 |
ยื่นวีซ่านักท่องเที่ยวUK รอบ 2 ในเดนมาร์ก ผ่านแล้วค่ะๆๆๆๆๆ ดีใจมากๆๆๆๆๆ
หลายวันก่อนได้มาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำทุกๆท่าน ขอขอบพระคุณคุณ Giuseppe คุณ บัวชมพู และคุณ CYN มากๆๆๆนะคะที่มาให้คำแนะนำและกำลังใจ เมื่อวานซืนลองเสี่ยงไปยื่นขอใหม่ดู ปรากฎว่าวีซ่าผ่านแล้ว ไปรับมาเมื่อวานค่ะ
ตอนนี้เลยอยากร่วมแชร์ประสบการณ์ว่าเราเตรียมอะไรบ้าง หวังว่าผู้ที่สนใจจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
- จากที่สถานทูตบอกเราตอนเราโดนปฏิเสธว่า ประวัติการถูก reject วีซ่าจะไม่ถูกบันทึกไว้ใดๆทั้งสิ้น ให้เราไป apply ใหม่ในอินเตอร์เน็ต ในเว็บ http://www.visa4uk.fco.gov.uk/ อันนี้เราต้องคลิ๊กคำว่า Apply for a visa เลยนะคะ เพราะมีรุ่นพี่คนไทยหลายคนที่ยื่นขอวีซ่ารอบที่ 2 ไปกดคำว่า Existing Application Login Here แล้วนัดยื่นเอกสารทำวีซ่าจาก application อันเดิม จะทำให้ประวัติ และเลขทะเบียนการยื่นขอวีซ่า เป็นเลขเดิม เท่ากับว่า เราเอาประวัติการถูกปฏิเสธไปให้เค้าซะงั้น
พอเราคลิ๊กแล้ว เราก็ทำการกรอกใหม่ให้หมด ถ้าเค้ามีเนื้อที่ให้ไม่พอ ก็จดเอาไว้ว่าเราควรจะเขียนเพิ่มเติมในจดหมายส่วนตัวอย่างไรบ้าง
เอกสารที่เราใช้อุดช่องโหว่ทั้งหมดนะคะ 1. Letter of Acceptance จาก Copenhagen Business School ฉบับจริง แบบอัพเดทล่าสุด คือไปขอมาใหม่ เมื่อวันที่ 29 กันยายน
2. Confirmation letter of student status (exchange student 2008-2009) จาก Academic Advisor ฉบับจริงเช่นกัน
3. Confirmation letter of student status จาก มธ. อันนี้ เราให้น้องชายไปขอให้ แล้วสแกนมา เสร็จแล้วก็ปริ๊นสีค่ะ (เอาให้เหมือนจริง จะดีที่สุด)
4. Financial Statement "ของคุณพ่อ" โดยมีใบปะหน้าที่คุณพ่อเป็นคนแต่งเอง แต่ให้ธนาคารพิมพ์ให้ (ความจริงพนักงานธนาคารเค้าลองพิมพ์ให้ดูว่า เป็นแบบนี้ได้มั้ย แต่คุณพ่อบอกว่าแกรมม่าเค้าผิดเยอะมาก ดูไม่น่าเชื่อถือเลย) เป็นจดหมายพร้อมลายเซ็นและลายประทับของธนาคาร เขียนไว้ดังนี้
To whom it may concern,
This is to certify that Mr. ชื่อคุณพ่อ has been a client of Thanachart Bank Public Company Limited and as of date hereof the client has still maintained the account with us on Saving Deposit Account Number เลขบัญชี, in the name of "Mr ชื่อคุณพ่อ" in the total balance (Baht Currency) not less than low seven figures. (<< จำนวนเงินอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ แต่เราว่า medium-high six figures ก็พอแล้ว)
To the best of our knowledge, Mr. ชื่อคุณพ่อ's financial standing is sound and he is in a position to provide financial support for Miss ชื่อเรา, who will spend her holiday in the United Kingdom.
For further information, please contact บลาๆๆ
เสร็จแล้วก็เป็น financial statement ของคุณพ่อแปะหลังไว้ อ้อ แล้วก็คุณพ่อขอธนาคารให้แสดงตัวเลขย้อนหลังหกเดือนนะคะ
5. เนื่องจากธนาคารที่เดนมาร์กไม่ยอมออก Financial Statement ให้เรา เพราะเรามีเงินฝากเข้าแบบ Lumpsum เพราะเราถือเงินมาจากเมืองไทย (เค้ากลัวว่าเราจะไปยืมเงินคนอื่นมาทำให้ตัวเลขดูดี) เราเลยใช้ Copy ของเอกสารการเปิดบัญชีธนาคารที่นี่, ใบ Deposit Slip, ใบ transaction ที่บอกการใช้เงินประมาณ 6 ครั้งล่าสุด และจำนวนเงินในบัญชี (สั่งให้เครื่องเอทีเอ็มปริ๊นออกมาหลายๆใบ เพื่อให้เค้าเห็นว่าเราไม่ไปหยิบใบของคนอื่นที่หล่นจากตู้เอทีเอ็มมา)
6. Housing Rental Agreement จาก Copenhagen Business School อันนี้เราไปทำตัวน่าสงสาร บอก int'l office ว่าเราถูกปฏิเสธวีซ่าอังกฤษ แล้วอยากจะ Appeal เลยขอให้เค้าทำสัญญาเช่าฉบับจริงอีกอัน โดยมีลายเซ็นผู้ดูแลและเรา รวมถึงตราประทับมหาลัย เพื่อที่จะไปยื่นวีซ่า (โชคดีที่ออฟฟิศใจดีมาก แต่ความจริงเราว่าถ้าไม่ได้แบบนี้ ก็เอาเป็นใบ Copy ก็น่าจะพอค่ะ)
7. ใบจอง Hostel จาก www.hostelworld.com คือการ book hostel เนี่ย เราจะเสียค่า deposit ประมาณ 2 ปอนด์ต่อคืนนะคะ พอบุ๊คเสร็จ ก็ปริ๊น booking confirmation ออกมาจากอีเมลล์เลย
8. ใบจองตั๋วเครื่องบินโลว์คอส ปริ๊นจากอีเมลล์ (ทำถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่ให้ไปก็ให้มันรู้ไป) << แต่อันนี้เรายังไม่เห็นตัวเลขที่ถูกหักในบัญชีนะคะ ไม่รู้เค้าจะตัดยอด ณ วันที่เราไปเช็คอินเลยป่าว
9. Copy ใบจองตั๋วรถไฟในอังกฤษ แบบ Cross country บุ๊ควันเวลาไว้ทุกอย่าง (ถ้าจะยกเลิกทั้งหมด ก็เสียรวมแล้ว 10 ปอนด์) ปริ๊นออกมาจากอีเมลล์เลย
10. หลักฐานการเม้าท์การแชทนี่ก็เอามาให้หมดนะคะ เราปริ๊น Wall ใน facebook ที่คุยกับเพื่อนอีกคนที่จะไปอังกฤษด้วยกัน มาหมดเลย รวมถึงใน msn และ skype ด้วย (เจ้าหน้าที่เค้าดูแล้วคงจะแบบ อิเด็กสองตัวนี้บ้าบอลโคด คุยกันแต่ตั๋วดูบอล ฮ่าๆๆๆ)
11. Itinerary แบบทำเองใน MS excel บอกเวลา Departure Arrival และจุดเริ่มต้นกับจุดหมายปลายทาง ทุกอย่าง เขียนใน remark ของแต่ละวันไว้ด้วยว่าจะไปไหนในเมืองนั้นบ้าง
12. เนื่องจากพาสปอร์ตเรามันเล่มใหม่เอี่ยมอ่อง มีแต่วีซ่านักเรียนและวีซ่าทำงานของเดนมาร์ก เราว่ามันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ฮ่าๆๆ เลยซีร็อกส์ พาสปอร์ตเล่มเก่าที่มีตราประทับและวีซ่าประเทศต่างๆที่หมดอายุและที่ยังไม่หมดอายุให้เค้าหมดเลย เพื่อความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น (อีกนิดนึง) ถึงแม้จะไม่เคยมีวีซ่าอังกฤษก็เถอะ
13. Copy ของบัตร International Student Identity Card (ISIC) ให้ไปทำไมก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ แต่อยากให้
14. ใบจดหมายส่วนตัว เขียนไปแค่ประมาณ 200 words ได้ (พูดเหมือนเป็นเอสเซเลย ฮ่าๆๆ) ว่า 14.1 เหตุผลที่เรา unemployed เราเขียนประมาณว่า ในเมืองไทย นักศึกษามหาวิทยาลัยระดับป.ตรี ประมาณ 95% ไม่ได้ทำงาน (เขียนประมาณว่าให้เปรียบเทียบความต่างกับนักศึกษาเดนมาร์ก เพราะเค้ามีงานทำกันทุกคน) นักเรียนได้เงินจากพ่อแม่รายสัปดาห์ หรือรายเดือน บางคนได้เป็นเงินสด บางคนได้เป็นเงินโอนจากธนาคาร จากประสบการณ์แล้ว นักเรียนในกลุ่ม middle income ในไทยจะมีรายได้จากพ่อแม่ราวๆ 250-400 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเดือน แล้วก็บอกว่า ในการใช้ชีวิตในเดนมาร์ก เรายังไม่ทราบแน่นอนว่าเราควรจะใช้เงินเดือนละเท่าไหร่ เลยแบกเงินมาซะเลยสามหมื่นโครน (หลักฐานก็แสดงให้ดูจากข้อ 5 ค่ะ) แล้วก็บอกอีกอย่างคือ เพื่อจะได้ไม่เสียเงินค่าธรรมเนียมการโอนเพราะมัน costly พอควร 14.2 บอกว่า เหตุผลที่ขอวีซ่าไปช่วงนี้เพราะมันเป็น Autumn Holiday ของนักเรียนและนักศึกษาทุกคนในเดนมาร์ก เราจึงอยากไปในประเทศที่เราใฝ่ฝันว่าอยากไปมานาน เพราะ บลาๆๆ (อันนี้ก็เอาภาษาอังกฤษแบบสวยๆนะคะ เขียนสตอเบอรี่นิดๆก็ได้ ฮ่าๆๆ คือความจริงใฝ่ฝันอยากไปดูบอลที่โอลด์ทราฟฟอร์ดเฉยๆ อิๆๆๆๆ) แล้วก็เขียนจบแบบงามๆนิดนุง
เง้ออออออออ หมดแร๊วววววววววว
หลักฐานเราเยอะเกินไปป่าวคะ อิๆๆๆ คือเราอุดช่องโหว่จากเหตุผลครั้งที่แล้วไว้หมดเลย ช่องโหว่ที่ว่าคือ 1.ไม่มีหลักฐานพอว่าสถานะนักเรียนยัง active อยู่รึเปล่า 2.หลักฐานการมีรายได้ไม่ชัดเจน 3.ไม่มี incentive ในการกลับออกมาจากอังกฤษ ประมาณนี้ค่ะ
หวังว่าประสบการณ์ที่นำมาแชร์คงจะได้นำไปใช้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
จากคุณ :
Autumn Kiwi-Mousse
- [
3 ต.ค. 51 16:34:36
]
|
|
|
|
|