ความคิดเห็นที่ 1 According to the Energy Information Administration [EIA], 49.0% of electricity is generated from coal, 20.0% from natural gas, 19.4% from nuclear, 7% from hydro, 1.6% from petroleum, with the remaining 3.1% from other sources, part of which are alternative energy sources not listed (solar, wind, etc.). Approximately 9.5% of electricity generation is currently from renewable sources. ีมีใครลงทุนในทอง American Eagle บ้างครับ จากคุณ : academician - [ 1 ก.ค. 51 19:52:45 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 2 "3. เงินบาทกำลังจะอ่อนค่าลงไปเรื่อยๆ ในเร็วๆ นี้ เป้าหมายแรก 40 บาท/USD เป้า่หมายต่อไปคือ 50 (ภายใน 2-3 ปี)" เคยได้อ่านเจอว่า อเมริกาอยากให้เงินเขาอ่อนเพื่อที่จะแข็งส่งออกได้ แล้วก็เพื่อกดดันให้หยวนแข็งขึ้น อันนี้จริงหรือเปล่าเอ่ย จากคุณ : yuy - [ 1 ก.ค. 51 20:16:21 A:124.121.29.253 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 3 wow! ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนค่ะมารับฟังเฉยๆ เพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์  แฟนกำลังจะขายรถกระบะเพราะว่าเครื่องมันกินน้ำมันมาก สงสัยจะต้องทู่ซี้ขับต่อไปชัวร์เลยถ้าข้อมูลเป็นอย่างที่ จขกท.ว่านะคะ จากคุณ : iamjunenumberone - [ 1 ก.ค. 51 20:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณที่เข้ามานะครับ ส่วนนึงที่ดอลลาร์อ่อนจะช่วยเรื่องการส่งออก แบบที่คุณ yuy ว่าครับ เมื่อส่งออกได้มากขึ้นการขาดดุลการค้าก็ลดลง แต่สหรัฐฯต้องการให้ค่าเงินอ่อนเพื่อจะเบี้ยวหนี้ด้วยครับ เพราะ 1. เงินทุนสำรองของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ส่วนใหญ่เก็บไว้เป็นเงินดอลลาร์ 2. ทุนสำรองประเทศต่างๆ อยู่ในรูปพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (หนี้ที่รัฐบาลต้องไถ่ถอน) ถ้าค่าเงินดอลลาร์อ่อนมากๆ หนี้ทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่มีค่า มีเงินดอลลาร์เปรียบเสมือนถือแบงค์กงเต๊กไว้ .......นึกถึงประเทศไทยไว้นะครับ แบงค์ชาติซื้อเงินดอลลาร์ไว้มากแค่ไหน ถ้าเอาพันธบัตรมาไถ่ถอน ก็จะได้เงินดอลลาร์ที่ไม่มีค่าเช่นกัน .........แล้วสุดท้ายไม่มีใครอยากได้จะทำยังไง ก็ต้องเอามาซื้อสินค้าอเมริกันครับ ช่วง 2 ปีนี้ต่างชาติหันมาสนใจลงทุนในสหรัฐฯมากขึ้นมากๆครับ .......เพราะค่าเงินอ่อน+ค่าขนส่งจากที่อื่นแพง ประเทศในตะวันออกกลางหลายประเทศที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นสกุลหลัก ตอนนี้ปวดหัวมากมายครับเพราะเงินดอลลาร์ไม่มีค่า.......ก็เงินเฟ้อนั่นละครับ ไม่ใช่เฟ้อน้อยๆนะครับ อัตราเงินเฟ้อเป็นเลขสองหลักครับ สิบกว่า% กันทั้งนั้น สรุป ค่าเงินสหรัฐฯ นั้นคาดว่าจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในเร็วๆนี้ แต่ก็จะยังอ่อนต่อไปเรื่อยๆครับเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ เงินบาทนั้นจะอ่อนกว่าเงินดอลลาร์ การนำไปเทียบกับสกุลอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ สำหรับค่าเงินหยวนของจีน การกดดันให้แข็งค่านั้น มีเหตุผลหลักเพียง 2 อย่างครับ 1. การเก็งกำไร 2. การเมือง ลองคิดดูนะครับ - จีนมีทุนสำรองประมาณแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ - "ช่วงก่อน" จีนนำเงินที่ได้จากการค้ามาซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ ประมาณ 90 ล้านเหรียญต่อเดือน (อันนี้ข้อมูลเก่านะ) - บริษัทอเมริกัน/ต่างชาติ ลงทุนในจีนมีมากมายแค่ไหน - สินค้าที่ขายในสหรัฐฯทำจากเมืองจีนมีแค่ไหน เสื้อผ้า อาหาร เครื่องไฟฟ้า ฯลฯ - ถ้าเงินจีนแข็ง ราคาสินค้าที่จีนส่งมาขายจะแพงขึ้น แล้วคนซื้อคือใคร - ขณะนี้เงินเฟ้อในจีนสูงแค่ไหน แรงงานมีฝีมือแพงขึ้น+หายากขึ้น ...ค่าเงินจะแข็งขึ้นมั๊ย งงมั๊ยครับเนี่ย รอท่านอื่นๆ มาแสดงความเห็นด้วยดีกว่าครับ จากคุณ : academician - [ 1 ก.ค. 51 21:44:42 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยที่ว่าตอนนี้เศรษฐกิจตกสะเก็ดมาก จะคิดส่งเงินไทยกลับบ้าน ยังคิดแล้วคิดอีก จะส่งดีไม่ส่งดี เพราะว่าแลกกลับไปเป็นเงินบาทแล้วได้เงิน น้อยกว่าตอนแลกเป็นดอลล่าร์ตอนก่อนมาอเมริกาเยอะ นี่ถ้าตามที่คุณคาดไว้ว่าค่าเงินบาทจะอ่อนลงอีก อย่างนี้ก็น่าจะชะลอการส่งเงินกลับเมืองไทยสิคะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าค่าน้ำมันในตลาดโลกเป็นตัวผันผวนที่สุด ที่ทำให้ค่าเงิน เศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วน ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้แน่นอน เพราะน้ำมันนี่เอง กระทบกับค่าขนส่งโดยตรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอเมริกาตอนนี้ ค่าขนส่งแพง ของทุกอย่างก็แพงตาม ส่วนเรื่อง Sub prime Foreclosure อะไรนี่ ได้ข่าวเหมือนกันว่า เปอร์เซ็นต์ฺของ Foreclosure นี่เพิ่มขึ้นทุกเดือนๆ ใครมีเงินนอน จะรออีกซักหน่อยแล้วค่อยช้อนซื้อไว้ ก็คงไม่เป็นไร คงถึงเวลาที่คนอเมริกันต้องปรับตัว หลายๆอย่างที่คนอเมริกันฟุ้งเฟ้อมาก รักความสบายจนเคยตัว คงต้องปรับลงมาให้เหมือนประเทศอื่นๆบ้าง พลังงานทดแทน ก็จะน่าออกมาให้เห็นบ้างแล้ว อ่อ จะบอกว่า Southwest Airline ไม่ชาร์จกระเป๋าที่สองค่ะ แบบว่าเพิ่งเห็นโฆษณามาค่ะ จากคุณ : ลิงน้อย - [ 1 ก.