ความคิดเห็นที่ 1 ที่บ้านไม่ได้ติดค่ะ เพราะไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดช่วงไหนร้อนๆ เช้าๆจะเปิดหน้าต่างทุกบานเพื่อระบายอากาศ พอจะออกจากบ้านก็ไล่ปิดหน้าต่าง เอาที่กันแดดลง ปิดผ้าม่านให้หมดบ้านจะได้ไม่ร้อน คุณพ่อบ้านดิฉันขี้ร้อนมาก ถ้าเธอทนไม่ไหวจริงๆก็จะหนีลงไปอยู่ที่ห้องใด้ดินเธอว่าเย็นสบายดี (จริงๆแล้วคงหนีหน้าดิฉันมากว่า)ฮ่ะๆ ที่ทำงานติดไว้สองตัว แต่นานๆจะเปิดที ค่าไฟก็เลยไม่ค่อยกระเตื้องขึ้นมาเท่าไหร่ หน้าหนาวบางทีจะเปิดเป็นเครื่องทำความร้อนเวลาลืมชาร์ตฮีทเตอร์ค่ะ แต่วันนี้คงจะเปิดเพื่อทำความเย็น เพราะร้อนมาก(ดิฉันไม่เข้าออฟฟิตเลยเดาเอา) ที่มีอยู่เป็นของโตชิบาค่ะ รุ่นไหนไม่แน่ใจต้องไปดูอีกที แต่เป็นแบบติดผนัง ตอนที่ติดตั้งดิฉันละกรี้ดดดด เมื่อเห็นคำว่า Made in Thailand ฮ่าๆ ดิฉันว่าลองไปเดินดูแบบที่คล้ายๆพัดลมก่อนไม่ดีหรือค่ะ เพราะของดิฉัน(ทีออฟฟิต) ตั้งแต่ติดตั้งมาเปิดปีหนึ่งถึงสิบครั้งหรือเปล่าไม่รู้ เกรงว่าจะไม่คุ้มน่ะค่ะ จากคุณ : jasminchen - [ 1 ก.ค. 51 20:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บ้านนี้ไม่ติดแอร์ค่ะ แต่มีพัดลมสามตัว เอาไว้ห้องลูกหนึ่งตัว ห้องเราหนึ่งตัว และห้องรับแขกหนึ่งตัว (ขี้เกียจยกเข้ายกออกจากห้องนอน่ะ) จากคุณ : หนึ่งนางนี้ - [ 1 ก.ค. 51 21:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้ติดแอร์คะ มีพัดลมหนึ่งตัวเอาไว้ที่ห้องลูก ส่วนตัวเองกับสามีนอนเปิดหน้าต่างเอาคะ สามีแพ้ฝุ่น จากคุณ : @..pity..@ - [ 2 ก.ค. 51 02:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านหลังใหม่ติดค่ะ    เป็นยี่ห้อ ไดกิ้น  เป็บสองระบบ คือ   เป็นเครื่องทำความร้อน หรือ  ทำความเย็น ก็ได้ค่ะ    ส่วนค่าไฟสำหรับเครื่องนี้นั้น  ก็ไม่แพงค่ะ   ตกราวประมาณ ๓๐ ยูโร  ต่อเดือน    (หลังนี้กำลังจะให้คนเช่าค่ะ)  ส่วนหลังที่อยู่นี้นั้น   ให้แอร์แบบตั้งพื้นค่ะ  มีสองเครื่อง  ไว้ในห้องนอนของตัวเองหนึ่งเครื่อง และในห้องนั่งเล่นอีกหนึ่งเครื่อง   ขนาดไม่ใหญ่ค่ะ   สูงประมาณเกือบเมตรได้มั้ง   ส่วนอัตรากินไฟ  ถือว่ามากพอควรค่ะ    แต่ไม่ได้เปิดทุกวัน เหมือนบ้านหลังใหม่ เลยแค่คาดคะเนเอาน่ะค่ะ   มีวีธีการประหยัด ไฟ (คือว่าเปิดแอร์น้อยๆ )   มาให้ดูค่ะ    คือว่า  ที่บ้านดิฉัน ทำแบบนี้ค่ะ ที่บ้านมีหน้าต่างสองชั้น หน้าต่างชั้นใน ฝรั่งเศส ก็เรียกว่า  la fenetre ลาเฟอแน๊ต(เทอระ)  ของบ้านดิฉันเป็นกระจก (คาดว่าคงเป็นกระจกทุกบ้านเนอะ)  ส่วนชั้นนอก เรียนว่า le volet เลอ โวเล่   บ้านดิฉันทำด้วยไม้   ในช่วงตอนประมาณ เก้าโมงเช้า  ไปจนถึง สองทุ่ม  ถ้าเป็นวันที่อากาศข้างนอกบ้านร้อน แสงแดดจัด  ให้เปิดหน้าต่างประตูทุกบาน หลังจาก สองทุ่ม  ถ้าอากาศข้างนอกบ้านไม่ร้อนแล้ว ก็จัดการเปิดประตู   เอาลมเย็นๆ  มาไว้ในบ้านค่ะ   ก่อนเข้านอน  ถ้ากลัวคนมาเยี่ยมโดยไม่ได้บอกกล่าว  ก็ทำการปิดประตู  หน้าต่างบานข้างใน  ส่วนชั้นบน ดิฉันยังคงเปิดอยู่ค่ะ เปิดทิ้งไว้ทั้งคืนอย่างนั้น   จนกระทั่งเช้าสายๆค่อยปิดหมด      ส่วนชั้นล่าง   รอจนรุ่งสาง ก็มาเปิดหน้าต่างประตูทิ้งไว้ค่ะ   พอสายค่อยจะปิดหมด   ทำแบบนี้ ก็เป็นการประหยัด การเปิดแอร์ได้ดีที่เดียวค่ะ ส่วนการเลือกซื้อแอร์  นั้น  ที่นี่จะมีมาตรฐาน และการกินไฟ  เป็นเบอร์ๆ ไป  A-D    ราคา  ถ้าเป็น เอ ก็แพงหน่อย  แต่ก็ประหยัดไฟค่ะ    ส่วน ดี ราคาจะถูก แต่ก็กินไฟน่าดูเลย   คิดว่าเยอรมัน ก็คงมีเหมือนๆกับฝรั่งเศสนะคะ   ไม่ไกลกันเท่าไร  ดิฉันพยายามไม่เปิดแอร์   เพราะไม่อยากจะทำให้โลกร้อนขึ้นอีก    ยิ่งดูข่าวต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม ยิ่งใจเสียเลย  ผู้คนล้มตาย  อากาศเป้นพิษ แปรปรวณ   แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 02:54:41 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 02:53:58 จากคุณ : violetsand - [ 2 ก.ค. 51 02:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บ้านคุณ violetsand อยู่เมืองไหนอ่ะค่ะ วันนี้จะไปขออาศัยแอร์หน่อย แหะๆๆ ฝรั่งเศสวันนี้ร้อนที่สุดในรอบปี เมื่อกลางวันนี่สุดๆจริงๆค่ะ ร้อนไม่ไหวแล้ว ที่บ้านไม่มีแอร์เหมือนกันค่ะ แต่มีพัดลมตัวนึง ทำเหมือนคุณ violetsand ค่ะ แต่ว่าจะถ้าปิดหน้าต่างไม้ก็จะยังเปิดหน้าต่างกระจกไว้ พอค่ำๆก็เปิดหมดค่ะ ถ้าร้อนจนนอนไม่หลับก็เปิดพัดลม แต่ว่าถ้ามันเป่ามากๆระวังเช้ามาจะไม่สบายนะคะ นี่พอดีที่บ้านมีมุ้ง ก็เลยถ้าร้อนจัดๆ จะเปิดหน้าต่างนอนแล้วเอามุ้งมาขึ้งไว้ตรงหน้าต่างกันแมลงเข้าแทน ก็ช่วยได้บ้างค่ะ อากาศตอนกลางคืนเย็นกว่ากลางวันเยอะ จากคุณ : ...hamster... - [ 2 ก.ค. 51 03:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช้เป็นเครื่องทำความร้อนอย่างเดียวค่ะ ใช้เฉพาะหน้าหนาว ยึ่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไหนไม่รู้เหมือนกัน ตัวเครื่องราคาไม่แพงเท่าไหร่ ตกอยู่ที่ 8000 โครน รวมค่าติดตั้ง เบ็ดเสร็จจ่ายไป 15000 โครน เป็นแบบติดผนัง ค่าติดตั้งแพงค่ะ แต่พอเริ่มใช้ก็พอใจทีเดียว ถือว่าประหยัดกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะเมื่อก่อนใช้ฮีตเตอร์ไฟฟ้าทั้งบ้าน