ผมเห็นคำถามแบบนี้บ่อยมากที่นี่ เลยอยากจะมาตอบแบบรวมๆ ไว้ในกระทู้เดียว เพื่อความสะดวก
ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญการสมัครเรียนแต่อย่างใด แค่อยากจะมา share วิธีการหาข้อมูลเบื้องต้น ขอเน้นว่าเบื้องต้นเท่านั้นนะครับ ว่าเรามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ในการเข้าเรียนในมหาลัยที่เราคาดหวังไว้
ขอยกตัวอย่างจากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H7121260/H7121260.html
ขอเลือก CU Boulder เป็นตัวอย่างเพราะเป็นมหาลัยที่ทั้งสองท่านถามเหมือนกัน
อันดับแรก หาเวปของมหาวิทยาลัยที่คุณต้องการเรียนโดยการเปิด Google ขึ้นมาแล้วก็พิมพ์ชื่อมหาลัยหรือชื่อโรงเรียน ที่คุณต้องการจะเรียนลงไป
ในกรณีนี้ก็พิมพ์ CU Boulder ลงไปคุณก็จะทราบว่าเวปของมหาวิทยาลัยคือ http://www.colorado.edu/
สำหรับมหาลัยส่วนใหญ่ในอเมริกา จะมีการแยกเป็นโรงเรียนสำหรับแต่ละสาขาวิชา ให้เราหาคำว่า Academics หรือ education แล้วก็เลือก Colleges and Schools จากนั้นก็หาโรงเรียนที่เราต้องการ
เช่นกรณีเราต้องหาข้อมูลของ MBA ซึ่งก็คือ school of business หรือ graduate school of business เราก็จะเจอข้อมูลของโรงเรียนที่เราต้องการ ซึ่งส่วนมากถ้าเป็น MBA ก็เป็นเวปแยกต่างหาก
เมื่อเจอเวปแล้วให้เลือกโปรแกรมที่ต้องการ ส่วนใหญ่จะอยู่ในหัวข้อ Academic Programs ในกรณีนี้เราก็เลือก MBA
ให้หาสองอย่างคือ Admission criteria กับ class profile ให้เจอ ส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆ หัวข้่อ Admissions
สำหรับ admission criteria บางทีก็เรียกว่า Application Requirements หรืออื่นๆ
http://leeds.colorado.edu/MBA/interior.aspx?id=1954
ก็ชัดเจนว่าขั้นต่ำที่มหาวิทยาลัยต้องการคืออะไรบ้าง ถ้าเรามีิิอะไรต่ำกว่าที่ระบุไว้ก็แปลว่าโอกาสเข้าได้ริบหรี่มาก
บางที่ไม่ยืดหยุ่นถ้าต่ำกว่าเกณฑ์แปลว่าหมดสิทธิ
บางมหาลัย บาง criteria อาจยืดหยุ่นได้ เช่น คะแนน TOEFL แต่ส่วนใหญ่ถ้าคุณต่ำกว่าเกณฑ์ คุณต้องไปเรียนภาษาก่อนเข้าเรียน ซึ่งก็คือเสียเงินเพิ่มอีกหลายแสน อยากรู้ว่าที่ไหนยืดหยุ่นไม่ยืดหยุ่น ให้เมลไปถามโดยตรง
ทีนี้แค่เราผ่าน criteria ทุกอย่างก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเข้าได้ เราก็ต้องมาดู class profile เพิ่้มเติม
ของ Leeds นี่แปลกหน่อยเรียกว่า Enrollment Statistics อยู่ใต้ Fact & Figures
http://leeds.colorado.edu/About_Leeds/interior.aspx?id=498
ใน class profile ก็จะมีรายละเอียดว่าคนที่มหาลัยรับเข้าไปได้คะแนนอะไรเท่าไหร่ เกรดเท่าไหร่ มีประสบการณ์ทำงานกี่ปี
วิธีวิเคราะห์แบบง่ายๆ ก็คือถ้าเราเกินค่าเฉลี่ยทุกอย่างก็แปลว่าเรามีโอกาสได้ค่อนข้างสูง ถ้าแถวๆ ค่าเฉลี่ยก็แปลว่าพอมีโอกาส ถ้าต่ำกว่าก็แปลว่าโอกาสน้อย
ถ้ามาวิเคราะห์ให้ลึกขึ้นอีกนิดหน่อย
ประสบการณ์ทำงาน ไม่ควรน้อยกว่าค่าเฉลี่ยเกิน 1 ปี อย่างกรณีนี้ก็คือ ควรจะมีประสบการณ์อย่างน้อย 4 ปี
คะแนน GMAT ถ้าต่ำกว่า 20th percentile แทบจะเรียกได้ว่าหมดหวัง ยกเว้นอย่างอื่นเจ๋งจริงๆ เพราะฉะนั้นต่ำสุดก็คือ 560 แต่ควรจะได้เกิน 630
เกรด ไม่ควรต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเกิน .20 ถ้าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเยอะๆ แต่ สามารถอธิบายเหตุผลที่ฟังดูดีน่าเชื่อถือใน essay ได้ก็พอโอเค แต่โอกาสก็จะน้อยกว่าเกรดดีกว่าหรือ พอๆ กับค่าเฉลี่ย ในกรณีนี้เกรดควรเกิน 3.00
อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ % international student ยิ่งเยอะยิ่งดี
ทีนี้เราก็นำข้อมูลข้างต้นมาวิเคราะห์โอกาสของ คุณ จขกท อ้างอิง และ คุณ คห. ที่ 1 กัน
TOEFL ต่ำกว่าเกณฑ์ค่อนข้างมาก
GMAT ต่ำกว่า 20th percentile
GPA ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ประสบการณ์ทำงาน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย
สรุปได้ว่าโอกาสเข้า Leeds ริบหรี่ เนื่องจาก ปัจจัยหลักคือ TOEFL และ GMAT น้อยกว่าคะแนนต่ำสุดที่ควรที่ควรจะได้ค่อนข้างเยอะ
สำหรับ GPA & Work exp ยังพอโอเค แต่ก็ยังคงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยอยู่
ถ้าอยากเข้าจริงๆ อย่างน้อยต้องได้คะแนน TOEFL > 80 & GMAT > 600
ย้ำอีกครั้่งว่าอันนี้เป็นแค่วิธีการประเมินหยาบๆ เท่านั้น เพราะเราดูแค่ ปัจจัย Quantitative เท่านั้น
การคัดเลือกจริงๆ แล้วมีปัจจัยสำคัญอีกหลายอย่างที่สำคัญ โดยเฉพาะ essays, recommendation และ ประสบการณ์ทำงานในแง่ของเนื้องาน แต่ข้อมูลเหล่านี้ยากที่ประเมินได้ เพราะฉะนั้นในการวิเคราะห์เบื้องต้นจึงยังไม่นำมาคิด
จบแล้วครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่หลายๆ ท่าน
++++++++++++
เนื่องจากเห็นว่าเป็นกระทู้แนะนำกระทู้แรกของตัวเอง ^____^ และยังมีเวลาว่างมากมายในช่วงนี้ เลยกลับมาแถมวิธีการเลือกสมัครมหาวิทยาลัยแบบง่ายๆ ให้อีกนิดนึง
อีกคำถามที่พบบ่อยมาก ถึงมากที่สุดคือ อยากเรียนสาขานี้ สมัครกี่ที่ดี สมัครที่ไหนดี
เริ่มจากสมัครกี่ที่ดี อันนี้ก็แล้วแต่ว่าคุณจะยอมเสียเงินมากขนาดไหน เพราะค่าสมัครเรียนก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่ก็แน่นอนว่าสมัครเยอะโอกาสได้ก็เยอะตาม
วิธีการเลือกสมัครมีมากมายหลายแบบ แต่สูตรยอดนิยมก็คือ 1:3:1, 2:4:1, 3:5:2
โดยกลุ่มแรกคือเผื่อฟลุ๊กหรือ มหาลัยที่ profile ของเราต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและมีโอกาสได้่น้อย แต่เราอยากเข้ามาก
กลุ่มที่ 2 คือมหาลัยที่ profile ของเราใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย
ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือกันเหนียว เลือกที่คะแนนต่างๆ ของเราสูงกว่าค่าเฉลี่ย แต่ว่าให้เป็นมหาลัยที่ได้แล้วเราจะไปจริงๆ ไม่งั้นก็ไม่ต้องมีครับเสียตังค์เปล่า
ส่วนคำถามที่ว่าสมัครที่ไหนดี
ผมรู้สึกว่ามันเป็นคำถามที่ไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวคุณเอง ผมคงจะช่วยได้แค่ให้ Guideline ง่ายๆ ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่คุณควรจะนำมาพิจารณา
1. มีปัญญาเข้าหรือไม่
ผมไม่ได้จะมาดูถูกใคร แต่ว่าคุณก็ควรจะดูมหาลัยในกลุ่มที่ใกล้เคียงและเหมาะสมกับ profile ของคุณ อย่างผมเกรด 2.9 GMAT ไม่ถึง 700 ประสบการณ์ 3 ปีกว่า ถ้าตั้้งเป้าเข้า Standford หรือ Harvard ก็คงจะดูเพ้อเจ้อเกินไป ดูยังไงว่าเหมาะสมก็กลับไปดูด้านบน
แต่ Profile บางอย่างก็เปลี่ยนได้ เช่นคะแนนสอบต่างๆ หรือประสบการณ์ทำงาน ถ้าคุณอยากเข้าที่ไหนมากๆ แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญญาก็อาจจะรอให้มีประสบการณ์เยอะขึ้น ทำคะแนนสอบให้สูงขึ้นมากก็อาจจะมีโอกาสเข้าได้
2. ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย
ฟังเหมือนง่ายแต่จริงๆ ก็ยากอยู่ ง่ายที่สุดคือดู ranking แต่ก็อีก ที่ ranking ก็มีมากมายหลายเจ้า วิธีการประเมินก็แตกต่างกันไป แล้วอันไหนเชื่อถือได้ที่สุดก็ยังเป็นปัญหาอยู่ หรือแม้แต่คำถามว่า ranking เชื่อถือได้หรือไม่ก็ยังมีอยู่ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้คิดว่า Ranking เป็นอะไรที่ represent คุณภาพของมหาลัยอย่างแท้จริง แต่มันก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่เพราะฉะนั้นเราก็คงต้องทนใช้มันไป
ranking หลักๆ ที่ใช้ๆ กันก็ประมาณนี้ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_United_States_business_school_rankings
3. สภาพอากาศ
ชอบร้อน หนาว ฝน หิมะ ภูเขา ทะเล ก็เลือกเอาตามสะดวก อยากรู้ข้อมูลของเมืองไหน ก็เข้าไปที่ google พิมพ์ชื่อเมือง ตามด้วยคำว่า weather ก็จะมีข้อมูลมากมายให้คุณเข้าไปดู เช่นเวปของ yahoo เป็นต้น
http://weather.yahoo.com/Colorado-City-Colorado-United-States/USCO0077/statistics.html
4. เรียนจบแล้วอยากหางานต่อที่ต่างประเทศหรือไม่
แทบจะทุกมหาลัยจะมีข้อมูลที่เรียกว่า Employment Placement Statistics หรือชื่ออื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ลองเข้าไปดูก็จะพอเห็นภาพว่านักเรียนต่างชาติที่จบที่นี่ได้งานกี่ % ในสายไหน เงินเดือนเท่าไหร่ ข้อมูลพวกนี้ก็พอจะช่วยให้เลือกมหาลัยได้ง่ายขึ้น
5. ค่าเล่าเรียนและทุน
แน่นอนว่าปัจจัยหลักอย่างหนึ่งก็คือเงิน ลองดูดีๆ อย่าคิดว่าค่าเรียนของมหาลัยในระดับเดียวกันจะใกล้เคียงกัน บางครั้งต่างกันเป็นเท่ากี่มี แล้วก็อาจจะดูว่ามีโอกาสได้ทุน หรือเงินช่วยเหลือหรือไม่ มีงานในมหาลัยให้ทำไหม
6. การใช้ชีวิตและค่าครองชีพ
อันนี้คงต้องถามผู้ที่เคยอยู่มาก่อน แต่แต่แต่ ก่อนที่จะตั้งกระทู้ถามกรุณาลองใช้ สิ่งที่เรียกว่า Search ก่อนนะครับ
เมืองไหนสภาพเป็นอย่างไร เมืองใหญ่ เมืองเล็ก ธรรมชาติ หรือ แสงสี ความปลอดภัย ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ฯลฯ
จำนวนคนไทยมากน้อยแค่ไหน
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ครับ ถ้าคิดออกเพิ่มเดี๋ยวมาเติมไหน เพื่อนๆ พี่ๆ คนไหนอยากเพิ่มเติมเชิญนะครับ ผมจะนำมาใส่ไว้ด้านบนเพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 51 03:00:49
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 51 02:37:47
คำตอบแบบง่ายๆ สำหรับคำถามยอดฮิต: Profile แบบนี้เข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง
