ความคิดเห็นที่ 1 . . สวัสดีค่ะ  คุณ พธูไทย คู่ดิฉันยังไม่มีลูก แต่เห็นหัวข้อน่าสนใจ เลยอยากขอร่วมคุยด้วยคนค่ะ  .. ดิฉันอ่านแล้วก็นึกถึงคุณแม่ของตัวเอง เพราะในสมัยที่ดิฉันอายุเท่าน้องตองตัง  ดิฉันก็โดนคุณแม่ " อั ด " ให้ทำกิจกรรมสารพัดอย่าง คือ โดนตั้งแต่ ให้เรียนว่ายน้ำ เรียนดนตรีสากล ดนตรีไทย เรียนรำ เรียนเต้น เรียนตีแบต ตีเทนนิส เรียนศิลปะแขนงนั้นแขนงนี้ เรียนเสริมภาษาอังกฤษ เรียนเสริมวิชาเลข เรียนคัดลายมือ ...ฯลฯ พอดิฉันขึ้นประถมสอง ก็มีโอกาสเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ   โห .. แม่ยิ่งภูมิใจในตัวดิฉันมากเข้าไปอีก แน่นอนว่าตารางชีวิตของดิฉันมันยิ่งแน่น และหนักกว่าเดิม  ... ทุกๆวันต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อซ้อมว่ายน้ำจนถึงเวลาหลังเคารพธงชาติ จากนั้นก็เข้าเรียนตามปกติ   พอเลิกเรียนบ่ายสามโมงกว่าก็มาซ้อมว่ายน้ำต่อ กลับบ้านแต่ละวันก็สี่ห้าทุ่มเป็นประจำ ซึ่งนอกจากกิจกรรมว่ายน้ำนี่แล้ว ไอ้พวกเรียนพิเศษเสริมทั้งหลายอย่างที่ดิฉันเกริ่นมาข้างบนนั้น ก็ยังต้องทำอยู่ คือเป็นกิจกรรมที่ต้องทำทั้งวันธรรมดา ไม่เว้นวันเสาร์อาทิตย์และช่วงปิดเทอม ดิฉันเริ่มรู้สึกว่าโลกของตัวเองมันไม่เหมือนกับเพื่อนรอบตัว   ดิฉันไม่ค่อยจะได้มีเวลาเล่นหัวกับเพื่อนๆ  ไม่มีเวลาแม้กระทั่งทำการบ้าน เสาร์อาทิตย์ก็ต้องตะลอนอยู่บนรถเพื่อให้แม่ขับพาไปส่งตามสถานที่เรียนพิเศษต่างๆ ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกค่ะว่า ไอ้การเป็นนักกีฬามันดีต่อตัวดิฉันตรงไหน และกิจกรรมต่างๆที่ทำมากขนาดนั้นมันจะส่งผลยังไงกับตัวเองในอนาคต   คือแรกๆ ที่เริ่มทำ เรี่ยวแรงความสดใสมันก็มีเหลือเฟือ  มันก็สนุก มันแปลกใหม่ มันก็เพลินๆ ดี  เรายังเด็ก พอทำไปทำมาจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ดิฉันก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว  มีงอแงบ้างแต่ก็ยังฝืนทำมาเรื่อย ที่เป็นแบบนั้นเพราะ พอทำตามที่แม่ให้ทำแล้วแม่ดูมีความสุข แม่บอกว่าดี แม่บอกว่าให้เชื่อแม่   แม่ดิฉันมักจะบอกประโยคเดิมๆว่า .. แม่รู้หนูทำได้  เชื่อแม่สิ แม่รู้มันจะมีประโยชน์กับตัวหนูในอนาคต หนูยังเด็กหนูยังไม่รู้ว่าต้องการอะไรหรือเก่งอะไร แม่เลยอยากให้หนูได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างจะได้หาตัวเองเจอ ปัจจุบันนี้ มาถึงจุดนึงที่ตัวเองโตขึ้น ทักษะจากการเรียนเสริมพวกนั้นมีบางอย่างก็ได้เอามาใช้ในชีวิตนะคะ  แต่บางอย่างก็เหมือนสูญเปล่า   ให้นึกไปถึงวัยเด็กช่วงประถม-มัธยมของตัวเอง ดิฉันกลับนึกภาพวัยเด็กของตัวเองที่เล่นซนตามประสาไม่ค่อยจะออก ทั้งๆที่ก็พยายามนึกแล้วนึกอีก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ดิฉันคงอยากให้เป็นลักษณะที่เราสนใจอยากเรียนอะไร แล้วค่อยขอความสนับสนุนจากแม่มากกว่า เพราะดิฉันไม่อยากโดนอัดให้ทำกิจกรรมแบบนั้นอีก ถ้าดิฉันมีลูก ก็คงให้ลูกตัวเองทำกิจกรรมแบบพอประมาณ ไม่มากไปหรือน้อยเกินไป แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ ดิฉันก็ไม่รู้หรอกว่าแบบไหนถึงเรียกว่า "พอดี"  เพราะดิฉันเชื่อว่า หัวอกแม่ทุกคน อยากให้ลูกตัวเองได้สิ่งที่ดีที่สุด ดิฉันมาคุยแบบนี้เหมือนไม่ได้ช่วยตอบคำถามอะไรเลย ออกแนวมาบ่นให้ฟังซะอีก แหะ แหะ  ... จากคุณ : MollyJinx - [ 20 พ.ย. 51 22:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปีนี้ทำกิจกรรมน้อยค่ะ เพราะว่าปีที่แล้วทำเยอะแล้วทุกคนในครอบครัวเหนื่อยกันเกิินไปค่ะ สองสาวต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน ต้องไปถึงจุดรับส่งรถโรงเรียนตอนแปดโมงเช้าเป๊ะๆ เพราะฉะนั้นต้องเข้านอนก่อนสองทุ่มครึ่งทุกคืนค่ะ ไม่งั้นเหนื่อย ตื่นไม่ไหวตอนเช้า ปีนี้เป็นปีแรกที่เรียนเต็มวันด้วยค่ะ เพื่อความสงบสุขของครอบครัวเลยทำแค่ 3 กิจกรรมค่ะ (วันจันทร์มีไปห้องสมุดด้วยค่ะ แต่ไม่ถือเป็นกิจกรรม ถือเป็นกิจวัตรประจำอาทิตย์ค่ะ) 1. เรียนว่ายน้ำแบบตัวต่อตัว 30 นาทีต่อสัปดาห์ 5:30-6:30 pm วันพุธ (พ่อแม่ไปทั้งคู่) 2. ทำกิจกรรมเกริล์สเกาท์ 1 ชั่วโมงครึ่งต่อสัปดาห์ 4:30-6 pm วันพฤหัส (พ่อส่ง แม่ไปรับ) 3. เรียนยิมนาสติก 1 ชั่วโมง วันเสาร์เช้า (แม่ส่ง แม่รับ) ปีที่แล้วพบว่าตัวเองเครียดมาก เพราะต้องเร่งลูกๆให้พร้อมไปทำิกิจกรรมตลอดเวลา พอเครียดพอเหนื่อยแล้วจะโมโหง่ายน่ะค่ะ หลุดกับลูกๆบ่อย ไม่ชอบตัวเองเลย คือเรื่องกิจกรรมนี่มันไม่ใช่แต่ของเด็กนะคะ มันเป็นเรื่องของเวลาของทุกคนในครอบครัวด้วยน่ะค่ะ ทำเยอะก็เหนื่อยกันไปทั้งบ้าน ถ้าทำกิจกรรมตอนเย็น คนวุ่นก็คือตัวเอง ต้องคิดว่าจะทำกับข้าวเย็นอะไร ทำตอนไหน ทานกี่โมง ทานอะไรดีที่ทำง่ายๆเร็วๆ ปวดหัวค่ะ ตอนนี้ทุกวันพุธมีปัญหาเรื่องอาหารเย็น เพราะตัวเองกลับถึงบ้านห้าโมงเย็น ต้องรีบจัดของเตรียมไปเรียนว่ายน้ำ หาของว่างให้ลูกๆทาน จับเด็กๆขึ้นรถบึ่งไปที่เรียนว่ายน้ำ เรียนเสร็จจับอาบน้ำสระผม กว่าจะเสร็จก็ครึ่งชั่วโมงหลังจากเรียนเสร็จ ทุ่มนึง ลูกๆหิวแล้วค่ะ จะให้ออกไปทานข้างนอกทุกพุธก็ไม่ไหวเหมือนกัน ต้องประหยัดน่ะค่ะ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าวันพุธตอนเย็นจะทานแพนเค้กกันเป็นอาหารเย็น เพราะทำง่ายและเร็วค่ะ ทานกับผลไม้และแฮมที่แค่อุ่นก็เสร็จแล้ว หน้าที่แ่ม่นี่คิดๆแล้วมันวุ่นหัวหมุน แต่ก็สนุกดีนะคะ ถ้าเราไม่ไปเครียดกับมันมากเกินไป บางวันมาคิดๆ ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองสามารถจดจำสิ่งต่างๆที่ลูกๆต้องทำได้ทุกวัน ทุกอาทิตย์ ทั้งที่โรงเรียน (วันไหนเป็นวันเรียนพละ เรียนศิลปะ เรียนดนตรี วันไหนเป็นวัน share day) ทั้งกิจกรรมนอกโรงเรียน ไหนๆเขียนเยอะแล้ว เขียนต่ออีกหน่อยว่า เคยมีอยู่ช่วงมันวุ่นวายมาก ลืมจ่ายบิลล์ต่างๆค่ะ ลืมไปเลยเดือนนึง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกอย่างจ่า่ยออนไลน์หมด ตอนนี้ไม่ต้องเขียนเช็คส่งค่าอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างตัดจากบัญชีอัตโนมัติหมด ตัดสิ่งที่ต้องทำออกไปจากชีวิตหนึ่งเรื่องค่ะ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 20 พ.ย. 51 22:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รีบเข้ามาอ่าน เอาไว้เป็นประสบการณ์คนแรกค่ะ คุณพธูไทย ตอนนี้ดิฉันท้องลูกสาวได้เกือบจะ 6 เดือนแล้วค่ะ ท้องเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นทุกวัน ถ้าจำไม่ผิดช่วง 3 เดือนหลังก่อนคลอดนี่ท้องขยายใหญ่เร็วมาก  เลยไม่ได้ทำกิจกรรมกับลูกชายคนโตมากนัก แต่เลี้ยงเองทุกวันค่ะ กิจกรรมที่ให้ทำแต่ละวัน ก็จะมีให้ระบายสี ต่อตัวต่อเลโก้ เรียนรู้คำศัพท์จากรูปภาพ ฝึกระเบียบวินัยในกิจวัตรประจำวัน แล้วก็ให้เต้นตามจังหวะเพลง ตอนเย็นสามีกลับจากทำงาน ก็มานั่งคุยกับลูกชาย วันนี้ทำอะไร ไปไหนกับหม่ามี๊มามั่ง หม่ามี๊ทำอะไรให้กิน แล้วสามีก็จะเล่นกับลูก สอนเล่นเปียโนบ้าง ถ้าลูกอยากจะเล่น ประมาณหนึ่งทุ่มสามีก็ป้อนข้าวลูก พาลูกไปอาบน้ำ พอได้เวลาลูกจะนอน สามีก็พาขึ้นไปอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง อ่านแบบชวนคุย ถามนั่น นี่ให้เขาพูดโต้ตอบอ่ะค่ะ ทุกวันเสาร์ช่วงสายๆ ก็พาไปเล่นที่สนามเด็กเล่น แล้วก็พาเขาไปว่ายน้ำต่อ ช่างเย็นก็ไปเล่นบ้านเพื่อนที่ลูกเขาเกิดปีเดียวกันกับแดเนียลค่ะ บางทีก็เชิญเขากับลูกมาเล่นที่บ้านเราค่ะ เพิ่งรู้ว่าเด็กที่นี่ มีเรียนพิเศษตอนเลิกเรียนด้วยอ่ะค่ะ เหมือนสมัยเราเรียนอยู่เมืองไทยเลย จากคุณ : Ma Vie en France - [ 20 พ.ย. 51 22:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พยายามหากิจกรรมให้ลูกทำเหมือนกันค่ะ แต่ต้องพยายามเพลาๆเพราะอะไรๆก็อยากพาลูกไปทำหมด แต่จริงๆตารางมันก็เต็มแล้ว ตอนนี้ลูกสี่ขวบ ไปเรียนเต็มวัน วันจันทร์กับศุกร์ เลิกเรียนแล้วไป karate class วัน วันพุธเลิกเรียนไปซ้อม soccer วันเสาร์เช้ามีแข่ง soccer รวมแล้วกิจกรรมสี่วันต่ออาทิตย์ ไปรับไปส่งหัวหมุนเลย แมรับส่งคนเดียวค่ะ เพราะเราทำงานอยู่บ้าน ซิ่งออกไปรับลูกไปทำกิจกรรมเร็วกว่ารอพ่อกลับจากที่ทำงาน วุ่นวายเรื่องทำอาหารเย็นด้วย วันไหนมีกิจกรรมคือต้องคิดๆว่าจะทำอะไรทานดีตอนเย็น เพราะกลับมาบ้านหกโมงครึ่งลูกก็หิวแล้ว อีกแป้บนึงก็จะอาบน้ำนอนแล้ว เลยพยายามทำพวกที่มันง่ายๆเช่น quesadilla, taco, หรือไม่ก็จับอะไรต่อมิอะไรลง crock pot ตั้งแต่เช้า  (วงเล็บให้แม่ลูกแฝด ทำ cheese quesadilla สิคะ ซื้อแผ่น  tortilla มา แล้วซื้อ shredded mexican cheese มาถึงก็โปะๆลงกระทะ แล้วหั่นๆเป็นชิ้นสามเหลี่ยม ได้ทานภายในสามนาที ผักก็เอาแครอทกะดิ้บ หรือไม่ก็ปอกแอ้บเปิ้ล องุ่น สตอเบอรี่ ผลไม้อะไรก็ได้ เป็น meal แล้วค่ะ) จริงๆแล้วอยากจะพาลูกไปเรียน golf ด้วย แต่แค่นี้ตารางก็แน่นแล้ว เลยรอไปก่อน รอให้โตกว่านี้ก่อนอาจจะให้เรียนอาทิตย์ละครั้ง แต่ที่เรียนทั้งหมดนี่ลูกชอบนะคะ เค้าสมัครใจเรียน ไม่ได้บ่นอะไร (แต่แม่เหนื่อย หึหึ) ไม่อยากอัดแน่นไปกว่านี้ กะว่าถ้าอันไหนเค้าไม่ชอบ ก็จะไม่บังคับ อย่างเมื่อต้นปีมีกิจกรรม soft ball แต่ลูกไม่ชอบก็เลยไม่ได้ไปอีก (พึ่งจะรู้ว่าพอลูกโตแล้วเหนื่อยพอๆกะตอนลูกเล็กๆเลย เพราะต้องไปรับไปส่งวุ่นวาย นึกว่าโตแล้วจะสบายซะอีก)   : ) จากคุณ : มิมิมิมิมิ - [ 21 พ.ย. 51 03:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณแม่คุณ MollyJinx เป็นซุปเปอร์คุณแม่เลยนะคะเนี่ย คือกิจกรรมของลูกเนี่ยมันไม่ได้เป็นแค่ของลูกจริงจริงเลย มันเป็นของแม่ด้วย จริงจริงแล้วอยากเป็นแม่ยอดมนุษย์แบบนี้เหมือนกันเลยนะเนี่ย   กิจกรรมพวกเนี้ย เป็นตัวเปลืองเงินมากมากเลย บางอันไปแล้วไม่เหมาะกับลูกมั่ง ลูกไม่ชอบมั่ง ตังค์ก็เสียไปแล้ว ตอนหลังเลิกหมดเลย เหลือกีฬาอย่างนึง ดนตรีอย่างนึง   ไว้เค้าโตแล้วอยากเรียนไรค่อยไปสนับสนุนตรงนั้นดีกว่า พ่อเค้าพาไปเล่นซอคเกอร์อาทิตย์ละครั้ง ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง ดนตรีอาทิตย์ละครั้ง ครั้งละสามสิบนาที แต่ต้องซ้อมทุกวัน วันละสามสิบถึงสี่สิบนาที ในความเป็นจริงทำไม่ค่อยได้ทุกวันหรอกคะ ไม่มีเวลา มีให้ทำแบบฝึกหัดเลขของคุมองด้วย วันละยี่สิบนาที อีกอันนึงเรียนภาษาจีนอาทิตย์ละครั้ง ครั้งละสองชั่วโมง การบ้านภาษาจีนพยายามให้ได้วันละยี่สิบนาที แต่ในความเป็นจริงก็ทำไม่ได้ทุกวันเหมือนกัน เริ่มปีหน้าจะให้ลูกไปอยู่บ้านเพื่อนหลังโรงเรียนเลิก ลูกเพื่อนเก่งหมากรุก ก็คงได้เล่นหมากรุกทุกวัน ถ้าอยู่ใกล้ใกล้กัน จะให้ตองตังมาเล่นหมากรุกด้วย ลูกเราก็ชอบเล่น แต่ไม่มีเพื่อนเล่น ถึงฤดูร้อนก็มีว่ายน้ำเพิ่มมาอีกอย่างนึง จากคุณ : blueprint - [ 21 พ.ย. 51 03:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณห้ามิ คือ cheese quesadilla นี่ ลูกคนนึงทานอีกคนไม่ทานน่ะค่ะ ยุ่งมาก คนนึงชอบทานแพนเค้ก อีกคนนึงชอบทานวาฟเฟิล คนนึงทานซอสมะเขือ อีกคนไม่ทานซอสมะเขือ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเลี้ยงมาเหมือนกันทุกอย่าง แต่ชอบไม่เหมือนกันเลยค่ะ นี่ขนาดยังไม่รวมให้อาหารหมาด้วยนะคะ เพราะเจ้าหมาที่บ้านก็เรื่องมากพอตัวค่ะ อาหารเม็ดเฉยๆก็ไม่ทานต้องคลุกนู่นคลุกนี่ ว่าไปเย็นนี้ยังไม่รู้จะทำอะไรทานกันเลยค่ะ :) จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 21 พ.ย. 51 04:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กลับมาเขียนต่อ ลูกๆ เข้านอนหมดแล้ว วันนี้ดิฉันเหนื่อยมากๆ เลย ต้องผ่อนคลายเสียหน่อย คือหอบตัวเล็กไปรับตัวใหญ่ไปเรียนว่ายน้ำ แล้วกลับบ้านเตรียมให้ตัวเล็กกิน รอตัวใหญ่ทำการบ้าน เสร็จแล้วให้ต้วใหญ่กิน เอาตัวเล็กไปอาบน้ำ เล่นอูโน่กัน แล้วตัวเล็กเริ่มงอแง เอาตัวเล็กนอน ดูดนมหน่อย แง่กหลับลงเตียง ไปเอาตัวใหญ่นอน อ่านหนังสือกัน แง่กหลับ ส่วนตัวแม่นั้น ก็เอาอาหารมาอุ่นกิน และนั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์แก้เครียดไปด้วย ส่วนตัวพ่อนั้น ไม่ต้องพูดถึง วันนี้วันพฤหัส เป็นวันของเขา คุณ MollyJinx แม่คุณคล้ายแม่ดิฉันเลย อยากให้ลูกทำโน่นทำนี่ แต่เธอไม่คาดหวังว่าต้องทำให้ได้หมด เพียงแต่ถ้าเห็นว่างๆ เธอจะหาโน่นหานี่ให้ลองทำ พาไปตีเทนนิส แล้วก็ไปยืนเกาะรั้วดู เวลาเห็นแม่มายืนรอดูเป็นชั่วโมงนี่ ถึงเราไม่อยากเล่น แต่เราก็อยากซ้อมนะ มันเหมือนมีกำลังใจน่ะ แม่ดูเราอยู่ เหมือนอย่างพาตองตังไปว่ายน้ำ เขาจะหันมาดูเป็นระยะๆ โบกมือให้ด้วย หลายๆ อย่างดิฉันอยากทำเอง ได้ทำมั่ง ไม่ได้ทำมั่ง ถ้าพูดถึงว่า หากให้นึกถึงยามวัยเยาว์ แล้วนึกไม่ออกว่าตัวเองเล่นสนุกอะไรๆ นี่ ดิฉันก็นึกไม่ออกมากนะ คือไงดีล่ะ ดิฉันโตมาแบบเด็กต่างจังหวัดแบบอยู่ในเมืองน่ะ เด็กๆ ที่เล่นกันหลังเลิกเรียนคือลูกคนข้างบ้าน อะไรแบบนี้ ไม่งั้นคือเพื่อนที่โรงเรียน ก็เจอกันเวลาไปโรงเรียน หรือไปเรียนพิเศษ แล้วก็เล่นกับพี่ๆ น้องๆ ... ไม่ใช่สิ นึกได้แค่ว่า เวลาพี่สาวกับพี่ชายเล่นกับเพื่อนๆ จะไม่อยากให้ดิฉันเล่นด้วย เพราะตัวเล็กกว่าเล่นด้วยไม่ได้ ทุกทีเลย ดูสิ จำฝังใจ ทำกันได้ลงคอ ส่วนนึงที่อยากให้ลุกทำโน่นทำนี่ ไม่ใช่เพราะเราไม่เคยได้ทำจึงอยากให้เขาทำ แต่คิดว่าเป็นเพราะเราเคยได้รับการปฏิบัติจากแม่แบบนี้ อย่างสามีนี่ แม่เขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ตอนนี้เลยมาสานต่อไปที่ลูก ว่าเราก็อยากให้เขาทำโน่นทำนี่ให้มากที่สุดในตอนเด็กๆ อ่านที่คุณอ้อ แม่ลูกแฝดบรรยาย ก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งเลย เพราะเป็นเหมือนกัน เวลายุ่งมากๆ หัวหมุนนี่ ขนาดสามีพูดอะไรนะ ดิฉันเห็นแต่ว่าเขาทำปากขยับๆ แต่หูไม่ได้ฟังเลย ในหัวเราคิดอะไรอย่างอื่นอยู่ แล้วก็จะลืมอะไรๆ บ่อยๆ เพราะจะคิดวางแผนอนาคตในอีก 1 ชม. ข้างหน้าว่า เดี๋ยวต้องไปรับลูก อย่าลืมเอาของว่างใส่กระเป๋าด้วย ทำให้ไม่ได้คิดถึงเวลาในปัจจุบัน ทำให้ลืมกุญแจบ้าง ลืมเอกสารที่จะต้องเอามาจากออฟฟิซบ้าง ฯลฯ วันก่อนเพื่อนคนไทยมาชวนว่าไปทานข้าวกับกลุ่มคนไทย อยากแนะนำให้รู้จักกับใครๆ ดิฉันก็ว่าไม่เอา ไม่มีเวลา ตอนนี้ต้องให้กับครอบครัวและงานเท่านั้น คือกว่าจะมีเวลาสำหรับไปสังสรรค์อะไรๆ กับใครใหม่ๆ นี่สงสัยจะอีกนาน ตอนนี้ที่ทำได้คือ กับคนที่รู้จักอยู่แล้ว โทรไปบอกว่า พรุ่งนี้มานะ อะไรแบบนี้ ไม่ต้องพิธีรีตองมาก ถ้าว่างคือว่าง หรือว่ามาได้นะ แต่หอบลูกมาด้วย คนไหนไม่รักเด็ก ไม่ให้เอาลูกมา ดิฉันก็บอกว่างั้นเอาไว้เจอกันตอนลูกดิฉันโตแล้วก็แล้วกัน ก็นะ คนมีลูก คุณ Ma Vie คะ ที่เรียนพิเศษ คือเรียกว่า Etude du soir น่ะค่ะ ก็มีว่าให้เด็กทำการบ้านตอนเย็นนั่นแหละค่ะ อันนี้คือเราจ่ายเพิ่ม ก็ไม่ได้แพงมาก พ่อแม่หลายคนไม่ให้ลูกอยู่ต่อ ว่าเรียนทั้งวันแล้ว จะเรียนพิเศษอีกทำไม แต่ลูกดิฉันเนี่ยอยากอยู่เรียนพิเศษ เพราะว่าเขาได้มีเพื่อนเล่นไง คนไหนทำการบ้านเสร็จแล้ว ก็มีคุยกับครูบ้าง คุยกันเองบ้าง เล่นเกมส์กัน ฯลฯ เพราะพอกลับบ้าน ไม่มีเด็กคนอื่น นอกจากน้องเพิ่งจะหัดกระดื๊บๆ เล่นกันไมได้ เขาก็เบื่อนะ ไม่เหมือนที่เมืองไทยที่ต่างจังหวัดว่า วิ่งไปบ้านเพื่อนเล่นกันได้ สรุปเลยให้เขาอยู่เรียนพิเศษ ตอนนี้วันเสาร์เช้าไม่มีโรงเรียนแล้ว ก็เลยแบบว่า เสาร์-อาทิตย์พักเต็มที่ค่ะ ไม่มีกิจกรรมอะไรเลย ให้นอนดึกตื่นสายได้ แล้วก็ไปพาร์ค ไปเล่นกับเด็กๆ ที่นั่น ขี่จักรยาน อะไรๆ ก็ว่าไป คุณเมย์ blueprint นั่นสินะ ถ้าอยู่ใกล้ๆ กันจะได้เล่นหมากรุกกันได้ วันนี้ตองตังเล่าให้ดิฉันฟังว่า เขาหากลุ่มเล่นหมากรุกกันได้ที่โรงเรียนแล้ว เขาก็อยากจะซ้อมมือกับพ่อมาก เพราะจะได้ไปเล่นกับเพื่อนๆ ให้ชนะได้ เขาจะมีเซ็ทหมากรุกอันจิ๋ว เป็นกล่องไม้มีตัวหมากเก็บได้ เวลาไปร้านอาหารกัน เขาก็หอบไป ระหว่างรอ เขาก็จะเอาออกมาเล่นกับพ่อ ที่ชอบเล่นกับพ่อ เพราะว่าพ่อจะอ่านกลยุทธ์ แล้วเขาก็สอนกัน ส่วนดิฉันนั้น ขนาดหมากฮอสยังไม่ชอบเลย จากคุณ : พธูไทย - [ 21 พ.ย. 51 04:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยังไม่ได้ยัดเยียดให้ลูกทำกิจกรรมใดๆค่ะ เพิ่งย้ายบ้าน ตอนอยู่ที่อเมริกา มีคลาสต่างๆใกล้บ้าน เดินไปได้สะดวก ดิฉันก็ให้ลูกเรียนว่ายน้ำ กับ creative movement (เรียนมาตั้งแต่สองขวบกว่า ชอบมาก) ให้้เรียนหลังเลิกเรียนอนุบาล ประมาณ 30-45 นาที ส่วนคนเล็กตอนนั้นยังเล็ก ก็ให้เรียน baby yoga พร้อมกันกับเรา ไม่ก็พาไปห้องสมุดค่ะ ตอนนี้ที่คัลการี่หนาวมาก กำลังดูอยู่ว่าจะให้ลูกเรียนอะไรดีสักอย่างสองอย่าง เห็นบอกอยากเรียนคาราเต้อย่างหนึ่งล่ะ ต้องไปเช็คดูก่อนว่าเปิดเรียนที่ไหน เมื่อไหร่ ดิฉันคงไม่อัด เพราะขี้เกียจพาลูกออกนอกบ้านบ่อยๆ หอบหิ้วกันไปทุลักทุเลค่ะ ยิ่งหนาวๆแบบนี้ลำบากหน่อย แถมที่นี่ที่เรียนก็ไกลๆเป็นสิบกว่ากิโล ไม่เหมือนบ้านเก่า เดินไปไม่ถึงไมล์ ไม่ก็ขับรถไปสองนาทีเป็นต้น ทีแคนาดานี่แปลกดี คลาสต่างๆของลูกแพงพอสมควร  แต่คลาสที่เกี่ยวกับ fitness อะไรอย่างนี้สามารถเอาไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งดิฉันว่ามันแปลกที่ ทำไมจะต้องให้เอาลดหย่อนภาษี สู้กำหนดราคาให้ถูกไว้เลยเหมือนในอเมริกา เราไม่ต้องรอไปเอาเงินคืนอีกตั้งปีหนึ่ง ดิฉันชอบแบบ instant rebate น่ะ จากคุณ : yinnerella - [ 21 พ.ย. 51 05:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องลืมนู่นลืมนี่ก็เป็นประจำเลยค่ะ ทุกวันนี้เดินไปขึ้นรถตอนเช้า ต้องเดินกลับมาเช็คประตูบ้านทุกวันเลยค่ะว่าล้อกบ้านแล้วหรือยัง ไม่เคยจำได้เลย ลูกๆเอือมกันไปหมดแล้วค่ะ คิดว่าตอนออกจากบ้านเนี่ยสมองมันทำงานหนักมาก ไหนจะเช็คเตาแก๊ส ไหนจะมองดูว่าเอาหมาเข้าบ้านหรือยัง ไหนจะดูว่าปิดไฟทุกดวงหรือยัง ไหนจะดูว่าลูกๆหยิบของที่ต้องเอาไปโรงเรียนครบหรือเปล่า ไหนจะอาหารกลางวันตัวเอง เลยจำอะไรที่ทำแบบอัตโนมัติไม่ได้น่ะค่ะ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 21 พ.ย. 51 07:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แม่ลูกแฝด ดูสถานการณ์แล้วหมดมุขเหมือนกันค่ะ ฮะฮะ ลูกกินอย่าง ลูกอีกคนกินอย่าง หมากินอีกอย่าง ฟังแล้วอยากเป็นลม เราทำกับข้าวให้ลูกกับสามีทานแบบเดียวกันยังคิดจนเหนื่อยแล้วเลยเนี่ย จากคุณ : มิมิมิมิมิ - [ 21 พ.ย. 51 09:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลูกสาวเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมมากๆ ทุกอย่างขอทำเองทั้งหมด แม่ไม่ได้ยัดเยียดให้ทำเลยค่ะ ยังมีกิจกรรมที่อยากทำอีก เช่นเรียนวาดรูป ตารางเต็มก็เลยอดเรียน และซ็อคเกอร์บอล ก็อยากเรียน แต่แม่ปูไม่ค่อยชอบเลยเฉยๆ ลูกก็ไม่เซ้าซี้ เพราะกิจกรรมก็เยอะอยู่แล้วด้วย วันจันทร์หลังเลิกเรียน ส่งจดหมายในโรงเรียน ต่อด้วยเรียนไวโอลิน ๑ ชั่วโมง (เดินไปจากโรงเรียนมีอาสาสมัครพาเด็กๆไปเป็นกลุ่ม เรียนเสร็จว่างหนึ่งชั่วโมงรับไปรับกลับบ้านกินข้าว แต่งตัวไปเรียนเต้น ๑ ชั่วโมง วันอังคาร เรียนขับร้องประสานเสียง ๑ ชั่วโมง เรียนเสร็จไปส่งต่อที่จูเจ็ทสุ เรียนศิลปการป้องกันตัว ๑ ๑/๒ ชั่วโมง (กินของว่างในรถ) วันพุธ เรียนไวโอลิน ๑ ชั่วโมง  ว่าง ๑ ๑/๒ ชั่วโมง กินข้าว แต่งตัวไปเรียนเต้นแทป กับมิวสิคเคิ้ลเธียเตอร์ อีก ๒ ชั่วโมง วันพฤหัส ทำกิจกรรมสวนครัวกับครูที่โรงเรียน ๒ ชั่วโมง จากนั้นรีบบึ่งไปเรียนจูเจ็ทสุอีก ๒ ๑/๒ ชม. วันศุกร์ นัดเพื่อนมาบ้านมาค้างคืน หรือไปบ้านเพื่อนค้างคืน บางทีก็เล่นกับเพื่อนแถวบ้าน วันเสาร์-วันอาทิตย์ เล่นกับเพื่อน เล่นๆๆๆๆๆ ว่ายน้ำ ตีแบด กระโดดเชือก เล่นสมมติ ร้องเพลง ฯลฯ ปีนี้ก็มีโชว์ เต้นวันคริสต์มาส และก็มีรายการรับเชิญไปกับทางโรงเรียน เดินสายร้องเพลงประสานเสียง คอนเสิรท ลูกทำแล้วมีความสุขก็จะพยายามให้กำลังใจลูกทำในสิ่งที่ชอบต่อไป แต่เหนื่อยมากจริงๆค่ะ ขับรถไปกลับไปกลับ รับนิคกี้เสร็จ เดี๋ยวออกไปรับพี่เจนนี่แล้ว แล้วเดี๋ยวก็ไปต่ออีก แต่ก็สนุกด้วย ส่วนลูกชาย มีกิจกรรมไม่เยอะ แค่จูเจ็ทสุ อาทิตย์ละ ๒ วัน ถามอยากทำอย่างอื่นด้วยไหมก็เฉยๆ คือถ้าหากเราดันลูกสักหน่อยลูกก็คงจะทำ แต่กิจกรรมพี่เจนนี่เยอะแล้ว เราก็เหนื่อยแล้ว ลูกชายก็เลยไม่มีอะไรมาก แต่ปีหน้าเค้าโตขึ้นก็คงจะทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น อย่างไวโอลิน ร้องเพลงประสานเสียง ก็จะให้ไปด้วยกันเลยพี่กับน้อง วันก่อนเปิดดูวีดีโอคลิป เด็กสามขวบเล่นไวโอลินอย่างยอดมาก เราก็เออ..นี่พ่อ ทำไมไม่สอนลูกแบบนี้มั่ง ก็พล่ามๆๆให้คุณพ่อบ้านฟังว่าอย่างนั่นอย่างนี้ คุณทำได้ สอนลูกได้แต่ไม่สอน ร้อยแปดพันเก้า สามีก็เข้าใจ เออ เห็นด้วยกับเรา ก็ลุกขึ้นมาถามลูก ลูกชายก็อยากเรียนเปียโน อยากเรียนไวโอลิน ที่บ้านมีอิเล็คโทนอยู่ ลูกก็ไปดีดเสียงเล่นไม่ได้เป็นเพลงอะไร เล่นอยู่สักพักก็หยุด แล้วก็หยุด ไม่เห็นทำการเรียนการสอนอะไรกันอีก จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 21 พ.ย. 51 09:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พี่ปูขา โรงเรียนเลิกกี่โมง แล้วนอนกี่โมงค่ะเนี่ย แล้วเช้าตื่นไปเรียนไหวเหรอค่ะ สงสัยน่ะค่ะ แต่ถ้าลูกชอบนี่แม่ก็ต้องยอมเหนื่อยหล่ะนะคะ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 21 พ.ย. 51 10:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น้องอ้อ เลิกเรียน บ่ายสาม ยี่สิบ (หรือสิบห้านี่แหละค่ะ) เข้านอน ๓ ทุ่มกว่า ง่วงไม่ง่วงก็ต้องเข้านอน ๓ ทุ่ม แต่มีเลทบ่อยๆค่ะ (ถ้าลูกเข้านอน แปรงฟัน อาบน้ำเองได้โดยไม่ต้องบอกพร่ำเพรื่อทุกวันนี่พี่จะมีความสุขมาก) พี่เจนนี่ตื่นประมาณ ๗ โมง ถึง เจ็ดโมงครึ่งค่ะ นิคกี้มีเลทบ้างค่ะ บางทีก็จะให้นอนจนวินาทีสุดท้ายแล้วค่อยปลุกค่ะ ยังดีตื่นมาไม่งอแง (มาก) ก็รีบๆ แต่ละวันนี่พี่หมดแรงเลยค่ะ ตัวพี่เองพยายามเข้านอนไม่เกิน สี่ทุ่มครึ่งค่ะ บางทีห้าทุ่ม อย่างตอนนี้ตอบน้องอ้อเสร็จพี่ก็จะไปนอน อิอิ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 51 10:10:44 จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 21 พ.ย. 51 10:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณที่เข้ามาตอบก่อนไปนอนค่ะพี่ปู อ้อก็กำลังจะปิดคอมพ์ไปนอนเหมือนกัน สองสาวต้องตื่นเจ็ดโมงสิบห้าค่ะ ส่วนอ้อต้องลุกมาก่อนตอนหกโมงครึ่ง มาจัดการกับตัวเองก่อนให้เรียบร้อยพร้อมไปทำงานแล้วค่อยเริ่มปลุกทีละคนค่ะ เช้าๆนี่ได้ยินแต่เสียงตัวเอง พูดบ่นไปตลอด เมื่อไรจะทำทุกอย่างเองโดยที่อ้อไม่ต้องพูดเตือนเลยบ้างสักที จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 21 พ.ย. 51 10:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีคะเพื่อนๆ ทุกคน สำหรับดิฉัน กิจกรรมของลูกนี่มีอะไรก็ อยากให้เค้าทำไปเร้ย สำคัญที่ตัวแม่มากกว่าว่า ไหวป่าว เหอ เหอ ตะแรกก็ห่วงกลัวลูกจะเหนื่อย เค้าก็เป็นแค่ช่วงแรกๆ นะ เหนื่อยวีนกะแม่ สลบคาที่ก็หลายหน แต่หลังๆ เค้าก็ปรับตัวได้ แรงมหาศาล บักอึดเจงๆ แต่ก่อนนี้ เวลากลับจากโรงเรียน ก็จะชวนลูกไปปาร์ค ไปเล่นบ้านเพื่อนบ้าน (บ้านเพื่อนน่าไปสิงมากกว่าบ้านตัวเอง) แต่นี่ พอฟ้ามืดเร็วและมีฝน ลูกก็ปรับกิจกรรมคะ ให้แกนั่งเจี๋ยมเจี้ยม ระบายสี สัก 2-3 ชั่วโมง แต่ก่อนนี้ (อีกละ) เคยให้ลูกช่วยทำกับข้าว ล้างผัก หยิบโน่นนี่ กะให้รุ่งเหมือนพี่เจนนี่ของแม่ปู (ภาพพี่เจนนี่เข้าครัวเป็น แรงบันดาลใจใหญ่หลวงของดิฉันเลยก่ะ)... แต่พอลูกสามขวบ ก็ทำตัวเหินห่างครัว ปล่อยแม่ยืนซุ่มซ่ามในครัวคนเดียะ ฮือๆๆ นอกจากนี้ ดิฉันให้ลูกว่ายน้ำ เออ... เรียกว่า "เล่นน้ำ" มากกว่า ยังไม่ได้ส่งไปเรียนกะครูเป็นเรื่องเป็นราว ให้เล่นน้ำกะแม่ในสระ แม่จะได้ถือโอกาสออกกำลังไปด้วย ... แบกคุณนู๋เดินในสระก่ะ พยายามไปเล่นน้ำกันอาทิตย์ละสองครั้งๆ ชั่วโมง ... อยากเล่นกันนานกว่านี้ แต่ชีวิตรันทด ต้องกลับมาผัดกับข้าว ส่วนวันเสาร์ เช้าตรู่ก็พากันไปบัลเล่ต์ 1 ชั่วโมง ระหว่างลูกเต้น แม่ก็นั่งสัปหงกบ้าง อ่านหนังสือบ้าง จากนั้น พาไปเรียนพิเศษกะแกรนด์มา เกือบจะทั้งวัน ให้แกรนด์มาหุงหาให้กินอีกตะหาก เอิ้กก ปีหน้า กะจะเพิ่มให้ลูกเรียนโยคะวันอาทิตย์คะ และเห็นพ่อเค้าเกริ่นๆ ว่าจะสอน คีย์บอร์ดให้ลูกหัดเล่น หนอย..เอาคีย์บอร์ดมาปัดฝุ่นโชว์อีกแน่ะ เห็นว่า อาจจะซ้อมกันอาทิตย์ละหน  ไม่ค่อยอยากจะหวังมาก เพราะคีย์บอร์ดอันนี้ ได้มาตั้งแต่ลูกยังไม่พูด จนเนียะ วิ่งเข้าพรีสกูลแย้ว พ่อยังไม่สอนนู๋ซ้ากกะที ดิฉันเคยไปลองถามๆ ราคาค่าเรียนเปียโน กะไวโอลินแล้วก็ไม่ไหวก่ะ คือ มันค่อยข้างแพงอ่ะนะ อยากลงทุนให้คุณนู๋เหมือนกัน แต่ถ้าไปถึง แล้วคุณนู๋วีนนี่เหมือนแม่เห็นแบงค์20 สองใบ หล่นโถส้วมจะจะ ...เอ่อ ทำจายม่ายได้ก่ะ... ไว้รอให้ลูกโตกว่านี้ ค่อยไปส่งเป็นเรื่องเป็นราว เอ ทำไมยิ่งเขียนยิ่งรู้สึกเหมือน"กัด" เฮียคนข้างๆ หว่า พอก่อนละกัน เด๋วจะกลายเป็นกระทู้มดดำ เอิ้กก เข้ามาแก้ไขข้อความคะ ลืมเรียนเชิญเพื่อนๆ แวะไปที่บล็อกคะ ดิฉันแปลข้อมูลเกี่ยวกับ อาหารเพื่อสุขภาพไว้คะ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 51 12:01:14 จากคุณ : มรรคณิชา - [ 21 พ.ย. 51 11:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กิจกรรมตามใจลูกค่ะ ถ้าเวลาลงตัว ยัยแม่จัดให้หมด ลูกคนโตอายุสี่ขวบค่ะ อยู่อนุบาล ชอบดนตรีมาก เรียนคอร์สดนตรีพื้นฐานปีที่สอง ร้องเพลง เต้นรำ วาดรูููป ระบายสี เรียนการใช้เครื่องดนตรีหลายๆชนิด ขั้นพื้นฐาน งานฝีมือแบบง่ายๆ เริ่มเรียนโน้ตเพลงปีนี้) - 45 นาที / สัปดาห์ เรียนเปียโน -30 นาที / สัปดาห์ เรียนเต้นรำี -45 นาที /สัปดาห์ อันนี้ลูกชอบมากที่สุด เพราะได้ทั้งร้องเพลง เต้นรำตามเนื้อเรื่อง หลังเลิกเรียน ลูกจะนัยน์ตาสดใสเป็นประกาย แจ่มใส ร่าเริง มีความสุขมาก กลับมาบ้านก็ร้องเพลงต่ออีกนาน เล่น gymnastics สำหรับเด็กเล็ก (เริ่มไปตั้งขวบเศษ  พ่อแม่ต้องไปด้วยและพร้อมน้องชาย 2 ขวบ) - 1 ชม./สัปดาห์ อันนี้เป็น Highlight ของสัปดาห์ เพราะ 2 คนพี่น้องชอบมาก เตรียมตัวกันตั้งแต่ทานอาหารกลางวันเสร็จ ลูกจึงมีกิจกรรมหลายอย่าง ที่เค้าเลือกเอง ดิฉันต้องเบรคเค้าบ้าง เพราะยังมีลูกคนเล็กที่ต้อง จัดแบ่งเวลาให้ด้วย รวมทั้งช่วงบ่ายบางวัน ที่ลูกคนโตมีพื่อนมาเล่นที่บ้านหรือลูกไปเล่นบ้านพื่อน ลูกคนเล็ก 2 ขวบกว่า ไปอนุบาลแล้ว มีกิจกรรมคือ Music Garten -30 นาที / สัปดาห์ และไป gymnastics กับพี่ชาย นอกนั้นยังดูไม่ออกว่าลูกชอบอะไรเป็นพิเศษ คงดูไปก่อน เดือนละ 1 ครั้ง ก็ยังมี playgroup ที่บ้าน (เราเคยพบกันทุกสัปดาห์ๆละ 1 ครั้งๆละ 2 ชม midwife จัดให้ ตั้งแต่หลังคลอดจนน้องๆเข้าอนุบาล พอเด็กๆเข้าอนุบาล ลดการพบปะสังสรรค์เหลือแค่ เดือนละ 1 ครั้ง)   ลูก 2 คนก็ 2 กลุ่ม เสาร์-อาทิตย์พักค่ะ นอนดึกตื่นสายได้ ไปพาร์ค ไปรวมญาติบ้านย่า ไปเล่นกับเด็กๆ(ญาติๆกัน) ปีหน้า คงต้องเปลี่ยนบางอย่างไปเป็นว่ายน้ำหรือสกีแทน (เจ้าตัวเล็กบอกแม่ว่า อยากเล่นสกี พี่ๆเค้าเต้นแ้ร้งเต้นกา ชอบใจกันใหญ่ เพราะเค้าเล่นสกีกัน อ้อ ดิฉันมีลูกเลี้ยงค่ะ   2 คน อายุ 12 และ 16) จากคุณ : IT-Thai - [ 21 พ.ย. 51 14:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแค่ตรงหมากรุกแล้วยิ้ม และสงสารลูกชายตัวเองเหมือนกัน เพราะแอบเห็นเค้าเล่นหมากรุกคนเดียว มีพูดสลับไปมาด้วยนะ น่าสงสารจริงๆ เพราะแม่กับน้องไม่สนเลย พ่อ(กับคุณปู่) นานๆ จะมีเวลาเล่นกับเค้าได้ ชอบดูพ่อลูกเล่นหมากรุกกัน เพราะเค้าจะคุยๆๆๆๆ สอนๆๆๆ กันตลอดเวลา ส่วนเรื่องกิจกรรม พยายามให้มี ดนตรี และกีฬา อย่างละ 1 อย่าง ตอนนี้ให้เรียนสแปนิชเสริมเพิ่มด้วย โชคดีที่ครูเป็นเพื่อนบ้านติดกันเลยให้เดินไปเอง กำลังจะให้ไปเรียนว่ายน้ำเพราะเพิ่งไปเจอครูดี  ....อยู่ที่นี่บางทีมีปัญหาเรื่องภาษาเพราะบางกิจกรรมเป็นภาษาถิ่น(คาตาลาง) ลูกๆ บางทีไม่อยากไป ต้องคอยไซโคว่า อย่าให้ภาษาเป็นอุปสรรคของการเรียนรู้ ฯลฯ จะพยายามหากิจกรรมใกล้บ้านที่สุดค่ะ เพราะขับรถไม่ไหว รร ที่สเปน เลิกกันเย็นมาก ห้าโมงกว่า กิจกรรมต่างๆก็เลยเริ่มดึกเช่น พิณมีฟลาเม็งโก้ 6.30 - 7.30 กลับมาถึงบ้านก็ค่ำ  ลูกโตขึ้นการบ้าน โพรเจคก็เริ่มเยอะขึ้น อีกไม่กี่อาทิตย์ ที่นี่จะมีรร สอนภาษาไทยด้วย วันอาทิตย์พวกเราก็ต้องต้องมีกิจกรรมเรียนภาษาไทยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่างค่ะ จากคุณ : *พิณ* - [ 21 พ.ย. 51 16:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลูกดิฉันยังเล็กเลยยังไม่ค่อยมีกิจกรรมสักเท่าไหร่ค่ะ คือ พยายามจัดให้มีบ้างเหมือนกัน ช่วงนี้มีแค่ English play group  กับ   Preparation for Kindergarten กะว่า ว่ายน้ำคงจะไปเดือนหน้า   ที่จริงแล้วดิฉันเองพยายามจะหาเวลาให้ตัวเองมากกว่าด้วยซ้ำไป เหมือนเห็นแก่ตัวยังไงไม่ทราบ พยายามหาคอร์สที่ลูกเริ่มๆห่างจากแม่บ้าง อย่างคอร์สเตรียมตัวเข้าคินเดอร์ฯ  คือ เอาลูกไปส่ง ให้เด็กๆมีกิจกรรมกันเองกับครู ส่วนแม่ๆก็ว่างไป 2 ชม. ดิฉันกะว่าจะไปลงเรียนพิลาเทส ในช่วงเวลาเดียวกัน พอแม่เสร็จก็มารับลูก เพราะมันอยู่ตึกเดียวกันค่ะ เลยกลายเป็นเข้ามาอ่านเอาความรู้จากประสบการณ์ของคุณแม่ท่านอื่นค่ะ แต่คิดว่า ต่อไปก็คงพยายามให้มี กิจกรรมกีฬาหนึ่งอย่าง ดนตรีหนึ่งอย่าง ที่เหลือค่อยดูว่าเค้าอยากทำอะไรเพิ่มเติม ค่ะ แต่เห็นด้วยว่า ยิ่งเด็กโตขึ้น เวลาที่จะแบ่งเอามาทำกิจกรรมคงเริ่มน้อยลง เดี๋ยวอีกหน่อยคงเครียดเรื่องเรียน น่าจะให้ชีวิตวัยเด็กสนุกให้เต็มที่ แต่เวลาเอาโปรแกรมของเด็กมานั่งดู มีความรู้สึกว่า มันน่าทำไปหมดเลย แต่มานั่งนึกอีกที แล้วลูกเราอยากทำจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดิฉันเลยคิดว่า เอาเป็นว่าถ้าลูกถาม หรือ อยากลองก็คงให้ทำ แต่คงไม่ไปลงให้ก่อนแล้วบอกลูกว่า แม่ไปลงให้แล้วดังนั้นลูกต้องไปแบบนี้ค่ะ จากคุณ : Walcher - [ 21 พ.ย. 51 17:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อวานเหนื่อยมากๆ ขนาดที่ว่า วันนี้ดิฉันตื่น 10.30 น. ค่ะ ก็ไม่รู้ว่าลุกสาวมานอนข้างๆ ดูดนมตั้งแต่กี่โมง คาดว่าสามีคงอุ้มมาให้ตอนลุกร้อง เอาเป็นว่าตื่นมามัน 10.30 น. แล้ว วันนี้ดิฉันเลยผ่อนคลายค่ะ เช็คอีเมล์งานนิดหน่อย แล้วพาลูกสาวไปโรงเรียนเก่า ไปพบคนที่รู้จัก แล้วก็ไปกินพิซซ่าตอนเที่ยงกัน ลูกสาวน่ารักมาก นั่งในรถไม่ร้องเลยสักแอะ ดูคนเพลิน ออกนอกเรื่องพูดเรื่องงานนิดนึง ความที่ตะแง้วๆ เบื่องานมาอยู่พักนึง วันนี้เกิดได้คิดอยากมาก เพราะว่าตอนไปที่โรงเรียนเก่าเจอเพื่อน ทุกๆ คนจะถามว่า ทำงานหรือยัง ก็บอกว่าก็ทำงานที่เดิมนั่นแหละ เขาก็สงสัยว่า ทำงานประสาอะไร เหมือนไม่ทำงาน ไม่ต้องไปออฟฟิซจริงๆ หรือ หรือว่าแกล้งบอกใครๆ ว่ามีงานทำหรือเปล่า? เพราะใครๆ ก็ต้องไปออฟฟิซกันทั้งนั้น ส่วนที่ว่าอยู่ออฟฟิซแล้วจะทำมากทำน้อยนั่นอีกเรื่อง พอเขาพูดแบบนี้ ทำให้ได้คิดจริงๆ เลยนะว่า นี่เราโชคดีมากๆ แล้วจริงๆ นะเนี่ย อารมณ์ดีขึ้นมากระทันหันเลย จริงๆ นะ เพราะไม่งั้น ในดิฉันยังจะคงร้อนรุ่มอยู่เป็นพักๆ ยามเบื่องานขึ้นมา คุณหยิน ที่ฝรั่งเศสเนี่ย ไม่แพงค่ะ เพราะกิจกรรมที่ลงให้ลูกจะเป็นรูปแบบชมรมน่ะค่ะ มีชมรมเต็มไปหมดเลย แต่พวกคอร์สที่จัดโดยโรงเรียน private จะแพง อย่างปิงปองเนี่ย เสียปีละ 50 ยูโรเองค่ะ อยากให้มากกว่านี้ เพื่อให้คนที่มาสอนเอาไปทำอะไรได้บ้าง แต่คนที่มาสอนเขาก็อาสาสมัครเป็นสมาชิกของชมรมนั่นแหละ ถ้าที่เรียนต่างๆ อยู่ไกล ต้องเดินทางนานๆ ก็ไม่คุ้มหรอกนะ เสียเวลา คุณอ้อ เรื่องลืมของดิฉันนี่ ล่าสุดเลยเมื่ออังคารที่ผ่านมา เข้าออฟฟิซ สปีดมาก ทำเวลา เพราะว่า 3 ชม. ดิฉันต้องทำสิ่งที่ดิฉันวางแผนเอาไว้ให้เสร็จ ไม่งั้นจะกลับไปรับลูกไม่ทัน (หนำซ้ำออกจากบ้านสาย) ไดเรคเตอร์เพิ่งบอกดิฉันว่า อย่าลืมคืนกุญแจของที่จอดรถด้วย เพราะคราวก่อนดิฉันติดกลับไปด้วย แล้วมีเลขาฯ คนนึงเขามาแล้วเข้าที่จอดรถไม่ได้ (ปกติเขาจะเอารถมาวันที่ดิฉันไม่เข้าออฟฟิซ จะได้ไม่ชนกัน) ก็บอกว่า เออๆ จะไม่ลืม หนำซ้ำ ดิฉันขอยืมกุญแจออฟฟิซของเลขาฯ อีกคน เพื่อไปเปิดประตูที่ทำงาน จะได้ไม่กดกริ่งเรียก (อันนี้ทุกคนเริ่มบ่นว่า ทำไมดิฉันไม่สั่งทำกุญแจของตัวเอง เพราะปฏิเสธไม่เอามาตลอด กลัวทำหาย อีกอย่างดิฉันบอกว่า ในเมื่อมาออฟฟิซแค่แป๊บๆ และจะมาเฉพาะตอนที่มีคนอยู่ จะไม่มาเด็ดขาดถ้าไม่มีคนอยู่ แล้วจะมีกุญแจทำไม) ปรากฎว่า พอขับรถออกจากที่จอดเสร็จ ดิฉันก็กลับบ้านทันที ไม่จอดคืนกุญแจทั้งหมดก่อน ทำให้วันรุ่งขึ้นดิฉันต้องกลับไปออฟฟิซเพื่อคืนกุญแจอีก รีบจนทำให้ นึกว่าจะเร็วกลับต้องเสียเวลา เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปออฟฟิซทั้งที่ไม่อยู่ในแผน ปลื้มใจแทนคุณปูขาเกจริงๆ น้องเจนนี่สนใจทำอะไรๆ หลายๆ อย่าง ไม่รู้นะ ดิฉันรู้สึกตัวเองว่า กับตองตังนี่เหมือนดิฉันจะเคี่ยวเข็ญจะอยากให้ทำอะไรๆ ฯลฯ แต่พอคนที่สองนี่แบบขี้เกียจๆ แหละ เลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เหมือนกันนะ ถ้าเทียบกับคนแรก คิดว่าลูกสาวดิฉันนี่ อาจจะได้ทำอะไรๆ น้อยกว่าพี่ชาย แต่ว่าคงได้ทำอะไรๆ ที่พี่ชายเป็นคนสอน ไปก่อน จากคุณ : พธูไทย - [ 21 พ.ย. 51 22:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คิดว่าถ้าเป็นแม่อ้อนี่ ขอไปเป็นลมก่อนดีกว่า กินกันไม่เหมือนกันซักอย่าง นี่ขนาดที่บ้านกินเหมือนเหมือนกันยังอยากอิ่มทิพย์เลยนะเนี่ย แม่ปู กิจกรรมน้องเจนนี่เอี๊ยดขนาดนี้ แม่ปูยังมีเวลาทำกับข้าวอร่อยอร่อยได้บ่อยบ่อยอีก เป็นแม่ศรีเรือนของแท้เลยนะเนี่ย นี่ถ้าน้องนิคถึงวัยแล้ว แม่ปูคงต้องวิ่งรอกหัวฟูกว่าเดิมอีก มีอยู่ช่วงนึงเราก็แบบบ้าหากิจกรรมเสริมให้ลูกนะ ไอ้ช่วงวิ่งรอกหนะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ช่วงรอนี่มันทรมานเลย หยั่งเอาลูกไปไอซ์สเกตนะ ตอนรอนี่หนาวสั่นสั่นเลย เอาไปว่ายน้ำ ถ้าไปกลางวันก็นั่งตากแดดหน้าดำ กิจกรรมที่ยังพอเห็นลูกได้อยู่ ก็เพลินเพลินอ่ะ แต่อันที่ไม่เห็นลูกนี่ แม่นั่งหง่าวเลยนะนั่น ต้องทำตัวให้ติดนิยายแทน จากคุณ : blueprint - [ 22 พ.ย. 51 02:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่จริงลูกๆก็ไม่ได้ทานยากมากนักหรอกค่ะ ตอนนี้ก็เลยประมาณว่าสลับกัน วันนี้คนนึงได้ทานของที่ชอบ อีกวันก็สลับกันไป บางวันก็ชอบเหมือนกันทานมีความสุขไปทั้งคู่ บางวันก็ต้องทนฟังคนนึงบ่นไปว่าไม่ชอบอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้เิดินหนีเอา ฮ่าๆ แต่จะให้ทำสองอย่างสามอย่างไม่ไหวเหมือนกันค่ะ เหนื่อย เมื่อวานคุณสามีพูดขึ้นมาว่าให้ลดกิจกรรมของลูกๆ ดิฉันตาค้าง อะไรกัน ลูกทำอยู่ 3 อย่าง จะให้ลดอะไรอีกเล่าพ่อคุณ ว่ายน้ำก็ไม่ให้เลิกเพราะมันสำคัญ เกริล์สเกาท์ก็ถูกแสนถูก ปีละแค่ 50 เหรียญเอง จะให้เลือกยิมนาสติก อ้าว จ่ายไปแล้วทั้งปี เลิกได้ไง แถมลูกๆชอบอีก ตอนแรกกะว่าจะหยั่งเชิงเรื่องให้เรียนเปียโน เพราะเพิ่งหาครูที่ถูกใจได้เมื่ออาทิตย์ก่อน เลยไม่เอาดีกว่า กะว่าถ้าเลิกเรียนว่ายน้ำตอนช่วงหนาวมากๆ ค่อยให้ลองเปียโน ว่าแต่ว่า เสาร์อาทิตย์นี้มีกิจกรรมอะไรกันบ้างค่ะ ;) จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 22 พ.ย. 51 02:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แม่อ้อ ความเห็นส่วนตัวของเรานะ เรื่องว่ายน้ำหนะ จริงจริงให้เรียนรวมกับคลาสเล็กเล็ก ราคาน่าจะถูกกว่าหรือเปล่า มันอาจจะเห็นผลได้ช้านิดนึง แต่ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจให้ลูกเราเป็นนักกีฬา ไปแข่งขันอะไร เรียนช้าช้าก็ดีเหมือนกันนะคะเมย์ว่า ค่าเรียนตัวต่อตัวแพงมากมากเลย เคยคิดจะให้ลูกเรียนเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมา ให้เรียนไปเรื่อยเรื่อยแบบนี้ดีกว่า จะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาสระให้ลูกว่ายเองอีก ไปเรียนที่คลาสมีครูและสระพร้อม (คิดแบบคนงกหนะ) ไว้ว่างว่างจะมาเล่าประสบการณ์เรื่องเรียนเปียโนของลูก ว่ามันทรมานแค่ไหน กว่าจะทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันได้ ตัดสินใจให้ลูกเรียนเปียโนเนี่ย ต้องเสียสละตัวเองสุดสุดเลยคะ เสาร์นี้ว่าจะพาลูกไปขายขวดคะ เก็บไว้ได้สามถุงโตโตแล้ว จากนั้นจะพาไปรีแกรนด์โอเพนของ old navy ไปดูว่ามีอะไรถูกถูกให้ลูกบ้าง แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 51 03:16:38 จากคุณ : blueprint - [ 22 พ.ย. 51 03:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใช้เวลาอ่าน ชม. กว่า ๆ เลยนะเนี่ยกิจกรรมของแต่ละบ้าน ตอนนี้บ้านเราไม่มีกิจกรรมเข้าคลาสอะไรเลย ย้ายมาบ้านใหม่ คนโตลงเรียนเปียโน ไป ๑ คลาส ถามว่าจะเรียนต่อขั้น ๒ ไหม เค้าก็บอกว่าไม่เอาแล้ว น่าเบือ แต่ชอบกลับมาเล่นเองมากกว่าคงจะหาซื้อหนังสือโน้ตเพลง มาให้เล่นเองดีกว่าคะ ส่วนคนเล็ก ยังอยู่ K class ไม่ค่อยมีอะไรให้ลงเรียน เลยต้องรอก่อน แต่โชคดีที่ทั้งสองคนอายุไม่ห่างกันมาก หลังจากกลับจากโรงเรียน ก็เล่น ดูทีวี เล่นเกมส์ เราก็มีหน้าที่หาอาหารให้ ก่อนออกไปทำงาน เวลาบ้านเราจะว่างพร้อมกันแค่วันพุธตอนเย็นคะ ส่วนใหญ่จะไปทานข้าวนอกบ้าน หรือไปเล่นที่พาร์ค วันเสาร์กับอาทิตย์ ก็เล่นกันอยู่ในบ้านนี่แหละ ดูคุณแม่ บ้านอื่น ๆ แล้ว สงสัยเวลามีมากกว่าวันละ ๒๔ ชม. ละเปล่าเนี่ย เทียบกับเรารู้สึก เราสบายจริง ๆ เลยนะเนีย จากคุณ : แม่ไข่หก - [ 22 พ.ย. 51 04:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณเมย์ เรื่องว่ายน้ำเนี่ยคิดอยู่นานมากค่ะ กว่าจะตัดสินใจให้เรียนแบบตัวต่อตัวเพราะมันแพงกว่ามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (มากพอไม๊) ประมาณว่าบินกลับไปเรียนเมืองไทยอาจจะถูกกว่า (เว่อร์มาก) ฮ่าๆๆๆ แต่ คุยกับสามีแล้วว่า เรียนแบบตัวต่อตัวเราเลือกครูได้ ครูคนนี้ดีมาก เราชอบ ลูกๆก็ชอบ แล้วที่เรียนแบบกลุ่มที่เรียนมา คราวไหนได้ครูดีก็ดี คราวไหนได้ครูแย่ เราก็แบบรู้สึกเปลืองตังส์ เรียนไปไม่ได้อะไรเสียเวลา ลูกๆก็ไม่อยากไปเรียน อีกอย่างคือเรื่องเวลาค่ะ คลาสของลูกๆเนี่ยเริ่มดึก เริ่มก็ทุ่มนึงแล้ว กว่าจะเสร็จกลับบ้านสองทุ่มกว่า ไม่ไหวค่ะ พอดีครูคนนี้สอนอยู่สระเดิมที่ลูกๆเรียนเป็นคลาสอยู่แล้วน่ะค่ะ ไม่ต้องหาสระ ถ้ามันวุ่นวายมากมายก็คงไม่เอาเหมือนกัน ตอนนี้ก็กัดฟัน อดออมค่าอาหารกลางวันตัวเอง เก็บเงินให้ลูกๆเรียนแบบตัวต่อตัว ทำมาเกือบสองเดือนแล้ว คงทำต่อไปอีกสักพัก ตอนนี้ลูกๆว่ายได้พอสมควรค่ะ เิริ่มให้เรียนช้าไปหน่อย เพิ่งเรียนว่า่ยน้ำมาปีเดียวเองค่ะ เลยต้องเร่งหน่อย เดี๋ยวไม่ได้ไปโอลิมปิค ฮ่าๆๆๆๆ เรื่องเรียนเปียโน ช่วยมาเล่าหน่อยนะคะ ค่าเรียนแพงเหลือเกิน ฮือๆๆ แถมมีลูกสองคน คิดแล้วคิดอีกเลยค่ะว่าจะให้เรียนดีมั้ย นี่เราใจตรงกันนะคะ ว่าจะไปโอลด์เนวี่เหมือนกัน เห็นมีลดราคา อยากได้เสื้อหนาวให้ลูกๆเสียหน่อย อาจจะได้ของแม่ติดมือมาบ้าง พอให้ไม่อิจฉาลูกๆ ฮ่าๆๆ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 22 พ.ย. 51 04:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านความเห็นของแม่ๆแล้วอายตัวเองจังค่ะ  พอดีเพิ่งคลอดลูกสาว ตอนนี้เจ็ดเดือนแล้วค่ะ กินนมแม่ด้วย ไปไหนเลยยังไม่สะดวก ที่ทำได้ตอนนี้คือส่งลูกชาย 4 ขวบเข้าอนุบาลสามแล้วค่ะ ลูกชายเลิกเรียนบ่ายสองโมง รถบัสรร.มาส่งถึงบ้านก็บ่ายสองโมงครึ่ง มาถึงบ้านเล่นนิดหน่อยก็บ่ายสามโมง เป็นเวลาขนมว่างค่ะ กินขนม คุยๆกัน แล้วลูกชายก็แวบออกไปเล่นนอกบ้าน หรือไม่ก็ไปแปลงผักกับย่าค่ะ ผักอะไร รู้จักหมด วันก่อน ถอน red radish สีแดงมาหมดแปลง โอย..ดิชั้นก็จะเป็นลม  แต่ปู่ย่าเค้าไม่โกรธค่ะ แค่บอกว่าจะทำอะไร ถามก่อนนะ จะกลับไทยธันวานี้ แล้วหลังจากกลับมาญี่ปุ่นแล้ว จะพาไปลงคอร์สภาษาอังกฤษดูค่ะ ไม่งั้นลืมหมดแน่ๆ ดีที่รร.มีสอนอยู่ด้วยค่ะ  ส่วนว่ายน้ำและดนตรี จะลองเริ่มๆหาแล้วค่ะ  เด็กๆที่นี่ ก็ทำกิจกรรมกันเยอะค่ะ โดยเฉพาะเล่นกีฬา  มีโรงยิมเยอะแยะค่ะ จากคุณ : Mnki - [ 24 พ.ย. 51 20:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กำลังจะให้ฝ้ายเลิกเรียนบัลเลย์ พอมาเจอกระทู้นี้ ก็ต้องเข้ามาแจมอ่ะ ฝ้าย มีกิจกรรมหลังเลิกเรียนเยอะเหมือนกัน เรียนหนังสือ 7 Am-2 Pm primary 1 อังคาร เรียนเปียโน 1/2 ชม ช่วงบ่าย 2 กว่าๆ (ขี่จักรยานไปส่ง) พุธ เรียนภาษาจีน ตอน 3 -4 โมง  (ขับรถ 8 นาที) เรียนว่ายน้ำ ตอน 5 โมงเย็น (ขับรถ 30 นาที) พฤหัส เรียนบัลเลย์  ตอน 1-2 ทุ่ม (ขับรถ 10 นาที จอดรถวัดดวง หาที่จอด) friday เรียนภาษาจีน ตอน 3 -4 โมง (ขับรถ 8 นาที) เสารฺ เรียน วาดรูป 9.30 โมงเช้า (ขับรถ 20 นาที) อาทิตย์ เรียนบัลเลย์ บ่าย 1-2 โมง (ขับรถ 10 นาที จอดรถวัดดวง หาที่จอด) คงจะเยอะเกินไป แล้วบัลเลย์ ก็ดูฝ้ายเต้นไม่ค่อยได้ดี กะว่าจะให้เลิกเรียน หลังจากเรียนมา 2 ปีแล้ว กะว่าจะให้เรียนเทควอนโดแทน พร้อมเบน วันอาทิตย์เที่ยง แค่ส่งลูกเรียน แม่ก็แทบเดี้ยง ที่เขียนมาก็จะเข้ามาบ่นว่าเหนื่อย แล้วไม่รู้ว่าคุ้มที่ให้ลูกเรียนรึเปล่าค่ะ เปียโน เรีัยนแล้วไม่ซ้อม บัลเลย์เรียนแต่ไม่ชอบ แต่ภาษาจึนต้องเรียน เพราะไม่งั้นไม่ทันเพื่อนในห้อง เค้าพูดจีนกันที่บ้าน เราพูดไม่ได้ ก็ต้องเีรียนเสริมเอา แต่ปีหน้า ภาษาจีน เดินไปเรียนได้ ก็ค่อยยังชั่วหน่อย   ขอบคุณที่อ่าน ไปล่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 51 21:56:18 จากคุณ : sivalee - [ 24 พ.ย. 51 21:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณอ้อ ไว้ต้องไปบิวด์อารมณ์ก่อน แล้วจะเขียนตั้งแต่เริ่มต้นเลยคะ ให้ลูกเรียนเปียโนโดยที่แม่ไม่เคยจับเปียโนของจริง ตัวโน๊ตไม่ต้องพูดถึง รู้แต่กุญแจซอล เหนื่อยนะ จากคุณ : blueprint - [ 25 พ.ย. 51 01:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้วน่าสนใจค่ะ ของเด็กๆ บ้านนี้เมื่อก่อนให้มะติ้วลงเทควันโด้อาทิตย์ละ 3 วันๆ ละ 50 นาทีค่ะ   พอมาระยะหลังไม่ได้ไป เพราะเวลาทำงานของตัวเองที่ไม่แน่นอนค่ะ พอมาระยะหลัง มะติ้วดูสนใจเบสบอล แล้วก็เพื่อนของพ่อบอกว่าลูกเราเนี่ยตัวเล็กนะ  ก็เลยคิดว่าเบสบอสนี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ก็เลยอยากให้เขาลงคลาสอยู่ค่ะ  ตอนนี้กำลังตัดสินใจอยู่ว่ารอคลาสเปิดรับสมัคร หรือรอให้ลูกชายของเพื่อนที่ทำงานกลับมาเยี่ยมพ่อ(เพื่อนของดิฉัน)เองกลับมาก่อน   ว่ายน้ำเนี่ย อยากให้ลูกลงเรียนเหลือเกินค่ะ (แม่มันก็ชอบ) สระว่ายน้ำแถวบ้านที่เคยมีอินดอร์ ตอนนี้ปิดไปแล้ว  หาที่ๆ สำหรับเด็กยากเหลือเกิน  อยากสอนเองซะให้รู้แล้วรู้รอดไป คุณเมย์ จะรออ่านประสบการณ์เรื่องเรียนเปียโนของพ่อมากค่ะ  อยากให้สองคนนี้เรียนเหมือนกัน  ดูคนเล็กเขาชอบ(แต่ยังเด็กไป คงต้องรออีกซักหน่อย) ส่วนคนโตอยากให้ลองเผื่อจะชอบ แต่มะติ้วเขาชอบวาดรูป ไปได้ดีกับทางด้านวาดรูปมากกว่า  แต่ก็นะ เมืองที่อยู่เนี่ย ไม่ค่อยมีอะไรจริงๆ เลยค่ะ     ถ้าคุณเมย์มีโอกาสได้เขียนประสบการณ์เรื่องเรียนเปียโน ช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณค่ะ   ไว้แวะเข้ามาอ่านใหม่ค่ะ แวบมาอ่านก่อนไปทำงาน (กระทู้ปิดหรือยัง?) แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 51 18:59:24 จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 29 พ.ย. 51 18:56:10 ]