Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน มองโลกในแง่บวกอย่างสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี

    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน มองโลกในแง่บวกอย่างสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี
    Episode X: Being optimistic

    คุณอู๋เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไรว่าสุขภาพกายที่ดีน่ะเริ่มมาจากสุขภาพจิตที่ดีก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติมากค่ะ อย่างเช่นว่าวันไหนจิตตกมีเรื่องให้คิดมากกลางคืนเนี่ยก็นอนไม่ค่อยหลับ พอตื่นมาก็เลยรู้สึกไม่สดชื่น (แถมตีนกาขึ้นอีกต่างหาก) แต่พอวันไหนจิตดีกลับกินอิ่มหมีพีมันนอนพุงกางเลย เพราะงั้นไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครก็แนะนำให้หัดมองโลกในแง่บวก จะได้สุขภาพจิตและสุขภาพกายดีไปด้วย แต่ว่าตั้งแต่เกิดมาคุณอู๋เป็นคนมองโลกในแง่ลบค่ะ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ดี คุณอู๋เองก็ไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนการมองโลกของตัวเองซักเท่าไหร่ จนเมื่อประมาณสามสี่เดือนก่อนนี่แหละที่คุณอู๋มีเรื่องให้คิดมากอยู่เรื่องนึงถึงกับนอนไม่หลับอยู่หลายคืน แต่แล้วได้คุยกับเพื่อนร่วมงานคนนึง เค้าแนะนำให้ฝึกมองโลกในแง่บวก ซักพักนึงคุณอู๋ก็พบค่ะว่า เอ้อ ที่เค้าแนะนำน่ะมันก็ไม่เลวนะ รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย จากนั้นมาคุณอู๋ก็พยายามมองโลกในแง่บวกให้มากขึ้น (แต่ก็ทำได้ไม่ตลอดหรอกค่ะ) คุณนักอ่านก็ลองทำดูนะคะแล้วมาเล่าสู่กันฟังก็ได้ว่าสุขภาพจิตดีขึ้นจริงรึเปล่า

    หลังจากที่เขียนเรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีมาเก้าตอนแล้ว คุณนักอ่านหลายคนถามคุณอู๋ว่าอ่านแล้วทำไมชีวิตสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีฟังดูรันทดจังเลย รึว่าการเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีเนี่ยมันไม่มีดีเอาซะเลย อ๊ะอ๊ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะค้ะ ข้อดีของมันก็มีอยู่เยอะทีเดียวล่ะ ไหนๆฉบับนี้เราก็เกริ่นเรื่องการมองโลกในแง่บวกแล้ว คุณอู๋ขอปรับจิตคิดถึงเรื่องดีๆของชีวิตสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีแล้วเล่าให้ฟังกันดีกว่า ถ้าจะให้สาธะยายคงโน่นล่ะค่ะ สามวันจบ เพระฉะนั้นในฉบับนี้เลยเล่าซักสามประการก่อน ลองอ่านกันดูนะคะ

    ประการที่หนึ่ง “รายได้เยอะ (กว่าตอนอยู่เมืองไทย)”: เรื่องแรกคือเรื่องเงินๆทองๆค่ะ ที่เค้าบอกกันว่าไปทำงานเมืองนอกเพราะได้เงินเยอะน่ะ คุณอู๋ยอมรับค่ะว่าจริง ไม่งั้นคนไม่อยากมาทำงานเมืองนอกกันหรอก ถึงจะไม่ได้เยอะมากถึงขั้นเป็นเศรษฐินีแต่ก็ถือได้ว่าเยอะกว่าตอนอยู่เมืองไทยพอสมควร อย่างเด็กๆป.ตรีที่เข้าทำงานใหม่ที่บริษัทที่คุณอู๋ทำอยู่เนี่ย รายได้ก็ตกอยู่ประมาณปีละประมาณล้านห้าล้านหกบาทเชียวค่ะ เทียบกับเมืองไทยแล้วพอๆกับคนทำงานมาเป็นสิบๆปีเลย แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ ที่นี่รายได้เยอะก็จริงแต่ค่าใช้จ่ายก็เยอะตามด้วย นี่ยังไม่นับภาษีปลิงอีกด้วยนะคะ สูบไปเยอะมาก จำได้ว่าตอนคุณอู๋ได้เงินเดือนแรกถึงกับช๊อคซินีม่าค่ะ ค่าภาษีกับประกันสังคมรวมกันแล้วเนี่ยก็ปาเข้าไปห้าหมื่นบาทแน่ะ แต่ก็นะคะ หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วคุณอู๋ก็มีเงินใช้มากกว่าตอนอยู่เป็นสาวออฟฟิสที่เมืองไทยอยู่ดี ถ้าให้พูดถึงข้อดีทั้งหมด งกๆอย่างคุณอู๋เนี่ยชอบข้อดีประการนี้ที่สุดเลย

    ประการที่สอง “ลัลลัลล้าวันหยุด”: คุณนักอ่านที่เป็นสาวออฟฟิสเมืองไทยรึเคยเป็นก็ตามคงรู้ดีว่าเวลาจะลาไปเที่ยวทีเนี่ยต้องคิดแล้วคิดอีกอยู่นาน ไม่ใช่ไรหรอกค่ะ พยายามแม๊กซี่ไมซ์วันหยุดให้มากที่สุดด้วยการลาให้ใกล้วันหยุดราชการเข้าไว้จะได้หยุดติดกันเยอะๆ เพราะวันหยุดที่ได้เนี่ยมันน้อยนิดเหลือเกิน บริษัทแรกที่คุณอู๋ทำให้วันหยุดปีนึงแค่สิบวันเอง ไปเที่ยวไหนได้ไม่นานเลย ตอนทางออฟฟิสเมืองผู้ดีส่งสัญญาว่าจ้างงานมาให้คุณอู๋ คุณอู๋ถึงกับตะลึงค่ะ ตอนแรกนึกว่าพิมพ์ผิดซะอีก เค้าให้วันหยุดไม่ใช่แค่ยี่สิบวันนะคะให้ตั้งยี่สิบห้าวันแน่ะ สวรรค์ทรงโปรดจริงๆ คนขี้เกียจทำงานอย่างคุณอู๋เนี่ยกระดี๊กระด๊าไปสามวันเลยค่ะ แถมบริษัทที่นี่เค้าก็มีนโยบายซื้อวันหยุดได้ด้วย ปีนี้สรุปคุณอู๋ได้วันหยุดสามสิบวันแน่ะค่ะ ก็ราวๆเดือนครึ่งที่ไม่ต้องทำงาน ฮูเร้

    ประการที่สาม “เปิดหูเปิดตา (เปิดปากด้วยนะ) ”: ประการที่สามเลยเนี่ยคือคุณอู๋มีโอกาสได้ไปเปิดหูเปิดตาไปที่ต่างๆในยุโรปค่ะ ตอนเล็กๆที่บ้านคุณอู๋ไม่เคยส่งคุณอู๋ไปเปิดหูเปิดตาที่ยุโรปเลยแต่คุณอู๋ก็ใฝ่ฝันค่ะว่าวันนึงเมื่อโตมาจะหาโอกาสไปเที่ยวด้วยตัวเอง ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าเอ...ไปเป็นนางฟ้าสายการบินดีมั้ยน้าจะได้ไปเมืองนอกบ่อยๆ แต่ยังดีนะคะที่ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาซะก่อน เลยสำนึกได้ว่าหน้าตาอย่างคุณอู๋เนี่ยสายการบินไหนก็คงไม่รับ กรรมจริงๆ แต่ก็เอานะ การได้มาเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีนี่แหละที่ทำให้ความฝันคุณอู๋เป็นจริง คุณอู๋มีโอกาสไปประเทศต่างๆในยุโรปไม่ว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนเองรึไปด้วยเรื่องงานอยู่บ่อยๆ ยิ่งเวลาถ้าไปเรื่องงานเนี่ยขอบอกว่าสบายกายมากๆเลยอีกต่างหากเพราะทางบริษัทเค้าให้พักโรงแรมอย่างดี ถึงจะไม่ใช่อย่างหะรูหะราห้าดาวก็เถอะแต่ก็พักสี่ดาวเป็นเรื่องปกติ อันนี้ขอบอกค่ะว่าเป็นพัฒนาการอย่างใหญ่หลวงเมื่อเทียบกับตอนที่คุณอู๋ทำอยู่ที่เมืองไทยเพราะครั้งนึงคุณอู๋โดนส่งไปออกจ๊อบที่ชลบุรี คุณอู๋ก็คิดไปโน่นว่า ว้าว ดีเลยจะได้พักที่โรงแรมไฮโซข้างริมหาดจอมเทียร แต่แล้วผิดถนัดค่ะ โดนส่งไปอยู่โรงแรมในตรอกซะงั้น (แค่ตัวโรงแรมยังไม่ได้ติดถนนใหญ่เลย) คืนนึงขณะที่คุณอู๋กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ดีๆ กดชักโครกปุ๊บรู้สึกแปลก ทำไมน้ำไม่หยุดไหลซักที กว่าจะรู้ตัว พระเจ้าช่วย ส้วมแตกเจ้าค่ะ น้ำเนี่ยไหลจากชักโครกเกือบมาถึงเตียงนอน คุณอู๋กับพี่ที่ทำงานที่แชร์ห้องกันเนี่ยวิ่งหนีกันจ้าล่ะหวั่นเลย แต่พอมาเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีฝันร้ายแบบนั้นก็ไม่เกิดอีกเลยค่ะ จำได้ว่าครั้งแรกที่เค้าส่งไปต่างประเทศเนี่ยคือไปที่ร้อดเตอดามส์ เนเธอร์แลนด์ ตอนแรกก็กึ่งๆกลัวๆค่ะว่า เอ...จะได้พักโรงเตี๊ยมในตรอกอีกรึเปล่าน้อ แต่พอไปถึงห้องพัก โอ คุณพระช่วย คุณอู๋ตัวสั่นริกๆเลยค่ะ ห้องเบ้อเร่อเลย ห้องน้ำก็เริ้ดยังกะมี สปาในตัวแน่ะ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณอู๋โปรดปรานที่สุดหรอกค่ะ ที่โปรดสุดน่ะคือการได้เปิดปากกินอาหารอร่อยๆโดยที่ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเองน่ะสิค้ะ ลองฟังตัวอย่างบทสนทนาไฮโซของคุณอู๋เวลาไปทานข้าวตอนออกจ๊อบนอกเมืองดีกว่า...
    “วันนี้ไปกินอะไรดี” เพื่อนร่วมงานถามหลังเลิกงาน
    “อืม ไปกินร้านอาหารทะเลกันเถอะ ไม่รู้เป็นไง อยากกินสแกลลอปน่ะ” คุณอู๋ตอบ ทำหน้าตาเฉย (แต่ในใจคิดว่านี่ถ้าชั้นต้องควักกระเป๋ากินเองละก็คงตอบว่า “กินอะไรก็ได้แต่ต้องถูกๆเข้าไว้ แพงสุดไม่เกินห้าปอนด์นะยะ ไม่งั้นชั้นกลับไปกินมาม่าที่บ้านดีกว่า”)

    พอไปถึงที่ร้านอาหาร...
    “รับอะไรดีคะ” คุณพนักงานเสิร์ฟถาม
    “ขอหอยแมลงภู่อบผักพริกไทผักชีเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยนะคะ” คุณอู๋ยิ้มทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา (แต่ในใจคิดว่านี่ถ้าชั้นต้องควักกระเป๋าจ่ายเองละก็คงตอบว่า “เรียกน้ำย่งน้ำย่อยอะไรไม่ต้องมีหรอก เปลือง กินแต่อาหารหลักอย่างเดียวก็อิ่มแล้ว”)
    “แล้วเครื่องดื่มล่ะคะ รับอะไรดี” คุณพนักงานถามต่อ
    “อืม มีน้ำแอปเปิ้ลมั้ยคะ ถ้าไม่มีก็ขอน้ำแร่อัดลมก็ได้ค่ะ” คุณอู๋ตอบได้อย่างหน้าเฉยสุดๆ (แต่ในใจคิดว่า ถ้าชั้นต้องควักเงินเองล่ะก็คงตอบว่า “ขอน้ำเปล่าละกันแล้วไม่เอาที่เป็นขวดนะ เอาที่มันฟรีจากก๊อกน้ำแหละ”)
    “แล้วอาหารหลักล่ะคะ อะไรดี” คุณพนักงานถามไปจดไป
    “อืม ขอเป็นสแกลลอปยักษ์ย่างละกันค่ะ ท่าทางจะอร่อย” คุณอู๋ตอบ แต่ขอโทษตาเนี่ยไม่ได้อยู่ตรงบรรทัดบอกส่วนประกอบอาหารหรอกนะคะ อยู่โน่นแน่ะ ที่ป้ายราคาต่างหากเพราะมันแพงสุดเลยในเมนู (แถมคิดในใจว่าถ้าต้องควักกระเป๋าเองเนี่ยไม่จ่ายแน่นอน)

    พอรับประทานเสร็จคุณพนักงานก็กลับมาถามอีกรอบว่าจะรับของหวานอะไรดี...
    “เห็นจะไม่ล่ะคะ อาหารอร่อยมากๆเลย ไว้วันหลังละกันนะคะ” คุณอู๋ตอบได้แบบเนียนมากๆ (แต่จริงๆแล้วก่อนตอบไปอย่างนั้นเนี่ย ในหัวคุณอู๋คิดคำนวณวุ่นเลยค่ะว่า “เอ๊ะ ค่าน้ำบวกอาหารเรียกน้ำย่อยนี่มันเท่าไหร่แล้ววะ แล้วไอ้สแกลลอป์บวกรวมกันมันเกินยี่สิบสี่ปอนด์ที่เค้าให้มายังเนี่ย...อ้าวบวกทิ๊ปแล้วมันใกล้ เกินแล้วนี่หว่า ไม่เอาล่ะ ไม่สั่งแล้วของหวานอะไรเนี่ย”)

    เห็นมั้ยคะว่าชีวิตสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีก็มีแง่บวกเยอะอยู่พอสมควรเลย การเขียนฉบับนี้ทำให้คุณอู๋รู้สึกเห็นคุณงามความดีของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีขึ้นมาเป็นกองเลย ฉบับหน้ามาตามติดกันต่อเรื่องชีวิตทำงานในออฟฟิสนะคะ จะเร่งต้นฉบับอย่างเร็วที่สุดค้ะ

    คุณอู๋ (รายงานจากเมืองลีดส์)


    ถามคุณอู๋ (Ask Nissy)
    Q: มีแต่คนบอกว่าไปทำงานเมืองนอกเนี่ยได้เงินเยอะมาก คืออยากรวยมั่งอ่ะค่ะ คุณอู๋พอบอกได้มั้ยคะว่าทำงานออฟฟิสเมืองนอกนี่ได้เงินเดือนเยอะกว่าทำงานเมืองไทยเยอะรึเปล่า (จาก กระเช้าหวาย)

    A: เหมือนที่บอกไปในตอนนี้นะคะว่ารายได้น่ะเยอะกว่าตอนทำงานเมืองไทยเยอะพอสมควร แต่ถ้าอยากจะรวยเนี่ย ขอบอกตามตรงค่ะว่าคงลำบาก เพราะค่าใช้จ่ายเนี่ยแพงมากๆ อย่างมาม่าซองนึงเนี่ย บ้านเราห้าบาทหกบาท ที่นี่ก็ประมาณสิบแปดบาทได้ค่ะ ถ้าอยากรวยคุณอู๋แนะนำให้ทำธุรกิจส่วนตัวดีกว่านะคะ ถือว่าถ้ามาเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีเนี่ยได้ประสบการณ์ทั้งเที่ยวทั้งกินดีกว่าค่ะ

    ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์คนไหนมีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ ns_nissy@hotmail.com ได้นะคะ จะนำคำถามมาตอบเรื่อยๆค่ะ

    ปล ขอเรียนให้ทราบว่าตอนนี้สาวออฟฟิสเมืองผู้ดีหมดสต๊อคแล้วค่ะ จากนี้ไปจะตีพิมพ์รายอาทิตย์แทน

    จากคุณ : คุณอู๋ - [ 25 ส.ค. 51 08:08:20 A:86.135.189.70 X: TicketID:184548 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom