ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีค้ะ คุณสั่นแวะมาทักทาย ไม่มีความรู้เรื่องคำนวณภาษี เพราะไม่เคยทำงานเลยตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่น มีคนหามาป้อนถึงปากทุกเดือน รู้แต่ลุงแกบ่นว่าเดี๋ยวต้องจ่ายภาษีนั่นนี่ไปตามเรื่อง เราก็แค่รับฟัง คงช่วยให้ข้อมูลไม่ได้ แต่อยากมาให้กำลังใจให้ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นนี่แหละ กลับไปไทยตอนนี้งานการก็คงต้องเริ่มใหม่ เงินก็คงไม่ดีเท่าญี่ปุ่น อดทนทำงานหาประสบการณ์ เก็บเงินเก็บทองให้ได้เยอะๆ กินอยู่แต่พอตัวก็คงไม่ลำบาก พอส่งไปบ้านได้สบายๆ กัมบัตเตะ กัมบัตเตะ ท่องเอาไว้ จากคุณ : พนอจัน - [ 3 ก.ย. 51 11:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับคุณน้า ช่วงนี้สับสนมาก ๆ ครับ พอกำลังจะตัดสินใจเด็ดขาด มันก็มีเรื่องเข้ามาให้ลังเลตลอด ก็เลยต้องหาข้อมูลจากหลาย ๆ ที่มาพิจารณา คงช่วยให้ตัดสินใจได้สะดวกขึ้นครับ จากคุณ : Tsuwamono - [ 3 ก.ย. 51 11:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวเหรอครับ แหม หัวอกเดียวกัน ข้อแนะนำนะครับ ถ้าตั้งใจจะจบให้ได้ควรหางานที่ซัพพอร์ตให้ทำวิทยานิพนธ์ไปด้วยได้ ซึ่งก็ต้องเลือกว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่นหรือที่เมืองไทย  แต่ถ้ามีปัญหาเศรษฐกิจในครัวเรือน อัน นี้ผมแนะนำว่าทำงานที่ญี่ปุ่นน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ถ้าเจองานแล้ว เพราะใน ระยะยาว แม้คุณสั่นจะกลับเมืองไทย ก็ยังมีคนสนใจโปรไฟล์การทำงานในต่างแดน ของคุณ แต่ถ้าคุณกลับมาทำงานที่เมืองไทย อาจจะไม่โก้หรู  อันนี้เราพูดกัน ตามบรรทัดฐานที่สังคมสร้างขึ้น  ความสามารถมีจริงหรือไม่เป็นอีกเรื่อง เรื่องภาษีนะครับ โดยปกติมีภาษีที่ต้องจ่าย ๒ รายการหลัก คือ ภาษีเงินได้ และภาษีท้องถิ่น(จูมิงเซ) และมันจะสัมพันธ์กับประกันสุขภาพด้วย รายได้ดีก็ จ่ายเยอะ และแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน ถ้าโชคดีก็จะมีส่วนลดหย่อนเยอะ เวลาคิดภาษีมีส่วนลดหย่อนสองส่วน คือ 650,000 เยนกับ380,000 เยน นั่นหมายความว่า ถ้าคุณสั่นทำงานได้รายได้ตลอดปีไม่เกิน 1,030,000 เยน ก็จะไม่เสียภาษีเลย แต่นั่นก็แสดงว่าคุณต้องกัดก้อนเกลือกินสักหน่อย เพราะ เมื่อหารออกมาแล้ว เงินเดือนไม่ถึงเก้าหมื่นเยนต่อเดือน ลำพังค่าบ้านเช่าและ อื่นๆ ก็ท่าทางหนักหน่วง บริษัทอยู่ในเมือง ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่นอีก ปกติเงินเดือนขั้นต่ำน่าจะอยู่ที่ 150,000 เยนต่อเดือนนะครับ ก็แสดงว่ายัง ไงก็ต้องเสีย  และเมื่อเสียภาษีรายได้แล้ว ภาษีท้องถิ่นก็จะตามมา ที่โตเกียว นี่ ขั้นต่ำสุดเจอไป 10,000 เยน ยังครับ ยังไม่หมด ค่าประกันสุขภาพ ถ้าเป็นนักศึกษาเจอแค่ 10,000 กว่า เยนต่อปี แต่ถ้ามีรายได้ ทำเรื่องภาษีแล้ว ปีถัดไปเขาจะคิดค่าประกันจาก รายได้ที่ได้มาครับ ถ้าจ่ายภาษี ค่าประกันก็จะสูงขึ้นไปเป็น 30,000 เยน ได้ ทั้งนี้ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ประจำเขตที่อยู่อีกว่า มีส่วนลดหย่อนอะไรยัง ไงบ้าง บ้านเมืองเขาสวยงาม เพราะคนช่วยกันทำงานจ่ายเงินให้รัฐครับ จากคุณ : อ.ปมโปโกะ - [ 3 ก.ย. 51 11:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีจ้า คุณสั่นฯ ใกล้จบแล้วใช่หรือเปล่า ยินดีล่วงหน้าก่อนเลยนะ เรื่องภาษี เราก็เคยเวียนหัวกับการคำนวณเหมือนกัน ช่วงนั้น ก็ไล่ถามเพื่อนที่ทำงานที่ญี่ปุ่นหลายคน สุดท้ายก็คือ รอให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานคำนวณให้เลย ไม่ปวดหัวดี (>_<) เรายกตัวอย่างของเราก่อนนะ ภาษีและค่าประกันต่างๆ ที่ถูกหักไปในแต่ละเดือน 1. Heath insurance (ค่าประกันสุขภาพ) 2. Employee pension (Nenkin, ค่าประกันบำนาญ?) 3. Employment insurance (ค่าประกันการจ้างงาน?) 4. Income tax (ภาษีเงินได้) คิดเป็นประมาณ 17-19% ของเงินเดือนนะคะ จำไม่ได้แน่นอน สลิปเงินเดือนอยู่ที่บ้านค่ะ m(_ _)m คิดว่า อัตราการเสียภาษีไม่เท่ากันนะ ถ้ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเหลือมาก อัตราภาษีที่ใช้คำนวณก็มากขึ้นตามไปด้วยนะ ปีที่สองของการทำงาน ต้องจ่ายภาษีท้องถิ่น (City tax) ด้วยนะคะ คำนวณจากเงินรายได้ของปีที่ผ่านมา อย่าลืมเก็บเงินส่วนนี้ไว้ด้วยจ้า ยกตัวอย่างการคำนวณภาษีรายได้ตามเวปนี้นะคะ http://www.nic-nagoya.or.jp/en/canyouhelpme/income_tax_calculation.htm ส่วนพวกประกันต่างๆ เวปนี้เพื่อนส่งมาให้ http://www.sia.go.jp/e/index.html หวังว่าพอจะช่วยในการตัดสินใจได้บ้างนะคะ จากคุณ : =KaDe= - [ 3 ก.ย. 51 11:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาบอกเพิ่มว่า ถ้าได้เดือนละ ๑ แสนเยน จะเสียภาษีรายได้ประมาณเกือบสองหมื่นเยนครับ ถ้าคุณเข้าสู่ระบบการทำงานจริง ก็คงต้องจ่ายค่าเบี้ยบำนาญด้วย อันนี้ไม่ทราบ รายละเอียดนะครับ เพราะผมเป็นพวกฟรีเตอร์ พวกนี้ไม่จ่ายบำนาญ แก่ตัวไปไม่ ได้เงินสนับสนุนจากรัฐครับ จากคุณ : อ.ปมโปโกะ - [ 3 ก.ย. 51 11:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่ค่ะ อัตราภาษี ประมาณที่น้องเกดว่าไว้เลย (แต่ก็ขึ้นอยู่กับรายได้ต่อปี ด้วย ได้มากเสียมา ได้น้อยเสียน้อย) แต่มันก็ยังมีลดหย่อนภาษีอีกนะคะ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ บริษัทจะคำนวณให้เสร็จสรรพ น้องสั่นแค่รอเวลาปลายปี ไปทำเรื่องขอคืนภาษี (ถ้ามี เช่น บิลจากค่ารักษาพยาบาล) ลองหางานที่ญปทำดูก่อนก็ดีนะคะ เอาประสบการณ์ แต่ชีวิตความเป็นอยู่คง สบายสู้กลับไปทำงานเมืองไทยไม่ได้ น้องสั่นตั้งเป้าหมายไว้เลยแต่ละช่วง ของชีวิตสิคะว่า ปีนี้+ปีนี้เราจะachieve goal ให้ได้ระดับนี้ พอสำเร็จแล้วก็ ขยับเท้าเปลี่ยนทิศทางต่อไป พี่เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : fudge-a-mania - [ 3 ก.ย. 51 11:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หวัดดีค่ะ เพิ่งไปสัมภาษณ์งานมาเมื่อวานซืนเลยค่ะ เราเลยถามตรงๆว่ารายได้หลังหักทุกอย่างแล้ว ภาษีสองอย่าง(เงินได้กับท้องถิ่น) ประกันสามอย่าง(สังคมกะสุขภาพกะเนงกิง) จะเหลือเงินเท่าไหร่ ได้คำตอบว่าราวๆ 70-75% ค่ะ ตอนแรกคิดว่า เรทภาษีจะต่างกัน ถ้ารายได้อยู่คนละ range แต่เราสัมภาษณ์มาสองแห่ง แห่งหนึ่งให้เงินเดือนสูงกว่าอีกแห่งเท่าตัว พอถามเรื่องรายได้หลังหักทุกอย่างก้อได้คำตอบว่าราวๆ 70-75% เหมือนกันค่ะ บวกกับประสบการณ์เคยทำงานในญี่ปุ่นมาก่อนหลังเรียนจบ เงินเดือนก้อถูกหักไปราวๆ 25% เรื่องภาษีท้องถิ่นก้อแล้วแต่เมืองที่อยู่ด้วยค่ะ ของเราจ่ายภาษีท้องถิ่นตั้งแต่ปีแรกที่เข้าทำงานเลยอ่ะค่ะ คิดว่าถ้าคุณได้ เดือนละสามแสน(สมมุติ) น่าจะเหลือเงินหลังหักทุกอย่างแล้วราวๆ สองแสนสองค่ะ ระบบของญี่ปุ่นนี่ถือว่าแฮปปี้แล้วค่ะ ถูกหักเท่านี้เพื่อสังคม เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ถือว่าคุ้มนะคะ ตอนนี้เราทำงานที่เยอรมัน ถูกหักภาษีกะประกันต่างๆ แต่ละเดือนรายได้หายไปราวๆ 40% ปาดเหงื่อทุกวันเลยค่ะ อยากจะป่วยมันซะทุกวันจะได้ใช้เงินประกันให้คุ้มกว่านี้ 555 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 12:15:30 จากคุณ : enjoymiracle - [ 3 ก.ย. 51 12:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อความกระจ่างเรื่องการเสียภาษี ขอprint screenจากเวบที่น้องเกดให้ เอามาให้ดูนะคะ ว่าอัตราการจ่ายภาษีของญปนั้นใช้เรทก้าวหน้า ได้มากเสีย มาก ได้น้อยเสียน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเค้าจะมีเป็นrangeให้ค่ะ ไม่ใช่ว่ารายรับ ต่างกัน 1-2 แสนเยนจะเสียภาษีเรทต่างกัน ได้พี่คำนวณจากรายรับต่อปีของน้องสั่น มีแนวโน้มว่าจะเสียภาษีปีละ 20- 23% (ขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือน) จากคุณ : fudge-a-mania - [ 3 ก.ย. 51 12:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่อย่างที่บอกไว้แต่แรก คือ จะมีการขอคืนภาษีได้ หากผู้เสียภาษีเข้าข่าย ดังนี้.... จากคุณ : fudge-a-mania - [ 3 ก.ย. 51 12:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เฮ่อ...เห็นแล้ว รู้สึกว่ารัฐบาลญปแยบคายนัก ขยับเรท range ที่salaryman ญปส่วนใหญ่ต้องจ่าย จาก30% ขึ้นมาเป็น 33% แล้วยังเป็นrangeที่ซาลารี่ แมนส่วนใหญ่ต้องจ่ายกันระยะยาวเสียด้วย อย่างน้อยๆ ก็ อายุ 40-55 หรือ 60 เลยทีเดียว -_-' จากคุณ : fudge-a-mania - [ 3 ก.ย. 51 12:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความรู้สึกเดียวกัน เลย ค่ะ  นี่กำลัง นอน ก่ายหน้าผาก กับภาษี เมื่อปีที่แล้ว  ทำไบต์เยอะไปหน่อย โดนไป  ภาษี กับ ประกันสุขภาพ อีก   ไป สิบกว่าใบ อาจจะ ตอบไม่ตรงคำถาม แต่เพื่อนคนจีน (อีกละ) บอกว่า ส่วนใหญ่คนจีน ที่ทำงาน ที่ญี่ปุ่น มีวิธีลดภาษี โดยการเอาชื่อพ่อ ชื่อแม่ ที่ซัวเถา มาใส่ เป็น ภาระ ค่ะ .... มันจะมีช่องให้ติ๊กว่า มี ผู้อยู่ภายใต้การดูแลกี่คน เด็กแสบ ยังไม่เคยลอง ทำ เดี๋ยว  เดือนหน้า จะเริ่มงาน แบบ จริงๆ จังๆ แล้ว ว่า จะลองทำดู เหมือนกัน ค่ะ จากคุณ : เด็กแสบ - [ 3 ก.ย. 51 12:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่า เข้าใจละค่ะ มิน่า รายได้ที่ว่าสองบริษัทต่างกันสองเท่าแต่ถูกหักพอๆกันมันแค่คาบเกี่ยวช่วงภาษี 20% กะ 23% เลยดูว่าเท่าๆกัน ขอบคุณมากค่ะ สำหรับรายละเอียด จากคุณ : enjoymiracle - [ 3 ก.ย. 51 12:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกท่านครับ อ.ปมฯ คุณเกด คุณ enjoymiracle พี่ฟัดจ์... ช่วงนี้พยายามทำทุกอย่างใ ห้เสร็จเรียบร้อย ส่วนเปเปอร์ก็ยังตีพิมพ์ไม่ได้ เพราะเจออุปสรรคที่ตาลุงนั่นวางกับดักเอาไว้ ตอนนี้เลยต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ผ่านเขาวงกตไปได้เมื่อไหร่ก็จะได้ลุยได้เต็มที่ ก็คาดดว่าคงจบได้ภายในมีนาที่จะถึงนี้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ขอให้เหลือแค่ขั้นตอนการสอบจบเท่านั้น แล้วเลื่อนวันจบออกเป็นกันยาปีหน้า ระหว่างที่รอจบ ถ้าสมมติว่าที่บริษัทตกลงรับเข้าทำงาน ก็คงไปทำก่อนครับ แล้วลามาสอบช่วงเสาร์อาทิตย์ ค่าเทอมก็ไม่ต้องจ่าย อาจารย์ก็บอกว่าทำได้ไม่ผิดกฎ ได้ข้อมูลจากหลายท่านก็พอจะสบายใจขึ้นมาหน่อยครับ ส่วนเรื่องประกันสุขภาพไม่ห่วงครับ อ.ปมฯ เพราะผมก็มีโรคประจำตัวที่ต้องหาหมอทุก 3 เดือนอยู่แล้ว เฉพาะค่าตรวจแบบละเอียดปีละครั้งก็คุ้มแล้วครับ จากคุณ : Tsuwamono - [ 3 ก.ย. 51 13:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สบายใจขึ้นแล้ว ดีใจที่มีเพื่อนคุณสั่นมาแนะนำ จากคุณ : พนอจัน - [ 3 ก.ย. 51 13:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มานั่งอ่านด้วย แล้วก็เห็นด้วยกันคุณฟัดส์ ตรง "จาก30% ขึ้นมาเป็น 33% แล้วยังเป็นrangeที่ซาลารี่ แมนส่วนใหญ่ต้องจ่ายกันระยะยาวเสียด้วย อย่างน้อยๆ ก็ อายุ 40-55 หรือ 60 เลยทีเดียว " จริงด้วยค่ะ คิดแบบนี้เช่นกัน จากคุณ : แม่อิหนู (bigbuta) - [ 3 ก.ย. 51 13:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาษีแพงจริงๆค่ะ salaryman นี่เหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือของรัฐบาลค่ะ(ขออภัยที่พูดตามที่รู้สึก) เพราะว่าเวลามีการปรับเปลี่ยนอะไรในระบบสวัสดิการหรือว่าภาษี คนกลุ่มนี้หนีไปไหนไม่ได้ ยังไงก็ต้องจ่ายในอัตราที่รัฐต้องการ อืมม แล้วก็ รู้สึกว่า พนักงานบริษัทเ มีทั้งเป็นพนักงานประจำ กับพนักงานไม่ประจำรึนะคะ เงินเดือนกับสวัสดิการและอัตราการจ่ายภาษีต่างกัน มีทั้งข้อดีข้อเสีย เลือกที่เหมาะกับเรา อย่างอื่นก็ต้องดูด้วยรึเปล่าคะ บางบริษัท มีค่าเช่าบ้านให้ด้วยบางส่วนรึเปล่า สำหรับประกันสุขภาพถ้ามีโรคประจำตัว ถือว่าคุ้ม ก็คงไม่ต้องคิดอะไรมากมั้งคะ ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ต่อ จากคุณ : minisealion (minisealion) - [ 3 ก.ย. 51 17:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องภาษีมีหลายๆท่านมาตอบแล้ว อยากเสริมเรื่องว่าให้ดูเรื่องสวัสดิการให้ละเอียดเลยค่ะ เพราะภาษีนี่โดนหักไม่ต่างกันมากทุกบริษัท แต่เรื่องสวัสดิการนี่ ต่างกันฟ้ากับเหวก็มีค่ะ ซึ่งจะเก็บเงินได้มากน้อยนี่ ขึ้นกับเรื่องสวัสดิการบริษัทเยอะเหมือนกัน เช่น 1.มีหอพักบ.ให้หรือไม่ เราต้องจ่ายอะไรบ้าง ถ้าไม่มี มีเงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้านหรือไม่ เท่าไหร่(เงินเดือนสามแสนแต่ไม่มีช่วยค่าเช่าบ้าน จ่ายเองเดือนล่ะแปดหมื่นเยน กับเงินเดือนสองแสนห้าแต่อยู่หอบริษัทเดือนล่ะห้าพันเยน) 2.ค่าเดินทางไปกลับบ้านกับบริษัทจ่ายแบบไหน เต็มจำนวนหรือไม่ 3.อาหารกลางวัน มีโรงอาหารบริษัทจะเซฟได้เยอะมาก หรือมีช่วยค่าอาหารกลางวันหรือไม่เท่าไหร่ แถวนั้นค่าอาหารแพงไหม(เช่น ได้เงินช่วยค่าอาหารเดือนละห้าพันเยน แต่ทำงานแถวรปปงงิ ค่าอาหารมื้อละแปดร้อยเยนเป็นอย่างต่ำ) 4.โบนัสคูณเท่าไหร่ ได้ปีละกี่ครั้ง เก็บได้เป็นกอบเป็นกำเพราะโบนัสนี่แหล่ะค่ะ 5.มีzaikeiไหม บ.เพิ่มเงินให้เท่าไหร่(เช่นzaikei ให้เพิ่มปีล่ะสองหมื่นเยน ซึ่งถ้าฝากธนาคารญี่ปุ่นเฉยๆก็ไม่ได้ดอกเบี้ยค่ะ) 6.สวัสดิการด้านสุขภาพต่างๆ 7.สวัสดิการอื่นๆจิปาถะ (อันนี้เป็นสวัสดิการพักผ่อนหย่อนใจค่ะ เช่นส่วนลดค่ารถเช่า ส่วนลดโรงแรม ส่วนลดค่าซื้อทัวร์) อันนี้บางทีก็ช่วยเซฟรายจ่ายที่คิดไม่ถึงได้นะคะ เช่นตัวดิฉันตอนย้ายบ้านตอนแรกว่าจะใช้บริการขนย้าย แต่พอเห็นว่าบ.มีส่วนลดค่าเช่ารถเช่าเยอะมาก เลยเช่ารถคันใหญ่มาย้ายเอง ประหยัดได้มากกว่าครึ่งค่ะ ตัวดิฉันเองเงินเดือนไม่ได้เยอะมากมาย แต่อาศัยว่าสวัสดิการบริษัทค่อนข้างดี พอคำนวนรายได้รายจ่ายแล้วเหลือเก็บมากกว่าสามีที่เงินเดือนมากกว่าค่ะ เป็นต้นค่ะ ยังไงคุณสั่นลองถามเรื่องสวัสดิการบริษัทดูให้ละเอียดก็จะเป็นตัวช่วยประกอบการพิจารณาอีกอย่างนึงค่ะ จากคุณ : telepthoron - [ 3 ก.ย. 51 21:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ๋อ ลืมอีกเรื่องนึงคือ บริษัทจ่ายค่าล่วงเวลาให้รึเปล่า ถ้าจ่าย จ่ายได้มากสุดเดือนละไม่เกินกี่ชั่วโมงเพราะว่า บางบริษัทไม่มีค่าล่วงเวลา เงินเดือนอาจดูเหมือนเยอะ แต่ทำงานหนักมากๆ คำนวนเป็นรายได้ต่อชั่วโมงแล้ว ต่ำกว่าทำงานร้านสะดวกซื้ออีกก็มีค่ะ อย่างนี้เสียสุขภาพ หรือ มีค่าล่วงเวลาให้แต่ให้ไม่เกินเดือนล่ะยี่สิบชั่วโมง อันนี้ก็เหมือนกันคือ ถ้าทำเกินก็ทำงานฟรีค่ะ ไม่ทราบว่าดูละเอียดไปรึเปล่า แต่ว่าตัวเองตอนเลือกบริษัทที่ญี่ปุ่นก็ไม่รู้เรื่องสวัสดิการอะไรเลย ดูแต่ตัวเงินเดือนกับภาษี พอเข้ามาทำงานจริงๆลองเปรียบเทียบกับเพื่อนต่างบริษัท กับสามีแล้ว ถึงรู้ว่าเรื่องสวัสดิการนี่ก็สำคัญพอสมควรเลยค่ะ ยังไงขอให้คุณสั่นโชคดีมีความสุขกับการทำงานที่ญี่ปุ่นนะคะ จากคุณ : telepthoron - [ 3 ก.ย. 51 21:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องภาษี หลายท่านช่วยตอบให้แล้ว ขอให้คุณสั่นฯ ได้งานทำตามที่ต้องการนะคะ ^-^V จากคุณ : -N-u-t--- - [ 4 ก.ย. 51 06:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองหาแฟนญี่ปุ่นสักคนสิพี่  อาจจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ จากคุณ : T-E-N-A - [ 4 ก.ย. 51 07:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ระบบการจ่ายภาษีปรับใหม่ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ระบบใหม่ถือว่าช่วย แล้ว เมื่อวานคุยกับโอโต้ซัง ท่าว่า ก่อนที่จะปรับใหม่ เรทสูงสุด คือ 60% ต่อปีค่ะ อย่างพวกเจ้าของบริษัทใหญ่ที่รายได้ต่อเดือนเป็นร้อยล้านเยน (1 โอคุเยนขึ้นไป) เช่น เจ้าของ บ.พานาโซนิค เป็นต้น โอโต้ซังก็เคยโดนเก็บภาษี 50% เหมือนกัน ตอนที่ท่านทำงาน แต่ตอนนี้ ปรับเรทสูงสุดเก็บแค่ 40% เท่านั้น แต่มาขยายเรทมนุษย์เงินเดือนช่วงวัย กลางคนแทน (รัฐคงไตร่ตรองดูแล้วว่าน่าจะเก็บได้เยอะกว่าที่ไปเก็บผู้ ประกอบการรายใหญ่ที่มีไม่กี่ราย) ------------------------------------------------------------------ แต่ที่ยังติดใจ และคงต้องค้นคว้าต่อไป คือ ภาษีcity tax เพราะเขตโยโกฮา ม่าเก็บแพงมาก(ผบทบ.จ่ายอยู่แพงกว่าภาษีรายได้เกือบ 3 เท่า) ถามโอโต้ ซังว่าโตเกียวแพงกว่านี้หรือเปล่า ท่านว่าถูกกว่านี้ เพราะเขตโตเกียวสามารถ เก็บภาษีจากบริษัทห้างร้านได้เยอะ จึงมาลดภาษีcity tax แทน (หากมีข้อมูลภาษีcity taxเอาไว้จะมาแปะให้ดูนะคะ) จากคุณ : fudge-a-mania - [ 4 ก.ย. 51 07:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ อย่างที่คุณทีน่าว่าก็โอเคเลยนะค่ะ แรงที่จะอยู่อยู่ญี่ปุ่นต่อจะได้เพิ่มมากขึ้น ขอให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีนะค่ะ จากคุณ : หนูริวจัง - [ 4 ก.ย. 51 08:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขออธิบายเรื่องภาษีท้องที่ของเราเพิ่มหน่อยนึงค่ะ กลับไปอ่านข้อความตัวเองอีกที มันกำกวนไม่ชัดเจน เหมือนว่าปีแรกจะไม่เสียภาษีท้องที่ ภาษีท้องที่ของเมืองทีเกดอยู่ จะให้จ่ายภายหลังจากการทำงานไปแล้วค่ะ ทางเมืองรวมรายได้ทั้งปี คิดเป็นภาษี แล้วส่งสลิปมาให้ไปจ่ายค่ะ จะจ่ายก้อนเดียว หรือแบ่งเป็นงวดๆ ก็ได้ ปีต่อมา รู้สึกว่าจะหักจากสลิปเงินเดือนเลย สรุปก็คือ การเสียภาษีท้องที่และลักษณะการจ่าย ขึ้นกับเมืองที่อยู่ และที่ทำงานด้วยจ้ะ จากคุณ : =KaDe= - [ 4 ก.ย. 51 09:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นกำลังใจขอให้คุณอั๋นพิมพ์เปเปอร์ได้ในเร็ววันนี้นะคะ จากคุณ : morinaga - [ 4 ก.ย. 51 11:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าบวกลบคูณหารแล้ว...คิดว่าพอที่จะอยู่ญี่ปุ่นได้โดยไม่ขัดสนก็อยู่ไปก่อนเถิดน้องสั่นฯ....ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองเรายังไม่นิ่ง...เศรษฐกิจจะเป็นยังไงต่อไปก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้....พี่ว่าลองหาประสบการณ์ที่นี่เสียก่อน..ถ้าเบื่ออยากจะกลับไปเริ่มต้นที่บ้านเรา..อีกกี่ปีก็ยังไม่สาย..ขอให้โชคดีค่ะ.... จากคุณ : vipavee - [ 4 ก.ย. 51 11:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วันนี้เพิ่งไปต่อวีซ่ามาครับ ต่อได้อีก 1 ปี เรียบร้อยไม่มีปัญหาเหมือนปีที่แล้ว เรื่องอัตราภาษีไม่มีปัญหาครับ จะจ่ายเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายตามที่เขากำหนด แลกกับสวัสดิการทางสังคมที่ดี ก็ต้องจ่าย แพงหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา ส่วนสถานการณ์บ้านเมืองก็ติดตามตลอดครับ และพยายามมองอย่างเป็นกลางที่สุด เท่า ๆ ที่ติดตามดูผมว่ากว่าจะเข้าที่เข้าทาง อย่างเร็วก็คง 3 ปี อย่างช้าก็ไม่น่าจะเกิน 5 ปี      ซึ่งนี่ก็คืออีกเหตุผลที่ทำให้ลังเลตอนแรก ๆ ครับ สำหรับที่ อ. TENA แนะนำมา ก็พูดลำบากเน๊อะ ไม่อยากคาดหวังอะไรมาก ยิ่งหาอาจจะยิ่งไม่เจอก็ได้ พยายามไปก็เท่านั้น ก็เลยคิดว่าตอบแทน คนที่ทำให้หนึ่งสมองกับสองมือนี้เกิดขึ้นมาก่อนดีกว่า ขอบคุณทุกท่านจากใจอีกครั้งครับ......(พี่วาฯ คุณแวว คุณเกด คุณหนูริวจัง พี่ฟัดจ์ อ.เทน่า คุณนัท คุณ telepthoron คุณ minisealion  คุณ bigbuta คุณน้าด้วยครับที่ติดตามให้กำลังใจ) จากคุณ : Tsuwamono - [ 4 ก.ย. 51 17:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ค่าลดหย่อนคู่สมรสได้ลดไปกี่เปอร์เซ็นต์หรือเค้าฟิกซ์ไปเลยว่าให้ลดได้จํานวนเงินเท่าไหร่ เพราะสลิปเงินเดือนไม่มีระบุไว้อ่ะค่ะ หรือเขาคํานวณทั้งปีทีเดียว ถามเขา เขาก็บอกว่าบัญชีรู้ว่าเขาแต่งงานแล้วคงทําให้แล้วมั๊ง (ดูดิไม่เคยใส่ใจเรื่องเงินทองเล้ย) รบกวนถามท่านที่รู้ช่วยตอบหน่อยนะคะ จากคุณ : อายาเมะ - [ 5 ก.ย. 51 08:40:46 A:118.21.66.89 X: TicketID:182423 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณน้องสั่น...ขา....ถ้าคิดจะเก็บตังส์..อยู่ญี่ปุ่น นี่แหละจ้า.. เก็บได้มากกว่า เมืองไทย แน่นอน..อยู่ซักพัก รวยแล้วค่อยกลับ อิอิ ภาษงภาษี ไม่ต้องไปคิดให้มันหนัก ให้มันเครียด ยังไงๆๆ ก้อโดน.. ไปบริษัท ไหน..ก้อโดน อยู่ดี..เค้าก้อ ไม่ได้เก็บขนาดหมดตัว..ถ้าขนาดนั้น คนทำงาน คงอยู่ ไม่ได้ หรอก..ที่น่าคิดคือ คคห.17..18 ของคุณ telepthoron เขียนได้ ถูกจายยย มาก..ถูกต้องที่สุดเลย.. เรื่องใหญ่เลย ที่อยากให้คุยกะ บริษัท เรื่อง บ้าน ค่าเช่าบ้าน หรือ ค่า ที่อยู่อาศัยเนี่ยแหละ.. โอวววถ้าได้ตรงนี้นะ..เก็บเงินใส่ไห ฝัง ได้หลายเชียว จนไม่มีที่จาให้ฝังเชียว 5555 ว่าแต่ อย่าลืม ขุดไปใช้ละ เดี๋ยวหนอน ที่จะไปแทะ มะเขือ มาแทะไหแทน.. ไม่มีเวลาขุด ก้อบอกพี่มาก้อได้ เดี๋ยวไปช่วยขุดให้ แหะๆๆๆๆ.. บ้านพี่ โชคดี ได้สวัสดิการ ดีมากๆ แบบคุณ telepthoron ว่าเลยอะ.. ที่พัก เคยอยู่ ถูกสุด 3000 เยน แพงสุด 9500 เยน (2LDK)..ไม่เคยจ่ายเป็น แสน..หรือ หลายๆ หมื่น ช่วยได้เยอะมากกกกก ที่สุดเลยละ. (คิดดู ประหยัด ค่าที่พัก ปีละล้านเยน 10 ปีก้อ 10 ล้านเยน..ทำงานมา 30 ปี เอ๊ะ แล้วเงิน 30 ล้าน หายไปไหนเนี่ย ทำไมไม่มีหว่า 55555) ไม่ใช่ Apartment สังกะสี นะจ้า Mansion ใหม่ๆ นี่แหละ..บริษัท สร้างให้ พนักงานอยู่ก้อมี บริษัท เช่า ทั้งหลัง ให้ พนักงานก้อมี.. ค่ารถไฟ แน่นอน ฟรีอยู่แล้ว ค่าอาหาร กลางวัน ได้ มื้อละ 350 เยน จากินไม่กิน ก้อจะได้ เป็นเงินสด มาเลย(ใส่บัตรพนักงาน) แถม มีโชกุโด ของบริษัท อาหารถูกเพื่อพนักงาน มื้อละ 350-500 เยนเอง..ถ้าทาน 350 เยน ก้อเท่ากับมื้อนั้น ฟรี ไป ถ้า ทาน 500 เยน ก้อเพิ่มแค่ 150 เยน..วันดี คืนนี้ ปีละครั้ง อาหาร มื้อละ 100 เยน กำไรอีกแนะ 55555..สมัยก่อน ถ้า หลัง 18.30 น.ต้องอยู่ต่อ ฟรีมื้อเย็น เลือกจาก เมนูหรู ได้เลย เดี๋ยวนี้ยกเลิกไป แล้ว อดเลย..เหนือยเมียต้องกลับมาทานบ้าน อิอิ..ตรงนี้ ไม่เยอะ แต่ คิดว่า หลายๆ ปีรวมกันก้อเยอะ..อะเนอะ..ดูบริษัท rakuten ดิ..ทุกวันี้อาหารกลางวัน พนักงานฟรี เหอๆๆๆๆ เรื่องอื่นๆ ปลีกย่อย เยอะแยะ..โบนัส อีก..ทีสำคัญ.. เอาใจช่วย ขอให้ได้งาน ที่ชอบถูกใจ ไวๆ นะคะ.. ว่าจะถาม อะไรหน่อย ลืมไป แล้ว..เดี๋ยวนึกออกแล้ว ค่อยหลังไมค์ ไปถาม ดีกว่า.. จากคุณ : **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** - [ 5 ก.ย. 51 09:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณอะยะเมะ หากภรรยาไม่มีรายได้หรือทำงานมีรายได้น้อยกว่า 1.03 ล้านเยน/ปี สามี สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 380,000 เยนต่อปีค่ะ นอกเหนือไป จากส่วนที่ขอเรียกคืนภาษีได้ (ให้ดูที่แปะคคห.8 ประกอบ ตรงที่เขียนว่า Exemption yen) จากเวบนี้ http://search.japantimes.co.jp/cgi-bin/nb20021207a1.html เพราะแต่ละปีสรรพากรจะเก็บภาษีsalarymanเกินไปกว่าที่ต้องจ่ายจริงอยู่ แล้ว พอถึงสิ้นปีงบประมาณ คือ ก่อน 30 มีนาคมของทุกปี salarymanจึง สามารถไปขอแบบฟอร์มการคำนวณขอคืนภาษีได้ที่เขต แล้วทำเรื่องขอคืน แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำนะคะ บางคนก็ขี้เกียจทำ บางคนก็ไม่รู้ว่าทำได้ ฯลฯ ผลประโยชน์ก็ตกเป็นของรัฐไป เพราะทางบริษัทจะไม่จัดการเรื่องนี้ให้ ผู้ที่ อยากได้ภาษีคืนจึงต้องไปยื่นเรื่องเอง จากคุณ : fudge-a-mania - [ 5 ก.ย. 51 12:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ที่เขียนไว้คคห.บน เข้าใจว่าแต่ละปีทางบริษัทคำนวณลดหย่อนภาษีจาก สมาชิกในครอบครัวที่ไม่มีรายได้ไปแล้วค่ะ salarymanไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม แต่ในส่วนที่ทางเราสามารถขอทำเรื่องคืนภาษีได้นั้น คือ.... 1. ในปีที่ผ่านมา ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเกิน 100,000 เยน (ทั้งค่าตรวจ เวลาไปหาหมอที่รพ. หรือคลีนิครวมถึงค่าเดินทางจากบ้านเพื่อไปรับการ รักษา ค่าทำฟัน ค่าคลอด ใบเสร็จอย่าทิ้งนะคะ เก็บรวบรวมไว้ / แต่ว่าบิลค่า ยา ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่าซื้อวิตะมิน หรือผ่าตัดทำศัลยกรรมเพื่อความ สวยงามนำมาขอคืนภาษีไม่ได้นะคะ) ปีนี้ดิฉันยังได้คืนมา 56,000 เยนเลย คาดว่าปีหน้าได้คืนเยอะกว่านี้ เพราะปี จ่ายค่าหาหมอเยอะกว่าปีที่แล้วอีก 2. จ่ายmortgageในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือซ่อมแซม หรือ ต่อเติมบ้าน ในปีที่ผ่านมา จากคุณ : fudge-a-mania - [ 5 ก.ย. 51 12:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พี่ฟัดจ์หาข้อมูลเก่งจัง  ข้อมูลแน่นปึก   จากคุณ : T-E-N-A - [ 5 ก.ย. 51 22:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณข้อมูลจากคุณฟัดจ์มากๆค่ะ หาข้อมูลเก่งจริงๆเป็นแม่บ้านญี่ปุ่นเต็มตัวเลยนะคะ ดิฉันมาอยู่ได้สองปีแล้วแต่ยังไม่ค่อยรู้อะไรซักเท่าไหร่เลยค่ะ ต่อไปนี้คงต้องกระตือรือร้นมากกว่านี้แล้วค่ะ จากคุณ : อายาเมะ - [ 6 ก.ย. 51 17:28:52 A:118.21.67.79 X: TicketID:182423 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอาใจช่วยคุณสั่นนะคะ ทำงานเก็บเงิน หาประสบการณืที่ญี่ปุ่น น่าจะเป็นเรื่องดีมากเลยค่ะ ขอให้สมหวังนะจ้า จากคุณ : แม่น้องคะน้าจัง (Kana Jan) - [ 6 ก.ย. 51 19:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทำงานที่ญี่ปุ่นดีที่สุด..ขอรับรองว่าต้องเจอคนที่ถูกใจเเน่นอน ผู้หญิงญี่ปุ่นอยากเเต่งงานจะตายไป เพราะฉนั้นเรื่องภาษีจะได้รับการผ่อนผันเเละมีส่วนลดมากกว่าถือบัตรคนต่างด้าว รวมถึงสภาพเเวดล้อมของสังคมญี่ปุ่น ขอให้คิดถึงเรื่องนี้เป็นตัวสำคัญด้วยค่ะ จากคุณ : " ยูกะ " (YUCCA) - [ 14 ก.ย. 51 03:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณทุกท่านอีกรอบครับ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องแต่งงานหรอกครับ ถ้าได้ทำงานที่อยากทำ ทำงานที่ชอบ ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ แม้จะลำบากนิดหน่อย ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผม จากคุณ : Tsuwamono - [ 18 ก.ย. 51 18:12:18 ]