Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน ออกเดทครั้งแรกแบบสาวเมืองผู้ดี ตอนหนึ่ง

    สาวออฟฟิสเมืองผู้ดี ตอน ออกเดทครั้งแรกแบบสาวเมืองผู้ดี ตอนหนึ่ง
    Episode XX: First dating guide in London Part I

    สมัยยังเรียนอยู่คุณนักอ่านเคยคิดมั้ยคะว่าในบรรดากลุ่มเพื่อนๆเนี่ยคนไหนหนอจะโชคดีได้ปลูกหอลงเรือนกับหนุ่มรูปหล่อคุณสมบัติเพียบ รึไม่ก็คนไหนน้าจะเจอแจ็คพ็อตแตกมีขบวนขันหมากเข้าบ้านเป็นรายแรก แล้วคนไหนกันล่ะที่ออกแววว่าจะได้ไต่คานเสริมเหล็กเป็นผู้บริหารหมู่บ้านคนโสด คุณอู๋เองก็เคยแอบคิดเล่นๆเหมือนกันค่ะ แต่สงสัยดวงด้านการเดาคุณอู๋จะไม่ค่อยดี (มิน่าล่ะ ซื้อหวยทีไรไม่เคยถูกซักงวด) ไอ้ที่คุณอู๋เคยเดาๆเอาไว้เนี่ยส่วนใหญ่จะผิดหมดน่ะสิคะ คนที่คิดว่าจะได้แฟนคุณสมบัติพร้อมก็ออกแนวธรรมดาสามัญชนไป แล้วไอ้คนที่คิดว่าชาตินี้คงจองตำแหน่งกำนันหมู่บ้านคนโสดวาระถาวรเนี่ยก็กลับสวยขึ้นผิดหูผิดตากลายเป็นสาวฮ็อตมีหนุ่มมารุมตอมพรึ้บ แต่นั่นน่ะไม่เท่าไหร่ค่ะ ที่เดาผิดมหันต์ก็คือไอ้ที่เดา(แอบเข้าข้างตัวเอง)ว่าคุณอู๋จะได้แต่งงานเป็นรายต้นๆ คิดไว้ว่าไม่น่าเกินอายุยี่สิบหก ตอนนี้ระยะห่างจากตัวเลขนั้นก็ขยายวงกว้างออกทุกทีแต่ก็ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะมีแฟนเลย สงสัยว่าต่อมฟีโรโมนคุณอู๋คงใกล้เหือดไปหมดแล้วแน่ๆก็เลยไม่มีใครมาหลงเสน่ห์สาวหน้าบานกลมซะที

    ตั้งแต่คุณอู๋ทำงานที่เมืองผู้ดีมีผู้ชายเข้ามาในชีวิตแบบประปราย ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยผ่านเข้ามาแป๊บๆแล้วก็ผ่านไป (บางคนเนี่ยผ่านไปเร็วมากจริงๆนะคะ ประมาณว่าตดยังไม่ทันหายเหม็นก็ไปซะแล้ว) บางคนเริ่มต้นเหมือนจะดีแต่สุดท้ายก็ฉายแววต้นตรงปลายคดไปซะนี่ แถมบางคนออกแนวเล่นกับหมาแต่หมาก็ดันเลียปากเข้าให้อีกแน่ะ นานาประสบการณ์จริงๆ แต่สิ่งดีๆที่คุณอู๋ได้มาก็คือเคล็ดลับการออกเดทครั้งแรกที่คุณอู๋คิดว่าน่าสนใจ ฉบับนี้จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังให้พอหอมปากหอมคอสามข้อดังนี้ค่ะ

    1. เวลา: การออกเดทครั้งแรกก็คล้ายซื้อหวยเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะแอบลุ้นว่าจะไปกันได้ไหมหนอ อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะ ไม่กี่คนหรอกที่จะได้เดทแรกออกมาแบบเพอร์เฟคเพราะฉะนั้นแล้วการเลือกเวลาเดทเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณอู๋แนะนำว่าเดทแรกเนี่ยไม่ควรไปเสาร์อาทิตย์แต่ควรไปหลังเลิกงาน ด้วยเหตุผลหลักสองประการคือ หนึ่งถ้าไปวันหยุดสุดสัปดาห์ฝ่ายชายมักจะคิดตู่เข้าข้างตัวเองไปเองว่าผู้หญิงน่ะท่าทางจะมีใจเพราะงั้นจีบง่ายแน่นอนเพราะการที่ผู้หญิงให้เวลาวันหยุดแปลได้ว่าอยากมีเวลาอยู่กับฝ่ายชายมากเป็นพิเศษ ดังนั้นคุณสาวๆทั้งหลายต้องสวนกระแสค่ะว่าเดทแรกเนี่ยให้เวลาเค้านิดเดียวด้วยการไปหลังเลิกงาน ให้เค้าได้ใกล้ชิดเราแค่พอหอมปากหอมคอก็พอ เค้าจะได้รู้ว่าเราน่ะเป็นสาวป๊อบมีกิจกรรมอื่นๆมากมายที่ต้องทำ เหตุผลประการที่สองก็คือถ้าไปเสาร์อาทิตย์แล้วเดทเกิดห่วยมากๆขึ้นมาแล้วจะทำยังไงล่ะ เช่นว่าขณะกินข้าวกันดีๆก็พบว่าชายหนุ่มรูปหล่อที่ตอนทำงานด้วยกันใส่เชิ้ตเน็คไทอย่างดีเนี่ยแต่ตอนกินข้าวด้วยกันสองต่อสองดั้นกินไปแคะขี้ฟันไปรึไม่ก็ซดน้ำแกงดังโป้ดป้าด อารมณ์ที่จะไปดูหนังด้วยกันต่อเนี่ยคงเทิร์นออฟไปตั้งกะเห็นขี้ฟันเค้ากระเด็นออกมาแล้วแน่ๆ เพราะงั้นเพื่อเซฟตัวเองนะคะคุณสาวๆ เดทแรกเนี่ยอย่าให้เค้าไปทั้งวัน เลือกแค่กินข้าวอย่างเดียวรึดื่มกาแฟอย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องเอาครบสูตรที่ว่าตอนเช้าไปสวนสนุก ตอนบ่ายกินไอติม ตอนเย็นกินข้าวต่อด้วยโยนโบว์ลิ่งหรือดูหนัง ไอ้พวกเต็มสูตรแบบนี้น่ะสำหรับคนเป็นแฟนกันแล้วรึไม่ก็มีแค่ในหนังเท่านั้นหรอกค่ะ (แล้วคงเป็นหนังสมัยคุณจารุณีหรือมยุรายังสาวอยู่แน่ๆค่ะเพราะแอบน้ำเน่ายุงชุมพอดูทีเดียว)

    เรื่องถัดมาเกี่ยวกับเวลาที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องตรงต่อเวลาค่ะ ตามสูตรไหนๆก็ตามมักบอกว่านางเอกน่ะต้องมาช้ากว่าพระเอกเข้าไว้เพื่อไม่ให้นางเอกดูออกแนวเดสพอเรส (desperate) จนเกินงาม แต่คุณอู๋มีความเห็นต่างไปค่ะ คุณอู๋คิดว่าเรื่องตรงเวลาตอนออกเดทเนี่ยสำคัญ(แต่เรื่องเวลาเข้างานน่ะก็ว่าไปอย่าง เอ...สงสัยคุณอู๋เราดับเบิ้ลสแตนดาร์ดไปนิด) คิดดูสิคะว่าถ้าผู้หญิงมาช้าล่ะก็ผู้ชายเค้าอาจจะคิดก็ได้ว่ายัยผู้หญิงคนนี้ทำตัวอืดอาด แต่งงานไปเนี่ยสงสัยคงตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกกินหรือส่งลูกไปโรงเรียนไม่ทันแน่ๆ แต่จะว่าไปแล้วผู้หญิงสายน่ะก็ไม่น่าเกลียดเท่าฝ่ายชายหรอกค่ะ สำหรับคุณอู๋แล้วเนี่ยถ้าฝ่ายชายมาช้ากว่า (โดยไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้น) ล่ะก็เตรียมเซย์โนไปเลย คบแล้วท่าทางจะไม่เวิร์ค แต่งงานกันไปสงสัยจะฉายแววกลับดึกไม่ยอมกลับมาทำการบ้านแน่ๆเลย อย่างเช่นตอนปีแรกที่คนอู๋มาทำงานเมืองผู้ดีก็ออกเดทกับหนุ่มไทยคนนึง จะว่าไปหน้าตาก็ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้แต่เนื่องจากหาใครอื่นไม่ได้แล้วก็เลยลองไปดู แรกๆที่ไปเดทกันเนี่ยนัดห้าโมงเจอห้าโมง นัดหกโมงบางทีมารอคุณอู๋ตั้งกะครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า แต่พอห้าหกเดือนผ่านไปเริ่มออกแววคุณชายเสด็จสายค่ะ มีครั้งนึงนัดกันซะดิบดีว่าเจอกันหกโมงเย็น คุณอู๋ก็ไปตรงเวลาพอดี แต่แล้วห้านาทีผ่านไปมันก็ยังไม่มา สิบนาทีก็แล้ว สิบห้านาทีก็แล้ว ก็ยังไม่โผล่หัวมาซักที คุณอู๋เริ่มวิตกค่ะว่าเอ...รึว่ามันเดินๆอยู่แล้วโดนรถชนรึเปล่าเนี่ย เลยโทรหาด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วพอมันรับสาย ต๊าย...น่าเกลียดมากค่ะ บอกว่าเพิ่งเลิกเล่นบาสเสร็จกำลังจะออกมาแล้วจากโรงยิม นี่แหละน้าพวกไม่สม่ำเสมอ อย่างนี้มันต้องเจอบทเรียนค่ะ คุณอู๋ก็เลยไปกินที่ร้านเองซะเลย ไม่รงไม่รอมันแล้ว ไม่ใช่อารมณ์งอนหรอกนะคะแต่เป็นอารมณ์ที่ว่ามันเรื่องอะไรที่ต้องไปทนหิวทรมานตัวเองด้วยการรอใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักคำว่าตรงเวลา พอกินเสร็จคุณอู๋จ่ายตังค์ปั๊บก็กลับบ้านเลยค่ะ ปล่อยให้คุณชายเสด็จสายเสียเวลาเดินทางมาเปล่า นี่แหละค่ะ สาวๆต้องทำตัวแกร่งแบบนี้เข้าไว้นะคะผู้ชายจะได้รู้ว่าเราไม่ใช่ของตาย

    2. สถานที่: เมื่อก่อนเวลาดูหนังฝรั่งทีไรมักจะเห็นว่าพระเอกน่ะชอบพานางเอกไปร้านอาหารไฮโซบรรยากาศดีริมทะเลรึบนเขา ในร้านอาหารก็จะประมาณว่ามีโต๊ะอาหารตัวเล็กกระจิ๊ดริ้ด (ไว้ให้พระเอกเอื้อมมือไปตบแมลงวันที่มาตอมอาหารนางเอกมั้งคะเนี่ย) ตรงกลางโต๊ะก็จะมีดอกกุหลาบสีแดงก้านยาวกลิ่นหอม (ที่สงสัยเอาไว้กลบกลิ่นกายคู่เดทที่ไม่ได้อาบน้ำเป็นแน่) แล้วที่สำคัญ ขาดไม่ได้เลยเนี่ยก็คือเทียนแท่งยาว (ที่ไว้ตบความเนียนให้ใบหน้าและขณะเดียวกันก็กลบเกลื่อนรอยตีนกาและฝ้าไปด้วย) ระหว่างทานข้าวอยู่นั่นเองก็จะมีเสียงเปียโนรึไวโอลินให้ได้ยินเป็นแบคกราวน์ ฟังแล้วโรแมนติคมากค่ะ คุณอู๋ก็เคยหวังอย่างนั้นเหมือนกันว่าตัวเองอาจจะมีโอกาสเหมือนบริดเจด โจนส์ที่มีคนดีๆแบบมาร์ค ดาร์ซี่พาไปร้านหรูที่อ๊อกโซทาวเวอร์ใจกลางลอนด้อน แต่จนแล้วจนรอดค่ะ สามปีผ่านไป คุณอู๋ไปออกเดททีไรไปใกล้ฝั่งฝันมากสุดได้แค่ร้านอาหารใจกลางไชน่าทาวน์ที่แบบว่าเดินๆอยู่บางทียังเห็นหนูวิ่งเต้นรำเริงร่ากันยังกะออกปาร์ตี้งั้นแหละ โธโธ่โธ๋ สงสัยชาติที่แล้วคุณอู๋คงทำบุญมาน้อยมั้งคะ ไอ้ที่จะหวังว่ามีเทียนรึดอกกุกลาบอะไรบนโต๊ะเนี่ยก็เลยได้แต่ฝัน โต๊ะตัวจิ๋วส่วนตัวที่มีไว้ให้พระเอกมาเอื้อมจับมือ เอ้ย! ตบแมลงวันเนี่ยก็กลายเป็นโต๊ะจีนตัวเบ้อเร่อเท่อที่นั่งกันได้เป็นสิบคนไปซะงั้น แถมบางทีต้องแชร์กับคนอื่นอีกด้วย เพราะงั้นไอ้ที่จะแอบมีอารมณ์โรแมนติคอะไรเนี่ยไม่ต้องไปหวังเลยค่ะ แค่จะฟังว่าอีกฝ่ายพูดอะไรก็แทบไม่ได้ยินอยู่แล้ว อ๊ะอ๊ะ ไม่ใช่เพราะเสียงเปียโนรึไวโอลินมันดังหรอกนะคะแต่เป็นเพราะร้านอาหารจีนเนี่ยระดับเสียงเดซิเบลเข้าขั้นทำลายหูชั้นกลางได้เลย เพราะงั้นสรุปค่ะว่าออกเดทครั้งแรกเนี่ยขอแนะนำว่าไปร้านอาหารเงียบๆดีกว่า

    3.อาหาร: หนุ่มๆสาวๆทั้งหลายคงรู้ดีว่าเดทแรกควรหลีกเลี่ยงการกินก๋วยเตี๋ยวหรือสปาเก็ตตี้ด้วยเหตุผลง่ายๆก็คือเวลากินแล้วมันดูไม่งามถึงมันจะอร่อยสุดๆก็เถอะ หลายคู่จึงนิยมสั่งอาหารจานเดียวดูเล็กๆแอบน่ารัก (ก็แน่ละ ลองสั่งอาหารชุดโตมาสิ สาวแขนเล็กตัวบางอาจจะกลายล่างเป็นเด็กเอธิโอเปียโชว์พุงป่องออกมาไม่รู้ตัวทีเดียว) แต่กระนั้นคุณอู๋ก็ขอเติมลิสต์อาหารต้องห้ามอีกนิดหน่อยเพื่อไม่ให้นางยักษ์ที่สิงร่างนางเอกเผยโฉมออกมาก่อนเวลาอันสมควร ของที่ว่ามีดังนี้ค่ะ

    - ปูหรือล็อบเสตอร์ (อันนี้กินยากไม่พอยังมีสิทธิแอบฟันบิ่นกลางเดทได้อีกด้วย)

    - ไข่ปลาคาเวียร์ดำ (ฟังแล้วไฮโซแต่ติดร่องฟันตัวดีเชียวค่ะ ดีไม่ดีกินๆอยู่เนี่ย ยิ้มออกมากลายเป็นคุณยายเคี้ยวหมากฟันดำไปเลย)

    - ของต้องกระเทียม บางคู่ทำผิดคิดการณ์สั้นค่ะสั่งอาหารที่เต็มไปด้วยกระเทียม เช่นหมูทอดกระเทียมรึกุ้งแช่น้ำปลา กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่จะคิสกู๊ดบาย ปากเข้าใกล้กันยังไม่ถึงสิบนิ้วเลยกลิ่นกระเทียมก็โชยมาทันที หมดมู้ดทั้งสองฝ่ายไปเลย

    ฉบับนี้ได้แนะนำเคล็ดลับการออกเดทครั้งแรกไปแล้วสามประการ หวังว่าคงมีประโยชน์ให้กับคุณสาวๆที่เตรียมตัวออกเดทในอนาคตนะคะ แต่ขอแอบเตือนนิดนึงว่าอ่านแล้วก็ชั่งใจกันหน่อยว่าควรทำตามรึเปล่าเพราะคุณอู๋เองก็ยังเป็นขาโสดตัวยงจนถึงทุกวันนี้ ฉบับหน้ามาติดตามเคล็ดลับอื่นๆอันได้แก่การจ่ายเงิน ฉากร่ำลา และเรื่องราวของวันหลังเดทกันนะคะ อดใจรอกันแป๊บนึงค่ะ

    คุณอู๋


    ถามคุณอู๋ (Ask Nissy)
    Q: อยากถามคุณอู๋ค่ะว่าแหม่มเมืองผู้ดีเนี่ยเค้ามีอะไรกับผู้ชายตอนเดทครั้งแรกเหมือนที่เคยดูในหนังมั้ยคะ ที่เมืองไทยใครทำอย่างนั้นมีหวังชาวบ้านประจานกันน่าดูว่าออกแนวแรดอ่ะค่ะ คุณอู๋เห็นว่าสมควรมั้ยคะถ้าจะทำอย่างนั้นบ้าง แล้วคุณอู๋จะทำมั้ยคะ (จากก๋วยเตี๋ยวปากช่อง)

    A: ก็มีบ้างแหละค่ะที่เค้ามีอะไรกันตอนเดทแรกแต่ก็เป็นสิทธิของเค้า คนที่นี่เค้าไม่ค่อยแคร์กันว่าใครจะทำอะไร ส่วนที่ถามว่าตัวคุณอู๋คิดว่าสมควรรึเปล่าก็ตอบไม่ถูกเพราะแต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน เรื่องแบบนี้ถ้าไม่รบกวนหรือทำร้ายใครก็คงไม่ผิดหรอกมั้งคะ แต่ถ้าถามว่าคุณอู๋จะทำรึเปล่าเนี่ยก็คงไม่เพราะคุณอู๋เองน่ะออกแนวหัวค่อนข้างโบราณ คาดว่าคงเป็นไดโนเสาร์รุ่นสุดท้ายที่คิดแบบนี้แน่ๆ (แต่คิดว่าคงไม่ใช่ตัวเดียวแน่นอน เชื่อว่ามีอยู่อีกหลายตัวในโลกนี้ เอ้า! ชาวไดโนเสาร์ทั้งหลายรายงานตัวด่วนด้วยค้ะ)

    ป.ล.ถ้าคุณนักอ่านคอลัมน์มีคำถามอยากถามคุณอู๋เรื่องสาวออฟฟิสเมืองผู้ดีสามารถส่งอีเมล์มาได้ที่ ns_nissy@yahoo.com จะนำมาตอบเรื่อยๆค่ะ

    จากคุณ : คุณอู๋ - [ 2 พ.ย. 51 18:02:34 A:86.146.14.227 X: TicketID:184548 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com