Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน (ภาคเช้าของ) วันหนึ่งในชีวิตของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี{แตกประเด็นจาก H6922238}

    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน (ภาคเช้าของ) วันหนึ่งในชีวิตของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี
    Episode XI: (One morning in) A day in life of an office lady in London

    คุณนักอ่านคอลัมน์เคยคิดมั้ยคะว่าคนเรานี่ก็แปลก ตอนยังหนุ่มยังสาวเรียนหนังสืออยู่ก็อยากเรียนจบเร็วๆเหลือเกินจะได้รีบออกมาทำงานหาเงิน แต่พอเริ่มทำงานเข้าจริงๆก็พบว่างานที่ทำอยู่น่ะน่าเบื่อสุดฤทธิ์ แถมแฟนก็หาไม่ได้อีกแน่ะ ยิ่งวันไหนอารมณ์เสียเรื่องงานด้วยแล้วละก็ แม๊ อยากจะลาออกมาแต่งงานกะเสี่ยแก่ๆพุงพลุ้ยๆตัวเตี้ยๆหัวล้านๆที่มีเงินให้ผลาญตลอดชีพให้รู้แล้วรู้รอดไป บางทีก็อยากลาออกมาอยู่เฉยๆแต่ไอ้ครั้นจะทำอย่างนั้นจริงก็ทำไม่ได้เพราะมีค่าโน่นค่านี่ให้จ่าย สุดท้ายก็ต้องจำใจทำงานที่ไม่ได้อยากทำแต่ต้องทำเพราะ“เงิน”ซะมากกว่า วันนึงในชีวิตเนี่ยแทนที่จะเต็มไปด้วยความท้าทายกลับเต็มไปด้วยเรื่องกวนใจเพราะไฟทำงานน่ะมอดไปตั้งกะปีแรกแล้ว ชีวิตสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีอย่างคุณอู๋ก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ

    ตอนกลับไปเที่ยวเมืองไทยคุณอู๋โดนถามบ่อยๆว่าสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีเนี่ยวันๆทำอะไรบ้าง ส่วนใหญ่มักคิดว่าชีวิตสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีต้องหรูหราไฮโซโอเวอร์เหมือนในหนังฝรั่งที่เคยดูแน่ๆ ฉบับนี้ลองมาอ่านกันดีกว่าว่าจริงๆแล้ววันๆนึงสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีอย่างคุณอู๋ทำอะไรกันบ้าง...

    7:30 AM (เวลาตื่นนอนของคนปกติเมืองผู้ดี): นาฬิกาปลุกดังขึ้น แต่คุณอู๋ก็ตบมันเร็วกว่าตบแมลงวันที่บินมาตอมอาหารซะอีก จากนั้นคุณอู๋ก็ขอนอนต่ออีกซักพัก
    8:15 AM (เวลาเริ่มงานของคนเมืองผู้ดีบางคน): คุณอู๋ทาน English breakfast เซ็ตโต มีทั้งเบคอนทอดเกรียมๆ เห็ดอบเนย มะเขือเทศอบและไข่ดาวพร้อมขนมปังปิ้งและชาอังกฤษใส่นม ขณะเดียวกันก็อ่าน The Financial Times เพื่อเกาะติดสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและฟังข่าวบีบีซีอังกฤษไปพลางๆ แหม ชีวิตตอนเช้าของคุณอู๋ช่างไม่ต่างกับคุณนางเอกบริดเจดส์โจนส์ในหนังเลยนะคะ บางคนอาจจะกำลังคิดว่า เอ...อ่านแล้วยังกะโม้แน่ะ ถ้าคุณนักอ่านคิดอย่างนั้นอยู่ละก็…ถูกต้องแล้วค้ะ! นั่นน่ะมันชีวิตในฝันหรอก คุณนายตื่นสายอย่างคุณอู๋เนี่ยจะเอาเวลาที่ไหนไปทำอาหารเช้าล่ะนั่น! เรื่องจริงก็คือเวลานี้คุณอู๋เพิ่งตื่นเอง พอออกจากนิทราปุ๊บก็กุลีกุจอไปแปรงฟันล้างหน้าแต่งตัวทันที แค่เวลาแต่งหน้ายังไม่มีเลย (ต้องหน้าด้านไปแต่งในรถใต้ดิน) ข้าวช้าวไม่ต้องพูดถึงค่ะ ไม่ได้กิน แล้วไอ้หนังสือพิมพ์ Financial Times ไรเนี่ยปีนึงอ่านหนเดียวเองมั้งคะตอนใครไม่รู้วางทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟ ที่คุณอู๋อ่านประจำน่ะก็หนังสือพิมพ์ Metro ที่เค้าแจกฟรีซะมากกว่า แล้วไม่ได้อ่านสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไรเนี่ยหรอก เรื่องพวกนี้ ขอประทานโทษ ไม่เคยอยู่ในหัวเลยค้ะ โอเค อาจจะสนใจถ้าเป็นไข่รึหมูขึ้นราคา แต่ถ้าเป็นจีดีพีประเทศจีนรึนโยบายการค้ากอร์ดอน บราวน์จะเป็นไงเนี่ย ไม่เคยสนค่ะ เอาเวลาไปอ่านข่าวดาราดูรูปลูกแองจะลีน่า โจลี่กะแบร้ดพิดท์ดีกว่า
    9:00 AM (เวลาเข้างานของชาวออฟฟิสเมืองผู้ดีทั่วๆไป): คุณอู๋กรีดกรายเข้าไปในออฟฟิสสะพายกระเป๋าหลุยส์ติ๊งต๊องที่เพิ่งถอยออกมาตอนไปเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อต้นปี มือนึงหิ้วกระเป๋าคอมพิวเตอร์ใบจิ๋วที่ประมาณว่าหิ้วนิ้วเดียวยังได้เลย ส่วนอีกมือถือคาเฟมอคค่าที่แวะซื้อที่สตาร์บัคส์ พอลิฟท์ไปถึงชั้นบนสุดคุณอู๋ก็ย่างกายไปห้องทำงานส่วนตัวมุมตึก มองไปเห็นทั้งทาวเวอร์บริดจ์และ ทาวเวอร์ออฟลอนดอน ชีวิตนี้ถ้าไม่เหมือนนางเอกหนังฝรั่งก็ให้มันรู้ไป อ่านถึงตอนนี้คุณนักอ่านคอลัมน์บางคนอาจจินตนาการหน้านางเอกหนังฝรั่งดั้งแบนๆหน้าบานๆอย่างคุณอู๋ไม่ออกแน่ๆ ถ้านึกไม่ออกก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะมันไม่มีทางเป็นจริงอยู่แล้น!...ก็ที่เขียนไปเมื่อตะกี้คุณอู๋โม้อีกแล้วน่ะสิ เรื่องจริงที่ก็คือเวลาเก้านาฬิกาเนี่ยคุณอู๋ของเรายังอยู่โน่นแน่ะค่ะ ในรถไฟใต้ดิน! ยังหน้ามุดใต้รักแร้คุณพี่แขกอยู่เลย กว่าจะมาถึงออฟฟิสจริงก็ปาเข้าไปสิบห้านาทีหลังเก้าโมงไปแล้ว กระหืดกระหอบวิ่งเข้าออฟฟิส มือนึงถือ กระเป๋าคอมพิวเตอร์อย่างถึก อีกมือแทนที่จะถือคาเฟม๊อคค่าอย่างที่ฝันก็กลายเป็นถุงพลาสติกใส่กล่องข้างกลางวันซะนั่น แล้วไอ้กระเป๋าหลุยส์ติ๊งต๊องไรเนี่ย ไม่มีปัญญาซื้อหรอกค่ะ ที่มีน่ะกระเป๋าเป้ผ้าร่มได้ฟรีตะหาก โธ่ คุณอู๋เราไม่ไฮโซเอาซะเลย
    10:00 AM: หลังจากเช็คอีเมล์ที่แต่ละวันมีมาประมาณห้าสิบฉบับ คุณอู๋โทรหาลูกค้าแบงค์อินเตอร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง โปรเจคนี้ทางทีมงานคุณอู๋เขียนโปรแกรมขึ้นมาคำนวณกองทุนเงินกู้ซื้อบ้านและพบว่าเงินหายไปตั้งหกสิบล้านปอนด์ เจ้านายคุณอู๋วิ่งเต้นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะเพราะเงินก้อนเบ้อเร่อหายไป แต่ทีมงานทางแบงค์ที่คุณอู๋ติดต่อด้วยนี่สิ ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย เอื่อยกันสุดๆยังกะว่าหกสิบล้านปอนด์เนี่ย เป็นเรื่องขี้ๆ (เอ…รึว่าสำหรับผู้ดีหกสิบล้านปอนด์เนี่ยมันนิดน้อยกะจ้อยร่อยของเค้ากันน้า)
    11:00 AM: โทรศัพท์ดังขึ้น วันๆนึงสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีอย่างคุณอู๋รับโทรศัพท์ไม่ต่ำกว่าสิบครั้งจากลูกค้ารึไม่ก็ทีมงาน (รึเด็กในสังกัดเจ๊อู๋ทั้งหลาย)
    “Hello, Nissy speaking.” คุณอู๋รับสาย
    “Hello Nissy. It’s Mark. How are you doing?” เสียงทุ้มนุ่มมาดหนุ่มเมืองผู้ดีพูดขึ้นมา
    “I’m fine, thanks. How are you?” คุณอู๋ตอบ
    “Very good, thanks. Anyway….blah blah blah” แล้วคุณมาร์คก็สั่งงานคุณอู๋อย่างยาวเยียดเลย

    แต่แล้วหลังจากคุณอู๋วางหูโทรศัพท์ไปได้ไม่ถึงสิบนาที โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
    “Hello, Nissy speaking.”คุณอู๋พูดรับสายพูดเหมือนเดิม
    “Hello Nissy. It’s Mark again. How are you doing?” อ้าวอีตามาร์คอีกแล้ว
    “I’m okay, thanks...” คุณอู๋ตอบแต่ในใจคิดว่า จะถามว่า “How are you doing?” หาพระแสงอะไรเนี่ย เพิ่งถามไปเมื่อตะกี้เอง แต่ในเมื่อเค้าถามมาเราก็ถามไปตามมารยาท คุณอู๋เลยพูดต่อไปว่า “How are you?”
    “Not too bad. Quite busy but….blah blah blah.” คุณมาร์คบ่นเรื่องงานก่อนสั่งงานอีกรอบและวางหูไป

    คุณอู๋อัพเดทลิสต์สิ่งที่ต้องทำซึ่งยาวขึ้นเรื่อยๆ บ่ายนี้ก็มีประชุมด้วย จะเอาเวลาไหนไปทำหนอ ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
    “Hello, Nissy speaking.”คุณอู๋พูดรับสายอีกครั้ง คิดในใจ วันๆนึงไม่ต้องทำไรกันพอดี
    “Hi. It’s Mark.”พระเจ้าช่วย!อีตามารค์อีกแล้ว คุณอู๋ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดเค้าก็ชิงพูดก่อน“How are you doing?”
    ถึงตอนนี้คุณอู๋รับไม่ได้แล้วค่ะ สะอิดสะเอียนกับคำถามนี้เหลือเกิน มันเพิ่งจะถามไปไม่ถึงหนึ่งนาทีที่แล้วเอง คุณอู๋ไม่รู้จะตอบกลับไปว่ายังไงจริงๆค่ะ อยากจะตะโกนใส่หูไปว่า “Stop asking how I am doing! I AM FINE! Just tell me, what you want?!?” แม๊ ชาวเมืองผู้ดีนี่ก็เหลือเกินนะคะ ถามกันอยู่ได้ว่าเป็นยังไงบ้าง นี่ถ้าวันๆนึงเลิกถามคำถามนี้กันคงมีเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่าแน่นอน แต่ก็นะคะเป็นวัฒนธรรมบ้านเค้า เพราะฉะนั้นถ้าคุณนักอ่านโดนชาวผู้ดีถามคำถามนี้บ่อยๆจนเอียนไม่ต้องตกใจค่ะ ตอบไปว่า “Fine. Thanks. How are you?” ก็พอ

    12:30 AM (เวลาทานข้าวของหนุ่มสาวออฟฟิสทั้งหลาย): คุณอู๋ท้องเริ่มร้องกล้วกๆ เหลือบดูนาฬิกา ฮูเร้ ถึงเวลาทานข้าวแล้ว ว่าแล้วก็ยกหูโทรศัพท์นัดเด็กๆในสังกัดเจ๊อู๋ทั้งหลายไปทานข้าวกันที่โรงอาหาร สรุปครึ่งวันผ่านไปยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

    ฉบับหน้ามาติดตามกันต่อนะคะว่าครึ่งวันหลังของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีจะเป็นไงกันหนอ อดใจรอกันนิดนึงนะคะ

    คุณอู๋


    ถามคุณอู๋ (Ask Nissy)
    Q: ถามคุณอู๋ค่ะ สงสัยมานานแล้วว่าหนุ่มเมืองผู้ดีเค้ามีเทสกันยังไง ไม่สนใจสาวตลกอารมณ์ขันอย่างคุณอู๋หรอคะ เอ๊ะ! ชักอยากรู้วิธีการดูแลตัวเองคุณอู๋จังจะได้ไม่เอาไปทำเลียนแบบค่ะ (จาก Sleepless in Seattle)
    A: จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิสคุณอู๋ หนุ่มเมืองผู้ดีส่วนใหญ่มีแฟนเป็นสาวฝรั่งซะเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ค่ะ ทำเอาคุณอู๋ก็แปลกใจมากๆเลยเพราะแต่ไหนแต่ไรตอนอยู่เมืองไทยเคยได้ยินแต่ว่าฝรั่งทั้งหลายเนี่ยชอบผู้หญิงเอเชียเหลือเกิน ส่วนเรื่องอารมณ์ขันเค้าบอกว่าขำได้แต่อย่าให้มันโอเวอร์ลิมิตให้มากไป อย่างคุณอู๋ที่วันๆเอาแต่หัวเราะก๊ากๆ (บางทีก็น้ำลายไหลย้อย) เห็นลิ้นไก่อย่างเงี๊ยะเนี่ยก็รับยากอยู่ คุณนักอ่านคอลัมน์คนไหนยังมีความฝันจะหาสาระมีเมืองผู้ดีซักคนชาตินี้ก็อย่าทำตามละกันนะค้ะ

    ป.ล.ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์คนไหนมีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ ns_nissy@yahoo.com ได้นะคะ จะนำคำถามมาตอบเรื่อยๆค่ะ

    จากคุณ : คุณอู๋ - [ 1 ก.ย. 51 03:28:36 A:86.135.187.208 X: TicketID:184548 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom