ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีคะ พี่หวาน..  ในเว็บของ สกญ. แอลเอ ระบุรายละเอียดไว้เกี่ยวกับเอกสารสำคัญต่างๆและค่าบริการด้วยนะคะ     การขอหนังสือสำคัญประจำตัวเพื่อใช้แทนหนังสือเดินทาง (C.I.) :::> http://www.thai-la.net/passport/pp-ci.htm       Note: เอกสารสำคัญประจำตัวเพื่อใช้แทนหนังสือเดินทาง (C.I.) ใช้สำหรับผู้ที่ไม่สามารถต่ออายุหนังสือเดินทางได้ทันตามกำหนด สามารถใช้ เดินทางกลับประเทศไทยได้เพียงอย่างเดียว และมีอายุใช้งาน 30 วัน นับจากวันที่ออก         ตามปกติแล้ว หน่วยงานราชการใช้เวลาดำเนินการ 3 วันจริงๆค่ะ สำหรับ แบบฟอร์มขอ C.I. ดาวน์โหลดได้ ใช้อันนี้นะคะ :::> http://www.thai-la.net/form/pp-pdf/ci-form.pdf และจะต้องกรอก แบบรายงานตัวคนไทยในต่างประเทศด้วยค่ะ :::> http://www.thai-la.net/form/election/thai-regis.pdf             ป.ล.อ่านตอนแรก นึกว่าจะได้พบที่ Berkeley กลางเดือนก.ค.ซะอีกคะ   แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 07:03:17 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 06:57:43 จากคุณ : กริชนาคราช - [ 2 ก.ค. 51 06:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาอ่านเพราะเห็นชื่อเจ้าของกระทู้ค่ะ  และมารอเก็บความรู้ด้วย จากคุณ : ตกตะกอน - [ 2 ก.ค. 51 08:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีค่ะพี่หวาน นี่ยังไม่เคยทำหนังสือเดินทางอย่างนี้มาก่อน น่าใจหายใจคว่ำเหมือนกันถ้าต้องทำอะไรอย่างรีบเร่ง ขอให้ลูกพี่ได้เอกสารทันกับการเดินทางนะคะ จากคุณ : PatPDX - [ 2 ก.ค. 51 10:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณกริชนาคราชขา... สามวันสำหรับคนที่อยู่ในท้องที่ใกล้เคียงกับแอลเอ ก็ยังพอทำเนา..นี่พี่อยู่ห่างไกลเหลือเกิน แถมติดวันหยุดยาวอีก..จำเป็นต้องให้น้องต้องรีบไปดูแลคุณยายค่ะค่ะ เพราะคุณแม่เกิดอาการหลงลืมแบบแทบไม่น่าเชื่อ คุยกันอยู่ดีๆ แป๊บเดียว จำไม่ได้แล้ว..เอกสารที่เคยเก็บไว้ก็จำไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใคร  น่าเป็นห่วงไหมล่ะเนี่ยย..?? คุณแพ๊ทที่รัก.. ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยลุ้น ตอนนี้กำลังหาแผนที่อยู่ กำลังให้ลูกชายพิมพ์ออกมา เดี๋ยวจะออกเดินทางแล้วค่ะ จากคุณ : WIWANDA - [ 2 ก.ค. 51 11:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลุ้นตัวโก่งไปด้วย จากคุณ : jeejeeberry - [ 2 ก.ค. 51 11:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีค่ะ คุณตกตะกอน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  ถ้าอยากจะตามเก็บเกี่ยวหาความรู้็ละก้อ   เชิญตามไปที่ห้องประวัติศาสตร์ได้เลยค่ะ เพราะตอนนี้กำลังเขียนเรื่องไวน์อยู่ จากคุณ : WIWANDA - [ 2 ก.ค. 51 11:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เก็บข้าวของขึ้นรถเสร็จเป็นเวลาสี่ทุ่ม..กะว่าจะเดินทางตอนนั้นเลย ลูกชายท้วงว่า.. "ถ้าไปตอนนี้ก็ต้องไปแกร่วที่โรงแรม นอนก็คงนอนไม่หลับเท่าไหร่ เราน่าจะไปตอนตีสอง ตีสามก็ได้ จะได้นอนพักกันก่อน งีบให้สบายๆ ไปถึงก็แอลเอก็เช้าพอดีทำธุระต่อได้เลย" วุ๊ยยยย...ปิยะบุตร..นานๆพูดที มีกึ๋นเลยนะเนี่ยยย เห็นด้วยทุกประการ ดิฉันรีบยกเลิกการจองโรงแรม  เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้านอนบัดเดี๋ยวนั้น..แต่ไม่วายสั่งให้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วย ตีสองเป๊ะ..นาฬิกาปลุกดังใจ นอนหลับเต็มตาได้งีบใหญ่ๆ รีบกุลีกุจอตรวจทานสิ่งของ เช่น ถ้วยกาแฟ น้ำขวด ขนมกรุบกรอบ เสื้อหนาว รองเท้าแตะ หมอนรองหลัง ซีดีเพลง โอย...สารพัด เรียกว่าไม่ให้ขาดสิ่งใดไปได้เลยทีเดียว  ออกมาก็เติมน้ำมัน ซื้อกาแฟที่ 7-11 จากนั้นก็ขับรถออกมาด้วยเส้นทาง 101 South วิ่งโล่งตรงโลดมาถึง นครลอส แอนเจลิส แบบไม่ได้แวะที่ไหนเลย เวลาเจ็ดโมงครึ่ง.. หวังใจจะไปทานอาหารเช้าที่ร้านสนามหลวง...เขายังไม่เปิด เลยไปเติมน้ำมันอีก เพราะถังหนึ่งที่เติมมา หมดไปแล้ว..จากนั้นก็เลยไปฝากท้องที่ร้านเสริมมิตร คุณลักขณาเจ้าของร้าน น่ารัก และ อัธยาศัยเยี่ยมยอดอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง เราไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัวเลยสักนิด แต่เธอจะจำดิฉันได้ ก็ตอนที่สั่งแกงไตปลาทูโกแบบกระหน่ำ หกกระปุกเป็นอย่าง น้อย ได้เวลาเก้าโมงเช้าก็รีบไปที่สถานกงศุลไทย ถนน N. Larchmont หมายใจจะไปช่วยเขาเปิดประตู จากคุณ : WIWANDA - [ 3 ก.ค. 51 01:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาฟังพร้อมลุ้นตัวโก่งไปด้วยค่ะ จากคุณ : pixp - [ 3 ก.ค. 51 01:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไปถึงต้องมีการจดชื่อแซ่ ติดบัตร ที่ออกโดยการ์ดที่นั่งอยู่ชั้นล๊อบบี้ บอกกล่าวให้เรียบร้อยเป็นลายลักษณ์อักษรว่ามีทำธุระอะไร แล้วก็เซ็นชื่อ เป็นอันว่า เดินผ่านไปขึ้นลิฟท์ยังชั้นสองอันเป็นที่ทำการได้ เมื่อถึงสำนักงานกงศุล..จะมีการตั้งด่าน จุดแรก เรียกว่า Start here (Information)ที่จะมีสุภาพสตรีอยู่ท่านหนึ่งทำงานง่วนอยู่ ที่ดิฉันเห็นทีจะต้องเรียกว่าเป็นหน่วยกล้าตายเลยก็ได้ เชื่อว่าวันหนึ่งๆเธอจะต้องตอบคำถามร้อยแปด จากผู้คนที่มาจากทิศทางต่างๆกัน..และความเข้าใจในเนื้อหาของงานกงศุลก็ต่างพื้นเพกัน ดิฉันเตรียมเอกสารไปทุกชิ้นอย่างละห้าชุด (กันเหนียว)แยกหมวดหมู่ให้เรียบร้อย พร้อมทั้งขอความเมตตา..ว่า..อย่าให้ถึงสามวันห้าวันเลย คุณขา..เพราะ มันหมายถึง สามวันห้าวัน (ของวันทำงาน วันหยุดไม่ได้รวมด้วย) คุณเจ้าหน้าที่คนนั้น แอบถามชื่อเสียงเรียงนามได้มาอ่อยๆว่า คุณไตรยา (ไม่ทราบว่าถูกไหม?) ยิ้มหวานให้ บอกว่าจะพยายามนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่ข้างในเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้อยู่ ว่าแล้วเธอก็ต่อสายใน มีการพูดคุยกันสองสามประโยค อีกทั้งทบทวนให้ท่านเจ้าหน้าที่(ข้างใน)ด้วยว่า ถ้าส่งวันจันทร์ กว่าจะถึงก็วันอังคาร..ไม่ทันแล้วค่ะ เพราะเดินทางวันนั้นพอดี หัวใจเราสองแม่ลูกเต้นตูมตาม มันส่งเสียงดังเข้าไปถึงในสายโทรศัพท์ละมัง.. เธอวางหู และหันมายิ้มให้อย่างอ่อนหวานอีกทีว่า.. "มารับตอนบ่ายสามโมงนะคะ....." แหม..ไม่เคยนึกอยากจะกระโดดหอมแก้มใครมานานหนักหนา เพิ่งจะเกิดขึ้นมาอีกทีก็คราวนี้แหละ ดิฉันละล่ำละลักขอบคุณก่อนลาจาก ขับรถออกมาก็หาโรงแรมเข้าพัก เพราะอย่างไรเสียก็กลับไปบ่ายวันนี้ไม่ได้อยู่ดี ไม่ทันประชุมอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าจะนอนพักสักคืน  รุ่งสางค่อยขับรถกลับ ขณะนี้..นั่งพิมพ์อยู่ที่โรงแรม พักผ่อนเอนกาย แล้วจะกลับไปรับเอกสารอีกทีตอนบ่ายสามโมง จากคุณ : WIWANDA - [ 3 ก.ค. 51 01:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10   ดีใจด้วยนะคะ พี่หวาน ขอให้พบความบันเทิงในแอลเอค่ะ       ฝากความระลึกถึงคุณยายที่เมืองไทยด้วยนะคะ  ขอให้คุณพระคุ้มครอง บุญรักษาคะ จากคุณ : กริชนาคราช - [ 3 ก.ค. 51 01:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไปกินเตี๋ยวห้อยขาเผื่อด้วยสักสองชามนะคะคุณพี่ ดีใจด้วยที่ทุกอย่างราบรื่นด้วยดี คนดี คุณพระคุณเจ้าช่วยเสมอค่ะพี่ จากคุณ : PatPDX - [ 3 ก.ค. 51 02:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดีใจด้วยค่ะ ที่ทุกอย่างราบรื่น อยากกระโดดหอมแก้มด้วยคน จากคุณ : pixp - [ 3 ก.ค. 51 03:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วยเขียนจดหมายชมการทำงานของ จนท ถึงแผนกโดยตรง และ ถึง กลสุลใหญ่ จะได้มีำกำลังใจทำงานกันเต็มที่นะ จากคุณ : ธนิตา - [ 3 ก.ค. 51 06:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใจหายใจคว่ำ ลุ้นตัวโก่งแทนเลยคะ จากคุณ : noo-uan - [ 3 ก.ค. 51 08:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แวะทานกลางวันที่สนามหลวง  ก่อนไปที่สถานกงศุลตามเวลาที่นัดหมาย นั่งรอนิดหน่อยประมาณว่าครึ่งชั่วโมง  และ คุณไตรยา(?) วีรสตรีด่านแรกของเราได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน (แอบมองน่ะ) ในกรณีของคนอื่นๆที่มาติดต่อ ทุกคนล้วนแต่มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ปัญหาเมื่อมาถึงสถานทูต ก็ยิ่งยุ่งกว่า เพราะ มักจะขาดขั้นตอนตรงนั้นตรงนี้  ไม่ว่าจะเป็นตรงไหนที่ต้องเพิ่มคำร้อง เพิ่มเอกสาร ล้วนแล้วแต่มีราคายิบย่อยเพิ่มขึ้นมาราวกับเมนูร้านข้าวต้ม  ซึ่งประชาชนที่มาติดต่อต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงไปยังตึกตรงข้ามกันจ้าละหวั่น เพราะตรงนั้นเขาขายตั๋วเงิน และมีเครื่องถ่ายเอกสารให้บริการพร้อม.. ไม่ทราบว่า..เพราะเหตุผลอะำไรที่เราไม่สามารถรับบัตรเครดิต หรือ เงินสด ได้ อาจจะเป็นเพราะ มันดูเหมือนกับเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่จนไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยว หรือ..ทำไมเราถึงไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารชนิดหยอดเหรียญไว้ให้บริการ เพราะเรื่องแบบนี้ เขาจะมีบริษัทมาติดตั้งให้เสร็จ ในที่สุด คุณวีรสตรีขอดิฉันได้เดินแว่บเข้าไปในห้องหลังม่านกระจกประมาณว่าอึดใจหนึ่ง กลับมาพร้อมกับเอกสารการเดินทางด่วนของลูกชาย..พร้อมทั้งบอกว่า "ทำให้ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ คราวหน้าต้องสามวัน..เพราะใครๆก็ต้องคอยสามวัน" ลูกชายยกมือไหว้งามๆหนึ่งครั้ง กล่าวขอบคุณ เธอยิ้มกว้างพร้อมอวยพรให้เดินทางแบบปลอดภัย แต่เรื่องนี้คือเรื่องโปรยหัวแบบน้ำจิ้มนะคะ  เพราะเรื่องต่อไปที่จะเล่านี้..รับรองว่าสะท้านเทือนเวที"เมียฝรั่งทั้งปัจจุบันและอดีต" ไปทั่วโลกเชียว จากคุณ : WIWANDA - [ 3 ก.ค. 51 08:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16  เกาะติดสถานการณ์...สำหรับเรื่องของพี่หวานและลูกชายนะคะ... จะเข้ามาบอกว่า ผู้ช่วยจัดการเรื่องเอกสารให้พี่หวานคนนี้ เธอเป็น local staff ที่มีความเชี่ยวชาญ มากค่ะ และเดินทางขึ้นมากับคณะกงสุลสัญจรบ่อยๆ (จะมี local staffs สลับกันมาที่วัดทางเหนือ) ในเวลาทำงานเรื่องเอกสาร  ท่ามกลางความวุ่นวาย คณะเจ้าหน้าที่เหมือนมีสิบปากยี่สิบมือเลยค่ะ! ขอแสดงความชื่นชม และยินดีที่เรื่องเล่าของพี่หวานได้พิสูจน์ให้เห็นความอะลุ้มอล่วยของ สกญ.         รออ่าน เรื่องที่จะสะท้านสะเทือนโลกค่ะ จะกัมปนาทขนาดไหน เก็บสะเก็ดข่าว! จากคุณ : กริชนาคราช - [ 3 ก.ค. 51 09:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแสดงความชื่นชมกับ การทำงานของ จนท สถานกงสุลไทย LA ที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยบันเทาทุกข์เฉพาะกิจให้คนไทยต่างแดน ทำอะไรให้ได้ก็ทำ มีน้ำใจให้กันจริงๆ มารอฟังเรื่องที่พี่จะเล่าต่อ ท่าทางจะสนุกชนิดมันยกร่อง จากคุณ : PatPDX - [ 3 ก.ค. 51 09:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 3 ก.ค. 51 14:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด มารออ่านค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา จากคุณ : noo-uan - [ 3 ก.ค. 51 16:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผ่านเข้ามาเยี่ยมค่ะ..ลุ้นตัวโก่งเหมือนกัน..ดีใจด้วยค่ะ และขอให้ลูกชายเดินทางปลอดภัย รอ รอ รอ ในฐานะ..เมียฝรั่งค่ะ..อิอิ จากคุณ : เมียฝรั่งจากจ๊อยซี่ (Panissar) - [ 3 ก.ค. 51 17:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาแล้วค่ะ..กลับมาถึงบ้านตอนเที่ยง นอนสลบพับไปเลย เพราะอากาศร้อนระเบิด  ตื่นขึ้นมาก็รีบมารายงานต่อ คืองี้ค่ะ..ดิฉันคืออดีตภรรยาฝรั่ง(เศส) ที่มีใบเขียว (ไม่คิดจะเป็นซิติเซ่น เนื่องจากหมายมั่นว่าจะต้องกลับบ้านในไม่นานนี้)   ในใบเขียว  คือ ชื่อและนามสกุลสามี ในบัตรประจำตัวประชาชนไทย คือ ชื่อตัวและนามสกุลไทย (ไม่เคยเปลี่ยนเป็นนามสกุลฝรั่ง เพราะตามกฏหมายไม่ได้บอกว่าต้องเปลี่ยน) ก็เป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร  ยามจะต่อพาสปอร์ตก็ดำเนินเรื่องธรรมดา ตามกฏของสถานกงศุลไทยในแอลเอ ที่กรอกใบขอต่ออายุ หลักฐาน ที่อยู่ รูปถ่าย และ ค่าธรรมเนียม แต่ตอนนี้..กระทรวงการต่างประเทศจะออกพาสปอร์ตใหม่ ที่เราเรียกว่า อีเลคทรอนิค พาสปอร์ต ที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของผู้ถือไว้ในนั้น แบบ รูดปื๊ด รูดปื๊ด  นั่นคือที่มาของการที่เราจะต้องมีชื่อ นามสกุล ในพาสปอร์ต ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ไม่งั้นก็ออกให้ไม่ได้.. จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ค. 51 10:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หมายถึงว่า ดิฉันจะต้องเปลี่ยนนามสกุลในสำเนาสำมะโนครัว.. ขั้นตอนนี้..หมายถึงว่า จะต้องนำสำเนาทะเบียนสมรส พร้อมกับการยินยอมให้ให้นามสกุลจากสามี (แบบฟอร์มนี้ไปขอได้ที่สถานกงศุล)ไปแสดงกับสำนักงานเขต เพื่อให้เปลี่ยนให้ ฟังดูแล้วง่ายๆใช่ไหมคะ.. แต่มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะซิ  มันมีมากกว่านั้น สำเนาทะเบียนสมรสต้องนำไปให้ State ประทับตราให้ รับรองว่าเป็นของจริง..(หมายถึงว่า ดิฉันต้องไปที่ ซาน ฟรานซิสโก) และต้องนำไปแปลเป็นภาษาไทยจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง (?) จากนั้น..ใบยินยอมทีให้ใช้นามสกุล (ซึ่งเป็นภาษาฝรั่ง) ต้องนำไปแปลเป็นภาษาไทยจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง (?) ทีนี้..เมียฝรั่งส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่เมืองไทย การที่จะไปเปลี่ยนชื่อเสียง ทำธุรกรรมอย่างนี้ด้วยตัวเองไม่ได้ จึงจำเป็นต้องทำใบมอบฉันทะให้กับญาติโยมที่ไว้ใจได้ ใบมอบฉันทะนี้..จะต้องทำที่สถานกงศุล หรือ ส่งทางไปรษณีย์ไปขอให้ทำการรับรองให้ โดยที่เราต้องส่งสำเนาเอกสาร เช่น บัตรประจำตัว และ สำเนา พาสปอร์ต รวมไปถึง ต้องไปทำโนตารี่ พับลิค รับรองลายเซ็น ก่อนส่ง อ้อ..อย่าลืมสอดซองพร้อมแสตมป์ถึงตัวเองด้วย จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ค. 51 10:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อิอิอิ..น้องผ่านขั้นตอนยากยากมาแล้วค่ะพี่ เกือบบีบคอหญิงไทยสูงวัย ที่ทำงานให้สถานทูตอเมริกาที่เมืองไทยบี้แบนคาคอก.. ฟังต่อค่ะพี่..ขอฟังต่อ จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 10:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อดิฉันถามกับเจ้าหน้าที่ในการคุยโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วว่า.. "จะให้ที่ไหนแปลเอกสารเหล่านี้ล่ะค่ะ?" คำตอบ คือ "ไม่ทราบค่ะ" เมื่อถามว่า ในกรณีที่ดิฉันหย่าแล้ว แต่ในบัตรเขียวคือนามสกุลสามี (ที่จะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้) จะให้ทำอย่างไร? คำตอบคือ..ให้อดีตสามีกรอกแบบฟอร์มใบยินยอม(ให้ใช้นามสกุล) แต่ แบบฟอร์มที่ว่านั้น ไม่มีตรงไหนบอกว่าเป็นอดีต  เพราะมันเป็นแบบฟอร์มเฉพาะ"คู่สมรส"  ถามว่า..จะให้ทำอย่างไร ? คำตอบคือ "ไม่ทราบค่ะ"  แต่เธอก็ยังยืนยันว่า ต้องกรอกแบบฟอร์ม (ทั้งๆที่ไม่มี) ฟังแล้วมืดมน....ไหมคะ? จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ค. 51 11:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ระหว่างที่ดิฉันยังคงมืดมน มะงุมมะงาหราอยู่นั้น ก็เกิดเหตุการณ์เรื่องลูกชายพอดี ที่ทำให้ต้องไปแอลเอ ไปสถานกงศุลในครั้งนี้ ก็เลยไปติดตามเรื่องของตัวเองด้วย เพราะเพิ่งส่งเอกสารรับรองใบมอบฉันทะมาเมื่อหลายวันก่อน.. เจ้าหน้าที่บอกว่า..เอกสารที่ส่งมาไม่ครบ เช่น ขาดสำเนาบัตรปชช. และ ค่าธรรมเนียม สิบห้าเหรียญ ไปจัดการถ่ายสำเนา พร้อมซื้อตั๋วเงินได้ที่ตึกถนนฝั่งตรงข้าม ห้อง เบอร์ ๑๐๐ ดิฉันก็ผันผายไปอย่างเร็วรี่..และพบว่า ที่นั่นคือออฟฟิซขนาดน่ารัก ชื่อบริษัท ...Services ที่รับทำสารพัด ตั้งแต่บัญชี  ระบบภาษี โนตารี่ แปลเอกสาร ถ่ายรูปพาสปอร์ต มีเจ้าหน้าที่เป็นสุภาพสตรี ท่าทางคล่องแคล่ว..เมื่อทราบว่าดิฉันไปขอถ่ายเอกสารเพื่อธุรกรรมการมอบฉันทะเพื่อเปลี่ยนนามสกุลทางเมืองไทย.. เธอก็รีบให้ความกระจ่างว่า.. "อ๋อ..เรื่องนี้หรือคะพี่..บริษัทเรารับจัดการให้หมดเลยค่ะ" ว่าแล้ว เธอก็นำเอกสาร(ของคนอื่น) มาให้ดูแบบผ่านๆเป็นตัวอย่าง ว่าควรเป็นในลักษณะใด ที่สำคัญ..เธอบอกว่า..ถ้าทำเอกสารจาก State ทั้งใบแต่ง ใบหย่า อย่างถูกต้องพร้อมประทับตราอันเป็นสำคัญ พร้อมกับใบแปล (ทางสำนักงานจะจัดการให้)  ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย   (อดีต)สามีไม่ต้องเซ็นยินยอมก็ได้ ที่เหลือที่เราต้องทำเอง คือ ใบมอบฉันทะให้ญาติ (ที่รับรองจากสถานกงศุล) ส่งเอกสารทั้งหมดไปเมืองไทย..ก็จะๆเปลี่ยนนามสกุลในสำมะโนครัวได้ จากนั้นก็เอามาทำ พาสปอร์ตไฟฟ้า..ได้ ถามว่า.."ทั้งหมดนี่..คิดค่าบริการเท่าไหร่คะ?" น้องคนสวยตอบว่า.. "สามร้อยเองค่ะ" เอาเหอะ..น้องเอ๋ย..คอยรับได้เลย สามร้อยกับเรื่องสยองขวัญแบบนี้ พี่ยอมมมม...จ่ายยยยย...อย่างไม่มีข้อแม้  เซฟค่ายาแก้ปวดหัวไปได้หลายตังส์อีกต่างหาก จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ค. 51 11:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะ คุณ Panissar น้องนำประสบการณ์ยากๆนั่นมาเล่าสู่กันฟังบ้างซิคะ..เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบว่า"ขั้นตอน" เหล่านี้..ว่ามีขวากหนามเพียบบบบ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ค. 51 11:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีอีกรอบค่ะ พี่หวาน ขออนุญาตใช้พื้นที่กระทู้นี้ แชร์ประสบการณ์ร้าวรานใจ ของน้องนี่ คือ หลังจากแต่งงานกับสามีอเมริกัน แล้วน้องก็ไป endorse passport ที่สถานกงศุลไทยที่นิวยอร์ค ใช้นามสกุลตามสามี เพื่อให้ทุกอย่าง match กันด้วยดี ความจริงคิดว่าจะเปลี่ยนแค่ที่นี่ แต่ทำไปทำมาต้องเปลี่ยนให้ครบทั้งหมด พอดีได้หนังสืออนุญาตให้ออกนอกประเทศได้จากอิมมิเกรชั่น (ตอนนั้นยังไม่ได้ใบเขียวค่ะ) ประกอบกับไม่ได้กลับเมืองไทยนานร่วม๙เดือน สามีเลยพากลับไปเยี่ยมบ้าน พร้อมทำเรื่องเปลี่ยนแปลงนามสกุลต่างๆ จังหวะเดียวกับที่ พาสปอร์ตเล่มเดิมใกล้จะหมดอายุด้วยค่ะ ตอนนี้หละค่ะพี่หวาน ที่น้องรู้สึกเหมือนอยากจะให้โลกหยุดหมุน .. เริ่มต้นที่สถานกงศุลแจ้งวัฒนะ ไปพบเจ้าหน้าที่พร้อมบัตรประชาชนใบเดิมก่อน(ตอนนั้นคิดว่าจะทำพาสปอร์ตเล่มใหม่โดยให้เป็นนามสกุลเดิมก่อน เพราะมีเวลาอยู่เมืองไทยแค่สองสัปดาห์ ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์จึงจะรับเล่มใหม่ได้) เจ้าหน้าที่บอก ไม่ได้ค่ะ คุณต้องทำในนามสกุลสามี เพราะไป endorse ไว้ที่นิวยอร์คแล้ว .... หงะ ทำไงหละทีนี้ เจ้าหน้าที่บอก ต้องไปเริ่มต้นที่สถานทูตอเมริกา เพื่อให้ทางสถานทูตรับรองทะเบียนสมรสที่นำมาด้วย พร้อมแปลเอกสารมาด้วย และ..ตามด้วย .. ต้องไปที่เขตที่มีชื่ออยู่ แล้วขอทำบัตรประชาชนใหม่ พร้อมทั้งต้องมีเอกสารบันทึกฐานะแห่งครอบครัวมาประกอบด้วย จึงจะทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ได้ (ในใจน้องก็คิดตามว่า อ้าว แล้วนโยบายใช้บัตรประชาชนใบเดียวหายไปไหนกันหนอ คิดเสร็จก็ปากไวถามทันที เธอบอกเป็นกฏค่ะ น้องก็ได้แต่อึ้งไป) ออกมาได้ขับรถเหมือนเหาะ ไม่กลัว ticket เหมือนอยู่ที่นี่ เอิ๊กๆ ไปที่เขตทันที เพราะอยู่ไม่ไกลกัน เจ้าหน้าที่ด้านหน้าตรวจเอกสารเสร็จก็บอกว่า ต้องไปรับรองทะเบียนสมรสมาก่อนพร้อมแปลเป็นไทยมาด้วย โอย..มีใครช่วยได้มั้ยคะเนี่ย..คำตอบ..ไม่มีค่ะ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน.. ในใจคิดถึงสถานทูตอเมริกา..คิดถึงแถวยาวเหยียดสมัยที่เคยไปขอวีซ่า อยากจะตัวเล็กลงเท่ามดจิ๋วแล้วหายไปจากโลกนี้..โทรไปไม่มีคนเป็นๆรับสาย มีแต่เสียงจากเครื่อง..ประมาณว่า ถ้าฟังไม่รู้เรื่อง..มาเองจิค่ะ.. เอวังกับวันนั้น เพราะหมดเวลาราชการ คิดว่าวันพรุ่งจะต้องไปสถานทูตอเมริกา..กลับบ้านก่อน เอาแรง.. แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 16:11:25 จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 15:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 วันรุ่งขึ้น..ไปเข้าแถวรอที่หน้าสถานทูตอเมริกาแต่ไก่โห่..ทำได้ดี เพราะยังติดjetlag พอเปิดให้เริ่มเข้าได้ ก็ได้เข้าไปโดยไม่ต้องรอนาน คือเขาจะแยกแถวสำหรับบุคคลที่ต้องการติดต่อเรื่องอื่นที่ไม่ใข่วีซ่าออกไป .. เข้าไปถึงไปหยิบบัตรคิว มีเจ้าหน้าที่ไทยท่านหนึ่งหน้าเคาน์เตอร์ถามว่ามาทำอะไร จึงแจ้งไปว่ามารับรองทะเบียนสมรส เธอให้กรอกเอกสารยุกยิกอยู่สองหน้า บอกจำนวนเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระ(จำไม่ได้แล้วค่ะว่าชำระไปเท่าไหร่) แล้วบอกให้รอเรียก เราสองคนใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่า เออหนอ ไม่ยุ่งยากแฮะที่นี่ ..สามีได้ที โวเล็กน้อยว่า เนี่ยแหละอเมริกาทุกอย่างราบรื่น.. เสียงเรียกคิวเริ่มต้น .. พอถึงคิวน้อง..ก็ไปยื่นเรื่องที่เคาน์เตอรืกับเจ้าหน้าที่คนเดิม เธอเซ็นรับเอกสารแล้วบอกให้อ้อมไปชำระค่าธรรมเนียมอีกช่องหนึ่งด้านข้าง พร้อมวางเอกสารคว่ำหน้าลงไว้ที่หน้าช่องนั้น ..เดี๋ยวจะมีคนนำเรื่องไปทำแล้วรอเรียกอีกรอบหนึ่งเพื่อรับเอกสารที่ต้องการ .. โอเค..ท่าทางดีจัง..ไม่มีปัญหา..ชำระเงินเสร็จ..ก็ไปนั่งรอ..วางแผนกันว่า วันนี้ทุกอย่างน่าจะเสร็จเร็ว เพราะเวลายังเช้าอยู่มาก จะได้ไปเขต และ ไปจบที่กงศุลแจ้งวัฒนะ สักพัก ..ก็ได้ยินเสียงเรียก..คราวนี้เสียงเปลี่ยนไป เป็นผู้หญิง สาวเหลือน้อยแล้ว .. เสียงเฉียบๆ..จึงเดินไปหาเธอ..เธอบอก..ที่นี่เราไม่รับรองทะเบียนสมรสให้..คุณต้องนำกลับไปรับรองที่อเมริกา..เอ่อ อะไรนะคะ ไม่เข้าใจค่ะ และดิฉันก้มีเรื่องราวมากมายที่ต้องทำให้เสร็จ และเกี่ยวกับพาสปอร์ตที่จะหมดอายุด้วย.. ตอนนี้หละค่ะ พี่หวาน..คุณเจ้าหน้าที่ท่านนั้นตวาดแว๊ดเลยว่า..เอ๊ะก็บอกแล้วไงว่าที่นี่เราไม่รับรองทะเบียนสมรส ธุรกรรมนี้ยกเลิกไปนานแล้ว..(ใจเย็น อธิบายกลับ) คุณคะ..เจ้าหน้าที่กงศุลที่แจ้งวัฒนะเป็ฯคนบอกให้ดิฉันมาที่นี่ เพื่อการนี้ค่ะ ..คราวนี้..เสียงปรี๊ดขึ้นไปกว่าเดิม..เอ๊ะ นี่ฟังไม่เข้าใจรึไง บอกว่าไม่ทำแล้ว กงศุลก็ประสาท ทำหนังสือแจ้งไปแล้วยังไม่รู้เรื่องอีก เข้าใจรึเปล่าที่พูดเนี่ย..(ตามนี้เลยค่ะ ไม่มีต่อเติม) คนแถวนั้นมองหน้ากันเป็นแถว..อย่างนี้เริ่มสวยแล้ว..ใจเย็นเป็นโอเลี้ยงคงไม่ไหว..หน้าเธอก็คนไทย จะคิดว่าทำงานสถานทูตฝาหรั่งแล้วมาตวาดแว๊ดๆแบบเกิดมา เตี่ยแม่ยังไม่เคยทำกะฉันอย่างนี้เลย.. จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 15:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลืมบอกไปคคห ก่อนว่า ระหว่างนั้น สามีก็ถามตลอดว่า whats the matter? tell me น้องก็บอกว่า เดี๋ยวจัดการเอง ถึงตอนนี้..สายใยแห่งความเป็นคนไทยด้วยกันขาดผึง..จึงกะประมาณดีกรีเสียงที่จะต้องมีคนได้ยินมากกว่าหนึ่งมั่งละนะ..พูดกลับไปว่า..คุณคะ..ดิฉันคนไทย ก่อนแต่งงานก็เสียภาษีให้บ้านเมืองไทยนี้มากมายครบถ้วนสมบูรณ์ พูดภาษาไทยมาแต่กำเนิด เข้าใจที่คุณพูดมาค่ะ แม้คุณจะพูดด้วยวาจาที่ค่อนไปทางสามหาวดิฉันก็เข้าใจแล้วค่ะ .. แต่ที่ได้อธิบายไป ด้วยดิฉันมีเหตุที่ต้องใช้เอกสารที่มาร้องขอให้ทำ คือต้องออกพาสปอร์ตเล่มใหม่ หากจะต้องกลับไปอเมริกาแล้วกลับมาใหม่คงไม่ได้ มีทางใดที่จะช่วยได้ไหมคะ..คุณพูดกับดิฉันดีดีก็ได้ค่ะ ไม่ใช่คิดว่าทำงานกับสถานทูตอเมริกาแล้วจะยกตนขึ้นขย้ำหัวคนไทยกันแบบนี้ เธอทำหน้าเป๋อเหวอ ตาโต..ถึงตอนนี้น้องก็หันไปอธิบายกับสามีว่าเกิดอะไรขึ้น..สามียัวะเลย..หันไปพูดกับเธอคนนั้นว่า..ถ้าทำไม่ได้ ทำไมเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์คนแรกไม่แจ้งเราก่อน..อีกอย่าง ถึงผมจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แต่ผมเข้าใจว่า คุณใช้สำเนียงที่ไม่ดีกับภรรยาผม คนไทยคำพูดอ่อนน้อม นุ่มนวล แต่คุณไม่เป็นอย่างนั้น..ผมขอคุยกับเจ้าหน้าที่อเมริกัน เดี๋ยวนี้.. อะฮ้า..เท่านั้นแหละค่ะ..เธอหันมาทางสามี เรียก Sir เริ่มอธิบายใหม่ เสียงนุ่มนวลเป็นกุลสตรีคัพเอมาเลยค่ะ .. สามีบอก ผมไม่พูดกับคุณ ผมขอคุยกับเจ้าหน้าที่อเมริกัน..สม สม สม..อุ๊บส์ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 15:47:31 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 15:45:57 จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 15:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถึงตอนนี้ เธอหันมาทางน้องแล้วพูดด้วยเสียงที่ไปเกิดมาใหม่..คุณคะ เดี่ยวจะลองปรึกษาด้านในดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง เพื่อให้คุณไม่ต้องกลับไปรับรองเอกสารที่อเมริกา .. นั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวจะเรียก..เฮ้อ..ลืมขอบคุณเธอก่อนเธอจะจากไปเพื่อกลับมาใหม่..ถึงตอนนี้ ถึงได้สังเกตว่า ไทยมุง ค่อยๆกระจายออกไปจากที่มายืนมุงอยู่ด้านหลัง..และได้เห็นรอยยิ้มจากหลายๆคน พร้อมยกนิ้วโป้งให้หลายนิ้ว.. ยกสอง..เธอเดินกลับมา..พร้อมเอกสารให้กรอกอีกหนึ่งชุด พร้อมบอกว่า คุณเอาเอกสารนี้ไปกรอกเพิ่ม แล้วมาวางไว้ที่นี่นะคะ..ว้าว..หวานหยด.. เป็นเอกสารทีเป็นคำให้การเกี่ยวกับการสมรสกับสามี ใจความยาวประมาณหนึ่งหน้าครึ่ง..กรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด จากนั้น มีเจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หญิงมาเรียก..เธอกล่าวทักทาย และถามว่ามาทำอะไรคะวันนี้ น้องก็เล่าไปคร่าวๆ..เธอบอก เอาหละ..ตอนนี้เธอจะถามคำถามและให้ตอบในลักษณะของการสาบานว่าข้อความทุกประการเป็นความจริง..คำถามก็เกี่ยวกับเอกสารที่กรอกไปทั้งหมด เกี่ยวกับการสมรส จากนั้น เธอก็เซ็นพร้อมประทับตรารับรองและอวยพรให้ Have a nice day ..เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ.. ออกจากสถานทูตได้..แทบอยากจะเอาชาวอิรักมาถล่ม จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 15:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กลับไปเริ่มต้นต่อที่เขต..อารามดีใจได้เอกสาร ลืมไปว่าเป็นเอกสารภาษาอังกฤษทั้งหมดจากสถานทูต ต้องนำไปแปลมาก่อน..ขับกลับไปหน้ากงศุลที่มีคนรับแปลเอกสารมาอ่อยเรียกไว้แต่วันก่อน..จอดรถปุ๊บ เจอหน้าม้าถามปั๊บ พี่ครับ แปลเอกสารมั้ยครับ..เลยยื่นเอกสารให้ดูแล้วถามราคาค่าแปล เขาดูเอกสารแล้ว โทรไปที่สำนักงาน..ทางโน้นบอก..เอกสารนี้ต้องรอแปลสองวัน เพราะไม่ใช้เอกสารทั่วไป ค่าแปลพันสอง..ว้าว รอสองวันเลยเหรอคะ พันสองไม่คิดมากหรอก แต่สองวันนี่รอไม่ได้จ๊ะน้อง..เลยเดินขึ้นไปบนตึกหาเจ้าหน้าที่คนเดิม เธอแนะนำให้ข้ามสะพานลอยไปจะมีเรือนไทยรับแปลเอกสารอยู่..พอไปถึงร้านเรือนไทยนั้น..มีคนรออยู่มากมาย..เจ้าหน้าที่ก็มากมาย..น้องที่นั่งรับอยู่ด้านหน้าบอก..บ่ายได้ครับพี่..สี่ร้อยบาท..โอเคเลยน้อง..พี่รอ..พอได้มาปุ๊บ..เดินกลับไปขึ้นรถขับแบบเหาะเช่นเคยไปที่เขต ถึงตอนนี้ ค่อยรู้สึกว่าได้ห่ายใจ..กลับไปที่เขตกรอกเอกสารคำร้อง รอปลัดอำเภอสอบสวน เซ็นเอกสารให้เสร็จ รอเอกสารบันทึกฐานะแห่งครอบครัว เปลี่ยนรายการในทะเบียนบ้าน ไปทำบัตรประชาชน จบวันนั้น..ด้วยการเป็นคนสุดท้ายในเขต..หมดเวลาราชการอีกแล้วค่ะ จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 16:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 32 วันรุ่งขึ้น..ไปกงศุลแจ้งวัฒนนะอีกครั้ง..ไปยื่นเรื่องกรอกเอกสาร..ขลุกขลักนิดหน่อย เพราะเจ้าหน้าที่ช่องที่น้องเข้าไปเธอลังเลกับเอกสารบางอย่าง..ต้องไปถามหัวหน้า..คนที่มาทีหลังช่องอื่นเสร็จออกไปได้สี่ห้าคนแล้ว..สุดท้ายเดินมาบอก โอเคค่ะ..เดินเรื่องต่อ..ถ่ายรูป ทำโน่นนี่ ปิดท้ายด้วยได้รับใบนัดให้มารับเล่มวันหน้า..ด้วยสภาวะจิตใจที่โดนกระหน่ำ เลยทำให้พาสปอร์ตเล่มนี้ น้องดูอัปลักษณ์ที่สุดเลยค่ะ..อิอิอิ จากนั้น..ก็ไปขนส่ง เปลี่ยนใบขับขี่ พร้อมกับขอใบขับขี่สากลฉบับใหม่ด้วย เพราะยังไม่ได้ใบเขียวจึงยังไม่ได้ driver license ในตอนนั้น.. วันนี้..นั่งเขียนเรื่องราว..ยิ้มได้.. แต่นึกถึงวันนั้น..ตอนนั้น..ยิ้มไม่ออกเลยค่ะ.. ถึงวันนี้..ไม่เสียใจที่เลือกเปลี่ยนนามสกุลตามที่สามีขอ..แม้จะโดนขวากหนามเกี่ยวตำมากมาย..แต่ก็จบลงด้วยดี..ทุกวันนี้ก็มีความสุขค่ะ.สามีเลี้ยงดู ให้เกียรติ ให้ความรักเสมอต้น เสมอปลาย วันหนึ่งข้างหน้า..จะกลับบ้านเช่นกันค่ะ..ขอให้อยู่นานกว่าเขา..มีคนด้อยโอกาสมากมายที่เมืองไทย..ที่ยังรอคอยการช่วยเหลือ..จะกลับไปอ่านหนังสืออังกฤษให้น้องๆตาบอดฟังเช่นที่เคยทำ..จะกลับไปกอดลูกๆที่เรียกน้องว่า"แม่"ที่บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน..จะกลับไปช่วยน้องหมาน้องแมวที่ตกระกำลำบากอยู่ข้างถนน..จะกลับไปเป็นกำลังให้หลวงพ่อดอกเตอร์อลงกต วัดพระบาทน้ำพุ..ฯลฯ เท่าที่กำลังน้อยๆนี้จะทำได้ ขอบคุณพี่หวาน ที่ได้กรุณาให้ใช้พื้นที่แชร์ประสบการณ์.. Have a nice holidayค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 16:33:32 จากคุณ : Panissar - [ 4 ก.ค. 51 16:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 Wow...คุณ : Panissar ขอยกนิ้วให้ด้วยที่ได้ฉะกับ จนท สถานกงสุลอเมริกันมาอย่างนั้น Way to go ค่ะ :) :) ฟังเรื่องแล้วชักจะหนาวกับความคิดที่จะต่อ e passport ไทยของตัวเอง :( :( :( จากคุณ : PatPDX - [ 5 ก.ค. 51 15:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อิอิอิ ขอบคุณค่ะ พี่แป๊ด ขอให้พี่แป๊ดต่อพาสปอร์ตด้วยความราบรื่นนะคะ..ของน้องอีกพักใหญ่ถึงจะปวดเฮดเวียนหัวอีกครั้ง ตอนนี้เดินทางกลับบ้านได้เรื่อยๆ..นอกเสียจากจะชังรูปอันแสนอัปลักษณ์ในเล่มเสียก่อน..ค่อยหาเรืองให้ตัวเองไปเปลี่ยนเล่มใหม่..เอิ๊กๆ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 51 05:10:46 จากคุณ : Panissar - [ 5 ก.ค. 51 20:01:22 ]