 |
สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน ทำตัวอย่างไรให้โสดสนิท (ตลอดกาล) ในเมืองผู้ดี ตอนสาม
สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน ทำตัวอย่างไรให้โสดสนิท (ตลอดกาล) ในเมืองผู้ดี ตอนสาม Episode XVI: How to live your life single (&forever) in London (Part III)
วันศุกร์เป็นหนึ่งในไม่กี่วันที่บางทีคุณอู๋ก็ไม่พกข้าวกลางวันไปกินที่ออฟฟิสเพราะเป็นวันเดียวในสัปดาห์ที่โรงอาหารขายฟิชแอนด์ชิปซึ่งเป็นอาหารผู้ดีอย่างเดียว (จริงๆ) ที่คุณอู๋กินได้มากสุดแล้ว เวลาไปต่อคิวซื้อคุณอู๋ก็มักจะมองหาปลาตัวใหญ่ (ก็แหม ไหนๆก็จ่าย £3.45 เท่ากันนี่นา) แต่บางทีก็ดวงไม่ค่อยดีค่ะ พอใกล้ถึงคิวก็ปรากฏว่าปลาตัวใหญ่น่ะโดนคนก่อนหน้าชิงไปหมดแล้ว แต่คุณอู๋ก็ไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ แพลนบีก็คือเดินออกจากคิวแล้วทำเป็นเดินชมนกชมไม้ พอปลาล็อตใหม่มาก็ค่อยวิ่งหน้าตั้งไปซื้ออีกที แต่ไม่นานมานี้คุณอู๋ใช้แผนเดิมแต่ว่ารออยู่นานสองนานปลาล็อตใหม่ก็ไม่มาซักที จนทนไม่ไหวค่ะเลยเดินไปถามพนักงานว่าเกิดอะไรขึ้นในครัว คำตอบที่ได้ทำเอากระเพาะคุณอู๋หุบทันที อ้าว! ก็ปลาน่ะหมดเข่งไปแล้วน่ะสิค้ะ โธ่โธ้โธ๋...คุณอู๋เรามัวแต่เลือก สุดท้ายปลาหมดเข่งเลยต้องกินมันฝรั่งอบรสชาติจืดชืดแทน คุณอู๋ก็เลยคิดได้ว่าการเลือกปลาเนี่ยก็ไม่ต่างกับหาแฟนเลย มัวแต่รอคนที่เพอร์เฟค(เหมือนปลาตัวอ้วน) แล้วทำเชิดใส่คนที่ไม่เพอร์เฟค (เหมือนปลาตัวเล็ก) สุดท้ายอาจจะไม่ได้อะไรเลยรึได้แฟนโหลยโท่ยเหมือนมันฝรั่งอบเข้าให้ เพราะฉะนั้นคุณอู๋แนะนำคุณนักอ่านคอลัมน์ (ขาโสด) ทั้งหลายค่ะว่าอย่าเพิ่งพรวดพลาดมองผ่านปลาตัวเล็กที่เข้ามาในชีวิตนะคะเพราะมันอาจจะเป็นปลาตัวสุดท้ายที่มีมาให้กินก็ได้
สองฉบับก่อนคุณอู๋ได้เผยวิธีครองตัวเป็นโสดในออฟฟิสเมืองผู้ดีไปแล้วสี่ข้อ ฉบับนี้มาอ่านเคล็ดลับสองข้อสุดท้ายกันดีกว่านะคะ
กินอย่างงก หม่ำจ๊กมกเรียกพี่ ราตรีอยู่คนเดียว ฉายเดี่ยวไปทุกที่ ของฟรีลัลลัลล้า เจ้าป้าในออฟฟิส คุณอู๋สอนน้อง (ให้โสด)
1. ของฟรีลัลลัลล้า: นอกจากงานประจำที่คุณอู๋ทำในออฟฟิสเมืองผู้ดีแล้วคุณอู๋มีงานเสริมนอกออฟฟิสอีกด้วย งานนี้ทำแล้วไม่ได้เงินค่ะแต่ถ้าพูดถึงสภาพคล่องของผลตอบแทนที่ได้ก็ถือว่าใกล้เคียงกับเงินเหมือนกัน งานเสริมที่ว่านี้ก็คือ ช่วยคนย้ายบ้านค่ะ อ่ะห้า! ฟังแล้วเหมือนคุณอู๋เป็นคนดีจังเลย แต่จริงๆแล้วเนี่ยไม่ได้ไปช่วยเค้าย้ายจากบ้านเก่าไปบ้านใหม่หรอกนะคะ ที่ช่วยน่ะย้ายของบ้านเก่าเค้าเข้าบ้านตัวเองตะหาก ตั้งแต่ย้ายมาอยู่เมืองผู้ดีคุณอู๋มีความภาคภูมิใจที่จะเล่าถึงตัวอย่างของที่ได้มาฟรีดังนี้ค่ะ ทีวี (ที่ใครไม่รู้ทิ้งไว้หน้าบ้าน) ปริ้นเตอร์ (จากเด็กนักเรียนย้ายกลับตุรกี) ชั้นวางของ (ใครไม่รู้ทิ้งไว้ใกล้กองขยะรีไซเคิ้ล) กาต้มน้ำ เตารีด ที่เป่าผม นาฬิกาปลุกวิทยุ โทรศัพท์ เครื่องปิ้งขนมปัง กระทะสำหรับอาหารย่าง เซ็ตจานชาม และอื่นๆอีกมากมาย เวลาได้ยินใครจะย้ายบ้านทีล่ะก็หูคุณอู๋เนี่ยก็กางออกเหมือนปีกค้างคาวทันทีเลยค่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ว่าไอ้นิสัยแบบนี้นี่เองที่ทำให้เหล็กเส้นเสริมคานของคุณอู๋หนาเข้าไปอีกหลายนิ้ว ทำไมน่ะเหรอคะ ก็เพราะคุณอู๋ใช้เวลาไม่ถูกต้องน่ะสิ เวลาที่เอาไปเก็บขยะบ้านคนอื่นเนี่ยน่าจะเอาไปใช้สิงสถิตในแหล่งปลาชุกชุมทั้งหลายเช่น นั่งดื่มกาแฟชิลล์ๆที่สตาร์บัค (ซึ่งอาจจะได้ปลาแนวนักเขียนมาติดเบ็ดเข้าให้) หรือไปนั่งจิบชาตอนบ่ายที่เดอะรีซ (เผลอๆอาจจะได้มากกว่าปลานิลหรือปลาซิวธรรมดามาติดอวนนะคะ อาจะได้แนวปลามังกรขับเฟอร์รารี่ก็ได้) หรือไปนั่งกินลมที่ไฮด์พาร์ค (อืม...ไม่แน่ อ้อปชั่น (option) นี้อาจจะได้ปลาฉลามกล้ามโตวิ่งจ๊อคกิ้งมาติดแหที่หว่านไว้ก็ได้) เรื่องชอบของฟรีเนี่ยคุณอู๋หยุดตัวเองไม่ได้จริงๆค่ะ ถึงจะมาเป็นสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีมีเงินเดือนมากกว่าตอนอยู่เมืองไทยก็เปลี่ยนนิสัยตัวเองไม่ได้เลย ของฟรีที่ว่านี้ยังรวมถึงของฟรีในที่ต่างๆด้วยนะคะ เช่น ถุงชาฟรีในออฟฟิสที่คุณอู๋เก็บไว้เพื่อเป็นของฝากให้ที่บ้านและเพื่อนๆคนรู้จักที่เมืองไทย (ซึ่งทุกคนบ่นทุกปีว่าไม่อยากได้) ขนมบิสกิตหรือช็อคโกแลตจากโรงแรมที่คุณอู๋ส่งให้คุณแม่ญี่ปุ่นเพื่อนสนิทกิน สรุปง่ายๆของฟรีที่ไหนคุณอู๋อ้าแขนรับไม่อั้น แต่นิสัยอย่างนี้ผู้ชายจะชอบรึเปล่าเนี่ย คุณอู๋มีเรื่องเล่าให้ฟังค่ะ Nissy, do you want to go have lunch at Thai restaurant? เพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่งเอ่ยปากชวน I dont know. Im kind of short this month. คุณอู๋อิดๆออดๆเพราะในใจไม่อยากควักกระเป๋าเลย You alway say that! Come on, Ill pay for you เพื่อนร่วมงานชายเอ่ยปากเสนอ Okay! See you in 15 minutes
ตาคุณอู๋เปร่งประกายอัตโนมัติและตอบตกลงในทันที
I just got to do something first. They are handing out free Chinese New Year cookies downstairs. You should come too. We can take loads! Hurry up!!! คุณอู๋พูดต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับได้เพชร I dont believe this!เพื่อนชายถอนหายใจ
no guy wants to date a woman whos crazy about freebies. Everybody likes freebies but unlike you, they dont show it so explicitly! Im telling you. Keep the freebies out of your mind when talking to a guy. Otherwise, he will run away!!! แป่ว....เอาอีกแล้วค่ะคุณนักอ่านขา เลคเชอร์จากชายในออฟฟิสอีกแล้ว เอ้า...คนไหนชอบเอาเวลาไปรับของฟรีรึเก็บขยะบ้านคนอื่นแทนที่จะไปตกปลาล่อเบ็ดเนี่ย จอยเดอะซิงเกิ้ลคลับได้เลยค้ะ
2. เจ้าป้าในออฟฟิส: สองปีแรกที่เริ่มทำงานที่ออฟฟิสเมืองผู้ดี คุณอู๋โดนส่งไปประจำการที่ออฟฟิสลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง พอโปรเจคจบคุณอู๋ก็กลับมาทำงานในออฟฟิสของบริษัทที่ทำอยู่ก็พบว่าตัวเองรู้จักคนน้อยมากๆ ช่วงแรกๆกินข้าวคนเดียวแทบทุกวัน ผ่านไปไม่นานคุณอู๋ก็เริ่มรู้จักคนมากขึ้นโดยเฉพาะรุ่นน้องผู้หญิงทั้งหลายที่เข้ามาทำงานใหม่ (เอาอีกแล้วค่ะ คุณอู๋เนี่ยช่างป๊อปปูล่าในบรรดาสาวๆจริงๆ) หกเดือนผ่านไปสังกัดเจ๊อู๋ก็ก่อร่างสร้างตัวขึ้นโดยมีสมาชิกสาวโสด(ส่วนใหญ่)ด้วยกันห้าคน การมีสังกัดเนี่ยมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ ข้อดีคือมีเพื่อนกินข้าวและไปไหนมาไหนด้วย ยิ่งเป็นรุ่นน้องด้วยแล้วค่อนข้างเอาใจป้าแก่ขี้น้อยใจอย่างคุณอู๋ซะด้วยสิ อยากไปกินไหนก็ตามใจ บางคนเนี่ยน่ารักมากถึงขั้นช่วยตบขนมโปรดของคุณอู๋จากบริษัทลูกค้ามาให้บ่อยๆ แต่ข้อเสียก็คือเหมือนเป็นการปิดประตูใส่กลอนหนาห้าชั้นไม่ให้คนนอกสังกัดเข้ามาร่วม บางทีรู้สึกเหมือนยังกะอยู่ในตำหนักในที่เห็นในหนังจีนย้อนยุคงั้นแหละเพราะมีแต่ผู้หญิง ผู้ชายที่มาร่วมบ้างเป็นบางทีก็ไม่แน่ใจว่าเป็นขันทีรึเปล่า แถมเวลาไปกินข้าวกันบางทีก็เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว มองปราดเข้าไปเนี่ยเหมือนกลุ่มสาวออฟฟิส(ตัวประกอบ)ในหนังบ้านเราที่ชอบนินทาเจ้านายเปี๊ยบเลยค้ะ อย่างนี้ชายที่ไหนหนอจะหาญกล้าเข้ามาจอย เนื่องจากตัวคุณอู๋นั้นซีเนียร์สุดในกลุ่มจึงได้ฉายาเจ้าป้าไปโดยปริยาย แต่พูดๆไปนิสัยคุณอู๋เองก็แอบเจ้าป้าอยู่เหมือนกันค่ะ บางทีก็ชอบโวยวาย อารมณ์เสียง่าย แต่ที่สำคัญสุดเนี่ย...เสร่อได้บ่อยจริงๆ มีอยู่ครั้งนึงเจ้าป้าอย่างคุณอู๋ทำเรื่องเปิ่นถึงตอนนี้ยังไม่ลืมเลย Nissy: You know Maria? Lych: Yes, why? Nissy: She got married last month. So today I chatted with her on instant messenger. I said "Hello" and she said "Hi". Then, I said "Im bored. Got a boring assignment for 2 months!" She said "Ok." Then, I said "Anyway, how are you married woman? She replied coldly "I'm not married." I was shocked and skeptical! Nissy: Then
I looked closely at her name. God! I was chatting to the wrong Maria!!! She is Maria, a senior marketing head in Chicago office! Lych: Oh god! HAHAHA !!! Nissy: So I said "I'm so sorry. I thought youre my colleague. I'm so embarrassed". She replied
"Lucky it's not about your enemy story! คนไหนมีสังกัดตัวเองในออฟฟิสแถมออกแนวป้าอย่างคุณอู๋ละก็เชิญสมัครเป็นสมาชิกวาระถาวรของในสมาคมสาวโสดเลยนะเจ้าคะ
เอาล่ะค่ะคุณอู๋เล่าเคล็ดลับการครองตัวเป็นโสดในออฟฟิสเมืองผู้ดีมาสามฉบับแล้ว หวังว่าคุณนักอ่านร่วมอุดมการณ์โสดที่ไม่อยากโสดทั้งหลายจะนำเคล็ดลับนี้ติดไว้หน้ากระจกว่าอย่าทำตาม ส่วนคนไหนแฮปปี้ดีกับชีวิตโสดก็นำเอาหลักนี้ไปใช้ได้เรื่อยๆ ฉบับหน้ามาติดตามกันเรื่องแฟชั่นชายหญิงในออฟฟิสเมืองผู้ดีกันดีกว่า จะเร่งพิมพ์เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยนะคะ
คุณอู๋
ถามคุณอู๋ (Ask Nissy) Q: ไอ้ที่เค้าว่ามีแฟนฝรั่งจะช่วยให้สำเนียงดีต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ แล้วเค้าไปหาที่ไหนกันเหรอ อยากรู้มากๆ อันนี้ไม่ได้ถามให้ตัวเองนะคะ ถามเผื่อเพื่อนสาวทั้งหลายค่ะ (จากคุณแม่ลูกหนึ่ง) A: คุณอู๋คิดว่าตามทฤษฏีแล้วการมีแฟนฝรั่งน่าจะเหมือนการบังคับทางอ้อมให้พูดภาษาอังกฤษ ที่ว่าจะทำให้สำเนียงดีขึ้นก็เพราะถ้าเราออกเสียงไม่ถูกแฟนก็จะทำหน้างง แล้วเราก็ต้องพยายามออกเสียงจนเค้าเข้าใจได้ อีกอย่างสำเนียงแฟนฝรั่งกรอกเข้าหูมาเรื่อยๆ พอเราพูดออกไปก็น่าจะได้สำเนียงตาม แต่คุณอู๋คิดว่าอันนี้ก็แล้วแต่คนด้วย ถ้าแบบว่าเกิดมาลิ้นแข็งมากจริงๆก็คงจะปรับสำเนียงยากอยู่ แต่เอ...ไม่แน่นะคะ ฝึกเฟรนช์คิสอาจจะทำให้ลิ้นอ่อนลง (แต่ไม่รับประกันนะคะเพราะยังไม่เคยลองเองซักทีค้ะ)
ป.ล.ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์มีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ns_nissy@yahoo.comจะนำมาตอบเรื่อยๆค่ะ
จากคุณ :
คุณอู๋
- [
5 ต.ค. 51 23:00:34
A:86.134.109.125 X: TicketID:184548
]
|
|
|
|
|