ความคิดเห็นที่ 1 เค้าใช้จนติดมั้ง มีเพื่อนคนนึง(คนไทย)ติดยาดม ไม่มีแล้วจะลงแดง ทีบ้านก็ติดยาหม่องเป็นยาสามัญประจำบ้าน ใช้มันรักษาเกือบทุกอย่าง เคล็ดขัดยอก แมลงสัตว์กัดต่อย แม้แต่ปวดท้อง เราเคยปวดเท้า(เดินมากเกินไป) ไปหาซื้อยาอะไรก็ไม่หาย สุดท้ายทายาหม่อง หายเลย แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 51 00:20:34 จากคุณ : pixp - [ 28 พ.ค. 51 00:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราก็ติดนะ แก่แล้วอะ หุหุ เดี๋ยวเจอเพื่อนคนจีนจะลองถามให้นะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 51 00:22:11 จากคุณ : hi_tidty - [ 28 พ.ค. 51 00:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เขาทำงานหนักมั้ง เลยต้องติดไว้  แก้ปวด  เมื่อย... จากคุณ : Hunny Star - [ 28 พ.ค. 51 01:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดิฉันคนจีนค่ะ แต่ไม่ซื้อ เพราะไม่ติด ที่เห็นซื้อไม่ใช่คนจีนเลยค่ะ ฝรั่งหัวแดงที่มาจากอังกฤษ เจอแกหอบแซมบัคหอบใหญ่ที่ร้านยาในเทสโก้ เมื่อตอนกลับไปเยี่ยมเมืองไทย แล้วก็เจอคนไทยไปฮ่องกง ไปหอบน้ำมันหม่องของจีนตราเด็กทารกมากันเยอะแยะ คิดว่า คงอยู่ที่ใช้แล้วติด เพราะที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นก็ขายดีในหมู่คนไทยอยู่แล้ว จากที่ได้คุยกับเพื่อนที่มีร้านขายยาหนะค่ะ จากคุณ : Panissar - [ 28 พ.ค. 51 04:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แก้เคล็ด ขัด ยอก ปวดเมื่อย ช้ำบวม แมลงสัตว์กัดต่อย หรือดม แก้คลื่นเหียน อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เราคนไทยก็ต้องมีไว้ประจำเหมือนกันค่ะ  เหมือนเฟิรสเอด มั้งคะ คือเห็นมาตั้งแต่ยังเด็ก ย่า ยาย มีไว้ประจำตะกร้าหมากน่ะค่ะ ส่วนตัวจะว่าติดยาหม่องก็มีบ้างนะคะ แต่ไม่ถึงขนาดพกพาไปทุกที่ สำหรับเรา ยาดมมันไม่เท่าไหร่ แต่ยาหม่องมันมีสเน่ห์ เพราะแต่ละยี่ห้อ กลิ่นก็ไม่เหมือนกัน แถมความร้อนเย็น สรรพคุณ ก็แตกต่างกัน เคยฟกช้ำดำเขียว เพื่อนไต้หวันเห็น ควักยาหม่องตาเสือจากกระเป๋าออกมาทาให้ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 28 พ.ค. 51 05:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นบุคลิกสากลของทุกชนชาติ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อแค่นั้นเอง หลาย ๆ คนทำร้านอาหารไทยก็ซื้อเค้าเตอร์เพนกัน (ไม่รู้เดินอะไรกันมาก- มาย) ฝรั่งก็ซื้อ (แต่มันซื้อยี่ห้อของมัน) ป.ล. ผู้หญิงชอบดมยาดมมาก ๆ เสียบุคลิกเหมือนกัน มีน้องคนนึงที่ทำงาน สวยมากแต่ชอบดมยาดม ดูไม่ดี จากคุณ : ฟ้าลั่น - [ 28 พ.ค. 51 08:28:22 A:58.181.152.146 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 7   สงสัย ทำไมคนไทย "ส่วนใหญ่" ชอบซื้อ น้ำหอม เครื่องสำอาง เหล้า บุหรี่ในดิวตี้ฟรี และ/หรือ จำเป็นที่จะต้องซื้อสินค้าของหลุยส์ฯ เวลาที่ไปฝรั่งเศส หรือ ไปซื้อของปลอมที่เสิ่นเจิ้น หรือ เกาหลีใต้ ก็ยังดี ? ซื้อทีมากมายเป็นกระเป๋า พอเห็นจะดีใจมากๆ เรียกเพื่อนมาซื้อกันใหญ่ หลายๆ ครั้งถึงคน "ส่วนใหญ่" เหล่านั้นจะไม่ได้เดินทางเอง ก็ต้องฝากเพื่อน ฝากญาติ ฝากคนอื่นซื้อ ใครมีเพื่อนเป็น Typical Thai หรือ Typical Asian ฝากถามทีคะ ข้องใจ ^^ ^^ หึ หึ ข้างบนหน่ะ แซว เลียนแบบเนื้อกระทู้ขำๆ นะคะ อย่าคิดมากค่ะ ส่วนข้างล่างนี้ เข้ามาช่วยตอบให้เป็นเรื่องเป็นราวค่ะ............... คนจีนโดยเฉพาะคนจีนมาเลย์ ใต้หวัน มาเก๊า ฮ่องกง เขาชอบของพวกนี้ ใช้กันอยู่ประจำอยู่แล้วค่ะ คาดว่าคงซื้อไปแจกกัน หรือ บางทีก็ชอบฉลากที่ไม่เหมือนกัน เราเอง ขนาดไม่ติดของพวกนี้ ไม่เอาไปดม หรือ ไม่เอาไปใช้นอกบ้านด้วย แต่ก็ชอบซื้อค่ะ เอาไว้ดมหอมๆ ดี หรือ เอาไว้ทาตอนไปออกกำลังกายมาแล้วเมื่อยๆ ทาก่อนนอน  หรือ เอาไปร้านนวดด้วยให้พนักงานเขาเอามานวดๆ ถูๆ ให้มันส์ดี เย็นสบายดี   และ เพราะของพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้วฉลาก หีบห่อ ตลับ หรือ ขวด เครื่องหมายการค้าจะสวยงามดีด้วย และ ของแต่ละประเทศ ของแต่ละยี่ห้อ กลิ่น และ สมุนไพร หรือ ส่วนผสมที่ใช้ก็แตกต่างกันค่ะ   ยกตัวอย่างเช่น ที่มาเก๊า หรือ ที่มาเลเซีย สินค้าพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นบาล์ม หรือ น้ำมันนวด จะมีวางขายอยู่ในร้านขายของที่ระลึกทั่วๆ ไปเลยนะคะ ถ้าเป็นที่ KL จะมีอยู่ตามร้านขายยา หรือ ตามร้านขายหมูแผ่น หมูหยอง กุนเชียงใน China Town ส่วนที่มาเก๊า หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขนม ร้านขายยา ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ทั่วๆ ไป และ ของแต่ละประเทศก็มีส่วนผสมแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามแต่ละท้องถิ่นค่ะ สีสันก็ไม่เหมือนกัน เป็นต้นค่ะ     จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 09:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 09:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 09:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 10:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 10:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 10:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พวกยาดมยาหม่อง พวก Balm นี้ ไม่ใช่แต่คนเอเชียเท่านั้นที่ชอบ แต่ฝรั่งก็ชอบ และ ฝรั่งส่วนใหญ่เขาจะรู้จัก "ยาหม่องตราเสือ หรือ Tiger Balm" ยี่ห้อนี้ดังมากในหมู่ฝรั่งที่รู้จัก Balm ของคนเอเชีย และ รู้จักใช้   อันนี้ลิงถือลูกท้อ.....น่ารักดี   จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 10:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยาดมของพม่าก็มี หอมมากด้วย ยาดมของพม่านี้จะเป็นกระปุกพลาสติกขุ่นๆ มีฝาพลาสติกสีเขียว กระปุกใหญ่เหมือนกัน เอามือกำยังไม่มิดเลย ไม่ได้มาเป็นอันเล็กๆ แบบยาดมส้มโอมือ หรือ ยาดมไฮเป็กซ์     บนฉลากมีภาษาพม่าล้วนๆ เลย หอมมาก ในกระปุกจะบรรจุกานพลู พริกไท และ สมุนไพรอีกหลายอย่าง พร้อมกลิ่นพิมเสน หอมเป็นธรรมชาติ ก่อนใช้ก็เขย่ากระปุกก่อน แล้วเปิดดม ที่เมืองไทย เคยเห็นมีขายที่จตุจักร และ ริมถนนที่สีลม ตรงหน้าร้านโอบองแปง ตรงคิวมอไซค์รับจ้างตรงโรงแรมดุสิตธานี   สรุปว่า....ยาดม ยาหม่อง หรือ Balm ใครๆ ทั่วๆ ไปก็ชอบใช้กันทั้งนั้นแหละ     ยาดมชนิดน้ำ ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน     จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 11:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนไต้หวันก็ชอบซื้อค่ะ โดยเฉพาะ ยาหอม 5 เจดีย์ คนที่นี่จะรู้จักแทบทั้งนั้น ขนาดเราจะกลับเมืองไทยเค้าก็อยากจะฝากซื้อ ยาตัวนี้สารพัดประโยชน์ของที่นี่ค่ะ ท้องอืด ท้องเฟ้อ เวียนหัว พี่ท่านใช้หมด สามีเรายังติดเลย วันไหนรู้สึกไม่สบายท้องก็จะเอามากินแล้วตามด้วย แล้วยาพวกนี้ที่เมืองไทยราคาถูกค่ะ เวลาไปเที่ยวกลับมาพวกเค้าเลยหอบกลับมากันเยอะมาก จากคุณ : ดาวฟ้า - [ 28 พ.ค. 51 12:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บรรเทา อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เวียนหัว คัดจมูก ยาหม่องในเยอรมนี ขายโคดแพงเว่อร์... สมัยเงินมาร์ค จำได้เลาๆว่า กระปุกละ สิบกว่ามาร์ค... โก่งราคามากๆๆๆ เมืองไทยกระปุกไม่กี่สิบบาท... ยาหม่องตราเสือเหมือนกันนี่แหล่ะ ยาต่างชาติในเมืองไทย ขายถูกกว่า อเมริกา และ ประเทศในยุโรป... ประสิทธิภาพไม่ต่างกัน.. ในเมื่อ บริษัทต่างชาติเองไปตั้งผลิตในเมืองไทย   ไปเมืองไทย จะซื้อยาประจำบ้านตุนกลับมา... ใช้ไม่หมดก็ไม่เป็นไร หมดอายุก็ทิ้งไป... ยังถูกกว่าซื้อยาในต่างแดน ยาพอนสแต๊นส์ นี่ออกฤทธิ์เร็วทันใจเชียว.. เคยใช้ครั้งหนึ่ง ตอนรากฟันอักเสบ... หลับสบาย หายปวดไปหลายชม.... ติดใจๆๆ ตอนได้หลับลึกๆ จากคุณ : JidNince - [ 28 พ.ค. 51 13:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถูกและดี พกพาสดวก เบาสบาย หอมเย็นชื่นใจ ทาผัวหอมเมีย ทาเมียหอมผัว เป็นของฝากได้อีกต่างหาก ชอบตุนยาหม่ิองพระโมคคัลลา จากคุณ : frechdachs - [ 28 พ.ค. 51 15:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^^ ^^ ++++++++++++++++++++++++++++++ หม่อง ทาผัวหอมเมีย ทามะ ทาหม่อง ทาหมับ หอมไปถึงดอว์   *ปล. and หมายเหตุ* คำว่า มะ และ ดอว์ เป็นคำนำหน้าชื่อสตรีพม่า ส่วนใหญ่มะ จะนำหน้าชื่อหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน ส่วนดอว์ จะนำหน้าชื่อ สตรีที่แต่งงานแล้นนน หรือ สตรีที่มีความรู้   เช่น "ดอว์ อัง ซัน ซูจี" นักการเมืองหญิงชื่อดังของพม่า เป็นต้น FYI   จากคุณ : รูปภาพหม่องกระโจ๊ นุ่งลองจี (Siamese Girl) - [ 28 พ.ค. 51 16:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สามีเรา หรือ เพื่อนที่ทำงานบริษัทสามี ก็ชื้อมาดม มา เยอะเลย แถมแป้งเย็นตางูอีก จากคุณ : meaw_1985 - [ 28 พ.ค. 51 17:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สงสัยอยากถามท่านผู้รู้ **  ทำไมเรียก  balm  ว่า " ยาหม่อง "   เพราะหม่องคนพม่าคิดค้นเป็นชาติแรก หรือคนพม่าหม่องมีธรรมชาติชอบปวดหัว  เวียนศรีษะเป็นประจำ หรืออย่างไร  กรุณาตอบด้วย จากคุณ : Detente - [ 28 พ.ค. 51 19:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ^^ ^^ # 20       ++++++++++++++++++++++++++ น้ำมันนวดแก้ปวดเมื่อย ชนิดน้ำแบบบรรจุขวด   จากคุณ : Siamese Girl - [ 28 พ.ค. 51 23:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาของยาหม่อง   หมู  Posted : 2007-08-22 17:08:39   คนไทย เรียกขานยาที่สามารถรักษาได้สารพัดอาการ ซึ่งทำมาจากน้ำมันเข้มข้น เมื่อนำมาถูนวดแล้วมีความร้อน ว่า "ยาหม่อง" Hawpar Group ถือกำเนิดขึ้นจาก Aw Boon Haw (Tiger) และ Aw Boon Par (Leopard) 2 พี่น้อง ลูกชายของ Aw Chu Kin แพทย์แผนโบราณ (ซินแส) ชาวเมืองเอหxxx มลฑลฮกเกี้ยน ที่อพยพไปหากินโดยเปิดร้านรับรักษาคนไข้อยู่ในกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1800 ทั้งคู่เกิดในพม่า โดย Aw Boon Haw เกิดในปี 1882 และ Aw Boon Par เกิดในปี 1888 ในวัยเด็กทั้งคู่ถูกส่งเข้าศึกษาในโรงเรียนของคนอังกฤษที่อยู่ในพม่า เมื่อปี 1908 Aw Chu Kin บิดาของทั้งคู่เสียชีวิต 2 พี่น้อง Boon Haw และ Boon Par จึงได้เริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง โดยการผสมผสานวิทยาการสมัยใหม่จากทางตะวันตก กับวิชาความรู้ทางแพทย์แผนโบราณที่ได้รับสืบทอดต่อจากบิดา โดยการผลิตยาหม่องตราเสือ ซึ่งมีความหมายตามชื่อของทั้งคู่ออกมาจำหน่าย กิจการของทั้งคู่ประสบความสำเร็จ ยาหม่องตราเสือได้รับความนิยมไม่เฉพาะแต่ในพม่า แต่ยังถูกส่งออกมาขายในประเทศใกล้เคียงทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศไทย ในปี 1920 ทั้งคู่ซึ่งเพิ่งมีอายุได้ไม่ถึง 40 ปี ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนจีนที่ร่ำรวยที่สุดคู่หนึ่งในกรุงย่างกุ้ง ในปี 1926 ทั้งคู่ได้ขยายมาเปิดโรงงานในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการขยายกิจการออกนอกประเทศพม่าเป็นครั้งแรก จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานของทั้ง 2 พี่น้อง ทั้งที่อยู่ในพม่าและสิงคโปร์ต้องปิดลงชั่วคราว และอพยพไปลี้ภัยอยู่ในฮ่องกง Boon Par ได้เสียชีวิตลงก่อนสงครามโลกสิ้นสุดเพียง 1 ปี เมื่อสงครามสงบ Boon Haw ผู้พี่ได้กลับมาเปิดโรงงานที่สิงคโปร์ใหม่ และเริ่มต้นขยายธุรกิจออกไปได้อย่างกว้างขวาง http://www.sapcom.com/webboard/show.php?Category=sapcom&No=367 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 29 พ.ค. 51 09:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ^^ ^^ Oh......ขอบคุณมากค่ะ คุณ โดดเดี่ยวผู้น่ารัก สำหรับความรู้ที่เอามาฝากกัน ดิฉันก็เพิ่งทราบเหมือนกันเนี่ย ว่า นายโอวบุ้นโฮ้ และ นายโอวบุ้นป้ะ สองคนนี่ที่จริงเป็นชาวพม่า มิใช่ชาวสิงคโปเรี่ยน (ดิฉันเองก็ไม่เคยไปเที่ยวสวนโอวบุ้นโฮ้ว ของยาหม่องตราเสือ ที่สิงคโปร์นะ.....เขาอาจจะมีประวัติในส่วนนี้อยู่ที่นั่นด้วยก็ได้) ปล. ถ้าคุณเต้ ได้มาอ่านคงดีใจที่ได้คำตอบ.....หรือ อันที่จริง คุณเต้อาจจะทราบแล้นนนก็ได้ แต่เข้ามาหลอกถามน้องๆ หลานๆ ในบอร์ดเล่น คริ คริ เพิ่งทราบนะเนี่ย ว่าคนพม่าไม่ได้รำขวานเก่งอย่างเดียว แต่ยังเป็นผู้ค้นคิดผลิตยาหม่องจนโด่งดังไปทั่วโลกด้วย อัฐยายใช้ซื้อขนมยาย อัฐไทย อัฐยูโร อัฐปอนด์ อัฐพม่า/Kyat ใช้ซื้อยาของหม่อง     พม่ารำขวานกันจนเมื่อย จึงต้องค้นคิดยาหม่องเอามา ทาถู ทาถู   จากคุณ : มะซาจี - Za Chi (Siamese Girl) - [ 29 พ.ค. 51 13:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ๊ะ ดีจัง ขอบคุณทุกคนสำหรับความรู้ค่ะ ขอบคุณคุณป้าคนน้องด้วยที่ไปปลุก ยาหม่องนี่มีเยอะ แต่ก่อนเคยเปิดร้านขายของ ตอนเลิกกิจการ เก็บยาหม่องไว้ ใครจะเริ่มเป็นหวัด เจ็บคอเป็นไอ ก่อนนอนเอายาหม่องทาคอ ทาหน้าอก ตื่นขึ้นมาหายจ้อย จริงๆนะ แต่มีไซ้ด์FX เล็กน้อย คือผัวก็จะหายไปด้วย มันเหม็น ฮี่ฮี่ ว่าแต่พม่าทำไมต้องรำขวาน แล้วพวกชาวบ้านตีกลองเสริม หรือว่าตีกลองไล่พม่าน้อออออ จากคุณ : ตา (ta/'o-o/') - [ 29 พ.ค. 51 13:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประทับใจค่ะ จากคุณ : frechdachs - [ 29 พ.ค. 51 16:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 1.ต้องขอขอบคุณท่านผู้รู้ทุกท่านที่กรุณาเข้ามาตอบ  คุณ โดดเดี่ยวผู้น่ารัก  และคุณ  SMG ( ข้าพเจ้ามีมารยาทดีไหมที่ขอบคุณผู้ตอบทุกครั้ง ) 2.ขอเรียนว่า  ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนจริงๆ   ไม่เคยทราบว่าพี่น้องสอง โอว บุ้น  Aw Boon เป็นคนสัญชาติพม่าเชื้อสายจีน ได้แต่มีความสงสัยอยากรู้มาตลอด   สมัยก่อนเคยไปเห็นร้านขายยาพม่าที่ถนนท่าแพ  เชียงใหม่  " สล่ามองโอสถ "  ยังซื้อยาหลายอย่างมาใช้  เครื่องแกงหลายอย่างก็มีขาย  เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ 3.สนใจเรื่องของพม่ามานานแล้ว  ชอบพม่ารำขวาน (เพลงไทยเดิมที่นำทำนองเพลงพม่ามาดัดแปลง) เช่นเดียวกับพม่าแทงกบ และพม่าห้าท่อน (ก็เพลงไทยเดิมอีกนั่นแหละ) แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 51 16:51:47 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 51 16:50:34 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 51 16:50:22 จากคุณ : หม่อง กะโจ๊เผลี่ยว (Detente) - [ 29 พ.ค. 51 16:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้นี่ความรู้เยอะเลยค่ะ ยาหม่องตราเสือ หรือ Tiger Balm สามีชอบมากๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณเจ้หยามสำหรับเนื้อหาเพื่มเติม และข้อมูลประกอบ ขอบคุณโดดเดี่ยวผู้น่ารัก ที่มา ของมา ยาหม่อง จากคุณ : -=@Shi=- - [ 14 มิ.ย. 51 15:11:15 ]