ความคิดเห็นที่ 1 คุณเตรียมเสริชเรื่องทำนองนี้ในห้องนี้นะ รวมทั้งกระทู้นี้ด้วย แล้วเอาไปให้พี่อออ่าน ก่อนจะสาย จากคุณ : Year after Year - [ 22 ส.ค. 51 16:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องอย่างงี้โดนหลอกก็เยอะ ใครเจอดีก็โชคดีไป แต่จะมีสักกี่คนเชียว 1 ในหมื่นหรือแสนนั่นแหล่ะคะ บอกให้ระวังไว้บ้างก็ดีนะคะ เราทำได้ก็แค่เตือน จากคุณ : Specialmiyu - [ 22 ส.ค. 51 16:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พี่นีขา อ่านวันเดอร์ฟูลโปรเจคของพี่นีแล้ว  หนูอยากไปอยู่เยอรมันด้วยง่ะ กลับมาหนูต้องรวยแน่ๆ เรย ไปถึงที่โน่นแร้ว หนูคงไม่ต้องทำงานหนัก วันๆ แค่นอนอย่างเดียว ซ่องที่ขายบริการ  เอ๊ย! บ้านรวยๆ ของพี่นีอยู่เมืองหนายคะ หนูขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่นีด้วยคน นะค้า แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 19:25:51 จากคุณ : จะโดนไม๊นี่ (โจ๊กหมูไม่เอาชูรส) - [ 22 ส.ค. 51 16:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ อ่านแล้วนี่ เป็นจริงดังที่คคห.ต่างๆข้างบนว่านั่นหล่ะคะ ตัวดิฉันเองอยู่ที่นี่ ได้ยินเรื่องทำนองนี้มาเยอะมาก ยังคิดเลยว่าคนไทยด้วยกันไม่น่าหลอกกันเองเลย แต่ว่าก็ไม่รู้จะห้ามคนที่ทำนาบนหลังคนอื่นพวกนี้ยังไง เพราะคนที่อยากมาเขาก็เชื่อคนนั้นซะเต็มที่ เราไปเอ่ยปากอะไร พลอยจะว่าเราว่าขี้อิจฉา สรุปแล้วก็เตือนเขาได้นะคะ แต่คงต้องแล้วแต่การตัดสินใจของเขาเอง เราเองบอกได้คำเดียวว่า บ้านพักหญิงที่นี่ค่อนข้างเต็มแล้วนะคะ และทุกคนก็ไม่ได้มาสภาพดีดีด้วยสิ เหอๆ (อันนี้คนที่รู้จักกันที่นี่เล่าให้ฟังค่ะ) จากคุณ : saren - [ 22 ส.ค. 51 16:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนไทยด้วยกันนี่แหละตัวดี อาศัยที่ไว้ใจ หลอกพาไปขายได้ง่ายขึ้น รู้หน้าไม่รู้ใจ อ่านมาเยอะแล้วเคส แบบนี้ ไหนจะเคส ที่ไม่มีใครเคยโพส ที่ไหนอีก ไม่รู้กี่ราย ต่อกี่รายที่ต้องตกเป็นเหยื่อ พวกค้ามนุษย์ จากคุณ : Blomst - [ 22 ส.ค. 51 17:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กลัวeeพี่นีจะหลอกไปให้เพื่อนผัวฝรั่งแกน่ะสิ เป็นแม่เล้าล่ะเหว้ากันซื่อๆ ยิ่งพูดภาษาเยอรมันไม่ได้ หลอกง่ายแบบนี้แหละเหยื่ออันโอชะเขาล่ะ ไปถึงหนังสือหนังหาอ่านไม่ออก พูดไม่ได้ โดนเขายึดพาสปอร์ตไปแล้วทีนี้จะยุ่ง ดีไม่ดีโดนบังคับให้รับแขก จากเป็นช่างทำผมมีชีวิตเรียบง่ายไม่เดือดร้อนที่เมืองไทยจะได้เป็นโสเภณีข้ามชาติกันเลยทีนี้ จะหาว่าพูดรุนแรงก็เถอะ จะโดนอุ้มความเห็นก็ช่าง ข่าวมีออกโครมๆที่เมืองไทย ล่าสุดที่อังกฤษไงที่ตำรวจเขาจับได้ว่าเป็นขบวนการพาผู้หญิงไปขายตัว ท่าทางจะลืมแล้วล่ะสิ  เขาจับได้จะอ้างว่าถูกหลอกมาเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากฟังแล้ว ไปรอวันโดนจับให้เขาดูถูกดูแคลนประเทศไทยและผู้หญิงไทยหนักเข้าไปอีก ไม่ได้ปัญญาอ่อนน่าจะรู้ว่ามันไม่ง่ายดายขนาดนั้น ยิ่งตัวเคยหย่าด้วยแล้วน่าจะเข้าใจกระบวนการเลือกคู่และการครองคู่ให้ประสบความสำเร็จมันยากง่ายขนาดไหน เงินน่ะใครๆก็อยากได้แต่ไม่ใช่โง่ให้เขาหลอกเพราะเห็นแก่ได้ ที่จะไปนี่หน้าเงินแท้ๆไม่เห็นแก่ลูก เดี๋ยวเถอะไปตกระกำลำบากขี้คร้านจะคลานไปหาศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงไทยที่โน่น ไปเป็นภาระเขาอีก ทีแบบนี้ล่ะไม่คิด...อ่านเจอแล้วเซ็งผู้หญิงประเภทนี้มากๆ! แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 17:37:43 จากคุณ : Stila is Style - [ 22 ส.ค. 51 17:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นเรื่องของจขกทเอง จะแนะนำว่าไปโลด ไปลองดูค่ะ ถ้าเป็นเรื่องของคนอื่น จะแนะนำว่า อย่าไปยุ่งเขาเลย เหนื่อยเปล่า เพราะเขาไม่เชื่อคุณหรอก จากคุณ : ตาน - [ 22 ส.ค. 51 17:40:43 A:78.20.221.246 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยอ่านเรื่องแบบนี้น่ะค่ะ จากบล๊อคของท่านนึง เขียนเล่าเรื่องตัวเองไว้ แบบเดียวกับที่จขกท เล่ามาน่ะค่ะ แบบว่า พอไปแล้วก้ต้องลองไปอยู่กับฝรั่งมากหน้าหลายตาแบบถ้าอยู่ได้ก้อยู่ อยู่ไม่ได้ต้องหาคนใหม่ ฟังแล้วเปลืองตัวน่ะค่ะ แต่เธอคนนั้นพยายามอยู่ให้ได้กับชายคนแรกที่ได้เจอน่ะค่ะ รู้สึกคนพาไปได้ค่านายหน้าจากทางฝรั่งด้วยน่ะค่ะ แล้วก้ได้เงินจากคนไทยด้วย ได้ 2 ต่อเลย น่าเป็นห่วงค่ะ แต่ก้อยู่ที่พี่นีน่ะค่ะ จากคุณ : Papayahanaga - [ 22 ส.ค. 51 17:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไปบอกเพื่อนคุณว่า ใช้สมองคิดหน่อย ว่าของที่มันได้มาง่ายๆ แบบนั้น มันเป็นจริงได้แค่ไหน ถ้ามันง่ายจริงๆ แบบนั้น ป่านนี้คงไม่มีข่าวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมค้าทาส ค้ากาม ของบ้านเรา ที่มันลือกระ์ฉ่อน เป็นที่น่ารังเกียจ น่าดูแคลนในหมู่คนต่างชาติหรอก อย่าโลภหรือฝันหวาน ไปหน่อยเลย ไม่งั้นจะไม่แคล้วโดนหลอกไปเป็นทาสทำงานค้่ากามที่เยอรมันแน่ๆ เิงิน สองแสนคงเป็นค่าใช้จ่ายที่พี่นีคงขอเก็บไปหมดเลยเอาไว้เป็นค่้าำดำเนินการ สรุปพี่ออคงต้องเอาเงินไปให้พี่นีเก็บไป แล้วคงไม่ได้คืน พาสปอร์ตคงโดนเก็บโดนยึด ต้องทำงานเป็นทาส เหมือนหนังไทยเรื่อง หลงไฟ สรุป อย่าโลภ เดี๋ยวจะตกนรกทั้งเป็น จากคุณ : คำเตือน - [ 22 ส.ค. 51 18:05:12 A:58.169.137.85 X: TicketID:083310 ]

ความคิดเห็นที่ 10 @คุณโจ๊กหมู งานสบายนะคะ นอนทำ ตาดูเพดาน คุณจขกทคะ เอาเป็นว่า 99%  จะถูกหลอกค่ะ หวังว่า วีซ่่า ของพี่ออจะไม่ผ่านนะคะ เพื่อพี่ออเองค่ะ และหวังอีกว่าสามีของพี่นีจะถูกแบลกค์ลิสในเร็วๆวันนี้ น่าเสียดายว่าคดีค้ามนุษย์ที่์เยอรมันติดคุกไม่นาน และศาลตัดสินได้ลำบากว่าค้ามนุษย์ถ้าผู้หญิงมีอาชีพขายบริการมาก่อน ส่วนใหญ่จะโดนแค่กักขังอิสระภาพ น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะมนุษย์เราจะถูกขายได้ครั้งเดียว เมื่อบุคคลนั้นได้เคยขายตัวเองแล้ว ใครก็จะขายเขาอีกไม่ได้ คุณรู้ไหมว่านักสังคมสงเคราะห์คนไทยที่นี่ทำงานหนักแค่ไหน ้ จากคุณ : frechdachs - [ 22 ส.ค. 51 18:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผู้ชายไทยไม่ดีหรือครับ ต้องไปหาถึงเยอรมันแน่ะ น่าน้อยใจนัก จากคุณ : shusei - [ 22 ส.ค. 51 18:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านจบแล้วก็ เฮ้อ ไป สองเฮ้อ เรื่องแบบนี้ก็มีบ่อย ๆ ทั้งในทีวี นิตยสาร อินเตอร์เน็ต แต่คนบางกลุ่มก็เหมือนชอบหลอกตัวเองว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับตัว ได้แต่ภาวนาขอให้พระคุ้มครองละกันนะคะ จากคุณ : beebah - [ 22 ส.ค. 51 19:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 @คุณโจ๊กหมู งานสบายนะคะ นอนทำ ตาดูเพดาน ค่ะคุณ  frechdachs  งานสบาย ในกรณีถ้าคุณ ออ เธอโชคร้ายที่สุด คือถูกหลอกไปบังคับขายบริการทางเพศ ต้องนอนหงายดูเพดาน นอนคว่ำดูหมอน  นอน ... สารพัด (ไม่กล้าเขียนเดี๋ยวโดนอุ้มคอมเม้นท์) ทั้งกลางวัน กลางคืน แต่ไม่ได้หลับแบบชาวบ้านชาวเมืองเขาค่ะ  ที่สำคัญคือเปลี่ยนรูมเมทชาย  ทุกๆ ชั่วโมง เยอรมันเป็นประเทศกลุ่มเสียงกับการถูกหลอกมากประเทศหนึ่งในยุโรป ถ้าเธอโชคร้ายธรรมดา  ก็จะเจอหลอกให้แต่งงาน เป็นเมีย เป็นคนใช้ แล้วก็ทิ้งทีหลัง โดยไม่ได้อะไร ถ้าโชคดีจริงๆ  เธอก็จะได้สามีที่ดี อย่างที่เธอต้องการ แต่โอกาสที่เธอจะได้ผู้ชายดี  เธอซื้อหวย 2 ตัวยังมีโอกาสถูกเลขท้ายง่ายกว่า ที่แน่ๆ คือ เงินสองแสนเธอต้องจ่ายให้ คุณพี่นี นายหน้าหาผู้หญิงเห็นๆ กันจะจะอยู่แล้ว สาธุ พ่อแก้ว แม่แก้วช่วยด้วย  อย่าให้วีซ่าเยอรมันเธอผ่านเลย แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 19:24:01 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 19:23:30 จากคุณ : โจ๊กหมูไม่เอาชูรส - [ 22 ส.ค. 51 19:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผู้ชายเยอรมันที่ดี ๆ หรือผู้ชายดี ๆ ชาติไหนก็ตาม เวลาเลือกผู้หญิงเพื่อมาแต่งงานเป็นแม่ของลูก คงไม่เลือกง่าย ๆ แค่ดูรูปหรอกค่ะ  มีมากมายที่หลอกผู้หญิงไทยให้มาอยู่ด้วยสองสามเดือนด้วยวีซ่าเชงเก้น หรือมาวีซ่าเรียนภาษา ซึ่งอยู่ได้นานกว่าเชงเก้น สาวไทยก็ดีใจนึกว่าถูกแจ๊คพ็อต วาดฝันวิมานในอากาศไว้สวยหรูว่าจะได้ไปเมืองนอก ที่ไหนได้ พอผู้ชายเบื่อเค้าก็เขี่ยทิ้ง แล้วไปหลอกผู้หญิงไทยคนใหม่มา  หรือบางคนอยากแต่งงานกับหญิงไทยเพราะอยากมีคนปรนนิบัติรับใช้ หรือหาคนช่วยดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา (ค่าจ้างพยาบาลมาดูแลพิเศษที่นี่แพงมาก) พอแต่งไปสาวไทยก็เป็นประดุจดังคนรับใช้ แถมยังต้องออกไปทำงานงก ๆ นอกบ้านอีก เงินที่มีโชว์ญาติพี่น้องเวลากลับเมืองไทยก็เป็นเงินที่ตัวเองต้องไปทำงานหามาเอง แต่คุยให้คนที่อยู่เมืองไทยว่าสามีให้ตังค์เท่าโน้นเท่านี้  หรือชายเยอรมันวัยดึกบางคนเหงาเปล่าเปลี่ยว อยากได้คนมาอยู่เป็นเพื่อน จึงไปหาสาวไทยที่ยังสาวมาแต่งงาน เมื่ออยู่ด้วยกันสามีวัยดึกห้ามภรรยาไทยไม่ให้ทำงาน ไม่ให้ออกไปพบปะคนอื่นโดยไม่จำเป็น เพราะสามีเป็นพวกชอบให้ภรรยาอยู่ใต้บังคับบัญชา และกลัวภรรยาสาวจะได้เจอชายอื่นที่หนุ่มกว่า ภรรยาเลยต้องนั่งจับเจ่าอยู่แต่ในบ้าน ชีวิตห่อเหี่ยวยิ่งนักเหมือนนกในกรงทอง  เรื่องราวทำนองนี้มีมากมายที่ http://www.schau-thai.de/forum ค่ะ  ในกรณีคนรู้จักของจขกท. เราว่าบอกไปเค้าคงไม่เชื่ออยู่ดีค่ะ เพราะแกคงได้ยินได้ฟังมามากว่าแต่งงานกับฝรั่งแล้วชีวิตจะสบาย เลยอยากเป็นแบบนั้นบ้าง จากคุณ : Sonnenschein - [ 22 ส.ค. 51 19:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โหยยยยย หลงเป็นเหยื่อพี่นีซะแร้วหละ พี่ออเนี่ย คนอยากไปห้ามยังไงก็ห้ามไม่ฟังหรอกค่ะ นอกจากว่า วีซ่าไม่ผ่านถึงจะหยุดความฝันพี่ออได้ เฮ้อ.... จากคุณ : South East Bangkok - [ 22 ส.ค. 51 19:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านเรื่องราวแล้ว เจ้าของกระทู้คงห้ามพี่นีไม่ได้แล้วค่ะ ยิ่งห้ามยิ่งยุ เดี๋ยวจะพาลหาว่าอิจฉากลัวจะได้ดีกว่าเค้าค่ะ  เรื่องแบบนี้ไม่เจอเองก็ไม่รู้ค่ะ....ให้พี่นีไปโล๊ดดดดค่ะ   กรรใครกรรมมัน ที่บอกแบบนี้เพราะเคยมีประสบการณ์เตือนคนรู้จักกันมาแล้วค่ะ สุดท้ายเขาก็หนีตายกลับมาเอาชีวิตแทบไม่รอด เสียงาน เสียบ้าน เสียรถ และกลับมาก็เหมือนตายทั้งเป็นค่ะ. อยากจะร้องอุทานออกมาดังๆ คุณพระช่วย..!  คนแบบนี้ อาชีพนี้ มันมีตัวตายตัวแทนด้วยเหรอนี่ เรารู้จักพี่ ป.(เรียกชื่อย่อแล้วกันค่ะ) เป็นคนบ้านเดียวกับพี่สะใภ้ขอเรา ซึ่งเป็น คน จ.สกลนคร อ.สว่างแดนดิน ทำอาชีพเดียวกับ พี่ออเลยค่ะพฤติกรรมเหมือนกันเปี๊ยบบค่ะ คนที่พี่ ป.หลอกไปไม่ไช่ใครที่ไหน ก็คนบ้านเดียวกันกับพี่ป.นั่นแหละค่ะ พี่ป.มีสามีเยอรมันค่ะ พี่ป. จะทำวีซ่าให้แล้วก็พาไปเก็บไว้ที่บ้าน และลงประกาศหาคู่ที่นั่นใน น.ส.พ ,วารสารของเยอรมัน  ในระหว่างที่รอ ก็จะทำงานขายตัวไปด้วย โดยพี่ป.จะหักเงิน% จากการทำงานอีก ต้องจ่ายให้พี่ป.ค่าหัว 6หมื่นบาท+ ค่าตั๋วเครื่องบิน+ค่าทำวีซ่า 3 รายการนี้ จ่ายก่อนเดินทางค่ะ พอไปถึงก็จ่าย ค่ากินอยู่อีกต่างหาก  บางคนโชคดีก็ได้แต่งงานกับทหารแก่ๆ และก็มีอีกหลายๆคนไม่ได้แต่งกลับเมืองไทยพร้อมโรคร้าย เพราะต้องขายตัวกว่าจะใช้หนี้หมดและมีเงินซื้อตั๋วกลับค่ะ....คนที่กลับมาจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็อายที่จะเล่าค่ะ พี่ป. ทำแบบนี้หลายๆปีติดต่อกัน จนมี อพาสเม๊นท์(สงสัยสะกดผิดแน่ๆ) ใหญ่โตที่กรุงเทพหลายๆที่.... ปัจจุบัน เลิกกับสามีคนเยอรมัน มีสามีใหม่อยู่ที่อเมริกาแล้วค่ะ  โชคดีที่อเมริกาเข้มงวดกว่า ไม่งั้นพี่แกมีรายได้จากเหยื่อหญิงไทยอีก....เราเคยเจอพี่ป.หลายๆครั้งที่บ้านพี่สะใภ้ พี่ป.ให้เหตุผลว่า ไม่ได้หลอก แต่สาวไทยสมยอมที่จะเสียเงินและยอมไปเองทั้งนั้น.......เฮ้อ และอีกกลุ่มที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คนที่หลอกหญิงไทยไปญี่ปุ่น ก็เป็นญาติกับช่างเสริมสวย ที่เราเป็นลูกค้ามา 20กว่าปีแล้วค่ะ คนบ้านเดียวกัน บอกว่าจะพาไปทำงานเปิดร้านเสริมสวย แต่ช่างเสริมสวยเอาเรื่องมาปรึกษาเรา เราก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ มันไม่ง่ายขนาดนั้น มันต้องมีไลเซ่นเปิดร้าน อย่ามาโม๊  พร้อม เล่าเรื่องราวยาวเหยียดที่เราเคยไปเจอมาและเห็นกับตา คือเคยมีโอกาส ติดตามสามีไปดูงานที่ญี่ปุ่น 25 วัน พอดีมีเพื่อนคนไทยที่มีกิจการเปิดซูเปอร์มาเก็ต  (เพื่อนมีสามีเป็นญี่ปุ่น) เลยถือโอกาสแวะไปเยี่ยมเพื่อนด้วย ตอนนัดเจอเพื่อนให้มารับที่สถานทูตไทยที่ญี่ปุ่น เห็นภาพสะเทือนใจ ที่สาวไทยหลายๆคน นอนรอหน้าสถานทูตรอเวลาเปิดทำการเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือส่งกลับบ้าน ยิ่งได้คุยกับสาวไทยด้วยก็เศร้าสุดๆโดยเฉพาะเรื่องแก๊งยากูซ่า ที่คิดว่ามีแต่ในหนัง เรื่องจริงโหดร้ายกว่าเยอะ ฯลฯ ตอนนั้นเล่าเรื่องราวเพื่อเตือนสติสาวเมืองฝางเชียงใหม่คนนั้น  เธอคนนั้นก็เอาไปเล่าให้คนบ้านเดียวที่กำลังจะหลอกเธอไปให้เขาฟัง  ปรากฏว่าเราโดนด่า ว่าอิจฉาเขา กลัวคนอื่นได้ดี...เอ๊า...เป็นงั้นไป.........และแล้ว 6 เดือนต่อมา เจอสาวคนฝางที่ถูกหลอกอีกครั้ง  พอเจอหน้าเรา ร้องไห้โฮๆๆๆแบบไม่หยุดยั้ง  เธอเล่าเป็นฉากๆว่า พอไปถึงญี่ปุ่นก็โดนยึดพาสฯ คนที่บ้านเดียวกันหายหัวไปเลย มีแต่คนกลุ่มหนึ่งคอยคุมตัวไว้ และบังคับให้ขายตัว ตามซอกตึก คอบแอบๆตามซอกตึกหากมีผู้ชายเดินมาก็ให้วิ่งไปเกาะแขนเกาะขาชวนไปปฎิบัติกิจด้วย เพื่อที่จะเอาตังค์ (ฟังแล้วเหมือนนิยาย)แล้ว บราๆๆๆๆ ไม่อยากเล่าต่อเพราะมันเศร้า....พอเธอเล่าจบ. ไม่รู้จะสงสาร หรือสมน้ำหน้าดี ได้แต่เงียบ จุกในคอหอยเพราะสาวที่ถุกหลอกเล่าไปร้องไห้ไปค่ะ จากคุณ : Justmint - [ 22 ส.ค. 51 20:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องแบบนี้มีตัวอย่างให้เห็นมามากมาย จ่ายเงินให้นายหน้า พอไปถึงก็ลงประกาศหนังสือพิมพ์ มีผู้ชายติตต่อมา ไปอยู่กับเค้า พอผู้ชายไม่ชายไม่ชอบ เค้าก็ส่งคืน กว่าจะเจอคนที่ยอมแต่งงานด้วย ก็เปลี่ยนไปหลายคน หญิงไทยบางคนครบกำหนด 3 เดือนยังหาคนแต่งงานด้วยไม่ได้เลยค่ะ ต้องกลับเมืองไทย เสียเงินฟรี แถมเสียตัวฟรี ๆ อีก บางคนวีซ่าใกล้หมดมีคนมาขอแต่งงานด้วย ก็คว้าไว้ก่อนโดยไม่ดูให้ดี ๆ ปรากฎว่า แต่งงานไปแล้วเหมือนตกนรกทั้งเป็น ไปตกทุกข์ได้ยากต่างประเทศไม่สนุกเลยค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 22 ส.ค. 51 20:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 " เราว่าเขาคงไม่ฟังคุณเจ้าของกระทู้หรอกค่ะ เผลอๆอาจจะไม่พอใจคุณก็ได้ที่พยายามไปบอกเขาแบบนั้น คนเขามีความหวังแล้วมีคนมาช่วยจุดประกายแบบนั้นยากที่จะดึงเขากลับค่ะ ควรหากระทู้ต่างๆที่มีคนโพสต์ไว้ไปให้เขาอ่าน ตามที่ คห.ข้างบนแนะนำ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเขา ถ้าโชคดีเขาเจอคนดีก็เป็นบุญวาสนา แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่ามันคงเป็นกรรมของเขา เรื่องแบบนี้เราเห็นมาเยอะค่ะทั้งจากละแวกตำบลที่เราอยู่... เมื่อกลางปีที่แล้วเราไปเยี่ยมลุงที่จังหวัดฝั่งไทยแต่ใกล้ลาว (ไม่รู้จังหวัดเดียวกันกะ จขกทหรือเปล่านะ) ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก เราไม่ได้ไปที่นั่นประมาณสิบปีได้แล้ว มันมีอาชีพนึงที่เราฟังแล้วแทบจะไม่เชื่อหู คือการเป็นนายหน้าหาสามีฝรั่งค่ะ แต่คนที่อยากได้นี่ต้องเสียเงินเป็นแสนให้กับนายหน้านะคะ (ในกรณีที่ผู้ชายตัดสินใจแต่งงานกับคุณ) ก็เป็นการแนะนำกันต่อๆมา จากคนที่ไปอยู่ก่อนแล้ว บางคนก็โชคดี บางคนก็โชคร้ายโดนกินฟรี แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดก็คือ คนที่แต่งงานไปแล้วจะสร้างบ้านหลังใหญ่โตแข่งกันค่ะ ใครมีลูกส่งเงินมาก็จะเอามาอวดกัน ได้เท่านั้นเท่านี้ อวดความรวยของลูกเขย คือทุกอย่างจะแข่งกันด้วยเงิน... ไม่รู้เราจะพูดแรงเกินไปหรือเปล่านะคะ จากคนที่เคยลำบากพอได้สามีหรือลูกเขยฝรั่งนี่ทำให้บางคนเปลี่ยนไปจริงๆค่ะ (เราเน้นบางคนนะคะ ไม่ใช่ทุกคน) มันกลายเป็นค่านิยมไปแล้ว เราไม่ค่อยเชื่อค่ะว่าคนที่แนะนำเขาจะไม่หวังอะไรตอบแทน นี่คือช่องทางทำเงินคำว่าจริยธรรมก็คงถูกแทนที่ไปด้วยความโลภ หากินกับคนไทยด้วยกันเองนี่แหละง่าย ในเมื่อยังมีคนที่ยอมที่จะมาเสี่ยงแบบนี้ธุรกิจนี้ก็ยังขายได้ค่ะ... ญาติกันก็ยังหลอกกันได้ นับประสาอะไรกับเพื่อนบ้าน ถ้าอยากช่วยเหลือจริงๆ ทำไมต้องเอาเงินตั้งสองแสน... สักวันกรรมจะตามทัน... เกลียดจริงๆคนแบบนี้ที่มักจะเอาเปรียบคนในชาติเดียวกัน ---- ขอโทษจริงๆหากว่ากระแทกใจดำใครเข้า ---- จากคุณ : Untitled-II - [ 22 ส.ค. 51 20:59:59 A:58.10.234.164 X: TicketID:181209 ]

ความคิดเห็นที่ 19 " เราว่าเขาคงไม่ฟังคุณเจ้าของกระทู้หรอกค่ะ เผลอๆอาจจะไม่พอใจคุณก็ได้ที่พยายามไปบอกเขาแบบนั้น คนเขามีความหวังแล้วมีคนมาช่วยจุดประกายแบบนั้นยากที่จะดึงเขากลับค่ะ ควรหากระทู้ต่างๆที่มีคนโพสต์ไว้ไปให้เขาอ่าน ตามที่ คห.ข้างบนแนะนำ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเขา ถ้าโชคดีเขาเจอคนดีก็เป็นบุญวาสนา แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่ามันคงเป็นกรรมของเขา เรื่องแบบนี้เราเห็นมาเยอะค่ะทั้งจากละแวกตำบลที่เราอยู่... เมื่อกลางปีที่แล้วเราไปเยี่ยมลุงที่จังหวัดฝั่งไทยแต่ใกล้ลาว (ไม่รู้จังหวัดเดียวกันกะ จขกทหรือเปล่านะ) ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก เราไม่ได้ไปที่นั่นประมาณสิบปีได้แล้ว มันมีอาชีพนึงที่เราฟังแล้วแทบจะไม่เชื่อหู คือการเป็นนายหน้าหาสามีฝรั่งค่ะ แต่คนที่อยากได้นี่ต้องเสียเงินเป็นแสนให้กับนายหน้านะคะ (ในกรณีที่ผู้ชายตัดสินใจแต่งงานกับคุณ) ก็เป็นการแนะนำกันต่อๆมา จากคนที่ไปอยู่ก่อนแล้ว บางคนก็โชคดี บางคนก็โชคร้ายโดนกินฟรี แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดก็คือ คนที่แต่งงานไปแล้วจะสร้างบ้านหลังใหญ่โตแข่งกันค่ะ ใครมีลูกส่งเงินมาก็จะเอามาอวดกัน ได้เท่านั้นเท่านี้ อวดความรวยของลูกเขย คือทุกอย่างจะแข่งกันด้วยเงิน... ไม่รู้เราจะพูดแรงเกินไปหรือเปล่านะคะ จากคนที่เคยลำบากพอได้สามีหรือลูกเขยฝรั่งนี่ทำให้บางคนเปลี่ยนไปจริงๆค่ะ (เราเน้นบางคนนะคะ ไม่ใช่ทุกคน) มันกลายเป็นค่านิยมไปแล้ว เราไม่ค่อยเชื่อค่ะว่าคนที่แนะนำเขาจะไม่หวังอะไรตอบแทน นี่คือช่องทางทำเงินคำว่าจริยธรรมก็คงถูกแทนที่ไปด้วยความโลภ หากินกับคนไทยด้วยกันเองนี่แหละง่าย ในเมื่อยังมีคนที่ยอมที่จะมาเสี่ยงแบบนี้ธุรกิจนี้ก็ยังขายได้ค่ะ... ญาติกันก็ยังหลอกกันได้ นับประสาอะไรกับเพื่อนบ้าน ถ้าอยากช่วยเหลือจริงๆ ทำไมต้องเอาเงินตั้งสองแสน... สักวันกรรมจะตามทัน... เกลียดจริงๆคนแบบนี้ที่มักจะเอาเปรียบคนในชาติเดียวกัน ---- ขอโทษจริงๆหากว่ากระแทกใจดำใครเข้า ---- จากคุณ : Untitled-II - [ 22 ส.ค. 51 21:01:57 A:58.10.234.164 X: TicketID:181209 ]

ความคิดเห็นที่ 20 " เข้ามา ขอโทษทุกท่านค่ะ ตอนส่งคอมฯมันค้าง คห18 คห 19 เลยออกมาซ้ำกันค่ะ... ไม่ได้ตั้งใจนะคะ ..... จากคุณ : Untitled-II - [ 22 ส.ค. 51 21:07:53 A:58.10.234.164 X: TicketID:181209 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ต้นฉบับมาจากเยอรมันค่ะ http://lawanwadee.com/?p=190 จากคุณ : Lawanwadee - [ 22 ส.ค. 51 22:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สงสารเขา คุณ จขกท พยายามที่จะห้ามเขาอีกหน่อยเถอะค่ะ เราว่าบุญเก่าเขายังมีนะ ที่ได้เจอคนมีความคิดอย่างคุณ ถ้าเขาไม่มีบุญเสียเลย เขาคงไม่ได้เล่าให้คุณฟัง ปรินต์กระทู้นี้ แล้วก็เสิร์ชกระทู้อื่นๆให้เขาอ่านเถอะค่ะ เผื่อเขาจะคิดได้ว่าไปแบบนั้นน่ะมันอันตรายแค่ไหน จากคุณ : yuy - [ 22 ส.ค. 51 22:03:41 A:124.121.19.171 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาสนับสนุนความคิดเห็นของทุกท่าน (เหมือนไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเลยแฮะ อิอิอิ) // จากคุณ : clubspanky - [ 22 ส.ค. 51 22:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าโดนหลอกค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยนะคะว่า การทำเอกสารรับรองเชิญคนมาทีเ่ที่ยวที่เยอรมัน คนเยอรมันที่ไปขอไม่ต้องรวยมากก็ได้ค่ะ แค่คนธรรมดามีงานมีการทำก็ขอได้ค่ะ คงจะไปห้ามพี่เค้ายากนะคะ คงคิดไปไกล ตามที่ความเห็นข้างบนบอกเลยค่ะ เมย์ไม่มีความคิดเห็นใดใดเลย เพราะว่าคนข้างบนได้เขียนบอกกันมาหมดแล้ว จากคุณ : เมย์ (mayistheone) - [ 22 ส.ค. 51 22:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณเพื่อนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษเล่าให้ฟังว่า มีคนไทยเพื่อนแนะนำให้ไปทำงานเยอรมัน แต่มัน ห้าหกปีมาแล้ว นานมาก ๆๆ บางทีเป็นสิบปีแล้ว เธอไปแบบนี้ล่ะ ไม่รู้ว่าไปทำงานอะไร สุดท้ายก็ไปนอน ไปนอนมา แต่ต้องรับแขกวันล่ะ 20คน เอาทำอย่างไงนี้  แล้วอธิบายง่าย ๆ กับคุณพี่ร้านทำำผมนะ ว่าทำไมต้องใช้เงินตั้งสองแสน แค่เครื่องแค่ ห้าหมื่น (ไม่ใช่ไทยแอร์แต่ราคานี้ก็หรูเลย) แค่แปลเอกสาร รวมทำวีซ่า มากสุด หมื่นหนี่ง แล้วมันค่าอะไรอีกตั้ง แสนสี่ ง่ะ ไหนว่าเขารวยไง แค่เลี้ยงข้าวเพื่อนไม่ได้เลยหรือ สามมื้อสามเดือนเอง ขนหน้าแข้งไม่ล่วงมาหรอก  ถ้าคุณพี่อยากมีสามีฝรั่ง แนะนำให้ไปบริษัทจับคู่ในไทยดีกว่า เสียมาสุด ห้าหมื่น เราไม่เครียด ด้วย หาเลือกผู้ชายไปเรี่อย ๆ แต่จริง ๆ ไม่แนะนำเลย ที่จะหาสามีด้วยวิธีแบบนี้ จากคุณ : มนชิจัง - [ 22 ส.ค. 51 22:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Don't gamble with your future!!!!!! จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 22 ส.ค. 51 22:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27  FYI: การคุ้มครองดูแลหญิงไทยในต่างประเทศ           ฐานข้อมูล: กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ  :::> www.consular.go.th Quote: การช่วยเหลือดูแลหญิงไทยประสบปัญหาในประเทศต่างๆของภูมิภาคยุโรป           หญิงไทยที่ประสบปัญหาในประเทศต่างๆของภูมิภาคยุโรปส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางไปเพื่อแสวงหาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บางคนสมรสกับชายชาวยุโรปเพื่อจะสามารถอยู่ในประเทศได้ตามกฎหมายแต่ไม่ได้อยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภริยา  บางคนถูกชักจูงหรือล่อลวงให้เข้าไปทำงานในสถานบริการ  บางคนมีปัญหาครอบครัวกับสามีชาวยุโรปเนื่องจากไม่สามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมใหม่ได้             สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดูแลคุ้มครองคนไทยและผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อมีหญิงไทยประสบปัญหาในต่างประเทศไม่ว่าที่ใด จึงเป็นหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ที่ตั้งอยู่ในประเทศนั้น ๆ จะต้องให้ความคุ้มครองดูแลช่วยเหลือ หญิงไทยที่ประสบปัญหาในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะ ถูกทำร้าย ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ถูกจับกุม  มีปัญหากับครอบครัว เช่น ทะเลาะกับสามี  ฯลฯ  เมื่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบ หรือเมื่อหญิงที่ประสบปัญหามาร้องขอความช่วยเหลือ  สถานเอกอัครราชทูตฯ จะให้ความดูแลช่วยเหลือ            -ในกรณีที่หญิงไทยถูกจับกุมสถานเอกอัครราชทูต ฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบถามข้อเท็จจริง เพื่อให้ความช่วยเหลือ หากถูกจับกุมเนื่องจากอยู่เกินกำหนด สถานเอกอัครราชทูต ฯ จะประสานกับทางการของประเทศที่หญิงไทยตกทุกข์ให้ส่งตัวกลับประเทศไทย -หากหญิงไทยถูกจับกุมเนื่องจากใช้เอกสารเดินทางหรือหนังสือเดินทางปลอม  สถานเอกอัครราชทูต ฯ จะประสานกับทางการของประเทศนั้นๆ เพื่อออกเอกสารการเดินทางให้หญิงไทยใช้เดินทางกลับประเทศไทย               -ในกรณีที่หญิงไทยถูกหลอกลวงไปค้าประเวณีหรือถูกบังคับให้ค้าประเวณี หากสถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบหรือได้รับการขอความช่วยเหลือ สถานเอกอัครราชทูต ฯ จะประสานกับทางการตำรวจท้องถิ่นให้เข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกมาจากสถานประกอบการและกันตัวไว้เป็นพยานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ประกอบการและช่วยเหลือส่งตัวกลับประเทศไทย             -ในกรณีหญิงไทยมีปัญหาครอบครัว  และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล สถานเอกอัครราชทูตฯ  จะประสานกับองค์กรพัฒนาเอกชน   ในพื้นที่เพื่อให้คำปรึกษากับหญิงไทยที่มีปัญหา หรือขอให้ช่วยประสานกับทางการท้องถิ่นให้ช่วยเหลือหญิงไทยที่มีปัญหาตลอดจนหาที่พักพิงชั่วคราวให้ในกรณีที่จำเป็น ทั้งนี้  สถานเอกอัครราชทูต ฯ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขององค์กรเอกชนและอาสาสมัครที่ช่วยคนไทยในกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่อาจให้ความช่วยเหลือได้โดยตรงหรือ ทันท่วงที             -ในกรณีหญิงไทยไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมใหม่ สถานเอกอัครราชทูต ฯ จะให้คำปรึกษากับหญิงไทยเหล่านี้เพื่อให้หญิงไทยสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมใหม่นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ฯ ยังได้สนับสนุนองค์กรเอกชนในการจัดบรรยายเพื่อให้ความรู้ทางกฎหมายและความรู้ด้านอื่น ๆ แก่หญิงไทยเพื่อจะได้รู้ถึงสิทธิต่าง ๆ ของตน รวมทั้ง ประสานงานในการจัดทำคู่มือในการดำรงชีวิตในประเทศต่างๆในยุโรปและผู้ที่จะเดินทางไปประเทศนั้นๆด้วย Refer: Refer: http://www.consular.go.th/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=109                        ---------------------------------------          FYI: นโยบายในการรักษา คุ้มครองและดูแลคนไทยตลอดจนสิทธิและผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ  Quote : ในการดำเนินการตามนโยบาย กระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่รับผิดชอบการให้ความช่วยเหลือดูแลคุ้มครองคนไทยซึ่งรวมถึงหญิงไทยที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนในต่างประเทศ โดยกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ *กรมการกงสุล เป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือ โดยประสานกับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก เมื่อได้รับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือโดยตรงจากหญิงไทยในต่างประเทศ หรือญาติที่อยู่ในประเทศไทยแจ้งให้ทราบว่าถูกบังคับให้ค้าบริการทางเพศ ถูกทำร้าย ถูกจับกุม ฯลฯ กองคุ้มครองฯ จะรีบประสานกับสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ในประเทศที่หญิงไทยประสบปัญหาโดยเร็ว *ในกรณีเร่งด่วนจะติดต่อทางโทรศัพท์ในทันที เพื่อขอให้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือแล้วส่งตัวกลับประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่จะทดรองจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด และเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว กรมประชาสงเคราะห์จะช่วยเหลือส่งตัวกลับภูมิลำเนาหรือรับตัวไปฟื้นฟู หรือให้การสงเคราะห์ต่อไป -เมื่อสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ช่วยเหลือส่งตัวหญิงไทยที่ประสบปัญหากลับประเทศไทยแล้ว กรมการกงสุลจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่หลอกลวงหรือขบวนการหลอกลวงตามที่ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขยายผลเพื่อนำตัวผู้หลอกลวงมาดำเนินการตามกฎหมายและเป็นการปราบปรามขบวนการหลอกลวงและป้องกันไม่ให้ไปหลอกลวงหญิงไทยคนอื่น ๆ อีก -โดยที่หญิงไทยที่ไปประสบปัญหาในต่างประเทศส่วนใหญ่มักจะถูกหลอกลวงหรือไม่ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง การป้องกันจึงกระทำได้โดยการให้หญิงไทยได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวง ปัญหาที่ประสบ ชีวิตความเป็นอยู่และความยากลำบากในต่างประเทศ ซึ่งหากหญิงไทยได้รับทราบข้อมูลเหล่านี้อย่างเพียงพอแล้ว อาจตัดสินใจไม่เดินทางไปต่างประเทศหรือในกรณีต้องเดินทางและประสบปัญหาก็จะสามารถหาช่องทางขอรับความช่วยเหลือได้ -  กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมการกงสุลจึงได้จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์รณรงค์เพื่อให้หญิงไทยทราบถึงวิธีการและขบวนการหลอกลวงหญิงไทยไปขายบริการทางเพศ โดยจัดทำจัดทำแผ่นพับแจกจ่าย จัดทำรายการสปอตวิทยุออกอากาศทางสถานีวิทยุอสมท.และจัดทำสารคดีชุด ”ชีวิตไทยไกลบ้าน“ ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หญิงไทยถูกหลอกลวงไปต่างประเทศ  หน่วยงานอื่น ๆ เช่น กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาสัมคมและสวัสดิการ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ ก็ได้จัดทำเอกสารต่าง ๆ เช่น หนังสือคู่มือสำหรับหญิงไทยก่อนตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่หญิงไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ - นอกจากการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่หญิงไทยดังกล่าวข้างต้น หน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงานมีโครงการที่ให้ความรู้กับหญิงไทย เช่น *กรมประชาสงเคราะห์มีโครงการให้ความรู้แก่เยาวสตรีเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้แก่กลุ่มเสี่ยงตามโรงเรียน และโรงงานเพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้จัดทำหลักสูตรที่ประกอบด้วยวิชาที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีและขบวนการหลอกลวงตลอดจนปัญหาที่จะต้องประสบในต่างประเทศซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้รับความรู้และระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อและหากจะเดินทางไปต่างประเทศก็จะไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน  นอกจากนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติได้จัดทำโครงการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการป้องกันและช่วยเหลือหญิงไทยมิให้ไปประสบปัญหาในต่างประเทศ  โดยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการที่จังหวัดลำปาง และจังหวัดอุดรธานี และได้เชิญผู้แทนจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนประชาคม ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านใน 5 จังหวัดในภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และพะเยาเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับหญิงไทยและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกันในด้านการป้องกันการปราบปรามและการช่วยเหลือ ซึ่งโครงการนี้จะจัดตามภูมิภาคต่าง ๆ ทุกภูมิภาค            ในระดับชาติ คณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิงข้ามชาติ  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติได้จัดทำนโยบายและแผนระดับชาติเรื่องการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิง  ซึ่งกำหนดนโยบายและแผนงานในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิงทั้งในประเทศและข้ามชาติ โดยแบ่งเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว ในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด จนถึงระดับประเทศ  ซึ่งนโยบายและแผนดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติแล้ว และอยู่ในระหว่างการนำเสนอ**คณะรัฐมนตรี หากผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้วก็จะสามารถนำแผนและนโยบายมาดำเนินการในทางปฏิบัติซึ่งจะทำให้การปราบปราม ป้องกัน และช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ  (**2549)               นอกจากนั้น คณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิงข้ามชาติ  ยังได้จัดทำบันทึกข้อตกลง 2 ฉบับ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติร่วมกันในการดำเนินการกรณีการค้าหญิงและเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ฉบับแรกเป็นข้อตกลงระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง  และฉบับที่สองระหว่างหน่วยงานของรัฐและองค์กรเอกชน ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้มีการประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อให้มีการประสานในการช่วยเหลือหญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อตั้งแต่การช่วยเหลือส่งตัวกลับประเทศไทย การปราบปราม การป้องกัน การช่วยเหลือฟื้นฟู การฝึกอาชีพ เพื่อให้หญิงไทยที่ประสบปัญหาสามารถกลับคืนสู่สังคมได้ กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ Refer: http://www.consular.go.th/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=107                                   ===================  Note : นำข้อมูลจากหน่วยงานราชการมาเสริมให้ เพื่อประโยชน์ในการแพร่กระจายข้อเท็จจริง และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล หน่วยงานต่างๆ ซึ่งมิได้เพิกเฉยในการพยายามช่วย เหลือหญิงไทยที่ประสบเคราะห์กรรมหรือมีปัญหาครอบครัวในต่างประเทศ โดยเฉพาะทางยุโรป                                             จากคุณ : กริชนาคราช - [ 22 ส.ค. 51 23:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท  ค่ะ โอ้ยย  ยิ่งอ่านยิ่งไม่อยากให้แกไปเลยค่ะ   เข้าข่ายมากๆๆ  เพราะแกเองก็บอกว่าพี่นีจะให้อยู่บ้านแกฟรีๆแต่เงินแสนกว่าๆเอาไว้เป็นค่ากินสามเดือน  คือมีแต่บ้านฟรีอย่างอื่นเสียเอง     ทำไงดีค่ะ   จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของเราเพราะเราเองไม่ใช่ญาติพี่น้องอะไรเลยเป็นแค่ลูกค้าทำผมเค้า  ขนาดตอนที่เล่าให้ฟังเรื่องที่ว่าสาวไทยโดนหลอก  แกยังไม่ค่อยสนใจเลยค่ะ   เพราะแกคิดว่าคงไม่ใช่เคสที่เหมือนแก             พี่นีเป็นคนที่ขอนแก่นค่ะ  ชื่อนีจริงๆๆ  แต่พี่  ออนี่นามสมมุติน่ะค่ะ   ตอนนี้แกได้พาสปอร์ตมาแล้ว    ขนาดชื่อเมืองที่จะไปอยู่  พี่ออแกยังไม่รู้จักเลยค่ะ   และท่าทางว่าถ้าวีซ่าผ่าน   และขายรถได้แกคงไปเลย เดียวพรุ่งนี้จะไปถามลองแวะไปหาแกอีกที  เรื่องที่จะปริ้นกระทู้ไปให้แกอ่านคงไม่กล้าหรอกค่ะ  กลัวแกว่าเรา  ส  ใส่  เกือก   เดี๋ยวเค้าจะว่า ว่าเราละราบระล้วง  เอาเรื่องส่วนตัวแกมาโพส    อย่างมากที่สุดคงจะได้แค่หาเบอร์โทรสถานทูตไทยที่นู่นให้แก ถ้าวีซ่าผ่าน   ได้ยินว่าตอนนี้รอคิดนัดสอบสัมภาษอยู่   แว่วๆ  เพราะเสียงไดร์มันก็ดัง  แฮ่ๆ   แต่ไม่กล้าซักแกมากค่ะ........ทำไงดี  ไหนๆเรารู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่ามันเสี่ยง  ยำอีกครั้งค่ะว่าพี่นีไม่ได้เป็นญาติหรือว่าสนิทกันมากเลยค่ะ และถ้ามันเกิดเรื่องไม่ดีกับเค้าจริงเราเค้าจะรู้สึกแย่ค่ะ    เพราะเราเองรู้เรื่องมากกว่าเค้า  มีความรู้มากกว่า  แต่ไม่ได้ช่วยเค้าเลย แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 23:10:50 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 23:09:24 จากคุณ : lovekubnisz - [ 22 ส.ค. 51 23:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วแต่ค่ะ ตัวใครตัวมัน จากคุณ : เดี๋ยวเขาหาว่าอิจฉา (meaw_1985) - [ 22 ส.ค. 51 23:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเขาอยากไปก็ให้เขาไปเถอะค่ะ อะไรก็คงฉุดไม่อยู่แล้ว ส่วนจะได้ดีจริงหรือไม่ก็ให้เขาไปค้นหาเอาเอง... -- ขนาดดิฉันยังโดนไหว้วานให้หาผู้ชายฝรั่งให้น้องคนหนึ่ง ส่งรูปพร้อมประวัติย่อมาให้ดิฉันเสร็จสรรพ บอกว่าอยากได้คนดีที่จริงใจ แก่ก็ไม่เป็นไร แกเข็ดผู้ชายไทยแล้ว ดิฉันยังเกาหัวยิกๆอยู่ว่า จะไปหาที่ไหนให้ได้เนี่ย แถมน้องเขาบอกว่า ถ้าหาได้ แล้วจะคิดเงินกับผู้ชายยังไงก็ได้ เอาเข้าไปท่านผู้ชม ดิฉันทำไม่ลงค่ะ ได้แต่เห็นใจ... จากคุณ : thaispicy - [ 22 ส.ค. 51 23:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หาให้เค้ามั่งจิ้ เอาหล่อๆ มี 6 pack จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ - [ 22 ส.ค. 51 23:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มองในแง่ดีสุดๆ คือเขาพาไปหาคนแต่งงานด้วยจริงๆ แล้วเก็บค่าหัวคิว แต่ฝรั่งไม่มีทางแค่พาไปกินข้าวแล้วขอแต่งงานด้วยหรอกค่ะ เท่าที่ติดตามเรื่องพวกนี้ ฝรั่งจะให้ไป ทดลองอยู่ที่บ้านผู้ชายก่อน ไอ้คำว่าทดลองอยู่นี่หมายรวมถึงอะไรบ้างก็คงจะรู้ๆ กันอยู่ ถ้าผู้ชายไม่ชอบใจก็ส่งคืน ไม่รู้มีกำหนดว่าต้องส่งคืนภายในกี่วันเหมือนสินค้าหรือเปล่า แล้วนายหน้าก็จะช่วยหาผู้ชายคนใหม่ให้มารับไปทดลองอยู่ด้วยกันอีก ไม่รู้ต้องกี่คน ทุกอย่างต้องรวบรัดก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุ  ถ้ายังไม่มีคนรับแต่งงานด้วยก็ต้องกลับเมืองไทย อ้อ แล้วนายหน้าคิดหรือว่าเขาจะหาผู้ชายดีๆ ให้ ถ้าดีจริงเขาคงหาให้น้องเขาญาติเขาเองมากกว่า ลอง Print กระทู้ไปให้พี่แกอ่านดีไหมค่ะ อยู่ ตจว. มีรถยนต์ส่วนตัว แสดงว่าฐานะไม่ได้แร้นแค้นอะไร  อาชีพช่างเสริมสวยบ้านเราก็ยังมีหนทางทำมาหากินอยู่เยอะ  ถ้าจะหาแฟนต่างชาติจริงๆ ค่อยๆ ฝึกภาษา ค่อยๆ หาเพื่อน (ทางอินเทอร์เน็ต หรืออื่นๆ ) ค่อยๆ ศึกษาดูใจกันจะดีกว่า ของอย่างนี้ ไม่ต้องรีบร้อน จากคุณ : ไนซ์ (nicechick) - [ 23 ส.ค. 51 00:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 33 If she hardly speaks English and doesn't understand a word in German, please do your best to get her to THINK... Not being able to communicate with the local means SHE WILL NOT BE ABLE TO GET HELP if push comes to shove. Tell your friend to not be so trusting, or she will definitely regret it. She's thinking of getting rich quick, so greed is clouding her judgement. *shakes head* จากคุณ : Gaignun - [ 23 ส.ค. 51 00:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โอ๊ยตายแล้ว จขกท.คะเราว่ายังไงก็ควรไปเตือนเค้าอย่างจริงจังค่ะ จะโดนด่าว่าสะเออะยังไงก็ช่าง ถ้าสุดท้ายแล้วเค้าไม่เชื่อจริงๆก็ทำอะไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้บอกเค้าไปแล้ว ถ้าเค้าไปแล้วได้ดีจริงก็ดีใจกะเค้าด้วย แต่ถ้าไปแล้วเป็นอย่างที่กลัวไว้ถ้าเค้าเห็นท่าไม่ดียังไงอาจพอแก้ไขทัน อย่างน้อยคำเตือนของเราอาจทำให้เค้าสะกิดใจอะไรขึ้นมาได้ อย่างน้อยก็ได้ช่วยเตือนเค้าอย่างดีที่สุดแล้วเท่าที่จะทำได้ค่ะ จากคุณ : ซาวาจิกะ เอริ - [ 23 ส.ค. 51 00:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าพี่อออยากไปจริงแล้วเกิดได้ไปจริงๆทำไมพี่ออไม่ลองพูดกับพี่นีหล่ะว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้นแฟนพี่นีรวยมากไม่ใช่หรอถ้าอยากช่วยให้มีแฟนต่างชาติจริงไม่จำเป็นต้องไปแค่ฝากรูปไปให้ดูก็ใด้หนิแล้วถ้าต่างชาติสนใจค่อยติดต่อกันอีกทีไม่ดีกว่าหรออ้อทุกความคิดเห็นข้างบนถูกหมดเลยบอกพี่ออทบทวนดูใหม่เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีแฟนต่างชาติเราอ่านให้แฟนฟังแฟนเรายังบอกเลยว่าพี่ออโดนเพื่อนหลอกชัวร์ จากคุณ : piladrad - [ 23 ส.ค. 51 02:03:03 A:78.27.59.132 X: TicketID:181869 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อปีที่แล้วตอนผมอยู่ที่เมืองไทย ก็มีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้ที่ขอนแก่น มาขอรูปไป จ่ายให้ฝรั่งไปเป็นเงินหลักหมื่น เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ฝรั่งก็อยู่ที่ เมืองไทย ใช้เหตุผลสารพัด ว่าคนเห็นรูปไม่ถูกใจ สอบไปสอบมากลายเป็น ว่าเอาเงินไปใช้หมดเอง ----------------------------------------------- กรณีนี้ตั้งข้อสังเกตตามที่ จขกท เล่ามา เป็นกลยุทธ์แบบโบราณ ข้อสังเกตุ 1.เตรียมหมดตัวได้เลยหลังจากขายรถ เพราะ ค่าตั๋ว เมื่อไปอยู่ พี่นีก็ จะใช้กลยุทธิ์ทำงานบ้านไปก่อน หลังจากนั้นก็จะไถเงินให้หมดไปด้วยเหตุ ต่าง ๆ นาน ๆ 2.เมื่อพี่นี ประวิงเวลาหาแฟนให้ไม่ได้ซักที ก็จะใช้วิธีหว่านล้อมคุณ ออ ว่าวีซ่าใก้ลหมดแล้ว เงินคุณ ออ ก็หมดแล้ว ทำไงดีคุณ ออ ? 3. เมื่อเงินหมดแล้ว จะกลับก็ตัวเปล่า พีนี ก็จะเสนอให้งานทำ หรือแนะ นำให้คุณออ ทำงานสบาย คุณ ออ ก็อยู่ในฐานะ กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก พี่นี ก็จะแนะนำหนทางหารายได้ โดยพี่นี ได้ค่านายหน้าเป็นครั้งคราว หรือ แล้วแต่ตกลง ทำเหอะพี่นีไม่บอกใคร ทำเหอะเดี๋ยวพี่ช่วย ประมาณนี้ 4.ถ้ารายรับดี คุณ ออ ก็จะทำงานต่อไป เพราะเข้าไปแล้ว ทีนี้ก็แล้วแต่ โชคชะตา รอตำรวจมา หรือ อาจอยู่ยาวไปเลย 5.กรณีที่รายรับไม่ดี แล้วหาหนทางไปหน่วยงานของรัฐในต่างแดน สิ่ง แรกทีได้รับ จะต้องถูกสอบแบบกระอักกระอ่วนใจ หน้าที่เบื้องต้น คือโดนส่ง ไปบ้านพักฉุกเฉิน ตามขึ้นตอน แล้วก็กลับไปใช้หนี้ตั๋วเครื่องบินที่เมืองไทย จขกท ลองถ้าคุณออ มั่นใจคุณนี ขนาดนั้น ลองให้ไปโรงพักทำบันทึกประจำวันไว้ จากคุณ : เก่ายูเค - [ 23 ส.ค. 51 02:20:19 A:129.250.211.3 X: TicketID:174341 ]

ความคิดเห็นที่ 37 กะว่าจะเข้ามาอ่านเฉยๆเพราะหลายๆความเห็นก็ให้คำแนะนำที่ดีที่สุดกะ จขกท แต่เจอ ความคิดเห็นที่ 30 แล้วอดแจมไม่ได้ค่ะ ไปเมืองไทยเมื่อไม่กี่เดือนนี้ก็เจอ "พี่ๆอยู่เมืองนอกหาแฟนฝรั่งให้หน่อย" โหยังกะว่าหาคนดีๆได้ง่ายนิ ถ้าหาได้ป่านนี้คงได้หนุ่มหล่อมากกแล้ว ทุกวันนี้พี่รนตาก็นอนกกกะแมวเหมียวไปวันๆ ฮึ คุณจขกท นี่สดๆร้อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองสาวไทยคนที่มาอยู่ที่นี่ได้ไม่กีอาทิตย์เดินร้องไห้เข้ามาหาพี่รินตาที่ร้าน บอกว่าแฟนฝรั่งวานมาบอกพี่รินตาให้เลื่อนวันเดินทางให้น้องเค้ากลับเมืองไทยให้ด่วนด้วย พี่บอกถ้าเค้าอยากให้เธอกลับจริงๆก็เลื่อนเองสิมาบอกพี่ทำไม อ้าวตอนมาก็มากันเองตอนเบื่อผู้หญิงอยากส่งตัวกลับทำไมไม่ทำเองล่ะ มารบกวนชาวบ้านเค้าทำไม น้องคนนี้ก็เคยทำงานเป็นพยาบาลอยู่เมืองไทยแล้วโดนเพื่อนหลอกบอกว่ามาแต่งงานกะฝรั่งรวยโดนค่าตั๋วไปเกือบสองแสนเหมือนกัน ส่วนฝรั่งเองก็บอกว่าโดนไปสี่พันปอนด์ค่าหาสาวไทยให้ น้องเค้ามาอยู่ที่นี่ภาษาก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ได้ ส่วนฝรั่งนึกว่าผู้หญิงเป็นพยาบาลคงหางานทำง่ายเรียกว่าเอาสาวมาหางานช่วยส่งเงินให้ลูกๆที่เกิดกับภรรยาเก่าว่างั้นเหอะ พอได้ผู้หญิงจนเบื่อเลยส่งกลับไงคะส่วนผู้หญิงเสียเวลาเสียเงินเสียตัวฟรีๆๆ เฮ้อ ภาวนาว่าให้เพื่อนคุณจขกท อย่าเจอแบบนี้เลยค่ะ ขอให้ที่เราคิดกันเป็นแค่ คิดกันไปเองเหอะ สาธุ จากคุณ : รินตา (Rinta) - [ 23 ส.ค. 51 02:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ท่าจะยากแฮะ .. เห็นหลายคนละ ไอ้เรื่องฝันจะมีสามีฝรั่ง ร่ำรวยๆ เนี่ย .. เราย้ายมาอยู่เชียงใหม่ได้ 2 ปี เห็นสภาพที่นี่แล้วก็น่าคิดอยู่ .. หลังรถตุ๊กๆ แปะป้ายกันให้รึ่ม เรื่องหาคู่ให้ฝรั่ง .. สาวไทยใจกล้า เรียงหน้ากันเข้าไปเป็นแถบ .. หลายๆๆๆๆ คนที่เราเคยคุยด้วย (ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหมอนวดแผนโบราณ) .. เค้าเห็นเรามากับฝรั่ง ก็ว่ากันไปโน่นนนนนน คิดว่าชีวิตมันเลิศหรู .. โอ๊ย น้องยังเด็กแค่เนี้ย ได้สามีรวยเห็นๆ .. โดนเลยไง.. นอนให้นวดอยู่ 2 ชม. เราก็จะต้องพยายามบอกให้พวกเค้าเลิกฝัน .. อธิบายกันยาวเหยียดว่า เราสองคน ทำงานกันตัวเป็นเกลียว ถึงได้มีกินมีใช้ ไม่ได้นั่งกินนอนกิน .. แปลก ไม่ค่อยมีใครเชื่อ .. เป็นอย่างนี้ทุกร้านที่ไป .. สามีเราบอกว่า .. คนไทยไม่เข้าใจ .. ฝรั่งมาที่เมืองไทย เพื่อมาฮอลิเดย์ เค้ามาพักผ่อน .. และค่าเงินของเรามันแทบจะไม่อะไรเลยกับเงินเค้า ดังนั้น เค้าจ่ายได้ ไม่อั้น .. เค้าทำงานกันมาหนักขนาดไหน เพื่อที่จะมาพักสบายๆ .. แต่พอหมดเวลา เค้าก็กลับไปทำงานเหมือนเก่า ใช้ชีวิตแบบฝรั่ง ที่คนไทยหลายๆคน ไม่เคยเห็น และ ไม่เข้าใจ .. สามีเราอยู่เมืองไทยมา 7 ปี .. เค้าบอกว่า อยู่เมืองไทยสบายที่สุดแล้ว .. ทำไมคนไทยถึงอยากจะไปอยู่เมืองนอกกันจัง .. จขกท. คะ .. พยายามอีกครั้งค่ะ .. แต่เรามีความรู้สึกว่า แกคงจะไม่เชื่อ .. จริงๆนะ .. เป็นกันเยอะมากแบบนี้ .. เหมือนกับพวกฝรั่งที่ เค้าเตือนกันนักกันหนา ว่าอย่าหลงเชื่อผู้หญิงบาร์เมืองไทย .. ก็เห็นโดนหลอกกันหมดตัวอยู่ทุกวี่ทุกวัน .. ถ้า จขกท พยายามแล้วไม่ได้ผล .. ก็สุดแล้วแต่แกเถอะค่ะ .. อย่างน้อยเราก็ทำดีที่สุดแล้ว .. จากคุณ : Mrs CheeSeCaKe - [ 23 ส.ค. 51 03:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เอาไปให้เขาอ่านดูนะ จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:13:37 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เอาไปให้เขาอ่านดูนะ สาวเอย....จะบอกให้ หลังจากได้พูดคุยกับเพื่อนชาวเยอรมันคนหนึ่ง ซึ่งรู้ว่าฉันต้องการและกำลังหาคนงานอยู่ จึงได้โทรมาถามฉันอย่างเร่งด่วนเอาตอนเกือบสี่ทุ่มว่า ตอนนี้มีผู้หญิงไทยคนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือด่วน เขาคิดว่าอาจจะเป็นไปได้ถ้าฉันสนใจให้ความช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้ โดยการรับเข้ามาทำงานที่ร้านของฉัน เมื่อได้ฟังรายละเอียดคร่าวๆ ถึงที่มาที่ไป ของเธอคนนั้นแล้วฉันก็รู้สึกหดหู่ใจ กับชะตาชีวิตของเธอเหลือเกิน และสืบเนื่องมาจากเมื่อ 2-3 วันก่อน ที่เราเพิ่งได้รับภาพที่เพิ่งส่งเข้ามาใหม่ อีกปึกใหญ่เพื่อให้ลงอินเตอร์เน็ต ฉันหยิบรูปขึ้นมาเปิดดูเหมือนทุกครั้งที่ได้รับ ซึ่งครั้งนี้ก็เหมือนที่ฉันเคยๆ เห็น คือมีรูปถ่ายและรายละเอียดจากสาวน้อยสาวใหญ่ มากหน้าหลายตา ทั้งจากความรู้แค่ ป.4 ถึงระดับปริญญา และมีที่มาทั้งจากกรุงเทพ เหนือ กลาง และอีสาน แต่มีอยู่ 3 ภาพที่ฉันเห็นรู้สึกสะดุดตาและความรู้สึก ภาพหญิงสาวในชุดครุยที่นอนยิ้มหน้าระรื่นบนสนามหญ้า ในวันรับปริญญา ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเธอจะเข้าใจแค่ไหนนะว่า บางทีชีวิตที่เมืองนอกมันก็ไม่ได้เลิศเลอสวยงามนักหรอก ภาพหญิงสาวที่นอนยิ้มหวานอยู่บนพื้นผ้ากำมะหยี่สีแดง โดยมีผ้าอีกผืนพันกายอยู่ พอให้เกิดจินตนาการไปว่า ร่างกายของเธอคงมีเพียงผ้าผืนนั้นปกปิดอยู่เท่านั้นเอง ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอคาดหวังอะไรบ้าง ภาพเด็กสาวที่ฉันคาดคะเนไว้ว่า น่าจะเพิ่งใช้คำนำหน้าว่านางสาวได้ไม่นาน กับผมบ๊อบทรงนักเรียนมัธยม ฉันอยากถามหนูน้อยคนนั้นว่า อะไรเป็นสาเหตุให้เธอคิดใช้บริการจัดหาคู่เสียแล้ว ฉันจึงอยากเขียนบอกเล่า เรื่องราวและประสบการณ์ช่วงหนึ่งในชีวิตของฉัน จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อการส่งเสริมแนะนำ แต่อาจเป็นประโยชน์และข้อคิดกับคนอื่นๆ บ้าง จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:17:13 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สาวเอย....จะบอกให้ ฉันยอมรับว่าเป็นหญิงสาวจากที่ราบสูงคนหนึ่ง กับความรู้แค่ ม.2 ที่ได้สามีชาวต่างชาติโดยใช้บริการจัดหาคู่ ปัจจุบันแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเยอรมันได้ 4 ปีกว่า และฉันยอมรับว่าชีวิตความเป็นอยู่ของฉันก็ดีขึ้นในระดับหนึ่ง มีบ้าน มีรถ มีที่ดิน ที่เมืองไทย ฉันบินกลับไปเยี่ยมบ้านปีละ 2 ครั้ง แต่ทั้งหมดก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของฉันเองทั้งสิ้น และจากการทุ่มเททำงานของฉัน ฉันเริ่มทำงานตั้งแต่หลังแต่งงานได้แค่ 4-5 เดือน ฉันไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะเมืองที่ฉันอยู่นี้ เป็นเมืองเล็กๆ คอร์สสอนภาษาเยอรมันจะเปิด ก็ต่อเมื่อมีนักเรียนต่างชาติอย่างน้อยต้องหกคน งานที่ฉันทำตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันคือหมอนวด ส่วนงานอื่นๆ เช่น งานโรงงาน งานทำความสะอาดสำหรับที่นี่แล้ว ฉันหมดสิทธิ์จะคิด โดยฉันหวังแค่พอให้ตัวเองมีงานทำ และมีรายได้เป็นของตัวเองก็เท่านั้น เพราะฉันยังมีลูกที่เมืองไทยที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู ซึ่งงานที่ฉันทำก็ไปได้สวย ชนิดที่ฉันเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ผู้คนในเมืองนี้ให้การยกย่องชมเชย ในการทำงานของฉัน จนร้าน Thaimassage ของฉันยังเป็นที่เลื่องลือว่า กว่าจะได้นวดสักชั่วโมงนั้น ต้องรอ 4-5 เดือน แต่ไม่ต้องเข้าใจว่าฉันคงรับทรัพย์อื้อนะ เพราะฉันก็มีแค่สองมือ ในหนึ่งวันก็มี 24 ชม เท่าเดิม เพราะฉะนั้นถึงตารางนัดจะยาวเหยียดสักแค่ไหน หรือเต็มล่วงหน้าแค่ 1-2 วัน ก็มีค่าเท่ากัน ตัวฉันเองก็ไม่ค่อยภาคภูมิใจสักเท่าไหร่แล้วล่ะ เพราะมากเกินไปฉันก็มีแต่ปัญหาใหม่ๆ ให้เรียนรู้อยู่เสมอ หลังจากอยู่ได้ไม่ถึง 2 ปีดีนัก ฉันก็สามารถสอบใบขับขี่ได้ ด้วยข้อสอบภาษาเยอรมัน ทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติฉันสอบครั้งเดียวผ่าน โดยใช้เวลาเรียนสองเดือนครึ่ง ด้วยอะไรที่ดูเหมือนจะราบรื่น สดใส ฉันจึงกลายเป็นตัวอย่างและแรงจูงใจให้ อีกหลายคนคิดว่าชีวิตเมียฝรั่งนั้นช่างสวยงาม ฉันอยากจะบอกว่า แม้เรื่องราวของฉันอาจจะฟังดูง่าย แต่จริงๆ แล้วฉันเองก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนไม่ต่างกับอีกหลายชีวิตที่นี่ เพียงแต่ฉันมีโอกาสได้เจอ "ความบังเอิญ" ดีๆ อยู่หลายครั้ง ที่มีส่วนให้ฉันลุกขึ้นยืนได้เร็ว กว่าอีกหลายคนที่มาเหมือนฉัน ทุกๆ ครั้งที่ฉันหวนคิดไปยังจุดเริ่มต้น ฉันก็รู้สึกใจหายทุกครั้ง และรู้สึกขอบคุณโชคชะตาที่ฉันผ่านตรงนั้นมาได้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:18:22 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สาวเอย....จะบอกให้ ก่อนที่ฉันเดินทางมาที่นี่ ฉันก็เหมือนชาวอีสานบ้านนอกทั่วไป ที่ต้องเข้ามาดิ้นรนทำมาหากินในเมืองหลวง ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สิบกว่าปี มีครอบครัวมีลูกชายหนึ่งคน แล้วชีวิตคู่ของฉันก็มีปัญหากัน ฉันจึงขอแยกกันอยู่สักระยะแต่แล้วเราก็ต้องเลิกรากันจริงๆ ตอนนั้นกระแสการหาสามีฝรั่ง ที่บ้านเกิดของฉันเริ่มมีมาบ้างแล้ว แต่เนื่องจากฉันมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพค่อนข้างนาน ถึงจะได้ยินมาบ้างแต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ หลังจากที่รู้ว่าฉันแยกทางเดินกับแฟน ป้าติ๋วคนในหมู่บ้านเดียวกับฉัน ซึ่งแกมีญาติเป็นคนหมู่บ้านใกล้เคียงที่ไปแต่งงานมีสามีที่เยอรมัน ได้มาชักชวนตอนที่ฉันกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดในช่วงปีใหม่ ให้ไปหาสามีฝรั่ง โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินหนึ่งแสนบาท ป้าติ๋วได้หยิบยกถึงเรื่องความศิวิไลของเมืองเยอรมัน และความร่ำรวยมั่งคั่งของฝรั่งมาเป็นเรื่องจูงใจ แม้ว่าฉันจะไม่ได้สนใจเรื่องที่แกพยายามสาธยาย เพราะฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงอย่างที่แกเล่าหรือเปล่า และตัวฉันเองก็เพิ่งจะผ่านเรื่องนี้มาหมาดๆ ทำให้ฉันเบื่อและอยากอยู่คนเดียวมากกว่า แต่ฉันก็ตัดสินใจสมัครไปกับป้าติ๋ว เพราะป้าติ๋วได้บอกลดค่านายให้ฉันเหลือหกหมื่นบาท และการสมัครก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ฉันเลยนึกสนุกสมัครไปอย่างนั้นเอง แล้วฉันก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย จนเมื่อกลางปีเดียวกันนั้นฉันเกิดมีปัญหาในที่ทำงานว่า เจ้านายที่ฉันสนิทสนมด้วยนั้นต้องการแยกออกไป มีกิจการเป็นของตัวเอง ทำให้ฉันอยากจะชิงลาออกก่อนที่เจ้านายจะแยกออกไป เพราะฉันคิดว่าถ้าฉันลาออกหลังจากนั้นคงเป็นเรื่องยาก และดูน่าเกลียดเพราะฉันจะต้อง เป็นตัวหลักในเรื่องงานทันที ตอนนั้นฉันรู้สึกสับสน ฉันไม่อยากหางานและไม่อยากเริ่มต้นใหม่ แต่งานที่ทำอยู่ตอนนั้นฉันก็รู้สึกเบื่อที่ทำงานเต็มที และช่วงนั้นเพื่อนของแฟนเก่าของฉัน พยายามส่งข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเขา ให้ฉันได้ฟังอยู่เสมอ เพราะอยากเห็นฉันกลับไปคืนดีกับเขา แต่ฉันอยากให้เรื่องราวระหว่างฉันกับเขาจบลงแค่นั้น ฉันรู้สึกอยากไปไหนก็ได้ไกลๆ สักแห่ง สักระยะหนึ่ง พอดีปีนั้นกำลังจะมีแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ฉันนึกถึงเยอรมัน และเรื่องที่ฉันเคยสมัครหาคู่ไว้กับป้าติ๋ว ฉันจึงสอบถามถึงเรื่องของฉันว่าไปถึงไหนแล้ว ป้าติ๋วบอกกับฉันว่าถ้าฉันอยากให้เรื่องมันเร็วขึ้น ด้วยข้ออ้างต่างๆ ที่แกยกขึ้นมาอ้าง ฉันควรจ่ายเต็มหนึ่งแสนบาท ฉันจึงตอบตกลงกับป้าติ๋วไป ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันต้องการไปหาคู่จริงหรือเปล่า รุ่งขึ้นของอีกวันก็มีคนโทรมาถามถึงความมั่นใจของฉัน ว่าตกลงจ่ายตามนั้นแน่นอนไหมถ้าแน่นอน ก็ให้ฉันมารับเอกสารและเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่าได้เลย ฉันเองแม้จะยังแปลกใจกับความรวดเร็วที่เกิดขึ้น และยังไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องนี้เลย แต่ฉันก็ตกลงตามนั้น เขาให้ฉันไปรับเอกสารที่พัทยา ซึ่งเป็นการไปพัทยาครั้งแรกในชีวิต ฉันไปหาเขาตามที่อยู่ที่เขาให้ฉันมา ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สี่ชั้นในเมืองพัทยากลาง และฉันพบว่าที่นี่เรารับจ้างทำโน่นทำนี่สารพัด ฉันได้เข้าพบกับพี่อนันต์ซึ่งเป็นพี่ชายของพี่คำตา ที่แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่เยอรมัน และเป็นญาติของป้าติ๋ว พี่อนันต์ได้เตรียมเอกสารต่างๆ ให้ฉันเรียบร้อย และได้เตรียมตอบข้อชักถามต่างๆ ตอนยื่นขอวีซ่า เมื่อรับทราบข้อแนะนำและได้เอกสารแล้วฉันก็ลากลับ ก่อนกลับพี่อนันต์ให้นามบัตรใบหนึ่งกับฉัน แม้ตอนนั้นฉันจะอ่านภาษาเยอรมันไม่ออก แต่ฉันก็พอเดาได้จากสัญลักษณ์บนนั้นว่าเป็นบริษัทจัดหาคู่ เป็นครั้งแรกที่ฉันเพิ่งรู้ตัวจริงๆ ว่า ฉันกำลังใช้บริการหาคู่ผ่านบริษัทจัดหาคู่ ซึ่งเกี่ยวกับบริษัทจัดหาคู่กับฝรั่งนั้น ฉันก็เคยได้ยินผ่านๆ มาบ้าง ตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการหลอกลวง ซึ่งฉันก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เนื่องจากฉันเห็นว่า เป็นเรื่องงี่เง่าที่จะหาสามีด้วยวิธีนี้ แต่ตอนนี้ฉันก็กำลังเป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่ฉันเข้าใจไปเองจากที่ฟังจากป้าติ๋วบอกเล่า คือเป็นลักษณะการแนะนำและทำความรู้จักเรียนรู้กัน ระหว่างหญิงชายโดยมีพี่คำตาเป็นที่ปรึกษา แต่ถึงอย่างไรก็ตามฉันก็พยายามคิด ในแง่ดีว่าคงไม่เลวร้ายเหมือนที่ฉันเคยได้ยินมา เพราะยังไงเสียไม่ว่าจะป้าติ๋วซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน ที่เห็นๆ กันอยู่ หรือไม่ก็พี่คำตาและพี่อนันต์ก็เป็นคนบ้านนอก หมู่บ้านใกล้เรียงเคียงกันคงไม่คิดหลอกกัน นอกจากนี้ฉันยังคิดว่าฉันขอวีซ่าไปก่อน ยังไงฉันยังมีเวลาตัดสินใจว่าฉันจะไปหรือไม่ไปก็ได้ เพราะยังไม่เสียอะไรนอกจากค่าวีซ่า นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าวีซ่านั้นจะผ่านหรือไม่ รุ่งขึ้นของอีกวันฉันก็เดินทางไปที่สถานฑูตเยอรมัน เพื่อยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว ช่วงที่เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์ฉันๆ ก็อดสงสัยอยู่ในใจไม่ได้ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ทำเหมือนไม่ค่อยเต็มใจให้บริการนัก และบางคำตอบของฉันเจ้าหน้าที่ก็ส่ายหน้าเหมือนเบื่อๆ แต่ฉันก็ได้แต่แปลกใจสงสัยอยู่ในใจเท่านั้น ฉันตอบคำถามทุกอย่างด้วยความเชื่อมั่น และตามตรง เจ้าหน้าที่นัดให้ฉันมาฟังผลและรับวีซ่าในอีกสองวัน ฉันกลับมาทำงานตามปกติและเกริ่นๆ ให้เจ้านายที่สนิทของฉันฟังในเรื่องนี้ แม้เจ้านายจะแสดงความห่วงใยในสิ่งที่ฉันตัดสินใจ แต่ก็พูดทัดทานฉันได้ไม่มาก เนื่องจากความเชื่อมั่นของฉันว่า คนบ้านเดียวกันไม่น่าจะหลอกลวงกัน ช่วงนี้ฉันจึงพยายามเคลียร์งานให้ได้มากที่สุด และอีกสองวันต่อมาฉันก็มี วีซ่าท่องเที่ยวเยอรมันสามเดือนอยู่ในมือ ฉันกำหนดการเดินทางในอีกหนึ่งอาทิตย์ ช่วงนี้ฉันต้องเคลียร์งานของฉันส่งต่อให้คนใหม่ ซึ่งบังเอิญว่าที่บริษัทก็หาคนมาแทนฉันได้พอดี แม้เจ้านายใหญ่จะรู้สึกว่าโกรธที่ฉันทำอะไรกระชั้นชิด แต่ก็ยังแสดงความห่วงใยให้กับฉันว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นหรือต้องการความเชื่อเหลือใดๆ ให้แจ้งเขาได้ทันที ซึ่งก็ทำให้ฉันอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างปุบปับรวดเร็ว และฉันก็มัวยุ่งอยู่กับการเคลียร์งาน ฉันจึงไม่มีเวลาคิดถึงว่า อนาคตอันใกล้นี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันบ้าง ก่อนการเดินสองวันฉันจึงเดินทางกลับบ้าน เพื่ออยู่กับลูกและจัดการเรื่องเงินที่ตกลงกันไว้ ในระหว่างนี้ฉันก็ยังคงลังเลใจอยู่ แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยซักถามเพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกัน สมัยชั้นประถม ซึ่งเธอก็ใช้บริการจากพี่คำตา และระหว่างนี้เธอกำลังอยู่ในระหว่างยื่นขอวีซ่าแต่งงานอยู่ ซึ่งจากคำบอกเล่าของเธอนั้น เธอได้แฟนเป็นคนดี มีงานทำมั่นคงในบริษัทผลิตรถยนต์ราคาแพง นอกจากนี้สามีเธอ ยังให้เงินเธอติดมือมาด้วยสองแสนบาท และกำลังจะโอนมาให้เธออีกในเร็ววันนี้อีกสองแสนบาท สำหรับฉันแล้วเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า คนรู้จักกันแค่ไม่นานจะกล้าให้กันได้มากขนาดนี้ ทำให้ฉันเชื่อว่าพี่คำตาน่าจะเป็นคนดีและมีน้ำใจจริง และเชื่อว่าป้าติ๋วคงไม่โกหก นอกจากนี้ฉันยังได้มีโอกาสพูดคุย กับคนในหมู่บ้านเดียวกันอีกคน ที่เคยบินมาท่องเที่ยวเยอรมันหลายครั้ง บอกเล่าถึงความสิวิไลของเยอรมันและโอกาสในการทำงาน รายได้ดีๆ ที่มีอยู่เกลื่อนแค่งานล้างถ้วย ล้างจาน รายได้ก็ตก 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน หลังจากที่ฉันได้ฟังคำบอกเล่าจากทั้งสองคน ฉันไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่า หวังว่าทั้งหมดคงไม่หลอกลวงฉัน ส่วนเรื่องร่ำรวยเรื่องเงินเรื่องทองนั้น ฉันไม่ได้คิดเลยจริงๆ เพราะฉันมัวแต่ตื่นเต้นว่าคนสองคน ที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้นจะเรียนรู้และรักกันได้อย่างไร และตื่นเต้นที่จะได้มาเยือนประเทศที่มีนักฟุตบอลในดวงใจ เมื่อฉันจ่ายเงินที่ตกลงกันไว้เสร็จ โดยครึ่งหนึ่งฉันได้มาจากแม่ ก่อนขึ้นเครื่องหนึ่งวันฉันต้องไปนอนค้างที่พัทยา ซึ่งการไปนอนค้างที่นี่ทำให้ฉันได้สัมผัสถึงความสัมพันธ์แปลกๆ ของคนในบ้านนี้ แม้จะบอกไม่ได้ถึงความแปลก แต่ก็พอจะรู้ถึงความไม่จริงใจต่อกันของคนที่นั่น ในที่สุดการเดินทางมาเยอรมัน แบบไม่คาดฝันและเป็นไปแบบสายฟ้าแลบก็เกิดขึ้น ฉันเดินทางมาถึงเยอรมันในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2002 และที่สนามบินฉันถูก ตม เชิญให้ไปรอในห้องๆ หนึ่ง เนื่องจากชื่อในพาสปอร์ตและใบเชิญไม่ตรงกัน ในห้องนั้นฉันเห็นมีสองสาวผมทอง 2 คนกำลังร้องห่มร้องไห้ เหมือนกำลังกลัวและกังวลอะไรสักอย่าง ฉันก็ได้แต่สงสัยว่าเพราะอะไร แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลใดๆ ทั้งสิ้น จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:19:43 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สาวเอย....จะบอกให้ ไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่ง เดินตรงมาหาฉันและยกมือไหว้สวัสดีฉัน ฉันจึงเข้าใจในทันทีว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เชิญฉันมา และเป็นแฟนของพี่คำตา เมื่อรับกระเป๋าเสร็จแล้วเขาก็พาฉันกึ่งเดิน กึ่งวิ่งไปยังรถที่จอดรออยู่ด้านนอก เมื่อไปถึงรถฉันก็ได้พบกับผู้ชายตัวอ้วนๆ สูงพอประมาณใส่แว่นตาหนาเตอะ ฉันยกมือไหว้เขา แต่เขาแสดงท่าทีเฉยเมยกับการกระทำของฉัน เขายกกระเป๋าฉันขึ้นรถและทำมือเชื้อเชิญให้ฉันขึ้นนั่ง โดยไม่พูดจาหรือแสดงสีหน้าบ่งบอกความเป็นมิตรกับฉันเลย แม้ฉันจะรู้สึกเคืองอยู่นิดๆ แต่คิดไปเองว่า เขาคงไม่เข้าใจที่ฉันไหว้เขา แต่ก็ช่างเขาเถอะ ระหว่างนั่งมาในรถ ด้วยความเพลียจากการเดินทาง ฉันพยายามข่มตาให้หลับแต่ฉันก็หลับไม่ลง ระหว่างนั้นสองคนที่นั่งอยู่เบาะหน้าคือแฟนพี่คำตา และผู้ชายอ้วนคนนั้นก็กำลังคุยกันถึงเรื่องอะไรไม่รู้ แต่ดูเหมือนกำลังเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะผู้ชายร่างอ้วนคนนั้น ฉันนั่งฟังพวกเขาอยู่สักพักหนึ่ง ความคิดของฉันก็แว๊ปขึ้นมาว่า หวังว่าคงไม่ใช่ผู้ชายคนนี้นะ ให้หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็ไม่เอา และฉันตั้งใจจะอยู่กับพี่คำตาก่อนสักพัก แล้วค่อยคิดเรื่องผู้ชาย เมื่อฉันมาถึงบ้านพี่คำตา ซึ่งขณะนั้นมีผู้หญิงไทยอยู่ที่นั่นด้วยสองคน คนนึงเป็นคนบ้านเดียวกับฉันแต่ฉันไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อน แม้จะอายุใกล้เคียงกับฉัน ส่วนอีกคนมาจากภาคกลางเป็นผู้หญิงหน้าตาดี รูปร่างอวบอัดด้วยเสื้อคอกว้างและกระโปรงสั้นจู๋ ทั้งสองคนบินเข้ามาและมาอยู่ที่นี่เกือบครึ่งเดือนแล้ว เมื่อทักทายเสร็จพี่คำตาก็ให้ฉันไปอาบน้ำ พอฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พี่คำตาเดินมาบอกฉันว่าผู้ชายตัวอ้วนคนนั้น จะพาฉันไปด้วย ฉันบอกกับพี่คำตาว่ายังไงฉันก็ไม่ไป พี่คำตาจึงไล่ให้ฉันไปนอนพักก่อน แล้วค่อยว่ากัน ฉันนอนพักไปได้สักสองชั่วโมง พี่คำตาพร้อมด้วยผู้หญิงไทยอีกสองคนก็เข้ามาปลุกฉัน และบอกกับฉันอีกครั้งว่าผู้ชายคนนั้นจะพาฉันไปด้วย ฉันยังยืนยันตามเดิมว่าฉันไม่ไป พี่คำตาจึงบอกกับฉันว่าเขาขับรถมาตั้ง 600 กม เพื่อมารอรับฉันตั้งแต่เมื่อวานและ บลา บลาๆ พร้อมด้วยเสียงสนับสนุนจากอีกสองสาว พี่คำตาบอกกับฉันว่า ฉันควรไปดูก่อนถ้าเขาไม่ดีหรือว่ารู้สึกจะเข้ากันไม่ได้ ค่อยกลับมา ฉันเริ่มคิดหนักว่า ฉันใจดำเกินไปหรือเปล่าที่จะไม่ไปกับเขา เขาจะหาว่าฉันรังเกียจเขาที่เขาตัวอ้วนหรือเปล่า ฉันนั่งคิดสักพักฉันก็ตัดสินใจจะไปกับเขา โดยฉันตั้งใจไว้ว่าฉันจะไปอยู่กับเขาแค่ 2-3 วัน เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าตัวฉันเองใจร้าย แล้วฉันก็จะกลับมาหาพี่คำตา ดูทุกคนรู้สึกดีใจที่ฉันไป ต่างปลอบใจฉันมากมาย และให้กำลังใจฉันว่าหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้นให้โทรเข้ามา เมื่อฉันตัดสินใจเดินทางไปกับเขา และร่ำลากันเสร็จเขาก็หิ้วกระเป๋าฉันไปที่รถ เขาเปิดประตูรถและเรียกฉันให้เข้าไปนั่ง เมื่อฉันเดินไปจะขึ้นรถฉันก็ตกใจกับสภาพภายในรถสุดขีด เพราะสกปรกรกรุงรังไปด้วยขยะ ฝุ่น ขนสัตว์ และขี้บุหรี่ ขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกดีใจที่ฉันมีข้ออ้าง ที่จะไม่ต้องไปกับเขาแล้วคือ ความสกปรก แต่เมื่อฉันหันมาเพื่อจะบอกกับเขาว่าฉันไม่ไป ฉันก็เห็นเขากำลังยกกระเป๋าฉันขึ้นใส่ท้ายรถ และเมื่อเขาเห็นฉันหันมามองเขา เขาก็ส่งยิ้มใสซื่อให้ฉันเป็นครั้งแรก และเพราะรอยยิ้มเหมือนไม่รู้ไม่ซี้ว่าฉันกำลังรู้สึกยังไงกับเขา ก็เปลี่ยนใจฉันให้ขึ้นไปนั่งบนรถและปลอบใจตัวเองไปว่า เรื่องอย่างนี้มันทำความสะอาดกันได้ ฉันออกเดินทางจากบ้านพี่คำตาตอนบ่ายสองโมง ระหว่างทางฉันพยายามจะชวนเขาคุย แม้ฉันจะพูดอังกฤษได้ไม่ดีนัก แต่ฉันรู้สึกว่าเขาแย่กว่าฉันอีก ฉันเลยเงียบตลอดทาง และระยะทาง 600 กม นั้น ก็ทำให้ฉันรู้ว่ามันไกลแสนไกล ประกอบกับระหว่างเดินทางเจอทั้งรถติด ทั้งฝน เขาจึงพาฉันมาถึงบ้านเขาเอาเกือบห้าทุ่ม บ้านที่เขาอยู่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ ในเยอรมันตะวันออก เป็นบ้านสองชั้นขนาดกะทัดรัด เขาพาฉันเข้าบ้านโดยเขาอาศัยอยู่ที่ชั้นสอง โดยมีทางเข้าอยู่ที่ด้านข้างค่อนมาด้านหลังที่เมื่อเปิดประตูเข้ามา ก็จะเจอกับบันไดขึ้นบ้านและมีตู้เก็บรองเท้าอยู่สองหลัง เมื่อขึ้นมาบนบ้าน เปิดประตูเข้ามาก็ไม่ต้องแนะนำอะไรยาก เพราะหัวมุมบ้านด้านขวามือเป็นครัว ผนังด้านขวามือใกล้กับประตูเข้าบ้าน มีตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่หนึ่งหลัง ด้านซ้ายมือเป็นเตาผิง ถัดจากเตาผิงเป็นชั้นไม้สำหรับวางของ เล็กๆ น้อยๆ และเป็นที่วางทีวีและที่วางเครื่องเล่น โฮมเธียเตอร์ ที่มีลำโพงตัวใหญ่ตั้งอยู่มุมละตัว ส่วนหน้าทีวีนั้นมีโซฟาสีเขียวเก่าๆ ตั้งหันหน้าเข้าหาทีวีหนึ่งตัว และตั้งติดผนังทำมุมกับอีกตัว ถัดจากโซฟาที่เป็นห้องเดียวในบ้านมุมซ้ายมือคือห้องน้ำ หน้าประตูห้องน้ำที่อยู่หลังโซฟา ด้านขวามือเป็นมุมทำงานของเขาที่มีคอมพิวเตอร์อยู่หนึ่งตัว มีชั้นวางของและตู้เป็นไม้ที่มีเอกสารของเขา วางอยู่ระเกะระกะ ส่วนติดกับมุมทำงานของเขาทางขวามือ เป็นบันไดที่ตั้งอยู่กลางบ้าน ส่วนอีกต้านของบันไดคือ โต๊ะกินข้าวที่อยู่หน้าครัว เหนือบันไดขึ้นไปเป็นชั้นลอยที่ด้านหน้าเปิดโล่ง มีเพียงราวระเบียงสแตนเลสกั้นอยู่ และขนาดของชั้นลอยก็เพียงพอจะวางเตียงขนาดหกฟุตได้เท่านั้น ซึ่งหลังคาบ้านก็อยู่ถัดจากเตียงขึ้นไปแต่นิดเดียว คืนนั้นเขาให้ฉันขึ้นไปนอนบนเตียงข้างบน ส่วนเขานอนที่โซฟาหน้าทีวี ซึ่งคืนนั้นฉันก็หลับสนิทด้วยความเพลียจากการเดินทาง ฉันตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า เนื่องจากฉันนอนอยู่ใต้หลังคา ที่มีหน้าต่างหลังคาอยู่ใกล้ๆ และไม่ได้ปิดม่านบังแดด แดดจึงส่องเข้ามาปลุกฉันตั้งแต่ตีห้า เขาตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉันเรียบร้อย หลังจากล้างหน้าแต่งตัวเสร็จ ฉันก็มากินอาหารเช้าร่วมกับเขาในเช้าแรก หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จเขาบอกให้ฉันเอาเสื้อผ้า และของใช้ฉันส่วนตัวฉันเก็บในตู้เสื้อผ้าที่มีอยู่ใบเดียว แต่ฉันไม่ทำเพราะฉันตั้งใจแล้วว่าจะไม่อยู่หลายวัน หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เขาได้พาฉันไปแนะนำกับตายายคู่หนึ่ง จึงทำให้ฉันรู้ว่าบ้านเขาอยู่ติดกับบ้านพ่อแม่ของเขาเอง เมื่อฉันเจอกับพ่อแม่เขาครั้งแรก ฉันก็ยกมือไหว้ทั้งสองคนเหมือน ที่ฉันเคยทำกับคนไทยทั่วไป ทั้งสองคนพูดทักทายฉันด้วยภาษาเยอรมันที่ฉันไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ฉันสัมผัสได้ด้วยสายตา และความรู้สึกคือทั้งสองคนเป็นคนใจดี และน่ารัก ฉันรู้สึกประทับใจกับพ่อแม่เขาอย่างแปลกประหลาด วันแรกวันนั้น เวลาผ่านไปด้วยการทำความสะอาดบ้านให้เขา ส่วนในหัวฉันตอนนั้นคือคิดหาวิธีที่จะปฎิเสธ เพื่อที่จะไม่ต้องอยู่ที่นี่ต่อและวิธีที่จะกลับไปหาพี่คำตา ส่วนคืนนั้นฉันขอนอนที่โซฟาแทน ให้เขาขึ้นไปนอนข้างบน วันที่สอง หลังจากกินอาหารเช้าวันนั้นเขาก็เอาแล๊ปทอปขึ้นมา และเปิดโปรแกรมที่สอนภาษาไทยและภาษาเยอรมันให้ฉันดู เราสองคนเริ่มต้นสื่อการกันโดยใช้แล๊ปทอปเป็นตัวกลาง แม้การแปลประโยคของโปรแกรมจะไม่ถูกต้องนัก แต่ก็พอจะทำให้เราจับใจความได้บ้าง ซึ่งช่วยในการสื่อสารได้เยอะ และฉันก็เริ่มเรียนภาษาเยอรมัน โดยมีโปรแกรมนี้ช่วยบนโต๊ะอาหาร ส่วนเขาก็นั่งทำงานอยู่อีกมุมบนโต๊ะทำงานของเขา งานที่เขาทำคืออินเตอร์เน็ตเวปมาสเตอร์ และที่ทำให้ฉันรู้สึกหวาดระแวงเขา และพยายามจะหยิบยกมาเป็นข้ออ้าง เพื่อขอกลับไปหาพี่คำตา คือเขาทำเวปอีโรติกคอนแทค นอกจากเวปที่บ้านเขายังมี หนังสือลามกและวีดีโอโป๊มากมาย แต่ฉันก็ยังไม่สามารถพูดได้ในทันที เนื่องจากเขายังคงสุภาพกับฉันอยู่ และยังไม่เคยล่วงเกินใดๆ ฉันเลย เขาเองก็คงพอดูออกถึงเรื่องนี้ เขาจึงพยามเลี่ยงไม่ให้ฉันเห็น ส่วนหนังสือเขาก็เก็บทิ้ง และวีดีโอนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาแนะนำว่าเป็นแฟนเก่า มาขนไป จนฉันไปเจอดิวโด้อันหนึ่งในถุงพลาสติก ตอนนั้นชั้นทั้งตกใจและดีใจว่าฉันเจอหลักฐานแล้ว ฉันตัดสินใจหยิบถุงนั้นเดินไปหาเขา และยกถุงนั้นให้เขาดู ด้วยสีหน้าของฉันบ่งบอกว่ากำลังจะร้องไห้ เขาเลยมองหน้าฉันอย่างตกใจ ฉันบอกกับเขาสั้นๆ ว่าฉันจะไปจากที่นี่ เขาเปลี่ยนจากตกใจเป็นหัวเราะ แล้วเขาก็หยิบถุงนั้นไปทิ้งถังขยะ และพยายามจะบอกฉันว่าเป็นของแฟนเก่าเขา เขาลงไปพาพ่อแม่ของเขาขึ้นมาเพื่อ ยืนยันว่าเป็นของแฟนเก่าเขา เรื่องฉันกับดิวโด้จึงเป็นที่ตลกขบขันของทุกคนที่รู้เรื่อง วันที่สามเขาได้หยิบแฟ้มใหญ่ใบหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะอาหาร พร้อมกับจัดการพ่วงแล๊ปทอป เขาบอกฉันว่าอยากให้ฉันพิมพ์รายละเอียดในแฟ้มนี้ ให้หน่อย เขาคิดว่าฉันคงพิมพ์ได้เร็วกว่า (ฉันจบ ม.2 แต่ฉันเรียนคอมพ์ตั้งแต่รุ่นดิสก์ 5" จอนูนๆ ขาวดำ และทำงานเสมียนบัญชีมาสิบกว่าปี เลยทำให้ฉันพอใช้คอมพ์ได้บ้าง) ฉันเปิดแฟ้มนั้นดูก็ต้องตกใจและรู้สึกหน้าชา ในแฟ้มเป็นรูปผู้หญิงไทยมากหน้าหลายตา พร้อมด้วยรายละเอียดส่วนตัวของแต่ละบุคคล ฉันจึงเพิ่งรู้ว่าเขารับทำเวปไซด์จัดหาคู่นี้ ให้กับแฟนพี่คำตา และเขาก็กำลังจะทำงานร่วมกัน คือเป็นสายให้แฟนพี่คำตา คือหาผู้ชายที่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงไทย เหมือนป้าติ๋วที่เป็นสายให้พี่อนันต์หา ผู้หญิงไทยที่ต้องการแต่งงานกับฝรั่ง ฉันจึงเป็นหนึ่งในผู้หญิงจากแคตตาล๊อก ช่วงว่างเขาพาฉันเที่ยวชมเมืองที่เขาอยู่ แนะนำสถานที่ตรงนั้นตรงนี้บ้าง หรือถ้าเขาไม่ว่างฉันก็ไปเรียนหนังสือกับแม่เขา ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกประทับใจและรู้สึกดีกับครอบครัวนี้ และกับเขาฉันก็เริ่มประทับใจเขาขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่เคยล่วงเกินใดๆ ฉันเลย ซึ่งบางครั้งฉันก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า เขาทำงานกับภาพลามกอนาจารทั้งวัน แต่ถึงเวลาเข้านอนก็ต่างคนต่างนอน เขาเคยเปิดบัญชีให้ฉันดูเงินในบัญชีที่มีอยู่ 200 ยูโร และบอกกับฉันว่า เขาไม่มีเงินนะ ฉันรู้สึกขำกับการกระทำของเขา แต่ก็บอกกับเขาว่าไม่เป็นไร วันหนึ่งเขาพาฉันไปพบผู้ชายคนหนึ่งที่เมืองเบอร์ลิน เป็นผู้ชายวัยน่าจะ 50 ปีได้ เขามีแค๊ตตาล๊อกผู้หญิงไทยไปด้วย ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาสนทนากันว่าอย่างไรบ้าง แต่พอจะจับใจความได้ว่าผู้ชายคนนั้นคงจะเป็นลูกค้า และดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นกำลังสนใจฉันอยู่ เขาจึงแอบถามฉันว่าตกลงจะเป็นภรรยาของมั้ย ฉันอ้ำอึ้งอยู่สักพักขณะที่สายตาผู้ชายคนนั้น ก็กำลังมองฉันแปลกๆ ฉันจึงตอบเขาไปว่า ฉันตกลง เป็นครั้งแรกที่เขาจับมือฉันขึ้นไปจับกุม ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย และหลังจากวันนั้นเขาก็แสดงความรู้สึกดีๆ กับฉันเสมอ แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกินเลย จึงยิ่งทำให้ฉันรู้สึกชอบเขามากขึ้น จนครบสามอาทิตย์ที่เราอยู่ด้วยกัน เราจึงมีอะไรกันเป็นครั้งแรก และเขาก็กลายเป็นตาอ้วนของฉัน จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:21:07 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ปริ้นกระทู้ไปให้ดูเลยค่ะ เพราะแค่บอกคงไม่เชื่อ เอาไปให้ดูหลายๆคอมเมนต์นี่เลยค่ะๆๆๆ ถ้าไม่เชื่อก็เรื่องของเค้าแล้ว ชีวิตเค้า ช่างเค้า คุณทำได้ดีที่สุดแล้ว ขอชมเชยคุณด้วยที่เป็นห่วงคนอื่นๆ ทั้งๆที่ไม่มีสายเลือด น่าเชยชมมากนะคะ ขอปรบมือให้ แปะๆๆๆ ขอให้โชคดีในการเตือนสติพี่สาวคนนั้น ค่ะ เพราะพูดตรงๆนะคะ ไม่มีพระเจ้าฝรั่งที่ไหน จะเซ็นรับรองให้ก็มาได้เลยหรอกค่ะ ต้องมีสายเลือดที่แท้จริงกะภรรยา (และคุณภรรยามันอ่ะแหละต้องเป็นซิติเซนด้วยนะและเป็นคนยื่นเรื่องให้ โดยมีฝรั่งเป็นสปอนเซอร์ให้หรือเป็นเองก็ได้) หรือออออออออออออออออ จะขอวีซ่าทำงานให้เท่านั้น(ซึ่งเท่าที่อ่านมันก้อคืองานที่ ซ่องไก่กุ๊กกิ๊ก ที่ คห อื่นๆว่ามา อ่ะแหละ) ยิ่้งคุณพี่ท่านไม่รู้ภาษาอังกิดด้วย แล้วภาษาเยอรมัน รู้มั่งรึป่าวคะเนี๊ย? เค้าเอาไรมาให้เซ็นๆๆไป ก็เด๋วได้เป็นเซนต์สัญญาซีวิตและวิญญาณให้กะยมบาลนะจ๊ะ ประเทศเยอรมัน กะแถบๆนั้นอ่ะ ตัวดี ขอให้โชคดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 51 03:27:38 จากคุณ : Kryta (kryta) - [ 23 ส.ค. 51 03:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สาวเอย....จะบอกให้ หลังจากอยู่ที่นี่ได้หนึ่งเดือน ฉันก็มีโอกาสได้ไปเจอพี่คำตาที่บ้านอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันพบผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งกลับมาหาพี่คำตา หลังจากที่ไปอยู่กับผู้ชายคนนึงได้หนึ่งเดือน ส่วนผู้หญิงคนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกับฉันนั้นยังอยู่ ส่วนผู้หญิงอวบอึ๋มคนนั้นเพิ่งมีคนมารับไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ฉันมีโอกาสได้พูดคุยกับคนทั้งสองบ้าง แต่ดูเหมือนเขาไม่อยากจะคุยอะไรกับฉันมาก ฉันได้รับเพียงคำเตือนว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ อย่ากลับมาที่นี่ และอย่าให้ผู้ชายรู้เรื่องเงินที่จ่ายมาที่นี่ ทำให้ฉันเริ่มสนใจมากขึ้นว่าเพราะอะไร ส่วนพี่คำตานั้นก็เปรยกับฉันว่า "ผัวสมัยนี้หายาก แค่กาแฟถ้วยเดียวเขาก็เอากัน แล้วก็หาย xxxx แล้ว" ฉันรู้อึ้งกับคำพูดของพี่คำตา และเริ่มมีความรู้สึกขัดแย้งในความคิดกับพี่คำตา หลังกลับจากบ้านพี่คำตาได้ไม่นาน ตาอ้วนได้ถามฉันว่าฉันเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่มาที่นี่ ฉันตกใจและลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะตอบอย่างไรดี ฉันจึงตอบไปว่า ฉันเสียแค่ค่าเครื่องมาประมาณห้าหมื่นบาท เขาโวยวายทันทีและโทรไปถามแฟนพี่คำตาถึงเรื่องเงิน ฉันจึงได้รู้ว่าเขาก็จ่ายให้แฟนพี่คำตาไป 1500 ยูโร ที่เขาอ้างว่าเป็นค่าเดินเอกสาร และค่าเครื่องของฉัน ซึ่งตอนแรกทางโน้นตอบปฎิเสธ ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องเงินที่ฉันจ่ายไป ตาอ้วนจึงมาถามฉันอีกครั้งว่าฉันจ่ายให้ใคร และมีเอกสารการโอนมั้ย ฉันบอกว่าฉันจ่ายเป็นเงินสดให้กับพี่อนันต์ ซึ่งต่อมาตาอ้วนได้รับคำอธิบาย จากทางโน้นว่าเพราะฉันหน้าตาขี้เหล่ และอยากเดินทางมาเร็ว จึงตกลงใจจ่ายให้พี่อนันต์ไปเอง ส่วนพี่คำตานั้นไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ฉันจึงรู้ว่าฉันเองก็จ่ายเงินด้วยข้ออ้างเรื่องเอกสาร การเดินเอกสารและค่าเครื่องบิน เป็นเงิน 1 แสนบาท ส่วนตาอ้วนก็เสียเงินด้วยข้ออ้างเดียวกันอีก 1500 ยูโร ซึ่งรวมแล้วเป็นเงิน 1.6 แสนบาท (ตามค่าเงินขณะนั้น) ขณะที่ค่าอะไรต่อมิอะไรที่เขากล่าวอ้าง รวมค่าเครื่องบิน เต็มที่ไม่ถึง 5 ห้าหมื่นบาทด้วยซ้ำ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นไม่นาน ฉันก็มีเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์ และหลังจากออกจากโรงพยาบาลฉัน ได้มีโอกาสไปหาพี่คำตาที่บ้านอีกครั้ง ซึ่งพี่คำตาเมื่อเห็นหน้าฉันก็ตกใจ เลยพูดใส่หน้าฉันทันทีว่า "ก็เธออยากมาหาผัว ฉันก็หาผัวให้เธอแล้วไง ฉันทำงานฉันก็ต้องการเงิน ไม่มีอะไรที่ไม่ใช้เงิน ส่วนเธอถ้าอยากได้เงินเธอก็ต้องหาเอง" ฉันจึงรู้ว่าต่อไปนี้ฉันโดดเดี่ยวแล้ว และฉันจะทำอะไรผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะเขาพร้อมที่จะทำให้เสียได้ตลอดเวลา ในเมื่อไหนๆ เขาก็รู้แล้ว และฉันก็รู้แล้วว่าฉันถูกลอยแพ แน่ ฉันจึงตัดสินใจเล่ารายละเอียดของฉันทั้งหมดให้ตาอ้วนฟังเมื่อเขาถาม ว่าจริงๆ แล้วฉันต้องจ่ายเงินไปถึงหนึ่งแสนบาท เพื่อมาเยอรมันเพื่อเป็นค่าอะไรต่อมิอะไร ตามที่เขากล่าวอ้าง และตาอ้วนได้นำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับแฟนพี่คำตาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมรับ แต่กลับหาว่าฉันกุเรื่อง เพราะต้องการและอยากได้เงินจากตาอ้วน หลังจากที่อยู่ที่นี่ครบสามเดือน ฉันก็เดินทางกลับเมืองไทยโดยมีตาอ้วนกลับไปด้วย ตั้งใจไว้ว่าจะไปจดทะเบียนสมรสที่เมืองไทย แต่ไม่สามารถจดได้เนื่องจาก เราเตรียมเอกสารไปไม่ครบ และช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่ของเยอรมัน ทำให้ไม่สามารถติดต่อขอเอกสารได้ ฉันจึงต้องยื่นขอวีซ่าแต่งงานแทน ตาอ้วนไปอยู่เมืองไทยได้สองอาทิตย์ก็บินกลับมา ระหว่างนั้นฉันยังต้องตามเคลมประกัน เรื่องค่ารักษาตอนที่ฉันเข้าโรงพยาบาล เป็นเงินราว 4500 ยูโรที่ตาอ้วนสำรองจ่ายให้ก่อน หลังจากตาอ้วนกลับมาได้ไม่นาน ก็บินตามฉันไปที่เมืองไทยอีกครั้ง โดยหวังว่าเราอาจจะได้บินกลับเยอรมันพร้อมกัน แต่เรื่องฉันก็ไม่เสร็จตาอ้วนจึงต้องบินกลับคนเดียว ฉันใช้เวลาประมาณสองเดือน จึงได้วีซ่าและบินเข้ามาเยอรมันอีกครั้ง ในปลายปีนั่นเอง จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:24:39 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สาวเอย...จะบอกให้ ฉันกลับมาคราวนี้เป็นหน้าหนาว และตาอ้วนก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ตั้งแต่เช้ามืดทุกวัน บางวันก็ออกบ่าย ฉันจึงต้องอยู่บ้านคนเดียว อากาศที่หนาวเหน็บ ความเหงา ความเงียบ บรรยากาศขาวๆ เทาๆ บวกกับที่ฉันต้องอยู่คนเดียว ทำให้ฉันเหงาและคิดถึงบ้านเหลือเกิน ฉันเริ่มเครียดเรื่องเงิน เพราะจากที่ฉันเคยทำงานตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ฉันเคยมีรายได้เอง และฉันมีภาระต้องส่งเสียลูกและค่าเลี้ยงลูก แต่นับตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่เคยได้ส่งเงินเลย ซึ่งเรื่องนี้ฉันยอมรับว่าฉันมองข้ามมาโดยตลอด และช่วงที่อยู่เมืองไทยตาอ้วนก็ให้ฉันใช้แค่เล็กๆ น้อยๆ แม้จะนึกน้อยใจบ้าง แต่ฉันก็พยายามคิดในแง่ดีว่า เขาคงมีไม่เยอะ และเขาคงยังไม่ไว้ใจเราดี ฉันยังต้องพิสูจน์ให้เขารู้ว่าฉัน จริงใจกับเขาแค่ไหน ตาอ้วนเป็นคนฉลาดพอตัว และการที่เขาหันมาทำงานจัดหาคู่ เขาจึงได้รู้เรื่องแย่ๆ มากมาย เขาจึงระมัดระวังมากเรื่องเงินๆ ทองๆ แม้ฉันจะเข้าใจ แต่ฉันก็อดน้อยใจอยู่ลึกๆ ไม่ได้ เราเริ่มมีปากเสียงกันบ่อย และถึงขั้นรุนแรงในคืนก่อนวันแต่งงานแค่สามวัน เป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยปากขอเงินกับเขา เพื่อส่งไปให้ลูกที่เมืองไทย เขาปฎิเสธว่าเขาไม่มีเงินให้ ฉันจึงบอกเขาไปว่าฉันจะกลับเมืองไทย เขาเองก็รู้สึกเครียดแต่เขาก็บอกว่าตามใจฉัน ตอนนั้นฉันไม่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานหรอก ฉันคิดว่าถ้าจะรักฉันก็ต้องรักลูกฉันด้วย แต่ฉันรู้สึกเสียความรู้สึกกับเขามาก แต่สักพักเขาก็เดินมาบอกว่าเขาไม่ให้กลับ ส่วนฉันยังขอคิดดูก่อน เย็นวันนั้นแม่ของเขา ชวนฉันออกไปเดินเล่น แม่เขาคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงบอกกับฉันว่า "ลูกชายฉันเป็นคนดี ฉันเลี้ยงของฉันมาฉันรู้ เชื่อฉันสิ" เมื่อแม่พูดจบน้ำตาฉันก็ไหลออกมาทันที เมื่อเห็นฉันร้องไห้แม่ก็เข้ามากอดฉัน และกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูว่า "เธอยังจะทิ้งเขา และพวกเราลงเหรอ" ฉันร้องไห้ออกมาดังๆ อย่างไม่อายใคร ทั้งๆ ที่กำลังอยู่กลางถนน ฉันกลับมาบ้านฉันก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ แต่อีกใจนึงฉันก็ยังรู้สึกเสียใจกับเขาอยู่ไม่น้อย แล้วความคิดฉันก็แว๊ปเรื่องเงินประกันที่กำลังเดินเรื่องขอคืนอยู่ ฉันไม่แน่ใจว่า ที่เขาอยู่ๆ ตัดสินใจว่าไม่ให้ฉันกลับนั้น จะเพราะยังไม่ได้เงินคืนหรือเปล่า เมื่อคิดมาถึงตอนนี้ฉันก็นึกเกลียดเขาขึ้นมาทันที ฉันรู้ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เป็นเหมือน อะไรทุกอย่างของเขา ถ้าคอมพ์ถูกทำลายก็เหมือนบริษัทที่ถูกไฟไหม้ ฉันคิดอยากจะทำอย่างนั้นแล้วก็หนีไป และอย่างน้อยๆ ฉันก็มีเงินจากประกันที่ต้องเข้าบัญชีฉัน แต่อีกมุมหนึ่ง ฉันก็บอกกับตัวเองว่ามันเป็นเงินของเขา เป็นน้ำพักน้ำแรงที่เขาหามา และถ้าฉันทำลายคอมพ์เครื่องนั้น ทำลายข้อมูลของเขาทั้งหมด ที่เป็นแหล่งทำมาหากินเลี้ยงชีพของเขา แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป? แล้วเขาจะเกลียดฉันมากไหม? แล้วพ่อกับแม่ล่ะ จะเกลียดฉันไหม? แล้วเขาจะเกลียดคนไทยมากไหม? แล้วถ้าเขาจริงใจกับฉันล่ะ ก็เท่ากับฉันทำร้ายคนดีๆ ทำลายชื่อเสียงคนไทย ฉันจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อดูและพิสูจน์ใจของกันอีกครั้ง หลังจากแต่งงานเขาก็ส่งเงินไปให้ที่เมืองไทย โดยที่ฉันไม่เคยพูดกับเขาอีกเลยหลังจากวันนั้น และฉันคิดว่าฉันไม่สามารถนั่งขอเงินจากใครได้อีก หลังแต่งงานฉันจึงพยายามเร่งให้เขาหางานให้ ระหว่างนี้ฉันได้ติดต่อกับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ชื่อจินเป็นคนจังหวัดเดียวกับฉัน จินเป็นรุ่นน้องและบินมาก่อนหน้าฉันไม่กี่เดือน จินเป็นญาติห่างๆของพี่คำตา แต่จินต้องจ่ายเงินเป็นแสนเหมือนฉัน ส่วนแฟนของจินจ่ายไป 2000 ยูโร และหลังจากได้พูดคุยกับจิน ฉันจึงรู้ว่าจินกับนกยังติดต่อกันอยู่ ซึ่งจินกับนกรู้จักกันช่วงอยู่บ้านพี่คำตา นกอยู่จังหวัดเดียวกับฉัน เรารู้จักกันตอนที่เราไปถ่ายรูปด้วยกัน เมื่อฉันได้พูดคุยกับนกจึงรู้ว่านกหนักสุด เพราะนกยืมเงินมาจากนายทุนที่ดอกเบี้ยแพงแสนแพง และยืมเขามาทุกบาททุกสตางค์ ส่วนแฟนของนกก็จ่ายไปถึง 4500 พันยูโร และตอนนั้นแฟนนกตกงาน และรับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล เราสามคนต่างตกชะตากรรมเดียวกัน จินดีหน่อยที่ไม่มีลูกที่เมืองไทย ส่วนฉันมีลูกชายหนึ่งคน และนกมีลูกสองคน และหลังจากแต่งงานได้ไม่นานทั้งนกและจินก็ตั้งท้อง ส่วนฉันนั้นดูเหมือนจะโชคดีกว่าเพื่อนที่ไม่ท้องในขณะที่อะไรๆ ยังไม่ชัดเจน แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนฉันเองโชคร้ายกว่าใครเพื่อน เพราะหลังจากส่งเงินไปเมืองไทยหลังแต่งงาน 200 ยูโร ตาอ้วนก็ไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้ฉันอีกเลย จะซื้ออะไรให้แต่ละอย่างก็เหมือนไม่ค่อยจะเต็มใจ เงินให้ฉันติดกระเป๋าสักเซ็นต์ยังไม่มีเลย ฉันอาศัยเงินที่เหลือจากซื้อของในบางครั้ง 1-2 ยูโร แอบเก็บสะสมไว้ คิดว่าเผื่อวันใดวันหนึ่ง แม้อาจจะน้อยนิด (มาก)ก็อาจจะช่วยชีวิตฉันได้บ้าง ขณะที่นกนั้นแม้แฟนจะตกงานและอาศัยเงินจากสังคมสงเคราะห์ ฉันก็ได้ข่าวว่านกมีเงินส่งทางบ้านอยู่บ่อยๆ ครั้งละ 100 ยูโร จากการเก็บสะสมเงินที่ได้ประจำจากแฟน ที่ให้เพื่อจับจ่ายใช้สอยภายในบ้าน จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:25:50 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สาวเอย....จะบอกให้ ส่วนจินนั้นแม้ว่าแฟนของเธอจะตกงาน และกินเงินตกงานอยู่แต่ก็ได้ยินเธอบอกว่า แฟนของเธอส่งให้แทบทุกเดือน 300 บ้าง 500 บ้าง ส่วนเพื่อนสมัยเรียนของฉันคนนั้น นอกจากที่เธอกลับเมืองไทยตอนไปขอวีซ่าแต่งงาน จะได้ติดไม้ติดมือไปเกือบ 2 แสนบาท แฟนของเธอยังโอนไปให้เธออีก 2 แสนบาท เมื่อเธอมาอยู่ที่นี่แฟนของเธอยังส่งทางบ้านแบบ สองเดือนครั้ง ๆละ 500 ยูโร จึงทำให้บางครั้ง ฉันรู้สึกเกลียดตาอ้วนเอามากๆ แต่จะให้ฉันเอ่ยปากขอร้องนั้นก็เป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญสำหรับฉัน ฉันเครียดเรื่องเงินมาก จึงทำให้ฉันกับตาอ้วน มีปากเสียงกันอยู่บ่อยๆ ในบางความรู้สึกฉันก็เชื่อว่าตาอ้วนยังไม่ไว้ใจฉัน แต่ฉันบริสุทธิ์ใจกับเขาฉันอยากพิสูจน์ให้เขารู้ว่า ฉันไม่ได้ต้องการหรือหวังในทรัพย์สินเงินทองของเขา แต่เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ ฉันจึงพยายามเคี่ยวเข็ญให้เขาหางานให้ทำ ซึ่งดูเหมือนเขาจะเข้าใจฉันดีในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ง่ายนักสำหรับท้องที่แห่งนี้ และสิ่งที่ตาอ้วนเป็นกังวลคือยังมี พวกต่อต้านต่างชาติหรือนีโอนาซี แทรกอยู่ทั่วไปในละแวกนี้โดยเฉพาะ พื้นที่ที่มีการว่างงานมาก บังเอิญมีคนแนะนำให้ลองทำงานนวด โดยการออกไปรับจ้างนวดตามบ้าน ฉันจึงตัดสินใจไปเรียนนวดไทยในเยอรมัน และหันเหชีวิตมาเป็นหมอนวด ฉันอาศัยห้องเล็กๆ ในบ้านแม่เป็นจุดเริ่มต้น เราลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์บ้าง ไปขอวางใบโฆษณาตามร้านค้าบ้าง ร้านขายยาบ้าง แต่ก็โดนปฎิเสธบ้าง โดนหัวเราะเยาะบ้าง โดนเขาโยนใส่หน้าอย่างไม่แสแยบ้าง และเขาโยนลงถังขยะให้เห็นๆบ้าง หลังจากลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ไปแล้ว สองครั้งในสองอาทิตย์ติดต่อกัน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนสนใจ Traditionelle Thaimassage ของฉันเลย ซึ่งทำให้ฉันเครียดมาก ตาอ้วนพยายามปลอบใจ และให้กำลังใจฉันมากมาย ฉันรู้ว่าตาอ้วนก็เครียดเพราะเขาหมดเงินไปเกือบ 3 พันยูโร ในการลงทุนทำโน่น ทำนี่ และเป็นค่าเรียนของฉัน แต่ตาอ้วนไม่เคยแสดงให้ฉันเห็น เราจึงตัดสินใจลองลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์อีกครั้ง ในสัปดาห์ที่สาม และฉันก็ได้ลูกค้าคนแรกในชีวิต และหลังจากนั้นฉันก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ กิจการนวดก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชีวิตฉันค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดี ส่วนตาอ้วนนั้นก็ยังคงมีอินเตอร์เน็ตเป็นงานหลัก และมีงานจัดหาคู่เป็นรายได้เสริม โดยตาอ้วนจะมีเวปหาคู่เป็นของตัวเอง โดยใช้รูปจากพี่คำตา เมื่อมีผู้ชายสนใจติดต่อมา ตาอ้วนก็ บลา ๆ ๆ เมื่อผู้ชายคนนั้นสนใจจริง ก็จะเชิญฝ่ายหญิงเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อเรียนรู้กันและหากถูกใจกัน ขั้นต่อไปก็ขอวีซ่าแต่งงาน ถ้าไม่ถูกใจก็หาคนใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายถูกเลือกมากว่า แต่ตาอ้วนเป็นแค่คนส่งเรื่อง ต่อไปให้แฟนพี่คำตาเท่านั้น เรื่องเชิญเรื่องเอกสารไม่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนเรื่องค่าเหนื่อยนั้นก็แล้วแต่จะตกลงกัน แต่ที่แน่ๆ คือแฟนพี่คำตาต้องได้ 1500 ยูโร ฉะนั้นกับบางคน ฉันจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมตาอ้วนจ่าย 1500 ยูโร แฟนของจินจ่าย 2000 ยูโร และแฟนของนกจ่ายถึง 4500 ยูโร เพราะคนต้นทางกินเยอะ หลังจากทำไปได้สักพักตาอ้วน จึงเริ่มเชื่อฉันแล้วว่าฝ่ายหญิงนั้นเสียเงิน ที่เมืองไทยจริงๆ และเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทสำหรับคนไทย หาเช้ากินค่ำนั้นถือเป็นเงินก้อนใหญ่ ตาอ้วนจึงพยายาม อยากให้ฉันติดต่อกับผู้หญิงไทยเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินกันมากมายขนาดนั้น แต่สำหรับฉันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตอนนั้นคนไม่เชื่อถือฉัน ฉันโกหกไม่เป็น ฉันหลอกคนไม่ได้ เมื่อฉันไม่โม้เรื่องเงินคนจึงไม่สนใจฉัน ทำนองว่าตัวฉันเองยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะมีปัญญาหาผัวดีๆ ให้คนอื่นหรือ จนฉันสามารถพาคนรู้จักมาได้คนหนึ่ง ด้วยวีซ่าแต่งงานโดยฝ่ายชายเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนฝ่ายหญิงฉันขอค่าสินน้ำใจหนึ่งหมื่นบาท แต่เงินหนึ่งหมื่นบาทก็ทำฉันกังวลใจอยู่นาน เพราะกลัวเขาอยู่ด้วยกันไม่ได้หรือเข้ากันไม่ได้ กลัวฝ่ายชายจะเป็นคนไม่ดี หรือไม่ก็กลัวฝ่ายหญิงจะมาหลอกลวงฝ่ายชาย และสารพัดความกลัว ฉันจึงได้ข้อสรุปว่าหากคนใจไม่ร้ายพอ ก็ยากที่จะทำงานประเภทนี้ได้ ฉันพาคนเข้ามาเองบ้างแต่แค่ไม่กี่คน หากฉันเห็นและมั่นใจว่า ผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นคนดี โดยขอค่าตอบแทนจากฝ่ายหญิงรายละหมื่นบาทบ้าง หมื่นห้าบ้าง หรือไม่ต้องเสียให้ฉันสักบาทเลยก็มี ตาอ้วนทำงานเสริมนี้ได้ปีกว่าๆ ก็เกิดความเบื่อหน่าย แม้ว่าค่าตอบแทนที่ได้จะดี แต่เราก็ได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมายจากการเป็นสายให้บริษัทจัดหาคู่ เราได้เรียนรู้ว่า จากอีเมล์แสดงความสนใจจาก 100 คน จะมีที่สนใจอยากมีครอบครัว อยากแต่งงานจริง แค่ 4-5 คน ที่เหลือก็แค่พวกที่อยากหาผู้หญิง เพื่อความบันเทิงทางเพศเท่านั้น และจากคน 4-5 คนนั้น จะมีคนที่มีคุณสมบัติพร้อมคือ โสดหรือม้าย มีงานทำมีรายได้พอสมควร มีที่อยู่แน่นอน และมีศักยภาพทางการเงินพอสมควร แค่ 1-2 คน และจาก 1-2 คนนี้ ก็ยังต้องดูด้วยว่า คนใกล้ตัวเขามีปัญหาหรือเปล่า ได้เรียนรู้จากบริษัทจัดหาคู่ จากพี่คำตากับแฟนที่ทำให้ฉันไม่เคยเข้าใจพวกเขาเลย ช่วงที่ฉันบินเข้าเยอรมันคือปี 2002 นั้น ทางสถานฑูตยังไม่ค่อยเข้มงวดเรื่องวีซ่ามากนัก ถ้าฝ่ายชายไม่เชิญผู้หญิงที่ตัวเองกำลังสนใจอยู่เข้ามาเอง เขาก็ว่าจ้างใครก็ได้ให้เชิญฝ่ายหญิงเข้ามาท่องเที่ยว 3 เดือน เมื่อผู้หญิงบินเข้ามาที่นี่กรณีที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนเชิญ เมื่อเจอตัวจริงและถูกใจก็จะจ่ายค่านายหน้าตามที่ตกลงกันไว้ และรับไปอยู่ด้วย แต่ก็มีหลายคน ที่พอเจอตัวฝ่ายหญิงจริงๆ ก็ไม่เอา เพราะตัวจริงกับรูปถ่ายไม่ตรงกัน เนื่องจากรูปที่ถ่ายจากสตูดิโอนั้นจะออกมาสวยกว่าตัวจริง บางคนตัวจริงก็ต่างกับรูปเหมือนฟ้ากับเหว กรณีนี้ผู้หญิงก็ต้องรอผู้ชายคนใหม่ พร้อมกับผู้หญิงที่ให้คนจ้างเชิญ ส่วนฝ่ายชายก็อาจจะเชิญใหม่ หรือไม่เชิญเลยแต่รอคนบินเข้าใหม่ หรือไม่ก็เลิกคิดไปเลย ตามหลักเมื่อทดลองอยู่ด้วยกันแล้ว เป็นที่พอใจกันก็ตกลงเดินเรื่องขอวีซ่าแต่งงาน และมีไม่น้อยที่เมื่ออยู่ด้วยกันไปแล้วไม่ถูกใจกัน ที่อาจจะมาจากหลายสาเหตุ ก็จะเปลี่ยนคนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอ หรือจนกว่าวีซ่าจะหมดอายุถ้าหาไม่ได้ก็คือกลับบ้านมือเปล่า บางคนกว่าจะเจอคนที่จะแต่งงานด้วยก็ผ่านมา 4-5 คน หรือถ้ารู้ว่าเป็นคนสุดท้ายที่วีซ่าใกล้หมด ก็ต้องพยายามกันสุดฤทธิ์สุดเดช เพื่อให้ฝ่ายชายยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็ตาม ทุกอย่างเหมือนจะขึ้นอยู่กับพี่คำตาเท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด เพราะพูดไม่ได้ฟังไม่ออก จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:26:54 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สาวเอย....จะบอกให้ ฉันเองก็มารู้ภายหลังว่าจริงๆ แล้วตาอ้วนนั้นไม่ได้ตั้งใจไปรับฉันเลย เขาไปบ้านพี่คำตาแค่เรื่องงานเท่านั้น ตัวเขาเองก็ไม่คิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ วันที่ฉันบินเข้ามานั้นเขาก็แค่นั่งไปเป็นเพื่อนแฟนพี่คำตา เพียงแต่เขาเห็นฉันแล้วเกิดชอบ ส่วนฉันนั้นพี่คำตาก็บอกกับตาอ้วนไปว่า ฉันก็ชอบเขามากทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยพูดในทำนองนั้นเลย เพราะฉะนั้นหากพี่คำตาบอกอะไรก็ต้องเชื่อกันตามนั้น หรือแม้จะไม่เชื่อก็ขัดไม่ได้เพราะเหมือนหลวมตัวมาแล้ว จึงมีหลายคนที่ตกเป็นสินค้าโดยไม่รู้ตัว โดยฝ่ายที่ต้องการซื้อบริการ จะจ่ายตามที่ตกลงกับแฟนพี่คำตา เช่น 500 ยูโรสำหรับ 2-3 สัปดาห์ หรือบางครั้งก็อาจจนกว่ามีคนแสดงความสนใจฝ่ายหญิง เพื่อเป็นการประหยัดเรื่องอาหารการกิน โดยฝ่ายหญิงจะได้รับคำอธิบายเพื่อให้ไปว่า เขาคนนั้นเป็นคนดี มีงานการที่ดีและมีความมั่นคง และได้รับคำอธิบายว่าเข้ากับเขาไม่ได้เมื่อต้องให้กลับ ส่วนเรื่องความเหมาะสมระหว่างวัยนั้น จึงไม่ต้องพูดถึงแม้จะดูเหมือนปู่กับหลานก็ช่าง เขาก็ไม่สนใจเพราะผู้หญิงออกไปเร็ว เขาก็ได้เงินและหมดหน้าที่เร็วเท่านั้น หลายๆ ครั้ง ผู้ชายก็เชิญผู้หญิงเข้ามาเพียงเพื่อ ตอบสนองความต้องการทางเพศ และทำงานบ้าน อาจจะในรูปแบบวีซ่าท่องเที่ยวสามเดือน หรือวีซ่าเพื่อเรียนภาษาหนึ่งปี เมื่อวีซ่าหมดก็ส่งกลับ โดยที่ตลอดเวลาฝ่ายหญิงไม่เคยรู้ตัวเลยว่าแค่ถูกหลอกใช้ บางคนก็โชคร้ายขนาดถูกขังไว้แต่ในบ้าน และถูกบังคับให้นอนกับผู้ชายคนอื่น หรือถูกบังคับให้ขายตัว ผู้หญิงที่โชคดีได้แต่งงาน ไม่ว่าจะด้วยความยินดีหรือจำใจก็ตาม มีหลายคนที่ชีวิตต้องลุ่มๆ ดอนๆ ด้วยบางคนที่ยอมแต่งเพราะเหตุผลเรื่องการลดหย่อนภาษีเท่านั้น หรือเมื่อแต่งไปแล้ว คนรอบข้างสามีไม่ยอมรับ เช่น แม่หรือพ่อสามี หรือลูกติดสามี จึงทำให้มีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เสมอ บางคนสามีตกงานกินเงินจากสังคมสงเคราะห์ อะไรๆ จึงต้องตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของผู้รับเงินสงเคราะห์ด้วย เมื่อต้องการมีงานทำมีรายได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำให้ชีวิตดำเนินไปอย่างยากลำบาก นอกจากนี้ปัญหาเรื่องความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรมนั้น ก็เป็นปัญหาให้อีกหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะความไม่เข้าใจเรื่องการเลี้ยงดูบุพการีของคนไทย ส่วนฝ่ายหญิงก็มีความคาดหวังในสิ่งที่ควรจะได้จากฝ่ายชาย โดยลืมไปว่าเขากับเรานั้นเรื่องวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะได้รับข้อมูลผิดๆ มาจากเมืองไทย จากคนที่ชักชวนมา หรือได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้การปรับตัวเข้าหากันนั้นเป็นไปได้ยาก หลายๆ คนต้องอยู่แบบกล้ำกลืนฝืนทน เพราะไม่มีเงิน ไม่มีงาน ภาษาไม่ได้ แต่ภาระทางเมืองไทยนั้นหนักอึ้ง ไหนจะหนี้สิน ไหนจะลูก ไหนจะพ่อแม่ ที่รอคอยอย่างมีความหวังที่เมืองไทย โดยที่พวกเขาไม่เคยเข้าใจเลยว่า การมาหาสามีฝรั่งนั้นแตกต่างจากการไปทำงานเกาหลี ไต้หวัน โดยสิ้นเชิง หลังจากที่นกคลอดลูกได้ไม่ถึงปี นกก็แอบออกไปทำงานในซ่อง โดยเธอหวังเพียงเพื่อหาเงินเคลียร์หนี้ 1 แสนบาทที่ยืมมาจากนายทุน ที่ตอนนี้ทบต้นทบดอกแล้วเป็นยอด 3 แสนกว่าบาท แต่เมื่อเธอขายไปได้สักพัก เธอก็ไม่อยากเลิก จากที่หวังว่าแค่หมดหนี้ เธอก็อยากสร้างบ้าน ซื้อที่ ซื้อรถ และส่งให้ทางบ้านใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ตอนนี้เธออยากเป็นแม่เล้าเอง ส่วนสามีเธอนั้น หย่าขาดกันตั้งแต่เขาจับได้ว่าเธอไปทำงานขายตัว ส่วนลูกเธอทิ้งให้อยู่กับพ่อด้วยข้ออ้างว่าเขาเลี้ยงลูกได้ดีกว่าเธอ หลังจากที่เธอไปทำงานนี้เธอก็เปลี่ยนไป ไม่ติดต่อมาหาฉันอีก จินนั้นหลังจากที่คลอดลูก เธอก็ไปเรียนนวดไทยและเปิดร้านนวดที่บ้านเหมือนฉัน แต่ทราบว่ากิจการไม่ค่อยดีนัก ฉันกับจินก็ไม่ได้ติดต่อกันนานมาแล้ว หลังจากที่ฉันเริ่มเข้าใจชีวิตที่นี่มากขึ้น ฉันจึงพอจะประเมิณความเป็นอยู่ของเธอได้ และจากคำพูดที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของเธอ จึงทำให้ฉันรู้ว่าเธอโกหกเรื่องเงินที่ส่งทางบ้านมาโดยตลอด จนฉันเก็บมาคิดมาก ทั้งเสียใจและน้อยใจตาอ้วน จนชีวิตคู่ของฉันเกือบพัง เพราะการเชื่อคนโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะคิดไม่ถึงว่าจินจะโกหกกันเพื่ออะไรกัน ยิ่งเธอหันมาทำอาชีพเดียวกับฉัน จึงยิ่งทำให้ฉันยิ่งรู้จักเธอมากยิ่งขึ้น ฉันกับจินจึงไม่ติดต่อหากันอีกเลย เพื่อนสมัยมัธยมของฉันนั้น ก็ยังคบกันอยู่โดยนานๆ โทรหากันครั้ง เราจะพูดคุยเรื่องลูกกันเสียส่วนใหญ่ เพราะเรารับลูกมาอยู่ที่นี่แล้ว และลูกเราก็อายุไล่เลี่ยกัน ส่วนเรื่องเงินๆ ทองๆ นั้น ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เธอจึงค่อยๆ หลุดออกมาเองให้ฉัน พอจะรับรู้ได้ว่าชีวิตเธอลำบากอยู่ไม่น้อย และอยากทำงานใจแทบขาด ตอนนี้เธอได้งานทำความสะอาดเดือนละ 400 ยูโร หลังจากที่เธอพยายามหามาเกือบสี่ปี แต่เธอก็ยังพูดอะไรเว่อๆ ในแบบฉบับของเธอ ฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรมากแล้ว แต่จะเบรกบ้างก็ในบางครั้ง หลังจากที่ตาอ้วนเลิกเป็นสาย แต่ก็ยังรับทำเวปไซด์ให้กับพี่คำตาอยู่ ฉันจึงยังคงได้ข่าวคราวอยู่บ้างเป็นระยะ และช่วงหลังนับตั้งแต่ปี 2003-2004 ที่ทางสถานฑูตเริ่มเข้มงวดเรื่องการออกวีซ่าท่องเที่ยว ก็มีการพลิกแพลงโดยการให้ญาติของฝ่ายหญิงเชิญเข้ามา แล้วก็มาฝากไว้ที่บ้านพี่คำตาอีกที หรือไม่ก็ให้ฝ่ายชายเชิญมาเพื่อแต่งงานเลย แต่ถึงแม้จะมาในวีซ่าแต่งงานก็ไม่ได้ความว่าจะได้แต่งเสมอไป และช่วง 2-3 ปีให้หลัง จะมีผู้หญิงมาจากทั่วสารทิศ และเป็นคนมีการศึกษามีหน้าที่การงานที่ดีมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนจะมีแต่สาวๆ ความรู้น้อยแถวบ้านฉัน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะน้อยลง เพราะพี่คำตาเก็บค่านายหน้ามากขึ้น ป้าติ๋วตอนนี้ก็ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ส่วนพี่คำตานั้นจากที่เคยได้ยินป้าติ๋ว ชอบเอาความร่ำรวยของพี่คำตาไปเป็นแรงกระตุ้น ให้คนอยากมาเป็นเมียฝรั่ง แต่ความเป็นจริงในวันนี้คือ เงินที่ได้จากฝ่ายหญิงมานั้นถูกเขาโกงและพี่อนันต์ก็ถูกโกง ถ้าคำนวนคร่าวๆ ดูแล้ว พี่คำตาน่าจะมีเงินมหาศาลจากการทำงานนี้ แต่ทุกวันนี้พี่คำตาไม่มีอะไรนอกจากหนี้สินก้อนโต เงินก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง บางครั้งแฟนพี่คำตายังต้องส่งพี่คำตาไปขัดดอกเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฉันไม่เคยเข้าใจเลยว่า เงินที่ได้มานั้นไปไหนหมด หรือเพราะเวรกรรมนั้นมีจริงฉันก็ไม่อาจเข้าใจได้ ______________________________________ ส่วนผู้หญิงไทยคนนั้น หลังจากที่ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ จึงได้ทราบความเป็นมาและเป็นไปของเธอว่า เธอถูกผู้ชายคนหนึ่งว่าจ้างให้ผู้ชายอีกคนเชิญเธอเข้ามาด้วยวีซ่าแต่งงาน หลังจากที่เธอเคยยื่นวีซ่าเพื่อเรียนแล้วไม่ผ่าน เมื่อมาอยู่ที่นี่เธอก็ใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนั้นได้เกือบเจ็ดเดือน จนวีซ่าที่ขอยืดออกไปอีกนั้นก็หมดอายุลง เธอจึงถูกส่งไปหาพี่คำตาโดยได้รับคำอธิบายเรียบๆ ว่า เขาต้องการเธอเพื่อทำงานบ้านและเพื่อเลี้ยงลูกให้เขาเท่านั้น และตอนนี้ก็มีผู้หญิงไทยคนใหม่บินมาหาเขาแล้ว ซึ่งตลอดเวลาเขาไม่เคยทำอะไรให้เธอเข้าใจเป็นอย่างอื่นเลย นอกจากทำให้เธอคิดว่าเขารักเธอและเธอก็รักเขา หลังจากนั้นชีวิตของเธอยังต้องเผชิญ กับเรื่องร้ายๆ อีกมากมาย จนเธอพยายามหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย แต่โชคดีมีคนให้ความช่วยเหลือเธอไว้ และนำเธอส่งโรงพยาบาลก่อนที่แฟนพี่คำตาจะไปรับเธอมาอยู่ที่บ้าน และหลังจากนั้นฉันก็รับเธอมาอยู่ที่บ้านฉัน เรื่องราวของเธอนั้นดูเหมือนว่ายังต้องมีเรื่องยุ่งยากอีกมากมาย ซึ่งพวกเรายังต้องลุ้นต่อไปว่าบทสรุปแล้วชีวิตของเธอจะเดินไปในทิศทางใด จากคุณ : มะนาว - [ 23 ส.ค. 51 03:27:59 A:87.172.124.121 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Wow, I really like สาวเอย....จะบอกให้ series. Very informative and yet unfortunate at the same time. Human trafficking that's what it is... จากคุณ : Rennis - [ 23 ส.ค. 51 08:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ชอบคห. 38 เพราะอธิบายได้เหมือนอย่างที่เราคิดจะพูดเลย ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าการที่แต่งงานกับฝรั่งไม่ได้หมายความว่าต้องรวย บอกยังไงก็ไม่เชื่อ เป็นเพราะเค้าเห็นว่าค่าเงินมันต่างกันไง คนไทยเลยคิดว่าฝรั่งต้องรวย เพี่อนเราถึงขนาดบอกว่าขอโน๊ตบุคเครื่องนึงซีถ้ากลับมาเที่ยวเมืองไทย ต่อให้พูดเล่นเราก็รู้สึกไม่ค่อยดี เค้าคงนึกว่าโน๊ตบุคเครื่องเดียวคงไม่ได้มากมายอะไรสำหรับเราซึ่งถือเงินดอลล่าร์ เราเองจะซื้ออะไรแต่ละอย่างยังคิดแล้วคิดอีก เพราะไม่อยากจ่ายมาก เออถ้าบอกว่าซื้อให้น้องให้พี่เราเองเป็นของขวัญก็ยังพอฟังได้ เพราะเป็นคนในครอบครัว เฮ้อ... เป็นไปได้นะคนเรา ค่านิยมแบบนี้คงยังอยู่อีกนาน ทำให้คนที่หากินกับสาวไทยที่อยากรวยทางลัดยังหากินอยู่ได้เรื่อยๆ จากคุณ : amskye - [ 23 ส.ค. 51 09:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่มีอะไรในโลกนี้ได้มาง่ายๆ จากคุณ : ศรีธนา - [ 23 ส.ค. 51 09:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ มะนาว เล่าเรื่องได้ดีมากๆ ค่ะ ขอบคุณที่แชร์ นะคะ และดีสำหรับเตือนสาวไทย ทั่วไปด้วย จากคุณ : NANG20 - [ 23 ส.ค. 51 11:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาแจมอีกที ขอบอกว่าที่เยอรมันซ่องคนไทยเยอะมากค่ะ  ทั้งนวดไทยที่มีบริการแฝง และเปิดเป็นซ่องจริง ๆ หรือจะเอาแบบขายตรง ที่ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ก็มีเยอะ  ข่าวโสเภณีไทยถูกฆ่าก็มีอยู่บ่อย ๆ  คุณจขกท.ปริ้นท์กระทู้นี้ไปให้พี่เค้าอ่านมั้ยคะ ถือว่าคุณเตือนแล้ว  แต่ถ้าไม่เชื่อก็แล้วแต่เวรแต่กรรม จากคุณ : Sonnenschein - [ 23 ส.ค. 51 12:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามาอีกรอบด้วยความเป็นห่วง อย่างที่เพื่อนๆ บอก ลอง print out กระทู้นี้ไปให้พี่เค้าอ่าน แต่ไม่ต้องเอาคำถามใส่ไปด้วย อย่างน้อยก็ช่วยคนไทยด้วยกันค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 23 ส.ค. 51 19:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 " คุณ จขกท กลับไปหาพี่เขาอีกรอบนะคะ หลังจากปิดร้านช่วยจูงเธอเข้าร้านเน็ทหน่อยเหอะ... เปิดกระทู้นี้ให้อ่าน หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาแล้วค่ะ คุณคงช่วยได้เท่านี้ ถ้าพูดเขาคงไม่ฟังค่ะ ขอเวลาแกแป้บเดียวให้แกได้อ่านกระทู้นี้เหอะ (( ถ้าปริ้นไปคงหลายหน้าและอ่านยากค่ะ มันจะมัวๆ อีกอย่างถ้าพาแกมาอ่านเองกะตา พี่เขาจะได้เข้าใจว่าคุณห่วงเธอแค่ไหน)) เชื่อว่าหลังจากได้อ่านถ้าเธอไม่หน้ามืดจนเกินไป น่าจะฉุกคิดได้บ้าง อย่าให้คำว่า "เงิน" มันมาบังตานัก ช่วยมาอัพเดรดข้อมูลให้ฟังหน่อยนะคะ เป็นห่วง (สาธุขอให้วีซ่าเธออย่าผ่านเลย) จากคุณ : Untitled-II - [ 23 ส.ค. 51 20:46:45 A:58.10.234.65 X: TicketID:181209 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อยากรู้ว่า คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว รบกวนเจ้าของกระทู้กลับมาตอบด้วยนะคะ จากคุณ : LoveIsColorBlind - [ 23 ส.ค. 51 21:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 57 A quick test drive around the blocks for a few days, weeks or months, fed up with this model then decide to change to a new model since there are plenty for free trials around every corner. Fairy Tales are just Fairy Tales. Wake up. จากคุณ : genf - [ 23 ส.ค. 51 22:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จขกท ค่ะ ลองนึกภาพดูน่ะค่ะ  เราอ่ะเป็นลูกค้าเค้า  ก็รู้จักกันในนามที่ว่าเราเป็นลูกค้าประจำ  เค้าจะชอบคุยกะเราเป็นพิเศษเพราะเค้าอยากมีแฟนเป็นฝรั่ง(เรามีแฟนเป็นลูกครึ่งค่ะแต่อยู่ทีไทยค่ะย้ายมาอยู่กับแม่และพ่อที่นี่นานๆจะไปเยียมปู่กับย่า)  เราเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เค้าสกิดใจบ้างใหมที่เราเล่าไป  เพราะว่าวันนี้ไปเจอพี่เค้ามา  พี่เค้าบอกว่าพี่นีมีญาติที่สวีเดนด้วย  คือไปกรณีเดียวกันกับเยอรมัน   เลยเป็นอันว่าตอนนี้พี่ออ  มีตัวเลือก2ตัวเลือกค่ะ คือถ้าวีซ่าที่ไหนผ่านคงไปที่นั่น วันนี้เราบอกพี่ออค่ะ ว่าให้พี่ออหัดเล่นเอมบ่อยๆเพราะถ้าจะไปอยู่ที่นู่นจริงๆจะได้แชทกะเราเผื่อเราจะช่วยไรแกได้หากแกมีปัญหาอ่ะไร และวันนี้ได้บอกให้แกลองไปหาข้อมูลในกูเกิลดูเรื่องสองประเทศนี้ เราบอกพี่เค้าว่าเราทำบ่อย บางทีแกอาจเจออะไรดีดีที่สามารถเตือนหรือแนะนำแกได้ค่ะ เพราะถ้าให้เราปริ้นไปเลยเรากลัวว่ามันจะเป็นการยุ่งเรื่องส่วนตัวเค้ามากเกินไป  อีกอย่างเราเองก็ยังเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่เลยค่ะ ไม่กล้าไปสอนผู้ใหญ่จริงๆ  แต่อยากบอกในสิ่งที่เรารู้มากกว่าเค้าค่ะ พยายามอย่างมาก(แต่ถ้ามันจะถึงวันที่จะต้องปริ้นไปเดี๋ยวจะแอบไปสอดไว้ที่หน้าร้านค่ะ )  ตอนนี้ยังไม่ได้วีซ่าค่ะ  นัดรอสัมภาษอยู่  แต่ว่าเราไม่กล้าพูดอ่ะไรมากเลยค่ะ  เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง อีกอย่างแกคงไม่อยากที่จะเล่าให้เราฟังแล้วให้เราไปมีความคิดขัดแย้งกับแกหรอกค่ะ แ  เวลาแกพูดถึงพี่นีดูแกเชื่อใจมาก  อ้อแล้วเรากูพูดลอยๆว่า  คนที่เชิญเค้าไปได้ไม่จำเป็นต้องรวยก็เชิญได้ให้เค้าฟัง เพราะเค้าเข้าใจว่าต้องคนที่รวยเท่านั้นถึงจะเชิญเข้าประเทศได้                                        แต่ แกบอกว่าเงินแสนสองแสนแต่แลกกับความสบายของลูกและแกในอนาคต แกไม่เสียดาย  ขอให้วีซ่าไม่ผ่านทีเถิดค่ะเพราะคงมีอยู่ทางเดียวที่แกจะไม่ได้ไป   หรือถ้าแกจะได้ไปจริงๆคงต้องอวยพรให้แกโชคดี  อย่าได้เจออะไรแบบที่เราคิดเลยค่ะ  บางที่โชคอาจเข้าข้างแก   แม้ว่าจะมีอยู่น้อยนิด  คิดว่าคงอีกนานอยู่กว่าที่แกจะได้ไปสอบวีซ่า  ยังไงเดี๋ยวจะเอามาเล่าให้ฟังค่ะ   ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆค่ะ ตอนแรกที่สร้าง  กระทู้ขึ้นมาแค่สงสัยว่าเรื่องแบบนี้มีจริงๆหรอ ปกติเราจะคุยเรื่องพวกนี้กับแม่แฟน  แต่ตอนนี้เค้าไม่อยู่ที่ไทยอยู่เราเลยลองมาโพสถามดู เพราะอยากรู้ค่ะ  ความคิดเราเราเองก็คิดว่าการหาคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตแบบนี้มันมีอยู่หรอ   ถ้ามีอ่ะไรเดี๋ยวต่อจะมาเล่าให้ฟังใหม่น่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 51 23:37:17 แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 51 23:32:45 จากคุณ : lovekubnisz - [ 23 ส.ค. 51 22:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 60 " คุณ จขกท ค่ะ เราไม่รู้ว่าเยอรมันขอวีซ่ายากแค่ไหน แต่เดาว่าคงยากกว่าสวีเดนล่ะค่ะ...เรารู้จักน้องคนนึง ไม่ได้สนิทเท่าไหร่ แต่เธอชอบมาขอความช่วยเหลือ เรื่องภาษาอังกฤษบ่อยๆ ขอวีซ่าไปเยี่ยมแฟนที่สวีเดน ได้มาแล้วค่ะ 3 เดือน แต่สิ่งที่เรางงที่สุดคือ ไม่เคยเจอหน้ากัน แชทกันประมาณ 5 เดือน ส่งจดหมายเชิญไปเที่ยว อุดช่องโหว่ทุกอย่าง สร้างหลักฐานเท็จ ผู้หญิงไม่มีงานทำมาเกือบปีแต่มีเงินเป็นแสน มีจดหมายรับรองการทำงาน พร้อมกับสามารถลาหยุดพักได้ตั้ง 3 เดือน ออกโดยสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง (ตรงนี้ล่ะมั้งที่ช่วยให้วีซ่าผ่าน) ก็ได้แต่ภาวนาให้เธอโชคดี... ที่เล่ามาอยากบอกว่า ถ้าวีซ่าเยอรมันไม่ผ่าน คุณออเธออาจจะได้วีซ่าไปสวีเดน (ซึ่งง่ายกว่า ยัยคุณนีถึงไปหาแผนสำรองไว้กรณีวีซ่าถูกรีเจก) เท่าที่ฟังคุณเล่ามา เธอคงอยากไปเต็มที่แล้วค่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องเสี่ยงชีวิตและเอาความหวังไปฝากไว้กับสิ่งที่มองไม่เห็นได้ขนาดนั้น... อ่านแล้วปลง จากคุณ : Untitled-II - [ 23 ส.ค. 51 22:55:07 A:58.10.234.65 X: TicketID:181209 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โห...ถ้าเป็นลีลาศต้องบอกว่า เข้าสเตปเลยนะคะเนี่ย แนะนำว่า ให้ช่างทำผมนั้น ลองไปอ่านคู่สร้างคู่สมดูสิคะ คอลัมน์ที่เน้นหนักว่า โดนหลอกให้ไปขายตัวอ่ะคะ แล้วจะได้รู้ว่า ตรงไหมคะ สเตปนี้ จากคุณ : วิหคลม - [ 23 ส.ค. 51 22:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ดูถ้าเค้าจะไม่เชื่อเริ่องโดนหลอกไปขายตัวยนะคะ ลองช่วยคิดให้ว่าจะเริ่มยังไง แหะ แหะ ลองถามเค้าว่า พี่คะ พี่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเค้ามาก ถ้าเกิดทะเลาะกัน หรือเค้าหมั่นใส้พี่ขึ้นมา แล้วไล่ออกจากบ้าน พี่จะทำยังไงค่ะ คืออย่างน้อยก็ให้เค้าคิดเรื่องหาทางหนีทีไล่ อย่าไปฝากชีวิตกะใคร อ่านแล้วก็รู้ว่าคุณจขกท ลำบากใจค่ะ จะได้หาช่างใหม่ก็คราวนี้ละคะ ยังไงพอพี่เค้าก็ต้องหาใหม่อยู่แล้ว แต่ได้ช่วยคนก็เป็นกุศลอย่างนึง จากคุณ : menalina - [ 24 ส.ค. 51 04:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 63 กระทู้นี้อ่านแล้วน่าจะได้อะไรเยอะคะ คุณ จขกท น่าจะแนะนำให้พี่นีอะไรนี่เข้ามาอ่านหาข้อมูลในนี้ก่อนนะคะ ตอนนี้รู้สึกว่าพี่นีเค้าจะฝันเยอะมากเลย ถ้ามันมีแบบนั้นจริงๆ คงมีคนไปต่อคิวเพียบแล้วคะ ก๊ากก คนไทยด้วยกันนี่ละตัวดีเลยคะ เพราะเค้าเห็นว่าเดี๋ยวหญิงไทยคลั่งไคล้ฝรั่งมาก คิดว่าได้สามีฝรั่งแล้วสบาย รวยเป็นเศรษฐี หารู้ไม่พอมาถึงโดนบังคับทำงานเหมือนทาส เงินไม่มีใช้ จะหนีกลับบ้านก็ไม่ได้เพราะเอกสารไม่มีโดนเก็บไว้หมด คนพวกนี้ใช้เส้นทางการหากินจากคนไทยด้วยกัน แล้วมันก็ได้ผลจริงๆด้วยซิ เพราะหญิงไทยหลายๆคนไม่รู้จักศึกษาข้อมูลที่แท้จริงก่อน หน้ามืดตามัวคิดแต่ว่าฝรั่งดีไปหมด หารู้ไม่อาจจะกำลังไปลงนรกก็ได้ แต่อยากจะบอกคุณ จขกท ไว้ว่าถ้าพี่นีของคุณเค้าเชื่อไปแล้วซะขนาดนั้น แม้ว่าคุณเตือนแล้วอะไรก็แล้ว แต่เค้าก็ไม่ฟัง คุณคงจะไปบังคับเค้าไม่ได้แล้วละคะ คงต้องปล่อยไปตามดวงของเค้า เองอาจจะดวงดีได้เจอคนดีพาไปเจอสิ่งที่ดีก็ได้ หรือ เค้าอาจจะเจอคนไม่ดีพาไปลำบากก็ได้ คุณคงทำได้ก็แค่เตือนนะคะ แล้วก็ภาวนาให้เค้าปลอดภัยและเจอคนดีคะ จากคุณ : ..................... (Pinky_th) - [ 24 ส.ค. 51 06:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 64 "ผู้ชายดีดี" ที่ไหนเค้าจะมาแต่งงาน-อยู่กินกับ "ผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน" ล่ะครับ คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง จะให้มารักกันภายหลังก็ยากเหลือเกิน ที่ทำได้ทันทีก็คือมี "เซ็กซ์" กันเท่านั้น - - " ขนาดคนที่มีความรู้ดีดี พูดภาษาได้ ยังไปลำบากในต่างแดนตั้งมากมาย อย่าให้เค้าพาตัวเอง ไปในที่ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยครับ น่าเป็นห่วงจริงๆ จากคุณ : แมวเหมียวตัวอ้วน - [ 24 ส.ค. 51 08:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อ่าน คห ของคุณมะนาวน่ารักจัง พ่อแม่สามีน่ารักมากๆ จากคุณ : meaw_1985 - [ 24 ส.ค. 51 11:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 66 รู้สึกว่าเรื่องที่คุณมะนาวเขียนจะเคยเขียนเป็นหนังสือแล้วนะคะ ยังเคยซื้อมาอ่านอยู่นานแล้ว ไม่ทราบคุณมะนาวคือคนเขียนหนังสือเล่มนั้นเหรอคะ สาระดีมากๆๆและสำนวนการเขียนดีมากเหมือนนักเขียนอาชีพไม่น่าจะเป็นการเขียนจากคนที่จบ ม.2 นะคะ จากประสบการณ์ของผู้เขียนเชื่อว่าช่วยเตือนใจหลายๆคนที่อยากแต่งงานไปเมืองนอกต้องขอชมเชยผู้เขียนและคุณมะนาวที่เอามาเผยแพร่ค่ะ จากคุณ : Rinta - [ 24 ส.ค. 51 17:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณ VeryGood เอ้ย! VeryBadman...Begins นี่พูดได้ใจอิฉันจริงๆค่ะ ความคิดเห็นของคุณผู้ชายนี่น่าสนใจมากนะคะ เป็นอีกด้านที่บางทีคุณผู้หญิงไม่ทันคิด จากคุณ : Stila is Style - [ 24 ส.ค. 51 23:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขออนุญาต จขกท ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ คุณ Rinta คะ ดิฉันเพิ่งจะเขียนถึงเรื่องนี้ไปเมื่อต้นปีที่แล้ว จากที่ตั้งใจว่าจะเขียนถึงก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จเสียทีเพราะไม่ค่อยมีเวลา พอเขียนๆ ไว้ จะต่ออีกที อารมณ์มันก็ไม่ต่อเนื่อง ทำให้เล่าเรื่องไม่ได้ หรือบางทีก็คิดว่าช่างเขาเถอะ จนมาได้แรงกระตุ้นจากน้องคนนั้น ก็เลยนั่งปั่นจาก 5 ทุ่ม ถึงดี 3 อยู่ 3-4 คืนติดกัน กลางวันก็ต้องทำงานตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม วันหยุดก็ต้องช่วยน้องเขาเรื่องเอกสารต่างๆ คือวุ่นวายพอสมควร ทั้งหมดดิฉันพิมพ์เอง สังเกตุว่าข้อความไม่ค่อยสละสลวย และพิมพ์ตกหล่นเยอะ บางครั้งในการพิมพ์ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะแป้นพิมพ์ไม่ใช่ภาษาไทย บางตัวอักษรที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็หาให้วุ่นเหมือนกันค่ะ แต่... สาวเอย....จะบอกให้ หลังจากที่ได้รู้จักน้องคนนี้มากขึ้น การที่เขามาใช้ชีวิตอยู่กับฉันทำให้ฉัน ได้เรียนรู้ ในอีกมุมกลับว่า จริงๆ แล้ว ตัวเขาเองก็เลือกที่จะไม่ปกป้องตัวเองเอง เลือกที่จะดันทุรังอยู่ ทั้งที่พฤติกรรมของผู้ชายก็แสดงให้เห็นๆ ว่าเขา "แค่หลอกใช้" เลือกที่จะปิดหูปิดตาตัวเอง เมื่อมีผู้หวังดีตักเตือน เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับความหวังและฝันลมๆ แล้งๆ และปลอบใจเองไปวันๆ ว่า "เขารักเรา" แล้วฉันก็ได้รู้ว่า "เรื่องนี้มันยิ่งกว่านิยายน้ำเน่า " เมื่อฉันได้รู้ในเวลาต่อมาว่า ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นบอกกับเธอตรงๆ ชัดๆ ว่า เขาต้องการเธอแค่ทำงานบ้านและเลี้ยงลูกให้เขาเท่านั้น หลังจากที่เขามาส่งเธอที่บ้านพี่คำตาแล้ว รุ่งขึ้นอีกวันเขาก็ไปรับผู้หญิงอีกคนที่บินเข้ามาใหม่ ด้วยวีซ่าเรียนภาษา โดยเขาเป็นคนโทรมาบอกกับเธอเอง ขณะที่ยังอยู่ด้วยกันเธอก็รู้ เขาไม่ได้ปิดบังว่าเขากำลังเดินเรื่องให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามา แต่...ทั้งๆ ที่รู้ เธอก็ยังคาดหวังและมีความหวังดังเดิมว่า "เขาจะกลับมารับเธอ และแต่งงานกับเธอ" เรื่องนี้ถึงไม่เชื่อแต่ก็เป็นเรื่องจริง กับคำอธิบายง่ายๆ ของเธอคือ "เพราะรัก" แล้วเรื่องนี้ก็ทำให้ฉัน.... ได้คิดในมุมกลับว่า จริงๆ แล้วผู้ชายคนนั้น อาจไม่ได้หลอกลวงอะไรเธอเลย เขาทำเปิดเผยให้เธอเห็นและเข้าใจตลอดมา แม้แต่เรื่องวิพากวิจารย์เรื่องบนเตียงของเธอในวงเหล้า แต่... คนที่หลอกตัวเอง และทำร้ายตัวตัวเธอก็คือตัวเธอเองต่างหาก แล้วการที่ฉันช่วยเหลือเธอออกมานั้น ทำให้เธอมีงานทำมีรายได้จนปลดหนี้สินที่เมืองไทยได้ เธอเองก็ตอบแทนฉันด้วยดี ด้วยการช่วยเหลืองานในบ้าน แม้แต่งานในห้องนอนฉันก็ดูเธอกระตือรือร้น ที่จะช่วยเหลือฉันเหลือเกิน ถ้าสามีฉัน เป็นประเภทตัณหาเยอะหน่อย ฉันก็คงต้องนั่งน้ำตาตกในเป็นแน่ นี่ถ้าสามี จากคุณ : มะนาว - [ 25 ส.ค. 51 02:32:16 A:87.172.62.175 X: TicketID:155656 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ได้ไปเป็นไก่แหงๆ จากคุณ : ฮูหยินใหญ่ - [ 25 ส.ค. 51 19:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มีอยู่จริงคะ แต่น้อยราย ที่จะได้เจอของจริงนะคะ ญาติห่างๆเราเองคะ เป็นพี่สะใภ้ที่หย่ากับพี่ชายเราแล้ว แต่ยังติดต่อนับถือกันเหมือนเป็นพี่คนหนึ่ง หย่าเพราะพี่ชายเราไปมีเมียน้อยคะ พี่เขามีลูกติด3คน เจอฝรั่งเยอรมันเป็นนายช่างซ่อมเครื่องจักรกล อายุมากกว่าไม่ถึง10ปี  (รายละเอียดงานเขา เราก็ไม่เคยถามนะคะ)ที่เมืองไทย แล้วแต่งงานย้ายไปอยู่เยอรมันมา10ปีแล้ว พี่เขาไม่มีความรู้อะไรคะ ความที่เป็นแต่แม่บ้านมาตลอดชิวิตภาษาอังกฤษพื้นๆ เยอรมันไปหัดพูดเอา แต่เปนสาวไทย ที่ชอบดูแลสามีและงานบ้าน ตรงกับความต้องการของคนที่เธอแต่งงานใหม่ด้วยคะ เรื่องจะเล่าหลังจากพี่เขาแต่งแล้วคะ เนื่องจากอยู่เยอรมันคนเดียว เหงาคะ เลยจัดการให้คนสนิทๆ ไปอย่ที่เยอรมัน ด้วยการหาคนเยอรมัน โปแลนด์ ที่เป็นวัยทำงาน อายุกลางๆคน ที่รู้จักกับสามี มาแต่งงานกับเพื่อนคนไทยที่เขารู้จักๆให้ เห็นได้แต่งไป2-3 คนคะ ก็เริ่มจากให้ดูรูป  แล้วผู้ชายก็บินมาหา หรือ ให้ผู้หญิงบินไปหาเลย ผู้ชายออกเงินให้ แล้วก็แต่งงานคะ --แบบเรื่องที่คุณถาม --มีอยู่จริงคะ แต่ผู้หญิงไม่ต้องออกเงินสักบาทนะคะ แล้วรู้จักสนิทกันอยู่แล้ว ไม่ใช่จู่ๆใครมาชวนแล้วจะไปกันคะ พอหมดเพื่อนสามีที่โสด เขาก็ไม่ได้หาใครไปอีก เข้าใจว่าผู้ชายที่ได้แต่งงาน เขาให้เงินค่าหาเจ้าสาวให้เขาด้วยคะ เป็นสินน้ำใจ แต่เราไม่เคยถามว่าได้เท่าไหรคะ เราก็งง นะคะ ทำไมแต่งงานกันง่ายจังหว่า แต่มันเหมือนเขาหาคนใช้ชิวิตอยู่ด้วยกันหนะคะ ผู้ชายทางนู๊น รู้อยู่แล้ว ว่าผู้หญิงไทย ทำงานบ้าน ทำกับข้าว ดูแลเขา ไม่ได้เป็นสาวออฟฟิด จบมหาลัย ก็เห็นสามีเลี้ยงดูอยู่ดี ถึงไม่ได้สบายร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้ลำบากทำงานหลังคดหลังแข็ง  หรือ ไปขายตัวเข้าซ่อง ก็มีออกไปช่วยสามีหารายได้ ด้วยการไปทำ part time เป็นคลีนเนอร์บ้าง เพื่อช่วยคชจ ในบ้าน หรือ หารายได้ให้ตัวเอง ไม่ได้เจอคนเพี้ยนๆ ตบตี หรือ มีปัญหาใดๆ--เพี้ยนๆมีแต่คนไทยที่ไปแหละคะ ทะเลาะกันแว ตีทำร้ายฝรั่งบ้าง ชอบเข้าคาสิโนบ้าง เฮ้อ..กลายเป็นฝรั่งซวยไปคะ ที่เราทราบการเป็นอยู่ เพราะพี่ชายมีธุระเรื่องงาน บินไปเยอรมัน ไปนอนบ้านพี่สะใภ้เป็นพักๆ เกือบทุกปี และยังได้เจอคนไทย จากทางนู๊นอยู่คะ จากคุณ : น้องต๋าว - [ 27 ส.ค. 51 11:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มานั่งรอฟัง จขกท มา update ข่าว ว่าพี่นีจะขอวีซ่าผ่านหรือไม่ พี่นีจะยอมรับฟังคำเตือนผู้อื่นหรือไม่ โบราณว่ากันไว้ว่า น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง (แต่ให้ทำฝายกั้นน้ำแทน) อิอิ จากคุณ : LoveIsColorBlind - [ 27 ส.ค. 51 22:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณมะนาวเป็นคนเดียวกับคุณ monchen ที่เขียนเรื่องนี้ลงบล๊อคนี้หรือเปล่าคะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=deo&date=19-02-2007&group=10&gblog=1 แปลกใจว่าทำไมใช้บัตรผ่าน เพราะถ้ามีบล๊อคคุณก็น่าจะเป็นสมาชิกพันทิำป แลัวทำไมเปลี่ยนชื่อล่ะคะ เรื่องดีค่ะ คล้ายกับเรื่องที่คุึณผกามาศ ปรีชา เขียนเป็นนิยายเมื่อหลายๆปีมาแล้ว ชื่อเรื่อง...ดิฉันไม่ใช่โสเภณี..... ได้รับรางวัลด้วยค่ะ แต่ตัวจริงคุณผกามาศเป็นผู้ชาย เป๋นนักข่าว เอาข้อมูลจากหญิงไทยในเยอรมันที่เป็นเรื่องจริงมาแต่งเป็นนิยาย แต่รายละ้เอียดต่างกัน ไม่เหมือนทีเดียว น่าจะมีคนเอาไปทำละครออนแอร๋ จะได้เข้าุถึงคนมากขึ้น จากคุณ : นักอ่านตัวจริง - [ 5 ก.ย. 51 01:18:48 A:165.91.109.28 X: TicketID:162483 ]