PANTIP.COM : H7237735 ตามกฎหมายไืทยปัจจุบัน ถือสองสัญชาติได้รึเปล่าครับ []

ความคิดเห็นที่ 10

ขออนุญาตเข้ามาให้ความรู้เรื่องสัญชาติเพิ่มเติมแก่คุณเจ้าของกระทู้ ดังต่อไปนี้

ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณ คุณ Lawanwadee ในความเห็นที่ 4 ที่กรุณาเพิ่มเติมคำตอบให้ข้าพเจ้าในความเห็นที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ยิ่งแก่ท่านเจ้าของกระทู้และท่านผู้อ่านอื่นๆ ที่สนใจปัญหาตามกระทู้นี้ ขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้

ด้วยความสนใจในปัญหาเรื่องกฎหมายสัญชาติของประเทศญี่ปุ่น เมื่อวานนี้ข้าพเจ้าจึงได้หาโอกาสสนทนากับเจ้าหน้าระดับสูงของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นท่านหนึ่งที่เป็นผู้มีความรู้เรื่องกฎหมายสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งได้กรุณาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย พร้อมทั้งท่านได้มอบเอกสาร " The choice of Nationality " คือเอกสาร " เชิญชวน " ให้คนญี่ปุ่นที่มีหลายสัญชาติไปทำการเลือกสัญชาติ โดยมีข้อความโปรยหน้าดังนี้ If you are a person of dual nationality, please make the choice of nationality !

จากการสนทนา และจากข้อความในเอกสารดังกล่าว ได้ความจริงมาฝากท่านเจ้าของกระทู้ดังต่อไปนี้

1. ได้ความสรุปว่า กฎหมายสัญชาติของญี่ปุ่น หรือไม่ว่ากฎหมายใดของญี่ปุ่นไม่มีมาตราใดบัญญัติห้ามคนญี่ปุ่นถือสองสัญชาติ ( Dual Nationality ) หรือถือเกินกว่า 1 สัญชาติ เช่นเดียวกับประเทศเสรีประชาธิปไตยส่วนใหญ่ในโลกนี้

2. กฎหมายสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Kokuseki Ho,1952 บัญญัติในมาตรา 14 ความว่า " บุคคลที่ถือสัญชาติญี่ปุ่น และถือสัญชาติอื่นด้วย ต้องไปทำการ " เลือก " เพื่อถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง ก่อนมีอายุครบ 22 ปี

3. ในวิธีปฎิบัติ หากบุคคลผู้มีสองสัญชาติดังกล่าว ยกตัวอย่าง กรณีบุตรของเจ้าของกระทู้ ซึ่งเกิดมาแล้วบิดา-มารดาได้ไปดำเนินการให้ได้รับทั้งสัญชาติญี่ปุ่นและสัญชาติไทย ก่อนมีอายุครบ 22 ปี ตามข้อที่ 2 ก็ต้องไป " เลือก " สัญชาติ ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่า Kokuseki Sentaku ณ หน่วยงานญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยตนเอง ตามระเบียบการดังกล่าว แจ้งไว้ว่า หากใครไม่ไป " เลือก " ตามกำหนดเวลาอาจจะสูญเสียสัญชาติญี่ปุ่น ( อาจจะ เท่านั้นนะ)

วิธีปฎิบัติ:

หากบุคคลนั้นประสงค์จะถือสัญชาติญี่ปุ่น ก็ให้กรอกลงในแบบฟอร์ม Kokuseki Sentaku ( การขอเลือกสัญชาติ ) ซึ่งมีข้อความประมาณนี้ " ....ข้าพเจ้าขอเลือกถือสัญชาติญี่ปุ่น โดยจะสละสัญชาติอื่นที่มีอยู่ ...." พร้อมด้วยคำสาบาน

3. จะเห็นได้ว่า การแสดงเจตนาเพื่อ " ขอมีสัญชาติญี่ปุ่น " เป็นลายลักษณ์อักษรประกอบคำสาบานตามที่แสดงไว้ข้างบนในข้อ 2 นั้น ทางการญี่ปุ่นถือว่าบุคคลใดหากได้แสดงเจตนาเพียงแค่นี้ ก็ถือว่าเป็นการ " ยืนยัน " ความต้องการมีสัญชาติญี่ปุ่นที่พอเพียงแล้ว ทั้งนี้ กฎหมายสัญชาติญี่ปุ่นฉบับที่ใช้บังคับในปัจจุบันนี้ โดยสาระ ไม่มีบทบัญญัติใดลงโทษ หรือห้ามคนญี่ปุ่นถือสองสัญชาติ หรือถือ 10 สัญชาติ เช่นเดียวกับกฎหมายไทย

*** ในความเป็นจริง ภายหลังเมื่อบุคคลได้ไปแสดงเจตนาเลือก " ขอมีสัญชาติญี่ปุ่น " ตามที่ยกมากล่าวข้างบนนี้แล้ว บุคคลผู้นั้นจะไปมีสัญชาติอื่นใดอีก รัฐบาลญี่ปุ่นก็มิได้สนใจ ***

นับได้ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่เคารพในเสรีประชาธิปไตยที่ให้ความเคารพบุคคลในเรื่องการถือสัญชาติเช่นนานาอารยะประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ หากทางการญี่ปุ่นต้องการเอกสารการสละสัญชาติไทย หรือสละสัญชาติอื่นจากบุคคลที่ขอเลือกสัญชาติญี่ปุ่น ใคร่ขอแสดงตัวอย่างที่เป็นจริงตามที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หรือที่สถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วสหรัฐ ฯ ได้ปฎิบัติต่อคนไทยในกรณีนี้ที่ส่วนใหญ่ยังคงต้องการรักษาสัญชาติไทยของตนไว้ กล่าวคือ มีคนไทยสัญชาติอเมริกันที่องค์การ NASA รับเข้าทำงาน เขาต้องการให้คนไทยผู้นี้มีสัญชาติอเมริกันแต่เพียงสัญชาติเดียวทั้งนี้ตามกฎเพื่อความปลอดภัยอะไรทำนองนี้ จึงต้องสละสัญชาติเดิม วิธีการคือ คนไทยผู้นั้นนำเอาหนังสือเดินทางไทย passport มามอบคืนแก่สถานกงสุลใหญ่ไทย โดยสถานกงสุลใหญ่ไทยได้รับมอบหนังสือรับพาสสปอร์ตเล่มนั้นไว้ แล้วออกหนังสือรับรองเป็นภาษาอังกฤษ มีข้อความว่า สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นคร ..... ได้รับคืนหนังสือเดินทางไทยหมายเลข..........ของนาย............ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แค่นี้เอง และชายหนุ่มคนไทยผู้นั้นก็นำหนังสือฉบับนี้ไปมอบให้แก่องค์การ NASA เขาก็รับไว้โดยถือว่าโดยเอกสารชิ้นนี้แสดงว่าคนไทยนั้นได้สละสัญชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบรรจุเข้าทำงานเป็นที่เรียบร้อย (อย่าได้แปลกใจ และอย่าได้สงสัย เป็นเรื่องจริงที่ปฎิบัติกันมาแล้ว)

5. นักการทูตญี่ปุ่นระดับสูงท่านนี้ยังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกด้วยว่า

5.1 การแสดงเจตนาขอถือสัญชาติญี่ปุ่นก่อนอายุครบ 22 ตามข้อ 2 และ 3 ข้างบนนี้ นั้น ไม่เป็นการกระทบต่อสัญชาติอื่น ๆ ที่ผู้นั้นถืออยู่แต่อย่างใด เพราะการที่บุคคลใดจะได้รับสัญชาติใด ก็ขึ้นอยู่กับประเทศเจ้าของสัญชาติจะให้เขาหรือไม่ ( กฎหมายไทยไม่ห้ามคนไทยมีสองสัญชาติ)

5.2 ในโอกาสต่อไปรัฐบาลญี่ปุ่นจะได้แก้กฎหมายในเรื่องสัญชาติ ให้มีการยอมรับและเคารพต่อบุคคลที่มีสองสัญชาติมากขึ้นกว่านี้

6. สุดท้าย ตามที่ได้อธิบายมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า ประเทศญี่ปุ่นก็ไม่มีกฎหมายใดห้ามคนญี่ปุ่นถือสองสัญชาติ Dual Nationality ( หรือ 10 สัญชาติ ) เช่นเดียวกับประเทศไทย ดังนั้น การใช้คำพูดว่า " ญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้ถือสองสัญชาติ " หรืออื่นใดทำนองนี้ จึงไม่ตรงกับกับข้อเท็จจริงตามกฎหมายญี่ปุ่น

สำหรับกฎหมายไทยตามพ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508 นั้น ในมาตราท้ายๆ ในหมวดว่าด้วย " การเสียสัญชาติ " ได้บัญญัติไว้มีความว่า " คนสัญชาติไทยที่ได้สัญชาติอื่น ให้ถือว่าเสียสัญชาติไทย " นั้น ถือว่าเป็นการเสียสัญชาติไทยตามหลัก " ทฤษฎีสัญชาติ " เท่านั้นเอง แต่ในความเป็นจริงตามกฎหมายฉบับนี้ ถือว่า ยังเป็นการเสียสัญชาติไทยที่ไม่สมบูรณ์ เพราะหากคนไทยทีมีสัญชาติอื่นด้วยจะตกเป็นผู้เสียสัญชาติไทยแล้วอย่างสมบูรณ์ ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย กล่าวคือ ตนต้องถูกประกาศชื่อให้เป็นบุคคลผู้เสียสัญชาติไทยลงในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ตามบทบัญญัติมาตรา 5 ของพ.ร.บ.สัญชาติฉบับนี้ (หมายความว่าคนไทยที่มี 7-8 สัญชาติในขณะเดียวกัน หากยังไม่มีชื่อของตนประกาศให้เสียสัญชาติไทยในราชกิจจา ฯ คนไทยผู้นี้ก็ยังมีสัญชาติไทยถูกต้องตามกฎหมายอยู่ 101 เปอร์เซนต์ )

ขอให้โชคดี

หวังว่าข้อความนี้จะเป็นประโยชน์ยิ่งแก่คุณเจ้าของกระทู้ และผู้สนใจอื่นๆ
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 51 17:26:00
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 51 16:56:19

จากคุณ : นักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) - [ 25 พ.ย. 51 16:18:06 ]