Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน แปลงกายเป็นผู้ดี๊ผู้ดี ภาคสอง{แตกประเด็นจาก H6906885}

    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน แปลงกายเป็นผู้ดี๊ผู้ดี ภาคสอง
    Episode VII: Transformation to a Londoner (Part II)

    คุณอู๋เคยดูหนังฝรั่งอยู่เรื่องนึงค่ะ ในเรื่องผู้หญิงคนนึงขอให้แม่หมอทำเสน่ห์ให้ชายที่เธอหลงรักรักเธอคนเดียวและเธอเองยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ารัก ก่อนที่แม่หมอจะทำการแทงเข็มเข้าไปในหัวใจของนกพิราบ ซึ่งเป็นส่วนนึงของพิธีทำเสน่ห์ แม่หมอก็บอกผู้หญิงคนนั้นค่ะว่า “Be careful what you wish for” ตอนนั้นคุณอู๋ก็ค่อยไม่เข้าใจหรอกค่ะว่ามันแปลว่าอะไร สุดท้ายดูหนังจบถึงได้รู้ค่ะว่าผู้ชายคนนั้นมีด้านร้ายที่ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยรู้มาก่อน ถึงตอนนั้นมันก็สายไปเสียแล้วที่ผู้หญิงคนนี้จะถอนเสน่ห์ให้ชายคนนี้ไม่รักเธออีกต่อไป สิ่งที่คุณอู๋คิดได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือ ทุกอย่างในโลกนี้ที่เราเห็นว่าดีและอยากได้มากๆเนี่ย จริงๆแล้วมันก็มีด้านไม่ดีอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเวลาอยากได้อะไรให้เผื่อใจไว้บ้างว่าอาจจะมีสิ่งไม่ดีติดมาด้วย การมาเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีก็ไม่ต่างกันค่ะ ฟังครั้งแรกมันดูดี๊ดี ฟังแล้วใครๆก็อยากมาเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี แต่พอคุณอู๋ได้มาเป็นจริงๆก็ได้ค้นพบค่ะว่ามันก็มีด้านที่ไม่พึงปรารถนาเหมือนกันนะคะ

    จากความเดิมตอนที่แล้วแค่การกินข้าวรอบแรกแบบผู้ดี๊ผู้ดีกับเพื่อนร่วมงานก็ทำเอาคุณอู๋ปวดหัวไปยกใหญ่เลย หลังจากกลับเข้าไปเทรนต่ออีกราวๆสองชั่วโมงสมองคุณอู๋ก็แทบแตกค่ะเพราะเค้าเทรนการอ่านงบการเงิน ซวยอีกแล้วค่ะ ก็คุณอู๋ดั๊นเป็นคนเดียวจบด้านบัญชี เค้าเลยให้คุณอู๋อธิบายค่ะ อารมณ์ตอนนั้นบอกได้อย่างเดียวว่า “สลด” ค่ะเพราะคุณอู๋เนี่ยโง่บัญชีมากๆ ในขณะที่สมองคุณอู๋ใกล้ระเบิดอยู่นั่นเองเสียงกริ่งหมดเวลาก็ช่วยชีวิตค่ะ เค้าบอกว่าถึงเวลาพักดื่มน้ำชา ว้าว ดื่มชาอังกฤษเป็นไงเนี่ย คุณอู๋ตื่นเต้นค่ะ...

    ก่อนมาที่นี่คุณอู๋เคยได้ยินค่ะว่าที่เมืองพวกผู้ดีน่ะเค้าชอบดื่มชาตอนบ่ายกัน เรียกว่า Afternoon tea ตอนนั้นฟังแล้วมันดูไฮโซ้ไฮโซไงไม่รู้ค่ะ ตอนคุณอู๋อยู่เมืองไทยน่ะเคยได้ยินโฆษณาของชายี่ห้อนึงของอังกฤษตามวิทยุบ่อยๆ บอกว่าดื่มชานี้แล้วรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงระฆังจากบิ๊กเบนมาแต่ไกล ทำให้ดูซะหรูเชียว คุณอู๋ก็เลยเริ่มตกจริตนิดหน่อยอีกแล้วค่ะว่า เอ ชาตอนบ่ายเมืองผู้ดีเนี่ย มันดื่มกันยังไงหนอ อะไรไฮโซๆเนี่ยคุณอู๋หวั่นใจเสมอเลยค่ะ กลัวไปทำเสร่อไม่ใช่ไรหรอก แต่แล้วพอไปเห็นเพื่อนร่วมงานดื่มกันจริงๆ... อ้าว ปัดโธ่ ไม่เห็นมันจะไฮโซอะไรเลยค่ะคุณนักอ่านคอลัมน์ขา ก็แค่เอาถุงชาใส่แก้วเติมน้ำร้อน เติมนมสด เติมน้ำตาลนิดหน่อย รึถ้าไม่ชอบนมไม่ต้องใส่แต่ใส่มะนาวหนึ่งเสี้ยวลงไป จากนั้นก็ดื่มชากับขนมเค้กรึบิสกิต แค่นี้เองค่ะ ไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย ที่สำคัญเนี่ยมันไม่ได้อร่อยด้วย ให้คุณอู๋เลือกก็เลือกดื่มชาเย็นใส่นมตามรถเข็นบ้านเรายังอร่อยกว่าอีกจริงๆนะคะ สรุปค่ะว่า คุณอู๋ขอย้ำว่าชาตอนบ่ายของชาวเมืองผู้ดีเนี่ยไม่ได้ไฮโซอะไรเล้ย เพราะฉะนั้นถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์ไปได้ยินใครพูดว่าชั้น(กู)ไปดื่มชาตอนบ่ายที่อังกฤษมา ไม่ต้องน้อยใจค่ะว่าไม่เคย เพราะคุณนักอ่านคอลัมน์เนี่ยไม่พลาดอะไรเลยจริงๆค่ะ

    เนื่องจากว่าคุณอู๋เป็นคนชอบของฟรีมากโดยกำเนิดถึงจะไม่ชอบดื่มชาเมืองผู้ดีคุณอู๋ก็ซัดขนมเค้กไม่อั้น (เอาให้คุ้มค่ะ) ด้วยความงกนี่เองขณะที่มัวแต่วุ่นกินเค้กฟรีซะเพลินเลยลืมมองรอบตัวค่ะว่าเพื่อนร่วมงานน่ะเค้าหายไปกันหมดแล้ว กว่าจะรู้ตัวคุณอู๋ก็ตกใจมากค่ะ อ้าว หายไปไหนกันหมดเนี่ย คุณอู๋มองดูนาฬิกา อะไรกันหว่า ยังไม่ถึงบ่ายสองเลย ทำไมเค้าฟิตจังกลับไปห้องเทรนแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่อิ่มคุณอู๋ก็กลับไปที่ห้องเทรนตามเค้าค่ะ ไปถึง พระเจ้าช่วย เค้าเริ่มสอนกันไปแล้วค๊า ตอนก่อนออกไปดื่มชาเค้าบอกว่าให้กลับมาเจอกันตอนบ่ายสอง แต่ที่ไหนได้ คุณอู๋ฟังผิดค่ะ เค้าบอกว่าควอเตอร์ทู (Quarter to) คุณอู๋ฟังตอนแรกก็ไม่ชัวร์หรอกค่ะแต่เดาว่าเจอกันตอนบ่ายสอง แต่ปัดโธ่! เค้าหมายถึงสิบห้านาทีก่อนบ่ายสองไม่ใช่บ่ายสอง เฮ้อ เสร่ออีกแล้วค่ะ ระบบการอ่านนาฬิกาเมืองผู้ดีเนี่ยทำเอาปวดหัวช่วงแรกๆอยู่เหมือนกันเลยค่ะ ซับซ้อนด้วย เช่น ถ้าตอนที่เราพูดอยู่น่ะเป็นเวลาบ่ายสาม แล้วจะบอกว่าเจอกันสามโมงห้าสิบเค้าก็จะบอกว่า Ten to ไม่เป็นประโยคสมบูรณ์ แต่ว่าถ้าจะบอกว่าเจอกันสี่โมงห้าสิบเนี่ยเค้าจะพูดเต็มค่ะว่า Ten to four เฮ้อ ให้ตายเถอะ คุณอู๋ไม่เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมน๊าพวกผู้ดีเนี่ยชอบทำให้เรื่องง่ายๆอย่างเช่นการอ่านเวลาเนี่ยกลายเป็นเรื่องยากโดยไม่จำเป็นเลยจริงๆ

    เล่ากันต่อเรื่องการเทรนนะคะ ที่นี่เค้าเน้นให้คนเข้าเทรนพูดมากกว่าคนสอน ก็เหมือนการเรียนเมืองนอกทั่วๆไปที่เราเห็นในหนังน่ะค่ะที่เค้าฝึกให้นักเรียนพูดเยอะๆ คุณอู๋ก็พอโชคดีอยู่หน่อยค่ะว่าเคยไปเรียนที่เมืองลุงแซมเลยมีประสบการณ์ด้านนี้มาบ้างแล้ว แต่ว่าการเรียนในมหาลัยกับการเทรนเพื่อการทำงานเนี่ยคุณอู๋ก็เพิ่งจะรู้ค่ะว่าความกดดันต่างกันราวฟ้ากับดินเลย ตอนเรียนในมหาลัย พวกฝรั่งเนี่ยก็แบบยกมือตอบกับพรึ้บเลย ส่วนเด็กหัวดำต่างชาตินี่ก็จะบ้าใบ้ถือใยบัวซะเป็นส่วนใหญ่แต่อาจารย์เค้าก็ไม่ค่อยว่าอะไรหรอกเพราะเค้าเข้าใจว่าพูดไม่ค่อยได้กัน แต่สำหรับตอนเทรนเข้าทำงานเนี่ยนะคะ ถ้าไม่อ้าปากพูดกลัวดอกพิกุลร่วงเนี่ย ขอบอกค่ะว่าสบักสบอมแน่ๆเพราะจะรู้สึกกดดันเอามากๆ ใครไม่พูดเค้าจะจิกถามรายตัวเลยนะคะ ผ่านเทรนไปได้วันสองวันเค้าก็จะมีประเมินผลตัวต่อตัว เนื่องจากคุณอู๋ก็ยังติดนิสัยเจี๋ยมเจี๊ยมไม่พูดไม่จา คนสอนเค้าเลยบอกว่าให้พูดให้มากขึ้น จากนั้นเองทุกชั่วโมงเลยเค้าก็จะจิกชื่อคุณอู๋ให้ตอบ ขอบอกค่ะว่า เหนื่อยสมองมากๆ คุณอู๋ไปแอบได้ยินเพื่อนฝรั่งเค้าพูดกันค่ะว่าเทรนรอบนี้เหนื่อยเหลือเกิน คุณอู๋คิดในใจ ถ้าฝรั่งมันเหนื่อยเนี่ยไทยๆอย่างคุณอู๋เนี่ยเหนื่อยคูณสามเพราะไหนจะต้องปรับหูให้เข้ากับสำเนียงต่างดาวของแต่ละคน ทำการแปลในสมองง่อยๆของคุณอู๋ (ผสมการเดาซะส่วนใหญ่) ก็เหนื่อยมากแล้ว ยังต้องมาคิดคำตอบ แปลจากไทยเป็นอังกฤษ ส่งผ่านโสตประสาทผ่านลิ้นและปากอีก ถึงห้องนอนเนี่ยสลบเลยค่ะ แถมเวลาเทรนที่นี่นะคะ ยังกะเทรนทหารแน่ะค่ะ มันเทรนกันตั้งแต่กะแปดโมงเช้าถึงทุ่มเลย (ใช้แรงงานคุ้มมากๆ) แต่ใช่ว่าหลังทุ่มจะได้พักนะค๊า ไม่มีซะหรอก ไอ้คันทรี่คลับหรูสไตล์อังกฤษเนี่ย ขอบอกค่ะว่าเหมือนเนยแข็งเอาไว้ล่อหนูจริงๆ หนูโง่อย่างคุณอู๋ก็ติดกับซะด้วยสิ ตอนแรกอุตส่าห์ตื่นเต้นว่าจะได้ไปเที่ยวชมหอคอยและทำตัวไฮโซไปลองเล่นคริ๊กเก็ตรึเข้าห้องเซาน์น่าเสริมสวย แต่จริงๆแล้วสองอาทิตย์ที่เทรนเนี่ยไม่มีเวลาได้ไปเลยค๊า พอเลิกทุ่มนึงเค้าให้พักก็จริงแต่ให้มาทานข้าวตอนสองทุ่มค่ะ แล้วไอ้การทานข้าวเย็นนี่ก็นรกพอกันเลย ลองอ่านกันต่อนะคะว่าทำไม...

    ที่บ้านเราเวลาทานข้าวถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายเพราะคุยเรื่องสัพเพเหระ แต่เวลาทานข้าวกับที่ทำงานที่เมืองผู้ดีเนี่ยเค้าถือว่าเป็นเวลาทองของการขายตัวค่ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะว่าคุณอู๋น่ะพูดจาหยาบคาย แต่เรื่องของเรื่องก็คือช่วงทานข้าวเนี่ยเพื่อนร่วมงานเค้าแข่งกันพูดเพื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จักน่ะค่ะ เรียกกันให้เพราะกว่าการขายตัวก็คือการเน็ตเเวิร์คกิ้ง จะว่าไปมันก็เป็นส่วนนึงของการเมืองในออฟฟิสน่ะค่ะ คนไหนที่คนรู้จักเยอะเนี่ยเค้าว่าเจ๋ง ฝรั่งบางคนเนี่ยขายตัวกันเก่งมากค่ะพ่นน้ำลายตั้งกะยังไม่ได้สั่งอาหารถึงลุกออกจากโต๊ะเลย เหนียมๆอายๆอย่างคุณอู๋ช่วงแรกๆเนี่ยกลายเป็นตัวอินวิสิเบิ้ลที่ไม่มีใครมองเห็นค่ะ คุณอู๋เองก็พยายามพูดนะคะแต่ก็พบว่ายากมากๆที่จะแย่งฝรั่งพูด เพราะแค่ฟังยังไม่ทันเลย สรุปก็คือคุณอู๋เนี่ย นั่งเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ค่ะ อยากลุกหนีก็ไม่ได้ การนั่งเฉยๆฟังคนอื่นพูดสองสามชั่วโมงเนี่ย มันโคตรทรมานอึดอัดและเครียดด้วยจริงๆนะคะ แถมพวกผู้ดีเนี่ยกินกันเอื่อยๆมากๆค่ะ ให้ตายเถอะ ยังกะกระบือเคี้ยวเอื้องแน่ะ เริ่มกินสองทุ่มเนี่ยบางทีเสร็จเกือบห้าทุ่มเที่ยงคืนโน่น คุณอู๋เนี่ยตาปรือจะหลับอยู่แล้วค่ะ

    อ่านถึงตอนนี้คุณนักอ่านคอลัมน์คงพอเห็นแล้วนะคะว่าการมาเทรนเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีเนี่ยใช่ว่าสวยหรูเริ้ดไฮโซเหมือนที่คิดเอาไว้ตอนแรก ตอนหน้ามาติดตามกันว่ามีอะไรบ้างรอคุณอู๋อยู่ที่เฮดควอเตอร์สุดหรูใจกลางเมืองลอนดอนนะค๊า

    คุณอู๋ (รายงานพิเศษจากเกาะ Milos ประเทศกรีซค่ะ)


    ถามคุณอู๋ (Ask Nissy)
    Q: ทำงานอยู่เมืองไทยได้สองปีแล้วค่ะแล้วกำลังจะหาที่เรียนต่อโทที่เมืองนอก เรียนจบแล้วอยากโกอินเตอร์แบบคุณอู๋บ้างเลยอยากทราบว่าการเข้าเรียนท๊อบยู (มหาลัยติดอันดับ) จะช่วยให้หางานออฟฟิสเมืองนอกได้รึเปล่าคะ (จาก ผัดกระเพรา)

    A: เมื่อก่อนคุณอู๋ก็คิดค่ะว่าการเข้าท๊อบยูจะช่วยให้หางานทำเมืองนอกได้ คุณอู๋เองก็อยากเข้าท๊อบยูค่ะแต่ก็ไม่ได้เข้า เพื่อนๆคนไทยหลายคนที่รู้จักและได้งานที่ออฟฟิสที่เมืองนอกก็ไม่ได้จบท๊อบยูเหมือนกัน คุณอู๋คิดว่าการเรียนท๊อบยูช่วยได้มากตอนสกรีนรอบแรกที่ดูใบสมัคร แต่พอถึงรอบสัมภาษณ์เนี่ยก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา (และดวง) เป็นส่วนใหญ่ค่ะ ดังนั้นคุณอู๋คิดว่าการเข้าเรียนท๊อบยูไม่ใช่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการได้งานที่เมืองนอก ถ้าเข้าได้ก็ดีค่ะเพราะช่วยได้เยอะเลยแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้การันตีค่ะว่าจะได้งานทำ
    ป.ล.ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์คนไหนมีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ ns_nissy@yahoo.com ได้นะคะ จะนำคำถามมาตอบเรื่อยๆค่ะ

    จากคุณ : คุณอู๋ - [ 21 ส.ค. 51 03:36:14 A:86.135.189.224 X: TicketID:184548 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom