ความคิดเห็นที่ 1 เป็นผม ผมทิ้งไปแล้วล่ะ นิสัยแย่มาก คนเอามาให้ก็ไม่ยอมมารับ ทำให้เราต้องทิ้งของที่เราจะเอาไปอีก หรือตอนฝากไว้ที่โรงแรมครั้งแรกแล้วเขาไม่มา เราก็น่าจะเปิดดูเลยครับ ถ้าเปิดเจอของที่ว่านั่น ผมก็ิ้ทิ้งเหมือนกัน จะฝากไปให้ก็ไม่ได้บอกคนรับ คนรับก็ไม่ถามทางบ้าน แย่จริงๆ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์แล้วกันครับ ตอนผมจะไปต่างประเทศ มีคนฝากของให้ญาติ ผมเปิดดูหมดเลย แล้วก็โหลดลงใต้ืท้องเครื่อง ถือว่าถ้าโดนยึดหรือหายเราคงรับผิดชอบให้ไม่ได้ แล้วผมก็ชั่งน้ำหนักก่อนด้วย พอดีไม่เกินที่ผมจะเอาไปได้ ถ้าเกิน ผมก็เอาออกเหมือนกันครับ เราต้องเอาตัวเราเป็นใหญ่ไว้ก่อน น้ำใจมีให้ได้ แต่ก็ต้องมีข้อจำกัด ไปเมืองนอกนะครับ ไม่ใช่เอารถขับไปต่างจังหวัดกันเอง (อ่านแล้วหงุดหงิดแทนจริงๆ เพราะผมก็เคยเจอ) จากคุณ : e20 - [ 3 ก.ค. 51 14:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถึงเวลานี้ มาคิดดูอีกที หรือจะเป็นธรรมเนียม ของคนไทยในต่างแดนค่ะ ว่า ถ้าคนที่เมืองไทยอาสาเอาของมาให้ นั่นหมายถึงคุณต้องรู้ตัวว่า ต้องเป็นคนส่งให้ด้วยน่ะค่ะ และ อยากจะฝากว่า ไม่ใช่เห็นใครจะไป ก็ฝาก ๆ แม้กระทั่งฝากซื้อของ ยิ่งคนไปทำธุระไปทำงานด้วย หาเวลาทำให้ได้ยากมากค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมออกความเห็นนะคะ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 3 ก.ค. 51 14:42:47 A:124.121.193.138 X: TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาอ่าน อ่านแล้วอยากร่วมเข้าไปด่าด้วยจริงๆ  ฮิๆๆๆ เป็นเราทิ้งตั้งแต่สนามบินกทม.แล้วหล่ะ แล้วไปบอกเค้าว่าของถูกยึด 55555555555555 (เราเลวไปม่ะ) เจอแบบนี้นะคราวหน้าทิ้งอย่างเดียว *เข้ามาเพิ่มข้อความ* แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 14:57:38 จากคุณ : clubspanky - [ 3 ก.ค. 51 14:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โหเห็นใจ จขกท เลย เคยเจออย่างงี้มาแล้ว ฝากมาทีครึ่งกระเป๋าเดินทางใหญ่ พี่ไทยช่างฝากไอ้เราก็ขี้เกรงใจ ตกลงรับคิดซะว่าช่วยกัน พอไปถึงแทนที่จะมาช่วยลากกระเป๋าไปเพราะไอ้เราก็ไปคนเดียวต้องลากลง tube ขึ้นบันไดคนเดียวหมดกลับหายเกลี้ยง ไปถึงวันแรกกล้ามเนื้อแขนขาเนี่ยสั่นระรัวเลย ขี้ฝากทั้งหลายหายหมด แต่ของเราดีที่ท่านขี้ฝากเต็มใจมารับของกันถ้วนหน้า เป็นอุทาหรณ์เลยสำหรับคนจะเดินทางอย่ารับฝากของใคร จากคุณ : indie love child - [ 3 ก.ค. 51 15:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โดยมารยาทและที่ควรจะเป็น คนฝากน่ะ ต้องฝากให้เราสะดวกที่สุด และจัดการแจ้งปลายทางโดยอย่าให้เราได้มีการลำบาก(กาย) หรือ(ใจ) โดยเด็ดขาด  ((คือดิฉันคิดเอาเองว่าถ้าเป็นตัวเองไปขอร้องใครดิฉันก็ทำแบบนี้ แต่เวลาอ่านเจอแบบนี้ทีไร แบบที่ดิฉันคิดคงมีแต่ในความคิดกระมัง เผลอๆ ต้องคิดว่า อย่าเอาตัวเองเป็นมาตรฐานซะอีก จึงจะไม่เป็นทุกข์ ย้อนกลับมาที่เรื่อง จขกท. ถ้าดิฉันเป็นคุณ ดิฉันจะบอกตั้งแต่ที่เขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง เขามารับไม่ได้ บลาๆๆ  ดิฉันจะบอกว่างั้นไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันจะหาที่ทิ้งแถวนี้ก็แล้ว ที่ผ่านมาลำบากเสียเงินเสียเวลามาก็เยอะแล้ว ขอบคุณที่ช่วยให้ปัญหาจบเร็วขึ้น   ธรรมเนียมที่พวกเขาคิดแบบนั้น เราอย่าปล่อยให้เขาคิดซิคะ เราต้องบอกกฎเหล็กของเรา เขาจะไหว้วานเรา เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราด้วย ((มิน่าไม่ค่อยมีใครมายุ่งกับดิฉันเท่าไหร่ เพราะเรื่องมากนี่เอง เรื่องมากแต่ตัวเราสบายใจ ยอมค่ะ ))) ปล. น้ำที่คุณแบกมาจากเมืองไทยเพราะน้ำที่นั่นแพงน่ะ  ถ้าไปคราวหน้า อย่าซื้อน้ำข้างนอกซิคะ ให้ไปซื้อน้ำที่ซุปเปอร์ค่ะ 1 Pack ก็ยูโรกว่า มีตั้งหลายขวด  แต่ถ้าคุณซื้อข้างนอกขวดละ สองยูโรกว่าๆ อยู่แล้ว  ปกติดิฉันจะพกน้ำจากบ้านประจำ เพราะรู้ว่าราคาจากซุปเปอร์กับข้างนอกมันต่างราวฟ้ากับเหว ถ้าเป็นซื้อพวกโคลา หรืออย่างอื่นที่เราผลิตเองไม่ได้ ยอมจ่าย 2 ยูโรก็หยวนๆ  แต่ถ้าเป็นน้ำ นี่หิ้วจากบ้านดีกว่า น้ำจากก๊อก มีเป็นกะตั๊ก วันก่อนไปเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง ไม่ได้พกน้ำไปด้วย แต่กระหายจำต้องซื้อ ซื้อด้วยความเสียดาย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขวดครึ่งลิตรเนี่ยแหล่ะ 2.10 ยูโร    (ถ้าซื้อในซุปเปอร์เป็น pack ราคาต่างกันลิบ) แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 15:36:38 จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน - [ 3 ก.ค. 51 15:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอากระทู้เก่าๆ ของห้องนี้ที่เขาเหลากันไปเยอะแล้วมาฝาก  จขกท.จะได้สบายใจขึ้น โห มีคนโดนกันถ้วนหน้า (((ฮา)))) http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/H3669734/H3669734.html http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2007/06/H5494323/H5494323.html จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน - [ 3 ก.ค. 51 15:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่าเห็นใจมากๆ  กะจะได้ไปที่ยวสนุกสนานต้องมาคอยห่วงเรื่องของฝาก   ทั้งคนฝากและคนที่ต้องรับของฝากก็ช่างกระไรเลยจริงๆ .............. คุณจขกทคะถ้ามายุโรปคราวหน้า พกขวดเปล่ามาเลยค่ะ น้ำประปาจากก็อกดื่มได้ค่ะ ปลอดภัยค่ะ จากคุณ : hamble pie - [ 3 ก.ค. 51 15:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 6.5 โล.... ถ้าดิฉันเป็นคุณคนรับปลายทาง แล้วมารับของไม่ได้ ดิฉันจะบอกว่า "พี่ครับ ผมต้องขอโทษพี่ด้วยที่ทำให้พี่เป็นภาระและเดือดร้อน ........ ผมขอรบกวนพี่เป็นครั้งสุดท้าย....กรุณาทิ้งของห่อนั้นที่ถังขยะแทนผมด้วยครับ ......ขอบคุณครับ" แต่ถ้าดิฉันได้รับข้อความตอบมาเช่นนี้ "พี่ส่งมาให้ผมก็แล้วกัน / พี่ต้องส่งให้ผมแล้วล่ะ / รบกวนพี่ส่งให้จะดีกว่า" ดิฉัน   ทิ้งของ ............ ดีกว่า ดิฉันขอชมเชย และยกย่อง จขกท  ว่าเป็นคนมีน้ำใจ ทนอด และอดทนจริงๆ หาคนแบบนี้ได้ยากจริงๆ มิน่า จขกท ... ถึงได้เจอเข้าไป 6.5 โล จากคุณ : โจ๊กหมูไม่เอาชูรส - [ 3 ก.ค. 51 15:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นเราคงทิ้งตั้งแต่ตอนที่คนรับบอกว่าไม่ว่างที่จะมากรับค่ะ ไม่มีมารยาททั้งคนฝากและคนรับเลย  ฝากเข้าไปได้ตั้ง 6 กิโลกว่า ทำไมไม่คิดบ้างว่าคนเดินทางเค้าก็ต้องมีสัมภาระอื่นเหมือนกัน ส่วนน้ำขวด ตามที่คุณก๋าสะลองเงินบอกค่ะ  ควรซื้อตามซุปเปอร์  ถึงคุณจะซื้อน้ำที่ซุปเปอร์แค่ขวดเดียว แต่ราคาก็ถูกกว่าไปหาซื้อเอาข้างนอกหรือสั่งตามร้านอาหาร  นอกจากนี้ขวดพลาสติก ขวดแก้ว กระป๋อง ที่เป็นภาชนะใส่น้ำขายนั้น ในเยอรมันหากข้างภาชนะเขียนว่า Einwegpfand หรือ Mehrwegpfand ต้องเอาไปคืนที่ร้านค่ะ  โดยใส่ในเครื่องคืนอัตโนมัติในซุปเปอร์ฯ ยกเว้นขวดที่เขียนด้านข้างว่า Kein Pfand ก็ไม่ต้องคืน  คุณจะได้เงินคืนต่อภาชนะ 0.08 ถึง 0.50 ยูโร ขึ้นกับขนาดและชนิดภาชนะ  เครื่องอัตโนมัติจะคืนมาให้เป็นคูปอง ซึ่งคุณสามารถนำไปซื้อของอย่างอื่นในซุปเปอร์นั้นได้ค่ะ จากคุณ : Sonnenschein - [ 3 ก.ค. 51 16:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนมากรับฝาก "เงิน"ค่ะ โหดป่าวเนียย? รับฝากของไม่เท่าไหร่ ต้องรับฝากญาติใครก็ไม่ทราบ ให้ดูเเล เหนื่อยสุด จากคุณ : ศิริกัลยา (YUCCA) - [ 3 ก.ค. 51 16:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โห เข้ามากระทู้นี้ได้ข้อมูลเยอะเลยนะเนี่ย ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเราไม่เคยรับฝาใครอ่ะ ของตัวเองก็แทบจะไม่มีที่ให้ใส่อยู่แล้ว อิอิ ((เป็นพวกบ้าหอบฟางอ่ะ คิดมาก ไอ้นู่นก็ต้องเอาไป ไอ้นี่ก็ขาดไม่ได้ไรเงี้ย ส่วนฝากคนอื่นเนี่ยเราคิดว่เป็นการรบกวนคนอื่นเขา ประสบการณ์แบบนี้เลยไม่เคยเจอ)) จากคุณ : WWTPITN - [ 3 ก.ค. 51 16:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราไม่ชอบฝากใครเพราะเกรงใจเค้าค่ะ เวลาเพื่อนไปต่างประเทศถ้าถามว่าเราจะฝากซื้ออะไรมั๊ย....เราก็ไม่รู้จะซื้ออะไรดีตัวเอง ขอบคุณมาก เที่ยวให้สนุกนะ เพราะเห็นว่าเครื่องสำอางค์ น้ำหอม ในห้างบ้านเรามีหมด ถึงแม้จะได้ลดราคาไม่เกิน 10% แต่ได้ของแถมและมีสะสมแต้ม ได้เดินเลือกชมและเทสด้วยตัวเอง ดิฉันเลือกความสะดวกใจดีกว่า เคยอยากได้รถเข็นเด็กที่อังกฤษเพราะว่ามันแข็งแรงและสวยดี แต่ก็ตัดใจไม่บอกเพื่อนเพราะรู้ว่าน้ำหนักมันเยอะและคนหิ้วเขาคงจะมีสัมภาระของเขาเยอะแล้ว เลยตัดใจซื้อที่ไทยนี่แหละค่ะ เพื่อนเคยฝากเราซื้อเครื่องสำอางค์ที่ HK เราว่าเราจดรุ่นที่เขาสั่งถูกนะ แต่พอซื้อมาแล้วเขาไม่เอาเฉยเลย กลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายตัวเอง เสียเวลา เสียความรู้สึกมากๆอีก จากคุณ : ใหม่ - [ 3 ก.ค. 51 16:40:17 A:58.8.85.27 X: TicketID:173922 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาอ่านแล้วก็ดีใจว่า ไม่ใช่ธรรมเนียมของคนไทยที่อยู่เมืองนอก เพราะเราเห็นเค้าพูดแบบ ... ธรรมดา ... ชิล ชิล มาก ว่า พี่ส่งให้ผมละกัน อันนี้แบบ ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก ก็คิดว่า เอ๊ ... เค้ากล้าพูดแบบนี้ หรือ เป็นอะไรที่เราคนเอาไปให้ต้องส่งด้วย เพราะไม่เคยรับฝากใครมาก่อน คือ หน้าตาเฉยมาก ๆ ๆ ---------------------------------------------- โห.... เรื่องน้ำดื่มนี่ พอคุณ ๆ แนะนำมาว่าที่ซุปเปอร์มีขาย หรือดื่มน้ำก๊อกก็ได้ ก็ จะบอกว่า Trip นี้ กิน น้ำก๊อกตลอดเลยค่ะ แต่ที่ เชค ไม่กล้ากิน ไม่รู้ว่า จะสะอาดเหมือนที่เยอรมันหรือเปล่า ที่แน่ ๆ โค้ก ( แฟนติด ) ซื้อตลอดทริป วันละ กระป๋อง ส่วนใหญ่ก็ 1.30 ยูโร -2 ยูโร รู้งี้ เสียค่าปรับโลละ 500 ที่สนามบินซะสิ้นเรื่อง แต่ตอนนั้นคิดไม่ทัน เห็นว่า โลละ 500 กะอีแค่น้ำ ทิ้งไปเหอะ ลืมคิดไป ว่า ไอ้ที่เราขนมานี่ ก็เพราะที่โน่นมันแพง ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ใครมีเหตุการณ์ใครไม่เกรงใจแบบนี้ ก็มาแชร์กันนะคะ จากคุณ : จขกท - [ 3 ก.ค. 51 16:40:31 A:124.121.193.138 X: TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วจี๊ดๆๆ อยากร่วมด่ามาก ปกติหลีกเลี่ยงการรับฝากซื้อของมาตลอดแต่ยังไม่วายนะ เราเคยโดนคนที่มีบุญคุณช่วยเหลือกันนี่แหละออกปากเลยปฎิเสธไม่ได้ คือเพื่อนของเพื่อนที่เคยช่วยเหลือเราอยากได้ของจากเมืองไทยเราออกเงินซื้อมาให้ แต่มันไม่เอาเฉยเลยบอกว่าแพง ตอนนี้เลิกคบหาไปแล้ว สมัยทำงานที่เมืองไทยเคยมีเจ้านายฝากหิ้วเตารีดกับข้าวสารและสัมภาระมาให้ลูกที่เรียนเมืองนอก แบบว่าต้องเอาไปประเคนให้ถึงที่พักด้วยอ่ะ ดีนะไม่ต้องใส่พานคลานเข่าถวาย แล้วเด็กคนนั้นไม่ได้กล่าวขอบคุณสักคำเดียว แถมยังทำท่าหยิ่งยะโสใส่ อีกเคสนึงก็คนท้องอยากกินของจากเมืองไทย ไอ้เราบอกไปแล้วว่าไม่สามารถหิ้วให้ได้เพราะกระเป๋าเต็มต้องส่งทางไปรษณีย์เธอก็โอเค แต่ปรากฎว่าของโดนตีกลับเพราะเธอไม่รับบอกว่าค่าส่งแพงเกินไป เสียเวลาเดินหาซื้อของ ใส่หีบห่อส่งให้ จ่ายเงินล่วงหน้า แล้วจบลงด้วยการเสียความรู้สึก เบื่อนะเบื่อจริงๆ เรื่องมารยาทพื่นฐานและความเกรงใจที่เราเคยมองว่าเป็นสมบัติผู้ดี มันกำลังหายไปจากสังคมไทย เหลือแต่ความมักง่าย และทัศนคติแบบ "ด้านได้ อายอด" แนะนำให้เจ้าของกระทู้ทิ้งสัมภาระเสีย และถ้าเขาถามก็ตอบไปตามตรง และถ้าจะให้ดีกรุณาสั่งสอนเรื่องมารยาทและความเกรงใจให้กับคนฝากด้วย จากคุณ : เข้ามาร่วมอนาถใจ - [ 3 ก.ค. 51 18:06:59 A:90.224.228.44 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 15  "แล้วก็อย่าบอกว่า ต้องหอบเอาไอ้สมบัติบ้านี่กลับเมืองไทยนะ ( ถึงตอนนี้ ต้องขอแอบดูว่ามีอะไรบ้าง สำคัญขนาดให้เราต้องเดือดร้อนได้ขนาดนี้ ปรากฏว่า ไร้สาระมาก มีแพมเพิร์ด 1 ห่อ / เสื้อผ้าเด็ก 2-3 ถุง เสือผ้าผู้หญิง 1 ถุง รูปยักษ์วัดแจ้ง - วัดโพธิ์ หนัก ๆ อีก 2 รูป /ดอกไม้แห้ง / เห็ดหอม 1 ถุง )" ^^ ^^ เข้ามาตกใจค่ะ ว่าคุณ จขกท. รับฝากหิ้วของไปเมืองนอก ผ่านด่านศุลการกรของหลายๆ ปท. โดยที่ไม่ทราบว่าตัวเองขนอะไรไปบ้างนอกจากของๆ ตัวเอง ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ......แต่ทุกครั้งที่มีใครฝากของไปไหน ไม่ว่าจากใครก็ตาม ไม่ว่าจะสนิทกัน ไว้ใจกันขนาดไหน ควรจะต้องเปิดดูก่อนค่ะ เพราะดีไม่ดี อาจจะได้หิ้วยาเสพย์ติด หรือ ของผิดกฏหมาย หรือ ของที่ห้ามนำเข้า ปท. นั้นๆ โดยที่ไม่รู้ตัว แต่ทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องหิ้วของให้ใครค่ะ....ถ้าไม่อยากรับ ไปไหนมาไหน ก็ไม่จำเป็นต้องบอกใครด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นทราบ และ เพราะคนไทย "ส่วนใหญ่" ชอบฝากซื้อของกัน ให้รู้ไม่ได้ ไม่ว่าใครจะไปปากซอย ไปตลาด ไป ตจว. ไป ตปท. ฝากซื้อหมด  แต่ไม่ค่อยฝากเงินกันด้วย ดิฉันไม่รับฝากใครทั้งนั้น และ ถ้าไม่ถาม หรือ ไม่รักกันจริง ก็ไม่หิ้วให้ จะหิ้วให้ก็ต่อเมื่อเต็มใจจริงๆ ......แต่ส่วนใหญ่ไป ตปท. ไม่บอกใครค่ะ บางทีหายไปนานๆ คนแถวบ้านถาม หายไปไหนมา ยังบอกเลยว่า ไป ตจว. ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++    ส่วนเรื่องน้ำดื่ม.....ดิฉันนี่แหละค่ะ เป็นอีกคนหนึ่ง ในจำนวนไม่มากคนนัก ที่พกน้ำดื่มไปต่างประเทศด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปใน ปท. ร่ำรวย หรือ ยากจน หรือ ไม่ว่าเขาจะมีขาย หรือ ไม่ พกของเราติดๆ ไปบ้าง ช่วยประหยัดเงินได้หลายทีเดียว.....เอามาพอเป็นค่ากาแฟดีๆได้หลายถ้วย หรือ ค่าน้ำผลไม้อร่อยๆ หรือ ได้ค่าอาหารดีๆ อีกมื้อนึงเลยค่ะ ส่วนจะขนไปแค่ไหนก็จะดูจากวันเดินทางค่ะ....แต่เต็มที่ก็ขนประมาณสองโหล 24 ขวดเล็ก ขวดขนาด 500ml. ค่ะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++    เคยมีสมาชิกมาโพสท์ถาม เรื่องขนน้ำไป ตปท. ด้วย ดิฉันเคยไปโพสท์เอาไว้ค่ะ จึงลากกระทู้มาให้อ่านเล่นๆ   http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6691493/H6691493.html "ความคิดเห็นที่ 2" ......เพราะน้ำดื่มที่เมืองนอกแพงมาก ...........เราเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำก๊อก ไม่ว่าจะเป็นของประเทศไหน เวลาเดินทางท่องเที่ยวทุกครั้ง เราจะโหลดน้ำดื่มไปเองด้วย ไม่เว้นแม้แต่การเดินทางไปยุโรป หรือ ประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลายแหล่ น้ำดื่มขวดเล็กๆ แบบ 500 ml.  นี่แหละ ต้องเอาติดไปด้วยอย่างน้อย 1-2 โหลทุกครั้ง อย่างน้อยพกน้ำออกไปเที่ยวด้วย หรือ เอาติดไว้ในรถ ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อน้ำดื่ม ขวดละปอนด์ ขวดละยูโร.........เสียดายเงิน หรือ ไปพักตามโรงแรม ที่จริงเขามีให้แต่ขวดมันเล็ก ดื่มทีเดียวก็หมดแล้นนน แต่ถ้าเอาน้ำของเราไปเอง ก็ไม่ต้องใช้น้ำดื่มจากมินิบาร์ในห้องแพงๆ กระหายน้ำเมื่อไหร่ก็เปิดกระเป๋าเดินทางเอาออกมา........ไม่ต้องออกไปเดินหาซื้อจาก Supermarket ให้เมื่อยตุ้ม แนะนำให้คุณ จขกท. ซื้อยี่ห้อ Minere ชนิดขวดเล็กขนาด 500ml แพ็คแบบ 12 ขวดนะ ที่แนะนำยี่ห้อนี้ เพราะขวดกลมเพรียว ถือง่าย จับง่าย พกสะดวกไม่กินเนื้อที่ ถ้าเป็นน้ำสิงห์ขวดเหลี่ยม กินเนื้อที่ ยี่ห้อสยาม ยี่ห้อเนสเล่ก็ใหญ่ไป Minere นี่แหละ ขวดเพรียวสุดแล้น.......แต่ในปริมาณที่เท่ากันกับยี่ห้ออืนๆ ด้วยนะ ซื้อตามห้าง หรือ ตามร้านซุปเปอร์สโตร์จะได้ราคาถูกกว่าขวดเดี่ยวๆ หรือ ถ้าแวะตาม 7Eleven ก็บอกให้พนักงานไปหยิบมาจากหลังร้าน แบบแพ็คจะแพ็คสะดวก แล้วใส่ถุงก๊อบแก๊บใหญ่อย่างน้อยสองชั้น ผูกปากถุงให้แน่น เพราะเวลาขวดน้ำอยู่บนเครื่องความดันจะทำให้ลมออกจากขวด มีน้ำซึมออกมาบ้างจากบางขวด.......ไม่ถึงกับขวดแตก หรือ ไหลออกมานะ แต่จะแค่ซึมๆ คุณ จขกท. ไป 2-3 วัน ก็เอาแพ็ค 1 โหลไป 1 แพ็คเลย ไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำหนักถ้าบินกับการบินไทย เกินมาแค่ไม่กี่กิโล หยวนๆ อยู่แล้นนน  ขากลับก็ไม่หนักส่วนนี้ เพราะดื่มหมด........ มีเพื่อนเราบางคนทั้งไทย ทั้งฝรั่ง หาว่าเราขนมากเวลาเดินทาง ขนแม้กระทั่งน้ำดื่ม.......แต่เราไม่แคร์นะ ถ้าประหยัดเงินได้ และ เพราะเราไม่ได้แบกของทั้งหมดออกไปเที่ยวด้วย ของมันมากับเครื่องบิน และ เวลาเราออกไปข้างนอก มันก็รอเราอยู่ที่โรงแรม ส่วนอันไหน ใช้หมดแล้วบริโภคแล้วก็หมดกันไป ไม่จำเป็นต้อง Travel Light.... "จากคุณ Siamese Girl 10 มิ.ย. 51" ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ FYI & best wishes.       แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 18:22:59 จากคุณ : คนกรุงเทพฯ บ้านอยู่เมืองไทย (Siamese Girl) - [ 3 ก.ค. 51 18:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ฝากของใคร และไม่รับฝากค่ะิ ตัวเองไปไหนยังไม่ขนเองเลยค่ะ ถ้าเป็นเงินก็จะโอนเข้าธนาคารให้ ไปเมืองไทยก็ำไม่ขนไป นอกจากของฝากที่บ้านและเพื่อนเล็กๆน้อยๆที่ชิ้นไม่ใหญ่ และน้ำหนักไม่มาก ขากลับก็ไม่หิ้ว ไปเที่ยวที่อื่นยิ่งไม่ขน แต่คิดว่าก่อนจะรับของฝากคุณควรจะรู้ว่ามีอะไร คุ้มไหมที่จะแบกไป และถ้าเป็นคุณเราคงทิ้งไปแล้ว หรือส่งให้เก็บเงินปลายทาง ดูซิว่าหลานของรุ่นพี่ของคุณจะรับไหม คิดว่าเขารู้แล้วค่ะว่าเป็นของที่ไม่มีค่า ไม่คุ้มค่าตั๋วรถไฟที่จะมาเบอร์ลิน ถ้าเป็นทองสักบาทสองบาทเขาคงมาค่ะ ไม่ใช่ไม่มีเวลา ไม่ว่าง อยากทราบว่ารุ่นพี่ของคุณเขาว่ายังไง จากคุณ : frechdachs - [ 3 ก.ค. 51 19:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นผม ไม่รับฝากตั้งแต่ทีแรกแล้วแหละ ตั้ง 6.5 กิโล... สัมภาระผมเยอะ..... อีกอย่างนึงไม่อยากเอาของเค้าไปทิ้งที่สนามบินตอนรู้ว่าน้ำหนักเกิน... จากคุณ : Fiattario (fiattario) - [ 3 ก.ค. 51 19:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โห ถ้าเป็นอิชั้นคงทิ้งของไปแล้วค่ะ เวลากลับเมืองไทยที เราจะบอกแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น หรือถ้ารับก็แค่คนละชิ้น เคยมีนะคะเวลาไปต่างประเทศ เพื่อนฝากซื้อของแต่ไม่ฝากเงินมา ดูซิดู จากคุณ : ศรีธนา - [ 3 ก.ค. 51 19:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ้าว นี่มันอุทาหรณ์ ของคนรับฝากนิ  ไม่ใช่ของคนฝาก โถ่ นึกว่าจะมีอะไรเด็ดๆ แก้เข็ดคนฝากมั่ง ปกติ ขนาดนี้ ถ้าจะให้ส่งให้ ต้องออกค่าใช้จ่ายมาด้วย ทำไมไม่เมลไปคุยกับ คนฝากมั่งอะ ว่ามันเป็นงี้ๆ จากคุณ : Adore - [ 3 ก.ค. 51 19:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เคยฝากใครซื้อของ แล้วก็ไม่อยากรับของฝากจากใครนอกจากแม่และญาติสนิท ก่อนรับของใครมา จขกท ต้องดูก่อนนะคะ ว่าข้างในเป็นอะไร เผื่อเป็นพวกยาเสพติตย์ ตอนเช็คอินถ้าใครน้ำหนักกระเป๋าเกินแล้วมาขอเเชร์น้ำหนักกระเป๋า ก็อย่านะคะ อย่างที่ข้างบนบอกมาถูกต้องค่ะ น้ำดื่มควรจะซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตนะคะ จะถูกว่าซื้อตามร้าน ขวดบางอย่างคืนได้ บางอย่างคืนไม่ได้ แล้วแต่ค่ะ น้ำดื่มเยอรมันดื่มได้นะคะ คนที่นี่พกน้ำเป็นขวด 1-1.5 ลิตรกันทั้งนั้น เราก็พกค่ะ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ตอนมาอยู่ใหม่ใหม่รู้สึกว่ามันหนัก ไม่เหมือนบ้านเรา หิวก็ซื้อเอาข้างทาง ไปทำงาน กระเป๋าสะพายเล็กเล็กนี่หมดหวัง พกน้ำก็เต็มเเล้ว เทคเเค์นะคะ จากคุณ : mayistheone - [ 3 ก.ค. 51 20:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น่าจะเปิดดูของก่อนรับฝากนะคะ ดิฉันว่ามันอันตรายนะ ถ้าคุณไม่รู้ว่าของที่คุณรับฝากขนเป็นอะไร ส่วนดิฉันไม่รับตั้งแต่เห็นว่า ของฝากน้ำหนัก 6.5 กิโลกรัม แล้วค่ะ จากคุณ : AJGensburg - [ 3 ก.ค. 51 20:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคุณ Siamese Girl ตอนแรกอ่านแล้วตกใจว่าเป็นอุทาหรณ์เจอของฝากเป็นยาเสพติดเข้าไป ยังโชคดีที่ไม่ใช่ของผิด กม คราวหน้าอย่าใจดีแบบนี้อีกเลย น่ากลัว จากคุณ : yuy - [ 3 ก.ค. 51 21:12:32 A:124.121.16.192 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บริการดีอย่างงี้ ต่อไปเดินทางไปไหน บอกด้วยนะครับ จะได้เตรียมตัวแต่ เนิ่น ๆ จากคุณ : เก่ายูเค - [ 3 ก.ค. 51 21:44:00 A:10.7.160.41 X:38.99.105.248 TicketID:174341 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ในเคสนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า... คนไทยมักเกรงใจกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องบางครั้ง การปฏิเสธคนอื่น จึงดูเสมือนกำลังทำร้ายน้ำใจซึ่งกันและกัน บางคนอาจจะเกรงว่า เดี๋ยวเพื่อนไม่คบ ก็มี หรือ...หากไม่รับฝากเดี๋ยวเขาจะว่าเราใจแคบ ไม่มีน้ำใจ แต่หากมีเพื่อนและญาติของเพื่อนไม่เกรงใจเราแบบนี้ ... ทำไมเราต้องรักษาน้ำใจเขาก็ไม่รู้ ?? เอ๊ะ...หรือ เรื่องแบบนี้มันต้องเรียนรู้กันก่อน ถึงจะเลิกคบ ?! ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไม่คบไปอีก 7 ชั่วโคตร....ในเคสนี้ ก็เขาเป็นญาติกันเน๊าะ คนฝากกับกาฝาก เอ๊ย...คนรับของฝาก ไม่มีความเกรงใจพอกันเลย และยังไม่มีความรับผิดชอบอีก คราวหน้าคุณเองต้องระวังตัวให้มากกว่านี้นะคะ เพราะมันเป็นผลเสียกับคุณคนเดียวเลยจริงๆค่ะ คุณโชคดีมากแล้วที่ไม่มีปัญหาเรื่องอื่นๆในการเดินทาง นอกจากเรื่องรำคาญใจ จากคนไม่มีความเกรงใจเท่านั้น หากเป็นเคสของผิดกฎหมาย หรือ อื่นๆ...เห็นทีจะไม่สนุกแน่ จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง - [ 3 ก.ค. 51 22:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหยยย จขกท  ดีนะที่มันไม่ใช่สิ่งผิดกฏหมายอ่ะค่ะ ไอ่เด็กเวงนั่น น่าตรบจริงๆ เค้าขนมาให้ ยังไม่มีปัญญามารับ  งานนี้ คุณควรเลิกเกรงใจคนที่ฝากคุณ เค้าโกหกคุณตั้งแต่แรกแล้วนี่ เรื่องที่เด็กนั่นจะมารับของเองอ่ะ   อยากส่งของไปให้น้อง  เพราะสงสารน้องที่ต้องซื้อของแพง  ฝากเพื่อนไปแหละดี ไม่เสีนค่าฝาก ไม่เสียอะไรเลยสักอย่าง   แล้วอย่างน้อยพูดให้เค้าสำนึกเรื่องที่มันเป็นภาระกับคุณอย่างมากด้วยนะคะ อย่าไปเกรงใจ  เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดนะ จากคุณ : Gigolina - [ 3 ก.ค. 51 23:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านคห 2 แล้ว   รู้เลยว่า จขกท เป็นคนมองโลกในแง่ดี " อยากจะฝากว่า ไม่ใช่เห็นใครจะไป ก็ฝาก ๆ แม้กระทั่งฝากซื้อของ ยิ่งคนไปทำธุระไปทำงานด้วย หาเวลาทำให้ได้ยากมากค่ะ" จขกท เอาตรงนี้ไปบอกคนฝากของด้วยนะคะ  ไม่ต้องไปเกรงจง เกรงใจอะไรเค้าแล้ว  เพราะเค้าไม่เกรงใจคุณเลยสักนิด จากคุณ : Gigolina - [ 3 ก.ค. 51 23:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาแชร์ประสบการณ์ด้วยคนค่ะ แต่ขอบอกคุณเจ้าของกระทู้เลยว่า กล้าหาญมาก ที่รับฝากของโดยไม่เปิดดู อันตรายนะคะ คนกันเองนี่หล่ะ ทำกันมาแล้ว ทีหลังอย่าทามมมมมม น้า เล่าของตัวเองมั่ง ตอนที่มาอยู่ทีต่างประเทศนี่ใหม่ๆ ไม่กี่เดือน ได้มีโอกาส ทำงานร้านอาหารไทย รู้จักกับคนไทยที่นี่ แล้วก็พอดีเหมือนกัน ได้โอกาสกลับเมืองไทย โดยที่ตั้งใจว่าจะกลับไปเยี่ยมที่บ้านเฉยๆ เพราะเพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่เดือน กระเป๋าขากลับเมืองไทยก็เลยว่าง เพราะเสื้อผ้า สัมภาระ ยังมีอยู่ที่บ้านเมืองไทยเยอะประมาณนึง น้องเชพที่ร้านอาหาร รวมถึง เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงานร้านอาหารไทย คนอื่นก็ฝากเหมือนกัน อะ ไม่เป็นไร ฝากก็ฝาก กระเป๋าขาไปเราว่างอยู่แล้ว ของฝากก็มีตั้งแต่ กระเป๋าสะพาย ไปจนถึง เงิน และ ที่หนักที่สุด นี่เลย น้องเชพ ฝากหนังสือทำอาหารแบบ Text Book ล้วนๆ (ครือว่าน้องเค้าเรียนจบ วิศวฯ แต่ผันตัวเองมาเป็น เชฟอ่ะฮ่ะ ) น้ำหนักร่วม 10 กิโล น้องให้ที่อยู่เสร็จสรรพ บอกพี่ครับพอถึงแล้ว รบกวน EMS ส่งให้ที่บ้านหน่อย ไม่ฝากเงินค่าส่งด้วยนะ เพราะน้ำหนักร่วม 10 กิโลกว่าๆ นี่ค่าส่ง EMS ถึงแม้จะเป็นเงินไทยก็น่าจะราวๆ 500 บาทได้มั้ง อะไม่เป็นไร ออกให้ก่อนก็ได้ ตอนนั้นยอมรับว่าเห็นหนังสือแล้วก็ตะลึง ตึง ตึง !! เหมือนกันนะ แล้วอย่างที่หลายท่านว่าก็จริง นิสัยเกรงใจ อะนะ คนไทย ช่วยๆกัน แต่ก็ยังมีอ้อมแอ้ม กลับไปว่า ถ้าพี่ไม่มีเวลาไปส่ง รบกวนให้ที่บ้านน้องมารับหนังสือเองแล้วกัน สรุป ขนกลับไปให้เค้า พอกลับไปถึงเมืองไทย ยังไม่ทันเข้าวันที่สอง แม่เราบอกว่า มีคนโทรมาหา เป็นคนที่บ้านน้องเชพอ่ะแหล่ะ โทรมาถาม ไหนละหนังสือ ลูกชายโทรมาบอกว่าส่งหนังสือมาให้ ตอนนั้นไม่ได้นึกอะไรมาก บอกแม่ อะ ถ้าเค้าโทรมาอีกตอนหนูไม่อยู่นะ บอกให้เค้ามารับเอง เพราะมันก็ไม่ไกลกันเท่าไร (บ้านเราอยู่บางกะปิ บ้านเค้าอยู่สุขาภิบาล 2) ตอนนี้เรายุ่ง ยังไม่มีเวลาไปไปรษณีย์ให้ ปรากฏว่า แม่บอกว่าเค้าโทรมาอีก บอกว่า ไม่สามารถมารับได้ ที่บ้านไม่มีเด็กเลย มีแต่คนแก่ เดินทางไม่ได้ ให้ส่งไปให้ด้วย พี่ชายต้องใช้ (อ้าว แล้วบอกไม่มีเด็กไง) เลยชักโมโห อ้าว ที่ถือมาให้ฟรีแล้วนี่ ยังต้องบริการเสริ์ฟถึงที่อีกหรือ เลยต้องฝากแม่บอกกลับไปอีกว่า ถ้าเค้าโทรมานะ บอกเลยว่าคนที่บ้านนี่ ก็ แก่ๆ กันหมดแล้วเหมือนกัน ไอ้คนที่หิ้วมาให้นี่ยังพอมีแรง แต่ก็มีธุระต้องทำ แล้วที่หิ้วมาให้นี่ก็ไม่ได้คิดเงินอะไรด้วย ถือว่าช่วยๆกัน (แล้วเป็นไง) ถ้าไม่มารับเองตอนนี้ ก็จะจัดส่งให้ แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นวันไหน ตอนไหนเหมือนกัน ไม่สามารถการันตีได้ ตอนนั้นเริ่มฉุน สุดท้าย ญาติน้องเชฟส่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมารับของเอง หมดภาระไป คิดได้เลยว่า ไม่เอาแล้ว เซ็งมาก เพราะ เราต้องมาจัดการภาระต่างๆ เยอะแยะ อย่างเรื่องเงินที่ฝาก ก็ต้องคอยนั่งดูเรท อัตราแลกเปลี่ยน ว่า วันไหนต่ำ แลกไม่ได้ วันไหนสูง วันไหนคนฝากจะพอใจ ทั้งที่ไม่ได้อะไรกับเค้าเลย ถ้าดันเจือกไปแลกวันอัตราแลกเปลี่ยนต่ำ ก็เกรงใจ กลัวเค้าจะว่าให้อีก จริงๆแหล่ะ นิสัยคนไทย ขี้เกรงใจ ออกแนวช่วยเหลือเกื้อกูล ฝากข้าวฝากของ แต่สำหรับเรานะ เพราะเราเกรงใจ เราเลือกไม่รบกวนใครดีกว่า ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเราจัดการเอง ขอให้ที่บ้านส่ง ไปรษณีย์ มาให้ ยอมเสียสตางค์ไม่กี่บาท ดีกว่า รบกวนคนอื่น เค้าก็มีภาระ ธุระปะปัง ต้องทำเหมือนกัน เฮ้อ จากคุณ : ความเห็นนี้เป็นของเรา - [ 4 ก.ค. 51 01:54:25 A:81.155.146.90 X: TicketID:128466 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เคยรับฝากค่ะ  แต่ไม่คิดเลยว่า เค้าจะฝากมาเป็นกระเป๋าเดินทาง (เล็ก) น่ะค่ะ  แหม ชีเล่นฝากเป็นกระเป๋า เลย หน้าดาน (เติมไม้โทเอง) มากค่ะ  อะไรวะ  พอเห็นของแล้ว อึ้งค่ะ  ทำไม ไม่มีความเกรงใจกันมั่ง ไอ้เรา ก็ แกะ ดู เออ หมูหวาน กิโลหนึ่ง ห่ออย่างดี  ตัวกรูเอง ยังไม่เคยเอาผลิตภัณฑ์หมูเยอะขนาดนี้เข้าประเทศเลยนะ  อ้าว มีไรอีก กรีนนัท (ถั่ว ) โก๋แก่  มารูโจ้ รสไก่ เห็นของแล้วโมโหมาก กรู แจกน้องที่หอ หมดเลย   ยังไม่หมด บินมาได้ครึ่งทาง มาทรานซิท  โอย แบกกระเป๋ามา หนักชิบ โอย กรูจะเอาอะไรออกอีกวะ  แกะอีก  ปลาหมึกเส้นค่ะ โมโห  ฝากอะไรไม่ฝาก  อะไรวะ ฝากไรไม่เกรงใจคนอื่น แฟนมันไม่ได้อดอยากขนาดนี้นะ (เค้าฝากให้แฟน)  เราก็ เอาออกมาแกะกินเลย (โมโห)  ไอ้ปลายทางน่ะ ไม่ต้องกินมันแล้ว โมโห เว้ย   เหลือ แต่หมู หนึ่ง กก น่ะ กับคุกกี้ แล้วก็ขนมเปี๊ย กับขนมไหว้พระจันทร์ หลังจากนั้น กลับเมืองไทยอีก ไม่เคยบอกมันลย ว่า ตอนนี้ชั้นอยู่เมืองไทยนะ ( กลัวมันฝากของให้แฟนอีก ) จากคุณ : Freedom of Life - [ 4 ก.ค. 51 02:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ใครรู้จักกัน จะต้องรู้อยู่สองเรื่องว่าไม่รับหิ้วของให้ใคร ไม่รับฝากอะไรทั้งสิ้น และห้ามยืมเงิน ของตัวเองยังไม่ขนเลยเดินขึ้นเครื่องตัวเปล่า มีแค่กระเป๋าถือสำหรับใส่ของกินเล่น น้ำดื่ม พวกครีมทาหน้า จากคุณ : Gisele - [ 4 ก.ค. 51 03:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ใครจะหาว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่ว่ามันเป็นสิทธิของเรา ผมจะถือให้เฉพาะคนในครอบครัวเท่าั้นั้น! ถ้าเป็นคนอื่นนี่จะมีก็ของที่เราอยากจะเอาไปฝาก เดี๋ยวนี้ผมใช้วิธีไม่บอกใครครับว่าจะไปจะกลับเมื่อไร สำหรับเพื่อนถึงเมืองไทยแล้วค่อยโทรบอกว่าเฮ้ยกรูอยู่เมืองไทยแล้วนะ ไม่งั้นจะต้องมีคนอยากได้iphoneพอดีเลย หรืออะไรแบบนี้ เรื่องน้ำดื่มนี่แล้วแตใครจะคิด แต่ผมอดที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวไม่ได้ เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนเดินทางไปต่างประเทศแล้วเอาน้ำไปแพ๊คๆด้วย มันแพงกว่าก็จริงนะครับ แต่สมมติว่าแพคนึงกินได้ห้าวันคงประหยัดไปได้ประมาณ 20 ยูโร ผมว่ามันไม่ได้มากอะไรเมื่อเทียบกับเวลาซื้อกระเป๋าใบเป็นหมื่นๆ 20 ยูโรนี่ผมว่าซื้อลิปสติกได้แท่งกว่าๆเองมั้ง ผมว่ามันไม่เห็นจะคุ้มกับน้ำหนักที่ต้องแบกเลยนะครับ (ต้องมีคนมาด่าแหงเลย แต่มันอดจะพูดไม่ได้อ่ะ) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 04:14:53 จากคุณ : gboy74 - [ 4 ก.ค. 51 04:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ : Freedom of Life อ่านแล้วสะใจดี ฝากของกิน ต้องเอาไปกินเสียให้หมด แต่ฝากหนังสือหนักๆไปนี่ แย่หน่อย กินไม่ได้ ดีแล้วเจ้าข้างบน ที่ไม่แถมบริการส่งให้ อยากได้ให้มาเอาเอง น่าจะบอกแถมไปนะว่าวางรออยู่ แถมมีหมาที่ชอบแทะหนังสือจ้องอยู่ด้วย อย่างนี้ต่อไปคงเข็ดกันไปหมด ไม่กล้าฝากไรไปอีก ดีเลย หมดรำคาญไป จากคุณ : PatPDX - [ 4 ก.ค. 51 04:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 51 12:31:09 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 51 12:29:45 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 05:52:32 จากคุณ : janisa - [ 4 ก.ค. 51 05:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33   คห. 30  "เรื่องน้ำดื่มนี่แล้วแต่ใครจะคิด แต่ผมอดที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวไม่ได้ เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนเดินทางไปต่างประเทศแล้วเอาน้ำไปแพ๊คๆด้วย มันแพงกว่าก็จริงนะครับ แต่สมมติว่าแพคนึงกินได้ห้าวันคงประหยัดไปได้ประมาณ 20 ยูโร ผมว่ามันไม่ได้มากอะไรเมื่อเทียบกับเวลาซื้อกระเป๋าใบเป็นหมื่นๆ 20 ยูโรนี่ผมว่าซื้อลิปสติกได้แท่งกว่าๆเองมั้ง ผมว่ามันไม่เห็นจะคุ้มกับน้ำหนักที่ต้องแบกเลยนะครับ (ต้องมีคนมาด่าแหงเลย แต่มันอดจะพูดไม่ได้อ่ะ) " ^^ ^^ เรียนคุณ คห. 30 ดิฉันเองค่ะ คห. 15 ข้างบน คนที่เล่าว่า ขนน้ำไปเมืองนอกด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปพม่า ลาว สิงคโปร์ อินเดีย แอฟริกา ละตินอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย ไปไหน ขนไปหมดค่ะ ที่จริง ไม่ได้แบกไปนะ เพราะกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มีล้อลาก ไปถึงสนามบิน ก็เอากระเป๋าโหลดลงเครื่อง ไม่ได้แบกไปค่ะ พอไปถึงโรงแรมก็เอาน้ำออกมาเรียง......ดื่มน้ำบ่อย ดื่มน้ำมากๆ ดีต่อร่างกายค่ะ โดยเฉพาะเวลาบินนานๆ ลงมาแล้วจะกระหายน้ำมาก ถึงแม้ว่าตอนอยู่บนเครื่องจะดื่มน้ำมากก็ตาม เรื่องน้ำหนักเกิน......คือ ที่บ้านเป็นลูกค้าการบินไทยค่ะ และ มีบัตร ROP ชนิดบัตรทองของกลุ่ม Star Alliance เวลาไปยุโรป นั่งชั้นธุรกิจ (ฟรีค่ะ ไม่ได้จ่ายเงินเอง หรือ แลกไมล์เอา แต่ถ้าต้องจ่ายเอง ก็นั่งชั้นประหยัดนั่นแหละค่ะ ) เพราะฉนั้นเรื่องน้ำหนักไม่เป็นปัญหา หรือ ไปไหนๆ ใกล้ๆ นั่งชั้นประหยัดก็ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก บัตรทองการบินไทยได้น้ำหนักเพิ่มจากปกติ 20 กิโล บัตรเงินได้ 10 กิโลค่ะ อนึ่ง เงินจำนวน 20 ยูโรที่คุณว่าไม่มากนั้น แต่สำหรับดิฉันแล้ว ดิฉันถือว่ามากค่ะ เพราะเอาเงินที่ประหยัดได้นั้น มาซื้อกาแฟดีๆ ดื่มได้หลายถ้วย หรือ ซื้อน้ำผลไม้อร่อยๆ ได้หลายขวด หรือ ได้ค่าอาหารดีๆ สำหรับ 1 คนอีกมื้อนึงเลยค่ะ และ เงิน 20 ยูโรที่คุณว่าไม่มากนี้ นี้ ในหลายๆ ประเทศในโลกนี้ เงินจำนวนนี้ถือเป็นรายได้ทั้งเดือน ของครอบครัวหนึ่งได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจีน เขมร หรือ แอฟริกาใต้ ดิฉันชอบใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่าของเงิน เพราะถูกสอนมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ อยู่เมืองไทยดิฉัน พกเหรียญสลึง เหรียห้าสิบสตางค์ด้วยค่ะ เพราะเวลาไปซื้อของ หรือ จ่ายค่าบริการต่างๆ หลายๆ ที่เขาชอบปัดเศษขึ้น อ้างว่าไม่มีทอน แต่ดิฉันมีให้พอดีค่ะ     หรือ บางที่มุมมิบไม่ทอน แต่ดิฉันทวงค่ะ สลึงเดียวก็ทวง เพราะมันเป็นของๆ เรา ปล. เรื่องที่คุณว่า ซื้อกระเป๋าใบละเป็นหมื่น....ถ้าพูดถึงซื้อของแบรนด์เนม แบบนั้นดิฉันไม่มี และ ไม่นิยมค่ะ......ขอโทษ โปรดอภัย ไม่ได้เข้ามาด่า และ ไม่ได้เข้ามาโอ้อวดนะคะ....แต่มาชี้แจง และ ขยายความให้ฟัง ไขข้อสงสัย พร้อมเหตุผลประกอบ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพค่ะ Best wishes.       แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 09:21:00 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 09:18:52 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 09:16:45 จากคุณ : คนกรุงเทพฯ บ้านอยู่เมืองไทย (Siamese Girl) - [ 4 ก.ค. 51 09:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตลก คห.28 อ่ะ 55555555555555 ความคิดดีเข้าท่านะ แกะของมาแจกเด็กๆ จากคุณ : clubspanky - [ 4 ก.ค. 51 10:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เราเห็นด้วยนะคะ ว่าคุณควรดูของฝากก่อนว่า เป็นอะไร เผื่อเป็นของต้องห้าม แล้วถ้ารู้ว่าเป็นอะไร แล้วน้ำหนักเกิน เราจะโทร.แจ้งคนฝาก มารับของคืนที่สนามบินเอง (ไม่ขนไปให้หรอก) คนรับก็ไม่มีมารยาทเลย ถ้าเจอหน้า เราคงเอาไม้ฟาดกะบาลแหละ พูดจามะนาวไม่มีน้ำแบบนี้ ใช้ไม่ได้เลย!! เรารึต้องตกระกำลำบากเพราะของฝากของตัวเอง ห่วยแตกทั้งคนฝาก คนรับเลยคะ ขอแสดงความเห็นใจกับคุณเจ้าของกระทู้ด้วยคะ จู่ ๆ ความซวยก็ตกใส่ แถมยังต้องมีปัญหากับแฟน ด้วยเรื่องไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลย จากคุณ : วิหคลม - [ 4 ก.ค. 51 10:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณคห.33 ครับ อย่างที่ผมบอกแหละครับว่ามันเป็นมุมมองของผม ต่างคนต่างมีเหตุผล เอาเป็นว่าเข้าใจแหละครับ ผมเป็นคนไม่ชอบเดินทางด้วยกระเป๋าใบใหญ่ๆ หอบอะไรมากมาย อย่างในยุโรปบางทีต้องนั่งรถไฟบ้างมันสะดวกกว่าที่จะใช้กระเป๋าขนาดเหมาะๆที่จะลากไปมา ผมเลือกที่จะลากแบบเบาๆหน่อยมากกว่า เวลาเดินทางผมเดินทางด้วยชั้นธุรกิจตลอดครับ ไม่มีบริษัทไหนมาจ่ายให้ แต่ว่าชอบสบายครับ อันนี้ก็ไม่ได้มาโอ้อวดนะครับ เพียงแต่อยากให้รู้ว่าในมุมมองของผมว่าไม่เห็นน่าจะต้องแบกน้ำเนี่ย ผมก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักกระเป๋าจะเกิน จากคุณ : gboy74 - [ 4 ก.ค. 51 11:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ว๊าย แล้วนี่จะทำไงดี ดันส่งของกลับมาในคอนเทนเนอร์ของบริษัท บอกตามตรง ที่ไม่คิดจะแกะค้นดู เพราะไว้ใจรุ่นพี่คนนี้แหละค่ะ แต่อีตาหลานเค้านี่เราไม่รู้จัก และ ที่แอบ ๆ ดูนี่ ก็ดูแค่ผ่าน ๆ ไม่ได้ รื้อข้างในถุงดูเลย นึกขึ้นมาได้อีกอย่างเดียว คือ มีหัวไช้โป๊หั่นฝอยอีก ถุง ใหญ่ ทีนี้ใคร ๆ พูดถึงเรื่องยาเสพติด ตาย ๆ ๆ ๆ ถ้ามีนี่ตรูซวยเลย ไม่น่าเล้ย แฟนด่าแน่ ถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาล่ะก็ จากคุณ : จขกท - [ 4 ก.ค. 51 14:34:57 A:202.176.88.198 X: TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอลบข้อความซ้ำค่ะ กดทีเดียวได้มาสอง แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 17:44:20 จากคุณ : ศิริกัลยา (YUCCA) - [ 4 ก.ค. 51 15:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 นึกถึงเรื่องคนญี่ปุ่นที่ติดคุกที่ฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือผ่านสื่อ เพราะติดคุกข้อหาขนเฮโรอีน ก็สาเหตุจากรับของเเล้วไม่ได้เปิดดูว่าเป็นอะไรตอนขึ้นเครื่อง จับยัดเข้ากระเป๋าเดินทางทันที อนาคตดับไม่ได้โผล่เชียวค่ะ ไม่ได้ขู่เเต่เรื่องจริง.. จากคุณ : ศิริกัลยา (YUCCA) - [ 4 ก.ค. 51 15:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 นอนไม่หลับไปเลย เป็นอะไรที่เซ็ง ตั้งแต่วันที่ไป จนกลับมาไอ้ของถุงนั้น ก็ยังทำให้กลุ้มอีก นี่ก็ติดต่อทางโน้นไปแล้ว ว่า ถ้ายังไม่ได้ปิดตู้คอนฯ ก็ใช้ช่วยเอาไอ้ถุงสีขาว ๆ ที่ใส่อยู่ในถุงส้ม ๆ ( ถุงขาวใหญ่ คือเค้าฝากมา เยินมาก จนต้องไปซื้อถุงสีส้มในซุปเปอร์ฯ แบบผ้ากระสอบ ใส่ให้เค้าอีกที มีหูหิ้วให้เรียบร้อย) ให้เอาทิ้งไปเลย ไม่ต้องใส่มากับตู้ ไม่รู้จะทันหรือเปล่า แต่อาจไม่ทันแล้ว รอเมล์เค้าตอบกลับมาอยู่เหมือนกัน ------------ เ ซ็ ง จั ด ----------- ส่วนเรื่องน้ำดื่ม แบบว่า ที่พกไป เพราะทุกทีขาไปเราไม่ค่อยมีของอะไร นอกจากเสื้อผ้า ( ไปคราวนี้หน้าร้อน ยิ่งต้องพกไปเยอะ เพราะไม่มีเวลาเข้าร้านซักแบบหยอดเหรียญ จะใช้เสื้อผ้าเปลืองกว่าหน้าหนาว เพราะเปลี่ยนทุกวัน ) อื่น ๆ ก็เน้นพวกของกิน ที่เราต้องการนำไปกินเอง แอบมีหม้อหุงข้าวใบจิ๋ว ด้วย เพราะ หาไก่ย่างแบบหมุน จิ้มน้ำจิ้มไก่แม่ศรีเรือนกิน ติดข้าวค่ะ กินขนมปังไม่ค่อยอยู่ท้อง ผัดหมี่ตามอิมบิส คนจีนก็เค็มอย่างเดียว แล้วก็มีข้าวสารดิบ สองโล ติดไปด้วย มากสุด หนักสุด ก็เป็นน้ำดื่ม ถ้าไปทำงาน 2 อาทิตย์ 2 คน ก็ น้ำดื่ม 1 โหล โออิชิ 1 โหล โค้กแคน 1 โหล อะไรประมาณนี้ ที่เหลือ ก็เป็น ของขวัญ ของฝาก ฝรั่งทางโน้น ซึ่งดีกับเรามาก ๆ ดูแลงาน และ ดูแลเราตลอดทุกครั้งที่ไป ก็เลยเน้นของฝากเป็นอย่างมาก เป็นพวกของที่ระลึกจากเมืองไทย ต่าง ๆ แล้วก็ขนมไทย ๆ เอาไปให้เค้า เยอะมาก ---- ครั้งนี้ เป็นครั้งแรก ที่ต้องรื้อเอาของออกกลางสนามบิน ที่เมืองไทย--- เพราะไม่เคยบินกับสายการบินนี้ จะไปโทษเค้าก็ไม่ถูก เพราะกฏเค้าเป็นแบบนั้น -------------------------------------------------------------------- จริงด้วยนะคะ เลยกลายเป็นอุทาหรณ์ คนชอบรับฝากไปจริงๆ ส่วนคนฝาก ไม่เห็นได้รับบทเรียนอะไรเลย เอาเป็นว่า ใครที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว และชอบมีความคิดฝากของใคไป หรือชอบฝากซื้อ ขอให้นึกถึงปัญหาของคนไปเมืองนอกบ้างก็แล้วกัน อย่าทำกันเลย ..... ขอบคุณทุก ๆ ท่านนะคะ ที่เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ และให้ข้อคิด อะไรหลาย ๆ อย่าง หวังว่า กระทู้นี้ คงมีประโยชน์นะคะ จากคุณ : จขกท - [ 5 ก.ค. 51 12:20:47 A:125.25.39.116 X: TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอรบกวนเล่าอะไรเพิ่มอีก 1 เรื่องค่ะ คิดว่าเป็นประโยชน์ และมุมมองที่ดี -------------------------------------------------------------- คือ ตอนขากลับจากปราก เราแวะเมืองเดรสเดน ก่อนเข้าเบอร์ลิน เพราะเล็งไว้ตั้งแต่ตอนนั่งรถไฟผ่านขาไป อีกทั้งไหน ๆ ก็ไม่ได้ไปคลุมลอฟแล้วด้วย แต่เรามีเวลาไม่มาก แวะดูเมืองนี้ได้แค่ 4-5 ชม ไม่อยากลากกระเป๋าไปด้วย ก็คิดว่า จะฝากกระเป๋าไว้ในล๊อกเกอร์สถานีรถไฟ ปรากฏว่า เป็นแบบหยอดเหรียญ ซึ่งเราไม่เคยฝาก ก็เลยทำไม่เป็น เห็นล็อคเกอร์ข้าง ๆ เป็นผู้ชายนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น กำลังเก็บกระเป๋าอยู่ ก็เลยถามขั้นตอนการหยอดเหรียญกับเค้า ซึ่ง ก็ดีมาก มาช่วยอธิบายพร้อม หยอดเหรียญ ทำให้เราเสร็จสรรพ ( ค่าฝาก 2.50 ยูโร / 24 ชม.) แต่เจ้ากรรม ! หยอดเหรียญไปแล้ว ไขกุญแจตู้เท่าไหร่ ก็ไม่ยอมออก ติดหนึบคาตู้ ช่วยกันสักพัก ญี่ปุ่นก็บ่น ... อิท คาปุส .. ( มันเสีย ) หน้าพวกเราก็เสีย ...... หน้าญี่ปุ่นที่ช่วย ก็เสีย...... ทีนี้ทำไงดี ภาษาเยอรมันเราก็ไม่ได้ ภาษาอังกฤษ คนเยอรมันก็ไม่ถนัด ชายคนนี้ เลยช่วยเป็นธุระ ทิ้งตู้ของตัวเอง ที่ข้าวของยังอยู่เต็ม และยังไม่ได้ปิดตู้เลย ให้เราเฝ้าไว้ แล้วตัวเค้า กับแฟนเรา ก็ไปตามหาเจ้าหน้าที่ให้ มาช่วยดู เห็นแฟนเล่าว่า ต้องไปติดต่อหลายที่มาก กว่าจะได้เจอคนที่ เกี่ยวข้อง มาช่วย ตลอดเวลา ... ด้วยความเกรงใจ แฟนก็พร่ำแต่ขอโทษ ที่ทำให้เค้าเสียเวลา เพราะใส่สูท ผูกไท แบบนี้ คงต้องมาทำงานแน่ ๆ สุดท้ายเค้าบอกว่า ยังไงทราบไม๊คะ...... สุดยอด...แห่งสปิริต ..คนญี่ปุ่น " คุณไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ เพราะผมต้องทำอะไรผิดพลาดแน่ กุญแจเลยไขไม่ออก มันเป็นความผิดของผม ผมต้องแก้ไข " ใครจะว่ายังไงก็ช่าง...... แต่ก็ทำให้เราคิดได้ว่า .... มิน่า ประเทศเค้าถึงได้เจริญ เจริญ และ เจริญ เนื่องจากมีคนที่มีสปิริตแบบนี้ นี่เอง . จากคุณ : จขกท - [ 5 ก.ค. 51 12:34:58 A:125.25.39.116 X: TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาอีกรอบ เรื่องน้ำดื่ม อิอิ อยากชี้แจงว่าน้ำดื่มที่ยุโรปไม่ได้แพงมาอย่างที่คิดนะคะ เพียงแต่ว่าต้องรู้ที่ซื้อเท่านั้น อย่างซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ต ALDI REWE ราคาน้ำดื่มจะเริ่้มต้นที่ 19 เซ็นต์แ่ค่นั้นเอง(อาจจะเเพงขึ้นตามยี่ห้อ) บวกค่าขวดพลาสติกอีก 25 เซ็นต์ประมาณนี้ ดื่มเสร็จก็เอาขวดไปคืน ก็ได้ตังค์คืน แต่ว่าถ้าซื้อตาม Imbiss หรือพวกร้านเเบบ 7-11 บ้านเราที่เค้าแช่เย็นไว้แล้ว ก็ราคาขึ้นไปอีกเป็น 1.50 - 2.00 ยูโร ซึ่งอันนี้เราว่าเเพงอ่ะ โดยปรกติ ถ้าเราไปเที่ยวใหน เราก็จะมีเเบบขวดลิตรติดตัวไปด้วยนะ ไว้ดื่มกลางทาง พอไปถึงที่หมาย แล้วก็อาจจะเดินหาซุปเปอร์มาเก็ตแถวนั้นแล้วค่อยซื้อตุน เพราะว่าบางทีก็เซ็ง หาซุปเปอร์ไม่เจอ หิวน้ำ มีตุนไว้ขวดสองขวดก็ไม่ได้เสียหายอะไร เคยมีอยู่ครั้งที่ลืมซื้อน้ำ พอเข้าโรงแรมแล้วหิวน้ำมาก ร่างกายขาดน้ำ เลยต้องไปซื้อของโรงเเรม คงเป็นน้ำขวดที่เเพงที่สุดในชีวิต เป็นน้ำเปล่าธรรมดา ไม่ใส่ก๊าซ บรรจุในขวดแ้ก้วสวยงาม ราคา่ 7 ยูโร ดื่มเสร็จรีบเอาขวดเก็บไว้เลยค่ะ กลัีวเมดทำความสะอาดเอาไปทิ้งอิอิ แต่ว่าถ้าไปดื่มตามร้านอาหาร อันนี้แพงค่ะ แก้วแบบ 0.2 นี่ก็ราคา 2 ยูโรกว่าเข้าไปเล้ว ส่วนมากพวกร้านอาหารจะมีรายได้จากเครื่ื่องดื่มอยู่แล้ว แต่อย่างว่ะแหล่ะ มาอยู่ที่นี่ อย่าพยายามคูณเป็นเงินไทยเลยค่ะ จากคุณ : mayistheone (mayistheone) - [ 5 ก.ค. 51 15:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากขึ้นเยอะ เรื่องน้ำดื่ม ก็มีประโยชน์มาก เพราะ ไม่เคยไปซื้อตามซุปเปอร์ ก็เลยซื้อแพงอย่างที่บอกไปน่ะค่ะ อีกหน่อย ถ้าไปก็คงจะ ไปซื้อในซุปเปอร์อย่างที่หลายท่านแนะนำมา ดูเหมือนสมัยก่อน จะเคยไปซื้อขวดใหญ่ มาทีนึง แต่ ดันเป็นอัดก๊าซ น่ะค่ะ เลยเข้าใจว่า น้ำดื่มของเค้ามีแต่แบบอัดก๊าซ กัน คราวหน้าไปก็รู้ละ อ่านประสบการณ์ของหลาย ๆ ท่านที่เข้ามาแชร์ด้วยแล้วนี่ บางท่านก็โดนมาสาหัสพอดู น่าเห็นใจพอ ๆ กัน ต้องขอโทษ ที่ไม่ได้ทักทาย มัวแต่เล่า ๆ เรื่องของตัวเอง ที่เจอ พอดีมันกลุ้ม ๆ ด้วยนะคะ --------------------------------------------------------------------- ตอบคุณ คคห 16 เรื่องที่ถามว่า รุ่นพี่เค้าว่ายังไงบ้างกับเรื่องนี้ คือ พี่คนนี้ แกไม่สนใจใฝ่ติดต่อกับใครทางเนต ช่วงที่มีปัญหาก็เลย ไม่คิดเมล์มาหา ( แกไม่ให้ที่อยู่เมล์ไว้ด้วย ) เพราะคิดว่า รุ่นพี่นี่คิดไว้ ว่าจะให้เราส่งแน่ ๆ คงโกหก และ ไม่ได้เป็นอย่างที่บอกว่าหลานจะมารับเอง คือ เราก็แอบโกรธแกอยู่เหมือนกัน เลยไม่คิดจะติดต่อกลับไป พอมาถึงเมืองไทย ก็เล่าปัญหาของเราให้เค้าฟัง มีญาติเค้าอีกคน ตะโกนถามมา เราได้ยินทางโทรศัพท์แว่ว ๆ ว่า ถ้าเค้าไม่ได้ของ แล้วตอนนี้ของอยู่ไหน ! เราได้ยิน ก็เลยบอกไปเลยว่า ฝากส่งมาให้ในคอนเทนเนอร์ของบริษัทแล้ว รุ่นพี่คนนี้ ก็ทำเสียงแบบข่มความรู้สึก ว่า ...อ๋อ ...ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร... แล้วก็หันไปตะโกนบอกกับญาติตัวเองว่า ... ก็นี่ไง เค้าก็ส่งกลับมาในคอนเนอร์ของเค้าให้แล้วไง .... ตรงนี้ คุยกันกับแฟนแล้ว แฟนบอกว่า ถ้าเค้ารู้สึกว่าผิด เค้าจะขอโทษ แต่ถ้าเค้าคิดว่า เราเป็นเบ๊ ทำงานให้เค้าไม่เสร็จ เค้าจะพูดทำนองนี้ล่ะ ว่า ... ไม่เป็นไร... แฟนพูดแม่นมาก ...กกก เราแอบโกรธตัวเองว่า รู้งี้ไม่น่าส่งของกลับใส่มาในตู้คอนเทนเนอร์ให้เลย ขอให้คนจัดตู้ โยนถุงนั้นออกไปเลยเถอะ เล่าแล้วก็เซ็งต่อ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 6 ก.ค. 51 16:12:40 A:125.25.37.96 X: TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านแล้วอยากกระโดดสกายคิกรุ่นพี่คุณจัง ทำตัวน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก หึ หึ หึ.... จากคุณ : CoolDubaiChic - [ 6 ก.ค. 51 18:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สันดานคนแบบนี้ คุณจขกท.เลิกคบไปเลยค่ะ ไร้มารยาทที่สุด แต่คุณก็เป็นคนดีมากเลยค่ะ มีน้ำใจสุด ๆ จากคุณ : Sonnenschein - [ 6 ก.ค. 51 21:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดิฉันนั่งเครื่องบินส่วนตัวตลอดค่ะขนน้ำไปด้วย กินน้ำเสร็จแล้วก็ปัสวะเก็บใส่ถังไว้ น้ำหนักไม่เกินค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 51 11:36:50 จากคุณ : [7th Heaven] - [ 10 ก.ค. 51 11:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านแล้วอึ้งอ่ะค่ะ เหอ เหอ มีคนแบบนี้ด้วยอ่ะ ปล ประทับใจคนญี่ปุ่นเหมือนกันค่ะ จากคุณ : blueschizont - [ 10 ก.ค. 51 17:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อึ้งอย่างแรงค่ะ ทั้งคนที่ฝากของและเจ้าหลานตัวดี แต่ถ้าเป็นเรา... เราก็คงเป็นอย่างคุณแน่เลยค่ะ เราเองก็ขี้เกรงใจ จนโดนแฟนด่าเรื่องนี้ประจำเลย จากคุณ : Lipda - Pilipda - [ 13 ก.ค. 51 00:22:28 ]