ตอนนี้มีเครื่องนี่เครื่องเดียว กระจายความร้อนได้ทั่วบ้าน เปิดติดต่อกันได้ตลอดเวลา ไปไหนหน้าหนาวก็ไม่ต้องห่วงแมว แต่ที่บ้านใช้ฟืนช่วยด้วย ก็เลยไม่ต้องตั้งค่าความร้อนมากนัก ค่าความร้อนที่ตั้งช่วงหน้าหนาวก็คือ 20 องศา ดิฉันอยู่สวีเดน 20 องศานี่ถือว่าร้อนแล้วค่ะ แต่ถ้าคุณจะใช้เป็นเครื่องทำความเย็น ก็จะแพงกว่าพัดลมปกติ แต่ถ้าใช้แค่ช่วงกลางคืน และเฉพาะหน้าร้อน ก็ไม่แพงอะไรมากมายหรอกค่ะ อยู่ที่ค่าความเย็นที่ตั้งด้วย ถือว่าซื้อความสบายให้ตัวเอง คนเราถ้าไม่มีความสุขในการนอน ตื่นมาก็ไม่สดชื่น พาลเอาวันทั้งวันไม่เป็นสุขไปซะเปล่าๆ จากคุณ : ม.แมว - [ 2 ก.ค. 51 06:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บ้านดิฉันมีเครื่องปรับอากาศทุกห้อง แต่ไม่เปิดค่ะ เพราะทีบ้านไม่ชอบอากาศ และ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศในห้องแอร์.....ไม่บริสุทธิ์ ที่บ้านมีพัดลมอยู่ 7 ตัว....ก็ใช้แต่พัดลมตลอด (ปกติใช้แค่ 2 เครื่อง) พัดลมตัวเล็กบ้างใหญ่บ้าง เอาไว้ใช้งานต่างที่ ต่างห้องกัน เปิดแอร์เปลืองไฟมาก ค่าไฟแพง อีกทั้งยังเพิ่มมลภาวะและเพิ่มความร้อนในอากาศอีกด้วย   ปล. ดิฉันมีเพื่อนที่เมืองไทย....เวลานอนต้องเปิดแอร์ 8 องศา แล้วห่มผ้าห่มขนเป็ดนอน ทำประหนึ่งว่าอยู่เมืองหนาว.....ให้ตายเถอะโรบิ้น     จากคุณ : คนกรุงเทพฯ บ้านอยู่เมืองไทย (Siamese Girl) - [ 2 ก.ค. 51 11:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ คือที่ตัดสินใจว่าจะซื้อแอร์นี่เพราะอดทนนอนร้อนๆมาหลายคืนแล้ว ก็มานั่งคิดกันว่าจะอดทนต่อไป หรือซื้อความสบายอย่างที่คุณม.แมวว่าดีไหม จะคุ้มไหมหนอ หลังจากที่อ่านความเห็นของคุณjasminchen เกิดไอเดียว่าน่าจะลองหอบผ้าผ่อนลงไปนอนในห้องใต้ดินดู แต่หลังจากคุยกับพ่อบ้าน เธอไม่เอาค่ะ เธอบอกว่ากลัวแมงมุม คุณ violetsand คะ ที่บ้านก็ทำประมาณนั้นแหละค่ะ แต่ที่เยอรมันจะมีชัตเตอร์ที่หน้าต่างแตกต่างไปจากที่ฝรั่งเศส คือแบบดึงขึ้นลง ถ้าบ้านแบบเก่าก็จะเป็นอย่างที่ฝรั่งเศส (ซึ่งดิฉันว่าสวยกว่า) ค่าไฟ 30 ยูโรนี่โอเคมากๆเลย ที่บ้านใช้ไฟต่ำกว่าค่าเฉลี่ยแล้วยังอยู่ที่ 50-55 ยูโร ถ้ามีแอร์เพิ่มขึ้นมาก็ไม่รู้จะเป็นไง กะว่าจะเปิดตั้งเวลาไว้ตอนนอน พอดึกๆก็ให้มันตัดไป น่าจะช่วยประหยัดไปได้บ้าง คุณSiamese Girl เก่งมากค่ะ นอนได้ไม่ต้องเปิดแอร์ทั้งๆที่อยู่กทม. คุณ @..pity..@ ,คุณ หนึ่งนางนี้ อย่าหาว่ากระแดะเลยนะคะ ดิฉันแพ้พัดลมตั้งแต่ไหนแต่ไร นอนหรือนั่งตากพัดลมทีไรเป็นหวัดทุกที แต่นอนแอร์กะเขาได้ ที่บ้านก็มีพัดลมอยู่หนึ่งตัว เอามาเปิดครั้งแรกที่หวัดกินเลยค่ะ ตอนนี้พัดลมตัวที่ว่าเลยต้องระเห็ดไปอยู่ห้องใต้ดินค่ะ คุณ...hamster คะ ยุงนี่ก็อีกปัญหานึงเหมือนกัน หน้าร้อนยุงเยอะขึ้นทุกปี ต้องซื้อมุ้งมาติด ดิฉันว่าอีกหน่อยอากาศแถบยุโรปคงกลายเป็นเหมือนเมืองไทยแน่ๆ เมื่อวานออกไปตระเวนดูแอร์มา ราคาอยู่ที่ 199 - 699 ยูโรค่ะ ถูกแพงตามระดับการกินไฟ เอ-ดี อย่างที่คุณ violetsand ว่าน่ะค่ะ แต่ไม่มียี่ห้อที่รู้จักเลย พวกมิตซูบิชิ อะไรแบบนี้ พวกยี่ห้อจะเป็นแบบตั้งพื้นซึ่งไม่อยากได้ค่ะเพราะมีเครื่องกรองอากาศตั้งพื้นไว้อยู่ตัวนึงแล้ว วันนี้จะออกไปเวียนดูอีกรอบ พร้อมกับรอความเห็นต่อไป จากคุณ : WR - [ 2 ก.ค. 51 15:05:51 A:91.45.68.229 X: TicketID:174186 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พัดลมค่ะ แอร์เสีนดายทั้งเงินทั้งค่าไฟ มีตังค์ก็ซื้อไปเถอะค่ะ ส่วนบ้านนี้ใช้พัดลมค่ะ จากคุณ : mopsen dog - [ 2 ก.ค. 51 23:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 บ้านดิฉันมีมีทั้งแอร์ และพัดลมคะ แต่ก็ไม่ร้อนมากนะคะ  อาจจะเป็นเพราะบ้านหลังเล็กๆไม่มีชั้นก็ได้มั้งนะคะ ก็คือบ้านชั้นเดียวนั่นแหละคะ แล้วก็หลังบ้านจะมีต้นไม้ใหญ่ด้วย  ยิ่งหน้าร้อนตอนกลางวันยิ่งเย็นสบายใหญ่เลยคะ จากคุณ : ชบาไพร (Mme) - [ 3 ก.ค. 51 02:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีแต่คนบ่นร้อนกัน แถวอิตาลีทางเหนือนี่ฝนตกฟ้าคะนองทุกวันเลยค่ะ ลมพัดแรงแล้วก็เย็นสบายดีค่ะ เทียบกับเมืองไทยนะ เมืองไทยร้อนอบอ้าวมากๆเลยค่ะ จากคุณ : Jerrynui - [ 3 ก.ค. 51 03:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น่าอิจฉาคุณ Jerrynui จัง ทางนี้รอฝนมาหลายวันแล้ว บางวันทำท่าครึ้มๆแต่ก็ไม่ตก ต้นไม้หลังบ้านพากันเหี่ยวเฉาไปตามๆกัน คุณชบาไพร ที่บ้านดิฉันกะจะติดเฉพาะในห้องนอน เพราะถ้าติดในห้องนั่งเล่นด้วยคงสู้ค่าไฟไม่ไหว และห้องชั้นล่างก็ไม่ได้ร้อนมากค่ะ ไม่ทราบว่าค่าไปบ้านคุณเป็นอย่างไรบ้างคะ จากคุณ : WR - [ 3 ก.ค. 51 12:45:26 A:91.45.113.146 X: TicketID:174186 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับค่าไฟดิฉันก็ว่าไม่แพงนะคะ  จะคิดค่าไฟทุก2เดือนอ่ะคะ ลืมไปแล้วว่าเท่าไหร่ดิฉันต้องไปเปิดเว๊ปธนาคารดู บ้านดิฉันจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมด หุงหาอาหารก็ไฟฟ้าไม่ได้ใช้แก๊ส  เวลาจ่ายก็แค่ค่าน้ำค่าไฟ หน้าหนาวก็จะใช้ก่อไฟเอา ส่วนในห้องนอนจะเปิดฮีตเตอร์คะ เปิดแค่อุ่นห้องนอนนะคะ พอเข้านอนก็ปิดคะ  อย่างเตาผิงในรูปเนี่ยพอซื้อปีแรกทางรัฐจะคืนเงินภาีษีให้ครึ่งหนึ่งของราคาเตาผิงที่เราซื้อคะ   เหอๆๆๆเค้ากำลังพูดถึงอากาศร้อน ดิฉันดันมาพูดถึงเตาผิง ยิ่งร้อนกันใหญ่เลยเนอะ จากคุณ : ชบาไพร (Mme) - [ 3 ก.ค. 51 14:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณWR บ้านดิฉัน ติด 2 ตัวค่ะ ในห้องรับแขก กับห้องนอน ส่วนห้องทำงาน ติดพัดลมเพดาน และห้องนอนเล็ก มีพัดลมตั้งโต๊ะแทน ตอนนี้ต้องเปิดแอร์ทุกวันเลยค่ะ ไม่งั้นนอนไม่ได้เลย ทั้งร้อน ทั้งชื้น จนนึกว่าอยู่เมืองไทยซะอีก เพิ่งเริ่มเปิดแอร์ทุกวันตั้งแต่กลางเดือนมิย. ตอนเที่ยงประมาณ 2 ชม(สามีกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้าน)และ ตอนเย็นหลังเลิกงานไปจนถึงประมาณ ตี 3 หลังจากนั้นก็เปลี่ยนโปรแกรมพัดลมแทนค่ะ  เพิ่งใช้แอร์ทุกวันมาประมาณ 10 วันเองค่ะ  ตอนนี้เก็บน้ำจากท่อแอร์ไว้รีดผ้าได้ เกือบ 15 ลิตร แล้ว   ส่วนค่าไฟยังไม่มาเลยค่ะ แต่แน่นอน แพงแน่ ๆ เพราะที่อิตาลี่ ค่าไฟแพงมาก ๆ หากประหยัดหน่อย ก็เลือกใช้โปรแกรมพัดลม กับลดความชื้น ก็ช่วยได้เยอะค่ะ ไม่ต้องถึงกับเปิดแอร์ แล้วก็อย่าใช้อุณหภูมิต่ำมาก ประมาณ 27-28 ก็สบายตัวแล้วค่ะ ยี่ห้อที่ใช้ มิตซูบิชิค่ะ เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ยังไม่เคยต้องซ่อมหรือเติมน้ำยาอะไรเลย (แนะนำเลยค่ะ ยี่ห้อนี้) อยู่ภาคเหนือตอนล่างของอิตาลี่ค่ะ เมื่อวาน อุณหภูมิ 29 องศาเซลเซียสแน่ะ จากคุณ : Rosa Rossa - [ 3 ก.ค. 51 16:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณชบาไพร ขอบคุณค่ะ เรื่องเตาผิงก็สนใจอยู่ เรื่องรัฐให้เงินคืนนี่น่าสนใจมากๆ กำลังคิดจะเปลี่ยนเครื่องทำความร้อนเป็นแบบที่ใช้เพเล็ทน่ะค่ะ เพราะเครื่องปัจจุบันใช้น้ำมันดีเซลล์ น้ำมันแพงขึ้นทุกวัน คงไม่กลับไปถูกเหมือนเดิมอีกแล้ว เตาผิงบ้านคุณสวยดีค่ะ ใช้เผาไม้ได้อย่างเดียวหรือเผาถ่านหินได้ด้วยคะ แล้วไม้นี่แพงหรือเปล่า ลำบากไหมเรื่องที่เก็บไม้ อยากรู้ค่ะ เพราะดิฉันชอบเตาผิงแบบบ้านคุณมากกว่าแบบเพเล็ท เปลวไฟใหญ่ดี แต่สามีกลัวลำบากเรื่องที่เก็บไม้ค่ะ ปล. แมวน่ารักจัง คุณ Rosa Rossa แอร์มิตซูบิชิ นี่ซื้อที่อิตาลีหรือคะ ที่นี่มีแต่ยี่ห้ออะไรไม่รู้ คิดว่าสุดท้ายก็คงต้องซื้อแบบโนเนมเพราะหาแบรนเนมไม่ได้เลย ใช่ค่ะอากาศมันร้อนจริงๆ ยิ่งกลางคืนนี่ทรมานมากๆ ยิ่งคุณอยู่อิตาลีนี่คงร้อนกว่าเยอรมันแน่นอน วันที่ดิฉันโพสต์กระทู้ อณภูมิอยู่ที่ 35 อาศา เมื่อวานฝนตก (มีฟามสุข)วันนี้ก็ทำท่าจะร้อนอีกแล้ว เห็นทีคงต้องสู้ตายกันหน่อยเรื่องค่าไฟ แล้วที่คุณบอกว่าเก็บน้ำไว่รีดผ้าได้ น้ำนี้มันมาจากส่วนไหนเหรอคะ จากคุณ : WR - [ 4 ก.ค. 51 14:09:00 A:91.45.120.221 X: TicketID:174186 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องที่เก็บไม้ ถ้าบ้านคุณมีพื้นที่หลังบ้าน หรือข้างๆ บ้านที่ไม่ได้ใช้งาน ก็เอามาทำเพิงโปร่งๆ เก็บไม้ได้ค่ะ ทำหลังคากันฝนด้วย ... ใช้สังกะสีนี่แหล่ะ ส่วนฐานก็หาขอนไม้ยาวๆ มันวางคู่กัน เรียงฟืนท่อนเล็กๆ บนขอนไม้เป็นชั้นๆ ทำสัก 2 แถวซ้อน ที่มีฐานเพราะเวลาฝนตก มันจะได้มีชื้น ฟืนที่ดี ต้องแห้ง เวลาเอามาก่อไฟ จะไม่มีควันโขมงและติดไฟง่าย เรื่องราคาฟืน ดิฉันว่าแพง ส่วนมากฟืนเป็นตัวช่วยให้บ้านอุ่นเฉพาะที่มากกว่า แต่เตาผิงแบบคุณชบาไพรน่าจะสามารถทำท่อผ่านความร้อนผ่านห้องนอนได้ (ถ้าบ้านมี 2 ชั้น) แต่บ้านดิฉัน มีเตาทำกับข้าวโบราณอยู่ตัว ก็ได้เตานี้แหล่ะค่ะ แผ่ความร้อนช่วงหน้าหนาว อีกอย่างดิฉันอยู่ในป่า ตัดฟืนเองค่ะ ... จากคุณ : ม.แมว - [ 4 ก.ค. 51 23:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ว้าย ไม่ได้เข้าพันทิป 2 วัน กระทู้ตกไปอยู่ข้างล่างแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเข้ามาตอบนะคะ ไปซื้อมาแล้วค่ะ ได้ขากร้าน Toom ราคา 399 ยูโร ติดตั้งเองค่ะ ไม่ยุ่งยาก แต่กว่าจะเจาะฝาผนังได้ แทบถอดใจ เมื่อวานติดตั้งเสร็จ อากาศเย็น เลยอดเปิดแอร์นอนเลย จากคุณ : WR - [ 7 ก.ค. 51 17:49:09 A:91.45.116.9 X: TicketID:174186 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พอดีดิฉันมีพื้นที่หลังบ้านอ่ะคะ ทำอย่างที่คุณแมวบอกเลยคะ แต่ไม่ได้มุงสังกะสี ใช้พลาสติกหนาที่เ้ค้าขายสำหรับคลุมไม้โดยเฉพาะอ่ะคะ                     เตาผิงบ้านดิฉันใช้ไม้อย่างเดียว ยังไม่เคยใช่ถ่านหิน ถ่านหินลาวาจะใช้กับเตาบาบีคิวอย่างเดียว ไม่เคยลองใช้กับเตาผิงเลยคะ              เรื่องฟืนบางครั้งก็ตัดเอง  เป็นไม้สนแล้วก็ต้นอะไรอีกอย่างจำชื่อไม่ได้อ่ะคะ พอดีว่ามีบ้านตากอากาศอยู่ในป่า แล้วปีที่แล้วมันโค่นแล้วมาทับต้นไม้อีกต้น(ดีที่ไม่ทับบ้านถอนรากถอนโคนตามไปด้วย  ก็เลยให้เค้ามาจัดการตัดให้เรียบร้อย  แล้วเราก็ตัดขนาดตามที่ต้องการอีกที                    สำหรับราคานั้นเค้าจะขายเป็นลูกบาตรเมตร(เขียนไม่ถูกแน่นอนเลย) ลูกบาตรเมตรละ 69ยูโร ดิฉันซื้อฟืนขนาด50 ซม.คะ  จะเหนื่อยตอนขนคะ เพราะรถที่มาส่งจะเป็นรถบรรทุกใหญ่ แล้วมีฟืนใส่เป็นช่องๆ พอมาถึงหน้าบ้านก็จัดการเปิดก้นเทโครมมาเลยคะ  พอดีบ้านดิฉันอยู่ติดถนนแล้วก็หน้าบ้านมีพื้นที่ไม่มาก พอแค่บั้นท้ายรถบรรทุกนิดหน่อย พอเทเสร็จก็ล้นออกไปที่ฟุตบาทแล้วบนถนน  ครั้งหนึ่งซื้อมา 6 ลบ.ม  โห...สามีลางานครึ่งวัน ขนกันยัน6โมงเย็น เพราะต้องเดินหน้าบ้านไปหลังบ้าน แล้วทางเดินก็กว้างแค่เมตรเดียว  เฮ่อออ  เหนื่อยปวดเมื่อยไปทั้งตัว                เคยซื้อฟื้นแบบที่เ้ค้าทำมาจากต้นหรือเถาองุ่นที่ไม่ใช้แล้ว เค้าเอามาบดแล้วก็อัดเข้าด้วยกัน  ขนาดประัมาณ30 ซม. ดูน่าใช้ขนส่งสะดวกเพราะเค้าแพ็คใส่พลาสติกแพ็คละ12ชิ้น   แต่ดิฉันไม่ชอบ เพราะขี้เถ้าเยอะมากถึงมากที่สุด แล้วมอดไวด้วยคะ      แมวชื่อ สิงโต ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแน่นแล้วคะ จากคุณ : ชบาไพร (Mme) - [ 10 ก.ค. 51 03:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พอดีดิฉันมีพื้นที่หลังบ้านอ่ะคะ ทำอย่างที่คุณแมวบอกเลยคะ แต่ไม่ได้มุงสังกะสี ใช้พลาสติกหนาที่เ้ค้าขายสำหรับคลุมไม้โดยเฉพาะอ่ะคะ                     เตาผิงบ้านดิฉันใช้ไม้อย่างเดียว ยังไม่เคยใช่ถ่านหิน ถ่านหินลาวาจะใช้กับเตาบาบีคิวอย่างเดียว ไม่เคยลองใช้กับเตาผิงเลยคะ              เรื่องฟืนบางครั้งก็ตัดเอง  เป็นไม้สนแล้วก็ต้นอะไรอีกอย่างจำชื่อไม่ได้อ่ะคะ พอดีว่ามีบ้านตากอากาศอยู่ในป่า แล้วปีที่แล้วมันโค่นแล้วมาทับต้นไม้อีกต้น(ดีที่ไม่ทับบ้านถอนรากถอนโคนตามไปด้วย  ก็เลยให้เค้ามาจัดการตัดให้เรียบร้อย  แล้วเราก็ตัดขนาดตามที่ต้องการอีกที                    สำหรับราคานั้นเค้าจะขายเป็นลูกบาตรเมตร(เขียนไม่ถูกแน่นอนเลย) ลูกบาตรเมตรละ 69ยูโร ดิฉันซื้อฟืนขนาด50 ซม.คะ  จะเหนื่อยตอนขนคะ เพราะรถที่มาส่งจะเป็นรถบรรทุกใหญ่ แล้วมีฟืนใส่เป็นช่องๆ พอมาถึงหน้าบ้านก็จัดการเปิดก้นเทโครมมาเลยคะ  พอดีบ้านดิฉันอยู่ติดถนนแล้วก็หน้าบ้านมีพื้นที่ไม่มาก พอแค่บั้นท้ายรถบรรทุกนิดหน่อย พอเทเสร็จก็ล้นออกไปที่ฟุตบาทแล้วบนถนน  ครั้งหนึ่งซื้อมา 6 ลบ.ม  โห...สามีลางานครึ่งวัน ขนกันยัน6โมงเย็น เพราะต้องเดินหน้าบ้านไปหลังบ้าน แล้วทางเดินก็กว้างแค่เมตรเดียว  เฮ่อออ  เหนื่อยปวดเมื่อยไปทั้งตัว                เคยซื้อฟื้นแบบที่เ้ค้าทำมาจากต้นหรือเถาองุ่นที่ไม่ใช้แล้ว เค้าเอามาบดแล้วก็อัดเข้าด้วยกัน  ขนาดประัมาณ30 ซม. ดูน่าใช้ขนส่งสะดวกเพราะเค้าแพ็คใส่พลาสติกแพ็คละ12ชิ้น   แต่ดิฉันไม่ชอบ เพราะขี้เถ้าเยอะมากถึงมากที่สุด แล้วมอดไวด้วยคะ      แมวชื่อ สิงโต ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแน่นแล้วคะ จากคุณ : ชบาไพร (Mme) - [ 10 ก.ค. 51 03:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณคุณชบาไพร ได้คุยกับสามีแล้วเรื่องเตาผิง ตอนแรกอยากได้กันมากเพราะทำให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นดี โดยเฉพาะหน้าหนาว แต่สุดท้ายเห็นพ้องต้องกันว่า คงไม่ไหวเรื่องขนไม้ฟืนเพราะขี้เกียจทั้งคู่ แถมยังมีเรื่องขี้เถ้าให้ทำความสะอาดอีก ที่สำคัญงบสำหรับทำบ้านปีนี้หมดไปแล้วค่ะ คงต้องเป็นปีหน้า กะจะเปลี่ยนใหม่ทั้งระบบ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหน เอาไว้เราคุยกันใหม่นะคะ แหม กว่าดิฉันจะได้เข้ามาตอบกระทู้ตกไปอยู่ไหนซะแล้ว พอดีช่วงนี้กำลังทำครัวใหม่ค่ะ เหนื่อยๆๆๆๆ จากคุณ : WR - [ 13 ก.ค. 51 21:34:52 A:91.45.121.116 X: TicketID:174186 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เป็นไรคะคุณWR เพราะดิฉันก็ไม่ได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนกันคะ  ดูละคร เหอๆๆๆ       เอาเป็นว่าถ้าว่างๆเรามาคุยกันเรื่องบ้านกันได้นะคะ เพราะบ้านดิฉันก็ทุบเองทำเองกับมือคะ  ช่วยกันเปิดตำราทำเองพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูง ใครว่างก็มาช่วย  เพราะงบน้อยจ้างช่างก็ไม่ไหวคะ จากคุณ : ชบาไพร (Mme) - [ 16 ก.ค. 51 16:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เหมือนกันค่ะคุณชบาไพร ต้องทำเองทั้งน้าน ช่างที่นี่ค่าจ้างแพงจริงๆ เห็นด้วย ดิฉันอยู่เมืองไทยแม้แต่แปรงทาสีก็ไม่เคยจับ เดี๋ยวนี้ฉาบปูนยังทำเป็นเลย ตอนนี้ที่บ้านกำลังทำครัวกัน เดินสายไฟใหม่หมด เดินท่อน้ำใหม่ เปลี่ยนหน้าต่าง ปูกระเบื้อง ทุบกำแพงทิ้งฯลฯ ฝุ่นก็เยอะ ทำมาอาทิตย์กว่า จะสองอาทิตย์แล้ว ยังไม่เสร็จเลยค่ะ เพราะทำกันแค่สองคน อย่างมากก็จะมีเพื่อนบ้านมาช่วยยกของหนักๆเป็นครั้งคราว ท้อๆๆ ว่างๆเอารูปบ้านมาลงให้ดูบ้างซิคะ ดิฉันลงรูปไม่ได้ ว่าจะเอาไปลงไว้ที่Hi5 แล้วจะเอาลิงค์มาแปะเผื่อคุณอยากดู จากคุณ : WR - [ 17 ก.ค. 51 16:32:55 A:91.45.106.129 X: TicketID:174186 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อยากจะเอามาทำในบล๊อกด้วยซ้ำคะ แต่ว่ายังทำไม่เป็น  เดี๋ยวถ้าทำได้แล้วจะลิ้งค์ให้ดูนะคะ   เออ..ถ้าสะดวกหลังไมค์บอกเมล์กันได้นะคะ ว่างๆจะได้คุยกันบ้าง จากคุณ : ชบาไพร (Mme) - [ วันอาสาฬหบูชา 18:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลังไมค์ไม่ได้อ่ะค่ะ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก ให้โต้งๆกันหน้าไมค์เลยละกันนะคะ Bigbong45@yahoo.co.uk จากคุณ : WR - [ วันเข้าพรรษา 17:22:17 A:91.45.87.162 X: TicketID:174186 ]