Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ประสบการ์การสอบ TOEFL

    ช่วงนี้เห็นหลายคนถามเรื่อง TOEFL เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะคะ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค้า ก็หวังว่าบางคนจะนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย

    เราสอบ TOEFL iBT ไปตอนปลายเดือนเมษา ที่เกษมบันฑิตลาดกระบัง (เพิ่งจะมีเวลานั่งเขียนเป็นจริงเป็นจัง แหะแหะ) ส่วนตัวเราชอบที่นี่เลย เพราะว่าเงียบ คนไม่เยอะ แล้วก็มีคอกกั้นเป็นสัดส่วน เสียงเล็ดลอดมันก็มีบ้าง แต่น้อยเลยค่ะ คอมก็ใหม่ โต๊ะใหญ่พอสมควร สอบไม่กี่คน เจ้าหน้าที่ก็ดูแลทั่วถึงดีค่ะ มีปัญหาก็ยกมือได้เลย

    หนังสือ ... เราใช้ 2 เล่มค่ะ Official TOEFL book + Barron's ค่ะ ใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 1 เดือนค่ะ
    -เราชอบของ TOEFL มากๆ เพราะว่ามันอธิบายเรื่องการสอบดีมาก (ก็เค้าเป็นคนออกข้อสอบเองนี่นา อิอิ) แบบฝึกหัดอาจจะน้อยไปนิด แต่อธิบายเรื่องตัวข้อสอบได้ดีมากๆ
    -Barron's เป็นเล่มเสริมของเรา เอาไว้ทำแบบฝึกหัดเพิ่ม .... ยากอ้ะอันนี้
    เราว่ายากกว่าข้อสอบจริงพอสมควรเลย แต่ก็ดีในระดับนึงเลย เราชอบตรงที่ถ้าซื้อ CD ด้วย มันจะมีแบบฝึกหัดในทุกส่วนครบ ได้ฝึก listening จริงๆ แล้วก็ได้ลองจับเวลา part speaking ดูด้วยค่ะ ...
    -หนังสือที่แนะนำสำหรับ writing + reading: หนังสือพิมพ์ค่ะ พวก daily xpress, bangkok post, the nation อ่านทุกวัน ให้ภาษาสวยๆ มันซึมเข้าไปอ่ะค่ะ เป็นหนังสือพิมพ์แล้ว แกรมม่าผิดน้อยถึงน้อยมากแน่นอน สำนวนภาษาพวกนี้ก็นำมาใช้เขียนจริงได้เยอะอะค่ะ

    เวลาสอบจริง .....

    reading: เราโดนไป 5 passage ... เห็นวิธีแนะนำการอ่านอยู่หลายวิธี ทั้ง skim แล้วค่อยอ่าน หรืออ่านคำถามก่อน หรืออ่านเฉพาะบรรทัดแรก เราว่าแต่ละคนต้องลองหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองอ่ะค่ะ เราทดลองทุกแบบ ตอนที่ทำแบบฝึกหัด (จับเวลาไปด้วยนะคะ) คิดว่า แบบที่เวิคสุดสำหรับเรา คืออ่านทั้ง passage เลย แล้วค่อยเริ่มดูคำถาม เราเลยเลือกใช้วิธีนี้เวลาสอบจริง
    สำหรับเราการอ่านทั้ง passage ทำให้เราจับ theme ของบทความนั้นได้ จับอารมณ์ของผู้เขียนได้ด้วยอ่ะค่ะ ผ่านไป 3 passage เราก็เริ่มจะมึนเหมือนกัน นึกว่ามันจะจบแล้ว ดันมี passage 4 มาอีก จำได้ว่าหยุดไปประมาณ 10 วิ คือพยายามตั้งสติ หลับตาสูดหายใจ แล้วก็ค่อยเริ่มทำต่อค่ะ

    listening: ผ่านไปด้วยดีค่ะ official TOEFL guide จะบอกไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าคำถามเค้าจะเป็นแนวไหนยังไง ปลายๆ listening ของเรา คนอื่นในห้องเริ่ม speaking ไปบ้างแล้ว (ก็เข้าห้องสอบคนสุดท้ายเลย แถมยังโดน reading ไปอีก 5 passage อิอิ) ก็แอบมีวอกแวกนิดหน่อย... ขอแนะนำให้พยายามตั้งสติค่ะ อย่าไปสนใจเสียงอะไรทั้งสิ้น ตอนที่เราซ้อมฟังอยู่ที่บ้าน เราเปิดทีวีเบาๆ ไปด้วย คือให้มันมีเสียงเข้ามานิดนึง แล้วทำแบบฝึกหัด คือฟังจากคอมไปด้วย จะได้หัดตั้งสติเยอะๆ อ่ะค่ะ ต้องพยายามอย่างมากที่จะฟังจากคอมอย่างเดียว (แต่บางทีในทีวีก็น่าสนใจ... เลยหันไปดูทีวีซะเลย แหะแหะ)

    Speaking: part นี้ได้น้อยที่สุดใน 4 part เลย เพราะว่าพูดไม่ทัน 555
    ตอนเราเริ่ม คนอื่นก็เสร็จเกือบหมดแล้ว ห้องเลยเกือบจะเงียบทีเดียว ได้ยินแต่เสียงเคาะแป้นพิมพ์ ไม่ต้องตะเบ็งแข่งกะใคร โชคดีจัง :)
    ผลบุญของเด็กแลกเปลี่ยน เราเลยไม่ค่อยกังวลกับ part นี้เท่าไหร่ เรียกได้ว่า แทบไม่ได้เตรียมอะไรเลย นอกจากซ้อมพูดนิดหน่อย แต่ก็พอจะรู้ว่า เวลาจริงอาจจะพูดไม่ทัน เพราะตัวเองเป็นคนชอบพูดยาวๆ สังเกตได้จากกระทู้นี้เป็นต้น อิอิ ... แล้วก็พูดไม่ทันจริงๆ ซะด้วย บางข้อเลยต้องรวบรัดใน 15 วินาทีสุดท้าย พยายามสรุปคำตอบทุกอย่างให้ได้ทันครบหมด

    Writing: เราวางแผน+คิดก่อนประมาณ 10 นาทีว่าจะเขียนอะไร เสร็จแล้วก็เขียนคำนำกับสรุปก่อนเลย แล้วค่อยเขียน main หลัก ของแต่ละย่อหน้าไว้ จากนั้นค่อยหาเหตุผล + ตัวอย่างมาอธิบาย main ที่เขียนเอาไว้ค่ะ จริงๆ แล้วเราเป็นคนอ่อนแกรมม่า เลยเป็นกังวลพอสมควร โชคดีว่าได้หัวข้อโอเค มีช่องให้เขียนได้เยอะ ทำให้พอเขียนเสร็จแล้ว ยังมีเวลามานั่งตรวจทานแกรมม่าได้บ้าง  

    ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะค้า :)

    แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 51 16:51:44

    จากคุณ : มือซ้ายไม้7 - [ 27 พ.ย. 51 16:25:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com