Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เหตุการณ์บนรถไฟเยอรมัน-สวิส : แชร์ประสบการณ์+ถามเรื่องเรียกร้องสิทธิ

    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราเดินทางจากเมืองไฟร์บวร์ก เยอรมัน ไปเมืองคันเดอร์ชเตค(แถวๆเบิีร์นที่สวิส)โดยรถไฟ ซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์จากดอยช์บาห์น(บริษัทรถไฟของเยอรมัน)ซึ่งตั๋วออนไลน์นี้ ถ้าเดินทางออกจากเยอรมันไม่ว่าจะต่อรถที่บริษัทรถไฟประเทศอื่นเค้าก้อจะมีคอนเนคชั่นกับบริษัทนั้นๆและค้นหารถไฟสายที่จะไปถึงที่หมายให้เราได้แล้วจ่ายรวมทีเดียวเลย ไม่ต้องซื้อตั๋วแยกเป็นประเทศไป

    ที่นี้เข้าเรื่อง (มันยาวหน่้อยนะคะ ไม่อยากให้ตกหล่น)
    ขาไปคันเดอร์ชเตค ต้องเปลี่ยนรถไฟหนึ่งครั้งที่บาเซล ตั๋วเราถูกเชคบนรถทั้งสองเที่ยวก้อไม่มีปัญหา แต่พอขากลับ บนรถไฟของบริษัท SBB สวิส มีพนักงานมาตรวจตั๋วแล้วทำหน้าซีเรียส นั่งงมดูตั๋วอยู่เป็นนานสองนาน เราก้อถามว่ามีปัญหาอะไรเหรอ เราใช้ตั๋วนี้เดินทางมาจากเยอรมันถูกเช็คมากี่ครั้งก้อผ่านตลอด พนักงานบอกเราว่า เค้าหาโค้ดๆนึงในตั๋วนี้ไม่เจอ

    ว่าแล้วก้อขอดูพาสปอร์ตเราแล้วรีบกดโทรศััพท์ถามคนโน้นคนนี้ใหญ่ เราก้อไม่ว่าไรนะ ไม่ได้ทำผิดนี่ จะทำยังไงก้อเชิญ แต่แล้วอยู่ๆพอรถไฟจอดป้ายระหว่างทาง หล่อนก้อหนีบพาสปอร์ตเราลงรถไฟไปเลย เราก้อตกใจมากเพราะถ้าไม่กลับขึ้นมาบนรถ พาสปอร์ตกับตั๋วเราก้อหายไปเลยสิ เราก้อเดินตามลงไป บอกว่า นี่ๆคุณทำอย่างงี้ไม่ได้นะ คุณมีสิทธิ์อะไรเอาพาสปอร์ตชั้นไป

    ยัยพนักงานก้อไล่ให้เราไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้บอกว่าเธอยังเอาพาสปอร์ตคืนตอนนี้ไม่ได้ เราก้อไม่ยอม ยืนขวางประตูรถไฟไว้จนกว่าหล่อนจะกลับมาขึ้นรถ แล้วพนักงานคนเนี๊ยก้อขึ้นๆลงๆรถอย่างงี้ทุกป้าย ทำเอาเราเวียนหัวมาก (ตอนหลังถึงจะเริ่มรู้ว่าหล่อนต้องออกไป กดปุ่มสัญญาณอะไรซักอย่างทุกสถานีที่รถจอด แล้วก้อต้องกลับขึ้นมาทุกครั้ง แต่เราก้อไม่อยากประมาทเพราะของสำคัญมากๆอยู่กะคนๆนี้)ก้อไม่มาอธิบายหรือคุยกันดีๆเลย

    แล้วหล่อนพูดโทรศัพท์ตลอดเวลา กดหาคนโน้นคนนี้เป็นว่าเล่น มีอยู่ครั้งนึง พูดโทรศัพท์ไปแล้วเอา โค้ดรีดเดอร์มาอ่านตั๋ว(ซึ่งจริงๆแล้วต้องทำตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมไม่ใช้)แล้วคงเป็นเพราะหล่อนเอาตั๋วเราไปขยำไปมาซะัเยิน แล้วพอตอนอ่านตั๋วก้อทุลักทุเ้ล มือนึงถือตั๋ว อีกมือถือโทรศัพท์กะรีดเดอร์ แล้วก้อมือสั่นๆรีัดเดอร์มันก้ออ่านไม่ได้สิ แล้วหล่อนก้อไม่คิดที่จะพยายามอีกเลย เราจะอธิบายลองอีกทีแล้วทำมือนิ่งๆสิ ก้อไม่ฟัง ตั้งข้อสงสัยเราไปเต็มๆแล้ว สุดท้ายก้อโทรเรียกตำรวจให้มาดักรอเราที่สถานีเบิร์น

    พอพูดคำว่าตำรวจเนี่ย คนในรถไฟหันมามองกันเลิ่กลั่ก แล้วมองเราอย่างกะเป็นอาชญากร เราเซ็งมากๆเลยนะ เกิดมาไม่เคยทำผิด เดินทางไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ในยุโรปนี่ก้อใช้รถไฟเดินทางประจำ ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ต้องสงสัยอะไรเลย พอเราเหลืออดก้อเลยบอกว่า นี่ คุณไม่ใช่ตำรวจ คุณไม่มีสิทธิจะยึดพาสปอร์ตของชั้น จะเอาตั๋วก้อเอาไป แล้วหล่อนก้อควักบัตรสีน้ำตาลใบนึงออกมาจากกระเป๋า เป็นบัตรที่ไม่มีอะไรเขียนอยู่แม้แต่คำเดียว มีแต่ที่ว่างๆสีน้ำตาลกะรูป แถมหล่อนเอายังเอานิ้วหัวแม่โป้งเนี่ย ปิดรูปไว้ซะมิด แล้วบอกเราว่า ชั้นนี่แหละตำรวจ(อ้าว แล้วโทรเรียกตำรวจทำไมล่ะ) เราก้อเถียงว่า นี่อะไรน่ะ ไม่้ตลกเลยนะ การ์ดเปล่าๆหน้าก้อไม่ให้ดู ข้อความอะไรก้อไม่มี มันบ่งบอกตรงไหนว่าเป็นตำรวจ หล่อนก้อยึกยัก เถียงอีก ว่านี่แหละบัตรตำรวจ เราเลยบอกว่า ก้อแสดงรูปชัดๆสิ แล้วโชว์ด้านหลังด้วย  แล้วเราก้อจะหยิบกาีร์ดจากมือหล่อนมาดู เวลาเดียวกันหล่อนก้อกระชากบัตรกลับแล้วเก็บเข้ากระเป๋าทันที แล้วบอกว่าพอแล้ว จบแล้ว เราได้แต่อึ้งอ่ะ เหวอมากๆ นี่เหรอพนักงานรถไฟสวิส มีพิรุธซะยิ่งกว่าผู้ต้องสงสัยอีก เราก้อได้แต่มายืนกันอยู่อย่างงั้น มันนั่งไม่ติด เพราะถ้าหล่อนหายไปแปลว่า เรากลายเป็นคนลักลอบเข้าเมืองได้ทันที

    จนกระทั่งรถจอดที่เบิร์น ตำรวจรออยู่สองสามคน พวกเค้าก้อไม่ได้เข้ามาประชิดตัวเรานะ แค่โฟกัสไปที่พนักงานผู้หญิงคนนั้น หล่อนก้ออธิบายนั่นนี่ยกใหญ่ ไอ้เราภาษาเยอรมันก้อไม่ได้เก่งขนาดจะฟังรู้เรื่องมากมาย แล้วก้อมีพนักงานรถไฟอีกคนเข้ามาพร้อมเครื่องอ่านโค้ดบนตั๋ว(ซึ่งก้อเหมือนกับอันที่พนักงานผู้ืหญิงคนนี้ใช้) แล้วคนที่มาใหม่เค้าก้ออ่านตั๋วเ้ราผ่านง่ายดาย ไม่มีปัญหาอะไรเลย แล้วยัยพนักงานผู้หญิงเนี่ย ก้อไม่ยอม เถียงมันไปเรื่อยๆ บอกให้ตำรวจไปก็อปปี้ตั๋วมาให้ใหม่ด้วย เราก้องง ตั๋วเราทำไมจะต้องไปก็อปปี้ให้เค้าด้วย เราก้อถามตำรวจว่าเอาไปทำอะไรน่ะใบก็อปปี้เนี่ย ตำรวจก้อมาย้อนถามเราว่าจะรู้ไปทำไม -_-# ซะงั้นน่ะ เราก้อบอกว่า รู้ไว้เผื่อคราวหน้าจะได้ระวังตัว ชั้นไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่และเสียชื่อเสียงมากสำหรับชั้น ตำรวจเลยตอบว่าว่า เอาไว้เป็นอินฟอร์เมชั่นให้พนักงานคนนี้ (ให้เอาไปฝึกเป็นการบ้านงั้นสิ)

    พอเรื่องมันเคลียร์ เราพ้นข้อหา ได้พาสปอร์ตกับตั๋วคืน เราเลยบอก ชั้นต้องการทราบว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นกะตั๋วชั้น ตำรวจบอกว่า มันเป็นข้อผิดพลาดทางเทคนิค เราเลยเถียงไปทันทีว่า มันจะไปผิดพลาดทางเทคนิคอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะพนักงานไร้ความสามารถ กะแค่ใช้เครื่องรีัดเดอร์ยังทำไม่ได้ แล้วหล่อนไม่ได้ใช้เครื่องรีดเดอร์ตั้งแต่ก่อนตั้งข้อกล่าวหาชั้นเลยด้วย บอกตรงๆชั้นเชื่อว่ามันเป็นเพราะพนักงานคนนี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยต่างหาก

    ตำรวจก้อหันมาตอบเราง่ายๆ ว่า พวกเราก้อคิดว่างั้นแหละ -_-# เออ ให้มันได้งี้ (ตอนนั้นยัยพนักงานคนนี้ไม่ได้ยินหรอก มัวแต่ยืนเถียงกะเพื่อนพนักงานด้วยกัน อยากให้ได้ยินมากๆๆๆๆเลย)เรายังสงสัยเรื่องที่ยัยคนนี้เค้าบอกว่าเค้าเป็นตำรวจ เลยถามตำรวจคนนึงว่า พนักงานคนนี้เธอบอกชั้นว่าเป็นตำรวจแล้วโชว์บัตรอะไรไม่รู้ ที่ไม่มีคำว่า ตำรวจหรืออะไรเขียนอยู่เลย ตำรวจก้อตอบทันทีว่า ไม่ เธอไม่ใช่ตำรวจ แล้วหันไปถามพนักงานคนนั้น หล่อนก้อเถียงว่า ทำไมจะไม่ใช่ ก้อชั้นเป็นตำรวจรถไฟไง -_-# แล้วก้อบอกว่ามีสิทธิ์ขอดูพาสปอร์ตบนรถไฟ(แต่นี่หล่อนหนีบเอาลงรถไฟไปเลยนะ)

    ตำรวจพยายามตอบเลี่ยงๆแล้วก้อ รีบลาๆไป เพราะคงคิดว่าหมดหน้าที่แล้ว สุดท้ายเหลือพนักงานรถไฟสองคนนั่นแหละ คนที่มาใหม่ก้อพยายามขอโทษเรา แต่เราบอกว่า คุณไม่ผิด ชั้นไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากคุณ แต่ชั้นต้องการจากผู้หญิงคนนี้ต่างหาก แล้วพนักงานใหม่ก้อพูดบอกให้ผู้หญิงนั่นขอโทษเรา แต่หล่อนไม่ยอม ยืนกอดอกเชิดหน้า แล้วไม่ยอมมองเราแม้แต่นิดเดียว โกรธมากนะ แต่พยายามจะคิดว่า จะมาเอาพิมเสนไปแลกกะเกลือทำไมวะ ก้อเลยยอมไปทั้งที่ในใจไม่อยากให้เรื่องมันจบง่ายๆแบบนี้เลย แต่เพราะไปเพิ่งกลับจากไปวัดที่คันเดอร์ชเตคเลยเอาธรรมะเข้าข่มใจไว้ได้

    วันนี้มานั่งคิดดูอีกที (ไม่เกี่ยวกับอารมณ์โกรธ) แต่เป็นเรื่องของสิทธิ เราเลยอยากถามเพื่อนๆพี่น้องในห้องไกลบ้านนี้ว่า เราควรจะเคลมตาม 3 ข้อข้างล่างนี่ได้มั๊ย

    1. ตั๋วรถไฟเที่ยวนี้ถือว่า เงินที่เราจ่ายไปเป็นโมฆะ เราควรได้รับเงินคืน เพราะเราไม่ได้รับสิืทธิของผู้โดยสารเลย แถมเป็นผู้ต้องสงสัยมาตลอดเที่ยว เรามีตั๋วรถไฟ แต่เราไม่ได้นั่งรถไฟในฐานะผู้โดยสารที่ถูกกฎหมายเลย
    2. บริษัท SBB มีความผิดที่ปล่อยให้พนัีกงานที่ไม่มีทักษะเพียงพอมาทำงานบนรถไฟได้
    3. ตำรวจรถไฟไม่มีสิทธิ์มาถือพาสปอร์ตของเราลงไปจากรถ

    ที่สำคัญยัยคนนี้กวนมากๆ ทุกครั้งที่หล่อนลงรถไฟ เราต้องตามไปด้วยเพราะกลัวพาสปอร์ตหาย มีครั้งนึงหล่อนลงไปแล้วรีบวิ่งไปไกลเลย แล้วไปขึ้นอีกประตูนึง(ลงประตูหลังแล้ววิ่งไปขึ้นประตูหน้าอ่ะ แถมหันหน้ามายิ้มแบบเยาะเย้ยให้อีก มันแกล้งกันชัดๆ)

    เราเอาประสบการณ์มาแชร์ ว่าถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้กับพนักงานตรวจตั๋ว ถามพนักงานก่อนเลยว่าเอาพาสปอร์ตไปทำไม ถ้าจะเอาไปเชคเพราะตั๋วมีปัญหา ต้องเปิดให้เค้่าดูเอง หน้าที่เค้าจะดู แต่อย่าให้เค้าเอาไปเด็ดขาด อีกเรื่องคือ อย่าตกใจไปว่าตั๋วมีปัญหาถ้าซื้อมาจ่ายเงินถูกต้องแล้ว คิดไปได้เลยว่าพนักงานคนนั้นขาดทักษะหรือไม่ก้อเครื่องรีดเดอร์เสีย เพราะมันเ็ป็นไปได้จริงว่า มีพนักงานงี่เง่าผ่านเข้ามาทำงานบนรถไฟสวิสได้

    ก้อ...ว่ากันไป นะคะ ไม่ได้โกรธแล้วนะ หลวงปู่ชาท่านสอนว่า โกรธแล้วเป็นทุกข์ ทุกข์เราก้อไม่ชอบ เมื่อไม่ชอบแล้วจะเก็บไว้ทำไม เราก้อไม่เก็บเป็นเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจค่ะ แต่ไม่อยากปล่อยให้ผ่านไปเพราะเราต้องรักษาสิทธิ ซึ่งนี่หมายถึงการป้องกันปัญหาเกิดซ้ำในภา่ยหน้า ยิ่งเวลาอยู่ต่างแดน พอเห็นเป็นพาสปอร์ตไทย ข้างในยังไม่ได้เปิดดูเลยว่าเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหนยังไง เห็นหน้าเอเชียเข้าหน่อยก้อคิดไว้ก่อนแล้วว่าทำความผิดมา ... เฮ้อ

    จากคุณ : enjoymiracle - [ 22 ก.ค. 51 02:41:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom