PANTIP.COM : H6766745 ถูกปฏิเสธ วีซ่าอังกฤษ []

ความคิดเห็นที่ 12

เราว่าคุณอาจจะทำให้ทางสถานฑูตเคลือบแคลงสงสัยหลายอย่างหรือเปล่า เพราะที่อ่านมาเราคิดว่าคุณมีลูกกับสามีคนอังกฤษแค่คนเดียว แต่ตอนนี้คุณบอกว่ามีลูกจากสามีเก่าอีก 2 คน ที่ทางสถานฑูตปฏิเสธวีซ่าของคุณเพราะคุณยังมีลูกที่ต้องดูแลที่เมืองไทยด้วยหรือเปล่าคะ?

เราเองก็มีลูกติดจากสามีเก่าแต่ว่าตอนที่เราทำเรื่องวีซ่าให้ตัวเราเอง เราจะส่งเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูกๆเราไปให้ทางสถานฑูตดูด้วยว่าเรามีลูกอีก 3 คนทางเมืองไทยซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ Custody ลูกเลย เราพึ่งได้สิทธิดูแลกเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง และทางสถานฑูตก็จะรู้ว่าเรามีลูกติด ตอนที่เราไปขอวีซ่าสมัยนั้นต้องไปทำเองที่สถานฑูต ทางเจ้าหน้าที่ฝรั่งเค้าก็ถามว่าเราจะเอาลูกมาอยู่อังกฤษกับเรามั๊ยถ้ามีโอกาส เราก็บอกว่าแน่นอนเราจะมาพาลูกเราไปอยู่อังกฤษด้วยวันใดวันหนึ่ง แต่ตอนนั้นเรายังทำไม่ได้ คือ เราก็จะพูดความจริงทุกอย่าง ทางเจ้าหน้าที่ฝรั่งถามอะไร เราก็ตอบไปตามชีวิตจริงๆของเราเลย เราไม่เมคอัพอะไรทั้งนั้น

ตอนนั้นคิดว่าได้ไม่ได้ก็ช่างมันวีซ่าหน่ะ เพราะเราเองก็ยังไม่ได้ลาออกจากงานเก่าด้วย ทั้งๆที่แจ้งเจ้านายไว้แล้วว่าถ้าเราได้วีซ่ายูเค เราจะขอลาออกนะ คือเผื่อขาดเผื่อเหลือหน่ะ ผลสุดท้ายเราก็ได้วีซ่ามาเลยทันทีหลังจากที่เค้าถามคำถามเราเสร็จ คือ เค้าจะเรียกเราไปยืนถามที่เคาท์เตอร์เลยไม่ได้เข้าห้องสัมภาษณ์

และเราก็ขอ settlement visa ด้วย ไม่ใช่ท่องเที่ยว เพราะเราแต่งงานกับสามีปัจจุบันที่เมืองไทยและสามีเราก็บินกลับมาก่อนประมาณ 1 เดือน ในระหว่างที่เขาอยู่เมืองไทยเขาก็เตรียมเอกสารของเขามาด้วยเพื่อให้เราได้ยื่นเอกสารหลังแต่งงานเสร็จ เราก็ใช้เวลารอประมาณ 2 อาทิตย์ทางสถานฑูตก็ส่ง จม. มาให้เราเอาหลักฐานอื่นๆไปเพิ่มเติมอีก ซึ่งเราก็หอบไปหมดทุกอย่างเป็นกระเป๋าเดินทางลากใบย่อมๆเลย เพราะมีทั้งอัลบั้มรูปถ่ายด้วยหลายอัลบั้มตั้งแต่เป็นแฟนกัน และเอกสารอื่นๆเช่น จดหมายติดต่อกัน อีเมล์ และบทสนทนาบนโปรแกรมแชท เราก็ปริ๊นท์ออกมาหมด เอาไปให้สถานฑูตตามคำขอ

แต่พอไปถึงจริงๆ เขากลับไม่ขอดูอะไรตามที่เขาขอเลย เขาถามคำถามเราเกี่ยวกับแฟนเรา ลูกเรา ถามว่าลูกเราอยู่กับใคร จะเอาลูกไปอังกฤษด้วยมั๊ย และจะเอาไปเมื่อไหร่ ฯลฯ คำถามส่วนตัวทั้งนั้น อย่างที่เราบอกไป พอเขาถามเราเสร็จเขาก็บอกเรามาตรงนั้นเลยว่า ''คุณได้วีซ่าวันนี้แหละ ไปนั่งรอได้'' เรานี้ตกใจมากกว่าดีใจซะอีก เพราะไม่คิดว่ามันจะออกมารูปนี้ เอกสารอะไรที่เขาส่งจดหมายไปขอเราให้เอามาก็ไม่แตะ ไม่ขอดู แถมยังบอกว่าเอกสารเราเยอะมากเกินไปซะอีก และให้ส่วนที่เราส่งไปพร้อมใบสมัครคืนกลับมาด้วย

เราคิดว่าการที่จะไปขอวีซ่ามันขึ้นอยู่กับอะไรหลายๆอย่าง ที่ทั้งตัวเราเองต้องเตรียมและขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ด้วย การพูดคุยที่รื่นหู มีคำอธิบายชัดเจน ไม่ตะกุกตะกักหรือแม้แต่ไม่พยายามสร้างเรื่องอะไรก็แล้วแต่ให้มันยุ่งยาก เพราะคนพวกนี้เค้ามีจิตวิทยาในการถามและเขาจะสังเกตุเราได้จากน้ำเสียงว่าเราพูดจริงหรือโกหก เราไม่ได้ว่าคุณโกหกนะ แต่หมายถึงโดยทั่วๆไป

คุณเองมีลูกกับสามีใหม่อีก 1 คนเราคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรด้วยซ้ำ แต่เราคิดว่าอาจจะเพราะหลักฐานในการซัพพอร์ตคุณและลูกที่อังกฤษอาจจะไม่เพียงพอ และยิ่งสามีคุณเป็นคนขับรถบรรทุกไม่มีเวลาอยู่บ้านกับคุณและลูก ทางเจ้าหน้าที่อาจคิดว่าหากออกวีซ่าให้คุณมาแล้วคุณกับลุกจะอยู่กันยังไง เค้าอาจจะกลัวว่าคุณและลูกไปเป็นภาระให้รัฐบาลหรือเปล่าเวลาที่สามีต้องไปทำงานไกลๆหลายๆวัน คืออะไรมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้นทางความคิดนะ

เราคิดว่าสามีคุณต้องเป็นหลักในการซัพพอร์ตเอกสารให้คุณและลูกมาอยู่/เที่ยวที่อังกฤษ เพราะการขอวีซ่ามา ทางสถานฑูตเค้าจะดูคนที่สามารถซัพพอร์ตคุณได้มากกว่าเอกสารของคุณเอง และยังมีเรื่องรองๆลงไปอีกในรายละเอียดอย่างที่เราบอกไว้ข้างบนแล้ว

คุณถูกปฏิเสธมา 2 ครั้งแล้ว เราคิดว่าคุณควรจะรอปีหน้าดีกว่า และให้เวลาสามีคุณเตรียมหลักฐานทางการเงินให้หนักแน่นด้วย เราคิดว่ารายได้ 450-500 ต่ออาทิตย์ไม่น้อยนะ ถ้าเป็นหลังจากหักภาษีแล้ว เพียงแต่ทางสถานฑูตต้องดูเรื่องอื่นๆประกอบกัน อย่าเรื่องที่อยู่อาศัยของสามีคุณด้วยว่าเค้ามีบ้านกี่ห้องนอน มีความพร้อมแค่ไหนที่จะให้คุณและลูกอยู่ได้โดยไม่ลำบาก

คุณลองคิดดูดีๆแล้วกันว่ามีอะไรบ้างที่คุณและสามียังไม่พร้อมทางด้านเอกสารการเงินและพวก accommodation ต่างๆ รวมถึงเรื่องลูกติดจากสามีเก่าอีก คุณต้องมีเอกสารยืนยันหมดทุกเรื่องนะ ว่าลูกติดของคุณอยู่กับใครที่ไหน ใครดูแล ใครเป็นผู้ปกครองตามกฏหมาย ฯลฯ เราขอให้คุณโชคดีในคราวต่อไปนะ เข้มแข็งและพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างรัดกุม

เราเองก็กำลังจะไปทำเรื่องให้ลูกมาอยู่กับเราที่อังกฤษในปีหน้านี้เหมือนกัน เราเห็นใจคุณนะ ขอให้อดทนและสู้ต่อไป

จากคุณ : Mercy@UK - [ 5 ก.ค. 51 18:23:02 ]