ค. 51 22:11:28 A:216.206.197.131 X: TicketID:145647 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอ่อ ตอนนี้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาค่ะ แข็งวันละจุดสองจุดเลยทีเดียว วันก่อนฟังข่าวทางทีวี เค้าประเมินว่า ค่าเงินยูเอสจะอ่อนลง แต่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะสูงขึ้น จากคุณ : thaispicy - [ 1 ก.ค. 51 22:50:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่มเติม : น่าจะบอกว่าค่าเงินยูเอสอ่อนลงวันละจุดสองจุดมากกว่า จากคุณ : thaispicy - [ 1 ก.ค. 51 23:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้โดนพิษเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจน๊อคจนมึนแล้วค่ะ ตั้งแต่้ราคาำน้ำมันปรับตัวขึ้นมาก ส่งผลให้อาหารการกินก็ปรับราคาขึ้นเยอะมาก ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อวานไปจ่ายของที่ร้านเอเชียมา มะเขือสำหรับแกงลูกขนาดกลาง หกลูก $ 3.09 เจ้าของร้านบอกผักผลไม้มาไกล ราคาขายส่งปรับตัวขึ้นมาก (ดิฉันอยู่ New England ผักผลไม้เอเชียต้องชิปมาจาก Florida หรือไม่ก็ทาง California) จากคุณ : แนท (MCCGO) - [ 1 ก.ค. 51 23:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอร่วมสนทนาด้วยคนนะคะ...ขอตอบแบบคนไม่มีความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจนะคะ เป็นแค่ประชาชนเดินดิน (จริงๆ ขับรถ) คนหนึ่งเท่านั้น... ข้อ 1 - ไม่ได้สังเกต statement ของบัตรเครดิตเลยค่ะ เดี๋ยวคงต้องดูบ้างแล้ว เพราะปกติ pay off ทุกเดือนไม่มีหนี้ค้าง เลยไม่ได้ไปดูรายละเอียดอื่นๆ คิดอย่างเดียวคือไม่เป็นหนี้และไม่ยอมเสียดอกเบี้ยเท่านั้น ข้อ 2 - เรื่อง credit line นี้จริงอย่างที่คุณ academician บอกไว้ค่ะว่าเพิ่มขึ้น ข้อ 3 - เมื่อเดือนที่แล้วไปเมืองไทย วันแรกที่ไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30 บาท/ $1 ช่วงที่อยู่ที่เมืองไทยอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นไปจนถึง 33 บาท/$1 พอกลับมาอเมริกาได้ 1 อาทิตย์อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 34 บาท/$1 ข้อ 4 - ไม่ถนัดเรื่องราคาน้ำมันดิบนะคะ แต่ว่าน้ำมันที่เติมอยู่ตอนนี้ลดลงมาแล้ว 10 cents ข้อ 5 - ราคา real estate แถวบ้านก็มีลงบ้างเหมือนกัน แต่บางแห่งราคาก็คงที่ แต่ซื้อยากขายยากค่ะ ข้อ 6 - ขอให้ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นทีเถอะค่ะ ข้อ 7 - สายการบินผลักภาระให้ผู้โดยสารจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น กระเป๋าใบที่สอง เป็นต้น ข้อ 8 - เห็นด้วยค่ะว่าตอนนี้คนที่มีรถ SUV ต้องเปลี่ยนมาซื้อรถเล็กๆ เพราะสู้ราคาน้ำมันไม่ไหว คนส่วนใหญ่ตอนนี้ก็ขับรถแบบประหยัดน้ำมันมากๆ (ยังขับอยู่ไม่ได้ไปใช้บริการ public transportation) บน freeway ตอนนี้คนขับรถไม่ซิ่งเท่าไหร่แล้ว ข้อ 9 - กำลังหาข้อมูลเรื่อง "ทอง" อยู่เหมือนกันค่ะ เพราะดูแล้วน่าจะได้กำไรดีกว่าเก็บเงินกินดอกเบี้ยในธนาคารอย่างเดียว จะไปลงทุนอย่างอื่น (investment) ก็ไม่กล้าเพราะไม่มีความรู้ ไม่อย่างเสียงด้วยค่ะ แต่มองโดยภาพรวมแล้ว โดยส่วนตัวถามว่า "เดือดร้อนไม๊?" ก็ไม่เดือดร้อนค่ะ เพราะเป็นคนที่ management การเงินและมี budget ในแต่ละเดือน การไม่มีหนี้และไม่สร้างหนี้เพิ่มก็ทำให้เราไม่เดือดร้อนค่ะ... ขอบคุณ คุณ academician นะคะที่ชี้แนะให้มองปัญหาเศรษฐกิจเป็นประเด็นๆ มาตลอด... จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 1 ก.ค. 51 23:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 It's good reading your post krub K Academician. It has never been so clear to me why the gas price is so high the way it is. Well if there is a rise in demand, it got ta be so dramatic that made the price at the pump from $1/gallon to now $4/gallon. Hmm...  it doesn't really make sense to me krub. So if I spend let's say $80 bucks more per month for gas, I think I can live with that (I have to anyway). But gas price has a chain effect on many other things. The cost of doing business goes up so will the prices of goods. Small and medium size businesses can't just easily increase the prices in this tough economy. They will be forced, whether they like it or not, to have a narrower margin. But again, there is so much they can do before they have to let go of the price increases. Isn't that a forced inflation while people are actually spending less because they have less to spend? Touch road ahead is what I can see. I watched Larry King's last night and O' Reily the CEO of either Chevron or Exxon (I'm not sure) doesn't seem to be clear why billions and billions of profit for the company. Duh... if the company actually maintain the profit margin of 7% like he said, then it means the sales must have been skyrocketing to explain in big increase in profit ever. Well, billions of dollars will go to reinvestment in offshore drilling? Hmm is it something new for the company? I guess not. hmmm I dunno.. I kinda lost in this gas crisis. จากคุณ : Thai Texan - [ 2 ก.ค. 51 00:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Mainstream News.....คือเรื่องขำขันประจำวัน ปั้นข้อมูลเท็จหลอกประชาชน มีใครตอบได้บ้างครับว่าทำไม ตั้งแต่ปี 2003 ถึง 2008 โลกเราใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 2% แต่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมาเฉลี่ย 78% ต่อปี กลุ่มประเทศเอเซียที่มีพลเมืองมากๆ เช่น จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เมื่อเทียบปี 2008 กับ 2007 ใช้น้ำมันลดลง 2.18% ------------------------------------------------------------------ สินค้า commodities ทั้งหมด ซื้อขายกันที่ราคา future มีกำหนดวัน expire แน่นอน ราคาทั้งหมดที่แสดงในเวปเกี่ยวกับน้ำมันดิบ คือราคา future ทั้งสิ้น ราคา real time ก็คือราคาที่เก็งกำไร ซื้อๆขายๆกันระหว่างวัน ส่วนราคา spot ก็คือราคาปิด ณ สิ้นวันนั้นๆ เมื่อถึงวันที่ต้องส่งมอบสินค้า เขาก็รีบปิดสถานะกัน ไม่มีการซื้อขายจริงตามราคาที่เก็งกำไรไว้ ราคาจริงน้ำมันในตลาดแค่บาเรลละ US$ 75-80 ในตลาด future ปาเข้าไปตั้ง US$135-140 ผู้บริหารบริษัทน้ำมันกล่าวว่า หากราคาน้ำมัน US$135 จริง ....พวกเขายินดีเจาะบ่อน้ำมันอีกหลายหลุมที่เคยคิดว่ามีต้นทุนแพง เพื่อนำน้ำมันขึ้นมาขาย เพราะในราคานี้ คิดยังไงก็มีกำไร ---------------------------------------------------------------- ขอบคุณนะครับที่เข้ามาช่วยแสดงความคิดเห็น เรื่องค่าเงินบาท........กรอบระยะเวลาของผมคือภายใน 2-3 ปี ครับ ผมจะยินดีมากเลยครับ ถ้ามันแข็งขึ้นมาเยอะๆ ในสัปดาห์นี้ ......เพราะกำลังจะโอนเงินกลับมาที่สหรัฐฯครับ เพื่อลงทุนและรอโอนกลับไปอีก 2 ปีข้างหน้า (วันก่อนเคยบอกคุณลิงน้อยไปแล้วว่าผมจะโอน ในกระทู้ถามเรื่องโอนเงิน) เรื่อง Foreclosure เพิ่มขึ้นครับ ตามที่คาดไว้ 2 ปีที่แล้ว แต่ไม่มากเท่าที่เคยคาดไว้ ที่ผมตั้งข้อสังเกตคือ ราคาบ้านที่ซื้อขายในตลาดมือสองยังไม่ลดลงถึงจุดต่ำสุด ........ยังลงได้อีกอย่างน้อย 20-35% ของราคาตั้งต้นครับ ถ้าสถานการณ์ไม่เปลี่ยน แล้วแต่พื้นที่ไหน เมืองไหนนะครับ สถานการณ์แต่ละเมืองไม่เหมือนกัน เคยคุยไปแล้วในกระทู้เก่าๆ ว่าบางเมืองราคาไม่ลงเลย หรือมีแต่ขึ้นด้วยซ้ำไป --------------------------------------------------------------------------- กระทู้ต่อไปนี้ ดร นิเวศน์ เข้าใจเหมือนผมครับ เรื่องเอทานอล http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6758441/I6758441.html "การเอาพืชมาทำเป็นพลังงานนั้น ในทางทฤษฎี อย่างน้อยก็ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ยังไม่มีเหตุผล เพราะการปลูกพืชนั้นเราต้องใช้พลังงานเช่น ต้องเอารถมาไถหว่าน ต้องใส่ปุ๋ยซึ่งมาจากน้ำมัน ต้องรดน้ำ ต้องเก็บเกี่ยวที่ต้องใช้เครื่องจักร ต้องนำผลิตผลไปส่งที่โรงงาน และในโรงงานก็ต้องใช้พลังงานในกระบวนการผลิต เสร็จแล้วก็ต้องนำเอาเอธทานอลที่ได้ไปส่งที่ปั๊ม คิดแล้ว พลังงานที่ใช้ไปในการผลิตเอธทานอลหนึ่งลิตรนั้น เผลอ ๆ จะมากกว่าพลังงานที่ได้จากเอธทานอลหนึ่งลิตรด้วยซ้ำ" --------------------------------------------------------------- ผมเคยพูดไปแล้วว่า สหรัฐฯใช้ข้าวโพด-ถั่วเหลือง 30% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศ ...มาผลิตเอทานอลเพื่อทดแทนน้ำมันแค่ 0.1% ของ Gasoline ที่ใช้ นอกจากจะแพงมากและสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว .......ยังทำให้ธัญพืชทั่วโลกมีไม่พอเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงคน ราคาธัญพืชและเนื้อสัตว์...มันถึงขึ้นไปทุกอย่างไง การผลิตเอทานอลใช้น้ำมากๆ ใช้ไฟฟ้า ใช้พลังงานอื่นๆ มาก ธัญพืชเป็นอาหารหลักของสัตว์และคน เนื้อสัตว์ประเทศอื่นขึ้น แต่ในสหรัฐฯขึ้นไม่มากเท่าประเทศอื่นๆ ......เพราะสัตว์ประเทศนี้กินสัตว์และอาหารสังเคราะห์เยอะ วัวที่ติดโรค Mad Cow ก็เพราะในอาหารที่วัวกิน.....มีซากวัวที่เป็นโรคครับ จากคุณ : academician - [ 2 ก.ค. 51 00:23:25 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 12 About the real estate in my neighborhood kurb. I usually see more houses are on sale during the summer months. It's true this time around that I notice many homes in my neighborhood are put on sale. I have been watching and so curious when the signs will change to contract pending or sold. I kinda have a tingling feeling down my spine that it's not gonna be easy to sell. There has been a fair rise in prices in these past few years at least of the appraisal value for preperty taxing purposes. So folks!!!! I wonder if you can share the real estate situation in your area. จากคุณ : Thai Texan - [ 2 ก.ค. 51 00:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น้ำมันแพง... ทำให้อะไรพาลแพงไปหมด ไปเช่ารถสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เพื่อขับไปกับลูกไปคอนเนคคติกัด ไป Yale U. ที่เชิญเด็กๆทั่วอเมริกาส่งสมัครไป คือเขาคัดเลือกเด็กๆให้ไปดูมหาลัย ๑ วัน... จึงจำเป็นต้องเช่ารถขับไปกัน... ค่าเช่ารถไม่สาหัสอะไร แต่น้ำมันนี่สิ เป็นครั้งแรกที่ไม่อยากซื้อรถช่วงน้ำมันแพง... เติมแต่ละครั้ง ลองเติมต่ำสุดสิบดอลฯก่อน ได้แค่สองแกลลอน และเจอปัญหากับวนหาที่จอดรถแถวบ้าน ตอน ๖ โมงเช้า จากกลับมาจากสนามบินขับไปส่งลูกที่สนามบิน... เขาบินเดี่ยวไปซัมเมอร์เทรนิ่งไปแคลิฟอร์เนีย... ถึงบ้านวนหาที่อจดรถถึงครึ่งชม. หมดไปสี่ไมล์ กว่าจะได้ที่จอดรถที่ไกลมาก ก็ต้องจอดทิ้งไว้... ขี้เกียจเดินกลับบ้านเลยต่อรถบัสกลับบ้าน ก่อนไปคืนรถเช่า ขับรถพาลูกคนเล็กไปซื้อกุ้งล้อบสเตอร์ (คนขายบอกทางผิดเอ้อ เลี้ยวผิดไปแค่ถนนเดียว ทางบังคับให้ขับรถออกไฮเวย์นู่น รถติดบนไฮเวย์ยาวเปื๊อย กลายเป็นเผาน้ำมันกับรถติดไปอีก เฮ้อ) ... คนขายกุ้งล้อบสเตอร์โก่งราคาอีก อ้างว่าน้ำมันแพง ขายตัวหนัก สองปอนด์ครึ่ง ราคา ๓๕ ดอลฯ... อาหารทะเลอื่นๆขายแพงแบบโก่งราคาว่าน้ำมันแพง เมื่อวานไปร้านจีน เจอขายล้อบสเตอร์ถูกกว่ากันเกือบ ๑๐ ดอลฯ... เจ็บใจกับตัวเอง ไปคืนรถเช่าเมื่อวานแล้ว... โล่งอกไปที (เมื่อคืนนี้เก็บไปฝันว่า รถที่เช่าจอดไว้ข้างถนน ฝันว่ารถหายไป ชะโงกหน้าต่างไปดูว่ารถอยู่เปล่า เห็นรถหายไป ตกใจบอกว่า รถหายถูกขโมย จริงๆแล้วเอาไปคืนเมื่อวาน แต่ยังเก็บไปฝันร้ายเกี่ยวกับการมีภาระมีรถ นี่เอง) สำหรับบัตรเครดิต... ใช้บัตรเมื่อรู้ว่ามีเงินจ่าย...... จ่ายคืนเต็มทุกงวดมาตลอด... ไม่ชอบก่อนิสัยเสียเป็นหนี้ ค้างหนี้ แก้ไขมีตกหล่น แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 00:38:07 จากคุณ : JidNince - [ 2 ก.ค. 51 00:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยินดีที่ได้เห็นคุณ BlackmagicW คุณ JidNince และคุณ Thai Texan นะครับ ปกติผมไม่เดือดร้อนเรื่องน้ำมัน เพราะบ้านห่างที่ทำงานแค่ไมล์เดียว มีช่วง summer นี่ละครับ ที่บางวันเติม 100 กว่าเหรียญเพราะขับแหลก .........แต่อย่างว่าละครับ มันกระทบเรื่องอื่นๆ ไปหมด กำลังดูเรื่องทองเหมือนครับ แต่ช้าไป 1 สัปดาห์ ...........ถ้าซื้อได้ต่ำกว่า 850-880 จะดีมากครับ ดูไว้ระหว่างการซื้อ ETFs (เช่น GLD) กับการซื้อทองก้อนๆ (American Eagle) ครับ ดอกเบี้ยเงินฝากวันก่อนหาได้สูงสุด 3.55% ครับ .......ผมซื้อ-ขายหุ้นอาทิตย์เดียวก็ได้เท่านี้หรือมากกว่านี้แล้ว ถ้าเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ........สำหรับผมนะ....ไม่คุ้มเลยครับ จากคุณ : academician - [ 2 ก.ค. 51 00:42:46 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Sorry I have to type in English, I don't have a thai keyboard. I still feel like hitting my head against the wall every time I look at the stocks watch-list in my Scottrade account. I almost bought GLD (gold etf) a few years ago but didn't. I could have made quite bit of money, oh well, it wasn't meant to be. I've been investing in oil&energy stocks for the past few years since I read the book, the oil factor. There's probably some truth in the peak-oil theory. But with the oil at this price, above 140US$ today and could reach 200 US$ as forecasted by the end of this year,  I call it a bubble. I may be wrong ( I was dead wrong when I decided not to buy gold a few years back.) but I can't help feeling that things are starting turn the corner. On a big scale, China and other countries have started to ease on their oil subsidies, thus reduce oil consumption in the long run. On the small scale, I live an hour from LA and used to drive to LA every weekend. I have stopped doing that and only go once in three weeks. One reason is to save money but the real reason is that I don't want to feed into the bubble and the oil speculation even though I'm still investing in oil stocks. It's a great feeling to invest in something that keep on growing in vaule, but once it turns into a bubble and causes misery every where, especially to the less fotunated people, I think it's time to quit. A few weeks ago I overheard two old ladies (in their late 60s or even 70s) at Target talking about what it was like in the 70s comparing to what's happening right now, one of them said she just bought some exxon stocks, "if you can't beat them, join them," that's what she said. And I thought to myself, this could be a selling signal for me. I should get out of my energy stocks by this summer. As for the US economy, I don't know, I think things are bad all around, not just in the US. Higher cost of living and the fact that wages are not keeping up with inflation seem to be a global problem. By the way, somehow I just don't see 1US$=50 baht. 40 baht maybe, but 50 baht, I just don't think it's gonna happen. จากคุณ : chickadee (chickadee) - [ 2 ก.ค. 51 02:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาษาอังกฤษก็คุยกันได้ครับ คุณ chickadee ผมก็ว่าการลดปริมาณการใช้น้ำมัน (การประหยัด) เป็นสิ่งที่ควรจะทำมานานแล้ว การยกเลิกการ subsidize ราคาน้ำมัน เป็นสิ่งที่ควรจะทำทุกประเทศ ........ไม่งั้นประชาชนก็ไม่รู้จักประหยัด เพราะราคาขายไม่สะท้อนต้นทุนแท้จริงในตลาด สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างนึงนะครับ ค่าเฉลี่ยของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์ที่ผลิตโดย Big Three ..................ไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอด 30 ปี การประหยัดไม่ได้อยู่ในหัวของผู้บริหารประเทศนี้เลย ถ้าคิดจะประหยัดจริง ต้องบังคับให้เพิ่มตัวเลข Miles per Gallon นานแล้ว จากคุณ : academician - [ 2 ก.ค. 51 06:10:52 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พูดถึงเรื่องขายบ้าน ขอยืมบ่าล่ำๆของใครกระซิกๆๆหน่อยซิคะ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดใจขายบ้านไปแบบขาดทุนกำไรแบบย่อยยับ แต่ก็ไม่ขายก็ไม่ได้อีกเพราะเมืองที่อยู่นี่มีไฮสคูลที่ไม่ค่อยดี และลูกชาย คนโตก็จบ เกรด 8 แล้วด้วย ฮือๆ เจ็บใจตัวเองที่ขี้เกียจเก็บของเก็บบ้านโชว์ เมื่อปีสองปีที่แล้ว แถวบ้านดิฉันก็ขายบ้านกันไม่ออกค่ะ ถ้ายังต้องการราคาดีๆ บ้านที่ขายออก ก็ต้องขายราคาต่ำๆแบบบ้านดิฉันนี่แหละค่ะ จากคุณ : ปรารถนา - [ 2 ก.ค. 51 07:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดี ๆ (เริ่มเบื่อ ๆ กับกระทู้ไปจีบคนนั้นดีมั้ย มีผัวดีมั้ย ... ประมาณนี้) ผมก็ไม่ค่อยห่วงเรื่องน้ำมัน (โดยส่วนตัว) เพราะเดินไปทำงาน (ลิ้นห้อยพอประมาณ) ยังได้ แต่ก็ทะลึ่งมี small SUV กับเค้าหนึ่งคัน เวลาจะไปตอหลด:-)ที่ไหน พอเหยียบ ๆ หน่อยเห็นเข็มน้ำมันมันวิ่งไปอีกฝั่งเร็วสุด ๆ ก็เซ็งเป็ด เพราะเติมทีแทบร้องไห้เสียตายตังค์ เดี๋ยวว่าจะไปถอยพวก toyota yaris หรือ honda fit แทนแล้วอ่ะ ... รถผมกินน้ำมันเฉลี่ย 25mile/g ได้มั้ง แต่พวก yaris กับ fit นี่ไปไกลประมาณ 40+ mile/g กันแล้ว ... ปล. 1.วิกฤตน้ำมันในโลกนี้น่าเป็นห่วงจริง ๆ 2. นั่งว่าเพื่อนที่มันขับพวกรถถัง (GMC กันใหญ่ ๆ ที่กระซวกน้ำมันแบบ 15mile/g) ไปทำงาน ... ว่าทำไมมรึงไม่เปลี่ยนรถ จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด - [ 2 ก.ค. 51 09:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นไหมครับข่าวที่ปลดพนงออก ที่เมืองดิทรอย์นะ เพราะรถถัง เอ้ยรถทรัคขายไม่ออก ยอดขายลดฮวบฮาบกว่ายี่สิบเปอร์เซ็น แต่ก็ยังผลิดอยู่ เพราะอุสาหกรรมผลิตรถยนต์กว่าจะขยับตัว ก็ต้องใช้เวลาสองปีเป็นอย่างน้อย ถามว่าคนธรรมดาจะเปลี่ยนรถไปซื้อพวกไฮบริตมาขับเพื่อจะประหยัดน้ำมัน มันจะคุ้มไมหน๊อ คำตอบคือยังไม่คุ้มครับ แน่นอนไหนจะต้องขายคันเดิม ตอนนี้ราคา SUV ก็ไม่ดี ไม่มีคนอยากซื้อ ซื้อไฮบริตมา มีปัญหาซ่อมห้างตลอด ไอ้คนในที่ซ่อมเป็นจะมารับจ๊อบข้างนอกเองก็ทำไม่ได้อีก เพราะอะไหล่ก็ต้องซื้อห้างเท่านั้น ไอ้เอทานอล ก็อย่างที่คุณ academician ว่า ดูผิวเผินน่าจะดี แต่จริงๆกว่าจะผลิตได้หนึ่งลิตร ใช้น้ำมันในการผลิตไปลิตรกว่า แถวส่งตามท่อไม่ได้นะครับ ไม่เหมือนน้ำมัน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ที่ๆจะเอามาปลูกเพื่อการบริโภคกลายมาเป็นปลูกข้าวโพด เพื่อทำเอทานอล ข้าววีตก็เลยแพงขึ้น แป้งที่เอามาทำพิซ่าก็แพงขึ้น ของขึ้นราคาตามยวดยาบ เป็นลูกโซ่ เข้าข่าย Chaos ที่เค้าว่า ผีเสื้อขยับปีกที่เมืองจีน ส่งผลให้เกิดทอเนโดที่มิซูรา ขอแซวคุณผัดไทยหน่อยนะครับ มีรถดันทะลึ่งเดินไปทำงาน อิอิ ผมว่าอย่าไปถอยให้มันยุ่งยากครับ เดินนะดีแล้ว จากคุณ : Thai Texan - [ 2 ก.ค. 51 10:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเห็นรถเล็กๆ เหมือนรถเด็กยังไงชอบกล แบบที่เค้าขับที่ยุโรปนะ เริ่มเอามาขายที่เมืองผมแล้ว สนทนาราคาก็ไม่แพง 1x,xxx เท่านั้น วิ่งก็ 45ไมล์ต่อแกลอน เติมน้ำมันที่ยิ้มเหงือกบานเลยครับ เพราะถูกมาก ที่ถูกเพราะเติมเต็มถังก็แค่ 7 หรือ 8 แกลอน แต่มาคิดแล้วก็น่ากลัวครับ เพราะที่เทคซัสรถทรัค คันใหญ่ๆทั้งนั้น ถ้ามันมาเสยเราคงดูไม่จีด จากคุณ : Thai Texan - [ 2 ก.ค. 51 10:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอออกความเห็นส่วนตัว โดยไม่มีหลักเศรษฐศาสตร์ใด ๆ มารองรับ -- เรื่องบัตรเครดิตมีเกรซพีเรียดลดลง อันนี้ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า แต่บัตรที่ใช้อยู่ ยังเหมือนเดิม -- บัตรเครดิตให้เครดิตไลน์เพิ่ม เห็นด้วยว่ามีบ่อยขึ้น แต่ไม่คิดว่าเพราะแบงก์ต้องการปรับแต่งตัวเลข คิดว่าเป็นการทำให้เงินสะพัดมากกว่า -- เงินบาทจะอ่อนตัวลงไปมากกว่านี้ อันนี้คิดว่าคงจะเป็น แต่ไม่น่าจะถึง 50 บาท (ความรู้สึกล้วน ๆ) เพราะดอลล่าร์คงจะอ่อนไปอีกนาน -- ราคาน้ำมันดิบ เชื่อโกลด์แมนแส็คส์ว่าภายในอีกสองปีข้างหน้า ราคาคงอยู่ระหว่าง 175-200 แต่คงไม่ได้ขึ้นเป็นเส้นตรง มันคงต้องมีตกบ้าง เพราะโอเป็คต้องเลี้ยงต้อยผู้บริโภคไว้ (จริง ๆ เลี้ยง administration ไว้ให้อยู่ก็พอ จะได้ไม่ต้องให้ EPA ออกกฎเพิ่ม MPG >>>> สมน้ำหน้า โดนแคลิฯฟ้องเลย ไม่ต้องสนับสนุนพลังงานทดแทน >>>> "Who Killed the Electric Car?" (2006)) ค่อย ๆ ขึ้นทีละหน่อย เผื่อเวลาให้คนปรับตัวทำใจ จะได้ไม่หนีไปหาพลังทดแทนอื่น ราคาน้ำมันที่พุ่ง ไม่คิดว่ามาจากดีแมนด์ซัพพลายโดยตรง น่าจะมาจากการเก็งกำไรมากกว่า เพื่อนเมกันบางคนบอกให้ขุดเจาะมาให้หมด Alska Widlife Refuge เรอะ ไม่ต้องมีกันหรอกเจ้าพวกกอดต้นไม้ทั้งหลาย เราบอกว่าถึงจะขุดจะเจาะมาหมด แล้วใครจะมาขายให้ยูถูก ๆ ไหนจะค่าขุดเจาะ ค่าขนส่ง ค่าโรงกลั่น บลาบลาบลา อีกทั้ง "กำไร" ที่แต่ละบริษัทจะต้องทำแต่ละไตรมาส (Welcome to the club ปตท!) ของยังงี้ ไม่ผูกตลาดก็เหมือนผูกแหละว้า พอก่อนดีฝ่า เครียด! จากคุณ : Genuine XXX - [ 2 ก.ค. 51 10:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าไม่ใช้เอทานอลแล้วจะใช้อะไรดี รอรถพลังงานไฮโดรเจนที่ได้จากน้ำของญี่ปุ่นก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่แล้วราคาจะเท่าไหร่ ขนาดไฮบริดที่ว่าจะมาทำขายบ้านเรายังคันละตั้งสองล้าน รถที่ใช้ไฟฟ้าก็น่าจะดีนะ ถ้าเมืองไทยเรามีโรงงานนิวเคลียร์ แต่คงต้องรอชาติหน้า กลับไปขี่จักรยานแล้วกัน จากคุณ : yuy - [ 2 ก.ค. 51 11:16:47 A:124.121.23.61 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องบัตรเครดิต ไม่ทราบเพราะ ไม่มี ค่ะ มีแต่เดบิต หุหุ เชยจริงๆเรา สายการบินเรื่องชาร์ทโน้นนี่นิดหน่อยก็จริงๆด้วย อย่างค่ากระเป๋าใบที่2 ECO ไม่ดี ตลาดหุ้นก็ปั่นกันร้อนมั่กๆ 3-4 เดือนที่ผ่านมา คนที่บ้านเสียไปกับ S&Pกับ Crude Oil Futures แล้วก็ EURO เกือบ  $ 700K ตอนนี่หมายมั่นปั่นคืนก่อนสิ้นปี เริ่มคืนมาได้บ้างแล้ว กับGold กับ AUD เรื่องReal Estate  เราว่าลงไปมากนะอย่างคอนโดดาวน์เทาวน์ซานฟราน ตอนแรกจะประกาศขายเพราะย้ายข้ามฝั่งมา แต่พอดูราคาสภาพตลาดแล้ว ตอนหลังเปลี่ยนใจเอาให้เช่า เพราะจากคอนโดราคาล้านตอนนี้ราคาเหลือ 800K เอง ทำใจไม่ได้ ดูราคาสิแค่ 6 เดือน ราคาตกพรวดๆ เอาให้เช่าได้เดือนละ $3500 ยังดีกว่า เพราะขายไปทำใจไม่ได้เรื่องราคา เดือนที่แล้วไปดอมๆมองๆคอนโดแถวดาวน์ทาวน์แมนฮัตตัน ราคาไม่ยักจะลงเท่าไหร่ คอนโดใหม่ก็ยังแพงอยู่ ที่ไปดูมา ชอบมากตรง Battery Park 3ห้องนอน แต่พื้นที่แค่ 1,700 sf. ราคาเกือบ1.9 MIO ราคาไม่น่าคบหา นิวยอร์คซิตี้ นี่ราคาที่ดินหายหวงจริงๆ ปล. น้ำมันแพงเพราะการเก็งกำไร จริงเหรอ? http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6672270/I6672270.html แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 13:47:54 จากคุณ : -=@Shi=- - [ 2 ก.ค. 51 13:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Swat Dee Krub Several months ago my son bought a house in Falls Church, VA for about half price of the price a year ago. Price is stable for the area. He now thinks he should have waited until now which he can purchase 3 houses in Woodbridge, VA area which price has dropped big time and rent all 3 for double price of what he got now. I am sending (selling but not a lot of money)stuffs to Thailand . Now probably it is better to transfer money back to US. Do you think so? I think.. America always has a lot experts and they can make it work for the country somehow, one way or another... marketing, finance, especially. So much different to Thailand.. experts can sell their country for themself. จากคุณ : Isvasu - [ 2 ก.ค. 51 16:04:59 A:75.108.90.129 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณปรารถนา ผมยินดีให้ยืมบ่าล่ำๆครับ .............แต่เป็นบ่าของคุณพ่อของลูกชายคนโตของคุณนั่นแหละ แหะๆ คุณผัดไทยกุ้งสด ได้ 25 mpg นี่ก็นับว่าดีแล้วครับ ขนาด Toyota Camry 2009, Hyundai Sonata 2008 ใหม่ๆ ยังได้แค่ 27 เอง ...........ผมเพิ่งเช่าขับเดือนที่แล้วนี่เองครับ ใส่เข้าไปคันละ 2000 ไมล์ คุณ Genuine XXX เห็นด้วยทุกประการครับ ค่าเงินบาทคงต้องรอดูก่อนว่าจะถึง 40 เมื่อไหร่ครับ ..............ผ่าน 40 แล้วค่อยมองเป้าต่อไปที่ 50 ถ้าไม่ผ่านก็สบายใจได้ คุณ yuy รถ Fuel Cell ทำออกมาสำเร็จแล้วนะครับ แต่ต้นทุนยังสูงอยู่ รถพลังลมก็มีแล้วครับ ผลิตที่อินเดีย โรงไฟฟ้า nuclear ในเมืองไทยจะมีได้ก็ต่อเมื่อพวก NGO (โง่) หมดไปครับ คุณ@Shi ขอบคุณนะครับสำหรับกระทู้สินธร ผมอ่านมาตั้งแต่ตั้งกระทู้ แต่พอดีห้องนั้นต้องใช้ล็อคอินถึงจะโพสได้ครับ คนเขียนกระทู้จบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์ ข้อมูลเป็นข้อมูลทางการ .........ซึ่งในประเทศไทย ข้อมูลด้านพลังงานถูกบิดเบือนมาโดยตลอด อันนี้ผมมิได้ว่าเจ้าของกระทู้นั้นนะครับ เพราะเชื่อว่าเค้าทำหน้าที่ให้ความรู้โดยสุจริตใจ ผลประโยชน์มันเยอะครับ รัฐมนตรีที่ดูแลได้เงินจากบริษัทน้ำมันปีละเยอะมาก ............และเผื่อแผ่ไปถึงพรรครัฐบาลด้วย ทุกรัฐบาลได้รับเงินมาโดยตลอดครับ ผมเคยทำงานกับนักการเมืองมา 4 รัฐบาล 4 นายกรัฐมนตรี พอจะทราบนิดนึงครับ ดีใจที่เห็นคุณ Isvasu นะครับ ผมก็คิดอย่างนั้นครับ เลยคิดจะโอนเงินกลับมาที่นี่ชั่วคราว .........ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า คงจะได้เวลาลงทุน Real Estate ครับ ระหว่างนี้คงลงทุนกับทองและเงินเยนไปก่อน จากคุณ : academician - [ 3 ก.ค. 51 04:55:40 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แก้นิดนึงครับ เพื่อความถูกต้องของข้อมูล Toyota Camry 2009 และ Hyundai Sonata 2008 ได้ 27.5 mpg ครับ อันนี้เป็นอัตราวิ่งทางไกลนะครับ Interstate ล้วนๆ ความเร็ว 80-110 Mph จากคุณ : academician - [ 3 ก.ค. 51 04:59:33 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โห่ ความรู้ทั้งนั้นเลยนะค่ะ ขออนุณาติจขกทsaveเก็บไว้อ่านนะค่ะ จากคุณ : sporix (sporix) - [ 3 ก.ค. 51 08:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Airlines charge $10 to $25 if you make a reservation by phone instead of through their Web site. On the Web, third-party travel sites charge $5 to $15 per ticket for securing a reservation. Now, almost every airline charges $25 for a second bag. At American Airlines, US Airways and some others (including United Airlines starting Aug. 18), the FIRST checked bag is $15. ****US Airways will begin a $15 first-bag fee July 9. That airline also broke the beverage barrier when it became the first major airline to charge passengers for soft drinks, juice, coffee and bottled water in a new "pay-for-what-you-use" business model. The $2 charge begins in August.***** You pay those fees each way. Oversize or overweight bags cost up to $150 each way. Curbside check-in remains a relative bargain at $2 per bag at Northwest Airlines, United and US Air; it's free at American, Continental Airlines and Southwest Airlines. Officials for several major airlines said they'll keep a closer watch on your carry-ons as they implement new fees for checked baggage. The airlines, US Airways, American and United said they're following FAA rules that restrict carry-on luggage size. Passengers with large bags would be asked to check them even before reaching the gate. Passengers that do get to their gate with an oversized carry-on will be charged $15 at American. Getting a seat assignment used to be as simple as clicking on an available seat in the airplane schematic while booking online. But today the prerogative costs. ****Northwest Coach Choice customers can reserve exit, aisle and window seats for a one-way fee of $5 to $35 on domestic flights and $25 to $50 on international flights.**** Southwest, which boasts that it despises fees "as much as the other airlines seem to love them," makes an exception for priority seating. It commands fees of $10 to $30. ****Delta Air Lines just added a $25 to $50 fuel surcharge for people redeeming miles. United charges for frequent-flier tickets booked with less than two weeks notice. A UBS analysis put out June 25 said AirTran Airways and US Airways have a better than 50 percent chance of a "liquidity crisis" -- a bankruptcy -- in 2009. จากคุณ : academician - [ 3 ก.ค. 51 09:49:29 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผ่านมาอ่าน... ...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 3 ก.ค. 51 10:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอยยยย นู๋อยากจะร้อง กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : Kryta (kryta) - [ 3 ก.ค. 51 10:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผ่านมาอ่านและเก็บ จากคุณ : กุ๊นา - [ 3 ก.ค. 51 11:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หวังว่าคงไม่เก็บค่าตั๋วเครื่องบินตามน้ำหนักตัวนะครับ จากคุณ : ThaiAng- - [ 3 ก.ค. 51 13:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับคุณ Thai Texan เลยค่ะเรื่องรถเล็กๆในเท็กซัส เห็นรถคันเล้กๆแล้วหวาดเสียวแทนเพราะคนที่นี่ขับรถใหญ่ๆกันทั้งนั้นเลย ส่วนตัวเองก็โดนเรื่องน้ำมันเต็มๆค่ะ แต่จะไปซื้อคันใหม่ก็กะไรอยู่ จะเอาคันเก่าไปไว้ที่ไหน ขายก็คงขาดทุนซะไม่มี (จะขายออกรึเปล่าก็ไม่รู้) ตอนนี้เลยแย่หน่อย จะไปไหนไกลๆต้องวางแผนดีๆ รถที่ใช้เป็น Bi Turbo V6 ค่าเฉลี่ยเห็นแล้วละเหี่ยใจค่ะ 19 Miles / gallon ให้วิ่ง Highway ให้ตายก็ไม่เกิน 22 miles per gallon แล้วแกลลอนละสี่เหรียญกว่า เติมเต็มถังทีนี่ตกกะใจ จากคุณ : Texas (punky girl) - [ 4 ก.ค. 51 15:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบจังค่ะกระทู้นี้ เป็นประโยชน์มากมาย ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่อยากมีส่วนร่วม ฝรั่ง(แถวๆนี้) ทำไมถึงมาบอกว่าที่น้ำมันขึ้นในเมกาเพราะว่าสมัยนานมาแล้ว ประธานาธิบดีรึใครนี่แหละ ไปเซ็นสัญญาผูกขาดค่าน้ำมันกับปท.ตะวันออกกลาง ซึ่งอีกหลายปีสัญญานี้ถึงจะหมด แล้วเค้ายังบอกอีกว่า เมกาได้ให้ตึกที่มีราคาที่วอลสตรีทเป็นของขวัญแก่พวกปท.ตะวันออกอีกด้วย เพราะกลัวพวกนั้นจะถอนหุ้นทั้งหมดออกจาปท.เมกา(เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว) เห็นด้วยกับความเห็นข้างบนที่ว่าถึงเวลาที่ปท.เมกาจะรู้จักใช้สอยสิ่งของทรัพยากรให้มันประหยัดเสียบ้าง ปท.นี้ใช้ของเปลืองมากๆๆ สำหรับสายการบิน ตามคห.ข้างบนที่จะเริ่มชาร์ตกระเป๋าใบแรกแล้วนะคะ วันนี้เพิ่งคุยกับพ่อบ้าน เห็นเค้าว่าสายการบินจะชาร์ต(รึชาร์ตไปแล้ว)สำหรับคนที่อ้วนมากๆ ความจริงถ้าจะเก็บเงินเพิ่มสำหรับกระเป๋า น่าจะรวมน้ำหนักของผู้โดยสารไปด้วย เพราะคนเมกันหนึ่งคนนี่หนักเท่าคนเอเชียสองถึงสามคน มันไม่ค่อยแฟร์สำหรับคนตัวเล็กเช่นคนไทยที่ต้องจ่ายค่ากระเป๋าเพิ่ม เพราะสายการบินต้องการประหยัดน้ำมัน ในขณะที่คนเมกันหนักเป็นตันๆแต่จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินราคาเท่าเรา ต่อไปปท.แถบเอเชียจะรุ่งเรือง(อินเดีย,จีน,เวียดนาม) แล้วปท.เมกาที่เป็นใหญ่มานานคงต้องถึงเวลาเปิดหูเปิดตายอมรับปท.อื่นบ้าง ไม่ใช่อะไรๆเมกาก็ดีที่สุดดดด อ้อ เรื่องรถ ตอนนี้เพื่อนเราไปจองรถซิตี้แบบสองคนนั่งมาค่ะ คิวยาวมากๆ ปีหน้าถึงจะได้รถค่ะ ต่อไปคงได้เห็นฝรั่งตัวโตๆขับรถคันเล็กบ้างแล้ว ทั้งหมดนี่ความเห็นส่วนตัวแล้วก็บางอย่างได้ยินมาจากคนใกล้ตัวค่ะ ต้องรอดูกันต่อไป คนเมกันตอนนี้หวังว่าประธานาธิบดีคนใหม่จะมาช่วยชาติเอาไว้ เราก็หวังว่าทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น เพราะตอนนี้กระทบกันทั้งโลกเลย จากคุณ : Oshiri - [ 5 ก.ค. 51 06:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 นั่นสินะคะ ถ้าจะให้ยุติธรรมจริงๆ น่าจะชั่งน้ำหนักผู้โดยสารด้วย  หรือกำหนดมาเลยว่าคนน้ำหนักเท่านี้ ขนของได้เท่านี้กิโลก็ว่ากันไป จากคุณ : thaispicy - [ 5 ก.ค. 51 13:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตัวอย่างการบิดเบือนข้อมูลด้านพลังงาน โดยหน่วยงานของรัฐบาล http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6770165/I6770165.html จากคุณ : academician - [ 6 ก.ค. 51 17:53:09 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ^ ตามไปอ่าน................ฟิ๊ววววววววววววววววว จากคุณ : -=@Shi=- - [ 8 ก.ค. 51 13:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มีอีกกระทู้นึงครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6780528/V6780528.html อันนี้ข้อมูลเยอะเหมือนกัน จากคุณ : academician - [ วันเข้าพรรษา 12:01:58 A:130.18.158.154 X: TicketID:075095 ]