ความคิดเห็นที่ 1 คุณหมอใจดีจัง กรุณาให้คำแนะนำอย่างละเอียด ขอบคุณมากๆค่ะ ขอตอบแทนคำถามที่ว่าที่อเมริกาจะรักษาเหมือนกันไหม วิธีการแพทย์ที่เมืองไทยหรืออังกฤษหรืออเมริกาก็เหมือนๆกันทั้งนั้นค่ะ บางอย่างของไทยหรือยุโรปไปไกลกว่าอเมริกาอีกเพราะไม่ถูก FDA จำกัด ยิ่งเดี๋ยวนี้รัฐบาลอเมริกันตัดงบส่งเสริมการค้นคว้าทุกด้าน แถมไม่ส่งเสริมการศึกษามานานแล้ว มัวแต่เอาเงินไปทุ่มสงคราม ประชากรงี่เง่าขึ้นทุกวัน น้องเขาจบแพทย์ที่เมืองไทย ไปดูงานที่อเมริกา และที่อื่นๆทั่วโลก ถามว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ไหม เขาบอกว่าได้เห็นว่าของไทยไม่ได้น้อยหน้าใครเลยนะคะ จากคุณ : ป้าเองค่ะ - [ 2 พ.ค. 51 07:14:51 A:68.23.168.37 X: TicketID:170880 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่ออสเตรเลีย เวลาไม่สบายไปหาหมอนะคะ หมอจะให้กินพานาดอลอย่าง เดียว ไม่ว่าจะปวดหัว เป็นไข้ ตัวร้อน เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไม่มีจ่ายยาแก้อักเสบเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเพราะอะไร ยาแก้น้ำมูกไหล ก็ไม่มีให้นะคะ บางครั้งไม่สบายอยู่ต่างแดน คิดถึงโรงพยาบาลที่เมืองไทย ไปหาหมอที ได้ยามาเพียบ จากคุณ : coast girl - [ 2 พ.ค. 51 13:47:01 A:58.165.3.17 X: TicketID:163162 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้อยู่อังกฤษ แต่ตามมาอ่านตั้งแต่กระทู้แรก ขอบคุณมากๆๆ ที่มาให้ความรู้ ส่วนตัวตอนนี้ก็รักษาอยู่กับหมอจัดกระดูกมาได้ เกือบ 6 เดือนแล้ว เพราะปวดหลังมาก  จากการทำงาน  แต่ก็ยังไม่หาย คงเป็นเพราะ ปล่อยไว้นานเกือบปี จึงได้ไปหาหมอ  เลยรักษายากขึ้น จากคุณ : Weka - [ 2 พ.ค. 51 14:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ออสเตรเลีย หรือที่อื่นอย่างที่สิงคโปร์ เจ็บป่วยเป็นหวัด เป็นไข้ หมอจะไม่นิยมจ่ายยาแก้อักเสบ เพราะเขามองว่าไม่จำเป็น ร่างกายคนเราสร้างภูมิต้านทานได้ เพียงแต่ต้องอดทนไปสองสามวันกับอาการ จากคุณ : yuy - [ 2 พ.ค. 51 17:00:17 A:124.121.22.88 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบความเห็นที่สอง และสี่ ถ้าได้อ่านมาตั้งแต่กระทู้แรกจะเข้าใจเหตุผลนะครับ คือ ไข้หวัด ที่ไข้ ขี้มูก น้ำมูกเยอะๆ ไอเยอะๆ นั่น ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งไม่มียารักษา หรือ ฆ่าเชื้อไวรัสได้นะครับ ต้องให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายจัดการ ส่วนถ้าไข้สูง เจ็บคอมาก ทอนซิลบวมเป็นหนอง พวกนี้ไม่ค่อยมีน้ำมูก แล้วก็ไม่ค่อยไอ ด้วย คนไข้จะเจ็บคอมากๆ อย่างเดียว พวกนี้คือ คออักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ต้องรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ หรือ ยาปฏิชีวนะ จริงๆ ไม่ควรเรียกว่ายาแก้อักเสบ เพราะมันไปฆ่าเชื้อ แล้ว การอักเสบมันถึงจะหาย ไม่ใช่ยาแก้อักเสบจริงๆ แต่เรานิยมเรียกกันไปอย่างนั้น เวลาผมสั่งยานี้ ผมจะเรียกว่ายาฆ่าเชื้อครับ อย่างที่เรียนว่า หมอฝรั่ง เขาบอกคนไข้อย่างนั้น ตามที่ผมบอกนี่ล่ะ คนไข้ส่วนใหญ่เขาก็โอเค ไม่ต้องกินยามาก แต่ก็มีบ้างที่แบบอยากได้จัง ยาฆ่าเชื้อ แต่ของคนไทย ตรงกันข้าม ไม่ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ นี่มีเคือง ค้อนขวับ ประหลับประเหลือก แล้วก็ไปหาอีกที่ หนึ่ง ในที่สุด ก็ได้มาจนได้ หรือ ไม่ก็ซื้อกินเองตามร้านขายยา ทั้งๆ ที่หมอ ก็รู้อยู่แก่ใจ ว่า ไข้หวัด กินยาฆ่าเชื้อ ไม่ช่วยอะไรเลย แถมยังทำให้เชื้อในปาก ในคอ ดื้อยาขึ้น พอเป็นคออักเสบจากแบคทีเรียขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องใช้ยาแรงๆ ไม่งั้นก็ไม่หาย ฟังอย่างนี้แล้ว อย่าไปคิดถึงหมอเลยนะครับ รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ถ้าเป็นไข้หวัด (ย้อนกลับไปอ่านอาการนะครับ) ก็กินยาลดไข้ แล้วก็พักผ่อนก็พอแล้วนะครับ จากคุณ : แพทย์ (แพทย์) - [ 3 พ.ค. 51 16:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจากโรคติดเชื้อต่างๆ ที่กล่าววไปแล้ว ยาสามัญประจำบ้าน สำหรับโรคภัย ไข้เจ็บ เล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะมีติดตัวไว้บ้าง ก็ได้แก่ paracetamol สำหรับอาการปวดศีรษะ ลดไข้ ปวดกล้ามเนื้อจากการใช้งาน เล่นกีฬา ปวดประจำเดือนที่ไม่รุนแรง ibuprofen 400 mg รับประทานวันละสามครั้งหลังอาหารทันที สำหรับอาการ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือ ปวดประจำเดือนรุนแรงมากขึ้น ไม่ทุเลาจาก paracetamol แต่ไม่ควรรับประทานในกรณีมีไข้ เพื่อเป็นยาช่วยลดไข้ และต้องระวังในคนที่มีปัญหาแผลในกระเพาะอาหาร หรือปวดท้อง แสบท้อง ง่าย โรประจำตัวอื่นๆ ที่ต้องระวัง คือ ถ้ามีโรคไต โรคตับ โรคความผิดปกติเกี่ยวกับเลือดหยุดยาก ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน chlopheniramine 4 mg ที่ใช้เป็นยาลดน้ำมูกเวลาเป็นหวัด สามารถใช้กับคนที่มีอาการของภูมิแพ้ น้ำมูกไหล คันจมูก จามบ่อยๆ ตอนเช้า หรือ อากาศเย็นๆ แต่อาจจะง่วง ซึมได้ จึงควรระมัดระวังในการรับประทาน อาจใช้ลดอาการคัน จากผื่นแพ้ แมลงสัตว์กัดต่อย ได้ betadine สำหรับใส่แผล rubbing alcohol สำหรับใส่แผล tensoplast ที่นู่นเขาเรียกว่า sticking plasters เป็นต้น น่าจะดูแลตัวเองได้นะครับ ใครปวดท้องเสาะท้องง่าย จะหา alum milk ไว้กินก็ได้ ไปซื้อหาก็บอกว่าเอา antacids นะขอรับ ยาพวกนี้เป็นพวกที่พอจะซื้อหาเองได้ หรือ ไปขอคำแนะนำจาก pharmacist หรือ chemist ตามร้านขายยา ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ครับ จากคุณ : แพทย์ (แพทย์) - [ 3 พ.ค. 51 18:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องสุขภาพ 3 จากคุณ : แพทย์ - [ 3 พ.ค. 51 18:06:20 ]