนช่วยเป็นค่าดาวน์บ้านด้วย ที่เขียนมาอาจจะไม่เกี่ยวกับที่คุณจขกท.ถาม ดิฉันแค่อยากจะบอกว่า การ เป็น"คู่ผัวตัวเมีย"กัน เราควรเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา หากเราได้สามีที่ดีดังพ่อ พระก็ถือว่าเราโชคดี ทำบุญมาดี สามีเอาใจใส่เราและเผื่อใจดูแลครอบครัว เราด้วย ก็ถือว่าเค้าเป็นคนดีที่สุดแล้ว ฉะนั้นจะทำอะไรควรคิดให้ลึก ๆ ผัว เมียมันเป็นคน ๆ เดียวกันค่ะ เราเจ็บ สามีก็เจ็บ สามีทุกข์ เราก็ทุกข์ เราสุข สามีก็สุข พยายามคิดถึงจิตใจสามีให้มาก ๆ จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 51 11:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สามีคุณ เจ้าของกระทู้ มีบริษัทรับเหมาของตัวเอง ซึ่งแน่นอน อยู่แล้วที่ต้องจ่าย เวลา มีไปกินที่ไหน ยิ่งกับลูกน้อง เพราะถือว่าอายุมากและยังเป็น หัวหน้า หรือจ่ายเพื่อหน้าตา หน่ะ ธรรมเนียมญี่ปุ่น จริงๆๆ แต่ถ้า เป็นระดับเพื่อน แฟนเราเขาจะหาร กันมากกว่า และบางทีเวลาเขาโมโหเราทำอะไรไม่ถูกใจ เขาก็จะทิ้งกับข้าว ซึ่งเราไม่สามารถพูดได้ มีอะไรอีกหลายอย่างที่มันทรมาน อะไรก็ไม่ได้เลย ****พอนึกภาพออกแระ ต่างคนต่างคิด แบบนี้เขาเรียกคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากหรือเปล่า.... อย่างเรา อายุ ห่างกันไม่เยอะ มีอะไรจะนั่งคุยกันตลอด อะไร ชอบไม่ชอบ แต่ถ้า คนที่มีสามี อายุเยอะกว่ามาก และชอบวางตัวเป็นใหญ่ ออกแนวข่มๆๆ เราว่าคุยกันยากหน่อย แต่ก็ลองดูนะ เผื่อ เขาจะปรับตัวบ้าง ส่วนคุณ เจ้าของกระทู้ก็ อดทนลองดูอีกหน่อย ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ต่างบ้านต่างเมืองมาอยู่ต้องใช้ความอดทน และความเข้าใจกันมากๆๆ ก็ขอให้หาทางออก ที่ดีที่สุด นะคะลองชั่งดูว่าอยู่กันเพราะอะไร ถามเขา ถ้ารักกัน ต้องปรับตัวได้ และ คุณ เจ้าของกระทู้ ก็อย่าน้อยใจไป เรื่องเงิน เบาๆๆหน่อย ก็คงดี รอให้อะไรลงตัว จะส่งให้แม่ทีละเยอะๆๆ เขาคงไม่ว่า ไม่กล้ามาบ่น เรื่องเงิน หาซองใส่ เวลาไปกินข้าว ข้างนอกก็มี งบแค่นี้ยื่นซองให้เขาดู เบียร์ ก็เน้นถูกๆๆ เข้าไว้ 555ถ้าแพง ก็ ป๋องเล็กๆๆพอ บอกกลัวตังค์ไม่พอ หรือกลัวตังค์ไม่เหลือพอ 15วัน นาโกย่า คนไทยอยู่เยอะนะ ขอให้หางานได้ไวๆๆ แต่อย่าหลบไปทำหล่ะ เดี๋ยวสามีคุณ จับได้ จะแย่ไปอีก หาเบอร์ สถานฑูต และเบอร์บ้านพักฉุกเฉิน ไว้ เผื่อเขาโมโห และ ทำร้ายร่างกาย จะได้มีทีไปหลบ อาเหมียว เงินเดือนเยอะ ขนาดนี้ แต่ให้พี่ไปอยู่แบบนั้น พี่ก็ไม่อาววว คุณ อะไรก็ไม่ได้ มาต่อ 6-7 พี่นึกภาพออกทันที ให้พี่เดือนละหลายๆๆแสนก็ไม่อาว เอามาก็ไม่มีความสุข มันทรมานนะ ถ้าคนที่เคยหาเงินได้ แล้วต้องมานั่งขอ แบบนี้ ถ้าสามีให้ ด้วยความเต็มใจ ก็อีกเรื่องนึง จากคุณ : maguro - [ 19 เม.ย. 51 11:54:12 A:210.131.4.176 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ fudge พูดมาเห็นภาพเลย ผู้ชายญี่ปุ่น เขาไม่ค่อยพูด ที่บ้าน เมื่อก่อนก็เป็น แต่ตอนนี้ หายแล้ว ใช้ไม่เดียวกับคุณ fudge อิอิ และกระเป๋าตังค์ เปิดเช็คเงิน ทุกวัน เพราะต้องหยิบเงินใส่ให้ไปทำงาน สมุดบัญชี ก็ ต้องอัพตลอด มีรายการไหนน่าสงสัย ถามทันที จากคุณ : maguro - [ 19 เม.ย. 51 12:06:24 A:210.131.4.176 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณกุ้ง ปกติฟัดจ์ไม่เปิดกระเป๋าสามีนะคะ ถือว่าเป็นของใช้ส่วนตัว เค้าก็ไม่ เปิดกระเป๋าเราด้วย มันเป็นprivacyของใครของมันน่ะ ตั้งแต่แต่งงานกันมา จะเข้าปีที่ 8 เนี่ย เปิดกระเป๋าสามีไม่เกิน 5 ครั้งได้ (ส่วนใหญ่อยากรู้ว่าเค้ามี ตังค์เหลือติดกระเป๋ามากน้อยเท่าไหร่) แต่สามีไม่เคยเปิดกระเป๋าฟัดจ์เลย ขนาดมือถือมีสายเข้า ยังไม่รับแทนกันเลย ได้แต่เอามือถือไปให้เจ้าตัวรับ แทน ยกเว้นเราจะบอกให้เค้ารับให้หน่อยเพราะไม่ว่าง หรือจะถามเค้าว่ารับ ให้เอาไหม จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 51 12:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอขอบคุณสำหรับทุกข้อความน่ะค่ะ ความดีของเขาก็มีที่รับผิดชอบครอบครัว แต่ความโหดร้ายที่เราไม่สามารถพูดได้ เมื่อก่อนเราทำงานตลอดไม่เคยหยุดอยู่กับที่ตั้งอายุ๑๓ปีจนกระทั่งมีบุตร เรารับผิดชอบต่อครอบครัวมาตลอดไม่เคยขาดสาย(เมื่อก่อนเราให้ครอบครัวเช่นนี้เหมือนกัน)เราตัดสินใจแต่งงานแต่พอมาอยู่แล้วมันไม่เหมือนเดิมกับยิ่งแย่[[โทรศัพท์ของเรายังพังเลยเขาทำลายทุกอย่างแต่เราใจเย็นน่ะ เราจะอยู่ห้องพระตลอด เราจะไม่พูดกับเขาจนเขาสำนึกได้]] พูดถูกน่ะค่ะ ตอนนี้ก็เหมือนกับขอเงินเขาใช้ ทุกๆเดือนกลัวว่าเขาจะไม่ส่งเงินไปให้ที่บ้านใช้(เวลาเขาโกรธ)[ ที่ขอเงิน10000เยนเขาเพิ่มในเดือนนี้ก็เพื่อส่งเงินไปให้แม่ซ่อมแซมบ้านเมื่อ๒วันก่อนพายุเหมือนกับแผ่นดินไหวที่กทม.(อยู่แฟตลค่ะ)แล้วเพดานฟ่าตกลงมาทั้งหน้าบ้านหลังบ้านและห้องน้ำมันพังหมด(เกือบทุกห้อง ต้นไม้ใหญ่ยังพังมา)ซึ่งไม่เคยเป็น เราอธิบายให้เขาฟัง เปิดพจนานุกรมพูด พอเขาฟังแค่นี้ก็เป็นเรื่องใหญ๋ [คนฟังกับคนโดนกระทำมันยากที่จะอธิบาย เขาทำกับเราเหมือนเราเป็นผู้หญิงกลางคืนทุกอย่าง]ยังมีอีกมากมาย กลัวจะรับไม่ได้ นี่แหละชีวิตลูกผู้หญิงที่ต้องอดทนเพื่อลูก จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ - [ 19 เม.ย. 51 13:22:57 A:210.149.120.125 X: TicketID:173616 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เงินที่ จขกท ได้จากสามีก็ไม่ได้น้อยนะคะ ถ้าประหยัดใช้ก็จะมีเหลือเก็บด้วย แค่นี้ก็ถือว่าสามีจขกท มีน้ำใจกับครอบครัวที่ไทยพอสมควร การที่สามีเลี้ยงเพื่อน สังสรรค์ เราคิดว่านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน หน้าตาของสามีด้วย อย่าคิดว่าเค้าใช้เยอะ เราใช้น้อย เป็นครอบครัวกันแล้วต้องเห็นใจกัน สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว การที่อยากให้เค้าให้อะไรเรา เราต้องทำให้เค้าก่อน สมมุตินะคะ ลองเก็บเงินจากค่ากับข้าวเดือนละนิดละหน่อย เอาไว้ซื้อของที่สามีกำลังอยากได้ให้สามี รับรองว่าสามีคุณจะต้องดีใจแน่ๆ เค้าอาจจะรู้สึกได้ว่าคุณเองก็คิดถึงเค้า คิดที่จะให้เค้าเหมือนกัน การสร้างครอบครัวอย่าคิดว่าทน เพราะถ้าทนก็จะรู้สึกทุกข์ มีอะไรก็มาระบายที่นี่แหละค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 13:45:48 จากคุณ : ลายตา - [ 19 เม.ย. 51 13:42:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นกระทู้แล้วตกใจ ใช้ชื่อเหมือนกัน   ตอนนี้กำลังบ่นให้สามีค่ะเพราะเขาใช้เงินเยอะเกินให้สามีอาทิตย์ละ5 พันเยน ไม่รวมค่าบุหรี่ ค่ารถไฟ  ค่าดื่มสังสรรค์  แต่ก็ยังขอเงินอีก  เป็นคนเก็บเงินเดือน ไ่ม่ได้ส่งเงินไปให้แม่เพราะที่เมืองไทยพ่อ แ่ม่ พี่ และน้องทุกคนมีรายได้ไม่เดือดร้อน  ก็จะเก็บเงินไว้สร้างครอบครัวตัวเองเพราะยังไม่มีบ้าน จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ - [ 19 เม.ย. 51 13:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 15:15:21 จากคุณ : NeneShin - [ 19 เม.ย. 51 15:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณลายตาและทุกๆข้อความค่ะ ดิฉันซื้อของและทำเซอร์ไพร์เขาตลอดเวลา[surprise] เขารู้สึกประทับใจและดีใจ(ชั่วครู่เท่านั้น) ทุกใบเสร็จทุกบาททุกสตางค์เขาดูตลอดและจะเอาเงินที่ไหนแอบเก็บค่ะ แต่ถึงยังงัยยังต้องพึงพาอาศัยเขาอยู่ ดิฉันก้าวเข้ามาแล้วยังงัยก็ไม่ถอยหลังกลับอย่างแน่นอน สู้ต่อไป สู้สู้ ขอขอบคุณคนและทุกข้อความน่ะค่ะ ขอโทษน่ะค่ะทีชื่อซ้ำกันดิฉันไม่ทราบจริงี่ใช้ตรงนี้คือความรู้สึก ณ ตอนนี้ ขอโทษจริงๆค่ะ ขอโทษ จากคุณ : kkk - [ 19 เม.ย. 51 15:39:31 A:210.149.120.125 X: TicketID:173616 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านทุกความเห็นก็แตกต่างกันไปนะค่ะ อย่างที่ทุกท่านแนะนำไป เราตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ เป็นสามีภรรยากันแล้ว มีอะไรก็พยายามผ่อนหนักเป็นเบาค่ะ มีอะไรก็คุยกันดี ๆ เห็นใจเค้าด้วยค่ะเพราะค่าใช่จ่ายที่นี่เยอะจิง ๆ ถือว่ายังดีนะค่ะที่เค้าอุตส่าส่งเงินให้ที่ไทยด้วย รับผิดชอบทางนี้อีก แต่นิสัยบางอย่างอาจจะรับไม่ได้ แต่ลองบวกลบกันดูค่ะ พี่ฟัจด์พูดได้เห็นภาพเลยค่ะ เป็นครอบครัวที่น่ารักจัง ภรรยาแสนดีอย่างนี้ ของดิฉันไม่ได้เท่าทุกคนหรอกค่ะ เมื่อก่อนได้แค่ 20000 เยนค่ะ ตอนนี้ก็ยังเท่านั้นอยู่ค่ะ น้อยลงเหลือแค่ 10000 เยนอีกเพราะมีภาระต้องผ่อนสามีค่ะ ฟังดูอาจจะทำไมได้น้อยจังพอใช้เหรอค่ะ ตอบได้ว่าพอค่ะ ดิฉันไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงินเลย และเป็นคนไม่ใช้จ่ายแต่งตัวเยอะ แค่ชื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ เงินแค่นี้ถ้าเทียบให้กับสิ่งที่สามีให้กับดิฉันและครอบครัวที่เมืองไทยดิฉันว่า ไม่ให้เลยก็ไม่เป็นไร เพราะเค้าซื้อรถแท็กซี่ป้ายแดงให้พ่อใหม่จะได้ทำมาหากิน น้องชายมีรถขับไปเรียนเนติฯ และเค้าตัดสินใจชื้อบ้านที่ไทยให้อีก ทั้งที่ดิฉันอยากได้แค่ทาวเฮ้าธรรมดา แต่เค้าบอกซื้อให้ลูกหลังใหญ่ ๆ จะได้วิ่งเล่นได้ ดิฉันก็ไม่เคยน้อยใจเลยที่ได้เงินน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่น และไม่เคยขอเพิ่ม อยากได้อะไรดิฉันจะบอก เค้าก็จะชื้อให้ และดิฉันก็ไม่เคยส่งเงินกลับบ้านเลยสามีก็ไม่ได้ให้ ให้ทีก็คือเงินเก็บที่ทำงานพิเศษที่บ้านเอง กลับไทยทีดิฉันก็ให้พ่อแม่น้องหมดค่ะ ไม่มีเหลือเก็บ พ่อแม่ก็ไม่เคยร้องขอเพราะท่านก็ทำมาหากินพอได้ค่ะ ถึงจะไม่ได้มากมาย ที่ดิฉันเล่ามา ไม่ได้เพราะอยากอวดอ้าง ว่าสามีดี รวย อะไรนะค่ะ สามีดิฉันก็มนุษย์เงินเดือนธรรมดานี่แหละค่ะ แต่เพราะเค้ารักเมืองไทย อะไร ๆก็อยากได้ไว้ที่ไทย ดิฉันก็ไม่เคยร้องขอว่าอยากได้โน่นนี่เลยค่ะ เมื่อก่อนอยากได้โน่นนี่ แต่ตอนนี้อะไร ๆ ก็เฉย ๆ ปล่อยวาง แต่ละคนมีข้อดีเสียแต่งต่างกันไปค่ะ  ถ้าคุณๆม่สบายใจเรื่องเงินที่เค้าให้มา ลองคิดว่าดิฉันได้เดือนละ10000 เยนยังไม่เป็นไรเลยค่ะ โทษทีนะค่ะพูดเรื่องของตัวเอง แต่เพราะอยากให้คุณเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของแต่ละคนน่ะค่ะ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่เผื่อคุณจะสบายใจขึ้นนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 51 16:57:38 จากคุณ : หนูริวจัง - [ 19 เม.ย. 51 16:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว คิดๆไปแล้ว อยู่แบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ เนอะพี่ maguro แม้สามีจะ เค็มหน่อย แต่เขาก็ไม่เคยทำร้าย จากคุณ : My life in Japan. - [ 19 เม.ย. 51 16:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เหรียญ มี สองด้าน เหมียว ไม่น่า อิจฉาพี่ อะไรก็ไม่ได้ ( นาโกย่า ) เลย พี่สู้ๆนะค่ะ จากคุณ : My life in Japan. - [ 19 เม.ย. 51 17:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณจขกท.ลองลดความเซอร์ไพรส์ดูดีมั้ยคะ เพราะหากดิฉันเป็นสามีคุณ ดิฉันอาจจะคิดว่าคุณกำลังใช้กุ้งฝอยตกปลากะพงก็ได้ คือวันหนึ่งใจดีซื้อ ของมาให้ แต่อีกวันหนึ่งแบมือขอเงินที่มากกว่ามูลค่าของที่ซื้อมาให้ ดิฉันว่าคคห.ของเพื่อนๆ ข้างบนดีมากๆๆๆเลย คือ คุณไม่ต้องขอเงินสามี เพิ่ม เพียงแต่บริหารเงินเดือนที่สามีให้ ให้พอเหมาะกับความต้องการและ ความจำเป็นส่วนตัว หากดิฉันเป็นคุณ ดิฉันคงจะมีเงินเก็บจากค่าขนมที่สามีให้ต่อเดือนสัก 3 หมื่นเยนค่ะ แต่เอ๊ะ...เงินเดือนของคุณนั้นรวมถึงภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน เช่น ค่ากับข้าว/ค่าน้ำ-ไฟ/ค่าแก๊ส/ค่าโทรศัพท์/ค่ามือถือ/ค่าเนต/ค่าเทอมลูก/ค่า กินนอกบ้าน ฯลฯ หรือเปล่าคะ หากเป็นเช่นนั้นก็ขออภัยค่ะ คงไม่มีเก็บแน่ นอน ปล. เนเน่จัง ลบคคห.ทำไมเหรอ ออกจะเขียนได้ข้อคิดดี จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 51 17:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณคนข้างบนนี่ สามีรักตายเลย ผมว่าสิ่งที่แม่บ้านไทยควรทำคือรีบๆ เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นให้เป็นเร็วๆ เพราะถ้าคุณอยู่แต่ในบ้านไม่คิดเรียน คุณ จะไม่โอกาสออกไปแบ่งเบาภาระสามี เพราะงานที่จะให้แม่บ้านออกไปทำ ในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นเกือบทั้งนั้น แม้แต่งานในร้านอาหาร ไทย  ขนาดแม่บ้านญี่ปุ่นยังต้องไปรับพาร์ทไทม์มาทำ แม่บ้านไทยก็ไม่ควร นั่งใช้เงินอยู่ที่บ้านอย่างเดียว   การออกไปทำงานนอกบ้าน หรือการเรียนภาษาญี่ปุ่นจะเป็นภาระที่คุณเริ่ม มี ถ้าคุณไม่สร้างภาระหรืองานให้กับตัวเอง คุณก็จะเบื่อง่าย และสุดท้ายมัน ก็จะไปจบที่การใช้เงินเพื่อฆ่าเวลา ดังนั้นผมคิดว่าคุณควรคิดสร้างงานให้ กับตัวเองโดยเร็ว ความรักเป็นเรื่องหอมหวาน แต่ว่าความรักที่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อย ชนิดถาวร ผมว่าสักวันสามีจะต้องเริ่มมีปากเสียงขึ้นมาแน่ๆ จากคุณ : อ.ปมโปโกะ - [ 19 เม.ย. 51 17:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ fudge ที่บ้านเปิดหมดทุกกระเป๋าค่ะ ขนาดกระเป๋าทำงาน กุ้งยังต้องจัดแจงให้ เพราะไม่งั้นมันรก เป๋าตังค์ ก็ด้วย ทั้งบิลโน่นบิลนี่เต็มไปหมด โดยเฉพาะเหรียญ จะพยามเอาออกไว้ให้ วันละ 100-200 เยน ไม่งั้นกระเป๋า จะตุงๆๆหนักๆๆ และจะคอยเติมเงิน ตลอด คือมีไปทำงาน ต่อวัน 15,000เยน ถ้าเขาไปกับเพื่อน กินสังสรรก็ใส่เพิ่ม หรือใช้บัตรรูด และพวกบิลใบเสร็จ จะต้องเก็บออกมาแยก ของแต่ละเดือนว่า ใช้บัตรไหน ไปเท่าไหร่ ตรงนี้เลยกลายเป็นหน้าที่ ไปเลย ดิฉันอาจจะคิดว่าคุณกำลังใช้กุ้งฝอยตกปลากะพงก็ได้ ++++คิดได้ไงคะคุณ fudge หัวเราะท้องแข็งเลย.... ถ้าเขาอายุเยอะกว่ามาก และเป็นเอาแต่ใจตัวเอง คิดว่า ภรรยาต่างชาติ ไม่รู้ภาษา เป็นคนชอบกดขี่ ล่ะก้อ แก้ยาก มีคนเคยบอกว่า ผู้ชายญี่ปุ่น ชอบผู้หญิงโง่ๆๆๆ ฟังแล้วก็ อ่อๆๆ คือ ต้องอยู่แบบไม่มีปากมีเสียง เหมือนผู้หญิงสมัยก่อน นึกในใจ แล้วจะช่วยกันสร้างครอบครัวยังไง....มันตกยุคไปนานแล้ว และแล้ว ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาก็เจอของจริง ในซุปเปอร์ สามีข่ม ภรรยา ดุยังกับหมูกับหมา มีแต่คนหันไปมอง พนักงานแคชเชียรผู้หญิงเห็นท่าไม่ดี เรียก พนักงานชายมาประมาณ 4-5 คน คือถ้าเกิดไรขึ้นคงจะช่วยกันจับ ยังบอกกับแฟนเลย แบบนี้ถ้าเจอฉันคงตายกันไปข้างนึงแหล่ะ และที่เห็น นี่ไม่ใช่ครั้งแรก บางทีก็บู้กันบนรถเมล์ แต่ที่เห็นจะเป็นผู้ชายแนวออก มีอายุ บานคนหน้าโหดๆๆด้วย มีใคร พอจำข่าว คนญี่ปุ่น ถูกแทงที่ฟิลิปินได้ไหม คือ คนญี่ปุ่น เขาแต่งงาน กับคนฟิลิปิน คือเป็นผู้ชายญี่ปุ่น ชอบดูถูกคน เอาแต่ใจ ไม่ได้ไรดั่งใจ มีด่า แตะ จนน้องชาย ผู้หญิง ทนไม่ไหวคว้ามีด แทงซะ ดีที่มีกล้อง วงจรปิด เพราะก่อนตาย ผู้ตายทำร้าย น้องชาย ภรรยาก่อน ที่แรกแฟนก็เรียกเรามาดู แบบยังไงคนฟิลิปินผิดแน่นงานนี้ ดูไปดูมา หลักฐาน ชัดๆๆ แฟนบอก ออ สมควรตาย 5555 ใช่แล้วเหมียว พี่ว่าสามี เหมียว เขาขี้เหนียวหน่ะดีแล้ว ของพี่มีเท่าไหร่ก็เรียบ ชอบซื้อของ ซื้อโน่นซื้อนี่ เป็นสามีกัน ขอแค่ไม่ทำร้าย กัน ก็พอแล้ว ไม่ ทำร้ายด้วยคำพูด ไม่ทำร้ายร่างกาย พี่ว่าดีที่สุดแล้ว ถึงแม้จะเป็นคนไม่รวย แต่ถ้าช่วยกันทำงาน เดี๋ยวก็รวยได้ คุณ เจ้าของกระทู้มีเบอร์ ที่เขารับปรึกษา ช่วยเหลือหญิง ต่างชาติ เรื่องครอบครัวไหม. เราไม่รับหนังสือมานานแล้ว ถ้าไม่มีจะไปค้นมาให้เผื่อเขาให้คำแนะนำ หรืออะไรทีดีๆๆ เห็นว่า มีผู้หญิง ต่างชาติ ไปขอความช่วยเหลือเยอะ คิดว่าเขาน่าจะหางาน ให้ทำได้ จากคุณ : maguro - [ 19 เม.ย. 51 18:47:27 A:210.131.4.173 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ได้เป็นเงินเดือนค่ะแต่ให้หมดมาบริหารเอง **ไม่ได้ร้องขอ สามีแต่ละคนต่างกันค่ะ อาจเพราะสามีดิฉันเงินเดือนไม่มาก ระดับท๊อปอะไรกะเค้า ฮ่าๆๆ เลยให้ภรรยาคุมบัญชีเอง** แต่จะใช้หรืออยากได้อะไรก็แจกแจงสามีค่ะ ไม่มีแอบ งุบงิบ สามีคุณใจดีนะคะที่ให้เงินส่งเสียบ้านที่ไทยเดือนละ 20,000  บาท ยิ่งถ้าลูกคุณ ที่เค้าต้องส่งเสีย**คุณบอกว่าต้องส่งเงินค่ายา ไปให้** ถ้าไม่ใช่ลูกจริงๆของเค้า คุณควรต้องขอบคุณเค้ามากๆเลยนะคะ ค่าใช้จ่ายที่ได้รับแต่ละเดือนที่ใช้ในญี่ปุ่น น่าจะพอด้วยซ้ำค่ะ ถ้าบริหารดีๆ อีกอย่างสามีเป็นคุณเจ้าของกิจการอีก เรื่องเครียดๆก็ต้องมี **เค้าคงไม่ได้อธิบายหรือบอกรายละเอียดอะไรมากกะคุณ** ขนาดสามีคนอื่นที่เป็นแค่ซาลารี่แมนธรรมดายังมีเรื่องงานที่ต้องคิดมากเลยค่ะ เจ้าของกิจการย่อมมีเรื่องเครียดๆมากกว่าอยู่แล้ว ยิ่งเจอภรรยาขอเงินเพิ่มอีก เพราะต้องส่งไปไทย คงยิ่งหงุดหงิด ลองคิดในทางกลับกันสิคะ คนหาเงิน หามาแทบตาย แต่ต้องแบ่งไปให้คนที่เค้าไม่ได้เงินหาอีกเยอะเหมือนกัน **20,000บาท นี่เดือนนึงเกิน 6 มังนะคะค่าเงินตอนนี้ อีกอย่างคนไทยบางคน จบ ป.ตรีบางคณะยังได้เงินเดือนสตาร์ทไม่ถึง 20,000บาทเลยค่ะ** เราต้องบอกพ่อแม่เราด้วยว่า เราช่วยได้แค่ไหน ให้ได้เท่าไหนด้วยให้เค้าบริหารดีๆ พ่อแม่ มีแรงทำงานก็ทำไปใช้ชีวิตแบบพอเพียง และอย่าให้คนญี่ปุ่นคิดว่าคนไทย แต่งงานมาอยู่กะเค้ามีแต่รอพึ่งลูกเขยญี่ปุ่นน่ะค่ะ เพราะต่อไปมันจะเป็นช่องว่างที่เค้าสามารถเอามาดูถูกเราได้ มันเป็นความเชื่อคนไทย..ส่วนมากน่ะค่ะ.. ดิฉันก็เจอเพราะมาจากบ้านนอก..มากๆๆ คนข้างบ้าน ก็คนบ้านนอก บ้านนอก ชอบคิดว่าแต่งกะคนญี่ปุ่นเราต้อง พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ รวย เป็นคุณนาย ส่งเงินกลับไปบ้านให้พ่อแม่พี่น้องคนทั้งตระกูลใช้แบบที่แทบไม่ต้องทำมาหากินกันเลย แต่ดิฉันไม่ขอทำค่ะแบบนั้นค่ะ เพราะสามีคงเป็นผู้ชายที่น่าสงสารมากทำงานหาเงินมาแต่คนช่วยใช้เงินมากเหลือเกิน แค่เห็นเค้าทำงานกลับบ้านมาเหนื่อยๆก็สงสารแล้ว อีกอย่างเคยทำงานบริษัทเดียวกันมาพอจะรู้ปัญหาเกี่ยวกับการทำงานบ้าง สามารถพูดคุยเรื่องงานกันได้ แค่นิดๆหน่อยๆก็ยังดี ให้เค้ารู้ว่ามีเราอยู่ข้างๆและเข้าใจเค้าอ่ะค่ะ ถ้าคุณอยากได้เงินเพิ่มก็ต้องหางานทำค่ะ หรือไม่ก็ขอทำงานกะที่บริษัทสามีคุณเอง น่าจะช่วยได้ถ้าเค้าไม่อยากให้ออกไปนอกบ้านก็ขอทำกะเค้าสิคะ จากคุณ : แม่บ้านณ.โตเกียว - [ 19 เม.ย. 51 19:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ย้อนมาอ่านคคห.หนูริวจัง...สามีน่ารักมากเลยค่ะ เอาใจใส่ครอบครัวเรา ขนาดนี้ เป็นพี่ ๆ ก็คงไม่คิดจะขออะไรอีกแล้ว กระทู้นี้เรียกหนุ่มเข้ามาได้ด้วยหล่ะ ฮา....เห็นด้วยกับ อ.ปมทุกประการค่ะ อยู่ญป ภาษาญปจำเป็นมาก - มากที่สุด ว่าแล้วก็ขอยกตัวอย่างเจ๊zuling68 ของเรา เดือน 7 จะคลอดแล้ว ทุกวันนี้อุ้มท้องโย้ยังกระตือรือร้นไปลงเรียน ภาษาญี่ปุ่นอยู่อาทิตย์ละ 4 วัน เห็นเจ๊แล้วทึ่งมาก หากไม่ห่วงสังขารตัวเองก็ อยากจะไปลงเรียนเหมือนกันค่ะ คุณกุ้งคะ...อยากจะบอกว่าหากเราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในชีวิตคู่ของใคร ก็ไม่ กล้าวิจารณ์ค่ะ ฟัดจ์เคยรู้จักน้องคนหนึ่งจากที่เรียนภาษาญปกับโวลันเทีย คุยกันแล้วถูกคอกับน้อง เพราะน้องเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี คุยไปคุยมา น้องก็เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่า มาอยู่ญปด้วยการแต่งงานผ่านทางบริษัท หาคู่ ฟัดจ์ก็นั่งฟังตาแป๋วเลย เพราะเป็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตที่เราไม่เคย สัมผัส... ฟังไปฟังมา ฟัดจ์ไม่สงสัยเลยว่าทำไมหนุ่มญปถึงแสดงความกักขฬะกันเมีย ตัวเอง เพราะผู้หญิงไม่ได้แต่งงานมาด้วยความรักค่ะ ต้องการแต่เงินเท่านั้น เคส1 ผู้หญิงแต่งงานได้เดือนกว่า หนีสามีจากอิบาราคิ เพราะว่าทนอยู่บ้าน นอกไม่ไหว แล้วก็ทะเลาะกับสามีอย่างรุนแรงเพราะใช้ค่าโทรศัพท์กลับ เมืองไทยเดือนนั้นแสนกว่าเยน สามีโมโหมากบอกว่าไม่มีเงินจ่าย (โห...บิลค่าโทรศัพท์เดือนเดียวแสนกว่าเยน ฟังแล้วตกใจมากค่ะ) เคส2 ผู้หญิงอีกคนแต่งงานมาอยู่กับสามีที่อายุแก่กว่าตัวเอง 20 กว่าปี ขา เป๋ และหมดสมรรถภาพทางเพศ สามีให้ใช้เดือนละ 3 แสนเยน ผู้หญิงก็เอา เงินไปเลี้ยงดูชายคนไทย(เป็นกิ๊กกัน) เพื่อนสาวไทยคนอื่น ๆ ที่แต่งงาน ผ่านบริษัทหาคู่ก็พากันอิจฉาในวาสนาของเธอผู้นี้ (หารู้ไม่ว่าเวรกรรมมันตาม ทัน) ฯลฯ การที่เราได้รับรู้เรื่องราวแบบนี้ บางครั้งทำให้เรามีอคติที่จะเชื่อในบางกระทู้ ที่มีผู้หญิงไทยออกมาก่นด่าว่าสามีตัวเองและขอคำปรึกษาค่ะ เพราะลึกๆๆ แล้วเราไม่รู้ความสัมพันธ์ฉันท์ผัวเมียของพวกเค้าเลย แต่ฟัดจ์เชื่ออย่างหนึ่ง ว่าหากคนเรารักกัน ยังไงก็จะไม่ทำร้ายคนที่เรารักไม่ว่าทางร่างกาย หรือจิต ใจแน่นอน เพราะหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ...นอกเสียจากจะไม่มีใจให้กันเท่านั้นเอง จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 51 19:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้ว อีกเรื่อง เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ดูข่าวมั้ยคะ ที่ทางตำรวจตม.จับกุมตัวสาว ฟิลิปปินส์ได้ มีสถิติให้ดูว่าตั้งแต่ป๊ค.ส.ไหนที่การขอวีซ่า "entertainment" จากฟิลิปปินส์เข้าญี่ปุ่นมีจำนวนมาก แต่พอปีค.ศ. 2006 (หากจำตัวเลขผิด ขออภัยค่ะ) ทางตม.จำกัดวีซ่าประเภทนี้ ก็เลยมีการแต่งงานหลอกเพิ่มขึ้น เป็นเท่าตัว คนที่ดำเนินเรื่องก็คนญี่ปุ่นนั่นแหล่ะ เอาเงินสาวปินส์มา แล้วก็ไปซิกแซกจ้าง หนุ่มญี่ปุ่นแต่งด้วย โดยที่ทั้งสาวและหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย พอกลุ่มสาวปินส์วัย 20 ต้น ๆ ประมาณเกือบ 20 คนถูกตำรวจจับในสถานเริง รมย์ ก็ถูกตำรวจขอดูพาสปอร์ต ทุกคนมาวีซ่าแต่งงานหมด พอถามว่าสามี อายุเท่าไร 52 บ้าง 56 บ้าง (สามี 50 อัพทุกราย) แล้วก็ไม่ได้พำนักอยู่กับ สามีด้วย...รู้แต่บ้านเลขที่สามี หน้าตาสามีเป็นไงก็คงไม่รู้ มานั่งคิดๆๆ ก็มันมีcase studyแบบนี้น่ะสิ ตม.ถึงค่อนข้างเข้มงวดวีซ่าพำนัก ระยะยาว ต้องมีการตรวจสอบว่าแต่งจริงหรือแต่งปลอม จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 51 19:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สามีให้ใช้เดือนละ 3 แสนเยน เยอะมากเลยค่ะพี่ fudge แต่บาปกรรมมันตามทันอ่ะ น่ากลัว ถ้าลุงแกรู้อ่ะภรรยาตายแน่ๆ จากคุณ : แม่บ้านณ.โตเกียว - [ 19 เม.ย. 51 19:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้องมณต.คะ เพราะว่าสามียังทำงานอยู่ และมีอพาร์ตเมนต์ให้คนเช่าค่ะ รู้สึก ทั้งตึกเลยจะเป็นอพาร์ตเมนต์ของแก ที่เค้าแต่งเอาผู้หญิงคนนี้มาก็ต้องการ เพื่อน แล้วก็ให้มาดูแลกันยามแก่เฒ่าน่ะค่ะ เรื่องอย่างว่าคงไม่ค่อยมีนะคะ ขอตัวไปนอนก่อนแล้วค่ะ เพราะว่าเริ่มมีอาการพะอืดผะอมรอบดึกอีกแล้ว จากคุณ : fudge-a-mania - [ 19 เม.ย. 51 19:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามา คารวะ คุณ fudge-a-mania เขียนได้ดีมากๆ ประทับใจจริงๆค่ะ รวมไปถึงหลายๆท่าน เช่น คุณ หนูริวจัง ขอปรบมือให้จากใจจริงค่ะ สำหรับเจ้าของกระทู้ คงได้ข้อคิดไม่มากก็น้อยนะคะ ลองปรับตัวเองดูสักนิดนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : แอบอ่านอยู่เงียบๆ - [ 19 เม.ย. 51 20:09:06 A:59.134.116.138 X: TicketID:159796 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณอะไรก็ไม่ได้คะ  ดูท่าทางว่าถ้าคุยเรื่องเงินกับสามีแล้วเขาคงจะโมโห เรื่องจะขอเงินเพิ่มนั้น เป็นไปได้ยาก มีก็แต่จะขัดใจและจบลงที่การทะเลาะกัน มองที่จำนวนเงินที่คุณบอก  คิดว่าเยอะมากๆ เลยค่ะ  แต่ว่าเงินมาก เงินน้อย แต่ละครอบครัวก็ไม่เหมือนกัน มันต่างกันที่ตรงรูปแบบการใช้ชีวิตด้วย ดิฉันและสามี ใช้ส่วนตัวกันคนละ 20000 เยน (เท่าหนูริวจังเลย) ค่ากับข้าวสี่คนพ่อ แม่ ลูก ประมาณไม่เกิน 80000 เยน  ก็ว่าไม่ได้ประหยัดอะไรมากนะคะ ส่วนให้แม่เป็นเงินนั้น ไม่เคยให้แบบส่งไป กลับเมืองไทย ก็ให้เป็นของบ้าง เป็นออกไปทานอะไรกันบ้าง   จะให้เป็นเงิน แม่ไม่เอาค่ะ บอกว่า ถ้าไม่ใช่เงิน จากการทำงานของลูก แม่ไม่เอา แม่อาย คุยกับสามีดีมั้ยคะว่า  เงิน 10000 บาท ที่ต้องส่งให้ลูกนั้น  คุณอยากจะมีส่วนตรงนี้ เพราะเป็นลูกของคุณ  ขอไปทำงานเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายส่วนนี้บ้าง พูดลักษณะนี้ อาจทำให้เค้ารู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้นะคะ จากคุณ : วดี - [ 19 เม.ย. 51 20:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นแล้วอิจฉาด้วยคนค่ะ   ว่าสามีให้เงินเยอะมากๆ  เลยค่ะ  ส่งทางบ้านต่างหาก   และค่ากับข้าว ต่างหาก  ยังไม่ถึงเดือน  ให้ตั้ง  5  หมื่นเยนแนะ  ของอัญสามี  ให้ค่ากับข้าว  เดือนละ  3  หมื่นเยนเองค่ะ  ส่วนส่งให้ทางบ้าน  1  หมื่นค่ะ   ส่วนเรื่องอยากได้อะไร  ก็บอกสามีเดี๋ยวสามีซื้อให้  แต่ก็ไม่ค่อยได้ซื้อเพราะอัญไม่ค่อยแต่งตัวอะไรมากมาย   เห็นภรรยาญี่ปุ่นหลายคน  ซื้อรถ  ซื้อบ้าน  ก็อิจฉา  อยู่เหมือนกันค่ะ  แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่าสามีเราไม่รวย   สามีอัญ  เงินเดือนประมาณ  2 แสน 5    หักค่า  ประกัน ภาษี  และ อื่นๆ  อีกมากมายแล้ว  เหลือ เดือนนึง  ประมาณ 7  หมื่นบาทเองค่ะ  ถ้าให้อัญเดา  สามีเจ้าของกระทู้  ก็ต้องโมโหล่ะค่ะเวลาเจ้าของกระทู้ขอตังค์เพิ่ม  เพราะ  ค่าใช้จ่ายที่เจ้าของกระทู้  กล่าวมา  มันก็กินเงินเดือนของสามีเกือบหมดแล้ว  อีกอย่าง  การส่งเงินกลับบ้าน มันก็ไม่ใช่วิสัยของชายญี่ปุ่นค่ะ  ที่เค้าต้องรับผิดชอบ  ต้องเข้าใจข้อนี้นิดนึงค่ะ และ ไหนเค้าจะต้องรับผิดชอบค่าอื่นๆ  อีก   ให้เจ้าของกระทู้ ปรับเปลี่ยนการใช้เงินและพยายามทำใจค่ะ ว่า สามีเราก็ไม่ได้รวยอะไรมากมายนัก  เรื่อง การกินดื่มกับเพื่อน มันก็เป็นธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นไปแล้วค่ะ  เราจะเอาข้อนี้มาเถียงกับเค้าเรื่องเงินๆ  ไม่ได้นะคะ  มันจะยิ่งทำให้เค้าโมโห  สามีอัญ กินอาหาร กับเพื่อนๆ  ที่ทำงาน กินทีก็หมดไป ประมาณ  นี้เหมือนกันค่ะ  ยิ่งสามีคุณทำงานรับเหมาด้วย  การเลี้ยงอาหารลูกค้านั้น จะมาเลี้ยงร้านอาหารเล็กๆ  ถูกๆ ไม่ได้หรอกนะคะ  เพราะ ลูกค้าที่มาจ้างเค้าทำงาน ต้องเป็นคนระดับมีกะตังค์ทั้งนั้น  เรื่องเลี้ยงลูกน้อง  การเป็นนายคนก็ต้องจ่ายเยอะเป็นธรรมดาค่ะ  จะมาออกค่าแชร์อาหารเท่าลูกน้องนั้น ไม่ได้แน่ๆ  ลูกน้องหนีหมดค่ะ   ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : มันอยู่ในปอด - [ 19 เม.ย. 51 21:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 การที่เราได้รับรู้เรื่องราวแบบนี้ บางครั้งทำให้เรามีอคติที่จะเชื่อในบางกระทู้ ที่มีผู้หญิงไทยออกมาก่นด่าว่าสามีตัวเองและขอคำปรึกษาค่ะ เพราะลึกๆๆ แล้วเราไม่รู้ความสัมพันธ์ฉันท์ผัวเมียของพวกเค้าเลย แต่ฟัดจ์เชื่ออย่างหนึ่ง ว่าหากคนเรารักกัน ยังไงก็จะไม่ทำร้ายคนที่เรารักไม่ว่าทางร่างกาย หรือจิต ใจแน่นอน เพราะหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ...นอกเสียจากจะไม่มีใจให้กันเท่านั้นเอง ขอบคุณมากค่า คุณ fudge ที่ช่วยเตือนสติ ข่าวที่คุณ fudge ไม่ทราบเลย(ตกข่าวอีกแล้ว) แถวบ้านเยอะมากก เมื่อวานก็เจอเข้ามาทัก ถึงว่า..... มีคนเคยบอกมา เพื่อนสาวชาวฟิลิปิน ของเขา อยู่ ญี่ปุ่นมา 20 ปี จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ วีซ่าถาวร กับเขาเสียที จากคุณ : maguro - [ 19 เม.ย. 51 21:50:17 A:210.131.4.173 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มาแอบดูแม่บ้านญี่ปุ่น ไว้เป็นแนวทาง ฮิฮิ จากคุณ : Cinderary - [ 19 เม.ย. 51 23:16:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาอ่านอีกรอบ จากคุณ : My life in Japan. - [ 20 เม.ย. 51 05:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เกิดเปลี่ยนใจกระทันหันค่ะ คุณฟัดจ์ :) นึกว่าไม่มีใครทันเห็นแล้วเชียว ขอโทษด้วยค่ะ สรุปๆว่า เขียนประมาณว่า ความคิดเห็นส่วนตัว อยากให้คุณเจ้าของกระทู้พยายามอย่าขอเงินเพิ่มจากสามี (เพราะคิดว่าเขาคงมีภาระเยอะแล้ว) ให้เก็บเล็กผสมน้อยจากเงินทุกเดือนที่สามีให้ และเมื่อไหร่ที่ทางบ้านมีปัญหา ก็ให้เอาเงินที่เก็บนี้ส่งให้แทนค่ะ จะได้ไม่มีปัญหากัน คิดว่าแต่ละเดือนหน้าจะเหลือ เพราะดิฉันได้เดือนนึงน้อยกว่าอีก ถ้าไม่ใช้ฟุ่มเฟือยก็เหลือค่ะ จากคุณ : NeneShin - [ 20 เม.ย. 51 13:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังพยามยามทำตามที่อ.ปมโปโกะ แนะค่ะ จากคุณ : โมจิ - [ 20 เม.ย. 51 15:02:50 A:219.107.93.227 X: TicketID:171620 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ของจ๋าแฟนให้เดือนละสิบห้าใบ แต่จ๋าแบ่งให้แม่แฟนเดือนละห้าใบ ที่เหลือจ๋าก็เก็บใส่บัญชีค่ะ ส่วนค่ากับข้าวแฟนเป็นคนจ่ายค่ะ เงินที่จ๋าได้จ๋าก็ไช้บ้างซื้อเสื้อผ้าของที่ตัวเองอยากได้แต่ก็ไม่บ่อยเพราะอยู่ต่างจังหวัดจะไปไหนทีก็ลำบากเพราะขับรถเองไม่ได้ค่ะ จากคุณ : จ๋าค่ะ (hunyjaja) - [ 20 เม.ย. 51 15:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาอ่านค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้เรื่องการครองเรือนแบบญี่ปุ่น เผื่อเอาไว้ใช้เป็นแนวทาง อิอิ คุณ fudge คะ เราชอบที่คุณ fudge ไม่มีความลับกับสามีอ่ะค่ะ เราก็เคยคิดว่า ถ้ามีแฟนหรือแต่งงาน ก็อยากเป็นให้ได้แบบนั้นเหมือนกัน คุณจขกท.คะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : booklovers - [ 20 เม.ย. 51 16:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็น fudge พูดถึงพอดี เลยขอตามเข้ามาตอบด้วยคนค้า ถามว่าคุณสามีจขกท.ให้ที่บ้านไทยเยอะไหม สำหรับส่วนตัว คิดว่าเยอะเหมือนกันนะคะตัวเองไม่กล้าขอให้สามีส่งเงินให้บ้านเมือง ไทยคะ เกรงใจเค้าค่ะ แต่บังเอิญด้วยว่าพ่อแม่ที่ไทยก็ยังทำงานกันอยู่ ก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเท่าไหร่ (แต่ถ้าพ่อแม่ไทยไม่ทำงานแล้วก็ คงต้องกันเงินให้ที่บ้านเหมือนกัน) แต่ถ้าวันใดขอให้เค้าส่งเงินให้ที่บ้านเมืองไทยเมื่อไหร่ ตัวเองคงไม่กล้า ใช้เงินเท่าไหร่ ไม่รู้สิ เกรงใจไงไม่รู้ ถ้าอยากได้เงินเพิ่มก็คงต้องบริหารเงิน ที่เขาให้ไว้ใช้เดิมนั้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เชื่อว่าต้องมีเงินเหลือ จากตรงนั้นก็ได้นะคะ เท่าที่ตัวเองอ่านดูคิดว่าปัญหาอาจจะไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียวมั๊งค่ะ แต่เหมือนเป็นการพูดคุยกันที่น่าจะใช้อารมณ์กันทำให้พาลจะไม่เข้าใจ เหตุผลของกันแต่ละกัน ถ้าอารมณ์ดีๆ ค่อยๆ พูดจากันว่าทำไมเราต้องการเงิน เค้าก็อาจจะอธิบาย ว่าทำไมเค้าถึงเห็นว่าไม่สมควร หรือเงินที่เค้ามีไม่เพียงพอ  ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขทางสังคมของคนญี่ปุ่นประกอบตามที่ความเห็น หลายๆท่านด้านบนให้เหตุผลไว้ด้วยนะคะ ขอให้เข้าใจกันไวๆ นะคะ ปล. ท้องเจ็ดเดือนจ้า แต่ขอแก้ข้อความฟัดจ์นิดนึงนะจ๊ะ ตอนนี้ลงเรียน สองวันเองค้า ใจจริงอยากเรียนสี่วันเหมือนกัน แต่หารร.เรียนสี่วันแบบ ราคาย่อมเยาไม่ได้เลยค้า ^_^ ไปเรียนเพราะรู้ตัวว่าอ่านหนังสือเอง ที่บ้านไม่ได้ค่ะ แก่แย๊วเรียนรู้ช้าลงเยอะเลยค่ะ ที่เรียนก็เหมือนที่อจ.ปม บอกเลยค่ะ ในอนาคตอยากทำงานค่ะ และก็อยากพูดกับลูกด้วยค่ะ ขณะเดียวกันการเรียนหนังสือทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิตดีค่ะ (แม้จะเป็นเป้าหมายระยะสั้นก็ตาม) จากคุณ : zuling68 - [ 20 เม.ย. 51 17:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตั้งแต่จ๋าแต่งงานมาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยทะเลาะกันเพราะเรื่องเงินเลยค่ะ และจ๋าก็ไม่เคยขอเงินเพิ่มด้วยเพราะเงินที่แฟนให้ใช้ในแต่ละเดือนก็เยอะแล้ว ตอนนี้กำลังพยายามหัดพูดภาษาให้ได้เพราะอยากหางานทำมากๆ อยู่บ้านเฉยๆเบื่อมากและอยากหาเงินเองด้วยช่วยกันทำงานหาเงินจะได้มีเงินเก็บเยอะเผื่อมีลูกลูกจะได้สะบายนะค่ะ จากคุณ : จ๋าค่ะ (hunyjaja) - [ 20 เม.ย. 51 17:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เราแต่งงานกับสามี คนแถวๆบ้านที่ไทยก็คิดว่าเราจะต้องรวยมาก แต่ทำไมพ่อกับแม่ยังต้องทำงานอยู่อีก มีแต่คนนินทา จนพ่อกับแม่จะย้ายบ้านหนีแล้วเมื่อปีที่แล้ว เราช็อคมากเลย ร้องไห้อย่างหนัก เดือนหนึ่งเราส่งเงินให้แม่ประมาณสามสี่ัพันบาทบวกกับซื้อครีมและยาเพื่อความงามทุกเดือน พ่อกับแม่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก แต่นานๆไปพ่อแม่ก็เริ่มอายเค้า เราก็บอกว่าอย่าไปฟังคนอื่นเค้า คิดดูนะพ่อแม่เรายังอายุแค่ห้าสิบเอง เค้าก็ยังทำงานของเค้าต่อได้ ทางบ้านที่ญี่ปุ่นก็มีภาระจ่ายเยอะเหมือนกัน เราก็ต้องเห็นใจกันและกันนะคะ ถ้าพ่อกับแม่ทำงานไม่ไหวแล้วเราก็ส่งเยอะกว่านี้ เราบอกสามีไว้แล้ว เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วต่อไปเราก็จะดูแลพ่อแม่สามีด้วย เราก็ต้องทำอะไรเพื่อพ่อแม่ตัวเิองให้เยอะกว่านี้ด้วย เค้าก็ต้องช่วยเรา เราก็ต้องช่วยเค้า จากคุณ : tidtiena (tidtiena) - [ 20 เม.ย. 51 17:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สามีคุณช่วยคุณมากเลยนะ อย่างเดียวที่ต้องปรับคือต้องศึกษาการควบคุมค่าใช้จ่าย ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ใช้เงินให้ประหยัดที่สุด สามีคุณทำงานกินเบียร์หน่อยคงไม่เป็นไรหรอก คุณลองหัดทำอาหารต่างๆ  ทำยังไงให้ประหยัดค่าน้ำค่าไฟ อะไรประมาณนี้ เดี๋ยวไว้จะลงการเขียนรายรับรายจ่ายให้ดูนะ มีเงินสองแสนก็ต้องใช้ชีวิตในสองแสนนั้น เกินสองแสนหนึ่งเยนก็ไม่ได้นะ จากคุณ : tidtiena (tidtiena) - [ 20 เม.ย. 51 17:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ดิฉัน ไม่ได้ เป็นรายเดือนคะ..แต่ได้ หมด..สามีให้ถือ บัตร ATM สมุดบัญชี. ตอนมาอยู่ ญี่ปุ่น ใหม่ๆ ก้อให้ใช้ รายวัน(ดูเหมือนโหดร้ายจังเลยเนอะ..) คือ เติมตังส์ในเป๋าตังส์ให้..หมดก้อเติม เหมือนคุณmaguro (ถ้าผิดชื่อขอภัย นะคะ ไม่ได้ อ่าน ละเอียด) แต่ตั้งแต่มีลูก วันๆ มะมีเวลา จะใช้ เท่าไหร่ ก้อหยิบเอาเอง แล้วกัน..หรือ เงินหมด ก้อเอาบัตรไปเบิกเอาเอง..เบิกเสร็จเค้าก้อเอาบัตรมาคืน.. อาจเป็นเพราะว่า สามีรู้ว่า ตัวเองเก็บเงินไม่อยู่มั้งคะ..หมดกะ อุปกรณ์ อิลิคโทรนิคส์ทั้งหลาย..ประมาณว่า ถ้าซื้อเครื่องบินได้ พี่ท่านคงซื้อไปแล้ว. ดิฉัน มาอยู่ ได้ไม่กี่ปี สามารถ เก็บเงินได้จำนวนเงินเกินกว่า ตัวเลข 8 หลัก ทั้งๆ ที่ดิฉัน ไม่ใช่คนขี้เหนียว..ออกจะ สุรุ่ยสุร่าย เรื่อง กิน เรื่องเที่ยว อีกต่างหาก.. ถึงแม้จะต้องส่งเงินไปเมืองไทย สามี ก้อไม่เคยว่า..แต่ก้อไม่เคยส่งนะคะ.. เพราะ พ่อ แม่ ไม่รับ เหมือนหนุ่ย (คุณวดี)..แต่เวลา กลับเมืองไทย ดินฉัน จะ รับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย ทุกอย่าง ในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือ ค่าอะไร ก้อแล้วแต่ รวมถึงทานข้าวนอกบ้านทุกมื้อ.. ครอบครัว ญาติพี่น้อง ทุกคน ขนาด ญาติ ของแม่ ใครมาร่วมด้วย..ดิฉันจะจ่ายให้ ด้วยความเต็มใจ..(แต่บางทีก้อมีคนแย่งจ่าย) ขนาด เวลาไปซื้อของ เข้าบ้าน..(ของจิปาถะ)ถ้าน้าไปด้วย ดิฉันก้อจะจ่ายให้คะ หรือบางที ไม่ไป ก้อจะซื้อมาเผื่อ ด้วย..เพราะถือว่า ได้ชดเชย ส่วน ที่ฉัน ไม่สามารถ ปฏิบัติ ให้กับ ทุกคนได้.. ก่อนกลับมาญี่ปุ่น ก้อจะทิ้ง เงินก้อนหนึ่ง ไว้ให้ ที่บ้าน พ่อแม่ และ น้องชาย คอยซื้อของเข้าบ้าน ด้วย สามีเข้าใจ และ ยินดี ที่จะให้ดิฉัน ปฏิบัติ กับผู้มีพระคุณ ดิฉัน เห็นด้วย กับคุณ My life in Japan..ว่าเรื่องเงินมานบอบบาง.. อย่าให้ มาทำงาย ความรัก และ ความอบอุ่น ที่มีอยู่.. --------------------------------------------------------------------- ถ้าดิฉัน เป็นคุณ จขกท.ดิฉันคง พยายาม ยักบอกเงิน ให้ มากที่สุด..ถึงแม้จะยาก.. แต่สามีคุณ ให้ ไม่น้อยเลยคะ..(เอาจากค่ากับข้าวนี่แหละ วันละ 500 หรือ พันเยน) เพราะไม่ทราบว่า ในอนาคต อะไร จะเกิดขึ้น.. และ คิดว่า อย่าเพิ่ง ทำงานนอกบ้านเลยคะ อาจจะทำให้มีปากเสียงกัน..หรือ ทำได้เงิน อาจจะโดนลดเงินเดือน ซึ่งมันไม่มีประโยชน์..พยายามเฉย แฮ้บเงิน อย่างเดียว อิอิ..อย่าคิดมากนะคะ..เป็นกำลังใจให้คะ.. จากคุณ : **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** - [ 20 เม.ย. 51 18:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณจ๋า(hunyjaja)..น่ารัก จัง.. มีการ ให้เงินเดือน แม่สามีด้วย ตั้ง 5 ใบ.. เป็นสะใภ้ ที่น่ารักมาก..เลยคะ.. พี่ไม่เคยให้..เพราะท่าน ไม่รับแน่นอนคะ มีบำนาญ..ทั้งคู่.. แต่ตรงกันข้าม ชอบส่ง เงิน มาให้ หลานๆ (ลูกพี่)..ไม่ว่าจะ วันปีใหม่ ตอนเข้า รร.หรือ กรณี อื่นๆ..แต่พี่ปฏิเสธ มาตลอด.. มาหลังๆ นี่ เลยส่ง เฉพาะ วันสำคัญ..แล้วก้อ จำนวนมากด้วยคะ (สำหรับเด็กนะคะ)..พี่ก้อ จะเก็บๆ รวมไว้ ยังมะเคยใช้เลยคะ.. (ส่งมาทาง ไปรษณีย์..แล้วก้อไม่สามารถ ปฏิเสธได้) เพราะท่านก้ออายุมากแล้ว นอกจาก จะไม่ส่งให้ แล้วยังรู้สึกเบียดเบียน คนแก่ ไง ไม่รู้ จากคุณ : **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** - [ 20 เม.ย. 51 18:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 your husband so cool my income in month for my home over 1,000,000 yen/month but my big boss give to me not over 5,000 yen i so happy krab everyyyyyyyy good wife 555555555555555 จากคุณ : ESAAN MD - [ 20 เม.ย. 51 20:46:05 A:60.239.28.196 X: TicketID:156425 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณแอบอ่าน สวัสดีค่ะ เข้ามาคุยกันบ่อย ๆ นะคะ คุณbookloversคะ คุณต้องทำได้อยู่แล้ว แล้วคงจะทำได้ดีกว่าดิฉันด้วยค่ะ คิดว่าหลักสำคัญ ๆ คือต้องลองคิดว่าเราเป็นสามี เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ยก ตัวอย่างนะคะ เคยว่าสามีใช้เงินเปลือง ทำไมไม่ประหยัด แล้วก็จะพลอย ห้ามไม่ให้เค้าซื้อนู่นซื้อนี่...พี่แกพูดมาประโยคเดียวเราอึ้งเลย แฮ่ๆๆ If I cannot even spend my own money, then I work for what? (โอ้ว แจ่มแจ้งแดงแจ๋) หากพวกเราต้องหาเงินเข้าบ้าน แล้วมีคนห้ามไม่ให้เราใช้เงินที่เราหามา ก็คง ฮึ่มๆๆๆ -*- เจ๊ๆๆ สาวบึกอึดถึกอย่างเรา หากต้องออกไปทำงานหาเงิน มันก็ต้องทำให้ได้ น่ะเจ๊ขา ไม่เคยกลัวเรื่องทำงานหาเงินเลย เพราะงานมันมีอยู่ทุกที่ จะทำหรือ ไม่เท่านั้นเอง แต่อย่างเจ๊น่ะ อยู่เป็นกำลังใจให้เฮียกอล์ฟดีแล้ว ยังไม่ต้องคิดเรื่องอื่น คิด เฉพาะเรื่องเดือนกรกฎานี้ก็พอ คริ คริ เจ๊ๆๆ หากเรียนอาทิตย์ละ 2 วัน มากินข้าวกันมั้ย เจ๊อยากกินอะไรเดี๋ยวทำให้กิน จากคุณ : fudge-a-mania - [ 20 เม.ย. 51 21:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณเจ้าของกระทู้คะ ไม่ต้องคิดมากค่ะ  เรื่องเงินนั้น เขาทำงานเขามีสิทธิ์ทุกอย่าง ในการใช้ ไม่ว่าจะใช้มากใช้น้อยก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีโอกาสเตือนสติเขาด้วยว่า ไม่ให้เงินคุณใช้เยอะไม่เป็นไร แต่ขอให้เก็บเงินสำหรับครอบครัว ไม่ใช้ดื่มเหล้าจนไม่มีเงินเก็บ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบไม่คิด อนาคตไม่แน่ไม่นอน ตกงานแล้วจะลำบาก เงินเดือนสามีคุณแค่ สองแสนบาท หรือหกแสนเยน ก็ไม่ได้เยอะอะไระนะคะ อาจจะเยอะกว่าคนอื่นๆ แต่ ก็คงธรรมดา ตามอายุและตำแหน่งงาน คุณลองนำเงินเดือนคุณสามีคุณ หักค่าใช้จ่ายดูสิคะ ส่งไปทางบ้านของคุณ หกหมื่นเยน  ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าประกัน ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เท่าๆที่อ่านดูสามีคุณใช้เงินแบบไม่ค่อยคิดด้วยสิ ดิฉันคิดว่า คงไม่ได้เหลือเก็บมาก หรือแทบจะไมได้เก็บด้วยซ้ำ เพราะว่า มีค่าดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนๆ ของเขาอืก อันนี้คงต้องทำความเข้าใจด้วย ว่าเขาทำงานเหนื่อย เขาทำงานมาเครียด การดื่มเหล้าสังสรรค์ ก็คือสิ่งหนึ่งที่เป็นความสุขของเขา และเรื่องนิสัยส่วนตัวอื่นๆ ของเขา อันนี้ ไม่ขอออกความคิดเห็นค่ะ เอาเป็นว่า คุณตัดสินใจ ที่จะอยู่กับเขาตลอดชีวิต คุณก็ต้องทนค่ะ แต่ถ้าทนไม่ได้ ก็ต้องคิดและวางแผนอนาคตตัวเองดีๆ ถ้าคุณมีเวลา ก็อยากให้เรียนภาษาญี่ปุ่นนะคะ จะได้อ่านออกเขียนได้ เรื่องทำงาน นอกบ้าน ถ้าเขาไม่ให้ทำก็คงทำไม่ได้ เดี๋ยวก็คงทะเลาะกันอีก เอาเป็นว่าเรียนไว้ ยังไงก็น่าจะมีประโยชน์ในอนาคต อะไรที่มันคิดไปแล้วเครียดเปล่าๆ ก็ไม่ต้องเก็บมาคิด เก็บมาน้อยใจ มองโลกในแง่ดีนะคะ เขาอาจจะมีส่วนดีน้อยหรือมากกว่าส่วนไม่ดี อันนี้คุณเท่านั้นที่รู้ ถึงแม้เขาจะไม่ดี ถ้าคุณเลือกที่จะทน ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ยังไง ก็มองไปไกลๆนะค แล้ว อย่ามองแต่ข้อเสียของเขาโดยไม่มองข้อเสียของตัวเอง เรือ่งเงินเรื่องทอง ถ้าประหยัดได้ก็อาจทำให้คุณมีเงินเก็บได้นะคะ อาจจะยากหน่อย ลองๆทำดูนะคะ เช่นจ่ายค่าอาหาร ก็ คิดคำนวณ ก่อนว่าจะจ่ายอะไร เท่าไหร่ อาหารแต่ละมื้อให้ตกที่เท่าไหร่ หักค่าเบียร์สามีแล้วให้มันเหลือ อะไรทำนองนี้ค่ะ ก่อนซื้อของเปรียบเทียบราคาดีๆ ซื้อของให้เป็น ให้ได้ถูกและดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : อดีตนักกินจุก (อดีตนักกินจุก) - [ 20 เม.ย. 51 21:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หัวอกเดียวกันกับคุณ tidtiena เลยค่ะ แบบชาวบ้านนินทา ว่าพ่อแม่ดิฉันทำไมต้องทำงาน ฉันให้เงินพ่อแม่ เดือนเว้นเดือนค่ะ ส่งทีก็ สามใบ แต่ไม่ได้ขอแฟนนะคะ เอาเงินเก็บจากแฟนให้รายเดือน เอาไปให้พ่อแม่ แต่แฟนดิฉันจะให้พ่อแม่เอง ในวันสำคัญต่างๆของไทย อย่างวันพ่อ วันแม่  ค่ะ และเวลากลับเมืองไทยสามีก้อให้เงินไปให้พ่อแม่ฉันด้วย แค่นี้ฉันก็เกรงใจเขาแล้ว ค่ะ ส่วนทางบ้านพ่อสามี เขาไม่ได้ส่งเงินให้เพราะไม่เดือดร้อนแต่ฉันกับสามีก็ไปหาท่านทุกอาทิตย์ ซื้อของไปฝาก เอาใจใส่เหมือนเป็นพ่อของฉันเหมือนกัน ค่ะ จากคุณ : แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว (Tottoro) - [ 20 เม.ย. 51 21:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ดิฉันเห็นใจเจ้าของกระทู้น่ะค่ะ เพราะอาจจะไม่ใช่เรื่องเงินแค่๑๐๐๐๐เยนอย่างเดียว และไม่รู้จะไประบายที่ไหน ก็ขอให้ระบายที่นี่น่ะค่ะ เพราะเรื่องส่วนตัวบางเรื่อง บางคนฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจ ก็ขอให้ใจเย็นๆน่ะค่ะ แต่การทำลายข้าวของกัน ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ขอให้อดทนน่ะค่ะ ดิฉันส่งเงินให้ทางบ้านเดือนละ๒๐๐๐๐บาทเหมือนกัน เพราะลูกสาวยังเล็กอยู่(๔ขวบเอง)ก่อนมาก็ตรงลงกันแล้ว คุยกันเข้าใจ สามีให้เงินค่ากับข้าวรวมทั้ง ค่าของใช้ในบ้าน กินข้าวนอกบ้าน ดิฉันแอบเก็บนิดๆหน่อยๆค่ะ เพราะอนาคตคือความไม่แน่ไม่นอนและอีกอย่างถ้าสามีดิฉนโมโหหรือโกรธ ดิฉันจะอยู่แต่ในห้องนอน จะไม่พูดต่อปากต่อเสียง จนกว่าเขาจะอารมณ์ดี และเราจะไม่พูดเรื่องเก่าๆกัน ดิฉันขอให้เจ้าของกระทู้ ใจเย็นๆน่ะค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมีทางออก วันนี้อาจมีปากเสียงแต่มันแค่ชั่วอารมณ์ใช่ไหม การใช้ชีวิตคู่ไม่ได้มีความสุขเสมอไป ทุกคนก็มีทั้งทุกข์ทั้งสุขด้วยกันทั้งนั้น นึกถึงเวลาแห่งรอยยิ้มของคุณกับเขาซิค่ะ อารมณ์ เกลียดก็จะหายไป [ขอโทษน่ะค่ะคำว่า"จะไม่ทำร้ายคนที่เรารักไม่ว่าทางร่างกาย หรือจิต ใจแน่นอน" ภาษาญี่ปุ่นพูดว่ายังงัยค่ะ] จากคุณ : chompoo - [ 21 เม.ย. 51 05:50:04 A:210.149.120.125 X: TicketID:173616 ]

ความคิดเห็นที่ 52 [ขอโทษน่ะค่ะคำว่า"จะไม่ทำร้ายคนที่เรารักไม่ว่าทางร่างกาย หรือจิต ใจแน่นอน" ภาษาญี่ปุ่นพูดว่ายังงัยค่ะ] จากคุณ : bkk - [ 21 เม.ย. 51 06:19:24 A:210.149.120.125 X: TicketID:173379 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กระทู้นี้มีประโยชน์จัง กดเก็บเข้าคลังกระทู้ด่วน จากคุณ : booklovers - [ 21 เม.ย. 51 09:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอบคห. ห้าสิบสองค่ะ ภาษาญี่ปุ่น ตามข้างล่าง ค่ะ aishiteru nara aite ni bouryoku wo furuttari kokoro wo kizu tsuketari shinai hazu da. แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 09:20:48 จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 21 เม.ย. 51 09:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 กลับมาอ่านอีกที เจอฝาแฝด คิกๆๆ ดิฉัน ไม่ได้ เป็นรายเดือนคะ..แต่ได้ หมด..สามีให้ถือ บัตร ATM สมุดบัญชี. ตอนมาอยู่ ญี่ปุ่น ใหม่ๆ ก้อให้ใช้ รายวัน(ดูเหมือนโหดร้ายจังเลยเนอะ..) คือ เติมตังส์ในเป๋าตังส์ให้..หมดก้อเติม เหมือนคุณmaguro (ถ้าผิดชื่อขอภัย นะคะ ไม่ได้ อ่าน ละเอียด) อาจเป็นเพราะว่า สามีรู้ว่า ตัวเองเก็บเงินไม่อยู่มั้งคะ..หมดกะ อุปกรณ์ อิลิคโทรนิคส์ทั้งหลาย..ประมาณว่า ถ้าซื้อเครื่องบินได้ พี่ท่านคงซื้อไปแล้ว. ****เหมือนกันเลย ค่า ชอบจริงๆๆ กับพวกอิลิคโทรนิคส์ ซื้อรถไฟรางไฟฟ้ามาเล่น ก็เล่นแป๊บเดียว เก็บเข้ากล่อง ซื้อ เฮริคอปเตอร์บังคับมาก็เล่นทีเดียวจริงๆๆ โทรศัพย์ รุ่นใหม่ๆๆอะไรมาขอให้บอก เถอะ นี่ยังไม่รวม ไปถึงเสื้อผ้า ที่ ซื้อทุกปี + ทุกฤดู เรื่องเงินเดือน เห็นในทู้ มีแต่คนได้เงินเดือน ทั้งน้านเลยนึกว่าจะมีแค่เราคนเดียว ซะแล้ว ที่ไม่มีเงินเดือนกับเขา.... เงินเดือนไม่มีแต่ เก็บทั้งบัญชี เลย เงินเธอก็เงินฉัน เงินฉันก็เงินฉัน 555 คุณ เจ้าของกระทู้ ทำตามคุณ ความฝัน..และ..สุดที่รัก* บอกก็ดีค่ะ ยักยอกเงินค่ากับข้าว ที่เขาจ่ายให้ได้มากที่สุด เผื่อเกิดไรขึ้นมา จะได้มีเงินติดตัว จากคุณ : maguro - [ 21 เม.ย. 51 20:02:51 A:210.131.4.142 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ maguro สวัสดีคะ..แฝดคนละฝา.. แหะๆๆๆ..เหมือนกัน แบบนี้ เจอกัน ได้คุยกัน สงสัย เมาส์ กระจาย...อิอิ.. (แต่คน ญี่ปุ่น ไม่รู้จักกัน เจอกัน ครั้งแรก ไม่เมาส์ แตก แบบคนไทยเนอะ) แฟนพี่ มะเล่น รถไฟคะ ..แต่เครื่องบิน จอดอยู่ ที่บ้าน แนะคะ..กล่องยักษ์. เชียว เคย พาลูก ไป รร.เล่นที่สนาม วันหยุด มานบิน มะขึ้น..เลยจอดให้เกะ กะ ลูกตา พี่เล่นๆ. เจ้านายพี่ จะเน้น อุปกรณ์  คอม..มือถือ..ถ้าค้นๆ มือถือ มา ถ่ายรูป นี่ สงสัย พี่เป็นลม ชัก เหอๆๆๆ..กะ ประมาณ 30 เครื่อง หรือมากกว่า เพราะ เปลี่ยนมานทุกปี บังคับ พี่เปลี่ยนด้วย..ลูก ยังตัวเปี๊ยกอยู่เลย 2 คน.. ใช้ มา 5 เครื่องเเล้ว..เมื่อวานซืน HD ก้อเพิ่งจามาส่งที่บ้าน..แกะแล้ว ก้อวาง อยู่ ใกล้ๆ ขาพี่เนี่ย 5555..ยังมะได้ ใช้..เมื่อคืน ตี 2 คะ ทำไรก๊อก แก๊กๆๆๆ ห้องลูก (แบบว่า มานนอนมะหลับอะ..)ตื่นมาดู..สงสัย วางระบบ. คอม หรือ จะวางระเบิด เมียมะรู้ อะนะ อิอิ.. แต่เสื้อผ้า มะซื้อนะคะ ซื้อมะเป็นคะ..ภรรเมียจัดการหมด.ซื้ออะไรมา ก้อใส่ ไม่มีก้อมะใส่..นี่หมด หน้าหนาว แล้ว ต้องเก็บอีกแย้ว เก็บบ้างทิ้งบ้าง.. จริงๆ แล้ว พี่ก้อบ่น ไป งั้นแหละ ส่วนดี ของเจ้านาย..มากกว่า ส่วนเสีย.. นี่นัด ออกเดท ไปทานข้าว กลางวัน ด้วยกัน อิอิ..ไปก่อนนะคะ ว่างๆ มาคุย ด้วยใหม่คะ..ผ้ายังมะได้ ตากเลย งานบ้านมะได้ทำ (เล่นเนตก้องี้แหละ ก้น ขยับมะค่อยได้ ฮ่าๆๆ)..ข้าวเช้า ยังมะได้ทาน..10 โมง ต้องออก จากบ้าน มะงั้น มะทันคะ นัด เที่ยงที่ Gotanda..(อย่าตามไปแอบดูนะ อิอิ) บายจ้า.. จากคุณ : **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** - [ 22 เม.ย. 51 07:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 57 จ๊ากกก โทรศัพย์ 30 เครื่อง ไปเปิดร้านขายที่ไทย ดีกว่าไหมพี่ 5555บ้านชอบซื้อค่า แต่ไม่ค่อย ชอบเก็บ รุ่นเก่าๆๆ กวาดทิ้งไปบ้างให้ น้องไปบ้าง เพราะบารุ่นแก้อิมอี่ได้ หลังๆๆพยามเบรคๆ คือ2 ปีเปลี่ยนที นี่เฉพาะ 2 ปี โทรศัพย์ มือถือที่ใช้ ตอนนี้ 2 เครื่อง อีโมบาย 2 เครื่อง แต่ถ้าเธอเบื่อ คือ เราใช้ต่อ รุ่นเก่า ไม่เป็นไร ขอใหใช้งานได้ เป็นพอ นัดออกเดท ทานข้าวกลางวันนี่นะพี่ ....5555 ไม่ไป ตอนค่ำๆๆล่ะค๊ะ ไปตึกสูงๆๆ ทานสต๊ก กับไวส์ หน่ะค่า ฮี่ๆๆ เรื่องข้าวเช้า ที่บ้านก้คล้ายๆๆกันค่า บางที เลยไปเป็น บ่ายเลยก็มี แต่กินแบบนี้ก็ยังกะผอมสัก หึๆๆๆ จากคุณ : maguro - [ 24 เม.ย. 51 11:52:28 A:210.131.4.177 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 58 พี่ ตุ๋ม เข้าใจเลยค่ะ NTT นึกถึงญาติ ของแฟนที่เขาทำงานบริษัทขายรถ มีรถ เจ็ดคัน เฮ้อ สุดยอด   คนญี่ปุ่น กับรถ เจ็ดคัน จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 26 เม.ย. 51 20:09:46 ]