^_^
เพราะว่าที่ผ่านมาพระภิกษุที่มาอเมริกาเพื่อเผยแพร่ศาสนา
พออยู่นานขอกรีนการ์ดได้ก็ลาสิกขาบท ไปประกอบอาชีพอื่น..
^_^ ข้อความนี้ ไม่ใช่ "ข้อเท็จจริง" เป็นเพียง "คำวิจารณ์" เท่านั้น
bmw -ขอความกรุณา โปรดระมัดระวัง ให้มากกว่านี้ ในการกล่าวถึง พระภิกษุธรรมทูตที่นี่
หากเป็นข้อเท็จจริง ควรแสดงให้ชัดเจนว่า พระสงฆ์มาในปีใด ลาสิกขาเมื่อใด วัดใด เพราะอะไร
และควรมี ตัวเลข จำนวน หลักฐานอ้างอิงด้วยเพราะการกล่าวสรุปว่า พอพระภิกษุ มาอยู่นาน
หลังจากได้กรีนคาร์ด ก็ลาสิกขา ไปประกอบอาชีพอื่น...ไม่ทราบว่า มีจุดประสงค์อะไรในการ
โพสข้อความเช่นนี้ เรื่องนี้ หากจะเขียนต้องมีรายละเอียดให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
การ ตรวจสอบไปยังวัดว่าพระท่านยังปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ นั้น เกิดขึ้นจริง แต่มีรายละเอียดอื่นๆ
เราเคยสัมภาษณ์พระสงฆ์ ระดับผู้นำ หลายรูป และจากการไปวัดเป็นนิจ พระส่วนใหญ่ไม่ได้
มาเพื่อเอากรีนคาร์ด แล้วไปทำอาชีพอื่นดังว่า ก่อนที่ท่านจะมา ท่านต้องผ่านการอบรมของ มจร.
เรียกว่า โครงการอบรมพระธรรมทูต สายต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันปรับขึ้นเป็น ธรรมทูตศึกษา
มีการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมและกฎหมายของท้องถิ่น มีการฝึกฝนเพราะว่าเป็นงานอุทิศอย่างยิ่ง
คณะพระธรรมทูต จะต้องผ่านขั้นตอนในการสมัครสอบ จะมีกำหนดเวลาในการไปศึกษาภาคสนาม
และจะต้องได้รับการรับรองเป็นทางการ จากองค์การทางศาสนา ผ่านสมัชชาสงฆ์ เป้นลำดับด้วย
เมื่อมาแล้ว จะมีระยะเวลา ในการปฏิบัติศาสนกิจ อยู่ในความดูแลของเจ้าอาวาสแต่ละศาสนสถาน
มีรายนาม ฉายา อายุ พรรษา ต้นสังกัด วัดที่ประจำการในต่างประเทศ โดยละเอียด ประกาศทางการ
ส่วนใหญ่การได้รับสิทธิเพื่อขอใบเขียว เป็นเรื่องที่ทางการสหรัฐฯอนุมัติให้ ผ่านการตรวจสอบเช่นกัน
มิใช่ว่า การมุ่งหน้ามาที่นี่ เพื่อใช้ศาสนาเป็นทางสร้างชีวิต อย่างนัยที่ bmw เขียน ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ขอท้วงติง ว่าเป็นการผลักดัน ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา มีเจตนาหรือใม่ก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อพระภิกษุลาสิกขาแล้ว ย่อมเป็นสามัญวิสัย ที่จะต้องประกอบอาชีพสุจริต เพื่อเลี้ยงตนโดย
ชอบ ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้การขอวีซ่า R1 ยากขึ้นแต่ประการใด ส่วนการจับผู้อาศัยผ้าเหลืองมากระทำมิจฉาชีพนั้น เป็นคนละกรณี นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ของผู้มุ่งมาในทางทุจริต จึงเป็นอีกส่วนที่ทางการ
เพ่งเล็งตรวจสอบ แต่ไม่ใช่คณะพระภิกษุธรรมทูต ที่ผ่านการอบรม และเดินทางมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาอันเป็นมหากุศล ขอให้ช่วยแยกแยะและเขียนให้ตรงกับข้อเท็จจริง เพื่อมิให้ผู้รับสารเข้าใจผิด
หากจะเขียนข้อความที่รู้มาจากหน่วยงานของทางการสหรัฐฯ ก็ควรจะใช้ถ้อยคำที่ชัดเจนกระจ่างขึ้น
ว่า เป็นบางส่วนของพระภิกษุ ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะส่วนมาก พระท่านมาเพื่อทำความดีสร้างกุศล
และการทำงานในลักษณะดังกล่าว ต้องเผชิญปัญหามากมาย ที่คนภายนอกอย่างคุณ อาจไม่รู้เลย
ไม่ใช่ว่าทุกรูปทุกนามตั้งหน้ามาเอากรีนคาร์ด คงไม่ใช่เหตุผลแค่นั้น ที่พระจะลาออกไปเป็นฆราวาส
หากยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีผลงานครบตามเวลาที่กำหนด ท่านก็จะต้องทำหน้าที่ไปจนสุดสามารถจ้ะ
ขอให้ ตรวจแก้ไข ข้อความให้เหมาะสม กรุณาอย่านำอคติหรือความรู้ไม่ถ่องแท้ เกี่ยวกับพระสงฆ์
มาทำลายความรู้สึกศรัทธาในตัวบุคคลที่รับผิดชอบ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่คนนอกวัดอื่นๆจะเข้าใจ
การขอวีซ่ายากขึ้น สำหรับวีซ่าทุกประเภท ไม่ใช่เฉพาะ ผู้ขอวีซ่าเพื่อมาปฏิบัติกิจทางศาสนา
และการตรวจสอบไปที่วัด ก็เป็นการทำงานตามระบบระเบียบ ซึ่งเป็นปกติ ไม่่เพราะสาเหตุว่า
มีพระลาสิกขาทุกรูป ก็หามิได้ พระสงฆ์ที่มาจากสถาบันมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยู่ใน
แวดวงของผู้อุดมด้วยวิชาธรรมและจริยธรรม มีบรมครูแห่งพระอบรมมา และหลายรูปก็เป็นอาจารย์
การทำงานที่อุทิศ เสียสละเพื่อชุมชนชาวไทย ได้สร้างฐานของความเจริญให้กับคนไทยทุกคน
วัดเป้นที่พึ่ง และเป็นแหล่งเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของไทย การกล่าวหาปรักปรำพระภิกษุ
โดยไม่กล่าวในรายละเอียดหลักฐาน ถือว่าเป็นบาป เป็นการสร้างกรรมที่จะต้องชดใช้ไม่สิ้นสุด!
แม้ว่ามีพระส่วนหนึ่ง ขอลาสิกขา ตามขั้นตอน ก็มีการทำเรื่องขออย่างถูกต้อง และได้รับการอนุมัติ
เมื่อบุคคลได้เลือกทางชีวิต ด้วยเหตุผลของแต่ละคน ในทางศาสนา ไม่ถือว่า เป้นการเอาเปรียบ
เพราะว่า การลาสิกขาออกไป ไม่ได้ห่มกาสาวพัสตร์ ไปประกอบอาชีพอื่นๆแล้วก็ตามที
ท่านเหล่านั้น ยังเป็นฆราวาส ครองคุณธรรม ไม่ประพฤติชั่ว ไม่มัวเมาอบายมุข ทำงานสุจริต
และกลับมาเกิ้อกูลสังคม ด้วยเงินทองที่หามาได้ มอบบริจาคแก่วัด ช่วยเหลือในกิจด้านอื่นๆของวัด
เช่น เดินเก็บขยะหลังงานวัดเลิก ยกโต๊ะเก้าอี้ กวาดพื้น ซื้อของที่พระท่านขาดเหลือในยามที่ป่วยไข้
คนที่ลาสิกขาจำนวนหนึ่ง มีความรู้ความสามารถ นำมาเพิ่มส่วนที่สังคมขาดไป ช่วยพิมพ์หนังสือ
ให้วัด ช่วยขับรถขนของในการทำงานของฝ่ายกิจกรรม นำอาหารไปถวายเพลทุกวันธรรมดาฯ
และอื่นๆอีกมากมาย ที่คนวงในเขารู้กัน พระสงฆ์และอดีตพระ หาใช่บุคคลที่มากอบโกยเอาแต่ได้
หรือว่า เข้ามาเพื่อหาทางแสวงประโยชน์ ตามที่คนนอกเข้าใจเช่นนั้น อีกอย่างหนึ่ง การที่คนเรา
จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ก็มีสิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น หากตราบใด มิได้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ย่อมมีเสรีภาพ
คนเคยรับข้าราชการ ยังลาออกมาสมรสกับชาวต่างชาติ เพื่อได้ใบเขียว เป็นพลเมืองได้เลยนี่นา
เพราะฉะนั้น การที่พระสงฆ์ บางส่วน จะขอลาสิกขา ตามระยะเวลาหลังจากกำหนดพ้นวาระปีงาน
ผ่านขั้นตอนได้รับอนุมัติ ย่อมเป็นทางเลือกของแต่ละรูปไป และเหตุผล อาจจะไม่ใช่ดังที่คุณโพส
การออกไปทำงานด้วยตนเองของอดีตพระภิกษูธรรมทูต ที่เป็นกรรมการบริหารใหญ่ของวัดต่างๆ
หรือผู้ที่ทำงานปิดทองหลังพระก็มีมาก มาก เกินกว่าที่จะนับได้ มากกว่ากลุ่มที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง
ไม่ว่าผู้มาทำงานศาสนาจะพบความผันแปรอย่างไร แต่ส่วนใหญ่ พระท่านมาเพื่อทำหน้าที่จริงๆ
ช่วยยังประโยชน์อย่่างอัศจรรย์ แก่วัดทั้งทางตรงและทางอ้อม อดีตพระไม่ได้ละเลยในการทำกุศล
เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นออกมาเป็นพระ หรือเป็นนักเรียน หรือเป็นภรรยาชาวต่างชาติ ใครก็ตาม
ก็มีเสรีภาพเท่ากันในการเลือกเส้นทางชีวิต คนดีก็คือคนดี และคนที่เป็นพุทธศาสตรบัํณฑิตมาแล้ว
เขาช่วยเหลือคนไทยรุ่นหลังๆไว้มาก โดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน ความดีนั้นล่วงรู้ถึงพระเนตร
พระกรรณมาโดยตลอด ขออย่าได้พยายามโพสุถึงพระภิกษุไปในทางลบ เพราะความอคติใดๆหรือ
ความรู้ที่ไม่ครบถ้วนในกิจศาสนา ย้ำอีกครั้ง พระในปัจจุบัน ต้องผ่านการติวเข้มจึงขอวีซ่าได้ยาก
ไม่ใช่เหตุผลที่ เธอเขียนลงมา อย่างปราศจากการกลั่นกรอง ซึ่งอาจทำให้กระทบต่อสถาบันวัดได้
ผู้ตั้งกระทู้ สามารถอ่านเรื่องขั้นตอนขอวีซ่า Rได้ที่เว็บสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ
ปล.ข้อความนี้ผ่านอนุมัติแล้ว ไม่ใช่การวิวาท แต่เป็นการชี้แจงเหตุผล จากฝ่ายที่รู้เห็นการทำงานภายในวัด
และยกย่องการอุทิศตนของเหล่าพระธรรมทูต ขอกรุณาอย่าให้เป็นเหตุบาดหมาง เพราะนี่คือข้อเท็จจริง
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 00:24:47
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 00:20:03
แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 14:05:09
แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 13:35:43
แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 13:28:22