 |
สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน ทำตัวอย่างไรให้โสดสนิท (ตลอดกาล) ในเมืองผู้ดี ตอนสอง
สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน ทำตัวอย่างไรให้โสดสนิท (ตลอดกาล) ในเมืองผู้ดี ตอนสอง Episode XV: How to live your life single (&forever) in London (Part II)
ขนุนเป็นผลไม้อย่างนึงที่คุณอู๋ชอบกินค่ะ ในความคิดของคุณอู๋ขนุนทั้งหวานทั้งหอม แล้วหวานแบบพอดีอีกตะหาก แต่เคยคิดมั้ยคะว่าขนุนน่ะเป็นผลไม้ที่น่าสงสารอยู่เหมือนกัน ไม่นานมานี้คุณอู๋คุยกับเพื่อนร่วมงานเรื่องผลไม้เมืองร้อนกัน คุยเรื่องลิ้นจี่ เรื่องทุเรียน แล้วก็เลยไปถึงเรื่องขนุนด้วย แต่พอพูดถึงขนุน ชาวเมืองผู้ดีทั้งหลายก็หน้านิ่วคิ้วขมวดกันใหญ่เพราะไม่เคยกิน คุณอู๋ก็เลยหารูปขนุนให้ดู พอโชว์รูปขนุนแกะแล้วสีเหลืองอร่าม เพื่อนๆก็ฮือฮา เอ่ยปากว่าน่ากินจังเลย แต่แล้วพอคุณอู๋โชว์รูปที่สองซึ่งเป็นผลขนุนสีเขียวบูดๆเบี้ยวๆลูกโตบะเล่งเท้งเพื่อนๆถึงกับฮาแตก คนนึงถึงกับพูดว่า Jesus, Ive never seen any fruit looks this hideous before! (แปลว่า พระเจ้าช่วย ชั้นไม่เคยเห็นผลไม้อะไรที่อัปลักษณ์ขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย) คุณอู๋ฟังตอนแรกก็ขำค่ะแต่พอคิดอีกทีก็รู้สึกสงสารขนุนขึ้นจับใจ ขนุนเหมือนคนที่จิตใจงดงามแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่เอื้ออำนวยเท่านั้นเอง บางครั้งคุณอู๋คิดอยู่เหมือนกันว่า เอ...เป็นเพราะตัวเองเหมือนขนุนรึเปล่าน้าถึงขายไม่ออกซักที ถ้าเป็นแบบเชอร์รี่ป่านนี้อาจจะขายออกไปแล้ว คุณนักอ่านคอลัมน์ล่ะคะคิดว่าตัวเองเป็นขนุนรึเชอร์รี่กันเอ่ย
ฉบับก่อนคุณอู๋ได้เกริ่นกลเม็ดการครองตัวเป็นโสดในออฟฟิสเมืองผู้ดีไปแล้วสองข้อ ฉบับนี้มาอ่านเคล็ดลับอื่นๆกันต่อดีกว่านะคะ
กินอย่างงก หม่ำจ๊กมกเรียกพี่ ราตรีอยู่คนเดียว ฉายเดี่ยวไปทุกที่ ของฟรีลัลลัลล้า เจ้าป้าในออฟฟิส คุณอู๋สอนน้อง (ให้โสด)
1. ราตรีอยู่คนเดียว: ครั้งนึงมีเพื่อนร่วมงานสาวชาวอินตะระเดียถามคุณอู๋ว่าส่วนใหญ่แล้ววันๆนึงหลังเลิกงานคุณอู๋ทำอะไรบ้าง คุณอู๋ก็บอกไปตามตรงค่ะว่า หลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวันสิ่งที่สาวออฟฟิสเมืองผู้ดีอย่างคุณอู๋ทำก็คือตรงรี่กลับบ้าน ไม่ได้รีบกลับมาเพื่อจะมาเจอหวานใจที่รออยู่ที่บ้านหรอกนะคะ (เพราะไม่มีใครรออยู่ แม้กระทั่งหมารึแมว) แต่รีบกลับมาเพื่อจะได้รีบกลับมาทำกับข้าวมื้อเย็นและเผื่อมื้อกลางวันของวันถัดไปต่างหาก จากนั้นก็กุลีกุจอรีบอาบน้ำเพื่อจะได้มานอนแผ่ตีพุงดูซีรี่ย์อย่าง Ugly Betty รึ Greys Anatomy รึไม่ก็หนังญี่ปุ่นในอินเตอร์เน็ตขณะเดียวกับที่เล่นเฟสบุ๊คดูเรื่องราวของคนอื่นไปด้วย (ก็คุณอู๋น่ะชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้านไปทั่วน่ะสิคะ) บางคืนก็ดีหน่อยได้มีโอกาสเสวนากับมนุษย์ด้วยการคุยโทรศัพท์เมาท์กับเพื่อนสนิทก่อนนอน พอเล่าจบเพื่อนสาวชาวอินตะระเดียถึงกับอ้าปากหวอ (จนแมลงวันเกือบจะเข้าปากอยู่แล้ว) ก่อนที่จะพูดกับคุณอู๋ด้วยประโยคเริ่มต้นเหมือนเจ้านายแขกอัลไซเมอร์ว่า Nissy, I know why youre still single. Dont you know that rule no.1 (for single who doesnt want to be single) is
you need to be exposed to human at night! เอาอีกแล้วค่ะ คุณอู๋ได้รับการเล็กเชอร์จากชาวอินตะระเดียเรื่องหนทางหลุดพ้นวิบากโสด เอ...ชักสงสัยมาตะหงิดๆแล้วสิว่าตำราสละโสดจากอินเดียเนี่ยจะเชื่อถือได้เหมือนตำรากามาสุตราที่โด่งดังไปทั่วโลกมั้ยน้อ จากนั้นคุณสาวแขกก็บอกต่อว่าก่อนที่เธอจะสละคานของเธอได้นั้นเธอใช้เวลายามราตรีของเธอดังนี้ค่ะ
A. ทานข้าวกับเพื่อนแต่ต้องไม่ใช่กลุ่มเพื่อนโสดเหมือนกัน อย่างหลังเนี่ย
กินไปสิ เมาวท์ไปสิ จ่ายไปสิก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ต้องไปทานข้าวกับกลุ่มเพื่อนที่มีโพเทนเชี่ยวค่ะ ที่เค้าว่าโพเทนเชี่ยวนี้หมายถึงว่าอย่างน้อยขอให้มีผู้ชายโสดที่มีแววว่าเข้ากันได้ไปซักคนรึไม่อย่างน้อยๆเลยเนี่ยก็ขอให้มีเพื่อนสาวที่มีแฟนแล้วแต่มีเพื่อนชายเยอะๆเพราะจะได้แนะนำให้รู้จักได้ภายหลัง (ย้ำค่ะว่าต้องเป็นเพื่อนสาวที่มีแฟนแล้วไม่งั้นคุณเธออาจจะงาบไปกินหมด) มิน่าล่ะไอ้การที่จะมานั่งทำกับข้าวในบ้านคนเดียวแล้วคุยกับแมลงวันเป็นเพื่อนอย่างคุณอู๋เนี่ย ท่าทางจะได้นั่งคานเสริมเหล็กเส้นไปอีกนาน
B. ไปเน็ตเวิร์คกิ้งในผับกับกลุ่มสังคมต่างๆในที่ทำงาน ที่ออฟฟิสที่คุณอู๋ทำงานเค้าโปรโมทเรื่องไดเวอซิตี้รึความหลากหลายในที่ทำงานค่ะ ดังนั้นเค้าก็จะมีกลุ่มสังคมต่างๆมากมายเพื่อให้คนกลุ่มน้อยรึกลุ่มใหญ่ทั้งหลายรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร อย่างที่คุณอู๋จำได้ก็มีกลุ่มชาวเอเชียมิดเดิ้ลอีส กลุ่มชาวเอเชียเซาท์อีส กลุ่มผิวดำ กลุ่มผู้หญิงในที่ทำงาน กลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนก็มีค่ะ แต่ละวันกลุ่มสังคมทั้งหลายเค้าก็จะมีกิจกรรมให้ทำกันต่างๆมากมาย ที่นี่เองที่จะเป็นแหล่งให้เจอคนใหม่เข้ามาในชีวิต คุณอู๋เองก็เคยไปแจมกับเค้าบ้างตอนเริ่มเข้างานใหม่ๆเพราะคุณเจ้านายแนะนำว่าจะได้รู้จักคนเยอะๆ แต่หลังๆเริ่มเบื่อค่ะ ขี้เกียจด้วยเลยเลิกไป ก็เลยหันไปเน็ตเวิร์คกิ้งในเฟสบุ๊คแทน แต่สงสัยยุทธวิธีของคุณอู๋จะไม่ได้ผลค่ะเพราะเพื่อนในเฟสบุ๊คเยอะขึ้นก็จริงแต่แฟนกลับหาไม่ได้เลยในโลกความเป็นจริง โธ่ กรรมจริงๆเลย เอ้า คนไหนอยากโสดเล่นเฟสบุ๊คนานๆละกันนะค้ะ
C. ไปออกกำลังกายที่โรงยิม คุณอู๋เคยดูหนังเรื่องนึงเค้าบอกว่าโรงยิมน่ะเป็นสวรรค์ของเกย์ คุณอู๋คิดว่าไม่จริงเลยค่ะ เกย์รึไม่เกย์ก็ สวรรค์เหมือนกันเพราะคนที่ไปออกกำลังกายส่วนใหญ่เนี่ยจะมีรูปร่างที่ดี (ขอเน้นว่าส่วนใหญ่นะคะ ไม่ได้แปลว่าทุกคน คุณอู๋เห็น คนพุงพลุ้ยก็มีถมไป) เนื่องจากคุณอู๋ไม่ได้เป็นสมาชิกของโรงยิมที่ไหนเพราะงกไม่อยากจ่ายนั่นเอง ก็เลยนอนตีพุงสะสมไขมันรอบเอวอยู่ในบ้าน แบบนี้เนี่ยรับประกันความโสดนะคะคุณพี่คุณน้องร่วมอุดมการณ์โสดทั้งหลาย การไปโรงยิมเนี่ยนอกจากจะได้พบคนใหม่ๆแล้วยังมีโอกาสได้เห็นเรือนร่างมากกว่าการไปทานข้าวธรรมดารึเน็ตเวิร์คกิ้งอีกต่างหาก ยิ่งไปห้องซาวน์น่ารึห้องอบไอน้ำแล้วล่ะก็ดีไม่ดียังจะมีโอกาสได้เห็นคนแอบนู้ดด้วยนะค้ะ แต่มีคำเตือนค่ะว่าถ้าจะไปจริงกรุณามองซ้ายมองขวานิดนึงก็ดีเพราะครั้งนึงคุณอู๋ไปทำงานต่างประเทศ หลังเลิกงานอยากไปคลายเครียดเลยไปใช้ห้องอบไอน้ำที่โรงแรม แต่แล้วขณะที่กำลังจะปลดผ้าเช็ดตัวก็มีชายคนนึงโผล่เข้ามา ตาเถร ชายคนนั้นคือคุณซีเนียร์เมเนเจอร์แก่ ตัวเตี้ยๆผมบางๆที่ทำงานด้วยกันกำลังเดินกรีดกรายเข้ามาในผ้าเช็ดตัวผืนจิ๋วโชว์ขนหน้าอกหยิกหยอย คุณอู๋เนี่ยขนลุกเลยค่ะ ตกอยู่ในสถานะการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะวิ่งหนีออกมาก็น่าเกลียดอยู่เพราะเค้าต้องรู้ว่าหนีเค้าแน่ๆ ทำไงได้ล่ะก็ต้องนั่งประจันหน้าคุยกัน คุณลุงก็เหลือเกินกางขาออกซะยังกะจะโชว์ออฟงั้นแหละ คุณอู๋ล่ะลมแทบจับค่ะ วันถัดมาเนี่ยทำงานด้วยกันทีไรคุณอู๋ก็นึกแต่ภาพเค้าในห้องอบไอน้ำอยู่เรื่อย ไม่ใช่แนวจินตนาการฝันหวานนะคะ แต่เป็นแนวขนหัวลุกซะมากกว่า บรื้อวววว.....
2. ฉายเดี่ยวไปทุกที่: เวลาดูหนังทีไรเรามักจะเห็นว่าเวลานางเอกอกหักน่ะมักจะเป็นเพราะโดนผู้ชายทิ้งไปหาผู้หญิงคนใหม่ที่ดูแล้วอ่อนแอและทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ เรื่องนี้จากการสังเกตและสอบถามเพื่อนร่วมงานชายทั้งที่โสดและไม่โสดเค้าก็บอกค่ะว่าถ้าให้เลือกก็เลือกผู้หญิงแบบนั้นมากกว่าผู้หญิงที่แข็งแรง(ทางจิตใจ)และทำอะไรได้ด้วยตัวเอง คุณอู๋มานั่งพิจารณาดูตัวเองก็คิดได้ว่า อ้าว...ซวยอีกแล้วตูเป็นผู้หญิงอย่างหลังเข้าให้อย่างจัง คุณอู๋น่ะทำอะไรด้วยตัวเองซะส่วนใหญ่ จะให้ไปเที่ยวต่างประเทศเองก็ยังไปได้เลยไม่มีปัญหา บางทีคุณอู๋ก็ว่าดีซะอีกเพราะหนึ่งไม่ต้องเสียเวลารอใคร จะหยุดถ่ายรูปนานแค่ไหนก็ได้ อีกอย่างยังตื่นเมื่อไหร่ก็ได้อีกด้วย อีกเรื่องที่เห็นได้ชัดคือกินข้าวคนเดียว ตอนคุณอู๋ไปเรียนที่เมืองลุงแซม เป็นเรื่องปกติมากที่จะเห็นนักเรียนกินข้าวในโรงอาหารคนเดียวแล้วก็อ่านหนังสือไปด้วย คุณอู๋ก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน พอมาเป็นสาวออฟฟิสเมืองไทยและเมืองผู้ดี ตอนแรกคุณอู๋ก็นึกว่าจะโอเคแต่พอเอาเข้าจริงก็พบว่ามักจะมีสายตาจากโต๊ะรอบข้างมองราวกับว่าคุณอู๋เป็นตัวประหลาดงั้นแหละ พอนานๆเข้าเริ่มสังเกตค่ะว่าไอ้พวกที่มานั่งกินข้าวคนเดียวเนี่ยประมาณห้าสิบเปอร์เซนต์เป็นโสดซะด้วย เอ สงสัยทฤษฏีนี้มีแววจะเป็นจริงแฮะ เอ้า...อีกที ใครอยากเป็นโสดเนี่ยนั่งทานข้าวคนเดียวเลยนะคะ รับรองได้นั่งกินคนเดียวอย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน
ฉบับนี้ได้เผยเคล็ดลับการครองโสดไปอีกสองประการ หลายข้ออาจไม่ตรงกับหลายคน เอาเป็นว่าถ้ามีความเห็นอื่นก็เขียนมาเล่าให้ฟังได้นะคะ ฉบับหน้ามาติดตามกันต่อว่ามีเทคนิคอะไรอีกในการครองตัวอยู่บนคานเสริมเหล็กเมืองผู้ดี อดใจรอกันหน่อยนะคะ
คุณอู๋
ถามคุณอู๋ (Ask Nissy) Q: อะไรคือความฝันในวัยเยาว์ของคุณอู๋คะ แล้วสิ่งที่คุณอู๋ทำในปัจจุบันตรงกับความฝันนั้นมั้ย (จากคุณหญิงเศรษฐศิริ)
A: คุณอู๋เป็นคนที่มีความฝันเยอะมากๆ แต่เชื่อมั้ยคะมีอยู่ปีนึงๆคุณอู๋อยากโตมาเป็นนางงามจักรวาลค่ะ ปีนั้นเค้าประกวดนางงามจักรวาลกันที่เมืองไทยครั้งแรก คุณอู๋ก็เลยเห่อสุดๆแล้วก็ไม่ได้เจียมตัวเองเล้ยว่าไม่ได้มีส่วนไหนเหมือนคุณปุ๋ย ภรทิพย์รึคุณอภัสรา ดังนั้นที่ถามว่าปัจจุบันทำงานตรงกับฝันมั้ยก็คงตอบว่าไม่ค่ะ แต่ที่ใกล้เคียงสุดก็คือเป็นหนึ่งในคนไทยที่ช่วยโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวและอาหารไทยให้ชาวเมืองผู้ดีในออฟฟิสได้รู้จัก (เพราะลูกขนุนอย่างคุณอู๋หมดสิทธิ์โปรโมทความงามของสาวไทยน่ะค้ะ)
ป.ล.ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์มีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ ns_nissy@yahoo.com จะนำมาตอบเรื่อยๆค่ะ
จากคุณ :
คุณอู๋
- [
28 ก.ย. 51 05:51:56
A:86.135.92.38 X: TicketID:184548
]
|
|
|
|
|