ความคิดเห็นที่ 1 อืม อ่านแล้ว ก็เอ่อนะ เป็นเรา เราคง หาแฟนใหม่ ง่ายกว่าจะไปเปลี่ยนความคิดคนแบบนี้ จบข่าว พ่อเค้าคงไม่ได้สั่งสอนจริงๆ อย่างทีคุณว่า เหอๆๆ จากคุณ : Scooterella - [ 5 ก.ย. 51 10:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 .......ถึงตอนนี้...พ่อของเขา ต้องสั่งสอนเขาแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : makeup - [ 5 ก.ย. 51 10:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อึ้งไปกับคำตอบของแฟนคุณเหมือนกันค่ะ คุยกับทางบ้านให้แน่นอนหรือยังคะว่าสินสอดจะคืนให้หรือเปล่า หากคืนให้ก็ลองคุยกับแฟนดูอีกที ว่าทางเราขอทำตามประเพณีไทย หากแฟนไม่เข้าใจอีก คุณก็พิจารณาดูว่าจะเอายังไง จะอยู่หรือจะไป คุณเท่านั้นที่รู้ดีค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 5 ก.ย. 51 10:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกะ คุณScooterella อย่างแรง คิดดีๆนะคะ นี่แค่การเริ่มต้นชีวิตคู่ เค้าเริ่มดูถูกคุณ ขนาดนี้แล้ว แต่ถ้ารักเค้ามาก ก้อพยายามเข้าค่ะ ถ้าเค้ารักเรา เค้าก้อจะต้องพยายามเข้าใจเราเหมือนกันกับที่เราพยายามทำอยู่ คนเรามันต้องมี give and take ค่ะ ยิ่งชีวิตคู่ จะมารอให้แต่คนอื่นมาเข้าใจเราอย่างเดียว อีกคนก้อแย่สิคะ ขออนุญาต ให้ความเห็นส่วนตัวว่่า ผู้ชายคนนี้ เห็นแก่ตัวอย่างแรงค่ะ จากคุณ : wipping - [ 5 ก.ย. 51 10:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อึ้งค่ะ จากคุณ : ToonyBerri - [ 5 ก.ย. 51 10:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชักมองเห็นเลาๆ ว่าถ้าหากแต่งงานกันไป พอทะเลาะกันเขาจะว่ายังไงมั่ง เป็นดิฉันใครมาว่าใส่หน้าแบบนี้ ซาโยนาระ คำเดียวค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 5 ก.ย. 51 10:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เลิกกันดีกว่า เพราะเขาดูถูกคุณ ไม่ฟังเหตุผล แล้วนอกจากเรื่องสินสอด ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในงานอีก ใครจะเป็นคนจ่าย จ่ายคนละเท่าไร รวมทั้ง ค่าแหวน อีกด้วยนะ จากคุณ : ธนิตา - [ 5 ก.ย. 51 12:28:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือนข้างบนเลย ถ้าเป็นเรา ถามอย่างนี้ เลิกดีกว่า ยังไม่ทันได้แต่งเล่นลำเลิกเรื่องนี้ แต่งไป ต้องขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกแน่ๆ คือไม่เข้าใจเรื่องสินสอดยังไงก็ไม่ควรใช้คำถามอย่างนี้ถามกลับมา ปล.เข้าใจว่าเลิกยาก ถ้าคุณคิดยืนยันจะแต่ง อย่างที่ข้างบนบอกอ่ะค่ะ ไปคุยกะครอบครัวก่อนว่าเค้าคืนแน่ แล้วค่อยกลับไปคุยกะแฟน อธิบายไปว่าที่เมืองไทย มันเป็นธรรมเนียมที่ลูกเขยต้องทำให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงมั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกสาวเค้าได้หลังจากแต่งงาน แค่เอามาโชว์แล้วก็เอาคืนไป พ่อแม่เราไม่ได้จะขายลูกกิน จากคุณ : The Joy Luck Club - [ 5 ก.ย. 51 12:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเค้ารักคุณจริงๆ เค้าเองก็ควรจะศึกษาเรื่องประเพณีนี้ด้วยตัวเองอยู่แล้วนะ ต้องรอให้ฝ่ายหญิงป้อนข้อมูลให้ทุกยอย่างเลยหรือ อีกอย่าง ตัวเองครึ่งนึงก็เป็นคนไทยอยู่แล้วด้วย  แต่จิตใจกลับกลายเป็นฝรั่งไปหมดแล้ว ไม่รู้เลยเหรอว่านี่เป็นประเพณีไทย เราว่าแฟนคุณออกแนวเห็นแก่ตัวไปนิ๊ส จากคุณ : Queen of hearts - [ 5 ก.ย. 51 12:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โถๆๆๆๆๆ ผู้ชายนะผู้ชาย เหตุผลที่ควรบอกให้เค้ารู้คือ เพราะเราเป็นคนไทยค่ะ อธิบายมากก้อเสียเวลาเค้าคงไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่ละเอียดอ่อนหรอกค่ะแล้วจะเป็นไรไปเนอะเอาจริงๆ ค่าน้ำนมแม่ จากคุณ : JiPza_SuSie - [ 5 ก.ย. 51 13:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากที่เค้าพูดแบบนี้ มองว่าเค้าเห็นแก่ตัวค่ะ เพราะว่า ไอ้การให้สินสอด นี้ มันไม่ใช่แค่ ในวัฒนธรรมไทย ค่ะ มันอีกในหลาย ๆ ประเทศ ถึงแม้บางประเทศ ไม่มี แต่คนเขาก็เข้าใจค่ะ (เช่น ต่างชาติ ที่มาแต่งงานกับสาวไทย แล้วก็จัดพิธี แบบไทย ) ก็ไม่เห็นใครจะมา ตั้งคำถาม แล้วจะเอาคำตอบแบบขวางโลก เหมือนแฟนคุณเลยค่ะ ทำไม ต้องทำเป็นไม่เข้าใจ แล้วจะเอาคำตอบให้ได้ น่ากลัวว่า ชีวิตหลังแต่งงาน อาจจะมีแนวโน้ม เป็นอย่างที่ คห บน ๆ พูดมาก็ได้นะคะ จากคุณ : Freedom of Life - [ 5 ก.ย. 51 13:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แฟนคุณโตอยู่เมกาแต่ทำไม สะกดผิด? เอ๊ะ หรือเค้าเซนเซอร์คำนี้หว่า? เลยต้องสะกดเพี้ยนไว้ก่อน? ช่างเหอะๆๆ เข้าเรื่อง อยากจะบอกว่า บ๊ายบายเหมือนกัน ไปตายซะ มาหวังอารายตุ๊เรสๆ บอกมันอยากรู้ว่าเหตุผลอะไรใช่ไหม ไปถาม พ่อออออออ แกเซ่ะ พ่อไม่สอน ก้อถามมมมมม ซะเซ่ะๆๆๆ พ่องกไม่อยาำกจ่ายสินสอด ญ เลยไปเอาฝรั่งเรอะ พยายามหนีความเป็นไทยนักรึไง หาๆๆๆ ลูกแกมาแอบหลงสาวไทย ก็ยังไม่ปลูกฝังความเป็นคนนนนนน(ไทย) ให้ลูกแกเรยเรอะๆๆๆ แล้วนิสัยนะ สอนลูกมาด้วยอารายเน๊ ไม่มีมารยาทเรย อีนี่นิ ไปตายซะไป๊ ขออภัยถ้าหากลามไปหน่อย บังเอิ๊ญ บังเอิญ เกลียดสัตว์เดรัจฉานที่ไร้มารยาท เข้าไส้ติ่ง กร๊่ากๆๆๆ พยายามไม่แรงแล้วนะ  คริๆๆ จากคุณ : Kryta (kryta) - [ 5 ก.ย. 51 13:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ดูเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน หัวสมัย ต่อต้านประเพณีหรือเปล่า จึงพูดออกไปแบบไม่คิดเสียก่อน ... เพราะบางคนก็มองประเพณีเหมือนการซื้อขาย อธิบายกันอย่างไง ตรรกะก็ไปเข้ากับการเอาเงินให้พ่อแม่ของเจ้าบ่าว หรือเจ้าสาว ก็ตาม เพื่อจะได้อีกคนย้ายมาในอีกสกุล ฟังแค่ประโยคเดียวก็ยังสรุปไม่ได้ชัดค่ะว่าพูดเพราะดูถูกคุณ หรือพูดเพราะอารมณ์แล้วไปยกเหตุผล แบบซื้อมาขายไป วัยรุ่นบางคนพูดก่อน คิดทีหลัง ก็มีเยอะ (เอ..บางครั้งดิฉันก็เป็นค่ะ ว่าไม่ได้เหมือนกัน) ลองหาโอกาส อธิบายใหม่อีกทีว่า ให้กันเป็นธรรมเนียมเท่านั้น พ่อแม่คืนให้ไปตั้งตัวอยู่แล้ว เพราะถ้าเขาติดขัดเรื่องเงินสินสอด (คือมีเงินเก็บไม่มาก) เขาก็จะได้ไม่เครียด  แต่ถ้ายังพูดดูถูกคุณอีก คุณคงต้อง firm ในเรื่องนี้ อย่าเก็บไปน้อยใจคนเดียว  ต่อว่าเขากลับว่า การใช้ตรรกะแบบนี้ เป็นการดูหมิ่นที่รุนแรงต่อจิตใจคุณมาก (ที่ต้องพูดให้เขาเข้าใจ เพราะบางคนไม่ทราบว่า คำพูดจากปาก บาดลึกเจ็บร้ายยิ่งกว่าเอามีดมาเฉือนกันเสียอีก) ลองปรับทัศนคติกันดูนะคะ อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรไปก่อน (เข้าใจว่า ก่อนแต่งงาน ช่วงเตรียมงานนี่แหละค่ะ หลายคู่ไม่ว่าจะไทยแต่งกับไทย หรือ ไทยแต่งกับจีน จีนแต่งกับไทย ก็ถกเถียงเรื่องพิธีรีตรอง หรือเชิญใครใครไม่เชิญ จัดที่ไหน ทำอะไรกันมาเยอะ อย่าว่าแต่แต่งกับคนที่ข้ามวัฒนธรรมกันไกล ๆ อย่างนี้เลยค่ะ) จากคุณ : บีพี - [ 5 ก.ย. 51 13:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มีสายเลือดไทยตั้งครึ่งตัว ทำเป็นสะดิ้งไม่เข้าใจประเพณีไทย นี่ถ้าจีบสาวอินเดีย ตาหมอนี่คงเป็นฝ่ายอ้างประเพณีซะเอง แถมดูถูกเราซะอีก เป็นเราเบิ๊ดโหลกสักป้าด แล้วบอกนี่แหละเฟ้ย วิธีทำให้สมองซึมซับวัฒนธรรมไทย จากคุณ : jeejeeberry - [ 5 ก.ย. 51 13:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ให้ไปถามพ่อดูดิค่ะ จากคุณ : มนชิจัง - [ 5 ก.ย. 51 14:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พอดีว่าเพื่อนสนิทของดิฉันแต่งงานกับฝรั่ง หลังจากที่เขาคบกันได้ระดับหนึ่งแล้วเพื่อนก็ส่ง หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Thailand Fever เป็นหนังสืออธิบายประเภณีไทย นิสัยใจคอคนไทย ไปให้เขาอ่าน จากนั้นฝรั่งก็เข้าใจประเพณีไทยดีขึ้น  การให้สินสอดและการส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่คือการที่เราแสดงความกตัญญู ตอบแทนบุญคุณที่ท่านเลี้ยงดูเรามา การแสดงความกตัญญูโดยวิธีนี้มันเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกอยู่ในหัวใจของคนไทย ****ไม่ได้โฆษณาหนังสือนะ เพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แค่รู้เห็นมาก็บอกไป ช่วยกันให้ข้อมูลอีกคน**** จากคุณ : jumy (MissSongkhla) - [ 5 ก.ย. 51 15:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แฟนคุณพูดซะน่าตบ  ไม่ให้เกียรติกันเลย แต่ในอีกทางนึง คุณก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมต้องจ่ายค่าสินสอดนอกจากเหตุผลที่ว่า "เพราะมันเป็นธรรมเนียมไทย"  จะบอกว่าทดแทนบุญคุณพ่อแม่อะไรก็ว่าไป  ถ้าไม่รู้จะอธิบายยังไงก็ไล่ให้แฟนคุณไปถามพ่อเค้าซะ จากคุณ : pervpanda - [ 5 ก.ย. 51 15:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ค้าพูดเหมือน ถ้าคุณ เวอร์จิ้น เค้าจะจ่ายเน๊อะ ?? ................ ดิฉันเข้าใจว่าจุดที่เค้าถามคุณ เค้าถามเพราะเค้าไม่รู้ประเพณี ไม่รู้ว่าอะไรควรอะไร ไม่ควร อีกอย่างคือเพราะความที่เติบโตมากับสังคมอเมริกัน คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น อย่างน้อยในจุดนี้เค้าก็พูดกับคุณตรงไปตรงมาดีนะ แต่คุณเองที่รับไม่ได้ ตอนนี้อยู่ก็ที่ตัวคุณว่าจะพูดให้เค้าเข้าใจได้อย่างไร ...................................... ดิฉันไม่แน่ใจว่าพ่อแม่คุณจขกท ท่านยืนยันมารึเปล่าว่า ต้องมีสินสอด  เพราะบางทีท่านอาจจะไม่ได้ต้องการอะไรก็ได้ ในพิธีคุณอาจจะว่างเงิน วางทอง เล็กน้อยในพาน พอให้ดูเป็นพิธี ที่พูดนี่จุดประสงค์คือจะชี้ให้เห็นว่า บางอย่างมันต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยและสภาพเศษฐกิจนะคะนะคะ ขอถามคุณ จขกท อีกอย่างคือ ถ้าคุณรักเค้ามากๆ แล้วเค้าไม่ยอมจ่ายค่าสินสอดจริงๆ คุณจขกท จะ เลิกกับเค้าจริงๆ หรือจะ หยวนๆ ล่ะ คุณคนเดียวที่ตอบได้ ................. อ้อ!!!!มีเรื่องเล่าอีกหน่อย เผื่อจะมีประโยชน์กับคุณ จขกท ดิฉันเคยเห็น คู่แต่งงาน ไทย กะชาวต่างชาติหลายๆคุ่มีปัญหาแบบนี้ คือผู้หญิงบอกว่าต้องการให้ผู้ชายเอาเงินมาว่างค่าสินสอด ล้าน หรือสองล้านมาวางพอเป็นพิธี  เป็นหน้าเป็นตา  หลังเลิกงานจะคืนกลับให้ฝ่ายชาย ฝ่ายชายยังไงๆก็ไม่ยอมไม่ใช่เพราะเค้าไม่มี  แต่เป็นเพราะถ้าเค้าถอนเงินจำนวนนั้นมาจากในแบงค์ มาแลกเป็นเงินไทย แล้วสุดท้ายพอต้องแลกกลับไปเป็นสกุลเงินเค้า ค่าเงินมันตกหายไปหลายอยู่ ผู้ชายเค้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลที่ควรจะะทำเช่นนั้น สุดท้ายฝ่ายหญิงก็กลัวจะเสียหน้า ต้องวิ่งไปกู้คนโน้น คนนี้มาวาง ส่วนตัวดิฉันมองว่า น่าอายกว่าไม่มีสินสอดในพานอีกน้ะ มันเหมือนผู้ชายเค้าคิดแบบ logical thinking แต่ผู้หญิง จะคิดถึง หน้าตาเป็นสำคัญ แนะนำแก้ปัญหาค่ะ จัดแบบฝรั่งไปเลยค่ะ ตามธรรมเนียม(อังกฤษ ...ไม่รู้อเมริกันเป็นเหมือนกันรึเปล่า )ครอบครัวผู้หญิงจ่ายทั้งหมด ถ้าเค้าขอจัดแบบฝรั่งคุณยอมมั้ยล่ะ คิดถึงใจเค้า ใจเรานะคะ รักจะยืนยาว เราไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและแฟนคุณ ว่ารักกันมากน้อยแค่ไหน จะเลิกหรือจะรักกันต่อไปเพียงเพราะเรื่องสินสอดนี่ แต่ยังงัยก็ขอให้ผ่านมรสุมสินสอดไปได้ด้วยดีนะคะ จากคุณ : มองอย่างเป็นกลาง (hamble pie) - [ 5 ก.ย. 51 15:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เท่าที่อ่าน มันไม่ใช่เขาคิดแบบไทย หรือเขาคิดแบบอเมริกันหรอกนะ เพราะการที่บอก เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ทำไมชั้นต้องให้เงินแม่เธอด้วยน่ะ มันเป็นคิดจากนิสัยถาวรดั้งเดิมดิบของเขานั่นแหล่ะ เป็นนิสัยส่วนตัวนะ ไม่ได้เกี่ยวแบบไทยหรืออเมริกาเลย ออกแนวไม่ให้เกียรติเราด้วยซ้ำ อเมริกาอะไรฟะ พูดเรื่องจิ้นไม่จิ้น เรื่องสินสอดก็ให้หาอ่านหนังสือจากข้างบนบอกแล้วกันถ้าจขกท. ทนรับพฤติกรรมส่วนตัวเขาได้ หวังว่าคงจะช่วยให้เข้าใจขึ้นบ้าง จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน - [ 5 ก.ย. 51 15:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เหตุผลก็คือ ถ้าเค้าเข้าใจว่าการขอวีซ่าไปอเมริกามันยุ่งยากมากมายแค่ไหน การให้สินสอดก็เหมือนการยื่นเอกสารต่างๆขอวีซ่าผ่านเข้าไปในครอบครัว และทุกคนในครอบครัวก็เหมือนผู้ที่จะอนุมัต และเชื่อมั่นว่าถ้าคุณมีหลักฐานที่ดี มั่นคงจะไม่ทำให้ลูกสาวเค้าได้รับความเดือดร้อนไง น่าจะพอเข้าใจกันได้ แต่ที่พอเค้าไม่ได้บอกเพราะว่าพ่อเค้าพ้นเหตุการณ์นั่นแล้ว เค้าอาจจะลืม เหมือนคนไทยบางคนที่พยายามจะเป็นฝรั่ง ต้องการอะไรที่ แฟร์ แต่ไม่เคยทำใจได้ กับคำว่า แฟร์ จากคุณ : konrac - [ 5 ก.ย. 51 16:32:05 A:58.8.240.16 X: TicketID:186462 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไงก็เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะว่าเขาและตัวคุณเติบโตมาในวัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างกัน คุณก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ ไม่ใช่ว่าแค่บอกว่าเป็นเพราะประเพณีไทย เขาก็คงไม่เข้าใจในคำๆ นี้อย่างแน่นอนค่ะ ยังไงลองให้เขาที่นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Culture_of_Thailand ดิฉันคิดว่าเขาคงจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง ถ้าเขาได้อ่าน สำหรับที่ส่วนที่เขาพูดไม่ดี ที่ทำให้เราเสียใจ ยังไงลองพูดคุยกับเขาหลังจากที่ให้เขาอ่านและเข้าใจในประเพณีไทย คุณต้องบอกเขาไปตรงๆ ว่าคุณเสียใจที่เขาพูดแบบนี้กับคุณ หันหน้าเข้าหากัน พูดกันดีๆ ในเมื่อคุณและเขาได้ตัดสินใจที่จะแต่งงานกันแล้ว ดิฉันคิดว่า คุณรักเขา และเขาก็รักคุณ ใช่ไหมค่ะ อย่าตัดสินใจในคำพูดไม่กี่คำ เพราะว่าบางครั้งคนเราถ้าอยู่ในภาวะกดดัน หรือ โมโหอะไรบางสิ่ง ก็สามารถพูดอะไรได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ต้องควบคุมสติ จิตใจ และการกระทำนะคะ ยังไงก็ขอให้ฝันฝ่าอุปสรรคนี้ให้ได้ค่ะ จากคุณ : ชงโค (chongkolee) - [ 5 ก.ย. 51 17:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บอกให้เขากลับไปถามคุณพ่อเขาดีกว่า ถ้าเขาต้องการเหตุผล พ่อเขาน่าจะอธิบายได้ดีกว่า เพราะถ้าคุณเป็นคนอธิบายเอง ดิฉันกลัวว่าเดี๋ยวคุณจะใช้อารมณ์เถียงกันไปมาแล้วมันก็จะพา ให้ความรักล่มไปเสียก่อน จากคุณ : ป้าลิขอแจม (ป้ามะลิกับลุงมะระ) - [ 5 ก.ย. 51 17:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 When you talked about ค่าสินสอด, he said,"You are not VERGIN!!! Why i have to give your mom money?" Do I have to tell you that he looked down on you and you are not worth his money at all? Can't imagine what else in his mind that he will bring it up to hurt your feeling after you marry him. You should walk out from him before he walks away from you. Show him you are worth more than him and his money. แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 51 17:37:35 จากคุณ : Nym - [ 5 ก.ย. 51 17:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คห.ที่ 23 ถูกใจอิฉันมากมาย จากคุณ : jeejeeberry - [ 5 ก.ย. 51 17:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนเขาพูดประโยคนี้ออกมามันไกลเกินจุดที่พูดอยู่เรื่องสินสอดแล้วค่ะ ไม่มีให้ ไม่อยากให้ หรือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ มันมีวิธีการพูดกับคุณให้เข้าใจเขาได้ไม่ยากและไม่ต้องหยาบคายขนาดนี้ แต่ทัศนคติในการตอบลักษณะนี้นั้นแสดงว่าเขาหยุดคุณค่าของผู้หญิง(ที่กำลังจะมาเป็นภริยาเขาในอนาคต)แค่เยื่อพรหมจารีย์ อันนี้อิฉันว่าเขาได้เลือดพ่อมาเต็มๆ เป็นอิฉันคงขอหยุดคิดและพิจารณาผู้ชายคนนี้ในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ใช่ด้วยสายตาที่เรารักเขาแต่จากคนธรรมดาที่มองผู้ชายคนหนึ่งที่จะปฏิบัติและให้เกียรติแก่สตรีมากน้อยแค่ไหน คุณควรพูดกับเขาว่าคำพูดประโยคนั้นมันสะท้อนค่านิยมและทัศนคติของเขาแก่คุณอย่างไรที่คุณไม่คาดคิดที่จะได้ยินจากปากเขาและมันทำให้เจ็บปวด บอกให้เขารู้เผื่อจะได้คิดและมาขอโทษคุณสำหรับประโยคไร้สำนึกนี้ แล้วค่อยคุยกันใหม่เรื่องแต่งงาน ตราบใดที่ยังไม่แต่งตราบนั้นเรายังแก้ไขปัญหาได้ง่ายและคล่องตัวกว่านะคะ รักด้วยหัวใจพร้อมสมองอย่าใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง บางทีมันต้องเกิดเหตุเพื่อให้มีโอกาสตรึกตรองถ้วนถี่ในการเลือกคู่ครองก็ถือเสียว่าไม่มีคำว่าสายสำหรับการตัดสินใจที่ถูกและผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทราหากว่าต้องเลิกรากันไป ดีกว่ามารู้เอาหลังแต่งงานแล้วยิ่งช้ำใจไปใหญ่ หาคนที่เขาเห็นคุณค่าเรามากกว่าเนื้อหนังมังสาดีกว่า ขอให้คุณจขกท.โชคดีค่ะ                                                                                                                          เย็นใส่นมข้นจืดเยอะๆ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 51 18:53:56 จากคุณ : Stila is Style - [ 5 ก.ย. 51 18:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 this webside will be tell you about your problem. www.weddingsquare.com จากคุณ : norsk - [ 5 ก.ย. 51 18:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พ่อเค้าคงไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับเมืองไทยจริงๆ อ่านประโยคนั้นก็จุกเหมือนกันค่ะ ทำไมเค้าคิดเรื่องนี้หว่า จากคุณ : ศรีธนา - [ 5 ก.ย. 51 19:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าเป็นดิฉันคงหน้าแดง สั่นไปเลย แล้วคงทบทวนดูอีกทีว่าแต่งดีไม๊ กับผู้ชายคนนี้ ในอนาคตถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจกันอีก จะพูดอะไรอีกนะ นี่แค่การเริ่มต้นนะเนี่่ย ชีวิตแต่งงาน มีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเผชิญนะคะ แต่อย่างว่าแหละนะคะ love is blind ขอให้โชคดีกับการตัดสินใจนะคะ จากคุณ : กาแฟดำ - [ 5 ก.ย. 51 19:49:56 A:90.218.155.21 X: TicketID:174080 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เลยลืมบอกเรื่องเหตุผลธรรมเนียมการให้สินสอดไปเลย ธรรมเนียมนี้มีเกือบทุกชาติในแถบเอเชีย สำหรับในเมืองไทยผู้หญิงอยู่เหย้าเฝ้าเรือน(ความหมายคือ ทำงานบ้านทุกอย่างที่มี) ในขณะที่ฝ่ายชายทำงานนอกบ้าน ดังนั้นเมื่อหญิงใดมีชายมาสู่ขอ พ่อแม่ฝ่ายหญิงต้องขอดูฐานะล่ะว่าชายหาได้เพียงพอที่จะทำให้ลูกสาวเขาไม่อดอยาก อีกอย่างเมื่อหญิงออกเรือนไปแล้วไม่มีใครอยู่เหย้าเฝ้าเรือน(ฟังดูเพราะกว่าเป็นอีแจ๋วทำงานบ้านน่ะ)แม่ฝ่ายหญิงต้องรับหน้าที่กลับมาทำลำบากเหมือนเคย หากพ่อแม่ฝ่ายหญิงมิได้คืนแก่บ่าวสาวไปทำทุนก็จะเป็นทุนจุนเจือพ่อแม่ฝ่ายหญิงเองที่ลูกสาวออกเรือนไปเป็นลูกสาวบ้านเขยเสียแล้ว ธรรมเนียมจีนยิ่งกว่าอีก แต่งแล้วนี่เมื่อก่อนอย่าหวังกลับมาเหยียบบ้านหากเลยช่วงกลับบ้านมากินข้าวกับเตี่ยกับมาหลังแต่งงานได้วันสองวันนะ เป็นที่ครหานินทาว่าชีวิตคู่คงไปไม่รอดกระมัง แต่ธรรมเนียมจีนแต้จิ๋วยุติธรรมอยู่อย่าง คือฝ่ายหญิงเรียกสินสอดฝ่ายชายเท่าไหร่ต้องหามาให้เท่าเทียมกันนัยว่าบ้านนี้ไม่ได้ขายลูกสาวกิน ก็อีกเหมือนกันเพราะแต่งออกแล้วออกไปเลยสมัยก่อนนี่เหมือนตัดขาดกับบ้านเกิดเลยนะอาม่าเล่าให้ฟัง ได้สามีดีก็ดีไป ได้ไม่ดีชีช้ำกะหล่ำดอง รันทดสุดๆ บางบ้านไม่อยากให้แต่งออกด้วยซ้ำเพราะขาดคนช่วยทำงาน ช่วยทำมาหากิน เล่าซะยาวคุณจขกท.ก็เอาไปปรับๆบอกแฟนคุณแล้วกัน ธรรมเนียมนี่มันโยงกับวัฒนธรรมและสถาพสังคมของชนชาตินั้นๆ เขาๆเราๆก็ปรับเปลี่ยนไปตามกาลและเทศาที่เหมาะสมค่ะ                                                                                          ร้อน...มั่ง(พูดยาวคอแห้ง) แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 51 20:15:26 จากคุณ : Stila is Style - [ 5 ก.ย. 51 20:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบไปเลยค่ะว่า นายก็ไม่ได้เวอร์จิ้นพอที่จะคู่ควรกับผู้หญิงไทยที่ดีแบบชั้น..Get your freaking a r s e out of my life.ให้เค้าไปแต่งงานกับสาวอเมริกันแท้ๆแล้ว screw him up ตอนหย่ากัน..จ่ายให้หัวบานไม่อยากมีเมียอีกเลย หูยยย วันนี้มาหยาบวุ้ยเรา..อ่านแล้วเกลียดมาน.. อยู่ที่ จขกท.อย่าให้ความหลงบังตาสิ่งที่เค้าว่าคุณไว้วันนี้..โลกนี้ยังมี The right Man รอคุณอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง จากคุณ : Panissar - [ 5 ก.ย. 51 20:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คำวิจารณ์ของคนอื่นเยอะ ขอโทษทีนะคะ ขี้เกียจอ่านคะ...วันนี้ถักโครเชท์ทั้งวันเลย ตามัว ๆ เอาเป็นว่า เราไม่คิดว่า เขาจะประมาณว่า ดูถูกคุณนะคะ เขาคงประมาณอารมณ์ว่า เราน่ะ อยู่กินกันแล้วนะ ไม่ใช่เพิ่งคบกัน ประมาณว่า ข้าวสารเป็นข้าวสุกไปแล้ว เขาก็แค่อยากจัดพิธีรักษาหน้าให้คุณเท่านั้น ทำไมต้องมาเรียกร้องเงินอะไรจากเขาอีก...ประมาณเนี่ยอ่ะคะ... อีกอย่างมันก็ผิดที่คุณด้วยว่า ไม่สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ ...เราคิดว่า คุณคงตกใจจนลืมคำอธิบายไป ลองกลับไปอธิบายให้เขาเข้าใจสิคะว่า ทำไมต้องให้สินสอดทองหมั้น ยังดีว่าเขาเป็นลูกครึ่ง พอพูดอะไรเสร็จแล้ว คุณก็บอกเขาเลย ถ้าคุณไม่เชื่อที่ฉันบอก ก็ลองโทร.ไปถามพ่อของคุณดูสิว่า ที่ฉันพูดเนี่ย จริงไหม? แต่กับแฟนเรานะคะ เป็นฝรั่งแท้ อธิบายไปหลายรอบแล้ว พอถามเขาว่า คุณคิดอย่างไร เขาก็ไม่กล้าตอบ เราเลยถามนำว่า คุณคิดว่า พ่อแม่คนไทยขายลูกกินใช่เปล่า เขาก็ตอบว่า ใช่ พอหลัง ๆ คุยเรื่องนี้ทีไร เขาก็โยนเรื่องไปทุกที โบ้ยไปว่า ไว้ค่อยคุยกันตอนอนาคตแล้วกัน -.- จากคุณ : วิหคลม - [ 5 ก.ย. 51 20:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พูดจาไม่รักษาน้ำใจเลย..แบบนี้ดิฉันคงไปแล้วค่ะ คนเรารักกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ไม่ควรอ้างเรื่อง vergin หรอกค่ะ..ต่อไปถ้ามีปัญหากัน..ก็คงจะขุดมาพูดไม่หยุด จขกท.ลองหยั่งดูนะคะ..ดิฉันเป็นกำลังใจให้.. จากคุณ : MJ-Together - [ 5 ก.ย. 51 20:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้าใจแฟนคุณนะเรื่องค่าสินสอด ฝรั่งส่วนใหญ่เขาไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่ที่เขาพูดเรื่องเวอร์จิ้นเนี่ยสิ ไม่เข้าใจ มาอารมณ์ไหนของเขาหว่า  ดิฉันเดานะคะ ขอย้ำว่าเดา ว่า เขาอาจจะไม่เห็นด้วยเรื่องสินสอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอคุยกันไปคุยกันมา คุณก็ยังยืนยันว่าควรจัดพิธีแบบไทยและต้องมีสินสอดด้วย ทำให้เขาอาจเกิดความหงุดหงิดเลยโพล่งประโยคนั้นออกไป อยากให้จขกท.คิดเรื่องสองเรื่องนี้แยกกันค่ะ (เรื่องคำพูดของเขาและเรื่องสินสอด)เข้าใจว่าคุณก็ต้องเสียใจกับคำพูดของเขามากๆ แต่อยากให้ลองคิดดูนิดนึง ลองมองดูดีๆว่าเขาพูดไปด้วยอารมณ์ หรือเขาพูดเพราะคิดอย่างนั้นจริงๆ คนคบกับเขามานานจนคิดเรื่องแต่งงานกันแล้ว ดิฉันแน่ใจว่าคุณรู้จักแฟนคุณดีที่สุด ถ้าคำตอบคือเขาพูดไปเพราะอารมณ์โกรธ อยากให้ลองพูดปรับความเข้าใจกันนะ บอกเขาไปว่าคำพูดนั้นมันทำให้คุณรู้สึกแย่แค่ไหน แต่ถ้าคำตอบเป็นอย่างหลังก็ต้องกลับไปคิดหนักแล้วล่ะว่าจะคบเขาต่อไปไหม ส่วนเรื่องสินสอด ดิฉันว่าถ้าคุณแม่คุณคืนเงินให้อันนี้มันก็ไม่น่ามีปัญหานะ อันนี้เขารู้หรือยัง แต่ถ้าเขารับไม่ได้จริงๆล่ะคุณจะพร้อมยอมรับเขาในจุดนี้ไหม หรือยอมไม่ได้ อันนี้คุณต้องไปคิดเองแล้วล่ะว่าจะเลือกเอาประเพณีหรือความรัก นอกจากนี้ คนในครอบครัวของคุณเขามีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างนิดนึงนะคะ กรณีของดิฉันเอง สามีก็ไม่เข้าใจเรื่องสินสอดมากๆ ประมาณว่าต่อต้านเลย ทั้งๆที่ดิฉันก็บอกไปแล้วว่าสินสอดเป็นเพียงการโชว์เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้พ่อแม่ตอนหลังก็จะได้คืน เขาก็ยังไม่เข้าใจ ก็มีทะเลาะกันก่อนแต่ง ดิฉันก็ไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง ท่านทั้งสองก็เข้าใจและไม่ได้เรียกร้องสินสอด ประกอบกับเราจัดงานกันที่เมืองนอกเลยไม่ยุ่งยากมาก ลองคุยกันดูอีกทีนะคะ เรื่องวัฒนธรรมที่แตกต่างมันเป็นปัญหาแต่ก็ใช่ว่ามันจะประณีประนอมกันไม่ได้เลย เมื่อคุณแต่งไปแล้วต้องใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเขา ปัญหาแบบนี้มันก็จะมีเข้ามาเรื่อยแหละค่ะ ต้องทำใจยอมรับไว้ด้วย อีกอย่างคุณได้ลองคิดถึงทางเลือกอื่นหรือยัง เช่น พิธีแต่งงานที่หลีกเลี่ยงการยกขันหมาก จัดแบบน่ารักๆเป็นกันเอง อาจจะเป็นพิธีริมทะเลอะไรแบบนี้ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : GlowPopJigglyJam - [ 5 ก.ย. 51 21:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีแต่ยุให้เลิกกันเนอะ sensitive กันจังเลยสาวๆแถวนี้ ใจเย็นๆก่อนครับ การคบหากันจนจะแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จะเอาคำๆเดียวที่เค้าพูดออกมาเวลาโมโหทำลายสิ่งดีๆที่เค้าทำเหรอครับ เค้าเองคงมีข้อดีบ้างไม่งั้นคุณคงไม่แต่งงานกับเค้าหรอกจริงมั้ย ลองใจเย็นๆแล้วคุยกันอีกรอบดูสิครับ ถ้าเค้าแคร์เรื่อง vergin จริงๆ เค้าคงไม่พูดเรื่องแต่งงานหรอก ในความคิดส่วนตัว เค้าคงคิดเรื่องความแฟร์น่ะครับ อย่าลืมว่าขนบธรรมเนียมเป็นถนน 2 ทาง คุณอยากให้เค้าทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย คือการให้สินสอด โดยไม่มีเหตุผลมารองรับ เค้าต้องทำเพราะมันเป็นประเพณีไทย แต่ในขณะเดียวกัน คุณเองกลับไม่ได้ทำตามธรรมเนียมไทยคือรักษาความบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงาน เพราะถ้าให้เทียบกันกับธรรมเนียมไทยจริงๆแล้ว อย่างคุณคือต้องใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้ว (ขอโทษที่พูดแรง ผมเองไม่ได้แคร์เรื่องนี้ แค่บอกความจริงของธรรมเนียมไทยให้ฟังเฉยๆ) สมัยก่อนถ้าเกิดแบบนี้ เค้าแทบยกกันให้ฟรีๆด้วยซ้ำไป คุณเองไม่ได้ทำตามประเพณี ทำไมต้องมาบังคับเค้าให้ทำด้วย ไม่มีเหตุผลเลย ลองอธิบายให้เค้าฟังใหม่มั้ย ว่าสินสอดในกรณีนี้ คือการแสดงความสามารถในการมีครอบครับให้บ้านฝ่ายหญิงโล่งใจ เงินของเค้าแม่คุณจะให้กลับมาอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัว เป็นการแสดงออกทางสังคมเฉยๆ แล้วก็บอกเค้าไปด้วยว่า การที่เค้าพูดมาแบบนี้เป็นการทำร้ายจิตใจคุณอย่างมาก กรุณาอย่าทำอีก คุยกันดีๆ คุยกันด้วยเหตุผล แล้วจะดีเองครับ จากคุณ : คนใจดำ - [ 5 ก.ย. 51 21:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "เค้าเป็นลูกครึ่ง พ่อเป็นคนไทยค่ะ" แหม อ่านจบแล้วอยากตบกะโหลกหัวทั้งพ่อทั้งลูก สงสัยไม่เป็นคนไทยกันแล้วล่ะคะ เพราะคนไทยยังไงก็เข้าใจบ้าง ไม่ใช่มาบอกแบบนี้ ดูถูกกันจังผู้ชายไทยสองคนนี้ นี่ขนาดว่าปู่ของดิฉันนะคะ แต่งงานกับยายข้างบ้าน เขายังมีสินสอดให้กันเลย ยายคนนี้ท่าทางจะล้างน้ำมาหลายรอบเหมือนกัน ไม่เห็นซีเรียส ถ้ารักกันก็เข้าใจประเพณีนิดนึงได้ป่าว แต่ดิฉันก็ไม่รู้ทั้งหมดว่าเวลาคุยกันจริงๆ คุณคุยกันแบบไหน ภาษาที่สื่อสารกันเห็นแต่ฝ่ายชายเขียนว่าให้ แต่เวลาที่คุณบอกเล่าเขาน่ะประมาณไหนล่ะคะ แนะนำให้เขาอ่านลิงค์คุณชงโค คห.21 ตอนที่ว่าด้วย Marriage นะคะ ของแบบนี้น่าจะคุยกันได้ จากคุณ : thaispicy - [ 5 ก.ย. 51 22:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลืมไป VIRGIN สะกดแบบนี้ค่ะ ผู้ชายดีดี เขาไม่ว่าผู้หญิงกันแบบนี้หรอกวุ้ย จากคุณ : thaispicy - [ 5 ก.ย. 51 22:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาอ่านซ้ำหลายๆคอมเมนท์ รุ้สึกว่าหลายๆท่านข้างบนไม่พอใจมากๆกับการที่พ่อเค้าเป็นคนไทย แล้วทำไมไม่สอน ที่จริงไม่อยากเลยที่จะเอามาเมนท์อีก แต่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรรมที่ไปแตะต้องบุพการีใคร พ่อแม่ใครใครก็รัก ถึงแม้ตัวน้องผู้ชายลูกครึ่งนั่นเค้าไม่ได้มาอ่านกระทู้นี้ก็ตาม คุณเจ้าของกระทู้ เค้าบอกแค่ว่า พ่อแฟนเป็นคนไทย แต่ในความเข้าใจของดิฉันคิดว่า บทสนทนาที่เกิดขึ้นตามที่คุณจขกทเล่า มันเกิดขึ้นระหว่างคนแค่สองคน คือคุณจขกท กับคุณแฟน  พ่อแฟนไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลยละมั้ง ณ เวลานี้   มันเหมือนขั้นตอนแรกที่คนสองคนตกลงกันเองก่อน ถ้าคุณผู้ชายเค้าไปบอกพ่อเค้า พ่อเค้าอาจจะถามมาเองก็ได้ว่า "แล้วฝ่ายหญิงเค้าเรียกสินสอดเท่าไหร่ล่ะ " ซึ่งมันก็อาจจะเป็นไปได้ คุณจขกท เขียนกระทู้นี้ดัวยความอัดอั้นตันใจ โกรธ คละเคล้ากันไป มันยังไม่ได้ไปเกี่ยวกับพ่อแฟนตรงไหน อ่านของหลายๆท่านแล้วเราสะอึกน้ะ ถ้าเป็นพ่อเราเราคง เสียจริตไปเลย สงสารพ่อเค้าอ่ะ ไม่รู้ไม่เห็น โดนด่าก่อนเลยล่วงหน้า จากคุณ : hamble pie - [ 5 ก.ย. 51 22:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ^ คิกๆ อารมณ์มันพาไปค่ะพี่แฮม แต่เราก็ไม่รู้จริงๆ เขาคุยกันอย่างไร ก็เม้นตามที่ได้อ่านน่ะค่ะ ถ้าจริงๆพ่อเขาเห็นด้วยกับสินสอดก็ขอสุมาคุณพ่อคนนั้นนะคะที่ว่าไปแบบนั้น แต่ถ้าความคิดเหมือนกับลูกก็..... ละไว้ในฐานที่เข้าใจ จากคุณ : thaispicy - [ 5 ก.ย. 51 22:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เอาน่า...ไม่รู้ถือว่าไม่ผิด ( แต่ที่ตอบว่า you r not virgin อ่ะแอบเคืองนะขอบอก) เอาวีธีนี้ไปลองใช้ เพราะหม่ามี๊เอ๋ยจังเอาไปบอกกะว่าที่ป่าป๊าเอ๋ยจังแล้วเค้าเข้าใจ (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ อันนี้ความเชื่อส่วนบุคคล) ก่อนอื่นเลยก็ถามเค้าไปว่า ยูรู้ไหม๊ว่าแม่ของไอตั้งท้องไอมากี่เดือน เค้าก็ตอบมาว่า 9 เดือน อ่ะถูกต้อง แล้วทีนี้ก็ถามเค้าไปอีกว่ายูรู้ไหม๊ว่าผู้หญิงท้องแกเนี่ยบางคนเดินเหินไม่สะดวกทำงานไม่ได้ เค้าก็ตอบรู้ อ่ะเข้าทางละ ทีนี้ก็ถามคำสุดท้ายเลย แล้วสวัสดิการที่บ้านยูเวลาทำงานไม่ได้มีเงินชดชยให้ป่ะ ทดแทนค่าจ้าง แรงงานอะไรเงี๊ยะ ซึ่งแน่นอนเค้าตอบว่ามี เพราะเค้ามีประกันสังคม บอกกันไปเลยค่ะว่า ไอจะอธิบายให้ยูฟังง่ายๆนะ แม่ไออุ้มท้องไอมา ช่วงระหว่างที่ไออยู่ในท้องจนเกิดเนี่ยแม่ไอไม่สามารถทำงานได้ แต่ชีก็พยายามที่จะบำรุงร่างกาย จนไอออกมาน่ารักน่าหยิก จนยูทนไม่ไหวต้องมาขอไอเป็นแฟน (อันนี้แฟนเราอาจจะมีแอบไปอ้วกเล็กน้อย ให้อภัย รีบกลับมาฟังต่อ) ไอจบมาจนทำงานแล้ว ยังไม่สามารถจ่ายเงินทดแทนตรงนี้ให้แม่ไอได้เลย ทีนี้ยูบอกไอใช่ไหม๊ว่าจะรัก จะดูแลรับผิดชอบชีวิตไอ เค้าก็ตอบกลับมาว่า ใช่สิ(แอบกลับไปยิ้ม เข้าทางแล้ว) ตอนนี้ไอติดหนี้ที่เธออุ้มท้องไอมา ไอยังไม่สามารถทำงานชดเชยให้ชีได้หมดเลย เพราะว่าคุณค่ามหาศาลเลยนะ 9เดือนเนี่ยยูคิดดูแล้วกันว่าถ้าแม่ไม่อุ้มท้องไอมา ชีคง Make a lot of money ทีนี้ยูก็ลองคิดดูเอาแล้วกันว่ายูควรจะชดเชยให้ชีเท่าไหร่ ก่อนที่ยูจะมาเอาไอไปใช้งานต่อตามแต่ประเภทงานหนักเบายูจะคิด ( อันนี้แอบทำให้แฟนเกิดอาการอยากได้เรา) จริงๆแล้วอ่ะ ผู้หญิงไทยเนี่ยต้องอยู่เลี้ยงพ่อแม่ไปจนตายเลยนะ(แอบหลอกเค้า) แต่ยูจะพรากไอไปจากแม่ไอเนี่ย จะให้ไอทำยังไง ไอก็เลยพยายามจะอธิบายให้ยูเข้าใจ ( มันไม่เกี่ยวกะ Virgin นะเฟ้ย...ขอบอก) ทีนี้ it's depend on you. How much you wanna gave her to catch me away from her honey. แอบหยอดท้ายไปว่า it's not becoz of money นะที่รัก แต่ it's depend on how much you love me. เท่านี้จบ ไม่ต้องอธิบายต่อ เดี๋ยวเค้าจะกลับไปนอนคิดนั่งคิด สุดท้ายตัดสินใจได้แล้วจะมาถามเราเองว่าเท่าไหร่ดี ถ้าแม่คืนให้หมด ก็อย่าลืมแอบยกความดีให้แม่ว่า You know! My mom love you so much na. เพราะชีคืนเงินที่ไอต้องเลี้ยงดูเธอคืนตอนแก่ให้ไอกะยูไปสร้างครอบครัว welcome to be our family honey เท่านี้จบ Happy Endingนะคะ ขอให้โชคดีคุยกันรู้เรื่องค่ะ จากคุณ : หม่ามี๊เอ๋ยจัง (ramenjung) - [ 6 ก.ย. 51 00:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Dowry represents the groom's respect and thankful gratitude toward the bride's family.  You didn't ask how much money he should give. It has nothing to do with virginity, but simple gratitude of a man.  It's a kind test to see how a man respects and honors his woman. จากคุณ : โอ..ลาล้า - [ 6 ก.ย. 51 01:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อยากจะบอกคุณตามตรงว่าถ้าเราเจอคำพูดแบบนี้ "You are not VERGIN!!! Why i have to give your mom money?" เราเลิกแน่ๆพูดจาได้สุดยอดมากๆ ไม่ให้เกียจกันเลย กล้าพูดแบบนี้มาได้กับผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานด้วย บ้าแล้วหรอ! พูดแบบไม่คิดถึงตัวเองเลย ทำหยั่งกะตัวเอง      ซิงสุดๆๆไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อน ผู้ชายแบบนี้ค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง ทำอะไรยึดความคิดตัวเองเป็นหลักและใจร้อน เราเคยเจอผู้ชายแบบนี้มาแล้วเค้าก็เป็นคนไทยมาอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆเลยคะ นิสัยเป็นคนเอาแต่ใจ (อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว) ไม่พอใจอะไรพูดแรงๆพูดแบบมะนาวไม่มีน้ำ ไม่คิดถึงใจคนฟังเลย ตอนหลังเราเบื่อไม่ไหวแล้วถอยเลย (ขนาดแค่ดูๆกันอยู่นะ ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน) เพราะเราคิดว่าขืนแต่งไปกับผู้ชายแบบนี้ เราต้องยอมเป็นเบี้ยล่าง ทำอะไรผิดก็โดนด่า แรกๆก็คงไม่มีอะไร แต่หลังๆ เผลอๆอาจจะโดนหมัดก็ได้คะ   ผู้ชายถ้ารักเราจริงๆ เค้าก็น่าจะเข้าหาเรา ยอมรับและเรียนรู้ประเพณีเราบ้าง ไม่ใช่เอะอะจะให้เข้าหาและเรียนรู้แค่ฝ่ายเค้าเท่านั้น มันเห็นแก่ตัวเกินไป ผู้ชายที่รักเราจริงเค้าต้องเห็นค่าเราและต้องยอมรับในตัวเราได้ไม่ว่าเรื่องราวอดีตของเราจะเป็นยังไงก็ตาม ไม่งั้นแต่งไปทีทะเลาะกันที คงยกเรื่องราวเก่าๆมาพูดจนเหม็นหน้ากันไปเลยคะ คนจิตใจคับแคบและคิดถึงแต่ตัวเป็นคนไม่น่าคบคะ จากคุณ : ......................... (Pinky_th) - [ 6 ก.ย. 51 10:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ จขกท พลาดไปตรงที่ "เค้าอยากได้เหตุผล เราก็พยายามอธิบายว่า มันไม่มีเหตุผล" แฟนคุณคงคิดว่า ไม่มีเหตุผล งั้นก็ไม่ให้ ซึ่งความจริงมันก็แฟร์ไม่ใช่หรือ? ถ้าตอนนั้นคุณตอบไปทำนองว่า ฉันนึกคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงๆยังไม่ออก ขอเวลาไปหาหนังสือหรือลิงก์เว็บไซต์มาให้คุณอ่านดีกว่า อาจจะเข้าใจได้ตรงตัวกว่า อะไรทำนองนั้น เขาอาจรับฟังมากกว่านี้ ส่วนตรงที่แฟนคุณพูดว่า ""You are not VIRGIN!!! Why i have to give your mom money?" อันนี้ขอไม่ออกความเห็นแทนว่าตัวคุณควรรู้สึกกับประโยคนี้อย่างไร เพราะความคิดของเเต่ละคนไม่เหมือนกันและทุกคนมีอิสระที่จะคิด แต่ถ้าผู้ชายที่เราคบอยู่มาพูดอย่างนี้กับเรา เราคงทำใจคบต่อไม่ไหว เพราะความเห็นของเราคือผู้ชายคนนี้ดูถูกเรา ขนาดเป็นแฟนอยู่ดีกรีความสวีทยังสูงอยู่ยังพูดได้ขนาดนี้ หลังแต่งงานแล้วทุกคู่แหละไอ้ความสวีทอะไรนี่มันก็จะลดน้อยถอยลงตามกฏโมเมนตั้ม วันนั้นขึ้นมาคงจะไม่ให้เกียรติเราหนักไปกว่าเดิมอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชีวิตนี้เป็นของคุณค่ะ ไม่ใช่ของครอบครัวคุณ ไม่ใช่ของแฟนคุณ สถานการณ์ที่เข้ามาทุกเรื่อง อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินแก้ไข ค่อยๆคิด ค่อยๆไตร่ตรอง พยายามมองทุกอย่างรอบๆตัวแล้วเอามาประกอบการพิจารณาเพื่อการตัดสินใจ อย่ามองซ้ายอย่างเดียวหรือขวาอย่างเดียว ตั้งหลักตรงกลาง ยืนตัวตรงหลังตรง มองรอบๆตัวอย่างระวัง มั่นใจแล้วค่อยก้าวเท้าออกไปอย่างมั่นคง เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 6 ก.ย. 51 10:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้ว จุก อ่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : Gigolina - [ 6 ก.ย. 51 19:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านคห 39 กับ 40 แล้ว  ขออนุญาตก๊อปเลยนะคะ  เผื่อจะได้ใช้เร็วๆ นี้  ^^ จากคุณ : Gigolina - [ 6 ก.ย. 51 22:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นเรา คงจะเลิกกันเพราะไอ้คำ ๆ นี้ โชคดีที่ยังเก็บไว้ ผู้หญิงเราไว้ใจผู้ชายไม่ได้จริง ๆ จากคุณ : chan-rak-thong-fa - [ 8 ก.ย. 51 11:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อีกอย่างนะคะ เราว่าผู้ชายคนนี้คิดเอาแค่คำว่าง่ายเข้าว่า เพราะถ้าจะว่ากันจริง ๆ ถ้าพยายามจริง ๆ จะให้คุณไปแต่งที่โน่นยังได้ ถ้าเค้าจะทำน่ะนะ แต่นี่ก็ไม่อยากยุ่งยาก เอาง่ายเข้าว่าอะ แล้วชีวิตคู่มันจะง่ายไปตลอดไหม ถ้าเจอเรื่องยาก เค้าจะฝ่าฟันไหม หรือว่าจะถอดใจ จากคุณ : chan-rak-thong-fa - [ 8 ก.ย. 51 11:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณจริง ๆ สำหรับทุกความคิดเห็นนะค่ะ ให้คำแนะนำทั้งทางซ้าย ทางขวา แล้วก็ตรงกลาง มาดูกันดีกว่าว่าดิฉันแก้ปัญหาอย่างไร ยอมรับค่ะ นับจากที่คุยกันคราวก่อน  ไม่ได้พูดกันอีกเลย แต่ส่งข้อความเอาค่ะ  เป็นครั้งแรกที่พิมพ์ข้อความยาวขนาดนั้น ไม่อยากได้ยินเสียงเค้าค่ะ คิดว่าถ้าได้ยินแล้วอารมณ์มันจะพุ่ง อธิบายไปว่ามันเป็นธรรมเนียมเหมือนเวลาที่คนอินเดียแต่งงาน ผู้หญิงต้องให้สินสอด โดยไม่แคร์ว่าฝ่ายชายจะจิ้นไม่จิ้น เค้าก็ตอบกลับมาว่าธรรมเนียมแอฟริกา ฝ่ายชายจะให้สินสอดกับแม่ฝ่ายหญิงหลังผ่านคืนแรกและหญิงจิ้น (อ่านยังไม่ทันจบ เริ่มมีอารมณ์อีกที) มันเหมือนขายลูกกิน อ่านข้อความแรกจบ อารมณ์พุ่งอย่างแรง  ตอบกลับด้วยความแค้นใจ ถามเค้าว่า ผู้หญิงอเมริกัน 100 คน จิ้นกี่คน ฮีบอกไม่มีเลย (แอบสะใจ) แล้วแฟนยูคนแรกอะ (เค้าเล่าให้ฟังว่าคบกันตอน 14) จิ้นป่าว เค้าบอกว่า ไม่ (กรูรู้นานแล้ว ถามให้มรึงสำนึก) เราก็บอกว่า งั้นยูก็ไม่ได้แคร์ว่าเค้าจะจิ้นไม่จิ้นใช่ไหม ฮีบอก ช่ายยย (แล้วมันมาว่ากรูทำไมวะ) ถามต่อ พ่อยูเป็นคนไทย อาจจะห่างหายจากความเป็นไทยไปพอสมควร แต่ไออธิบายยูแล้วยูไม่เข้าใจ พ่อยูจะเป็นคนอธิบายได้ดีที่สุด เพราะเค้าเป็นคนไทย และเป็นผู้ชายเหมือนยู ไออยากให้ยูไปลองถามเค้าดู  ส่วนเรื่องของเรา ไอขอ Take a break (เหมือนทาทา ยัง) ก่อน เพราะตอนนี้ยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่ยูว่าไอ หลังจากนี้ ไอจะพยายามคิดระหว่างความดีทั้งหมดที่ยูทำให้ไอ กับสิ่งที่ยูทำร้ายจิตใจไอว่าอันไหนไอยอมรับได้ ฉะนั้น ตอนนี้ไม่ได้เลิกกันเลยนะค่ะ  แค่ขอห่างกันหน่อย ขอทำใจกับสิ่งที่ได้ผ่านเข้ามา เค้าเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดเท่าที่คบมาค่ะ  แต่เราคงไม่ให้ความรักมาบังตากับคำพูดที่ได้ยินมา  ยังรักเค้าค่ะ  แต่รักตัวเองมากกว่า แล้วก็รักศักดิ์ศรีของเรามากกว่าด้วย ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกคำแนะนำค่ะ จากคุณ : SangLar - [ 8 ก.ย. 51 17:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นกำลังใจให้คุณแสงหล้านะคะ จากคุณ : thaispicy - [ 9 ก.ย. 51 00:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราก็กำลังเจอปัญหานี้ค่ะ แฟนเป็นต่างชาติเข้าใจว่าต้องมีสินสอด งานแต่งงานค่าใช้จ่ายเขาจะเป็นคนออกทั้งหมด ตอนนี้เขามีเงินเก็บเท่าไหร่ เขาก็บอกเรา พอเราบอกต้องมีสินสอดตามธรรมเนียม เพราะเราดูแลพ่อแม่ แต่ต่อไปร้องไปดูแลเขา เงินนี้ก็เหมือนให้ไว้เหมือนเอาไว้แทนเงินที่เราหาให้พ่อแม่ (เพราะเราคิดว่าเงินนี้เราอยากให้พ่อแม่จริง คงไม่ได้คืนให้เขา) เขาก็รับได้ แต่เขาถามว่าเท่าไหร่ เราก็บอกว่าขึ้นกะว่าคุณเห็นคนค่าฉันเท่าไหร่ เขาก็ย้อนกลับมาว่าในสถานะการเงินของเราเท่านี้คุณว่าควรแบ่งไปเท่าไหร่ หรือ ตอนพ่อแม่แต่งงาน พ่อคุณให้ตายายเท่าไหร่ (ฉลาดถามจริงๆ) แต่ปัญหาคือพ่อแม่เราต่างหากที่อ้างว่าแต่งงานลูกสาวทั้งที่น่าจะแบบนี้ๆๆ ซึ่งเราอยากจัดแค่ญาติเพราะเราไม่ต้องการให้ใครเหนื่อย ส่วนเรื่อง vergin นี่ไม่ต้องห่วงค่ะ เราไม่เคยผ่านใครมา แต่เขาก็ไม่ได้แคร์เรื่องนี้ตามประสาฝรั่ง ยังวิตกมากกว่าด้วย (วัฒนธรรมมันต่างกันจริงๆ) บางทีเราก็เข้าใจพ่อแม่นะ เป็นเพราะสังคมบ้านเราเป็นแบบนี้ มันก็ว่าใครไม่ได้จริง ๆ แต่ชอบความเห็นของคุณแสงหล้า ล่าสุดค่ะ รู้สึกชื่นชม ผู้ชายจะเกรงใจผู้หญิงเอาจริงแบบนี้หล่ะค่ะ จากคุณ : jj - [ วันเกิด PANTIP.COM 16:51:02 A:202.12.118.61 X: TicketID:177306 ]