Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน (ภาคบ่ายของ) วันหนึ่งในชีวิตของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี

    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน (ภาคบ่ายของ) วันหนึ่งในชีวิตของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี
    Episode XII: (One afternoon in) A day in life of an office lady in London

    เวลาไปกินข้าวรึดื่มกาแฟแถวๆสยามหรือทองหล่อ คุณนักอ่านคอลัมน์อาจจะเคยเจอกลุ่มเด็กอินเตอร์สำเนียงฝรั่งดั้งไทยอยู่บ่อยๆ ถึงจะไม่พูดออกมาแต่คุณอู๋เชื่อว่าลึกๆในใจใครหลายคนคงเคยคิดว่า “แหม เด็กพวกนี้เกิดมาโชคดีจัง ออกเสียงภาษาปะกิตฟุตฟิตฟอไฟยังกะเจ้าของภาษาแน่ะ อยากพูดได้แบบนั้นบ้างจัง” หลังจากที่คุณอู๋ถามคนรู้จักหลายคนก็สรุปความได้ว่ามีทางเลือกอยู่สามทางที่อาจทำให้ฝันนั้นเป็นจริง หนึ่งคือหาแฟนฝรั่ง (แต่อันนี้ก็ขึ้นกับหน้าตาและบุญทำกรรมแต่งด้วย คิดไปคิดมาอาจจะยากทีเดียว) สองเรียนต่อต่างประเทศ (แต่ถ้าไปแล้วใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคนไทยก็อาจจะยากอยู่) และสามทำงานออฟฟิสเมืองนอก ประชามติออกมาว่าออปชั่นหลังเนี่ยน่าจะได้ผลมากที่สุดทำงานไม่ถึงปีรับรองว่าภาษาไปถึงระดับเซียนไม่พอยังจะได้สำเนียงผู้ดีจ๋าติดมาด้วยชัวร์ป้าป ลองอ่านฉบับนี้ดูแล้วค่อยตัดสินใจดีมั้ยคะว่าประชามติเนี่ยถูกรึเปล่า

    ความเดิมตอนที่แล้ว ครึ่งวันแรกของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีของคุณอู๋ผ่านไป ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยก็ถึงเวลาทานอาหารกลางวันซะแล้ว ครึ่งวันหลังจะมีอะไรรออยู่อ่านกันเลยค่ะ...
    1:30 PM (เวลากลับเข้างานหลังข้าวกลางวันของชาวออฟฟิสเมืองผู้ดี): คุณอู๋วิ่งแจ้นจากโรงอาหารในออฟฟิสข้างแม่น้ำเทมส์ไปยังโต๊ะทำงานเพราะเกือบลืมไปว่ามีเทเลคอนเฟอร์เรนส์งานเสริม อ๊ะ อย่าเพิ่งงงค่ะ คุณอู๋ไม่ได้มีรายด้งรายได้พิเศษอะไรหรอก แต่ที่ออฟฟิสที่คุณอู๋ทำเนี่ยวันๆนึงนอกจากจะมีงานหลักให้ทำหัวปักหัวปำแล้วยังมีงานเสริมที่แต่ละคนต้องทำด้วย (เรียกกันว่า non-chargeable work) ตัวคุณอู๋เองจับพลัดจับผลูได้เป็นทีมลีดส์ของ Campus Recruiting มหาลัยในลอนดอนแห่งหนึ่ง ปีนึงต้องวางแผนงานแคมเปนส์และดูแลทีมงานทั้งทางยุทธศาสตร์ งบประมาณ มาร์เก็ตติ้ง ต่างๆนานา ฟังดูเหมือนจะสนุก แต่จริงๆแล้วเนี่ย...นรกลงทัณฑ์ค่ะ! แค่งานหลักที่ต้องส่งลูกค้าก็มีเจ้านายอย่างคุณมาร์คจิกยิกๆจนปวดหัวอยู่แล้ว เฮ้อ กรรมจริงๆหนอ
    2:30 PM: พอเสร็จเทเลคอนเฟอร์เรนส์ได้ไม่นานคุณอู๋ก็ตะลีตะเหลือกไปห้องประชุมอีกชั้นนึง คราวนี้คุณอู๋มีประชุมงานหลักกับเจ้านายแขกอัลไซเมอร์คนนึง เค้าอยากรู้ผลการตรวจสอบบัญชีคอมพิวเตอร์ของบริษัทมือถือชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองผู้ดี
    “Are we doing okay against the deadline?” คุณเจ้านายแขกหุ่นสุลต่านสำเนียงอินตะระเดียจ๋าถาม คุณอู๋ไม่ได้ตอบแค่พยักหน้ากลับ “In that case, there is one thing I want you to look at...blah blah blah”
    “No problem.” คุณอู๋ตอบพลางก้มหน้าก้มตาจดสิ่งที่ต้องทำยิกๆ
    “And for that report, can you also…” พี่แขกรัวราวกับร่ายมนต์ดำให้งูเห่าแผ่แม่เบี้ยออกมาจากไหงั้นแหละ
    “Sure.” คุณอู๋เถียงไม่ทันเลยตอบไปงั้นแต่ในใจคิดว่า อะไรฟะ ไหนบอกว่ามีอย่างเดียวที่จะสั่งไง
    “For the chart, can you…blah blah blah” คุณพี่แขกลืมไปเลยว่าบอกคุณอู๋ไปว่ามีแค่อย่างเดียวให้คุณอู๋ทำ
    “Fine, is there anything ELSE?” คุณอู๋หมดความอดทนกระแทกเสียงตรงพยางสุดท้ายให้คุณเจ้านายแขกรู้ตัวซะมั่ง
    “No. That’s it, really.” คุณเจ้านายแขกตอบ ทำเอาคุณอู๋ยิ้มร่าพลางคิดในใจว่าสงสัยกระแทกเสียงได้ผลแฮะ แต่แล้ว... “Oh, I forgot about next week meeting, if you could…blah blah blah.”
    พระเจ้าช่วย นี่แหละค่ะประสบการ์ณกับคุณเจ้านายแขกอัลไซเมอร์ ประจำเลยที่ชอบบอกว่ามีแค่ไม่กี่อย่างที่อยากให้ทำ พอเอาเข้าจริงๆมีเป็นร้อย ประชุมกับคุณเจ้านายแขกทีไรคุณอู๋ได้อารมณ์ตูล่ะเบื่ออยู่เรื่อยเลย ไม่รู้คุณนักอ่านเคยมีประสบการณ์แบบนี้รึเปล่า
    3:30 PM (เวลาพักเบรคน้ำชาตอนบ่ายของสาวออฟฟิสหลายสังกัด): คุณอู๋เหลือบดูนาฬิกา อ๊ะ ถึงเวลาพักดื่มน้ำชาตอนบ่ายแล้ว ที่ออฟฟิสคุณอู๋เนี่ยเค้าชอบไปดื่มชากาแฟกันที่ คาเฟ่ ม๊อคคา ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของสภากาแฟหลายสังกัด ร้านนี่มีคนตลอดค่ะไม่ว่าเวลางานหรือเวลาพัก ส่วนใหญ่ไปเพื่อประชุมและดื่มกาแฟไปด้วย เรียกกันว่า “Meeting over coffee” แต่พูดก็พูดเถอะค่ะ ไม่มีใครรู้หรอกว่าที่มานั่งจับกลุ่มกันเนี่ยมานั่งประชุมงานจริงรึว่ามานั่งเมาท์นินทาเจ้านายกันแน่ ถ้ากลุ่มไหนคุยกันเจี๊ยวจ๊าวน้ำลายแตกฟองเนี่ย สงสัยไว้ก่อนเลยว่าน่าจะเป็นอย่างหลังซะมากกว่า คุณนักอ่านหลายคนอาจจะกำลังคิดว่าคุณอู๋เราก็คงไม่น้อยหน้าโทรสั่งเด็กๆในสังกัดเจ๊อู๋ทั้งหลายให้ไปทำไฮโซกันที่คาเฟ่ม๊อคค่าแล้วเมาท์วงแตก ทว่าเรื่องจริงก็คือไอ้ที่เมาวท์วงแตกน่ะจริงค่ะแต่ไอ้ที่จะไปทำไฮโซกันที่ร้านเนี่ยนานทีปีหนจริงจริ้ง ก็แหม ดื่มชาทีก็ห้าสิบเพนซ์ กาแฟทีก็ปอนด์กว่า งกๆอย่างคุณอู๋จ่ายไม่ลงค่ะ คุณอู๋สั่งเด็กๆให้ไปเอาถุงชาฟรีจากห้องประชุมแล้วไปนั่งดื่มกันที่เบรคเอ้าท์แอเรียตะหาก ถึงจะไม่ไฮโซเหมือนสังกัดอื่นเค้าแต่ว่าแต่ละคนในสังกัดเจ๊อู๋ก็ประหยัดเงินไปได้ปีละหลายสิบปอนด์เลยนะค้ะ
    4:30 PM: หลังจากเคลียร์อีเมลอีกรอบและรับโทรศัพท์จากลูกค้าจ้าล่ะหวั่นคุณอู๋ก็ต้องไปประชุมอีกรอบกับทีมงานอีกโปรเจคหนึ่ง แต่โชคดีที่ทีมงานนี้เป็นกันเองและเฮฮา หลังจากคุยเรื่องงานกันได้เกือบชั่วโมงก็ถึงเวลาคุยเรื่องชาวบ้าน
    “Do you know Mr. K is going to New York next week?” เพื่อนร่วมงานคนแรกจุดประเด็น
    “Gosh! He’s just bragging about his trip to Australia. How come he is always the lucky one? (แปลว่า พระเจ้าช่วยมันเพิ่งโม้ว่าไปออสเตรเลียมาเอง ไหงโชคดีอย่างงนี้เนี๊ยะ)” สาวออฟฟิสอีกคนช่วยโหมโรง
    “Well, you know he always suck up to the boss (แปลว่า แหมเธอก็รู้ว่าอีตานั่นน่ะชอบประจบเจ้านายเสียนี่กระไร)” เพื่อนสาวออฟฟิสคนที่สามออกความเห็น
    “Are you sure? He seems like a nice guy.” คุณอู๋พูด ชักอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ถึงแม้เวลาประชุมเรื่องงานคุณอู๋จะอมพนำแต่เรื่องชาวบ้านเนี่ยขอแจมนิดนึงแถมถามต่อไปว่า “How come he never “sucks me up”?”

    เงียบสนิท...ไม่มีเสียงตอบจากใคร คุณอู๋มองกราดไปทั่วห้องประชุมและเกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตก เพื่อนร่วมงานทุกคนหันขวับมาทางคุณอู๋พร้อมกันทันทีและกรามตกลงมาจนจะลากตาตุ่มเหมือนในการ์ตูนยังไงยังงั้นแหละ คุณอู๋คิด เอ๋ เดี๊ยนพูดอะไรออกไปเนี่ยถึงฆ่าบทสนทนาให้ตายได้ขนาดนี้
    “Nissy! That sounds naughty!” เพื่อนร่วมงานสาวที่ค่อนข้างสนิทกับคุณอู๋กระซิบบอก“You should have said “How come he never sucks up to me?” not “suck me up”. The latter sounds like you’re talking about S-E-X stuff!!!”ถึงตอนนี้คุณอู๋ถึงบางอ้อค่ะ ไอ้คำว่า “Suck up” เนี่ยแปลว่าประจบเจ้านายก็จริงแต่ถ้าลืมคำว่า “to” ในประโยคแล้วล่ะก็ มันแปลคนละเรื่องเลย ที่คุณอู๋ถามไปเมื่อตะกี้น่ะฝรั่งเมืองผู้ดีเค้าคิดว่าคุณอู๋ถามว่าทำไมอีตาเคถึงไม่ได้ดูดดื่มร่างกายคุณอู๋(บนเตียง)บ้างน้า ซวยเลย ป่านนี้เจ้านายคงคิดว่าที่คุณอู๋ส่งงานช้าเนี่ยคงเพราะวันๆนึงมัวแต่คิดแต่เรื่องบนเตียงแน่ๆ ปัดโธ่ ทำงานมาจะสามปีแล้วทำไมไม่ได้พัฒนาภาษาถึงขั้นเซียนเหมือนที่เพื่อนๆเคยลงมติกันไว้น้า
    5:00 PM (เวลาเลิกงานปกติของหนุ่มสาวออฟฟิสเมืองผู้ดี): คุณอู๋เหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง คุณพระช่วย ห้าโมงแล้ว เพื่อนร่วมงานหลายคนเริ่มเก็บข้าวเก็บของกลับบ้าน แต่ตัวคุณอู๋เองมองลิสต์สิ่งที่ต้องทำที่สั่งจากคุณเจ้านายมาร์คและคุณเจ้านายแขกแล้วก็ถอนใจ วันๆมีแต่ประชุมแทบไม่มีเวลาทำงาน สงสัยวันทำงานของคุณอู๋ท่าทางจะไม่จบที่ห้าโมงแน่ๆ

    เห็นมั้ยคะว่าภาคบ่ายผ่านไปยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยจริงๆ ฉบับหน้ามาติดตามกันต่อนะคะว่าชีวิตภาคค่ำของสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีเป็นยังไงบ้าง จะเร่งพิมพ์ให้เร็วเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยค่ะ
    คุณอู๋







    ถามคุณอู๋ (Ask Nissy)
    Q: จากที่เคยใช้ชีวิตอยู่มาทั้งเมกากับอังกฤษคุณอู๋ชอบประเทศไหนมากกว่ากันแล้วแต่ละประเทศแตกต่างกันยังงัยคะ (กบในกะลา)
    A: ตอนคุณอู๋เรียนที่เมืองลุงแซมไปอยู่เมืองเล็กๆในมลรัฐเท๊กซัส จะว่าไปก็ค่อนข้างชนบท การคมนาคมไม่สะดวกเลยค่ะ เวลาจะไปซื้อของทีเนี่ยรอรถเมล์เป็นชั่วโมง อากาศก็ร้อนตับแลบช่วงหน้าร้อน แต่คนเมืองคาวบอยเนี่ยป็นมิตรซะส่วนใหญ่ ส่วนที่เมืองผู้ดีน่ะคุณอู๋มาอยู่ลอนดอนซึ่งเป็นเมืองหลวง บ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามากๆไปไหนมาไหนสะดวกแต่ค่าใช้จ่ายแพงหูฉี่เลยค่ะ คนก็ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่แถมฝนฟ้านี่ตกกันได้วันเว้นวันเลย เพราะงั้นตอบไม่ถูกค่ะว่าชอบที่ไหนมากกว่ากัน แต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียทั้งนั้น(แต่ทั้งสองที่มีข้อเสียอย่างเดียวกันคือไม่ว่าที่ไหนก็ไม่มีหนุ่มที่หลงเสน่หาเทรนสาวหน้าบานอารมณ์ดีอย่างคุณอู๋เลยค้ะ)
    ป.ล.ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์มีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ ns_nissy@yahoo.com จะนำมาตอบเรื่อยๆค่ะ

    จากคุณ : คุณอู๋ - [ 7 ก.ย. 51 05:38:05 A:81.155.128.156 X: TicketID:184548 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom