Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ประสบการณ์เฉียด เกือบโดนส่งกลับไทย..!!!!!!!!

    สวัสดีค่ะ พี่ๆเพื่อนๆทุกคนวันนี้เรามีเรื่องเล่าที่เรื่องอาจจะเก่าหน่อย แต่ไม่เก่ามากเพราะเกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้เอง แต่เห็นว่าช่วงนี้โรบินฮู้ดโดนจับบ่อยเหลือเกิน เลยเอามาเล่าๆสู้กันฟังเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง

    ต้องเกริ่นเรื่องก่อนค่ะ เรามาอยู่ที่เมกาแรกๆเริ่มจากการมาเป็นออร์แพร์ (แนนนี่) ได้วีซ่า J1 คืออยู่ได้ 1-2ปีเท่านั้น แต่พอดีว่าเราแต่งงานก่อนจบโครงการในปีแรก ฉะนั้นวีซ่าเราก็อยู่ที่เมกาได้แค่ปีเดียวค่ะ และเท่ากับตอนนั้นเราวีซ่าหมดแล้ว แต่เนื่องจากแต่งงานกับคุณสามีเกือบ 1ปี และก็กำลังรอสัมภาษณ์กรีดการ์ด ก็เท่ากับว่าเราอยู่ทีเมกาได้อย่างถูกกฎหมาย

    ... เรื่องคือ เมื่อวันที่ 28กพ. - 3 มีนา เราไปเยี่ยมเพื่อนรักชื่อเอ็ม ที่ KANSAS ซื่งเพื่อนเป็นออร์แพร์ แต่แต่งงานแล้วเหมือนเรา แต่ยังทำงานเป็นออร์แพร์อยู่ เอ็มต้องตาม Host Family ซึ่งทั้งคู่เป็นทหารเลยต้องย้ายไปอยู่ในค่ายทหาร ซึ่งเวลาเข้าค่ายเนี่ย ต้องมีการตรวจบัตรอย่างรัดกุมมาก คนที่อยู่ในค่ายจะมีสติกเกอร์ติดรถ ซึ่งถือว่าสามารถเข้าออกได้แต่ก็ยังต้องตรวจบัตร ID แต่ถ้าคันไหนไม่มีสติกเกอร์เนี่ย ต้องจอดรถและถูกค้นรถก่อน จึงจะเข้าไปในค่ายได้ อย่างที่บอกค่ะ

    เราไปตั้งแต่ วันที่ 28กพ. เข้า ออก ก็ยื่นหน้าวีซ่าให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็ให้ผ่านได้ แถมยังยิ้มให้อีกน่ะ

    ..... แต่เรื่องเกิดวันที่ 1 มีนา เวลา 10.00 pm. (จำได้แม่นเลย) หลังจากช็อปปิ้งกลับมา ก็ทำเหมือนเดิมทุกอยางค่ะ เจ้าหน้าที่คนเดิม (ซื่งคนนี้ตรวจเราทุกครั้ง) แต่คราวนี้ เค้าบอกเราว่าวีซ่าเราหมดอายุน่ะ เราก็บอกเค้าไปว่าเราแต่งงานกับคนเมกันน่ะ เค้าก็เลยโทรเค้าไปในค่าย แล้วเค้าก็ให้เพื่อนเราขับรถไปจอดในที่จอดกักตัวไว้ 15 นาทีค่ะ มีตำรวจทหารนึงคนเดินมา ถามลายละเอียด เราก็บอกว่าแต่งงานน่ะ สามีชื่อนี้ .. ที่อยู่.... หมายเลข SSN (social secerity no.) แล้วเค้าก็เดินกลับไปยังที่ที่เค้ามา

    อีก 15 นาทีค่ะ มีรถตำรวจทหารนึงคัน มากันในรถ 2 คน คนนึงเดินเข้ามาหาเรา ถามคำถามเดิมแบบคนเหมือนกี้ แล้วย้ำว่าแต่งงานแล้ว?? แล้วเดินกลับไป ระหว่างนั้นเราเห็นเค้ามุงดูวีซ่า กับบัตรใบ Employment Authorization Card ซึ่งทาง Immigration ส่งมาให้ มีทั้งรูป ลายนิ้วมือ ชื่อและนามสกุลของเรา (เรายื่นให้ตำรวจคนแรกไปค่ะ เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง)

    หลังจากนั้น 15 นาที มีรถตำรวจทหารมาอีก 2 คัน ตอนนี้มี 3 คัน ตำรวจทหาร 6 คน ระหว่างนั้นโฮสของเอ็มเค้าก็มาค่ะ เค้าก็คุยกับตำรวจคนแรก แล้วทหารตำรวจ 4 ใน 6 คน เดินเข้ามาทางเรา 2คน เอ็ม 2 คน แล้วมาเชิญเราทั้งสองไปที่สถานี

    เชื่อมั้ยค่ะ ว่าความรู้สึกตอนนั้นมันน่ากลัวมาก เหมือนเราเป็นนักโทษประหารเลย เราเดินนึงก้าว เค้าตามเรานึงก้าว เรากับเอ็มต้องแยกรถกัน พอเข้าไปนั่งในรถ ทหารตำรวจคนนึงขับรถ คนนึงนั่งข้างๆเรา มือจับปืนไว้ตลอดเวลา

    พอถึงสถานีแล้วมีทหารตำรวจอีก 2 คน ช 1 ญ 1 เดินออกมารับ ตอนนั้นทหารตำรวจ 6 คน เดินคุมเราและเอ็ม เข้าไปถึงสถานี เค้าให้เราถอดเสื้อหนาวออก เอาของทั้งหมดออกจากกระเป๋า แล้ววางไว้ที่ชั้น ให้เราและเอ็มแยกห้องกันนั่ง สภาพห้องก็เป็นห้องเล็กๆค่ะ เหมือนห้องขัง แต่ไม่มีกรง เป็นประตูแทน

    เค้าก็ให้เราทั้งสองคนนั่งรอ รอนานมากค่ะ ประมาณ ครึ่งชม.ได้ ทหาร ญ เดินมาขอ SSN no.จากเรา แล้วเค้าก็หายเข้าไปในห้อง อีกเกือบครึ่งชม. เค้าเดินกลับมาหาเราอีกค่ะ แล้วก็ถามว่าอยู่ที่ไหน มีเอกสารอะไรอื่นติดตัวมั้ย เราก็บอกไม่มีค่ะ เพราะว่าเยี่ยมเพื่อนแค่ไม่กี่วัน ทุกอย่างอยู่ที่บ้าน

    เค้าก็เดินกลับไปที่ห้องเดิม อีกประมาณ 15 นาทีเค้าก็เดินกลับมา บอกเราว่าเค้าไม่เห็นข้อมูลใดๆทั้งสิ้นจากหมายเลข SSN ที่เราให้เค้า ทุกอย่างว่างเปล่า เท่ากับว่า ตอนนั้น สำหรับพวกเค้าแล้ว เราเป็นคนผิดกฏหมายจริงๆ แล้วเค้าบอกเราว่าให้รอ 1 1/2 ชม. ทาง Immigration จะมารับตัวเรา

    แล้วเค้าก็เดินไปหาเอ็มค่ะ เพราะว่าโฮสเอ็มเค้ากลับไปเอาใบสมรสมาโชว์ให้ตำรวจ ญ คนนั้น เอ็มเลยถูกปล่อยตัว เอ็มก็ถามเค้าว่า แล้วเราหล่ะ เค้าก็ส่ายหน้าค่ะ บอกว่าอาการแย่มากๆ เอ็มก็ถามว่าเป็นไปได้ไง ทั้งๆที่เราแต่งงานก่อนเอ็มอีก

    ..... พอเค้าได้ยินที่เอ็มพูด เค้าก็ทำท่าตกใจค่ะ บอกว่าอ้าวแต่งงานจริงๆหร๋อ แล้วเค้าก็รีบเดินมาหาเราค่ะ ถามว่าสามีชื่ออะไร ถามข้อมูลเยอะมาก แล้วหายเข้าไปในห้องอีก 10 นาทีค่ะ ระหว่างนั้นเราโทรไปหาคุณสามี คุณสามีก็เลยให้เราจดหมายเลข Application No. จากเอกสารที่ทาง Immigration ส่งมาให้ที่บ้านค่ะ

    อีกไม่นาน ตำรวจ ญ คนนั้น เดินกลับมายิ้มให้เราบอกว่าเค้าเจอข้อมูลของเราแล้ว แล้วหมายเลข Application No.ที่เรามีก็ตรงกับที่เค้าเจอด้วย เค้าเลยบอกเราว่า ที่หลังจะไปไหนอีก ให้พกใบสมรส , SSN (ต้องพกค่ะ เค้าบอกอย่างนั้น) หรือเอกสารที่ยื่นยันว่าเราอยู่อย่างถูกกฏหมาย เค้ายังบอกอีกว่า Application No. เนี่ยช่วยชีวิตเราไว้น่ะ ไม่อย่างนั้น เราโดนส่งกลับเมืองไทยแน่นอนค่ะ ......
    ..................ก็เลยอยากเอาประสบการณ์ของตัวเอง มาเตือนเพื่อนๆพี่ๆอ่ะค่ะ ว่าพกเอกสารสำคัญติดตัวด้วย เพราะที่เราเจอมากับตัวบอกได้เลยว่า น่ากลัวมาก

    จากคุณ : thanda6 - [ 20 พ.ย. 51 08:33:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com