ความคิดเห็นที่ 1 ทำให้ประชาชนฉลาดมีความรู้และทำกฏหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ผิดก็ว่าไปตามผิดไม่ใช่เป็นดาราหรือคนดังแล้วขับรถชนคนตายไม่ต้องติดคุก เป็นต้น จากคุณ : ฒ.ผู้เฒ่า_ห้องไกลบ้าน - [ 26 ก.ค. 51 12:26:27 A:70.239.223.85 X: TicketID:021244 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กำลังจะมาตอบเชียวว่า อย่างที่อเมริกา ไม่ใช่เรื่องการสั่งสอนอะไรหรอก แต่กฏหมายมันรุนแรง คนเลยไม่อย่างโดนลงโทษมากกว่า จากคุณ : Appreciator - [ 26 ก.ค. 51 12:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นกระทู้ที่น่าสนใจมากค่ะ อย่างที่ประเทศที่อยู่นี่เป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าพลเมืองเป็นพลเมืองที่มีระเบียบวินัยต่อสังคมมากๆ พอลองถามเค้าดู เค้าบอกว่า เป็นสภาพสังคมโดยรวม ที่จะมีวิธีการสอนพลเมืองให้รู้จักระเบียบวินัยและทำตามกฎ  ตั้งแต่ในครอบครัว โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในละครทีวี ก็จะสอนให้รู้จักกฏระเบียบของสังคม เพื่อนยังให้ความเห็นว่า อาจเนื่องมาจากเมืองไทยเป็นประเทศที่โชคดีมากๆ  อากาศก็ดี ไม่หนาว การทำเกษตรกรรมก็ดี มีอาหารมีน้ำอย่างพอเพียง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในโลก เมืองไทยไม่เคยประสบภาวะวิกฤติอย่างรุนแรง เช่น ขาดแคลนอาหาร หรือแพ้สงครามใหญ่ๆ ที่ทำให้ประเทศและพลเมืองต้องอยู่ในภาวะคับขัน ลองมองย้อนกลับไปดู ประเทศ เยอรมัน ญี่ปุ่น  (แพ้สงคราม ) รัสเซีย ประเทศแถบ สแกนดิเนเวีย  ( หนาวมากๆ ) เทียบกับประเทศไทย   .. ก็น่าคิดนะคะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 51 12:37:19 จากคุณ : แม่บ้าน ป.เอก - [ 26 ก.ค. 51 12:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามคห 2 ด้วยค่ะ แล้วสังคมเมืองนอกมันไม่ได้แออัด ต้องแก่งแย่งเหมือนบ้านเราเท่าไหร่ แต่ก็เห็นเหมือนกันว่าลองสถานการณ์คล้ายๆกันสิ เผลอๆจะแย่กว่าอีก จากคุณ : Maroon Bells - [ 26 ก.ค. 51 13:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยู่เยอรมันนี คิดว่าเพราะชีวิตมีความมั่นคง ไม่ต้องดิ้นรนเท่าไหร่ ความคิดที่ต้องเอาเปรียบคนอื่น เพื่อเอาตัวรอดหรือเพื่อความสะดวกเลยน้อยลงกว่าคนไทย และเค้าก็มีกฏหมายลงโทษแรงๆ อย่างขับรถผิดกฏร้ายแรง ก็ถูกยึดใบขับขี่ ไปทำใหม่ก็แพงมาก แล้วต้องเค้าคอร์ส อบรมนิสัยใหม่ เรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ก็ไม่ได้ดีไปทุกคน บางคนก็อาศัยช่องว่างของกฏหมายและสวัสดิการสังคมเอาเปรียบคนอื่น เช่นไม่ยอมไปทำงาน ขอเงินรัฐกินดีกว่า คนที่เค้าทำงานก็เอือมระอากัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเค้ามีสิทธิได้เงินช่วยเหลือตามกฏหมาย ลูกสาวคนโต เรียนอนุบาล ครูสอนให้ข้ามถนน ให้รอคิว อยากแสดงความคิดเห็นให้ยกมือ พ่อแม่ ก็สอนต่อที่บ้าน ผู้ใหญ่ในสังคมก็เป็นตัวอย่าง พวกที่แย่ๆก็มี จากคุณ : แมวต่างแดน - [ 26 ก.ค. 51 14:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รัฐมนตรีหลายๆท่าน ก็จบจากนอก ไม่เห็นท่านจะทำพฤติกรรมเหมือนว่า ท่านจบนอกมาเลย จากคุณ : THE_NGAK - [ 26 ก.ค. 51 14:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพราะคนไทยเราๆกรอกหูลูกๆหลานๆตั้งแต่ยังเด็กว่า: "ทำอะไรตามใจคือไทยแท้" จากคุณ : pervpanda - [ 26 ก.ค. 51 15:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คือกฏหมายเขาศักดิ์สิทธิ์ และถูกบังคับใช้โดยเท่าเทียมกันไม่ได้ยกเว้น จากคุณ : giuseppe (Giuseppe) - [ 26 ก.ค. 51 15:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ในอเมริกา ห้องเรียนเขาไม่มีสอน แต่คนรักษากฎหมายและวงการยุติธรรมของเขา คงไม่มีค่อยมีการคดโกง คนเห็นความยุติธรรม คนก็เลยกลัวไม่กล้าทำผิดกฏหมายกัน ที่เขาสอนมีแต่ การปฏิญาณต่อธงชาติ "I pledge allegiance to the flag of the United States of America, and to the republic for which it stands, one nation under God, indivisible, with liberty and justice for all." จะเห็นว่ามีคำว่า justice for all ด้วยนะ จากคุณ : ธนิตา - [ 26 ก.ค. 51 17:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มันเป็นผลจากกระบวนการหล่อหลอมทางสังคม หรือ socialisation ที่เมืองนอกใครละเมิดกฎระเบียบหรือเอาเปรียบคนอื่นเป็นเรื่องน่าละอาย สังคมไม่ให้การยอมรับผู้ที่ทุจริตคอรัปชั่นซึ่งตรงนี้ต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิง อย่าหาว่าทรยศชาติหรือเผ่าพันธุ์ตัวเองเลยนะ แต่ขอตอบกระทู้ตามความเห็นตัวเองสักครั้ง เมืองไทยยังยึดติดระบบอุปถัมภ์เล่นเส้นสายซึ่งถือว่าเป็นการคอรัปชั่นประเภทหนึ่ง ส่งผลให้ความรับผิดชอบต่อสังคมน้อยลงตามไปด้วย นอกจากนี้เด็กรุ่นใหม่ถูกปลูกฝังให้โตมากับทัศนคติที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว "มือใครยาวสาวได้สาวเอา" หรือ "ด้านได้อายอด" ใครเอาเปรียบส่วนรวม ใช้อภิสิทธิ์ของตัวหาประโยชน์ได้ ้ืถือเป็นเรื่องน่าชื่นชมยกย่องผู้คนจะนับหน้าถือตามากมายว่า "เก่ง" จะโทษคนรุ่นใหม่อย่างเดียวไม่ได้ต้องดูไปถึงรุ่นพ่อรุ่นแม่ด้วย ถ้าทุกคนตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองและทำให้เต็มความสามารถ ปัญหาต่างๆ ก็จะน้อยลง จากคุณ : ไม่เห็นด้วยห้ามด่านะเออ - [ 26 ก.ค. 51 17:52:03 A:90.224.228.150 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นกระทู้ที่ดีครับ และชอบความคิดเห็นที่ 10 ครับ ================== จากคุณ : แซมกอล์ฟ - [ 26 ก.ค. 51 18:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 10 ครับ จากคุณ : CHISWICK - [ 26 ก.ค. 51 19:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ความเห็นที่ ๑๐ โดนใจมากเลยค่ะ ระบบเส้นสาย และกฏหมายที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่มาของความเสื่อมของสังคมไทยอย่างรุนแรงค่ะ จากคุณ : Kiki - [ 26 ก.ค. 51 20:13:46 A:61.91.31.22 X: TicketID:161641 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 26 ก.ค. 51 20:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใครพอมีความคิดเห็นถึงวิธีการแก้ไขค่านิยมผิดๆ อย่างที่ความเห็นข้างบนว่าไว้บ้างไหมคะ จากคุณ : Kiki - [ 26 ก.ค. 51 20:16:34 A:61.91.31.22 X: TicketID:161641 ]

ความคิดเห็นที่ 16 socialisation (ที่เมืองนอกใครละเมิดกฎระเบียบหรือเอาเปรียบคนอื่นเป็นเรื่องน่าละอาย สังคมไม่ให้การยอมรับผู้ที่ทุจริตคอรัปชั่นซึ่งตรงนี้ต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิง) มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรครับ มีเหตุผลไหม จากคุณ : Aenieas - [ 26 ก.ค. 51 20:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เออ ใช่เห็นด้วยกับ คหที่ 1 คะ เรื่องจริงเลยคะ เมืองไทยมีเงินไว้ก่อน อะไรก็ผ่าน ที่เมกากฎหมายเข้มงวด ใครผิดก็ว่าไปตามผิด นี่ละความเจริญมันถึงต่างกัน จากคุณ : ......................... (Pinky_th) - [ 26 ก.ค. 51 22:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ คนในสังคมเลยเคารพกฎหมาย เพราะกลัวผลกระทบที่จะตามมาอีกเพียบ แถมราคาแพงอีกต่างหาก จากคุณ : ณ ขอบฟ้า - [ 26 ก.ค. 51 22:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอีกรอบ ขอแสดงความเห็นด้วยกับข้อ 10 ครับ เมืองไทยเรายังต้องพัฒนาอีกมาก คงต้องฝากความหวังไว้กับคนรุ่นต่อๆไป เพราะตราบใดที่เรายังคงฉีกรัฐธรรมนูญกันเรื่อยๆ ตีความกฏหมายเข้าข้างฝ่ายของตน พอไม่ได้ดังใจก็เปลี่ยนกฏหมายใหม่ อยากได้อะไรก็ใช้เส้นสาย อำนาจ เงินตราบันดาลเอา และสังคมส่วนใหญ่ก็ยอมรับด้วย จากคุณ : giuseppe (Giuseppe) - [ 26 ก.ค. 51 22:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ให้ดูตัวอย่าง เว้บบอร์ดพันทิป แล้วกันค่ะ คนไทยเข้ามาร่วมใช้กันฟรีๆ... ทั้งๆที่มี กติกาการตั้งกระทู้ เตือนหน้าห้อง ไม่ให้ตั้งกระทู้เชิงการค้า และ อื่นๆ ในกรอบสีชมพู แต่คนไทยส่วนหนึ่งที่ร่วมใช้เว้บบอร์ด... ยังไม่สนใจที่จะเคารพ กติกา การตั้งกระทู้... ตั้งกระทู้เชิงการค้ากันประจำ เตือนใจกันไปเหอะ ไม่มีใครสนใจ มีแต่ดันเคืองใส่ซะอีก... นี่คือ "นิสัยคนไทย ส่วนมากค่ะ" ... ที่ ไม่ร่วมด้วยช่วยกัน... มีแต่จะเอาความรู้สึกส่วนตัว มีอคติใจต่อกัน จากคุณ : เริ่มต้นกันที่สังคมเล็กๆ (JidNince) - [ 26 ก.ค. 51 23:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คิดว่ามันหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ทำเลที่ตั้ง ดินฟ้าอากาศ ประวัติศาสตร์ ศาสนา อย่างหนึ่งก็คือ คนไทยไม่ค่อย (อยาก) ซีเรียส ไม่ (อยาก) เป็นทุกข์/โกรธ/แค้นเคืองนาน ถ้ามีคนทำผิดกับคุณ แล้วคุณโกรธแค้น บางทีจะมีคนมาว่าคุณซะอีก "ไม่รู้จักอโหสิ" "ปล่อย ๆ มันซะบ้าง" "จะจองเวรกันไปถึงไหน" "ไอ้นี่หัวรุนแรง" ฯลฯ ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้เป็นคนผิด คิดถึง 16 ตุลาฯ และ พฤษภาทมิฬ นายพลเอี๊ย ๆ สองสามคน สั่งฆ่าคนไทยด้วยกัน แต่พอคนนึงบวชปั๊บ อีกคนก้มกราบในหลวงปุ๊บ ก็ยังอยู่ในเมืองไทยได้ แถมยังอยู่ได้ดีกว่าคนดี ๆ อีกหลายล้านคน คุกก็ไม่ต้องเข้า แม้แต่โดนสอบสวนยังไม่มี พอไม่ซีเรียส ทำอะไรก็ไม่ค่อยจริงจัง (เพราะถ้าจริงจังมากไป เข้มงวดเกินไป อยู่/ทำอะไรในเมืองไทยยาก) มีกฎหมาย ก็ไม่ค่อยทำตาม ใครเดินตามกฎหมาย "มากไป" ก็หาว่า "หัวหมอ" ที่เขียนมาคือการ "เหมารวม" ในแบบฉบับของเราเอง (โดยปกติไม่ชอบคำนี้ แต่หลายครั้งมันก็ต้องใช้) แต่ค่านิยมแบบไทย (ทั้งที่เราชอบและไม่ชอบ) ก็มีอะไร ๆ ในตัวของมันเอง ที่ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมไทย ไม่เหมือนสังคมประเทศอื่น ๆ โดยระดับส่วนตัว กับการดำรงชีวิตประจำวันของเรา เราว่าเราเกี่ยวข้องกับคำว่า "หลักการ" มากกว่า กฏหมาย เช่น ร้านขายของมี Satisfaction guarantee เราจะไปซื้อของที่ต้องใช้ครั้งเดียว แล้วเอาไปคืนมั้ย เราจะลองสั่งของที่อยากจะลองกินมา ลองกินลองดื่มจนพอใจ แล้วก็บอกว่าไม่ชอบ ไม่อร่อย เอาคืนไป (แต่อย่าคิดเงินชั้นนะ) หรือเปล่า ไปซื้อของ คนทอนเงินให้เราผิด มากกว่าที่เราควรจะได้ เราจะคืนเค้าหรือเก็บเงียบ มีคนเล่าให้เราฟังว่า เพื่อนเค้ารวยมาก ๆ ไปซื้อเสื้อที่ห้างด้วยกัน จ่ายเงินตัวเดียว แต่พนักงานหยิบติดมาให้สองตัว เค้ามารู้ตัวที่รถ แต่ไม่เอาไปคืนหรอก เราถามว่าทำไม เค้าบอกไปคืนก็โง่สิ ... จากคุณ : Genuine XXX - [ 27 ก.ค. 51 01:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ อ่านแล้วทำให้หวนมาคิดถึงตัวเองว่าตอนกลับเมืองไทยจะอารมณ์ขุ่นมัวทุกทีที่ข้ามถนนไม่เคยมีรถคันไหนชะลอให้เราข้าม ส่วนเวลาเราจอดให้คนข้ามบ้างคนก็ไม่ค่อยกล้าข้ามเสียอย่างนั้น สงสัยกลัวเราชาร์ทเข้าใส่ ฮ่าๆๆ เวลาเราขับรถออกซอยก็ไม่เคยมีรถคันไหนใจดีให้เราไปก่อน ดิฉันอยู่อังกฤษครที่นี่เคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัด ทางม้าลายมีให้ข้ามพอหย่อนแค่เท้าลงทางม้าลายรถก็จอดกันเป็นพรึดให้เราทันที เวลาขับรถออกซอยรถทางตรงขับผ่านไปคันสองคัน รถคันที่ สามหรือที่สี่จะจอดให้เราไปก่อนไม่ต้องขอแล้วขออีกอย่างเมืองไทย จากคุณ : ลีลา (Rinta) - [ 27 ก.ค. 51 01:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เมืองนอกเขาไม่ออกกฎหมายมาใช้ลงโทษย้อนหลัง และตรากฎหมายนิรโทษตัวเองและพรรคพวกล่วงหน้า บ้านเมืองถึงไม่วุ่นวาย จากคุณ : bunkuru - [ 27 ก.ค. 51 03:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาโหวต จากคุณ : timtam_yummy - [ 27 ก.ค. 51 06:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กฏหมายจะศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็เพราะประชาชนพลเมืองช่วยกันเคารพกฏหมายค่ะ ส่วนเรื่องสามัญสำนักและความรับผิดชอบทางสังคมนั้น ดิฉันคิดว่าส่วนหนึ่งนั้น มันมาจากการอบรมสั่งสอนจากทางบ้าน และการอบรมสั่งสอนที่กล่าวถึงนี้ ก็คือการทำตัวที่เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่ว่าปากพูดปาวๆสอนลูกหลานให้มีสามัญสำนึก ให้ทำตัวดี แต่ตัวเองทำตัวไร้สติ แบบนั้น ต่อให้พูดจนปากฉีก ก็ไม่มีใครเชื่อและทำตาม เพราะเด็กและเยาวชนนั้น เขาไม่ทำตามคำสอนของผู้ใหญ่หรอก แต่เขาจะทำตามสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำให้เขาเห็นเป็นตัวอย่าง การเอาเปรียบคนอื่นนั้น ว่าไปแล้วมันก็คือสัญชาติญาณธรรมดาของมนุษย์และทุกคนก็มีกันทั้งนั้นไม่ว่าจะชาติไหน ภาษาไหน ข้อแตกต่างมันมีอยู่แค่ว่าใครจะรั้งและบังคับใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน บางคนเขาก็ใช้กฏหมายเป็นเครื่องรั้งใจรั้งการกระทำของเขา ด้วยเหตุผลว่าหากทำไปตัวเองอาจเดือดร้อน อาจโดนฟ้องทำให้ต้องจ่ายค่าปรับหรือติดคุก และก็เสียชื่อเสียงด้วย แต่บางคนก็ใช้มโนธรรมเป็นเครื่องรั้งใจ และเขาก็คิดดีและประพฤติดี โดยที่ไม่มีใครมาบังคับให้เขาต้องทำ จากคุณ : Smilla - [ 27 ก.ค. 51 07:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ของพวกนี้ไม่ต้องสอน มันฝังรากลึกลงในจารีต-วัฒนธรรมแล้ว ถ้าผมเป็น รมต. ถ้าไม่ทำผิดจะออกทำไม ไปสู้กันในศาลดีกว่า ขนาดฝ่ายตรงข้ามยังใช้เอกสารปลอมมาด่าโคตรเหง้ากลางสภา แต่แล้วหลังเลือกตั้งก็มาจับมือเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ก็มีมาแล้ว คดีข้อหาเดียวกัน แต่ผู้ต้องหาต่างคนกัน คนนึงผิด อีกคนไม่ก็ยังมีมาแล้ว ทำใจซะเถอะ  ศาลก็กลัวลูกตะกั่วเหมือนกัน ต้องรอให้ฮีโร่ลงมาจุติก่อน(งานใหญ่โคตรรรๆๆอย่างนี้ ทำคนเดียวไปก็เท่านั้น) คงจะเป็นชาติหน้า แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 51 08:45:03 จากคุณ : zardic - [ 27 ก.ค. 51 08:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอแก้ไขใน คห. 21 ครับ เหตการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเดือนตุลามี 2 กรณีครับ 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 หลายคนชอบจำผิดเป็น 16 ตุลา ซะงั้น จากคุณ : winter love song - [ 27 ก.ค. 51 19:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่ใช่เรื่องการสอนอย่างเดียวหรอกครับ กฎหมายเค้าศักสิทธิ์ครับ ผิดก็โดนจับ โดนปรับ ถ้ากฎหมายไม่ศักสิทธิ์ หาทางเลี่ยงกันได้ คนก็จะหาทางโกงครับ จากคุณ : บุ้ง (B Oprysk) - [ 27 ก.ค. 51 21:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่าที่ ตปท ที่เจริญแล้วดูเหมือนว่าสังคมเขาจะดีนั้น ก็เพราะส่วนมากเป็นเรื่องของการมีกฏหมาย การบังคับใช้ และระบบตรวจสอบที่เข้มแข็งมากกว่า ไม่เชื่อใครลองทำวิจัยดูฝรั่งๆที่มาเที่ยวเมืองไทยหรือย้ายมาอยู่เมืองไทยสิ ผ่านๆไปสักพัก ส่วนมากนิสัยก็จะกลายเป็นสบายๆเหมือนคนไทยนี่แล อิอิ จากคุณ : yuy - [ 27 ก.ค. 51 21:15:12 A:124.121.17.6 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 30 You are absolutely right, Khun winter love song. Thanks very much for correcting me. จากคุณ : Genuine XXX - [ 28 ก.ค. 51 09:01:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ช่วยตอบคห. 16 สื่อก็มีส่วนนะ ที่ทำให้คนละอาย สื่อเมืองนอกมีหลายแขนงและค่อนข้างเป็นกลาง ลองได้กลิ่นเรื่องฉ้อฉลก็ขุดคุ้ย แฉมันตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งเป็นคนในตำแหน่งก็ยิ่งสนุก เพราะความสนใจสูง สื่อหลายแขนงก็ยิ่งทำให้ได้ความเห็นต่างกันไปด้วย สื่อเมืองไทยยังเอนเอียงนะ อาจจะเป็นเพราะเจ้าของค่าย หรือเปล่าไม่แน่ใจ เห็นชอบลงแต่เรื่องตาสีตาสา ที่เค้าไม่ สามารถมาสั่งห้ามลงข้อความได้ ส่วนเรื่องระบบเครือญาติก็คงจะมีต่อไป เพราะไทยยังไม่มี ระบบประกันสังคมที่ดีพอ อย่างที่ เยอรมัน พอตกงาน เกษีรณ หรือพิการ ก็ยังมีเงินรัฐช่วย ไม่ต้องเพิ่งระบบเครือญาติ แต่ถ้าเป็นที่ไทยอาจอดตายได้ ก็มีแต่แบบเครือญาตินี้ล่ะ ที่ค้ำจุน คงประมาณว่าถ้าไม่ช่วยกันเอง ใครจะมาช่วย มันก็เป็นเช่นนี้แล ทำยังไงได้ยังงั้นนะเราว่า จากคุณ : menalina - [ 28 ก.ค. 51 09:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คำตอบง่ายๆที่เอาไปปฏิบัติได้ยาก คือ บ้านเรา มีการบังคับใช้กฎหมายไม่ทั่วถึงค่ะ เมื่อการบังคับใช้ไม่ทั่วถึง ความศักดิ์สิทธิ์ของกม.จึงลดลง และคนในสังคมก็ขาดความเกรงกลัวในที่สุด ตัวกระบวนการยุติธรรมของไทยเอง ก็ทำตัวให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธาเช่นกัน ในเมื่อ คุณไม่ตัดสินทุกอย่างตามที่มันควรจะเป็นไป บุคคลผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเกิดคำถาม ต่อมาตราฐานของกระบวนการยุติธรรม เหนืออื่นใด คนไทยหลายคน ยังเข้าใจความหมายของคำว่า "สิทธ์" และ "หน้าที่" คลาดเคลื่อน และหลายคนอีกเช่นกัน รู้จักเพียง "สิทธิ์" ของตนเอง แต่ไม่รู้จักเคารพ "สิทธ์ี" ของคนอื่น ปล.ดิฉันไม่เคยเห็นประเทศไหนใช้กฎหมาย เพื่อเอาผิดย้อนหลังเลยจริงๆค่ะ อ้างอิงตามหลังภาษิตกฎหมายกรีก(โรมัน?)โบราณ "เมื่อไม่มีกฎหมาย ก็ไม่มีความผิดตามกฎหมาย" จากคุณ : Hergest - [ 28 ก.ค. 51 15:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อยู่เยอรมันค่ะ เค้าปลูกฝังกันในครอบครัวมานานแล้วค่ะ แล้วกฎหมายเค้าก็ค่อนข้างแรง ไม่ค่อยมีข้อยกเว้น อย่างแยกขยะ คนที่นี่ค่อนข้างเคร่งครัดมากๆ เค้าแยกมากมายหลายประเภทมาก ขยะพลาสติก ขยะเปียก กระดาษ ขวดแก้วสีใส ขวดแก้วสีเขียว ขวดแก้วสีน้ำตาล มาตอนแรกๆเรางงเลยค่ะ เค้าจะแยกตั้งแต่อยู่ในบ้านเลยค่ะ เรื่องข้ามถนน แถวบ้านเราอยู่ใกล้โรงเรียนประถม เวลาข้ามถนนเค้าจะมีไฟข้ามถนนให้กด ทั้งๆที่รถไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ ถนนก็ไม่ได้กว้าง แต่คนจะข้ามต้องมากดไฟข้าม เพราะบางทีเด็กๆเดินมาเห็นถ้าเราข้ามทั้งๆที่ไฟห้ามข้ามมันขึ้นอยู่เค้าจะเลียนแบบ เราเคยเห็นเด็ก 2 คนยืนรอไฟข้ามอยู่ แล้วมีชายคนนึงท่าทางรีบวิ่งมา แล้วก็ข้ามเลยทั้งๆที่ไฟยังแดงอยู่ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆเค้าตะโกนถามเลยว่า  ขอโทษนะครับ ข้ามถนนไม่ต้องรอไฟเขียวเหรอครับ??????!!! ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามา แล้วก็ไม่พูดอะไร คงอึ้งอ่ะ ตอบไม่ได้ คนที่เค้าเคร่งครัดมากๆมันเยอะกว่าพวกที่ชอบแหกกฎนะ แต่เดี๋ยวนี้เด็กๆวัยรุ่นก็เริ่มไม่ค่อยปฏิบัติตามกฎกันเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้ก็มีกฎใหม่ ขี่จักรยานห้ามฟังเพลง เค้าทดลองใช้ แต่ปรับจริงๆแล้ว ตั้ง 10 ยูโร เรื่องภาษีก็จ่ายเยอะ ยิ่งรายได้เยอะยิ่งเสียเยอะ แต่ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่ม ไม่ยอมทำมาหากิน กินเงินรัฐไปวันๆ เพื่อนบ้านเราหลายคนเลย ตั้งวงกินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ไปทำมาหากิน รัฐเสียค่าเช่าให้ มีเงินเดือนให้ คนจ่ายภาษีก็เซ็งดิ ทำงานหนักมาเสียภาษีให้พวกนี้ จากคุณ : asita - [ 28 ก.ค. 51 15:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คำเดียว สามัญสำนึกต่อสังคม แต่ฝรั่งแย่ๆก็มีนะ แต่น้อย จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ - [ 28 ก.ค. 51 15:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 35 i agree with #10 too.. จากคุณ : [7th Heaven] - [ 28 ก.ค. 51 15:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กระทู้นี้โดนค่ะ ขอโหวต ชอบคห.ที่สิบนะคะ แล้วก็ขอฝากกระทู้ค่ะ เรื่องใช้ซอฟท์แวร์ปลอม แบบว่าเมื่อวานพึ่งโดนว่ามาค่ะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6839802/H6839802.html จากคุณ : Oh!_Bo_BaBy - [ 28 ก.ค. 51 18:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ต้องคิดว่าของเราพลาดตรงไหนค่ะ อย่าเพิ่งมองว่าเมืองนอกดีตรงไหน จะได้ค่อยๆแก้ไป (หวังจริงๆว่าจะแก้ได้ เฮ่อ - -") หลายความเห็นโดนใจ นี่เราอยู่ที่นี่ตอนนี้ คนที่นี่ก็ไม่ได้ดีกว่าเมืองไทยเท่าไหร่มังคะ เด็กรุ่นหลังๆดูพึ่งพาไม่ได้ไม่พอ ยังสร้างปัญหาอีก ทำอะไรไม่ผิด แต่พอผู้ใหญ่ตะโกนว่าหรือไรนี่แหละ โดนแจ้งข้อหา - -" จากคุณ : azur - [ 28 ก.ค. 51 23:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มุมมองของผม ๆ มองว่า ผู้มีอำนาจ และอาวุโสในสังคม (charismetic Figurs) ไม่แสดงแบบอย่างที่ดี  ต่อสังคมโดยรวม  ผู้ไต้บังคับบัญชา และเด็กรุ่นหลัง ผมสังเกตุจากเค็กๆ ที่จบจากสถาบัญการศึกษาคี ๆ มีความรู้ดี จะมีอุดมคติที่ดีๆต่อสังคมโดยรวมมาก แต่พอเข้าไปรับราชการก็จะ"ถูกกลืน "ด้วยระบบเดิมๆที่ไม่คิดที่จะเปลื่ยนแปลง ( เพราะหัวแถวยังไม่ยอมเปลื่ยน ) ก็เลยมีอยู่แค่สองทางเลือกเท่านั้นสำหรับเด็กที่มีอุดมการณ์เหล่านี้คือ:- 1)  หนีไปหางานอื่นที่ไม่ต้องอยู่ในภาวะที่อึดอ้ด หรือที่เรียกว่า" สมองไหล" 2)  ทำตัวให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม  ตอนแรกก็จะรู้สึกอึดอัด     แต่อยู่ไปก็จะกลายเป็นความเคยชิน จากคุณ : chalard (CHALARD) - [ 29 ก.ค. 51 09:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จะว่าไปประเทศไทยเราดีกว่าเค้าเหมือนกันบางเรื่องนะคะ เรื่องนอบน้อม ถ่อมตน เรื่องให้เกียรติคน เรื่องความกตัญญู เรื่องมารยาท ดิฉันเห็นคนเมืองนอกเยอะแยะ แต่ดิฉันก็ยังว่าเด็กไทยน่ารักกว่าเยอะค่ะ นี่ก็เห็นเด็กไทยฉลาดไปคว้าฟิสิกส์โอลิมปิคมาได้สองสามรางวัลเหรียญทอง น่าภูมิใจออกค่ะ จากคุณ : เชอรี่ (Yishun) - [ 29 ก.ค. 51 10:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาอ่าน และ โหวต จากคุณ : Weka - [ 29 ก.ค. 51 13:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ต้องแก้ที่ระบบการศึกษาด้วย แต่ทุกที่มีได้อย่าง เสียอย่าง จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 29 ก.ค. 51 14:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Today, my younger son is sick, so I have to take care of him at home. So I have some chance to visit Klaibann again... This thread makes me reflect upon what makes our society somewhat different from what I had experienced during the last 6 years. As a dad, I may reflect what I'd seen as a father; My children used to be in American classes. There are few things that I learned from his classes; 1) Cheating can not be tolerated. 2) Sports have great roles in American society since they are like 3-4 years old--- well before they go to K-class. In those sport fields (e.g. soccer, football, baseball, tennis, and so on), they have coaches. There are few common things that they inculcate to their children. These are; 1) having fun with the games; 2) respecting the rules, and; 3) doing their best! These become harmonized in their everyday of living, norms, and, eventually, rule & laws. As far as I am concerned, there are quite several things missing in our society though. Although we have written laws, but it doesn't come from our true norms.... So when re-inforced, it has many practical problems.... แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 51 14:45:24 จากคุณ : amatuer translator - [ 29 ก.ค. 51 14:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขึ้นอยู่กับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เมืองที่(ถือว่า)เจริญแล้วถ้าไม่มีกฎหมายมันก็กลายเป็นเมืองเถื่อนไปได้ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง As a young teenager in proudly peaceable Canada during the romantic 1960s, I was a true believer in Bakunin's anarchism. I laughed off my parents' argument that if the government ever laid down its arms all hell would break loose. Our competing predictions were put to the test at 8:00 A.M. on October 17, 1969, when the Montreal police went on strike. By 11:20 A.M. the first bank was robbed. By noon most downtown stores had closed because of looting. Within a few more hours, taxi drivers burned down the garage of a limousine service that had competed with them for airport customers, a rooftop sniper killed a provincial police officer, rioters broke into several hotels and restaurants, and a doctor slew a burglar in his suburban home. By the end of the day, six banks had been robbed, a hundred shops had been looted, twelve fires had been set, forty carloads of storefront glass had been broken, and three million dollars in property damage had been inflicted, before city authorities had to call in the army and, of course, the Mounties to restore order. This decisive empirical test left my politics in tatters (and offered a foretaste of life as a scientist). -- Steven Pinker, The Blank Slate สมัยที่ผมยังหนุ่มกระทงในประเทศแห่งสันติที่น่าภาคภูมิใจอย่างแคนาดา ในยุคโรแมนติกช่วงทศวรรษ 1960 ผมมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในลัทธิ อณาธิปไตย(สังคมไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายมากมาย)ของ Bakunin ผมถึงกับหัวเราำะใส่หน้า พ่อ-แม่ ของผมที่บอกว่านรกจะเกิดบนดินถ้ารัฐบาลวางอาวุธลง บททดสอบการคาดการณ์ของเราเกิดขึ้นเวลาเมื่อเวลา 8 โมงเช้าของวันที่ 17 ตุลาคม 1969 เมื่อตำรวจของมอนทรีอัลหยุดงานประท้วง เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึง 11.20 น. ธนาคารแห่งแรกถูกปล้น เมื่อถึงยามบ่ายร้านค้าต่างพากันปิดเพราะถูกปล้น หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงคนขับรถ Taxi ก็ไปเผาอู่รถของคู่แข่งที่แย่งกันรับ-ส่ง ที่สนามบิน เจ้่าหน้าที่ตำรวจถูกซุ่มยิงเสียชีวิตโดยมือปืนที่ซ่อนบนหลังคา การจราจลเกิดขึ้นตามร้านอาหารและโรงแรม และหมอคนหนึ่งสังหารตีนแมวที่ขึ้นบ้านนอกเมืองของเขา เมื่อสิ้นวันมีธนาคาร 6 แห่งและร้านค้ากว่า 100 แห่งที่ถูกปล้น มีการวางเพลิง 12 จุด กระจกร้านจำนวนประมาณ 40 คันรถบรรทุกถูกทุบแตก ความเสียหายต่อทรัพย์สินรวมประมาณ 3 ล้านดอลลาห์ ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่ผู้บริหารเมืองจะขอความช่วยเหลือจากกำลังทหาร และ Mounties (http://www.rcmp-grc.gc.ca/) ให้เข้ามาช่วยดูแลความสงบ .... การทดลองที่เกิดขึ้นจริงครั้งนี้ทำลายศรัทธาในการเมืองของผมให้แตกสลายไปโดยสิ้นเชิง (และช่วยนำทางผมให้ก้าวไปสู่เส้นทางของนักวิทยาศาสตร์) จากคุณ : Nexus - [ 29 ก.ค. 51 15:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คัดมาจากกระทู้เก่าๆอีกที ผมถึงไม่เชื่อว่าระเบียบวินัยคือคำตอบยังไงล่ะครับ ตัวอย่างข้างบนก็เห็นๆกันอยู่  เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าระเบียบวินัยนั้นเกิดจากการกลัวกฎหมายครับ เมื่อไม่มีผู้บังคับใช้กฎหมายระเบียบวินัยก็หายไปกลายเป็น Anarchy ทันที สังคมที่เราเห็นว่าเขามีระเบียบวินัยนั้นมันก็คือสังคมที่กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ การบังคับใช้กฎหมายทั่วถึง เอาจริงเอาจัง และยุติธรรม คำว่าระเบียบวินัยมาจากไหน? ถ้าจะให้ผมเดาก็คงจะมาจากอุดมการณ์ Nationalist แบบที่เอามาใช้ตั้งแต่สมัย ร.6 (เสือป่า) และก็ได้รับความนิยมมาเรื่อยๆจนถึุงสมัย จอมพล ป. ซึ่งความมีระเบียบวินัยมันอาจจะสร้างขึ้นมาได้ด้วยการศึกษาแบบทหาร (จะได้ผล 100% จริงหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง ทหารนอกแถวก็ยังมีให้เห็นกันอยู่) จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เห็นเด็กที่ขบถ กล้าเถียง กล้าถาม เป็นเด็กเหลือขอ ไม่มีสัมมาคารวะ (หรืออาจจะรวมถึงไม่มีระเบียบวินัยด้วย) นั่นก็เป็นเพราะอุดมการณ์แบบสมัย จอมพล ป. ที่ได้รับการปลูกฝังและตอก ย้ำในสังคมไทยนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่คิดว่าการศึกษาระเบียบวินัยแบบทหารมันจะสามารถนำมาใช้ได้ในวงกว้าง และจะมีผลดีต่อความมีระัเบียบเรียบร้อยของประเทศ มากกว่าการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้ 'ยุติธรรม' จริงๆ ทั้งระบบโดยไม่ต้องพึ่งพิง(หรือพึ่งพิงให้น้อยที่สุด) คุณธรรม-จริยธรรม คุณธรรม-จริยธรรม เป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหาของมันคือความคลุมเครือและไม่สามารถเอามาเป็นเกณฑ์ได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ระบบเราเดินไปโดยไม่ต้องพึ่งพาของเหล่านั้น เมื่อนั้นสังคมก็จะมีระเบียบวินัยไปเอง .... อ่านเพิ่มเติมการสนทนาได้ที่กระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/01/K6268790/K6268790.html แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 51 15:43:58 จากคุณ : Nexus - [ 29 ก.ค. 51 15:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับคุณ Nexus สุดๆ "ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่คิดว่าการศึกษาระเบียบวินัยแบบทหารมันจะสามารถนำมาใช้ได้ในวงกว้าง และจะมีผลดีต่อความมีระัเบียบเรียบร้อยของประเทศ มากกว่าการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้ 'ยุติธรรม' จริงๆ ทั้งระบบโดยไม่ต้องพึ่งพิง(หรือพึ่งพิงให้น้อยที่สุด) คุณธรรม-จริยธรรม" จากคุณ : GlowPopJigglyJam - [ 29 ก.ค. 51 16:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตัวการมันอยู่ในระดับ Molecular Genetics นู่น แก้ยากค่ะ จากคุณ : rainfull - [ 29 ก.ค. 51 20:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จิตสำนึกค่ะ เขาทำกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ แม่ ที่เดนมาร์ก คำว่า det maa man ikke คือ ไม่ควรทำ เด็ก ๆ รับไว้ในหัว ว่าไม่ควรทำ ก็คือไม่ควรทำ ของไม่ใช่ของของเรา ก็คือไม่ใช่ของของเรา ไม่ควรเอา เทคนิคซิกแซกไม่มีค่ะ มีแต่คนไทยที่มีกัน(ที่นี่นะคะ) ฝรั่งไม่รู้จักหรอกค่ะ เขาทำอะไร ตรงไปตรงมา มีเรื่องเปรียบเทียบอีกเยอะ เล่าทั้งวันก็ไม่หมด จากคุณ : Vejle - [ 29 ก.ค. 51 22:24:10 A:85.24.111.90 X: TicketID:022881 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นด้วยกับคห.10ค่ะ ส่วนคนเยอรมันที่เป็นตามคห.5และ33กล่าวนั้น มีจริงเพราะรัฐเอาใจเลี้ยงดูคนจนมากไป เขาป้องกันและลดอาชญากรรม แต่ก็มีคนที่เห็นแก่ตัว ใช้ช่องว่างเอาเปรียบผู้อื่น นับภาพรวมแล้วระเบียบวินัยไม่ต้องบังคับกันมาก ประชากรมักให้ความร่วมมือ ลูกๆที่บ้านก็ไม่ต้องสอน ไม่ต้องบังคับ และที่น่าอายคือคนของเราขาดจิตสำนึก ไปอยู่บ้านเขาเมืองเขาก็ยังทำตามใจตัวอยู่ บางคนไม่ยอมหางานทำ อ้างว่าทำไปทำไม ถ้ามีรายได้เพิ่มสามีก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม และเบี้ยประกันสังคมนี่จะได้คืนตอนแก่หรือเปล่าก็ไม่รู้? คือเอาเปรียบเจ้าของประเทศว่างั้นเถอะ ส่วนเด็กๆจะกล้าเถียง กล้าออกความเห็น บางทีออกจะขาดสัมคารวะถ้าจะเทียบกับวัฒนธรรมไทย เรื่องศีลธรรมมันอ่อนเพราะสิ่งแวดล้อมและกฏหมาย ลูกเขาเมียใครบางทียุ่งไปหมด ความยุติธรรมค่อนข้างดี ดิฉันไม่เคยพบปัญหาเลือกปฏิบัติ คุณธรรม-จริยธรรมขาดหายไปบ้าง เพราะทุกคนคิดว่าิสิทธิ์ ของฉัน น้ำใจไม่ต้องพูดถึง ใครป่วยลองไปกดประตูเพื่อนบ้าน เขาก็จะบอกว่า ไปหาหมอซี เรียกแท๊กซี่หรือรถพยาบาลก็ได้ ระเบียบวินัยบ้านเมือง-การเมืองไม่ต้องให้ทหารเหงื่อออก ตำรวจคงงานไม่มากแบบบ้านเรา จากคุณ : แม่ของอ๊บ (obst) - [ 29 ก.ค. 51 23:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ดิฉันตอนไปอยู่เยอรมันนีใหม่ๆ ยังแยกขยะไม่เป็น  โดนเพื่อนบ้านมาเคาะประตูบอกว่า  กระดาษหน่ะให้แยกต่างหากไม่รวมกับขยะในครัว  สงสัยเเอบดูอยู่หลายวันแล้วว่าใครนะที่ทิ้งแบบนี้  แค่กล่องไอศกรีม 1 ใบเองตอนนั้นไม่รู้  และมันเปียกน้ำ เคยทิ้งขวดน้ำดื่มด้วย 1 ใบ สามีเห็นเข้าปรี๊ดเลย  ว่าห้ามทิ้งเอาไปคืนเงินได้ อ้าวไม่บอกก่อน แต่ทำไมในรถไฟแย่งกันนั่ง  เห็นคุณแม่ และ รถเข็นก็ไม่มีใครลุกให้นั่ง  แต่พอมีรถจักรยานขึ้นมา 2 คัน ลุกขึ้นให้เอาจักรยานจอดพิงกันใหญ่ จากคุณ : เทาแกมขาว - [ 29 ก.ค. 51 23:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับคุณ menalina ค่ะที่สื่อก็มีส่วน  ตามทางหลวงมีป้ายใหญ่ ผู้หญิงบอกว่าคนที่ขับรถเร็วๆๆ เจี๊-ยว เล็กแค่เนี๊ย ทำมือทำไม้ประกอบ จากคุณ : เทาแกมขาว - [ 29 ก.ค. 51 23:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อาจจะไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหาที่จขกท. ถาม แต่อยากจะเอามาแชร์ให้อ่านอ่ะค่ะ เราไปอ่านจากที่ไหนซักแห่ง อาจจะเป็นของใครซักคนในพันทิปนี่แหละค่ะ (ขอโทษไว้ก่อน ถ้าจำไม่ได้นะคะ) ใจความประมาณว่า แบบเรียนของประเทศไทย ที่พวกเราได้เรียนๆกัน จะมีเนื้อหาประมาณว่า "...ประเทศไทยนี้ดี มีดินน้ำ ข้าวปลา อุดมสมบูรณ์ มีชัยภูมิที่ดี มีอากาศดี ทำเกษตรกรรมได้ผลดี ช่างโชคดีเหลือเกิน..." ในขณะที่ แบบเรียนของประเทศญี่ปุ่น จะเป็นประมาณว่า "...ประเทศญี่ปุ่นนี่โชคไม่ดี เนื้อที่ก็น้อย อากาศก็ไม่ดีร้อนก็ร้อนมาก หนาวก็หนาวมาก อาหารก็ไม่อุดมสมบูรณ์ เพราะพื้นดินไม่อุดมสมบูรณ์ ภัยธรรมชาติก็เยอะ..." ตามความคิดเรานะคะ จากสองแบบเรียนข้างต้น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังประชากรของประเทศ คนไทย (อาจจะ)คิดตามแบบเรียนว่าเรานี่ช่างโชคดีเหลือเกิน เกิดมาในดิน แดนที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องทำอะไรเราก็มีกิน จนทำให้เกิดเป็นนิสัยที่รักสบาย ไม่แอคทีฟ จนมีสำนวน(?)ที่พูดถึงคนไทยว่า 'ทำอะไรตามใจคือไทยแท้' ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่น(อาจจะ)คิดตามแบบเรียนว่า เรานี่ช่างโชคร้ายเหลือเกิน ที่เกิดมาในดินแดนที่มีแต่ภัยธรรมชาติ เนื้อที่ก็น้อย อากาศก็ไม่ดี อาหารก็ไม่อุดมสมบูรณ์ ทำให้คนญี่ปุ่นเค้าคิดว่า ถ้ามัวแต่พึ่งพาธรรมชาติ ไม่ทำอะไร ซักวัน เค้าอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดไปได้ สำหรับเราแล้ว เราคิดว่าการปลูกฝังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะสร้างคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ของคนได้ค่ะ **แก้ไขข้อความค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 51 00:14:24 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 51 00:13:21 จากคุณ : ~LoVe Is LiKe ThE wInD~ - [ 30 ก.ค. 51 00:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สำหรับดิฉัน การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม น่าจะช่วยให้อะไรๆ มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นะคะ หากคนเกรงกลัวกับการบังคับใช้กฎหมายและกติกาของสังคม ถ้าเขารู้ว่า หากเขาฝ่าฝืนกติกาใดๆ ที่สังคมกำหนดขึ้นมา เขาจะต้องได้รับผลในทางร้าย ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยง หรือหาข้อยกเว้นใดๆ ได้ เขาก็คงจะพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะไม่ฝ่าฝืนกติกานั้นๆ และเมื่อเขาพยายามที่จะควบคุมตนเองไม่ให้ฝ่าฝืนกติกานั้นๆ เป็นประจำ มันก็จะกลายเป็นนิสัย และเป็นพฤติกรรมในที่สุด ยกตัวอย่างตัวเอง เมื่อก่อนขับรถเร็วมากๆ (บางครั้งเลวด้วย) ไม่กลัวกฎจราจรเท่าไหร่ แต่พอไปเรียนต่อในประเทศที่มีการจำกัดความเร็ว ถ้าขับเกินปรับเกินสามพันบาทไทย ดิฉันก็หายอาการเท้าผีโดยอัตโนมัติ ไม่ได้มีสำนึกต่อสังคมหรอก แต่เสียดายเงินค่าปรับ (จริงๆ ไม่มีจ่าย) จะขับปาดซ้าย มุดขวา ก็กลัวสังคมประนาม และเมื่อต้องควบคุมตัวเองบ่อยๆ เดี๋ยวนี้อยู่เมืองไทย ก็พบว่า ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ถึงที่หมายต่างกันไม่กี่นาทีหรอก แม้ว่ากฎระเบียบจะแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้ แต่ดิฉันเชื่อว่า มันจะทำให้ทุกอย่างเบาบางไปได้มาก ยกตัวอย่างปัญหาการจราจร นอกจากว่ารัฐจะต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพแล้ว ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าปัญหาส่วนหนึ่งก็เกิดจากคนขับรถไม่มีระเบียบ รถเมล์จอดรับส่งเลนขวา ไม่สนใจว่าจะปิดถนนไปแค่ไหน แท็กซี่จอดไปอีกสามเลน คนเอาถนนเป็นที่จอดรถประจำตัว ไม่สนใจว่าจะทำให้ช่องจราจรน้อยลง คนกินเหล้าแล้วขับรถ ขับรถไม่มีใบขับขี่ ฯลฯ อยากรู้ว่าหากคนเหล่านั้นรู้ว่าถ้าทำแบบนั้นจะโดนปรับหมดตัว โดนยึดใบขับขี่ และหากไม่มีใบขับขี่แล้วขับรถจะเป็นเรื่องใหญ่มากๆ เขาจะยังคงฝ่าฝืนกฎจราจรเหล่านี้ไหม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังจะเกิดไมได้เลย หากว่าเมืองไทยยังมีการคอรัปชั่น กินสินบนกันอยู่ในทุกหย่อมหญ้า ไม่ต้องดูภาพใหญ่ถึงระดับชาตินั่นหรอก แค่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ นักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สถานที่ราชการ ที่จะมีหน้าที่ติดต่อ ให้บริการประชาชน บังคับใช้กฎหมายกับประชาชนก็พอ หากทุกคนทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา อะไรมันจะดีกว่านี้อีกมาก แต่อย่าไปว่าเขาเลย เรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากมันไม่มีคนให้ ง่ายๆ เลย ลองถามตัวคุณๆ กันเองก่อนดีกว่า ว่าเวลาคุณโดนตำรวจที่เมืองไทยเรียก โดยที่คุณรู้ตัวแน่นอนว่าทำผิด (เอาแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะ)คุณจะยอมรับใบสั่ง หรือจ่ายค่าปรับตรงนั้น (ร้อยนึงและไม่มีใบเสร็จ)ถ้าคุณเห็นไฟเหลืองหลังเส้น คุณเหยียบเบรค หรือคันเร่ง  บางคนที่ดิฉันรู้จัก หากอยู่เมืองนอก ขับรถตามความเร็วที่จำกัด หากโดนใบสั่ง ก็ไปจ่ายโดยดี แต่หากเป็นที่เมืองไทย บ้านเมืองของตนเอง กลับทำตรงข้ามทุกอย่าง แล้วก็พูดว่าก็ใครๆ เขาทำกันแบบนี้ทั้งนั้น โดยลืมไปว่า หากสิ่งนั้นไม่ถูกต้องในตัวเองแล้ว ต่อให้อีกกี่ล้านคนทำ เรื่องไม่ถูกนั้น ก็ไม่มีทางกลับกลายเป็นถูกไปได้หรอก  เรื่องแบบนี้ มันเหมือนวงจรอุบาทว์ ที่หากเราไม่ตัดวงจรมันตรงจุดใดจุดหนึ่ง มันก็จะวนกันเป็นงูกินหางกันอย่างนี้ จะง่ายกว่าไหม หากเราจะเริ่มตัดที่ตัวเราเอง หากยังจะเอาง่ายๆ เข้าว่า อย่างแต่ก่อน ก็อย่าไปนั่งคร่ำครวญก่นด่าความเสื่อมโทรมของสังคม หรือนักการเมืองคอรัปชั่นเลย เปลืองน้ำลายปล่าวๆ ในเมื่อคุณเองนั่นแหละ ที่เป็นหนึ่งในต้นเหตุของปัญหานี้ คุณว่าจริงไหม? แก้ไขตัวสะกดค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 51 01:32:27 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 51 01:25:22 จากคุณ : Dextrocardia (DexTroCadiA) - [ 30 ก.ค. 51 01:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 8   คือกฏหมายเขาศักดิ์สิทธิ์ และถูกบังคับใช้โดยเท่าเทียมกันไม่ได้ยกเว้น จากคุณ : giuseppe (Giuseppe) ^ ^ ^ ^ ตามนั้นเลยค่ะ และพอเค้าทำแบบนั้นกันต่อไปทุกรุ่นๆ มันก็ฝังลึกในจิตสำนึกของทุกคน ทั้งผู้ใหญ่ วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งเด็กๆ พ่อแม่ที่นี่จะสอนตลอด หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์เค้าคอยให้ข้อมูลเรื่องกฏหมายบังคับใหม่ อย่างแม้แต่เรา ถึงจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว พอมาอยู่สวีเดน แฟนเราขับรถไปไหนก็จะคอยบอกสอนเราเรื่องกฏจราจร การใช้ถนน หรือกฏบังคับในสถานที่แต่ละที่ว่าอะไรควร ไม่ควร เพราะที่นี่เค้าเคารพกฏหมายกันทุกคน แล้วอย่างที่สวีเดน เค้าทำตามกันทุกคนอยู่แล้ว เพราะกฎหมายส่วนมาก จะผ่านเสียงโหวตจากประชาชนก่อนทั้งนั้น ดังนั้นถ้าประชาชนในประเทศออกเสียงข้างมากยังไง ทุกคนก็ยอมรับปฏิบัติตามโดยปริยาย จากคุณ : Lilla Livet - [ 30 ก.ค. 51 05:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 51 08:17:45 จากคุณ : Year after Year - [ 30 ก.ค. 51 05:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 51 08:18:05 จากคุณ : Year after Year - [ 30 ก.ค. 51 05:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 บ้านเขาขนาดดาราดัง เมาแล้วขับ ศาลยังยึดใบขับขี่ ทัณฑ์บนอีกตั้งนาน แต่ของเรา ยิงคนตายแล้วถามว่า รู้ไม๊..ตรู..ลูกใคร ไม่เห็นมีใครกล้าแหยมจนบัดนี้ จากคุณ : jeejeeberry - [ 30 ก.ค. 51 11:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เพราะว่ากฎหมายบ้านเค้าอยู่เหนือเม็ดเงิน... เข้าใจว่าอย่างนั้น... จากคุณ : SFP (SFP) - [ 30 ก.ค. 51 11:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เพราะคนเราไม่เคารพต่อกฏหมายไง ไม่ให้ความสำคัญ ทำผิดก็ลอยนวล ถามว่าระเบียบอยู่ตรงไหน   หลายเรื่องที่ด้อยกว่าเค้าเพราะ ต่างกันที่ไม่ให้ความเคารพต่อกฏหมาย ง่ายๆว่า กฏหมายไม่ศักดิ์สิทธ์พอสำหรับเมืองไทย อาจจะเพราะบ้านเรามีความใจอ่อน!!!! ถ้าทำผิดแล้วยอมรับก็ ลดโทษให้ เหมือนกับว่าไม่มีตัวอย่างที่สามารถทำให้เห็นว่า คุณฆ่าคนตายแล้วต้องโดนประหาร  ค้ายาต้องโทษประหาร ทำให้เห็นๆกันไปเลย  เชื่อเหอะว่าไม่มีใครกล้า ถ้ากฏหมายร้ายแรงพอ ดูอย่างปารีส ฮิลตั้น  (ขอโทษที่ต้องเอ่ยนาม) เธอทำผิด แม้ว่าเธอ ไฮโซระดับแนวหน้า เป็นดาราดังคับฟ้า แต่ทำผิดกฏหมาย เธอก็ต้อง รับโทษเยี่ยงคนธรรมดาทั่วๆไปแม้ว่าเงินของเธอมากมายแค่ไหนก็ ยังซื้อไม่ได้เลย  นี่แหละแบบอย่างที่ชี้ให้เห็นเป็นรูปธรรมและเข้าใจ ง่ายที่สุด  เพียงเท่านี้ถ้าบ้านเราทำได้ก็ดีถมไปแล้ว จากคุณ : South East Bangkok - [ 30 ก.ค. 51 13:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 59 บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ รู้แต่เมืองที่มาอาศัยเขาอยู่มากกว่าอยู่เมืองไทย เคยฟังนักการเมืองเยอรมันที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต เขาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที โดยอ้างว่า ไม่ต้องการทำให้พรรคเสื่อมเสียและประชาชนเสื่อมความนิยมพรรค และไม่ต้องการให้ครอบครัวเดือดร้อน ลูกไปโรงเรียนถูกเพื่อนล้อ หันมาดูนักการเมืองเมืองไทย ที่เป็นลูกหลานศรีธนญชัย จะอ้างว่า แค่ศาลรับเรื่องไว้ ยังไม่ตัดสิน ถือว่าตนเองยังบริสุทธิ์ หรือศาลชั้นต้นตัดสินว่าผิด ก็อ้างยังมีศาลอุทธรณ์ ศาลฏีกาอีก โดยไม่นึกถึงว่า นักการเมืองควรเป็นตัวอย่างที่ดีและบริสุทธิ์ ไม่มีมลทินหมองมัว ไม่ทำให้ประชาชนเสื่อมความเลื่อมใสพรรค ไม่นึกถึงครอบครัวจะเดือดร้อนถูกเยาะเย้ย เหยียดหยาม เมื่อไม่นานมานี้ พิธีกร ทีวี ชื่อดัง ถูกหญิงแจ้งความว่า ถูกพิธีกรรวนลาม ทางสถานีตัดรายการออกทันที บอกให้พิธีกรคนนี้ไปเคลียร์เรื่องที่ถูกกล่าวหาก่อน จนถึงปัจจุบันนี้พิธีกรผู้นี้หายไปจากจอ ทีวี เลย ไม่ใช่รอให้ศาลตัดสินลงโทษอย่างเดียว สังคมเขาช่วยลงโทษด้วย จากคุณ : บอนเนอร์ - [ 30 ก.ค. 51 13:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คิดถึง 16 ตุลาฯ และ พฤษภาทมิฬ นายพลเอี๊ย ๆ สองสามคน สั่งฆ่าคนไทยด้วยกัน แต่พอคนนึงบวชปั๊บ อีกคนก้มกราบในหลวงปุ๊บ ก็ยังอยู่ในเมืองไทยได้ แถมยังอยู่ได้ดีกว่าคนดี ๆ อีกหลายล้านคน คุกก็ไม่ต้องเข้า แม้แต่โดนสอบสวนยังไม่มี ...Genuine XXX ...นั่นเป็นมุมมองของคุณจริงๆหรือค่ะ ลองหาข้อมูลมากกว่านี้สักนิด จะได้สบายใจกับประเทศไทยมากขึ้น ...ไม่ใช่ว่าใครจะมาก้มกราบท่านก็ได้นะคะ มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น บางคนถึงกราบได้แค่พื้นคอนกรีตที่สนามบิน จากคุณ : ตาน - [ 30 ก.ค. 51 15:24:19 A:78.20.55.79 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คงต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้หล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบังคับใช้กฎหมายก็ดีหรือการเรียนการสอนก็ดี เพื่อเด็กรุ่นใหม่จะได้ค่อยๆซึมเข้าไป และเป็นความเคยชินไปจนถึง generation รุ่นต่อๆไป ส่วนพวกแก่ๆที่ยังสบายๆสไตล์ไทยแท้นี่ก็รอเวลาให้ตายลงไปพร้อมกับความสบายนี่หล่ะค่ะ (รวมถึงคนยุคเราดด้วยนี่หล่ะ) จากคุณ : winewine - [ 30 ก.ค. 51 18:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณ #60 "นั่นเป็นมุมมองของคุณจริงๆหรือค่ะ"  -- เราว่าเราเขียนชัดนะ ว่าเราคิดยังไง แต่เราอ่านความเห็นคุณแล้วไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า กรุณาอธิบายเพิ่มเติมได้มั้ย ว่าถ้าเรา "หาข้อมูลมากกว่านี้สักนิด" แล้วเรา "จะได้สบายใจกับประเทศไทยมากขึ้น" เพราะอะไร อะไรทำให้คุณคิดว่าจะทำให้เราเปลี่ยนมุมมองได้ เราก็อยากรู้ เรื่องแบบนี้เป็นความคิดเห็นบวกประสบการณ์ส่วนตัว (เพราะเราอยู่ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ) ดังนั้นเราไม่คาดหวังให้ความคิดเห็นของแต่ละคนเหมือนกัน แล้วที่ว่า "ไม่ใช่ว่าใครจะมาก้มกราบท่านก็ได้นะคะ มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น บางคนถึงกราบได้แค่พื้นคอนกรีตที่สนามบิน" คุณหมายความว่าอะไร อย่างไร ความยากง่ายในการเข้าเฝ้าเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่คน ๆ หนึ่งทำ ปีหนึ่ง ๆ มีนักการเมืองที่คุณคิดว่าเค้าคอรัปชั่น ได้รับเครื่องราชฯ กี่คน เราอ่านความเห็นคุณแล้วมีความเข้าใจในระดับหนึ่ง แต่ไม่อยากเดา สงสัยว่าคุณกับเรากำลังพูด "คนละเรื่องเดียวกัน" หรือเปล่า ขอบคุณล่วงหน้า จากคุณ : Genuine XXX - [ 30 ก.ค. 51 19:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 63 บ้านเราใช้หลัก นิติศาสตร์ ผสม กับ รัฐศาสตร์ มิฉะนั้นบางเหตุการณ์จะสูญเสียมาก หลายครั้งมันจบลงได้ด้วยเพราะรัฐศาสตร์ จากคุณ : เก่ายูเค - [ 30 ก.ค. 51 23:52:50 A:129.250.211.7 X: TicketID:174341 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แค่เรื่องง่ายๆ การทิ้งขยะยังไม่ยอมทิ้งให้ถูกที่ถูกทางเลย เห็นแล้วเอือมมากๆ จากคุณ : ryukung - [ 31 ก.ค. 51 16:32:26 A:203.144.197.234 X: TicketID:157110 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เำพราะเรา เป็นคนไทย จากคุณ : jukbee - [ 31 ก.ค. 51 20:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ที่ว่า กฏหมายศักดิ์สิทธิ นั้นเป็นเพราะอะไรครับ เป็นเพราะว่า การบังคับใช้กฏหมายนั้นเข้มงวด ซึ่งก็หมายถึงคนที่บังคับใช้กฏหมายเข้มแข็ง และคนที่อยู่ใต้กฏหมายยอมรับความผิด นั่นคือสิ่งที่ขาดไปในสังคมไทย และสิ่งที่ทำให้สิ่งนั้นขาดไปคือ ความเป็นไทยๆ นั่นเองครับ ซึ่งอยู่ในวัฒนธรรม และการประพฤติืปฏิบัติตามค่านิยมในสังคม นั่นคือ อย่างที่คุณ คคห 10 ว่าไว้ การสอน นั่นหละครับ แต่ไม่ใช่การสอนในโรงเรียน (ซึ่งแทบไม่มีความจำเป็น) แต่เป็นการสอนโดยสังคม สังคมไม่อดทนต่อการ "ทำผิด" แต่สังคมไทยอาจจะคิดว่า ที่เลี่ยงกฏหมายได้ ไม่ผิดก็ได้นะครับ เพราะทำแล้วก็พอใจ ชอบใจ คุยได้อีก สรุปว่า ที่มองกฏหมายเข้มงวด นั่นเป็นส่วนปลายน้ำแล้วครับ ต้นน้ำคือ ต้องเปลี่ยนค่านิยมของสังคมให้หมด ไม่เช่นนั้น กฏหมายอะไรก็ทำให้สังคมไทยดีขึ้นไม่ได้ ปล.เรื่องประวัติศาสตร์ขาดๆ แหว่งๆ นั่นก็ด้วย แต่ไม่เอา ไม่พูดดีกว่า จากคุณ : g9h - [ 31 ก.ค. 51 22:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เพิ่มหน่อย ในเมื่อเรามี คณะกรรมการสทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาเพื่อปกป้องสิทธิอันเท่าเทียมของคนไทยแล้ว มันก็น่าจะมี คณะกรรมการหน้าที่มนุษยชนแห่งชาติ มาเพื่อส่งเสริม บังคับให้คนไทย ทำหน้าที่พลเมืองที่ถูกต้องด้วยนะครับ จากคุณ : g9h - [ 31 ก.ค. 51 22:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยกับคุณDexTroCadiA               ถ้าเราไม่ช่วยกันตัดวงจรนี้  มันก็จะเป็นอย่างนี้ชั่วฟ้านิรันดร สำหรับตัวดิฉันเลิกสนับสนุนการคอรัปชั่นนานแล้ว ตอนอยู่เมืองไทยนั้นเคย แต่งงานใหม่ๆก็เคย เพราะทนรอไม่ได้ เคยไปซื้อที่ดิน เจ้าหน้าที่กระซิบบอกว่า ปกติค่าธรรมเนียม......นะ ผมจะลดให้ ครึ่งหนึ่งแต่ผมขอ..... และจะรีบทำให้ ก็ให้ เพราะกลัวสามีรอนาน แกบ๊งเบ๊งจริงๆด้วยถ้าเห็นคนทำงานเฉื่อยๆ เราอายเขา  ก็แอบๆยัดไป ต่อมา เราอยู่บ้านเมืองเขานานๆ เอ๊ะ บ้านเราทำไม่ถูกนะ เลยเริ่มที่ตัวเรา 5ปีก่อนไปรับมรดกที่ดินก็มีนายหน้าคนในหมู่บ้านมาเรียบๆเคียงๆเสนอจะหาคนช่วยให้ ดิฉันบอกขอบคุณ ไม่เป็นไร ให้รัฐนึกว่าช่วยชาติ  วันนั้นเสียค่าโอนไปแสนกว่าสำหรับที่ดิน5ไร่ ไม่เสร็จในวันนั้น แต่คนที่ดูท่าทางว่าเป็นทนายมาทำให้ลูกความ  แป๊บเดียวเสร็จ เราก็ใจเย็น สุดท้ายก็ถามว่า วันนี้จะเสร็จไหม? จนท.ก็อ้ำอึ้งๆ ดิฉันก็บอกว่า ถ้าไม่ต้องเซ็นอะไรอีกแล้ว พรุ่งนี้จะให้เด็กมารับโฉนดนะคะ  คุณจะได้มีเวลา รุ่งขึ้นหลานสาวเอาหลักฐานวันวานไปรับโฉนด จนท.ก็ถามที่เล่นทีจริงว่า มีอะไรมาแลกโฉนดไหมคะ? หลานก็บอกว่า ไม่มีหรอกค่ะจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วโฉนดของเราทำไมต้องเอาอะไรมาแลก ถ้าจะเอาก็เอาบัตรนี่มาแลก  เธอก็ยื่นบัตรนักข่าวนสพ.ให้ เลยเงียบไป ถ้าไม่เงียบเธอจะเอาไปเขียนจริงๆ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 01:52:38 จากคุณ : แม่ของอ๊บ (obst) - [ 31 ก.ค. 51 23:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คนไทยชอบติดกับ "ไม่เป็นไร" จอดรถที่ห้ามจอดเงี้ย มันห้ามจอด "ไม่เป็นไร จอดแป๊บเดียว" - เงินเดือนตำรวจประเทศไทย สุดยอดแห่งความน้อย ไม่มีใครอยากไปทำ - ละครสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ไม่มีเลยสมัยนี้ มีแต่ตบกันแย่งผู้ชาย - การศึกษา ใครจบ ป ตรี ถือว่าหล่อ ต่างประเทศ ใีครมีความสามารถ ถือว่าหล่อ - ไม่ค่อยสนใจเรื่องภายนอก แต่เมืองไทย ขอให้แต่งตัวดูดีไว้ก่อน พฤติกรรมว่ากันทีหลัง (และจะเสียใจกันส่วนมาก) - ปวช ที่ไทย ตีกันทุกวัน ปวช ต่างประเทศ คือเด็กช่างระดับหัวกะทิ และเป็นนักเรียนเตรียมวิศวกรรมทั้งนั้น - ที่ไทย พ่อแม่อยากให้ลูกมีหน้ามีตา จะได้อวดบ้านอื่นๆ ต่างประเทศ พ่อแม่อยากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้ก็พอ คิดออกแค่นี้ ภาพรวม คคห ส่วนตัว จากคุณ : sillygang - [ 1 ส.ค. 51 00:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 70 "เริ่มที่ตัวเราเอง" เคยได้ยินคำนี้สมัยเด็กๆที่มีรณรงค์ให้เรารักษาความสะอาด (ตาวิเศษมั้ง) พยายามยึดหลักนี้ไว้อยู่ มักจะโดนย้อนว่า "เสียโอกาสทำไม" "ทำก่อนสิ" ..."ขี้เกียจ" ..... "เรื่องของกรู" จะลงเอยด้วยการด่าตัวเองอยู่เป็นระยะๆ จากคุณ : abstract - [ 1 ส.ค. 51 02:00:15 A:58.10.155.79 X: TicketID:071021 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เอารูปตามคห.50มาฝาก จากคุณ : GlowPopJigglyJam - [ 1 ส.ค. 51 02:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คห 6 ที่พูดถึงว่ามีนักการเมืองจบจากนอกมาแต่ก็ไม่เห็นทำตัวเหมือนกับจบจากนอกมาเลย อันนี้น่าสนใจมากค่ะ เราว่ามันขึ้นอยู่กับสันดานซะแล้วหละ จบนอกจบในก็ไม่ได้ช่วยให้คนบางคนมีสำนึกดีขึ้น คิดว่าคนเหล่านี้รู้ดีทุกอย่าง แต่น่าเสียดายตรงที่สันดานเป็นคนเห็นแก่ตัว คนไทยไม่มีความเป็นชาตินิยม สำนึกสาธารณะยังมีน้อย คงต้องสอนกันตั้งแต่เด็กๆล่ะค่ะ ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างให้เค้าดูด้วย ไม่งั้นคงยากจะเปลี่ยนแปลง กฏหมายแรงก็มีส่วนช่วยอย่างมาก จากคุณ : amskye - [ 1 ส.ค. 51 06:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ... วิธีแก้ไขคงมีวิธีเดียวครับ ... ... พัฒนาเด็กในวันนี้ ให้มีคุณธรรมและจริยธรรม อยู่ในครรลองครองธรรม และรักความถูกต้อง ... ... เพื่อให้วันที่เค้าเติบโตขึ้นมาปกครองบ้านเมือง กฎหมายจะมีความศักดิ์สิทธิ์ ... ... สามารถคุ้มครองพวกเค้าจากคนกลุ่มน้อย ที่มีสันดานและทัศนคติแย่ๆได้ ... ... ผมว่าต้องพัฒนาที่คนมาก่อนครับ หากความไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งน่ารังเกียจในสามัญสำนึกคนส่วนใหญ่ได้ ... ... ก็แทบจะไม่ต้องมีกฎหมายกันเลย ... ... ... สอนลูก สอนหลานเรา ให้เป็นคนดีของสังคม ... ... และคอยปลูกฝังทัศนคติดีๆ วิธีคิดดีๆ ให้กับคนรอบข้างเรา ก็พอแล้วครับผมว่า ... :) จากคุณ : pixel (hipixel) - [ 1 ส.ค. 51 09:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยกับพี่ pixel จากคุณ : SFP (SFP) - [ 1 ส.ค. 51 09:19:52 ]

ความคิดเห็นที่ 75 "คุณธรรมและจริยธรรม" ทำได้ก็ดี แต่เป็นนามธรรมเกินไป เคยสังเกตุ เพื่อนตอนที่อยู่เมกาจะเคารพกฎเกณฑ์ในสังคม พร้อมทั้งปกป้องสิทธิของตัวเองที่พึงจะได้รับ แต่เมื่อมาอยู่เมืองไทยกลับตาราปัด คือจะว่าเป็นคนไม่มีระเบียบวินัยก็ไม่ได้เพราะตอนอยู่ที่ โน้นทำไมถึงทำได้ แต่เมื่อมาอยู่เมืองไทยกลับไม่มีระเบียบวินัย ออกแนวเห็นแก่ตัวหน่อยๆ คิดถึงแต่สิทธิของตัวเองไม่คิดถึงสิทธิของคนอื่น จะคิดถึงสิทธิของคนอื่นเมื่ออีกฝ่ายไม่พอใจ แปลกมั้ย? กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่ออกในกฎหมายลูก ควรจะนำมาใช้จริง และเท่าเทียม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในสังคมโดยรวม ยกตัวอย่างง่ายๆ เด็กประถมจะมีการจัดแบ่งหน้าที่กันทำความสะอาดห้องเรียน โดยถ้าใคร ไม่มาทำจะต้องทำวันอื่นๆ อีก 2 วัน ปรากฎเด็กมาทำกันทุกคน และช่วยกันดูแลห้องทุกคน จากคุณ : chamchompoo - [ 1 ส.ค. 51 13:33:21 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ลบเฉยๆ ค่ะ  My mistake. แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 14:28:38 จากคุณ : Wendy Darling - [ 1 ส.ค. 51 14:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 77 1     Most Thais don't know their own rights.         R I G H T s ... this is a BIG word especially for  a developing country like Thailand. 2     Or they choose not to use them. 3     SOme Thais (a lot of them) don't have **** Public Mind**** ; They don't care about public properties and don't really appreciate the word "sharing".  A public restroom is one of the classic examples. And the list goes on and on.... ฮ่า ฮ่า ฮ่า.... แหม  น่าจะตั้งสัมมนาโต๊ะกลม  ถกเรื่องนี้กันนะคะ  ครูเก๋สนับสนุนคนแรกเลยเนี่ย  ท่าจะมัน และเริ่มคันปากแล้วเนี่ย >>>>   .... คนไทยเมื่อไปเที่ยวต่างแดนมา เช่น สวิสเซอร์แลนด์  ก็ชมไม่ขาดปากถึงสภาพความน่าอยู่ของบ้านเมืองเค้า  และกล่าวตำหนิบ้านเมืองไทยว่าสกปรกอย่างนู้น อย่างนี้  แต่มีกฎ หรือข้อระเบียบออกมาบังคับ หรือรณรงค์ให้ช่วยกันทำ  ก็กล่าววิพากษ์เชิงไม่สร้างสรรค์และไม่สรรค์สร้าง   คือ ตำหนิ ตำหนิ ตำหนิ และไม่หาทางออกหรือ ทางเลือกให้       และสรุป... ไม่ทำ ..... คนไทยอยากได้ อยากมี อยากเป็น... แต่พอให้ทำก็ไม่ทำ   ต้องคิดด้วยว่า  กว่าประเทศเค้าจะสวยงามได้แบบนี้   ก็ต้องมีช่วงเสื่อมโทรมด้วยกันทั้งนั้น >>>>>   เป็นบทความบางส่วนจากหนังสือของมูลนิธิการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม  ชื่อ "สำนึกพลเมือง"   อยากให้ทุกท่านได้อ่าน  เป็นการรวมเล่มขนาดเล็กที่ครอบคลุมเนื้อหาทุกแวดวงของสังคมไทยในยุคการพัฒนาที่เจริญแต่ทางวัตถุ   บอกกล่าวถึงสภาพสังคมไทยตั้งแต่ในอดึตจนถึงปัจจุบัน  และยังอาจทำนายอนาคตได้ด้วย  รวมถึง การพูดถึงกรณีตัวอย่างต่างๆ จากต่างประเทศ   เหมาะมากแก่พวกเราชาวผู้รู้ใฝ่รู้ ในห้องนี้ทั้งหลาย จะได้มาช่วยกัน  สร้างประเทศเราเนอะ  .... ช่วยกันลบล้างทัศนคติแบบข้างล่างนี้เหอะ (... ทำไมต้องทำอ่ะ  คนอื่นยังไม่ทำเลย  อย่าเลย  เดี๋ยวเสียเปรียบ  เค้ายังแอบทิ้งขยะได้เลย  เราก็ทำบ้างสิ   .... .....  ไหนๆเรามาถึงภูฯนี้แล้วลูก  อ่ะ  *** สลัก*** ชื่อไว้ซะหน่อย   เป็นหลักฐานแสดงการเดินทางมาถึงของครอบครัวเรานะ ลูกนะ   แม่ แม่  ดอกไม้นี้สวยจัง  สวยก็ ***เด็ด*** เก็บไว้เป็นที่ระลึกนะลูกนะ .....) จากคุณ : ครูเก๋ (Wendy Darling) - [ 1 ส.ค. 51 14:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ส่วนใหญ่เพราะกฎหมายแรงและลงโทษจริงจังค่ะ และพ่อแม่เขาสอนกันมา ถ้าฝรั่งที่อยู่ไทยก็นิสัยแย่กว่าคนไทยอีกนะ และฝรั่งที่นี่ก็ไม่มีระเบียบวินัยเท่าไร หาทางเลี่ยงกฎได้ก็ทำ มันขึ้นกับสันดานคนด้วยนะ จากคุณ : พระจันทร์เต็มดวง - [ 2 ส.ค. 51 05:35:27 A:96.52.34.101 X: TicketID:183300 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ไม่ต้องไปหวังกับเด็กหรอกครับ คุณทำตัวเองให้ดีก่อนก็พอ เด็กมันก็เอามาจากที่ผู้ใหญ่ในวันนี้ทำๆกันนั้นแหละ จากคุณ : kanoomtan - [ 2 ส.ค. 51 16:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขาดจีตสำนึกต่อส่วนรวม...คิดถึงแต่ความสะดวก สบายของตัวเอง... บ้านเมืองก็เลยไม่เป้นระเบียบ จากคุณ : Halimeda Lover - [ 2 ส.ค. 51 20:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านแล้วอยากแสดงความคิดเห็นด้วยมากๆ แม้เราจะเคยไปแค่ไม่กี่ประเทศ แต่รู้สึกได้เลยว่า มันต่างกับบ้านเรามากมาย "ความรับผิดชอบต่อสังคม" ในความคิดของเรา นอกจากรับผิดชอบต่อตัวเองแล้ว ยังต่อรับผิดชอบต่อคนอื่นๆ และสังคมด้วย แต่ตอนนี้มันยิ่งกว่านั้น คนบางกลุ่มกำลัง "เอาเปรียบต่อสังคม" ทั้งจี้ ปล้น กันเป็นว่าเล่น สายไฟ ท่อน้ำ น็อตเสาไฟฟ้า อะไรที่สามารถขโมยได้ขโมยหมด ไหนยังจะมีนักการเมืองโกงกินบ้านเมืองอีก เราบ่นให้คนรอบข้างฟังอยู่บ่อยๆ เมื่อเห็นข่าวต่างๆ ในทีวี "ศีลธรรม" ของคนไทยกำลังลดลง? ไม่อยากจะคิดเลยว่าคนรุ่นลูกรุ่นหลานจะแย่กว่านี้แค่ไหน กลับบ้านก็ต้องระวังตัว กลัวใครมาฉกชิงวิ่งราว แม้แต่คนที่มีรถขับ ก็น่ากลัวไปหมด เราว่าคนไทยนิสัย "หยวนๆ" มากจนเกินไป ให้อภัยจนเกินขอบเขต เราชื่นชมคนญี่ปุ่นมาก เค้าจะไม่ให้ใครเอาเปรียบ และ ก็จะไม่เอาเปรียบใครด้วย ลืมของไว้ตรงไหน ไม่หาย กลับมาเอาก็อยู่ที่เดิม ยิ่งคิดก็ยิ่งยาก จะให้คนไทยส่วนใหญ่หันมา "รับผิดชอบต่อสังคม" จากคุณ : [หัวโต แก้มป่อง หน้าใส ใจร้าย] - [ 2 ส.ค. 51 21:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คนไทยยึดติดคำว่าเส้นสาย-พวกมากลากไป-พี่น้องร่วมรุ่น จะกี่รุ่น หรือไม่รุ่น หรือไม่เคยร่วมรุ่นแต่ถ้ารู้จักก็ขอร่วมรุ่นไปด้วย แบบนี้กฏหมายถึงดูเหมือนไม่ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่ตัวบทกฏหมายน่ะศักดิ์สิทธิ์แต่คนใช้น่ะทำให้ออกนอกลู่นอกทางไปเสีย พอมีอะไรเกิดขึ้น ก็อย่างที่บอกแหล่ะว่า ต้องวิ่งเต้นหาเส้นสาย กันให้วุ่น เพื่อให้หลุดพ้น พอพ้นออกมาก็อีหรอบเดิม มีช่องว่างก็ทำผิดอีก เพราะไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร ในเมื่อหลุดครั้งแรกได้ก็คิดว่าต้องมีครั้งต่อไป ดีไม่ดี กลับติดใจ เพราะคิดว่าโก้เก๋ไปเสียอีก ถึงได้มีคำว่านักเลงไง จริงๆสังคมไทยคือสังคมที่มีรากเหง้าที่ดี บรรพบุรุษเราเพาะบ่ม สร้างสมแต่สิ่งดีๆ แต่พอคนมากขึ้นกลับหาช่องทางมาใช้กันผิดๆ เช่นเรื่องการมีน้ำใจ มันเป็นสิ่งที่ดีของคนไทย แต่บางทีน้ำใจกลับนำมาใช้ในทางที่ผิดไปเสียอีก แบบนี้เลยทำให้บ้านเมืองเราขาดความเป็นระเบียบเพราะผ่อนปรน และการช่วยเหลือกันในทางที่ผิดนี่แหล่ะ เทียบกับสังคม อเมริกัน (ขอพูดถึงที่นี่ล่ะกันเพราะอาศัยอยู่ที่นี่) กฏหมายจะดูศักดิ์สิทธิ์กว่า เพราะว่าทำผิดก็ว่าไปตามผิด คนทำผิดมีโอกาสยื่นอุธรณ์ได้ แต่จะพ้นผิดหรือไม่ก็อีกเรื่อง ที่อเมริกา แม้จะมีกฏหมายที่ดูเหมือนขี้หมูราขี้หมาแห้ง มากมายก่ายกอง แต่คนก็ให้ความสำคัญกันในระดับนึง ที่แน่ๆ อย่างน้อย ที่นี่คงไม่มีแน่ที่โดนตำรวจจราจรจับ แล้วยัดแบ้งค์ให้ในมือเพื่อขอผ่าน จากคุณ : not now - [ 3 ส.ค. 51 05:36:54 A:75.50.46.179 X: TicketID:180450 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เป็นกระทู้ที่ดีมากเลยค่ะ เข้ามาอ่าน จากคุณ : Hana* - [ 3 ส.ค. 51 10:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อย่าเอาแต่โทษคนรุ่นก่อน แล้วมัวแต่ฝากความหวังกับเด็กรุ่นต่อไปเลยค่ะ พวกทุกคนต้องช่วยกันปรับปรุงแก้ไขตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ อย่างน้อยก็ที่ตัวเองก่อน ไม่งั้นมันก็ย่ำอยู่ที่เดิมอย่างนี้ ไม่ไปไหนซะที จากคุณ : เจนิอุส (~GeNiuS~) - [ 3 ส.ค. 51 14:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ผมว่าเราควรที่จะเริ่มที่ตัวเรา และคนรอบๆตัวเรา พอเวลาผ่านไป  เดี่ยวมันก็เป็นวงกว้างเอง อีกยี่สิบหรือสามสิบปี  ตอนที่ทุกคนมีการศึกษา  รุ้เท่าทันกันหมด ผมว่า ประเทศไทยก็คงเป็นเหมือนสิงโปร์ ถ้าทุกคน รู้สิทธิ ฉลาดเท่าทันกันหมด  ไอ้เรื่องโกงกิน  ตัดหน้าแซงคิวคงไม่มีเกิดขึ้น เพราะถึงตอนนั้นก็คงรักษาสิทธิตัวเอง และไม่ละเมิดของคนอื่นด้วย จากคุณ : Dirty_Face - [ 4 ส.ค. 51 21:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คห.85ไม่ทราบว่าหงุดหงิดมาจากไหน คงไม่ใช่อย่างที่กล่าวทุกอย่างที่คุณว่า --ส่วนตัวแล้วไม่ชื่นชอบคนประเภทหนึ่งที่สุดคือ คนที่แข็งแกร่งแทนที่จะช่วยเหลือคนอ่อนแอกลับเอาความได้เปรียบนั้นมาหาผล ประโยชน์ใส่ตัว ลองดูสิคนขาวอ้วนๆเต็มไปหมดทางยุโรปอเมริกา แต่พอลองไปดูแอฟริกามีแต่ผอมไส้แห้งจนเห็นแต่กระดูก ได้แต่อุทานว่า นี่คือโลกแห่งโลกาภิวัฒน์ และนี่คือโลกแห่งความอยุติธรรมด้วย! -- ดิฉันไม่ใช่นักวิชาการที่จะมาโต้เถียงเรื่องนี้ แต่ชาวยุโรปเขาช่วยเหลือแอฟริกาอยู่ไม่น้อย ขี้เกึยจไปค้นละนะว่าปีไหนเท่าใด แต่เล่าจากประสบการณ์ชีวิตจริงคือ สามีของดิฉันคนปัจุบันเป็นอดีตนักการทูต เคยไปรับราชการที่แอฟริกาหลายประเทศ(ตอนหนุ่ม) และเพื่อนเขาเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ในกระทรวงการคลังก็จะรู้เรื่องนี้ดีว่าประเทศเขา ปั๊มเงินไปช่วยแอฟริกาเท่าใด ปรากฏว่าคอรัปชั่นค่ะ เหมือนถมเท่าไรไม่รู้จักเต็ม มันไปอยู่ ในกระเป๋านักการเมืองหมด ช่องว่างระหว่างคนจนก็กว้างมาก และคนพวกนี้คิดเองทำเองไม่ได้ ไม่เป็น เขารอความช่วยเหลือที่เป็นเม็ดเงินจากยุโรป ส่งไปก็ไม่ถึงมือคนจน เหตุที่แอฟริกาจนไม่หายนั้นมีหลายสาเหตุค่ะ คนแข็งแกร่งก็เอาเปรียบคนอ่อนแอก็มีอยู่จริง อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยค่ะ คนไทยด้วยกันนี่แหละ คนโง่ก็ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ทำไมเราไม่ทันเขมรนะ หรือว่านักการเมือง....? ไปดีกว่า เดี๋ยวโดนเหยียบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 01:15:13 จากคุณ : แม่ของอ๊บ (obst) - [ 5 ส.ค. 51 01:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ถึง คห. 33 ที่เยอรมันมีกฏหมายใหม่ ที่ว่าห้ามขี่จักรยานฟังเพลง มีมานานหรือยังค่ะ แล้วใช้ทุกรัฐหรือยังค่ะ อยู่เยอรมันเหมือนกัน และก็ชอบขี่จักรยานฟังเพลงอ่ะ หุหุ จากคุณ : Jabangka - [ 5 ส.ค. 51 02:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ จากความเห็นของทุกๆคน แต่มันจะไม่เกิดเลย ถ้าตราบใดที่ผู้นำประเทศเป็นคนไม่ดี หรือไม่นำพาประเทศไปในทางที่ดี ดูอย่างแค่มีคนมาคัดค้านหรือขุดคุ้ยอะไร ก็หาว่ามาป่วนประเทศชาติ แล้วแบบนี้ใครจะกล้าทำอะไร เรียนมาดี ครอบครัวดี แต่อยู่ในสังคมไม่ดี ก็เท่านั้น จากคุณ : ลูกแม่มูล - [ 5 ส.ค. 51 21:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ที่ว่าคนไทย ไม่ "ชาตินิยม" นั้น คงไม่จริงเป็นแน่ เพราะอย่างเช่น กรณี เขาพระวิหาร ก็เห็นกันว่าเป็นอย่างไร แต่เป้นชาตินิยมแบบผิดๆ (หรือไงผมก็ไม่ทราบ ไม่ได้เรียนมาทางสังคมศาสตร์) แต่ที่สำคัญที่สุดคือ คนไทยไม่มีจิตสำนึกสาธารณะ ไม่มีจิตอาสา ไม่เห้นแก่ส่วนรวม ไม่มองกว้างมองยาว มองแค่แคบๆ สั้นๆ จากคุณ : g9h - [ 5 ส.ค. 51 23:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ไม่กี่วันก่อนเข้าไปอ่านนสพ.ไทยออนไลน์ฉบับหนึ่ง เสนอข่าวตำรวจจับเด็กอายุสิบห้าในข้อหาเข้าไปโพสท์เพลงลามกในเน็ท และกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินคดี ผลปรากฎว่ามีผู้คนโพสท์เข้ามาด่าตำรวจมากมายว่ามาจับเด็กทำไม ทีคนร้ายอื่นๆหนักกว่านี้ไม่ไปจับ ถ้าเป็นที่ต่างประเทศกฏหมายก็คือกฏหมายใช่หรือเปล่าผิดก็ว่ากันตามผิด ถ้าเป็นเด็กก็ส่งขึ้นศาลเด็กและเยาวชนถูกส่งไปอบรมนิสัยใช่ไหม ใครรู้ช่วยตอบที แต่ที่เมืองไทยพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สั่งสอนกันตั้งแต่เด็ก คิดว่าไม่เป็นไร เราจึงได้ผู้ใหญ่ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางคำสั่งสอนแบบผิดๆนั้นใช่หรือเปล่า แล้วจะโทษใครได้ถ้าผู้ใหญ่ในวันนี้ไม่ยอมทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ทุกสิ่งมันฝังรากลึกมาเนิ่นนาน ที่สำคัญคนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นว่าจะต้องไปแก้ไขอะไร อยู่อย่างนี้ก็แบบสบายๆอยู่แล้วด้วยความเคยชิน ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ อีกนิดว่าอยากเห็นทุกคนเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีๆค่ะ จากคุณ : A - [ 6 ส.ค. 51 01:37:01 A:208.106.36.200 X: TicketID:182890 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อยูอเมริกามาเกือบ 2 ปี ได้เรียนรู้เยอะเลยค่ะ เนื่องจากต้องอาศัยครอบครัวอเมริกันอยู่ และก็ทำงานเป็นออแพร์ คนอเมริกันกับคนไทยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ คนที่นี่เค้าสอนลูกเค้าให้อยู่ในกฏระเบียบจริงๆ เวลาตามใจเค้าก็จะตามใจ ไม่ตามใจไปทุกเรื่อง ให้ลูกนอนแยกกับพ่อแม่ตั้งแต่เด็กยังจำความไม่ได้ ให้เด็กได้ไปเรียน เล่นกับเด้กอื่นๆๆ ตีกัน กัดกันเค้าก็ลงโทษแบบมีเหตุมีผล เค้าเห็นคุณค่าของทรัพยากรมนุษย์ มาก่อน ตามด้วยชุมชน เด็กไทยพ่อแม่ตามใจ เด็กทำผิด พ่อแม่บางคนก็เข้าข้างเด็กตัวเอง สอนลูกแบบราชา ไม่ค่อยกล้าสั่งสอนลูกเพราะกลัวลูกจะเกลียด อมริกันดูเหมือนจะเห็นแก่ตัว อันนี้ยอมรับค่ะ เพราะเค้าถูกสอนมาว่าให้รักตัวเอง ดูแลตัวเอง ผลักดันตัวเองให้เป็นอย่างที่ตัวเองอยากเป็น พ่อแม่จะส่งเรียนจนถึง มัธยมปลาย แล้วก็เริ่มส่งลูกออกไปอยู่คนเดียว ให้เงิน ก้อนหนึ่ง เพื่อเป็นทุนให้ลูกไปทำไรต่างๆ เอง มีเพื่อน สองคน มาจากครอบครัวที่จน พ่อแม่ไล่ออกไปทำงาน ตั้งแต่อายุ 16 พอเรียนจบม.ปลาย ก็ให้เงิน ก้อนหนึ่ง เพื่อนคนแรก เอาไปเที่ยว แล้วก็สมัครเป็นทหาร เพราะเค้าส่งเรียน หลังจากจบทหาร 4 ปี คนนี้ตอนนี้เป็น Medical Engineering in LA. ส่วนอีกคน เรียนจบม.ปลาย รู้ว่าพ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนมหาลัย เค้าก็พยายามสอบหาทุน จนได้ทุนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนจบมหาลัย ตอนนี้เป็น Computer Engineering in Motorola company in Chicago. เค้าให้ความรู้แก่เราอย่างหนึ่งว่า ที่อเมริกา คุณอยากเป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากเป็น อยู่ที่คุณเลือก เค้ามีโอกาสให้กับประชากรของประเทศ แล้วก็ส่งเสริมให้ถึงที่สุด ภาษีที่เก็บจากคนทำงาน เค้าเก็บเยอะมาก เพื่อนดูแลคนสูงอายุ เด็ก และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจริงๆ ไม่เหมือนบ้านเรา คอรัปชั่นกันจริงกับเงินภาษีของประชาชน ถ้าคนไทยทุกคนดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ทำสิ่งรอบๆตัวเองให้ดีที่สุด ก่อนที่จะไปใส่ใจหรือตำหนิคนอื่น ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นในประชากรไทยอย่างแน่นอน นิสัยคนไทยชอบเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น ลืมมองหน้าที่ของตนเอง เลยทำให้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวเองได้รับความเดือดร้อน หนึ่งปัญหาจา หนึ่งคน เมื่อรวมหลายๆปัญหา ก็จะทำให้เกิดเป็นปัญหาของสังคม แล้วหวังให้คนที่เป็นผู้นำสังคมแก้ อย่าลืมว่าเค้าก็ไม่ได้ดีเลิศกว่าเราทุกอย่าง เค้าก็เป็นคนคนหนึ่งเหมือนเรา มีสมอง สองมือ สองเท้า เหมือนกัน ช่วยๆกันดูแลตัวเองให้ดีที่สุดนะคะ ตอนี้ดีใจมาก จะได้กลับบ้าน จะเอาสิ่งที่เรียนรู้ ดีและไม่ดี จากที่นี่ไปสั่งสอนลูกหลาน ให้ดูแลตัวเอง กินอยู่อย่างพอเพียง ไม่ไปเปรียบเทียบและก็ไม่เอาเปรียบใคร จากคุณ : dekdeur - [ 6 ส.ค. 51 04:10:17 A:24.136.3.141 X: TicketID:183634 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ไม่ต้องไปตามตูดฝรั่งหรอกค่ะ แถบๆบ้านเราก็มีคำสอนให้มนุษย์เจริญได้เช่นเดียวกันแต่เผอิญว่า คนไทยส่วนหนึ่งชอบตามฝรั่งกันแบบไม่ค่อยใช้สมอง สิ่งดีๆในบ้านเราทั้งที่ควรจะทำ ก็โดนละเลยไป อย่างเช่น วัฒนธรรมการเกรงใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เช่นถ้าคนเราจนไม่มีจะกิน อยากไปขโมยเงิน แต่ถ้าเราปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักคิดว่า ถ้าเป็นตัวเราถูกขโมยเงินบ้างจะเป็นยังไง และถ้าเราไปขโมยเงินเขา เขาจะเอาอะไรกิน ไปชอบสามี / ภรรยาชาวบ้าน อยากจิ๊กมาเป็นของตัว ก็ให้คิดเสียว่า ถ้าเป็นเราโดนบ้าง จะเป็นยังไง และแนวความคิดเช่นนี้ ยังสามารถปรับใช้ได้ในทุกกรณ๊ที่เราอาจจะทำอะไรที่ไปละเมิดคนอื่นเขา  เรียกว่าเป็น "หิริโอตัปปะ" ถ้ามนุษย์ในสังคมใดยึดมั่นความคิดนี่อย่างแนบแน่น สังคมนั้นคงไม่ต้องมีกฎหมายเลยด้วยซ้ำ เพราะมีความเป็นมนุษย์ที่เจริญแล้วโดยสมบูรณ์ กฎหมายมีไว้ใช้สำหรับคนค่ะ ไม่ใช่มนุษย์ แทนที่จะไปโทษกฎหมายบ้านเราว่าไม่เด็ดขาดเพียงอย่างเดียว สู้เปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองด้วยไม่ดีกว่าหรือ คิดถึงคนอื่นให้มาก กฎหมายเข้มแข็งใช่ว่าคนที่อยู่ภายใต้กฎหมายนั้นจะเป็นมนุษย์ทีพัฒนาแล้ว เพราะการที่คนไม่ทำผิดเพราะกลัวว่า "ตัวเอง" จะถูกลงโทษ ไม่ได้เกิดจากความสำนึกที่ว่า "คนอื่น" จะได้รับผลกระทบอะไรหากเรากระทำสิ่งนั้น จากคุณ : . (Friday13th) - [ 6 ส.ค. 51 12:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เคยไปเที่ยวแม่สอดและข้ามเรือไปฝั่งพม่า แม่น้ำตรงที่ข้ามเรือแคบมาก สามารถมองเห็นกันทั้ง 2 ฝั่ง  ฝั่งไทยไม่มีการเข้าแถว แย่งกันลงเรือ  ส่วนฝั่งพม่ามีการเข้าแถวรอลงเรืออย่างมีระเบียบ ทั้งๆที่คนที่ลงเรือทั้ง 2 ฝั่งเป็นคนไทยทั้งนั้น เป็นคนกลุ่มเดียวกันด้วย ครูสอนเด็กในโรงเรียนให้เข้าแถวให้เป็นระเบียบ  แต่ครูเองไม่ต้องเข้าแถว ถือสิทธิ์ฉันรีบ ไม่มีเวลา พ่อแม่ไปซื้อตั๋ว มีคนเข้าแถวยาวแล้ว ก็บอกลูกให้ไปแทรกแถวคนอื่นเขา คนไทยกวาดขยะออกจากบ้านตัวเอง ก็พอแล้ว ทิ้งไว้งั้นละ พ้นบ้านตัวเองแล้ว คนไทยเห็นเด็กทำผิด คิดในใจไม่ใช่ลูกเรา แล้วเฉย เด็กคิดไม่ใช่พ่อแม่เรา มาว่าเราไม่ได้นะ(พ่อแม่เราเองยังไม่ว่าเลย)    แต่ฝรั่งเห็นเด็กไม่ข้ามถนนตรงทางข้าม บอกให้เด็กข้ามกลับไป แล้วข้ามกลับมาใหม่ตรงทางข้าม (เห็นกะตาตัวเอง  เด็กก็ไม่โต้เถียงเลย) เด็กฝรั่งวัยรุ่นกลุ่มใหญ่มาหยิบของเราไป(บุหรี่ 1 แถว 20 ซอง)ด้วยความคึกคะนองแล้วนำไปแจกกัน   และคิดมาก่อนแล้วว่าคงเป็นเด็กกลุ่มนี้   เราตามไปเห็นด้วยความโมโห  ตรงเข้าไปเลย บอกว่าบุหรี่ของเรา เอาคืนมา ทุกคนคืนเราได้ครบหมดโดยดี ไม่โวย ไม่แกล้งด้วย  เมือได้ของกลับมาแล้ว ในใจคิดกลัว เด็กอาจกลับมาแกล้งเราก็ได้ เพราะต้องนั่งๆนอนๆในเรือทั้งคืน  แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  และเด็กยังหลบตาเราด้วยนะ เหมือนสำนึกผิด พ่อแม่ไทยตีลูกเราเพื่อประชดคนที่มาบอกว่าลูกเราทำผิด แล้วโอ้ลูกลับหลังคนที่มาบอก เรามักคิดว่าสอนลูก สอนเด็ก  แต่เราไม่เคยคิดสอนตัวเราเองสักนิดเลย กฏหมายไทยมีไว้ให้หาช่องโหว่รอดออกไป กฏหมายคนอื่นเขาเอาไว้ปฏิบัติตาม จากคุณ : MAOK - [ 6 ส.ค. 51 23:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 95 สดๆ ร้อนๆ น้องสาวโดนปรับไป 75 $ ข้อหาขับรถเร็วกว่ากำหนด ถามไปว่า ขับเท่าไร น้องบอก 44 แต่ กม.ห้ามเกิน 30 โดนเลย เศร้าเลย รายได้สัปดาห์ละ สองสามร้อย โดนปรับไปกว่าครึ่ง จำจนวันตายเลยล่ะ  ผมว่า ขับรถผ่าไฟแดง ไทยปรับประมาณ 5000-10000 บาท พร้อม ยึดใบขับขี่ หากจะทำใหม่ ต้อง อบรมและสอบใหม่ ให้ตำรวจได้ส่วนแบ่ง 10-20% แต่ต้องทำงานทุกวัน (ตรวจ ปรับ ทุกวัน) รอบรอง ไม่เกินสามเดือน ไม่มีกรณี ฝ่าไฟแดงล่ะ อยุ่แต่ วิสัยทัศน์ ผู้นำประเทศมาก ผมว่ากฏหมายไทย ควรต้องปรับปรุงให้เป็นกฏหมายที่ใช้ได้จริงๆ แล้วมีผู้ตรวจสอบ ว่ามีการปฏิบัติตามกฏหมายจริงๆ เพราะทุกวันนี้ กฏหมายเรามีเยอะมาก แต่ไม่มีหน่วยงานที่ ออกไปตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติจริงหรือไม่  (แต่แบบมี ใช้กฏหมายเพื่อผลประโยชน์ เก็บส่วยซะอีก) จากคุณ : Mine_Knight - [ 7 ส.ค. 51 11:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ค่านิยมคนไทย ทำอะไรแบบเซอๆแบบหลุดกรอบนี่รู้สึกเท่มาก แต่เมืองนอกเค้าหลุดกรอบกันทางความคิดไม่ใช่สามัญสำนึก จากคุณ : Leopaul - [ 7 ส.ค. 51 17:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ผมเห็นด้วยกับ คห.3 นะ (คห.อื่นๆ ยังไม่ได้อ่าน) สภาพอากาศหรือสภาพสังคมเป็นปัจจัยนึง ส่วนกฏหมาย และการบังคับใช้ข้อกฏหมายก็เป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกัน สภาพอากาศ - ในเมืองหนาว ถ้าทุกอย่างไม่จัดการให้เป็นระเบียบ บ้านเมืองก็วุ่นวายแน่นอนครับ ความหนาวและหิมะมันหนักหนากว่าฝนแยะนัก สภาพสังคม - ถ้าชีวิตมีความมั่นคง สังคมก็มั่นคง อีกอย่างนึงที่อยากกล่าวถึงก็คือสภาพสังคมที่เอื้อให้ผู้มีอิทธิพลยังคงอยู่ในอำนาจได้ อันนี้จะขอโยงไปถึงเรื่องกฏหมายด้วย กฏหมาย - ในบ้านเรากฏหมายลงโทษไม่รุนแรงเท่าที่ควร ถ้าผมจำไม่ผิด การต้มตุ๋นนี่ปรับไม่กี่ร้อยกี่พัน ถ้าปรับเป็นหมื่นเป็นแสน ผมว่าคงไม่มีใครกล้า นอกจากการลงโทษไม่รุนแรงแล้ว การบังคับใช้ก็ละเลยไปด้วย ก็ยิ่งไปกันใหญ่ นอกจากเรื่องกฏหมายแล้ว การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีความต่างๆ ในเมืองไทยก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยาก ในอเมริกามีการฟ้องร้องบริษัทใหญ่ต่างๆ ให้แก้หลักปฏิบัติหรือจ่ายค่าเสียหายมากๆ ได้ บริษัทอื่นๆ ก็จะเกรงกลัวกัน เรื่อง กม. บ้านเรานั้น กรณีล่าสุดที่ผมชอบมากคือจับคนขับรถที่เมาเหล้า ซึ่งบทลงโทษก็ไม่เลว ค่าปรับหรือค่าประกันตัวแพงไม่น้อย และต้องไปทำงานเพื่อสังคมด้วย เพื่อนผมโดนไปคนนึงบอกว่าเข็ดเลย เมาไม่ขับแล้ว ผมถือว่าได้ผลมากทีเดียว ตำรวจนี่มีส่วนแบ่งรึเปล่าผมไม่ทราบ แต่ถ้ามันจะมีก็ไม่เป็นไร ผมถือว่าเป็นส่วนช่วยให้พวกเขาตั้งใจทำงาน เก็บคนเมาหลังพวงมาลัยออกจากถนน ดีกว่าตั้งด่านไถเงินชาวบ้านขี่รถเครื่องหรือรถปิ๊กอัพเป็นไหนๆ อันล่างนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่รู้ว่ามีส่วนรึเปล่า ผมว่ากฏหมายในอเมริกานั้นศักดิ์สิทธ์เพราะว่าประเทศเขาเป็น Country of Immigrant ลูกเต้าเหล้าใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้รู้จักกัน ดังนั้นก็ค่อนข้างจะไม่โอนอ่อนกันง่ายๆ ไม่มีใครยอมใครว่างั้น เทียบกับในประเทศไทยที่ผู้มีอำนาจก็มีเส้นสายลากยาวไปได้ต่อไหนถึงไหน ประเด็นที่ จขกท เอ่ยมานั้นน่าสนใจมาก ผมเคยคิดอยู่หลายทีก็ไม่รู้ว่าคำตอบไหนเป็นปัจจัยหลักเสียที จากคุณ : Iron-Spider - [ 8 ส.ค. 51 05:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คงเพราะคนไทยเป็นคนรักสงบ และไม่อยากมีปัญหามาก ดังนั้นไม่แปลกที่เราจะเจอเรื่องแบบนี้ ขับรถผิดกฏ ฝ่าไฟแดง แซงในเลนที่ห้ามแซง --> ถ้าโดนเรียกก็ยัดเงินตำรวจ แทนที่จะรับใบสั่งไปจ่ายเงินที่สน. ก็เพราะกลัวเสียเวลา การเมือง วงวันมันกลายเป็นเรื่องปกติที่ต้องกินเล็ก กินน้อย กินตามน้ำ จนหลาย ๆ คนบอกว่า นักการเมืองมันก็ต้องกินแบบนี้แหละ ไม่ว่ากัน ชิน แต่ขอให้ทำงานเพื่อประเทศด้วยแล้วกัน อารายแบบนี้ นักการเมืองสมัยก่อน เริ่มจากผู้มีอำนาจในอำเภอ เลี้ยงนักเลง ไต่เต้าขึ้นมาเล่นการเมืองท้องถิ่น ก็เริ่มซื้อเสียง มีมือปืน พอได้รับเลือกเข้ามา ก็ต้องหาเงินกลับเข้ากระเป๋า หากำไรจากที่ลงทุนไป ---> ธุรกิจการเมือง คนแบบนี้พอเป็นใหญ่ เป็นโต ก็ยังเป็นแบบนี้ นักการเมืองปัจจุบันก็เป็นแบบนี้ นักเลง เจ้าพ่อ หรือนักการเมือง บางทีดูไม่ออก การศึกษาก็ส่วนนึง เคยลองคิดกันเล่น ๆ ว่า ถ้าเราคนในกรุงเทพ มีคนเอาเงินมาซื้อเสียง เราจะรับเงินไหม เพื่อนเราบอกว่า เอาดิ แต่ถามว่าจะเลือกไหม คำตอบคือ ไม่เลือก แต่แน่นอนถ้าเป็นต่างจังหวัดส่วนใหญ่เค้าเลือกตามเงินที่ได้นะ เพราะเค้ายังไม่รู้ว่าข้อเสียจริง ๆ ของการเลือกพวกซื้อเสียงมันคืออะไร นอกเรื่องแล้วแฮะ ขอโทษจ้าบ่นมากไปหน่อย จากคุณ : Netmafia - [ 8 ส.ค. 51 17:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 99 พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมหาราช " คนดี " "ในบ้านเมืองนั้น  มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดีให้คนดี  ได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้" พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 จากคุณ : พิจารณาให้ดี (Sunshine Sonata) - [ 16 ส.ค. 51 17:32:49 ]