ความคิดเห็นที่ 2
สาเหตุที่ไม่เปลี่ยน และไม่สนับสนุนให้ใครเปลี่ยนก็เพราะว่า มันทั้งยุ่งยาก ทั้งเสียเวลา และเสียเงินไม่ใช่น้อยๆ ค่ะ
ยกตัวอย่าง เปลี่ยนนามสกุลจากการแต่งงาน อันนี้ง่ายหน่อยเพราะไม่ต้องมีคำสั่งศาล แต่ก็ต้องเปลี่ยนเอกสารทุกอย่างอาจจะฝั่งเดียว หรือทั้งสองฝั่งก็แล้วแต่ ทีนี้ถ้าหากหย่ากัน ต้องกลับมาใช้นามสกุลเดิม ก่อนอื่นก็ต้องไปเปลี่ยนชื่อในกรีนการ์ดก่อน $290 ค่ะ หรือถ้าเป็นซิติเซ่นไปแล้ว ก็ต้องไปแก้หลักฐานตรงนี้มาก่อน จากนั้นก็ไปเปลี่ยน SSN กับใบขับขี่ ปัจจุบันใบขับขี่ก็ $27 แล้ว (CA) จากนั้นก็ไปเรื่องแบงค์ credit report, 401K, ฯลฯ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณหกเดือนหรืออาจจะนานกว่านั้น ค่าใช้จ่ายที่เห็นๆ ก็สามสี่ร้อยไม่รวมค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา
ถ้าจะลุกขึ้นเปลี่ยนชื่อด้วย อันนี้ต้องพึ่งศาล ต้องเสียค่าทนาย ค่าธรรมเนียมศาล ต้องลงประกาศหนังสือพิมพ์ ฯลฯ จากนั้นพอได้คำสั่งศาลให้เปลี่ยนชื่อได้ ก็ต้องไปตั้งต้นที่ USCIS มาเหมือนกรณีข้างบน ค่าใช้จ่ายก็น่าจะประมาณสองพันหรืออาจจะไม่ถึง แล้วแต่ทนายเรียกเท่าไหร่
คือทำเรื่องให้ชาวบ้านมาเยอะ เห็นความวุ่นวายเรื่องเอกสาร เรื่องชื่อไม่ตรงกัน ฯลฯ แล้วก็เลยบอกพระภูมิที่บ้านว่า อิฉันไม่เปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลใดๆ ทั้งสิ้นนะเจ้าคะ ท่านเองก็มีลูกสาวหลายคนเลยเข้าใจปัญหานี้ดี แถมเวลาใครมาปรึกษายังแนะนำว่าไม่ต้องไปเปลี่ยน... ยุ่ง !!!
อีกเรื่องนึงคือ ในอเมริกาเวลาหย่า ศาลมักจะรวมเรื่องการใช้นามสกุลเอาไว้เลย เช่น ในกรณีที่ภรรยาใช้นามสกุลสามี พอหย่าแล้ว บางรายยังยอมให้ภรรยาใช้นามสกุลตัวต่อไปได้ เช่น มาร์ธา สจ๊วต แต่ส่วนมากถ้าเป็นการหย่าที่ลงเอยแบบ nasty คือโกรธเกลียดกันไปเลย ก็จะระบุชัดเจนว่า ภรรยาต้องเปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลเดิมภายในกี่วัน มีรายนึง ปรากฏว่าฝ่ายหญิงไม่มีเงินจะไปเปลี่ยนอะไรต่ออะไรได้ทันที เลยรอไปก่อน ครบ 90 วัน อดีตสามียื่นฟ้องหาว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเรื่องการใช้นามสกุล... เห็นแล้วอึ้งไปเลยค่ะ
จากคุณ :
Lawanwadee
- [
11 ก.ค. 51 03:33:18
]
|
|
|