ความคิดเห็นที่ 1 บินมาเมืองไทยใช้เงินไม่กี่สตางค์ ค่าที่พักค่าโน่นนี่ ไม่ได้มากมาย ไม่ได้ทุ่มเทอะไรหรอกค่ะ เขาก็แค่ถือว่า มาพักผ่อนเเละได้รู้จักคนที่คุยกันออนไลน์ไปด้วยในตัว ถูกใจกันก็ดี ไม่ถกใจเขาก็ไม่ได้เสียเงินฟรี เพราะได้มาเที่ยวเมืองนอก เรื่องของคุณ ถ้าคุณบอกเขาว่าเปลี่ยนแผนเเล้ว ไม่ไป แล้วถ้าเขาต้องทัศนะอยากเจอคุณจริงๆ เดี่ยวเขาก็มาค่ะ ไม่เห็นต้องสับสน เเล้วถ้าการที่คุณเปลี่ยนแผนไม่ไปเมกา เล้วเขาจะเลิกคบกับคุณ ถือเสียว่านั่นเป็นโชค เพราะเขาก็ไม่ได้เห็นว่าคุณสำคัญอะไร ลองถามใจคุณว่า ที่ชอบเขาเนี่ย ชอบเพราะอะไร หากคนๆ นี้ ความคิดเห็นแบบนี้ ไม่ว่าจะมาในชาติพม่า อินโด หรือฝรั่ง คุณจะยังชอบพอเขาอย่างที่เป็นอยู่ไหม เเล้วเขาช่ะ ต้องใจอะไรคุณ ส่วนตัวดิฉันไม่ชอบ ฝรั่งที่บอกว่าชอบผู้หญิงไทย เพราะคิดว่าคนเราจะรักกันชอบกัน ไม่ใช่เพราะเป็นหญิงไทย ว่าง่ายเชื่อฟัง แต่ควรจะรักกัน เพราะความนึกคิดไม่ใช่ชาติพันธุ์ จากคุณ : mrs.night owl - [ 21 ธ.ค. 51 20:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ว๊าว คุณ mrs.night owl ตอบดีจังค่ะ จากคุณ : LoveIsColorBlind - [ 21 ธ.ค. 51 20:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราเจอและรู้จักหลายๆ คนไปใช้ชีวิตคู่ที่ต่างประเทศ ตอนแรกก็ตั้งความหวังความฝันไ้ว้สูงส่งแล้วจมไม่ลง เพราะการใช้ชีิวิตที่เมืองนอกมันไม่ได้สวยงามเลิศเลออย่างที่่หลายคนคิด ต้องปรับตัวและเรียนรู้อะไรหลายอย่าง ถ้าเจอคู่ทีีดีดูแลเราได้ก็ถือว่าเป็นโชควาสนา มีไม่น้อยที่เจอฝรั่งร้ายๆ และเลวๆ แต่ก็ต้องทน หลายรายหลุดเข้าวงจรอุบาทว์ไปเลยเพราะวีซ่าหมด ่สรุปคือไม่มีใครมานั่งเล่าหรอกว่าต้องเจออะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะำพร่ำพรรณาความสุขสดชื่นสมหวังทั้งนั้น ใครมันอยากจะประจานตัวเองหล่ะ จากคุณ : พิมพ์ไปงงไปเหมือนกัน - [ 21 ธ.ค. 51 20:54:59 A:210.86.215.217 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราว่าค่อย ๆ ศึกษากันไปแล้วกันค่ะ..เพื่อน ๆ ตอบดีมากเลย เราเองก็มีสามีฝรั่ง...ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจค่ะ.. เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : MJ-Together - [ 21 ธ.ค. 51 21:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเท่าที่คุณบอก หนุ่มอเมริกา อายุมาก สี่สิบกว่าแล้ว ถ้าเป็นคนดีมีการศึกษาพอสมควร มีการงาน มีฐานะที่จะรับรองอนาคตคุณได้ เขาคงบินมาดูตัวคุณแล้ว แต่เขากลับให้คุณบินไปหา เขาก็หวังว่า คุณมาแล้ว คงเป็นลูกมืออยู่ในกำไก่ ที่เขาจะทำอะไรก็ได้ ผมว่าการคบกันของคุณมันยังมีเหตุผลต่อการตัดสินใจน้อยไปหน่อย   ธรรมดา ขนาดเราเป็นต่างชาติ มีการศึกษานิดหน่อย ทำงานไม่กี่ปี เรายังยกฐานะอยู่ระดับคนชั้นกลางของอเมริกาได้ เขาเจ้าของประเทศเอง ทำงานจนอายุป่านนี้แล้ว น่าจะดีกว่าพวกเราที่มาอาศัยเมืองเขาอีก จริงๆถ้าฝรั่งอายุขนาดนี้ หากอีจริงหรือจริงใจกับคุณจริงๆ ควรจะสละเวลามาพักร้อนเมืองไทยเพื่อได้คบกับคุณและตัดสินใจได้แล้ว วีซ่าคู่หมั้น ทำไม่เกินสามเดือนก็มาได้แล้ว ขนาดน้องนิด คนบุรีรัมย์ เปิดทอล์คกิ้งดิค คุยกับแฟน แฟนเป็นแค่ทหารเล็กๆ แต่เขามาเที่ยวเมืองไทยแล้วเจอกัน ใช้เวลาปีกว่าคบกันและตัดสินใจมา ตอนนี้ก็ได้ดีไป      ตอนผมเป็นอาสาสมัคร ขับรถลีมูซิน แต่งงานให้โบสฝรั่ง ก็เจอสาวไทย แต่งกับฝรั่ง เป็นครูสอนภาษาที่อยุธยา เจอกันในเนต แต่เขาบินไปดูตัวครั้งเดียว คลกันปีกว่า       อยากได้ข้อมูลจริงๆ จากประสบการณ์ของผมที่ได้พบเห็นและพูดคุยคบกับคนไทยสามีฝรั่ง รัลรองผมเล่าหลังไมค์ให้ยาวๆเลยครับ แต่ซีเรียสนะครับ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของสาวไทย ไม่รับปรึกษาทั่วไปนะครับ ขอแค่รายที่ต้องตัดสินใจจะแต่งกับฝรั่งอเมริกา เท่านั้นนะครับ ผมยินดีให้ความจริงแท้แน่นอกแก่คุณได้ครับ ประสบการณ์ยี่สิบกว่าปี คงมีข้อมูลพอให้ตัดสินใจได้นะครับ      ดร แซม จากคุณ : tynoi2005 - [ 21 ธ.ค. 51 21:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องที่คุณจขกท เล่ามา เราว่าเรื่องแบบนี้ทดสอบกันได้ค่ะ ถ้าเค้าจริงจังที่จะคบคุณจริงๆนะ ฝรั่งบางคนไม่เคยมาเมืองไทย ไม่รู้จักเมืองไทย แต่ถ้าจริงจังขึ้นมา ประเทศไหนไม่สำคัญหรอก ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนเค้าก็อยากหาโอกาสมาพบคุณให้ได้ ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยนะ ยิ่งเดี๋ยวนี้อินเตอร์เนทมันแพร่ไปเกือบทุกๆกลุ่ม เราต้องยิ่งระวังให้มากขึ้น เอาเป็นว่า คบกันไม่ถึงปี แล้วอยู่ด้วยกันรอดก็มีเยอะ คบกันมานานแล้วเลิกก็เยอะ มันอยู่ที่ตัวคุณเลือกแล้วตัดสินใจอีกทีค่ะ ที่แน่ๆ ถ้าเค้าและคุณมั่นใจกันจริงๆนะ ลองให้เค้าทำเรื่อง วีซ่าคู่หมั่นให้สิ เป็นวีซ่าที่จะสแกนเค้าได้ระดับหนึ่งด้วย ว่าเค้ามีการงานที่มั่นคง ไม่มีประวัติอัตรายอะไรมาก่อน และที่สำคัญ คนที่จะต้องทำก็คือเค้านั้นเอง มันเป็นเครื่องวัดได้ว่าเค้าคิดจริงจังกับคุณมั้ย ยังมีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่วิ่งตามหาความรัก โดยไม่สนใจว่าความรักนั้น มันจะสีอะไร เพียรทำทุกวิถีทาง ขอให้ได้สัมผัสก็พอ ทั้งๆที่ตัวเองมีเวลาเลือกและตัดสินใจ Live Long Enough To Find The Right One  :D จากคุณ : dcapar - [ 21 ธ.ค. 51 21:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ ดร.แซม คะ อ่านความเห็นของคุณแล้ว มันก็ตรงกับความรู้สึกบางอย่างของดิชั้นอยู่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้น ดิชั้นคงไม่สับสนหรอกค่ะ ถ้าเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่เพิ่งได้คบได้คุยกับหนุ่มอเมริกันคนนี้แรกๆ ดิชั้นคงจะหน้ามืดกว่านี้ อาจจะตัดสินใจไปหาเค้าแล้วก็ได้ แต่ด้วยความโชคดีที่ยังเป็นคนมีสติอยู่บ้าง ก็พยายามรวบรวมข้อมูลที่คุยๆ กับเค้าตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าถามว่าเค้าพูดเรื่องแต่งงานกับดิชั้นหรือเปล่า เคยค่ะ แต่ไม่ได้เป็นการพูดแบบเอาจริงเอาจัง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะดิชั้นเองด้วยที่บอกเค้าเองว่า ไม่อยากตัดสินใจแต่งงานง่ายๆ ถ้าตัดสินใจแต่งต้องหมายความว่ามั่นใจแล้วว่า จะต้องอยู่ด้วยกันได้จริงๆ และไม่เลิกกัน คือคิดยาวค่ะ คิดถึงว่า ถ้ามีลูกแล้วเลิกกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี โดยเฉพาะสำหรับลูกที่จะโตมากับครอบครัวแตกแยก เรื่องที่ดิชั้นข้องใจเค้าก็คือเรื่องที่เค้าไม่มาเมืองไทยนี่แหละค่ะ ตอนแรกคิดว่าเค้างกค่ะ แล้วก็คิดว่าถ้างกอย่างนี้ ไปอยู่ด้วยกันจะไปรอดมั้ย หลังๆ มาก็เริ่มคิดว่า เค้าเองก็อาจจะไม่ได้จริงจังกับดิชั้นมากมาย เพราะดูเหมือนไม่มีความพยายามที่จะมาหา มีแต่ความพยายามที่อยากจะหาลู่ทางให้ดิชั้นไป แต่เผอิญ ดิชั้นไม่เคยขอให้เค้าช่วยเหลือเรื่องการไป ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ตรงนี้อาจจะทำให้เค้าคิดว่า ดิชั้นสามารถไปเองได้ก็ได้ใช่มั้ยคะ เค้าเคยพูดว่า ดูเหมือนแผนการจะไปของดิชั้นมันเลื่อนลอย จนเค้ารู้สึกว่า มันอาจจะไม่เกิดขึ้นจริง ใจจริง ดิชั้นเองก็ไม่อยากเสียเวลาคบกับเค้าแล้วนะ คือ เคยเลิกไปหลายที เพราะคิดว่า มันไม่มีประโยชน์ที่จะติดต่อกันแบบไกลๆ อย่างนี้ แล้วก็ไม่มีวี่แววที่เค้าจะดิ้นรนมา เรื่องที่ดิชั้นจะไป ดิชั้นก็ไม่ได้มีความกระตือรือล้นมากมาย ดูเหมือนไม่ค่อยรักกันเลยนะคะ ยอมรับค่ะว่า ช่วงเวลาหวานแหววมันค่อยๆ จางไป เหลือแต่เรื่องซีเรียสที่คุยกันเรื่องอนาคต จะอยู่กันยังไง จะใช้ชีวิตแบบไหน จะดูแลกันยังไง หรือดิชั้นเองที่ไม่พร้อมจะจริงจังก็ไม่รู้นะ แต่บางทีอ่านเรื่องของคนอื่นเยอะมั้ง เห็นเค้าราบรื่น สวยงาม หวานแหวว ทุ่มเท ก็เอามาเปรียบเทียบกับตัวเองว่า ไม่เห็นเหมือนเลย คงไม่ใช่ของจริงมั้ง ถึงได้ตั้งคำถามไงคะว่า มันสวยงามจริงหรือ จากคุณ : กำลังสับสน - [ 21 ธ.ค. 51 22:15:38 A:124.120.79.78 X: TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าอย่างนั้นเจ้าของกระทู้ถามว่าความรักสวยงาม หรือการมีสามีฝรั่งสวยงามค่ะ ถ้าความรักดิฉันว่าเวลาที่เราตกหลุมรักใครสักคงเราสามารถยิ้มได้คนเดียวทั้งวัน นั่งฟังเพลงแล้วร้องไห้เพราะปลีม ซี้ง แค่คิดถึงเขาก็มีความสุขแล้ว ดิฉันเชี่อว่าใครก็เคยเป็นแบบนี้ แต่ว่าคนที่เราตกหลุมรัก อาจจะไม่ได้แต่งงาน อาจจะเลิกกันด้วยอะไรก็ตาม แต่เราก็เคยรู้สีกแบบนี้กับใครสักคน (ดิฉันหลายคนหน่อย ระยะสั้น ๆ แบบปลี้มก็มี แต่ว่าแค่คนที่เราปลี้ม ยิ้มให้ก็สวรรค์แล้วล่ะ) ดิฉันว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามค่ะ แม้ว่าภายหลังมันจะโหดร้ายก็พร้อมที่จะเจอมันค่ะ ส่วนอีกประเด็นหนี่งความรักกับฝรั่งมันสวยงามมั้ย ก็คือก็เหมือนความรักกับคนไทย แต่ว่ามันไม่สุขสบายอย่างที่คิด เพื่อนดิฉันแต่งงานกับคนไทย สามีมีรถ S500 แต่ว่าสามีดิฉัน เพิ่งจะคิดซื้อรถ vw golf เป็นของตัวเองคันแรกในชีวิต ฝรั่งไม่ได้รวย ชีวิตมันไม่ได้สวยงามอะไร แต่ว่าความรักที่จริงใจ แล้วสมหวังมันสวยงามค่ะ มีทะเลาะกันบ้าง ด่ากับบ้าง สุดท้ายก็ดีกันเหมือนเดิม มีคนๆ เกิดมาพร้อมที่จะทำอะไรดี ๆ ให้เรา เกิดมาเพื่อจะอยู่กับเรา แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นแต่มันก็สวยงามค่ะ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็น ฝรั่ง แขก เขมร ไทย ลาว และชาติอื่น ๆ เขาเรารักกันมันสวยงามอยู่แล้ว เพราะมันคือความรักค่ะ จากคุณ : มนชิจัง - [ 21 ธ.ค. 51 22:59:52 A:86.205.212.155 X: TicketID:169393 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความรักและการได้แต่งงานอยู่กินกับคนที่เรารักและรักเรา...เป็นสิ่งสวยงามเสมอค่ะ... แต่กรณีของ จขกท. นั้น...อยู่ขั้นไหน? - ยังไม่ได้เป็นแฟนกันแน่นอน เพราะยังไม่เคยเจอตัวกันเป็นๆ เลย - ยังไม่เคย date กัน เพื่อที่จะได้เรียนรู้นิสัยของทั้งสองฝ่าย - ยังไม่เรียกว่า "ความรัก" เพราะยังไม่เดินไปถึงขั้นนั้นเลย (ทั้งสองฝ่าย) ถ้าเริ่มจากเจอตัวกันก่อนและควรให้เขาเป็นฝ่ายมาหาคุณก่อนจะดีที่สุดค่ะ (พูดถึงเรื่องความปลอดภัยของคุณนะคะ) พอเจอกันคุณอาจจะไม่ชอบเขาก็ได้หรือเขาอาจจะไม่ชอบคุณเลยก็ได้...แต่ถ้า click กันก็สานสัมพันธ์ต่อไป เรื่องของคุณไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับเรื่องของคนอื่นหรอกค่ะ...แล้วคุณจะไม่สับสน...แต่ขอเตือนว่า "อย่าเชื่อคนง่าย (L word)...อย่าด่วนสรุป...และอย่าคิดเข้าข้างตัวเองแต่อย่างเดียว..." Good luck! จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 21 ธ.ค. 51 23:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สามีเรามักบอกว่า "Moving to another country is the hardest thing to do". เราก็ว่าจริงค่ะ เพราะแม้คุณจะโชคดีสุดชีวิต แล้วได้สามีดี ๆ แต่คุณก็ยังมีช่องว่างที่เงิน และความรักของสามีคุณ ไม่สามารถเติมให้มันเต็มได้ ช่องว่างเช่น ความรักและห่างไกลจากพ่อแม่ ครอบครัว และเพื่อน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่เราเคยมีที่เมืองไทย รวมไปถึงด้านอาหารการกิน ดังนั้น ถ้าจะให้ตอบว่า การแต่งงานกับฝรั่ง มันสวยงามจริงมั้ย เราขอตอบว่า "ไม่จริง" ค่ะ เพราะบางทีปัญหาเล็ก ๆ เหล่านี้ สามารถนำไปเป็นปัญหาให้ทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัวได้ หากฝ่ายชายไม่ทำความเข้าใจกับเรา เราขอฟังธงว่า สาวไทยหลาย ๆ ท่าน เวลาทะเลาะกับสามี มักจะแหกปากว่า "ฉันทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อเธอ" เราว่ากรณีคุณ ฝ่ายชายเค้าก็อายุพอสมควรแล้ว ถ้าเค้าอยากจะจริงจังก้บคุณจริง ๆ เค้าน่าจะมาทำความรู้จักครอบครัวของคุณ ไม่ลองคุยกันเล่น ๆ เรื่องนั้นล่ะค่ะ เป็นการให้เค้าพักผ่อนไปในตัว แต่ว่า...แม้เค้าจะปฎิเสธ ก็อย่าเพิ่งตีตนไปว่าเค้าไม่ได้รักจริง ตอนนี้เศรษฐกินที่อเมริกาย่ำแย่ การจะลางานไปนาน ๆ แบบนั้น บางทีทำได้ยาก แถมค่าเครื่องบินราว ๆ 1000 เหรียญเนี่ย ก็ถือเป็นเงินเยอะนะคะ ยังไงตัวคุณเองควรจะถามใจตัวเองให้ดี ๆ ก่อนค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : Lilac Girl - [ 21 ธ.ค. 51 23:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บอกสั้น ๆ นะคะ ถ้าเขาจริงจังจริงใจ เขาจะพยายามมาหาคุณและเจอตัวจริงกันให้ได้ค่ะ จากคุณ : แอน - [ 22 ธ.ค. 51 00:10:22 A:207.154.109.225 X: TicketID:107813 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ที่มาตั้งกระทู้ เพราะเราสับสนจริงๆ คือสับสนทั้งตัวเองด้วยว่า เรารู้สึกอย่างไรกับเค้ากันแน่ อย่างที่ คห 8 ถามว่า มองความรักสวยงาม หรือการมีสามีฝรั่งสวยงาม ดิชั้นมองความรักสวยงามเสมอค่ะ และไม่ได้มองว่าต้องเป็นเชื้อชาติไหนแล้วมันจะสวยงามหรือดีไปกว่ากัน เพียงแต่... การจะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ หรือลองศึกษากันให้มากกว่านี้ การอยู่ไกลกันคนละประเทศมันเป็นเรื่องยากไงคะ และดิชั้นเองก็สงสัยว่า หลายคนที่ตัดสินใจไป ทั้งๆ ที่ใช้เวลาไม่นานในการรู้จักกัน แล้วบอกว่า ช่างโชคดีที่ได้เจอสามีดีๆ นี่ มันจริงเสมอไปหรือเปล่า ไม่ได้โจมตีใครนะคะ อย่าเข้าใจผิด เพราะเวลารู้เรื่องของคนที่เค้าได้มีคู่ครองที่ดี เจอคนดีๆ และมีครอบครัวที่อบอุ่น ก็รู้สึกยินดีกับเค้ามากๆ เพียงแต่เราเป็นคนที่เคยเจ็บปวดกับความรักมาก่อน เราอยากระวังตัวให้มากๆ เราไม่สามารถบอกได้ว่า เรารักเค้านะตอนนี้ และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเค้าก็รักเรา มันอาจจะเริ่มต้นจากความประทับใจ พอใช้เวลามาระยะหนึ่ง ไอ้เรื่องคุยหวานแหววมันก็เปลี่ยนไป ตัวตนของต่างคนก็ต่างออกมา เริ่มคุยเรื่องซีเรียส เรื่องอนาคตกัน แต่ยอมรับว่า บางทีเราก็ยังติดอยู่กับความหวานแหววบ้าง พอเค้าอยากคุยเรื่องจริงจัง เราก็ไม่อยาก เพราะเราอาจจะยังไม่คิดถึงขั้นนั้น ถามว่าเรายังอยากคบเค้าต่อไปมั้ย มันสับสนค่ะ คือมีเค้าอยู่ก็ดี แต่ไม่มี เราก็ไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกยังไงเหมือนกัน มันเหมือนยังไม่ได้เริ่มเรียนรู้กันจริงจัง ก็เลิกกันละ บางทีมันอาจจะดีก็ได้ แต่ที่เคยคิดจะเลิก เพราะมักจะบอกตัวเองว่า มันคงเป็นไปไม่ได้ไงคะ คือเรากลัวความผิดหวัง กลัวถูกหลอก กลัวเสียใจ เลยคิดว่าจะมานั่งกังวลทำไม เลิกเลยดีกว่า อีกอย่างเค้าก็ดูเหมือนไม่ได้ดิ้นรนที่จะมาเจอเราสักที มันก็เลยยิ่งคิดว่า เค้าไม่ได้จริงจังกับเรา จะเสียเวลาไปทำไม อืม นี่เราสับสนจริงๆ นะเนี่ย เราเลยอยากได้ความเห็นของหลายๆ คนในนี้ ทั้งดีและไม่ดี เพื่อให้ตัวเองมีสติมากขึ้น เหมือนคนอื่นมองเข้ามา น่าจะเห็นอะไรได้ชัดเจนกว่าในบางมุม จากคุณ : จขกท - [ 22 ธ.ค. 51 00:58:38 A:124.120.79.78 X: TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วแต่บุคคลมากกว่าบางคนโชคดีทั้งได้สามี(ฝรั่ง)ดี โชคดีที่ได้งานทำที่ต่างประเทศ บางคนก็อาจโชคไม่ดีเจอคนไม่ดี บางคู่ไปอยู่กันแค่1ปีแล้วเลิกกันก็มี บางคนไปอยู่หางานทำไม่ได้ พออยู่แต่บ้านก็เกิดความเบื่อ เครียด คิดถึงบ้าน(แล้วแต่ดวงด้วยมั้ง) ส่วนเรื่องที่ว่าชีวิตจะสวยงาม จะราบรื่นไหมคงขึ้นอยู่กับคนสองคนเพราะผู้ชายทั่วโลกก็คงเหมือนๆ กันทุกประเทศอยู่ที่ว่าแต่ละคนจะประคองชีวิตคู่ได้ดีแค่ไหน เวลาเท่านั้นค่ะคือเครื่องพิสูจน์ถ้า จขกท.คิดว่ายังไม่พร้อมจริงก็ไม่ต้องรีบร้อนถ้าเขารักเราจริงเขาคงรอเราได้ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 01:03:01 จากคุณ : sapuknik79 - [ 22 ธ.ค. 51 01:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ายังไงๆ เค้าไม่มาหาคุณแน่ๆ และคุณยังไม่รู้ว่าจะได้ไปเมื่อไร และเค้าเป็นคนดีจริงๆ คุณยังอยากคุยกับเค้าต่อไป คุณอาจจะขอลดระดับความสัมพันธ์ให้เหลือแค่เป็นเพื่อนก่อนก็ได้ บอกเหตุผลเค้าไปตรงๆ ว่าอนาคตไม่แน่นอน และคุณไม่อยากให้เค้ามองว่าคุณผิดสัญญาอีก แต่ถ้าเค้าพูดไม่รู้เรื่อง คุยด้วยแล้วอึดอัด ก็เลิกคุยไปเลย เคยอ่านกระทู้แนะนำกระทู้นึง (ไม่แน่ใจว่าห้องนี้หรือเปล่า) ที่ผู้หญิงคุยกับคนอเมริกันทางเนท ผู้ชายก็ส่งเงินมาให้เป็นของขวัญอยู่เรื่อยๆ (แต่ผู้หญิงคนนี้ก็เอาเงินซื้อของขวัญส่งกลับไปให้ผู้ชาย) และผู้ชายก็เอาจริงเอาจังมาก ถึงกับหาข้อมูลและสมัครเรียนมหาลัยให้ผู้หญิงด้วย โดยเค้าจะเป็นสปอนเซอร์ให้ด้วย แต่ผู้หญิงขอวีซ่าไม่ผ่านเลยไม่ได้ไป สุดท้ายผู้หญิงตัดสินใจเลิกกับผู้ชายคนนี้ เพราะมีผู้ชายคนใหม่มาจีบ เป็นคนมาเลเซีย เจอกันในไทย รู้จักผ่านทางเพื่อน ตอนแรกผู้หญิงไม่อยากคบกับผู้ชายคนใหม่ เพราะยังชอบผู้ชายอเมริกันคนนั้นมากๆ แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจเลิกกับผู้ชายอเมริกัน เพราะยังไงๆ ผู้ชายก็ไม่ยอมมาเมืองไทย โดยที่เค้าไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ผู้หญิงคนนี้ตัดสินใจเลิก เพื่อมาหาสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า จากคุณ : ห้องใต้หลังคา - [ 22 ธ.ค. 51 01:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืมม.. การใช้ชีวิตในอเมริกา ไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครๆ คาดไว้หรอกนะคะ เราคิดแบบง่ายๆ เลยนะ แค่ผู้ชายจะลาพักร้อน เสียค่าตั๋วเครื่องบิน บินมาเจอคุณ ให้คุณได้สบายใจ มั่นใจขึ้นมาอีกนิดนึง เค้ายังเลือกที่จะไม่ทำเลย คุณแน่ใจแล้วเหรอว่าคุณจะฝากชีวิตกับเค้าได้ ประเด็นไม่ใช่เรื่องเงินทอง หรือ การเอาชนะคะคานกัน แต่มันคือการเห็นความสำคัญของคุณมากกว่า ก่อนเราตัดสินใจแต่งงานกับสามีเรา (คนไทย) เราก็บอกเค้าว่าถ้าอยากแต่งงาน ก็บินกลับมาขอแม่เราละกัน ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าเค้าได้ทุนเรียนต่อเอกแล้ว ในใจตอนนั้นเรายอมรับเลยว่า เค้าคงไม่ทิ้งทุนมาหรอก (ถ้าเป็นเรา เราก็อาจจะไม่ทิ้งเหมือนกัน - ยอมรับว่าเราเห็นแก่ตัวในเรื่องนี้) การหาทุนเรียนต่อเอก ไม่ได้ง่ายนัก ไม่ใช่คนร่ำรวยที่ไหน แต่สิ่งที่เค้าพิสูจน์ให้เราเห็นคือเค้ายอมทิ้งโอกาสที่ดี เพื่อกลับมาเจอเรา เจอทางบ้านเรา ให้เราสบายใจ มั่นใจ ว่าไม่ว่าจะมีโอกาสดีแค่ไหนในมือ เค้าต้องเลือกความสบายใจของเราก่อน ถ้าคุณสองคนรักกันมากพอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณจะฝ่าฟันมันไปได้ แต่คุณต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าคุณจะรักกันได้มากพอ จากคุณ : Living Extreme - [ 22 ธ.ค. 51 01:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับความคิดเห็นอื่นๆค่ะ เราก็มีเพื่อนฝรั่งเยอะ แต่เค้าไม่ได้คิดกะเราแบบเพื่อนอ่า เค้าก็บินมาหาเรานะค่ะ แต่เป็นเราเองที่กลัว ไม่กล้าไปเจอ ^__^ ถ้าเจ้าของกระทู้ไม่ได้เร่งรีบเกินไป น่าจะลองใช้เวลาคิดดูดีๆนะค่ะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : Walk TogEtheR - [ 22 ธ.ค. 51 01:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความรักนี่สวยงามเสมอค่ะ แต่จะเป็นแบบสวรรค์บนดินหรือนรกมีจริงของใครนี่คงแล้วแต่ว่าเรื่องของคนๆนั้น จะพาให้เขาไปอยู่ตรงไหน คือที่เขาว่าพอความจนเดินเข้าประตูมา ความรักก็บินออกหน้าต่าง นี่คงเคยได้ยินกันมาแล้ว จะเล่าให้ฟังอีกเจ้าหนึ่ง ฟังมาเหมือนกัน ขานี้ก็ chat กะหนุ่มเมกัน หนุ่มมีโอกาสบินไปหาสาวที่เมืองจีน ไม่เคยบอกสาวว่าตัวเองมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แต่เมียจับได้ขอหย่า หนุ่มก็ยังอยากได้สาวจีนคนนี้เนื่องจากเป็นเหยื่อรายใหม่ที่จะมาอยู่ใต้อาณัติ สาวจีนคนนี้มาแต่งกะฝรั่งคนนี้ก็ได้แต่ตัวไป เพราะผู้ชายเสียทั้งบ้านและจ่าย alimony ให้เมียเก่ากับลูกๆของเขาหมด เรียกว่าเมียใหม่มาพิสูจน์รักแท้ กัดก้อนเกลือไป อ้อ..ตอนนี้มี baby แถมใหม่มาอีกหนึ่ง เล่าให้ฟังนะ ว่าขนาดเขาบินมาหา ผู้หญิงมันยังไม่รู้เรื่องเลยว่าทางโน้นเขาเป็นอย่างไร จากคุณ : PatPDX - [ 22 ธ.ค. 51 01:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การมีสามี  เราคิดว่า ไม่ว่าชาติไหนๆ  ก็คล้ายๆ กันล่ะนะ รักกัน ก็อยู่ได้  แม้จะกัดกินก้อนเกลือ  ชีวิตก็สวยงาม แต่ถ้าอยู่กับคนที่เราไม่ได้รัก   ต่อให้จานชามที่ใส่กับข้าวกิน ทำมาจากเพชรทอง  ก็ไม่มีความสุขหรอก ค่ะ ถ้าเลือกได้ ดิฉันก็อยากมีสามี แบบสามีของดิฉันตอนนี้แหละ   แต่อยากให้เรากลับไปอยู่ที่เมืองไทย คิดถึงอาหารไทย คิดถึงชีวิตแบบไทยๆ คิดถึงคนไทย  คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ไม่ชอบเลย เมืองนอก   ทั้งเหงา  ทั้งหนาว  ทั้งเงียบ จากคุณ : SaNs tOi : Le MoNdE s'EcrOulE - [ 22 ธ.ค. 51 01:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อยากบอกว่า การฟังคนอื่นมันก็มีทั้งดีและไม่ดี สิ่งที่ดีที่สุดคือฟังตัวเอง เพราะคนอื่นไม่ได้มาพูด มาคุย มาเห็นกับคุณนะคะ จะดีจะชั่ว มันขึ้นอยู่ที่ตัวคุณ ชีวิตนี้มันต้องมีเสี่ยงกันบ้าง  คุณอาจจะพลาดคนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณไปก็ได้ใครจะไปรู้  มันอยู่ที่ว่าคนรู้ใจตัวเองแค่ไหน การที่คุณทำให้เค้าไม่แน่ใจ เค้าก็คงไม่อยากมาเสียเวลารอคุณจนถึงอายุ 50 60 70 การได้อยู่ด้วยกัน จับมือกัน กอดกัน มันน่าจะมีความสุขกว่าการอยู่ห่างกันไม่ใช่หรอ ลองถามใจตัวเองว่าต้องการให้มันเป็นไปในแบบไหน  ลองคิดดูนะ เค้ามาหาคุณได้แล้วไง พิสูจน์ได้เลยหรือเปล่าว่าเค้าจริงใจกับคุณ ไม่หรอก มันมีอะไรมากกว่านั้นอีก การที่เค้ายังไม่มา อาจจมีบางสาเหตุ  ฝรั่งไม่ได้รวยทุกคนหรอก แฟนเราก็ยังต้องใช้เวลาเก็บเงินเลย ไม่หล่อหรอก แต่น่ารัก นิสัยดี (รู้ได้ไงหรอ sense มันบอกไง คุยกันแล้วไม่เก็ตว่าใครเป็นไง ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว)   แฟนเราก็อายุประมาณแฟนคุณแหละ(แฟนหรือเปล่า ไม่ทราบนะ)  แต่ว่าตอนนี้เค้าเตรียมตัวมาเมืองไทยแล้ว คุยกันมา 14 เดือน ปีหน้าคงได้ฤกษ์ได้ยามมา   มีบ้างเหมือนกันที่คุยกันเรื่องซีเรียสแล้วความหวานมันก็จาง แต่ถ้าไม่คุยกันให้เข้าใจ มันก็เป็นจุดบอดในใจไปปล่าวๆ  ที่เขียนไว้นี้ก็อยากจะให้กำลังใจว่า ฟังเสียงของตัวเองว่าจะเลือกอะไร ถ้ามั่นใจก็เลือกใช้ชีวิตของคุณไปเลย เกิดมาหนเดียว จะเจอรักแท้ซักกี่ทีกัน เรื่องของเราคล้ายๆ กันอยากให้มั่นใจนะคะ จากคุณ : lover girl (ธิดาปลาทู) - [ 22 ธ.ค. 51 01:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มีเพื่อนคนหนึ่ง เค้า มักจะคิดว่า มีแต่ ผช ต่างชาติมาชอบเค้า ขอเค้าแต่งงาน หลายคนด้วย แต่เค้าปฏิเสธ ตอนหลัง เราถึงมารู้เพิ่มว่า ที่ว่า "ขอแต่งงานน่ะ"  เพื่อนแชท ทั้งนั้น หน้าก็ไม่เคยเห็น (แต่ ชีภูมิใจมากนะ ประมาณว่า ตัวเองฮอท) เราไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะคะ แต่เรา รู้สึกแปลก ที่ คุยกันยังไม่นานแล้ว ถึงกับขอแต่งงาน มันรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ตัวเป็นๆ  ยังไม่เคยเห็นเลย  ผช เค้าหวังอะไรหรือเปล่า หรือว่า มุข ขอผู้หญิงแต่งงานเนี่ย มันจะทำให้ผู้หญิง รู้สึกเชื่อ รู้สึกมั่นใจ อะไรได้ง่าย ๆ คะ หมายถึงกรณีทั่ว ไปนะคะ ในขณะที่คุณยังสับสน คุณลองอยู่เฉย ๆ ดีไหมคะ ซักพัก แบบ ไม่ออน ซักอาทิตย์ หนึ่ง หายไปเฉย ๆ ดูว่า ปฏิกิริยา เค้าจะเป็นยังไง (ถ้าคุณทำได้นะ) จากคุณ : Freedom of Life - [ 22 ธ.ค. 51 02:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คำว่าสับสนนั่นแปลว่าตัวคุณเองเริ่มไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ลองไม่ติดต่อกันดู แล้วดูสิว่า ใจคุณจะสั่งให้ทำแบบไหน คนเราถ้าความรักมันเข้าตา ต่อให้สุดหล้าฟ้าเขียวก็ต้องติดรน มาหากันให้ได้ ระยะเวลาที่คบกันสั้นหรือระยะเวลาที่คบกันนานๆ ไม่อาจยืนยันได้ว่านั่นคือรักแท้หรือรักหลอก อย่าพยายยามเปรียบ เทียบกับบุคคลอื่นเพราะความรักไม่มีแบบฉบับที่ตายตัว .....แต่ให้ทำตาม ที่ใจคุณสั่งแล้วอย่าลืมบอกตัวเองเสมอว่า หากเกิดผิดพลาดไม่เป็นดั่งใจ หวัง ......ก็จะไม่เสียใจ ป.ล ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอค่ะ ชีวิตคู่ก็เช่นกัน สวยงาม แห้งเหี่ยว ล้มลุกคลุกคลาน หวานแวว ทุ่มเท เอาใจใส่ คละเคล้ากันไปแล้วแต่ว่า บุคคลนั้นเขาจะหยิบจะนำเสนอในแง่ไหนของชีวิต พวกเขาก็เท่านั้น ขอให้โชคดีกับความรักค่ะ เอาใจช่วย จากคุณ : เด็กด๊อช - [ 22 ธ.ค. 51 03:11:29 A:91.10.133.254 X: TicketID:163909 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หลายความเห็นตอบได้ดีแล้วค่ะ อยากบอกเหมือนกันว่า ถ้าเขารักเราจริง เขาต้องบินมาหาเราเพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกันได้ค่ะ ค่าใช้จ่ายไปไทยตอนนี้ การท่องเที่ยว ลดแลกแจกแถมค่ะ   ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าคุณเป็นฝ่ายบินไปหา เกิดไม่ถูกใจกันแล้วจะทำอย่างไร เราไปหาเขาถึงที่แล้ว ( อะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับโลกอินเตอร์เน็ตค่ะ หลายคู่ไม่ว่าในไทยหรือว่าต่างชาติ ตอนแชทกันอะไรมันจะใช่เลย...ขนาดนั้น พอเจอหน้ากันไม่คลิก หลีกลี้หนีหน้ากันไปให้อีกฝ่ายที่ไม่ทันตั้งรับเสียใจซะเเฉยๆ อย่างนั้นเลย มีคนให้นิยามรักออนไลน์ว่า รักเล่นๆ แต่เจ็บจริง  น่าจะมีความจริงอยู่บ้างนะ อ่านที่หลายคนมาโอดครวญตามเน็ตเนี่ยแหล่ะ) อย่างไรก็ตาม ดิฉันยังเห็นว่า คุณควรให้เขามาทำความรู้จักคุ้นเคยกับคุณที่เมืองไทยค่ะ หากอะไรจะเกิดขึ้น ก็ยังเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ถ้าเกิดคุณบอกเขาแบบนี้ เขาหายหน้าไป ก็ถือว่าเป็นโชคของคุณที่ไม่เสียรู้คนไม่จริงใจก็แล้วกัน จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน - [ 22 ธ.ค. 51 04:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Never faith in Love online, anyway, I think  "Love" can be beautiful if 2 people make it beautiful. Remember...."Love needs lots of sacrifice." that 's all I can tell. จากคุณ : hamble pie - [ 22 ธ.ค. 51 04:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ หรือลองศึกษากันให้มากกว่านี้ การอยู่ไกลกันคนละประเทศมันเป็นเรื่องยากไงคะ และดิชั้นเองก็สงสัยว่า หลายคนที่ตัดสินใจไป ทั้งๆ ที่ใช้เวลาไม่นานในการรู้จักกัน แล้วบอกว่า ช่างโชคดีที่ได้เจอสามีดีๆ นี่ มันจริงเสมอไปหรือเปล่า ================================= จริงๆนะคะ คุณไม่มีทางรู้ได้เลย ไม่มีใครเล่าเรื่องราวเหล่านี้หรอกค่ะ เพราะเรื่องราวการใช้ชีวิตคู่ มันละเอียดอ่อน ถึงเล่า ก็เล่าได้ไม่หมด แล้วคุณก็อาจจะสงสัยอีกว่า จริงหรือ??? อย่างที่คุณสงสัยอยู่ตอนนี้ แล้วก็อีกอย่าง ชีวิตใครก็ชีวิตใคร ชีวิตคนนี้ดี ชีวิตคนนั้นไม่ดี ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับคุณ เพราะปัจจัยแวดล้อมต่างกันอีกนั่นแหล่ะ คนเราไม่มีใครจะทาบกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มค่ะ แล้วไอ้ส่วนที่ต่างเนี้ย มันก็ส่งผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างมากด้วย เราว่า งานนี้คุณต้อง ตัดสินใจ เองแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : ลองคิดดู - [ 22 ธ.ค. 51 05:14:35 A:81.153.43.181 X: TicketID:136749 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Hi..im steve Uk guy,well lets start by saying there is truth in online dateing..as hable pie says..Needs lot of sacrifiece:),its true.and right.let me start my journey about internet love. ive meet a girl who here in site is lover girl.this girl im flying to see around april 2009,she will reply the honest truth. im goin to say about our begining,but bare in mind no 2 people are the same..so here goes,and hope it can help.im sorry but i only know small wors in thai language. I first met lover girl in chat site,well date site i shoild say,some 14months ago now:)and its best thing i can ever say what i have done,or we have done. we got to know each other throu date site,then some trust respect gained then swap msn addy,then more trust to have fone number..when ist meet,lover girl was the most cold and basic girl i could meet??with negative thoughts and no kiss or i love u..it was just basic and formal chat.why did i stay beside her?? was it to think she will come to be nice girl? who knows.but i went with fate and thought lets stay and see what happends. its best choice ever i did,we gain so much trust respect,and happiness.and now we are or cant be seperated,every minute we chat,always in cam on fone call or live chats..as we both work and  time difference we get lots of hours talking,from day 1 we chat say 6.7.8 or more hours a time.. hope some of this can help..lover girl will agree at her own free will to this. and to think this younger girl did start to open up after many months of trust..evey day on web cam i see pretty smiles allways happy,for this past 6 months its 100 % love feelings we are so close,we both have love ache in side bodies..also i did read about thai tradition,lover girl repsect that it helped me,and we both understand our new life ahead.. its nice we slipped in to a relationship,i cant go into deep about us both,but id never love a english girl again..the thai tradition is great,the respect from lover girl is more than id ever had in my life..she is so different...we have grown together,over past 14months ive seen foto of which may look young girl,and now i make her happy and feel she means something to some 1 and also big life change,i now see a young mature woman,with much love for me,i would like to write more..but id be for ever..so hope my little adventure helps,i allways say there is hope..but dont give up..if guy is honest like me..ull be happy..good luck steve uk จากคุณ : lover boy (ธิดาปลาทู) - [ 22 ธ.ค. 51 06:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Hi..im steve Uk guy,well lets start by saying there is truth in online dateing..as hable pie says..Needs lot of sacrifiece:),its true.and right.let me start my journey about internet love. ive meet a girl who here in site is lover girl.this girl im flying to see around april 2009,she will reply the honest truth. im goin to say about our begining,but bare in mind no 2 people are the same..so here goes,and hope it can help.im sorry but i only know small wors in thai language. I first met lover girl in chat site,well date site i shoild say,some 14months ago now:)and its best thing i can ever say what i have done,or we have done. we got to know each other throu date site,then some trust respect gained then swap msn addy,then more trust to have fone number..when ist meet,lover girl was the most cold and basic girl i could meet??with negative thoughts and no kiss or i love u..it was just basic and formal chat.why did i stay beside her?? was it to think she will come to be nice girl? who knows.but i went with fate and thought lets stay and see what happends. its best choice ever i did,we gain so much trust respect,and happiness.and now we are or cant be seperated,every minute we chat,always in cam on fone call or live chats..as we both work and  time difference we get lots of hours talking,from day 1 we chat say 6.7.8 or more hours a time.. hope some of this can help..lover girl will agree at her own free will to this. and to think this younger girl did start to open up after many months of trust..evey day on web cam i see pretty smiles allways happy,for this past 6 months its 100 % love feelings we are so close,we both have love ache in side bodies..also i did read about thai tradition,lover girl repsect that it helped me,and we both understand our new life ahead.. its nice we slipped in to a relationship,i cant go into deep about us both,but id never love a english girl again..the thai tradition is great,the respect from lover girl is more than id ever had in my life..she is so different...we have grown together,over past 14months ive seen foto of which may look young girl,and now i make her happy and feel she means something to some 1 and also big life change,i now see a young mature woman,with much love for me,i would like to write more..but id be for ever..so hope my little adventure helps,i allways say there is hope..but dont give up..if guy is honest like me..ull be happy..good luck steve uk จากคุณ : lover boy (ธิดาปลาทู) - [ 22 ธ.ค. 51 06:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชีวิตสามีภรรยามีเป็นร้อยขั้นตอน ไอ้แบบที่ยังไม่เจอตัวเป็นๆกันเลย นี่ถือว่ายังไม่ผ่านขั้นที่ 10 เลย จากคุณ : ตาน - [ 22 ธ.ค. 51 06:44:02 A:78.20.218.88 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ความรักผ่านอินเตอร์เนต ดิฉันว่า มันสวยงามกว่ารักกันแบบเจอตัวต่อตัวค่ะ เพราะอะไรน่ะหรือคะ เพราะทุกอย่าง มันมาในรูปตัวหนังสืออักษร ที่เหลือคุณอยู่กับจินตนาการของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่า มันก็จะเป็นสิ่งที่คุณคิดอยากให้มันเป็น ที่รู้สึกว่าชอบ รู้สึกรัก มันก็เลยท่วมท้นเกินปกติ เพราะเราหลงรักสิ่งที่อยู่ในหัวเรา เป็นเขาเสียน้อยกว่าที่เราคิดเอง ผู้ชายคนไหน น่าสนใจ มีลูกล่อลูกชน ไหวพริบ ตรึกตรองแค่ไหน ฉลาดหรือไม่ อ่านจดหมายไม่เกิน 3 ฉบับรู้เเล้วค่ะ ที่คุณสับสน ดิแนจะบอกให้ว่า คุณชอบเขามาก แต่กลัวว่าเขาจะไม่มากเท่าที่คุณรู้สึก ไม่จริงเท่ากับที่คุณจริง น้อยใจที่เขาไม่บอกว่าจะมาหา เมื่อนั่นเมื่อนี่ และเมื่อคุณอาจจะไปไม่ได้ เขาก็ไม่ได้พูดหรือเสนออะไรให้คุรฟังเเล้วรู้สึกว่า คุณเป็นที่ต้องการมากพอ เขาไม่ได้พูดในสิ่งที่คุณอยากได้ยิน อ่านจากคำของคุณ คุรเองน่าจะมีหน้าที่การงานดี มั่นคงและอยู่อย่างสบาย ดิฉันไม่รู้ว่าฝ่ายชายเป็นอย่างไร แต่ถ้าทุกวันนี้อยู่สบายแล้ว มาตรฐานความเป็นอยู่ดีเเล้ว การใช้ชีวิตกับใครสักคน ควรจะดำรงมาตรฐานชีวิตอย่างน้อย ให้เท่าเดิม หากไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ปล. ไม่ได้รวมถึงพวกเวบหาคู่นะ เพราะนั่นเป้าประสงค์เจน ว่าต่างคนต่างมาหาคู่ชีวิต  เหมือนเข้าตลาดปลาโดยเฉพาะ เพื่อไปซื้อปลา แต่การเดท หรือคุยโดยทั่วไปคือการไปตลาดสด บางคนไปเดินเล่น ดูผลไม้ บางคนมาซื้อผัก บางคนมาซื้อขนม แล้วแต่ว่าจะเจออะไรติดมือไปบ้างหรือเปล่า อีกหนึ่ง ปล. เวลาอ่านภาษาอังกฤษ จากชาติที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก วิธีการใช้ภาษา การใช้ภาษา ตัวสะกด บอกอะไรเกี่ยวตัวคนเขียนได้เยอะเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 08:12:47 จากคุณ : mrs.night owl - [ 22 ธ.ค. 51 07:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 I agree with #1 Kun Gung...!!!! From my experience if the guy is really serious about having a long term relationship he will do whatever it takes to be able to learn a lot about you and to meet you as a person. I have met my husband on internet too but we only exchanged a couple of emails other than that we talk on the phone most of the time(every day for an hour a day). Only a month we had been talking then he surprised me by telling that he has already got a ticket to Thailand to meet me in person for a week. He came and meet my family , my friends, my colleague at work as well as my boss. I told him to come to see me in my site office( as an site Engineer so I had to go out side travel between BKK and Rajchaburi everyday and look after my staff). He came every day and I took him out to see what I was doing and took him for dinnder with my family as well as having lunch with my boss and my colleague. He really enjoyed it a lot and glad to see a real me as who I am. A week had gone by and he went back home. A week later he asked me to come and visit him in his country as he knew that I can have a long holiday as our project has already finished. I came to see him and spent 3 months holiday with him in his country( before I did that I was so sure that he was the right person that I will spend the rest of my life with). Anyway, we ened up with married and that was almost 6 years ago. It seemed to be very short period of time that we have known each other but for us everything seemed to be at the right time and the right place of course the right person(I never have a boyfriend). We know each other well and I was sure that I can rely on him when I have to start a new life in a new country. What I am telling you is....let him do the work. If he is serious about having a relationship( become a husband) he will do everything to be able to have you as part of his life. What you can do is be yourself and enjoy what you are doing. Good luck..!!! แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 10:10:26 จากคุณ : PoomPim..TMB - [ 22 ธ.ค. 51 09:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หวังว่าคงจะไม่เป็นการรกกระทู้ของเจ้าของกระทู้นะคะ ถ้า lover girl จะมายืนยันถึงสิ่งที่ lover boy เค้าเขียนไว้ อยากบอกว่าเราก็เคยตกอยู่ในภาวะแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้เหมือนกัน แต่ว่ามันผ่านมา 14 เดือนแล้วมันก็ผ่านการคิด คิดจากคนอื่น คิดจากตัวเอง คิดกับคนที่เราจะจริงจังด้วยก็เยอะ สุดท้ายตัดสินใจว่าการให้คนอื่นมาอิทธิพลกับเรามากเกินไป ผลที่เกิดมาตามหลังมันก็ไม่ได้เกิดกับพวกเค้า มันเกิดกับเราทั้งนั้น การมีแฟนฝรั่งสุขสมหวังเสมอไปจริงมั๊ย ไม่จริงหรอก อ่านคู่สร้างคู่สมสิ คนที่ไปลำบากที่นั่นก็มี คนที่ไปแล้วสบายก็ดี ปากกัดตีนถีบก็มี เพราะฉะนั้นฟันธงไม่ได้หลอกว่าสวยงามจริงมั๊ย  บางคนมีแฟนฝรั่งก็หวังรวย บางคนเพราะความรัก และคิดว่าคงจะอยู่กันเพราะรักแหละนะ เดาเอา    อีกอย่างมันแน่นอนอยู่แล้วว่าคนเราต้องเล่าเรื่องดีออกมาสู่สาธารณะชน แม้แต่คนไทยด้วยกันเองก็ตาม จะมีสักกี่คนที่บอกว่าโอยฉันเลือกผู้ชายไม่ดี ชีวิตลำบาก น้อยมาก  ก้มหน้าทำงานงกๆ ต่อไป อีกอย่างผู้หญิงไทยสมัยนี้นะก็ใช่ว่าจะให้ผู้ชายมาหาเสมอไป ที่เห็นมีไปหาผู้ชายถึงที่ก็มี สังคมเปลี่ยน ทรัพยากรผู้ชายน้อยลง ทำให้ผู้หญิงต้องง้อผู้ชายหน่อย แต่ไปก็เพราะรัก ถ้าไม่รักก็คงไม่ไป อันนี้แค่แสดงความคิดเห็นจากที่เคยเห็นมานะคะ แน่นอนต้องมีความคิดเห็นที่ต่างออกไปอีก   อยากให้มองแบบตราชั่ง คือบอกสองด้านให้มันเท่ากัน แล้วก็ชั่งใจตัวเองด้วยว่าหนักแน่นแค่ไหน ถ้าคิดว่าชาตินี้อยู่คนเดียวได้ หรือว่าสวยเลือกได้ก็ไม่เป็นไร ก็หาเลือกใหม่ไป แต่มันก็ต้องไปเริ่มต้นทำความรู้จักกันอีก  ใช้เวลากี่ปีถึงจะมั่นใจว่าเค้าจะแต่งงานกับเราและอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่มีการอย่าร้าง แน่นอนไม่มีใครู้ เราเองก็ไม่อยากอย่าร้าง อยากแต่งงานครั้งเดียวเหมือนกัน  แต่วันนั้นมันยังมาไม่ถึง  ใช้เวลาทุกนาทีตอนนี้ให้มีความสุขจะไม่ดีกว่าหรอ  คนเราไม่รู้หรอกวันตายน่ะ อาจจะตายก่อนพ่อแม่ตัวเองด้วยซ้ำ นายหลวงทรงตรัสไว้ว่า." ไม่มีคนที่ดีพร้อม สมบูรณ์แบบ100 % หรอก" อยากให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับทุกวันที่ผ่านเข้ามา บางทีความรักกับเหตุผลมันก็เค้ากันไม่ค่อยได้ แต่มีไว้ก็ไม่เสียหลาย รักเผื่อใจก็รักได้ แต่อย่าใจด้านกระด้างจนทำร้ายคนที่มอบความรู้สึกดีให้เรา แล้วเราจะเสียใจภายหลัง Be honest, i do not gratduate from uninversity and my major from college is not English,I'm an accouontant.  I can speak English cos i really interest it and i do self learning.  So don't worry if i will do mistake with this typing,   So about lover boy i do not come to show you all how much sweet we are, but we try to let's you all know we can trust to each other ,can love each other , even if we never ever met face to face before.  I no need to prove how can i belive him. But i do. I ever been weak like the owner of this topic ,till now my feeling 's so strong.  It's not a fairy tale, it's the truth you can touch,you can feel it,that's all.  There are millions reason from many people to object and think negative about thai woman with foreigner guy.  But i know good friends who has foreigner husband, they are nice people. They loved ,they married, they do the right thing. How could it happen? Because they dared to chose, and trust to thier husband. If you have no trustness ,you can't do any thing. you will always doubt and confuse. Take you time to decide what do u feel, if you still unsure about him but want to keep chatting, just chat with him and learn each other, If he is the right man, he is.   But lover boy is Mr. right  for me. การดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ก็เหมือนดูถูกเหยียดหยามตัวเอง ไม่เคารพคนอื่น ก็เหมือนไม่เคารพตัวเอง ให้เกียรติคนอื่น เช่นเดียวกับที่อย่างให้คนอื่นให้เกียรติตัวเอง ไม่ได้เลิศหรูมาจากไหน แต่ก็ไม่ได้จ้องจับผิดใคร ไม่มีใครที่ดีพร้อม 100% จากคุณ : lover girl (ธิดาปลาทู) - [ 22 ธ.ค. 51 11:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หลายๆเรื่องที่คุณสงสัยเขา เช่น ว่าทำไมไม่พยายามมาหาเหมือนคู่อื่นๆ หรือทำไมจริงจังเรื่องอนาคตมาก ทำไมไม่ถามไปตรงๆ หรือพูดคุยกันล่ะคะ คบกันโดยไม่เจอตัวกัน แล้วถ้ายังอมพะนำ เดาเอาเอง คิดเอาเองว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้หรือเปล่า ผู้หญิงเรายิ่งเป็นพวกชอบให้ผู้ชายคิดได้เองมากกว่าจะบอกเขาว่าตนเองต้องการอะไร การถามความเห็นคนในเน็ต สุดท้ายแล้วอาจจะไม่มีประโยชน์เลยก็ได้แล้วอาจจะยิ่งทำให้คุณสับสนเข้าไปใหญ่ เพราะใครจะรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้เหมือนผู้ชายฝรั่งที่คนในนี้เคยเจอมาหรือเปล่า ฝรั่งเป็นคนนะคะ ไม่ใช่ผลไม้ จะได้เหมือนกันหมด จากคุณ : yuy - [ 22 ธ.ค. 51 15:26:07 A:192.168.0.17 X:124.121.22.12 TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชีวิตคู่ ในความเป็นจริง มันไม่ใช่จะเหมือน 1+1=2  หรอกนะ .. จากคุณ : Pedantin - [ 22 ธ.ค. 51 15:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นของแต่ละคนก็คนละแบบ คนที่เคยผิดหวังก็ว่าไม่ดี คนที่เคยเจอคู่สมหวังก็ว่าดี เอาไงดีล่ะ แต่เราว่า จขกท. มีคำตอบและแนวทางอยู่แล้วล่ะเพียงแต่ลองถามความคิดเห็นจากหลายๆคนเพื่อมาเป็นข้อมูลซัพพอร์ท  ยังไงก็คงไม่สับสนไปมากกว่านี้หนอกเนาะ และก็ไม่เห็นว่าความคิดเห็นด้านความรักจะต้องเป็นสูตรคูณเลย จขกท.เองก็มีสติอยู่แล้วจากที่เขียนมาก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไรที่ไม่ดีนี่ เรามีพี่สาวเปนแบบนี้เหมือนกันนะคะ เจอกันทางออนไลน์แต่พี่ฝรั่งก็อยากมาเมืองไทยอยู่แล้วเพราะเค้าต้องรู้จัก Thai Girl อยู่แล้วสิ ถึงจะเข้ามาคุย เค้าก็เลยมาเที่ยว มารู้จักที่บ้าน แต่หลังจากนั้นอีก 6 เดือนเค้าก็ต้องทำเรื่องให้พี่เราไปทำความรู้จักกับที่บ้านเค้าด้วย แลกเปลี่ยนกัน ถึงจะตัดสินใจร่วมหอลงโลงกันนะ คือประเด็นหลักๆเราว่ามันต้องรู้ให้ถึงรากฐานลงไปว่าเค้าจริงใจกับเราแค่ไหน ไอ้ประเด็นที่ถ้าเค้าไม่มาเมืองไทยแน่ๆ อันนี้เราก็รับไม่ได้เหมือนกัน เหมือนเห็นแก่ตัวหน่อยๆด้วยสิ ปล.เราชอบคุณ mrs.night owl ตอบดีจังค่ะ + ดร.แซม tynoi2005 ด้วย เอา 2 ท่านนี้บวกกันได้มะ น่าพิจารณา ลองหลังไมค์ไปคุยกะพี่เค้าสิคะ  เอาใจช่วยนะคะ เป็นเราก็คงทำอย่างคุณนี่ล่ะ มีหลายหัวดีกว่าคิดมากคนเดียว เพราะเป็นใครก็คงไม่เคยเจออย่างนี้บ่อยนักหรอก ศึกษา case study ไว้ จากคุณ : lynhui - [ 22 ธ.ค. 51 17:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถึงคุณเจ้าของกระทู้ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะจะทำให้คุณรู้สึกแย่ ผู้ชายแต่ละคนก็มีความคิด และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน คุณกลัวฝรั่งหลอก และแน่นอนฝรั่งเองก็ย่อมต้องกลัวถูกผู้หญิงไทยหลอกเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เค้าไม่กล้ามาเมืองไทย แต่ก็อาจจะมีเหตุผลอื่นได้ ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องถามเค้าไปเลยว่าทำไมไม่มาเมืองไทย ฝรั่งดีๆ ที่จริงใจ เค้าจะบอกเหตุผลที่แท้จริงกับคุณ ถึงแม้จะเป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายก็ตาม เอาใจช่วยแล้วกันนะคะ จากคุณ : Tang_Siri - [ 22 ธ.ค. 51 19:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ในความคิดของเรา ควรรอให้ผู้ชายมาหา มากกว่าเราไปหาเขา เพื่อดูความตั้ใจจริง และความทุ่มเท ว่าเขาชอบเรามากพอที่จะเสียเงิน เวลา มาหาเรารึป่าว คุณไปหาเขา คุณรับความเสี่ยงมากกว่าเขา ดีไม่ดี เสียตัวกลับมาอีกต่างหากถ้าคุณไปเจอเขาที่นั่น แล้วเขาเปลี่ยนใจไม่ชอบตัวจริงของคุณ หรือคุณไม่ชอบตัวจริงของเขา เมื่อเทียบค่าเงินกันแล้ว เขามาหาเรา เขาใช้จ่ายน้อยกว่าคุณไปหาเขา   หรือคุณอาจลองเสี่ยงบอกเขาว่า ตอนนี้ ศก.ไม่ดี คุณคงไม่มีเงินพอบินไปหาเขาตามแผนได้แล้ว เขาจะมาหาคุณแทนได้มั้ย ดูสิว่าเขาจะว่ายังไง ถ้าเขาอ้างนู่นอ้างนี่ที่จะไปหาคุณไม่ได้ คุณก็อย่าเสียเวลาไปหาเขาเลย  เขายังไม่ได้ชอบคุณจริงจังหรอก เพราะยังไม่เคยเจอตัวจริงของกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันพอที่จะตัดสินใจว่าจะคบกับคุณจริงจังได้หรือไม่ จากคุณ : tormay - [ 22 ธ.ค. 51 19:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดิฉันเห็นด้วยกับคุณกุุ้ง (mrs.night owl) นะคะ ถ้าถามว่า แต่งงานกับฝรั่งไปอยู่เมืองนอก มันสวยงานราบรื่นเสมอไปหรือ คำตอบคือ ไม่เสมอไปค่ะ แต่งกับฝรั่งก็ไม่ต่างจากแต่งกับคนไทย มีโอกาสที่จะพบเจอกับความสุข และความทุกข์อันเกิดจากการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันทั้งนั้น แถมแต่งกับฝรั่งอาจแย่กว่า ตรงที่ต้องทิ้งบ้าน หน้าที่การงาน ครอบครัวเดิมไป ตรงนี้เป็นความยากมากๆ อย่างหนึ่งสำหรับผู้หญิงเราเลยนะคะ ถ้าดิฉันเป็นคุณ ดิฉันจะทำในสิ่งที่ตัวเองมั่นใจ และสบายใจที่จะทำค่ะ ถ้าดิฉันรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะไปตอนนี้ ก็จะยังไม่ไป และบอกตรงๆ ดิฉันเห็นว่า ระหว่างเราไป กับเขามาไทย (เพื่อพักผ่อน และทำความรู้จักตัวเป็นๆ กัน) นั้น เขามาง่ายกว่ามากค่ะ และถ้าดิฉันอยากจะไปเมกาจริงๆ ดิฉันก็จะไปเพราะว่าดิฉันอยากไป และพร้อมที่จะไป และ่เมื่อไปแล้วความสัมพันธ์ไม่เป็นไปอย่างที่ดิฉันคิด ดิฉันก็จะไม่เสียใจที่ไป เพราะนั่นคือสิ่งที่ดิฉันต้องการจะทำด้วยตัวของดิฉันเอง แต่จะไม่เอาความสัมพันธ์ที่รู้จักกันผ่านทางเครื่องมือสื่อสารทั้งหลายนี้ มาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไปค่ะ สำหรับประสบการณ์ของคนอื่นๆ ที่แต่งงานกับฝรั่งนั้น อาจรับฟังประดับความรู้ได้ค่ะ แต่จะนำมาเป็นบรรทัดฐานเลยนั้น อาจยากสักหน่อย แต่ละคนมีความคาดหวังจากการแต่งงานและคู่ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่ดีสำหรับคนหนึ่งอาจไม่ดีพอสำหรับคุณก็ได้ คนบางคนอาจไม่คาดหวังอะไรมากจากคู่ชีิวิต อาจแค่อยากได้เพื่อนอยู่ด้วยในแต่ละวัน แต่บางคนอาจคาดหวังมากมายเหลือเกิน อยากได้คนร่วมแชร์ความคิด ความฝัน อยากได้คนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกัน มีทัศนคติในการชีิวิตเหมือนกัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ ว่าคุณคาดหวังอะไรจากคู่ชีวิตคุณและผู้ชายคนที่คุณคบหาอยู่ด้วยนั้น เขาตอบโจทย์คุณในเรื่องเหล่านั้นได้หรือไม่ ไม่ว่าชายคนนั้นจะมาจากชาติใดก็ตาม ถ้าถามว่าธรรมชาติของผู้ชายต่างชาติเขาคิดยังไงกับความสัมพันธ์หรือการใช้ชีวิตคู่ ดิฉันเห็นว่า ก็เหมือนผู้ชายไทยนั่นแหละค่ะ ผู้ชายบางคนอาจคุยเรื่องการแต่งงานตั้งแต่เดทกันได้เพียงไม่กี่ครั้ง แต่บางคนอาจต้องใช้เวลา ต้องการศึกษาจนกว่าจะแน่ใจจริงๆ ซึ่งมันก็ขึ้นกับว่าที่เขาว่าจริงจัง หรือพร้อมนั้น คุณจริงจังหรือพร้อมด้วยหรือเปล่า ถ้าคุณว่ายัง ก็คือยังค่ะ และถ้าเขาจะเลิกเพราะคุณยังไม่พร้อม ก็คงไม่อาจทำอะไรได้ เพราะเรื่องนี้มันต้องอาศัยความพร้อมของคนสองคน ไม่ใช่คนเดียว จริงๆ ดิฉันดีใจนะ ที่คุณลังเล สับสน เพราะถ้าเพียงแค่การคบหาผ่านทางเครื่องมือสื่อสารทั้งหลายที่คุณเล่ามา แล้วคุณบอกว่าคุณมั่นใจ และพร้อมที่จะกระโดดเข้าหาความสัมพันธ์นี้เหลือเิกิน ดิฉันว่าอันนั้นสิ น่าห่วง แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 22:31:56 จากคุณ : dextrocardia (DexTroCadiA) - [ 22 ธ.ค. 51 22:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ลองไปอยู่เมืองนอกดูก่อนเหอะค่ะ แล้วค่อยมาคิดว่าดีไม่ดี เพราะการไม่ได้อยู่เมืองไทยเป็นการเสียสละใหญ่หลวงของชีวิตคนๆนึง มีแต่คนไม่เคยอยู่เมืองนอกที่คิดว่าอยู่แล้วมีความสุขกว่าเมืองไทย เราเคยคบฝรั่งมาบ้าง เคยมีคนที่รักกันมากๆ แต่เมื่อคิดว่าต้องจากเมืองไทยไป ใจหายค่ะ เลิกเลย ประเทศไทยถึงจะมีอะไรอุบาทว์เกิดขึ้นเยอะแต่ก็มีสิ่งดีๆที่หาเทียบที่ไหนไม่ได้ และเป็นประเทศที่ชนชั้นกลางมีอภิสิทธิ์และความสะดวกสบายแบบที่ประเทศที่เจริญแล้วไม่มีเพราะคนชั้นแรงงานเงินเดือนต่ำมากๆ กฏระเบียบไม่เคร่งครัดก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีเสมอไป คนไทยเก่งมากเรื่องบันเทิง ฝรั่งถึงขั้นห่วยเพราะมัวแต่ประหยัดพลังงาน เป็นต้น จะอยู่เมืองนอกสนุกเราว่าต้องเกือบเป็นพระ รักความเรียบง่าย ทำอะไรวางแผน ทำอะไรด้วยตัวเอง ทนกับบริการห่วยราคาแพง อาหารก็รสชาติแย่มากๆกินไปซักสองสามปีอยากเลิกกินทุกอย่าง ขนาดเราชอบอาหารฝรั่ง หลายๆอย่างค่ะ เพื่อผู้ชายคนเดียวขออยู่ใกล้พ่อแม่ เพื่อน อยู่ใกล้พ่อหลวงดีกว่าค่ะ ไม่ได้ขู่นะ คนที่ไปแล้วชอบก็มีเยอะแยะ ค่อยๆดูกันไปนะคะ ผู้ชายฝรั่งถ้าดีก็ดีมากๆ ไม่เจ้าชู้ ไม่กดขี่ผู้หญิงและจิตใจอ่อนโยนกว่าผู้ชายไทย ไม่ขี้หึงและยอมรับตัวตนของเราได้ทุกอย่าง ไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้โชคลางไร้สาระ มารยาทบางคนดีกว่าคนไทยอีก หุ่นก็ดีสูง หล่อ อิอิ หาง่ายกว่าผู้ชายไทยหล่อ แต่ผู้หญิงฝรั่งก็สวยเยอะ และเขาก็ชอบกันเองแหล่ะส่วนมาก ที่ชอบเอเชียระวังจะเป็นคนแปลกๆ เพราะอยู่เมืองนอกไม่เคยเจอเพื่อนฝรั่งที่ชอบสาวเอเชีย แฟนเก่าเราก็ไม่ชอบ ตอนนี้ก็กลับไปคบสาวฝรั่ง ก็เข้าใจอ่ะ เพราะคนพูดภาษาเดียวกัน วัฒนธรรมเดียวกันเข้าใจกันง่ายกว่า แล้วสาวฝรั่งเซ็กซี่จะตาย แต่ก้าวร้าวไปหน่อยนะบางคน จากคุณ : มดแดง - [ 22 ธ.ค. 51 23:10:32 A:115.67.142.157 X: TicketID:195783 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้ง เราอยากได้มุมมองที่หลากหลายของหลายๆ คน เพราะเรายอมรับว่า บางทีการคิดเองคนเดียว มันทำให้เราไม่สามารถมองทุกอย่างอย่างมีเหตุผลได้เสมอไป เพราะมันมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องไงคะ บางทีเราคุยกับเค้า เห็นหน้ากัน แล้วรู้สึกดีมากมาย เราจะคิดเลยว่า เราอยากไปเจอ อยากลองเสี่ยงดูที่จะได้รู้จักตัวตนของเค้าจริงๆ ความจริงแผนที่จะไปเมืองนอกนั้น มีมาก่อนจะรู้จักเค้าแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้กดดันตัวเองมากมายว่าจะต้องไปให้ได้ เราอยากไปเรียนภาษาและลองใช้ชีวิตอยู่โน่นสักพัก แค่ 6 เดือนถึง 1 ปีเท่านั้น โดยไปอยู่กับญาติที่อยู่ทางโน้น พอมาได้รู้จักเค้า มันก็เลยมีแผนเพิ่มขึ้นมาไง เราพยายามเข้าใจเค้านะว่า เพราะเราบอกเค้าไปแต่แรกว่าเรามีแผนจะไป เค้าเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมาเมืองไทยก็ได้ คือคิดอย่างมีเหตุผล ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเค้านั้น อย่างที่เล่าว่า แรกๆ มันหวานแหวว สนุกสนาน ตื่นเต้นที่จะพูดคุยกันมาก แต่ด้วยความที่เรามีพื้นฐานไม่ได้ชอบออนไลน์มากนัก และการออนไลน์คุยกับเค้าก็เป็นคนแรกเสียด้วย มีบางช่วงที่เราเบื่อ เราเลิกออนเลยเกือบอาทิตย์ เค้าก็ตามนะ เมล์ตาม ส่ง sms ตาม แต่หลังๆ มันกลับกัน เราเป็นฝ่ายรอเค้า ส่วนเค้าก็งานยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาออน ทำเอาเราเศร้าเหมือนกัน ตอนที่เราเศร้า เราคิดว่า เราคงรักเค้ามากๆ ไม่งั้นเราคงไม่รอ ไม่กระวนกระวาย ไม่รู้สึกเศร้ามากขนาดนี้ แต่พอผ่านไปสักพัก ความจดจ่อของเราไปอยู่กับเรื่องอื่นๆ มากขึ้น เราก็ไม่รู้สึกอ่อนไหวกับเค้ามากแล้ว พอเราไม่ตาม ไม่รอเค้า เค้าก็ชอบถามเราว่า เราเปลี่ยนไปหรือเปล่า เรามีคนอื่นหรือเปล่า เราไม่มีใครหรอกค่ะ แต่เราเปลี่ยนไป คือ ไม่ได้หน้ามืดคิดว่าตัวเองรักเค้ามากมาย และระแวดระวังมากขึ้นเท่านั้นเอง พอไม่เอาเรื่องอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง ก็ทำให้เราคิดมากขึ้น เป็นที่มาของความสับสน เราเคยมีแฟนมาก่อนหลายคน สุดท้ายก็เจ็บกับความรักมากๆ จนอาจจะเรียกว่ามันเข็ด และฝังใจ เราไม่อยากเจ็บอีก เคยคิดว่าให้อยู่คนเดียวก็ได้นะ แต่ลึกๆ ในใจไม่ใช่หรอก เราไม่เคยหลอกตัวเอง ถ้าถามตัวเองเสมอว่า สุดท้ายชีวิตต้องการอะไร เราต้องการครอบครัว ต้องการดูแลใครสักคน รักเค้า มีลูก ดูลูกเติบโต เป็นธรรมชาติของผู้หญิงทุกคนนั่นแหละ แต่เพราะเราเจอหนักๆ มา ทำให้กลายเป็นคนขี้กลัว มีเพื่อนหลายคนบอกว่า เสี่ยงไปเลย จะกลัวอะไร แต่เราทำใจเสี่ยงไม่ได้จริงๆ ยิ่งกับคนต่างชาติ เราคิดว่ามันยิ่งยาก มันต้องเสี่ยงจริงๆ เพราะต้องทิ้งอะไรหลายอย่างในชีวิต เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ในที่ใหม่ ในสังคมใหม่ ไม่รู้ต้องไปเจออะไรบ้าง มันน่ากลัวสำหรับเรานะ ความจริงเราแค่อยากไปตามแผนเดิมที่เรามี แต่พอมามีเรื่องของเค้ากลายเป็นความกดดันชอบกล เราอยากอิสระที่จะคิดหรือจะเลือก แต่การตัดสินใจคบกับเค้า และรับปากอะไรหลายอย่างกับเค้าไป มันก็ทำให้เค้าและเรามีความคาดหวังในระดับหนึ่งไปแล้ว ยิ่งพอเค้าบอกว่า เค้าซีเรียสกับการวางแผนให้เราไป และชอบทวงถามว่า เราดำเนินการไปถึงไหนแล้วบ้าง เรารู้สึกดดันจนบางทีรำคาญ เราเลยสับสนตัวเองว่า เราอยากเจอเค้าจริงเหรอ หรือบางทีเราอาจจะอยากไปโดยไม่ต้องมีเรื่องเค้าเลยหรือเปล่า ถึงบอกไงว่า ตอนนี้สับสนมากๆ ในเรื่องความรู้สึกตัวเอง บางทีเรารู้สึกว่า ทำไมคุยกันแล้วไม่สนุกเหมือนเดิม ซีเรียสจัง แต่พยายามเข้าใจว่า ก็เราดันไปตกปากรับคำกับเค้า เค้าเลยซีเรียส แต่บางทีก็คิดระแวงอีกว่า เราอาจจะเป็นแค่ตัวเลือกนึงของเค้าหรือเปล่า เราคิดว่า เพราะเราใช้เวลาคิดนานไง เลยกลายเป็นสับสน ถ้าคิดน้อยๆ แบบไปเลย ไม่ต้องกลัวอะไร ก็คงไปแล้วแหละ อาจจะมีความสุขเหมือนเรื่องของหลายๆ คนที่เราเคยอ่านเจอก็ได้ หรืออาจจะทุกข์สุดๆ ไปเลย... จากคุณ : จขกท - [ 23 ธ.ค. 51 05:45:59 A:192.168.0.17 X:124.120.71.68 TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ^ There has nothing to do with you. Don't be upset. As I said don't have to do anything. Let it be as it is and wait to see. You can tell him now that you are not going to the US but if he really want to see you he has to come here to Thailand. End of the story. I am sure you will meet the right one for you and if he is the right one you don't really need to do anything much as he will do all the work. You may need a break and enjoy life. จากคุณ : PoomPim..TMB - [ 23 ธ.ค. 51 06:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านแล้วพอเข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะ คุณต้องแยกประเด็นระหว่างชีวิตของคุณที่วางแผนไว้แล้ว กับ เรื่องที่เขาจะกดดันคุณ ให้แยกออกจากกันไปก่อน มีหลักการอันหนึ่งคือ คนรักกัน จะ"ไม่"ทำให้อีกคนอึดอัด เครียด หรือทุกข์ใจ อย่าไปคิดว่า เขาคือแฟน หรือคนรักของคุณ เพราะคุณทั้งสองยังไม่เคยคบกันจริงจัง (คำพูดทั้งหลายที่พิมพ์อ่านผ่านเน็ต หรือจะผ่านสื่อชนิดอื่น ก็เป็นแค่ "คำพูด" เท่านั้น) คือจะบอกว่า เขาขายขนมจีบ คุณเห็น คุณชอบ คุณชิม แต่ยังไม่ซื้อ คุณก็ต้องยืนยันว่า ยังไม่ซื้อ ส่วนเขาจะขาย จะตื้อ จะอะไรก็แล้วแต่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ฉะนั้นเรื่องที่คุณสับสนนั้น เป็นเพราะคุณไปปะปนกับจินตนาการของคุณเองกับความจริง ณ ตอนนี้ ................. สถานภาพของคุณกับเขา ก็แค่คนคุยกันผ่านเน็ต (หรือสมัยก่อนก็ผ่านจดหมายรัก หรือจะเรียกว่า เพลงยาวก็ได้) เหมือนซื้อหนังสือนิยายมาอ่านแล้วคนอ่านติดกันงอมแงม พอคนสร้างหนังเห็นหนังสือเล่มนี้ขายดี ก็เอามาสร้าง .. ปรากฎว่าคนอ่านหนังสือไปดูหนังแล้วผิดหวังกัน เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากสื่อหนึ่งเป็นสื่อเย็น อีกสื่อเป็นสื่อร้อน หรือจะมองไปในแง่ที่ว่า คนสร้างหนังต้องจำกัดเวลาในการสื่อสาร ฯลฯ โทษที ..ที่ว่ากันไปยาวเข้าป่าเข้าพงไปเข้าทฤษฎีการสื่อสารไปโน่นเลย แต่จะบอกว่า ความรักเป็นบุพเพฯ เป็นกรรมที่มีต่อกัน ถ้าเขาหรือคุณไม่มีกรรมที่ต้องมาเป็นคู่กัน ก็จะคาดแคล้วจากกันไป และถ้าเป็นคู่กรรมต่อกันก็จะต้องเจอะเจอกัน ทำให้อีกฝ่ายกลุ้มใจ ช้ำใจ ไม่สบายใจ ก็ต้องทำใจว่าเราต้องเจอแบบนี้ หรือถ้าเจอแล้ว ได้เป็นคู่สร้างคู่สมกัน ก็จะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ืัทั้งนี้ก็สุดแท้แต่ดวงคู่ของคุณ ที่บอกเช่นนี้ก็เพราะอยากให้คุณสรุปและเข้าใจว่าเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นคู่ไทย คู่จีน คู่ฝรั่งก็ตาม เพื่อให้คุณไม่ไปสับสนกับสิ่งที่คุณมีหน้าที่ที่พึงกระทำ ถ้าคุณทำสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุดในวันนี้ หรือที่เด็ก ๆ ว่าไว้ว่า  ทำวันนี้ให้ดี  แล้วพรุ่งนี้ก็จะดีเอง หวังใจว่า คุณคงจะไม่ให้ใครมาสร้างความกดดันให้คุณเอง ถ้าคุณไม่อนุญาตให้เขาหรือสิ่งนั้น ๆ มามีอำนาจเหนือตัวคุณ  จงยืนหยัดด้วยความมั่นใจต่อตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ จากคุณ : บีพี - [ 23 ธ.ค. 51 07:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 dont let anyone pressure u, even him, if u r not ready to go,take ur ime and just tell him the thruth, if he really love and understand u, he'll wait (it doesnt matter how old he is now) love doesn't fade, only lust does จากคุณ : andar - [ 23 ธ.ค. 51 08:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณเคยมีแพลนว่าจะไปนอก ก็ใช่ว่าจะไปหาเขาตั้งแต่แรกเสียหน่อย ประเทศอเมริกากว้างใหญ่ไพศาล หากอยู่คนละรัฐหรือ แม้แต่รัฐเดียวกันก็เถอะ หากเป็นคนละเมือง ก็ยากที่จะไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ยกเว้นว่าคุณย้ายเข้าไปอยู่กับเขาเลยนะคะ แต่ใครจะกล้าล่ะ ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันจริงๆสักหน่อย มันก็ต้องใช้เวลาศึกษากันบ้าง หากเขา "คิด" จะจริงจังกับคุณ เขาคงมีแพลนคิดจะมาหาคุณล่ะค่ะ คนมันชอบหนิ ไม่มีอะไรหยุดได้หรอกค่ะ อีกอย่างดิฉันก็ไม่เข้าใจด้วยว่า เขาจะมาทำให้คุณรู้สึกกดดันทำไม ในเมื่อว่าคุณก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อยนะคะ มีความสุขปีใหม่ค่ะ จากคุณ : Bannorker - [ 23 ธ.ค. 51 09:10:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เขายังไม่ได้รักคุณ แค่สนใจคุณ แรกคุยแชทก็ยังงี้ มีเรื่องให้คุยสนุกสนาน เรียนรู้กัน พอคุยไปนานๆ ก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรอีก กลายเป็นเริ่มเบื่อจะคุยซะงั้น ความกระตือรือร้นน้อยลง ตราบใดที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันจริงๆ จากคุณ : tormay - [ 23 ธ.ค. 51 09:17:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อาจารย์ฝรั่ง อายุวัยกลางคน การศึกษาดี แต่มีปัญหาครอบครัวบอกว่า ตามวัฒนธรรมเขาแล้วนั้น ถ้ามีความสุขกับใคร ก็อยู่กับคนนั้น แต่ถ้า ไม่พอใจหรือไม่มีความสุข ก็ทางใครทางมัน เขาคิดแบบนี้นะ เออ ... อีกอย่างแค่ทาง เน็ต ไม่อยากให้เชื่อ คุยเล่นๆ ไปเถอะ แต่อย่าจริงจัง จากคุณ : หวังดี - [ 23 ธ.ค. 51 15:32:05 A:192.168.0.17 X:58.147.37.124 TicketID:185243 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คบกันมา4-5ปี ผ่านอะไรๆมาด้วยกันยังเลิกกันได้ นีอะไรเเค่คุยกันผ่านคอมมาครึ่งปี จะบินไปเสริฟเค้าถึงที่ เร็วไปหรือเปล่าครับ หรือหากเค้าบินมาหาคุณ มันก็ไม่ได้บอกว่าเค้าจะเป็นอย่างที่คุณคาดหวัง มีบ่อยไปครับพวกอ่อยสาวๆไว้หลายประเทศแถวบ้านเรา พอผ่านมาก็เเวะเก็บเรียงคิวไป ประหยัดค่าเทียว เเละค่าไกด์แถมสบายตัวอีกตะหาก เอาเรื่องเเต่งงาน มาล่อหน่อยให้ตายใจ บอกได้เลยว่าไม่สวยงาม นี่ชีวิตจริงไม่ใช่เทพนิยาย ที่เจอดีๆก็มีจริงเหมือนกันเเต่น้อยมากๆๆๆ  ทางที่ดีทำอย่างที่โบราณว่าไว้คือ ดูๆใจกันไปก่อนดีกว่านะ ไม่ต้องรีบ จากคุณ : agios - [ 23 ธ.ค. 51 15:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณ คห 45 นะคะ เราก็ตัดสินใจว่าต้องดูๆ กันไปกับเค้าอีกระยะหนึ่งแน่นอน แต่ไม่อยากให้คุณคำแรงๆ แบบบินไปเสิร์ฟเค้าถึงที่ เราไม่ได้คิดว่าการจะไปของเรามีจุดประสงค์เพื่อไปมีอะไรกับเค้า อย่างที่บอกมันเป็นแผนที่เรามีแต่แรกแย่แล้ว และถ้าหากการไปของเราจะได้ไปเจอเค้าก็เพื่อให้รู้จักตัวตนเค้ามากขึ้น ไม่ใช่ไปเพื่อเสิร์ฟเค้า จะทำอย่างนั้นไปทำไมคะ เสียเงินเพื่อไปเสียตัวหรือ ไม่อยากให้คุณมองในแง่ลบกับผู้หญิง แล้วใช้คำแรงๆ เหมือนดูถูกผู้หญิงแบบนี้เลย จากคุณ : จขกท - [ 23 ธ.ค. 51 19:15:39 A:192.168.0.17 X:124.121.242.57 TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ชีวิตเมียฝรั่งในอินเตอร์เน็ต ก็เหมือนละครไทยนั่นแหล่ะค่ะ ที่นางเอกแสนดีและพระเอกแสนหรูได้แฮ็ปปี้กัน แต่ชีวิตตัวเค้าเองในด้านความทุกข์จริงๆไม่มีใครเอามาบอกกันทางเน็ตหรอกค่ะ ปัญหาที่เอามาถามเป็นเรื่องขี้หมูขี้หมาทั้งนั้น แต่ถ้าปัญหาหนักๆโน่นกว่าจะมาถามก็ผัวขอหย่าแล้ว และก็ถามประมาณชั้นจะได้อะไรมั่ง ทั้งที่ตอนมาก็ไม่มีตังค์ติดตัวสักบาท ส่วนมากที่เห็นในเว๊บก็เป็นอย่างงี้นะคะ ถ้าไปพาดพิงใครก็ขอโทษด้วยนะคะ พูดตรงๆค่ะ ส่วนคุณเรื่องแบบนี้ลังเลดีกว่าค่ะ ดีกว่ารีบๆแต่งไปพอหย่า พ่อแม่พี่น้องเราที่เมืองไทยคงเสียใจแทนแย่ อยู่เมืองไทยทำงานหาเงินเองได้ ถ้าแต่งงานไปเมืองนอกภาษาไม่แข็งแร็ง อยู่บ้านเป็นแม่บ้านหรือได้งานกรรมกรจะทนได้เหรอค่ะ ดูกันนานๆค่ะ จากคุณ : fairport - [ 23 ธ.ค. 51 21:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ที่อ่านมานี้นี้นะคะ...ถ้าเขารู้ว่าเมืองใทยตอนนี้เป็นอย่างใรเขาควรจะบินมาที่เมืองไทยค่ะ หาคุณเพราะค่าครองชีพถูกกว่าที่เมืองนอกค่ะ...เขาควรจะมาหาคุณค่ะ จากคุณ : yoja - [ 23 ธ.ค. 51 23:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอตอบในอีกแง่มุมหนึ่งจากประสบการณ์ที่เคยมีแฟนเป็นคนอเมริกันกว่าสี่ปี ไม่ได้เจอกันทางเน็ตแต่เขาทำงานที่ไทย เราเริ่มจากเดทกัน เป็นแฟนกัน ที่เมืองไทย ห่างกันปีกว่า ต่างคนต่างอยู่ต่างประเทศ สุดท้ายได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ผ่านขั้นตอนการเรียนรู้ชีวิตคู่อยู่สี่ปีกว่า แต่ปรากฏว่าเราไม่ใช่เนื้อคู่กัน ก็เลยต้องเลิกกันไป เสียใจไปเป็นปี สุดท้ายก็เข้าใจว่าทุกอย่างมีเหตุผลของการเกิด ทุกวันนี้เจอแฟนใหม่ที่รักและเข้าใจกันมาก เป็นต่างชาติเหมือนกัน เจอกันที่ไทยและอยู่ที่ไทยด้วยกันสองปีกว่าแล้ว ที่เล่ามาทั้งหมดเพียงแต่อยากจะบอก จขกท ว่าการคบใครสักคนไม่ว่าชาติไหนมันมี process ของมันอยู่ มันจะมีขั้นตอนการเรียนรู้และทำความรู้จักกันจริง ๆ ก็ตอนที่เป็นแฟนกันเจอตัวเป็นๆ และอยู่ด้วยกันจริง ๆ การรู้จักใครสักคนทางอินเตอร์เนตถือเป็นเพียงการนับหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้คุณจะคุยกันมากแค่ไหนและนานแค่ไหน คุณก็ยังนับแค่หนึ่งอยู่ ผู้ชายอเมริกันที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศจะไม่รู้และเข้าใจคนไทยและความคิดของคนไทยเลย บอกได้เลยว่าความแตกต่างระหว่างสองวัฒนธรรมนี้มันมากมายและมันลึกซึ้งมาก ต้องใช้เวลานานนะกว่าจะเรียกว่ารู้จักคน คนนึงจริง ๆ กลับมาที่ประเด็นของคุณ คืออยากจะบอกว่า คุณไม่ควรจะไปสับสนหรือจินตนาการมากเกินไปกับความสัมพันธ์จากหน้าจอินเตอร์เนต คิดง่าย ๆ เข้าไว้ แค่คุยกันไปเรีอย ๆ ทำความรู้จักไปเรื่อย ๆ แล้วก็สมควรเป็นอย่างยิ่งที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายมาหาคุณก่อน เข้าใจว่าคุณคงอยากมีใครในชีวิต ก็เลยคิดหนักและสับสนกลัวว่าอาจจะพลาดโอกาสดี ๆ ไป แต่วกเข้ามาต้นเรื่องว่า ตราบใดที่คุณยังไม่ได้เจอตัวกันจริง ๆ คุณไม่ควรจะปล่อยให้เขามามีอิทธิพลเหนือจิตใจคุณเลย รู้เท่าทันความคิดและหัวใจตัวเอง อย่าหวั่นใหวเพราะกลัวว่าเราอาจจะพลาดโอกาส Take it easy... Best wishes จากคุณ : ด้วยความหวังดี (Whitebutterfly) - [ 24 ธ.ค. 51 00:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จากประสบการณ์ของเรานะ เราจะแนะนำว่า ควรจะศีกษาดูนิสัย และเรียนรู้กันและกันให้มาก ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคนไทย หรือคนต่างประเทศนะ ถ้าคนจะใช่ก็คือใช่นะ แต่จะให้ดูว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี วัดกันลำบากค่ะ.. ถ้าจะให้วัดคงต้องดูเวลาที่เรามีทุกข์มั้งคะว่า เค้าอยู่เคียงข้างเราหรือเปล่า? เหมือนกับเรื่องของมาดามอุ้ยน่ะค่ะ (ขออ้างอิงถึงนะคะ) คนบางคนคบกันมาเป็นสิบปี ก็เปลี่ยนไปได้หน้ามือเป็นหลังมือ บางคนเจอกันแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน แต่รักกันจนตายก็มีค่ะ ถ้าเป็นคู่ชีวิตนะคะ ต้องเลือกให้ดี ๆ แต่ถ้าคบเป็นแฟนกันเฉย ๆ คงไม่ต้องคิดมากมั้งคะ.. ถ้าจะคบกับฝรั่ง ปัญหาเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญค่ะ อย่างเช่นเพื่อนเราคนหนึ่งค่ะ ตัวเขาไม่ชอบทานอาหารฝรั่งเลย แล้วพอมีแฟนฝรั่ง รักกันมากมาย แต่ทีนี้เขาทนไม่ได้ที่ต้องทานอาหารฝรั่งทุกวัน.. ก็เป็นปัญหาเหมือนกันค่ะ สรุป คงแนะนำได้แค่ว่าให้ใช้วิจารณญาณส่วนตัวค่ะ 555 จากคุณ : น้องเอย - [ 24 ธ.ค. 51 05:27:00 A:69.213.168.101 X: TicketID:171213 ]

ความคิดเห็นที่ 51 บางครั้งการได้เจอใครสักคน อาจจะด้วยเหตุบังเอิญ หรือ(เมา)เอ๊ะยังงัย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลได้ก็ตาม ทุกอย่างต้องใช้เวลาเรียนรู้กันและกันคะ ต่างชาติต่างภาษา ต่างอุปนิสัย การเรียนรู้และค่อยๆปล่อยให้เวลามันเป็นไปสำคัญที่สุดค่ะ เคยมีเเฟนคนไทยมาไม่กี่คน(เพราะอิช้านมันพวกปากอยู่ไม่สุข ใครมากำหนดไม่ได้) ชีวิตและอุปนิสัย มันแตกต่างกันมากจนเกินไป การเลี้ยงดูและพื้นฐานที่แตกต่างไปจนถึงการเข้าหาบิดามารดาฝ่ายชายนั้นแสนยากยิ่งนัก เนื่องจากอิช้านเป็นคนตรงๆไม่เสแสร้ง มีอะไรก็พูดตรงๆไม่เรื่องมาก แต่ถ้าไม่พอใจก็ปรี้ดแตก(ชายหน้าไหนก็ทนไม่ได้ หนีหมด เอิ้ก) ป่านนี้เลยยังค้างตึ่งอยู่นี่งัยคะ(เสริมคานเหล็กแล้วค่ะ ) ที่คบอยู่ตอนนี้ก็ใช้เวลาดูๆกันไปเรื่อยๆ เริ่มจากคำว่า เพื่อน นั้นจะดีกว่านะคะ มองเขามองเรา มองกระจกสะท้อนตัวเองให้มากๆ อีกอย่าง สังคมเขากับเราแตกต่างกัน หนุ่มแถวนี้ แถวนู้น แถวปู้น แถวรอบตัวอิช้านเนี่ย (โดยเฉพาะหนุ่มมะกันเนี่ย ฮึๆ) มันเป็นประเภท วันไนท์โอนลี่ เข้าข่ายประเภทกินแล้วเหวี่ยง แต่ก่อนเค้าจะกินกัน(ก็เห็นตกลงกันได้ทุกราย) สาวไทยอย่างเรารับได้หรือไม่ค่ะ สาวๆที่นี่เค้ารับกันได้ ก็แล้วแต่ละคนต่างกันไป แต่สุดท้ายต่อให้พบกันจากไหน ที่ไหน จุดไหน คบกันนานแค่ไหน บลาๆๆๆ หากคู่กันแล้ว ก็ไม่แคล้วกันค่ะ เชื่อมั้ยค่ะ ทุกวันนี้คบกับคนคนหนึ่ง เค้าไม่เคยบอกคำหวาน ไม่เคยออดอ้อน เน้นจัง กับคำว่า  เพื่อน  เนี่ย (แต่เพื่อนคนนี้ของอิช้านน่าร้ากน่าร้าก ) เมลล์หากันได้ตลอด (Muahhhhhhhhhh) แต่หากเรามีเวลาว่างเราก็จะเจอกัน ใช้เวลาด้วยกันแม้มันจะเป็นช่วงเวลาอันน้อยนิด แต่ก็สุขใจ ของขวัญที่ได้จากคนพิเศษคนนี้ของอิช้าน มักจะเป็น หนังสือดีๆ มาให้อ่าน แค่สิ่งที่ เขา คนนั้นหยิบยื่นให้ ราคาของความคิดถึง มันสูงค่ายิ่งนักค่ะ ความผูกพันมันจะเริ่มทีละนิดแต่มั่นคงและยืนนาน ขอให้เจ้าของกระทู้ได้เจอคนที่ใช่ The one ของตัวเองนะคะ ใช้เวลาตรองดูให้เยอะๆค่ะ ชิวิตคนเรามันไม่สวยหรูยังนิยายหรอกนะค่ะ แต่หากเราล้มเเล้วลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้ง สองขาจะมั่นคงและแกร่งมากขึ้น  มีสติกับในการใช้ชีวิต อย่าให้อารมห์มามีส่วนในการตัดสินปัญหา เพราะสุดท้ายแล้ว เราจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย Happy Merry Christmas!! ♪Hope you have a great time จากคุณ : ตัวลีปปลิวลมนมแบน (Nada Sousou) - [ 24 ธ.ค. 51 08:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านแล้วได้ประสบการณ์จริงๆ เลย เริ่ม รู้จัก คบ กลายมาเป็นแฟน เป็นสามี เป็นพ่อของลูก (ในกรณีมีลูก) มันต่างกันนะค๊ะ มาหนับหนุน ไม่ว่าชาติไหนๆ มันเหมือนกันนะคะ อย่าคิดว่าต่างชาติ ไม่เหมือนเรา จริงๆ ก็อาจมีดีเลว เหมือนกัน อย่างคาดไม่ถึง จากคุณ : แอ (samhow BFC) - [ 24 ธ.ค. 51 11:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านขอออกความเห็นนะคะ ต่างคนมีอยู่คนละถิ่น...ต่างชาติ..ต่างภาษา..ภาษพูดมิเหมือนกันค่ะมีเหมือนกันอยู่หนึ่งอย่างคือ..ภาษารักค่ะทุกคน.ต้องคิดเหมือนกันใช่มั๊ยค่ะว่ารักมิมีพรมแดน...แม้ว่าคุณจะเป็นคนชาติไหนก็ตามจะมีความรักเหมือนๆกันจริงมั๊ยคะ Merry Christmas... Happy ...Happy ....Happy ....Happy    and  Happy New Year 2009 Na  Ka จากคุณ : สายน้ำริน (yoja) - [ วันคริสต์มาส 20:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 To Khun กำลังสับสน, If you still doubt the love between you and him, you'd better NOT move the US. I am not living in the US but Europe. I absolutely agree that moving to leave in another country is not something easy. It takes sometimes, it's individual, to adapt things. BUT be aware that many difficulties will confront you like culture shock, different mentality, way of living, weather, food etc. Are you somebody? If yes, please be ready to taste the feeling of nobody when you're abroad. I would say it's painful. My opinion, only love is not enough to survive. There're many more for instance, a strong support , truly understanding, personality and person perception across cultures are needed. People might say those all are in the word "love" but don't forget some define this word in many different way. Make sure that you realise what the expectation of your love one and analyse whether you can fulfil or not. Westerners are less patient than Asian therefore they break up easily when they find out they're not the right one for each other. Think carefully before making the decision, esp when you have to resign from the good job and leave things you've had. I experienced it before and I think it happened to some others as well that in the first few years was really rough times. I'm now getting my life back to what I was/had  by having a good job. It took me almost 5 years to get what I was looking for. It's a luck plus patience. I would like to urge Thai woman, who's somebody, who will marry a westerner and is willing to move abroad, realise that there're more things to concern NOT only love. Anyway, I wish you good luck on your decision. PS. I came across with the comment No#28 said that " อีกหนึ่ง ปล. เวลาอ่านภาษาอังกฤษ จากชาติที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก วิธีการใช้ภาษา การใช้ภาษา ตัวสะกด บอกอะไรเกี่ยวตัวคนเขียนได้เยอะเลยค่ะ " What do you really mean to communicate?  It's such an unconstructive comment. You know what? you're right "การใช้ภาษา ... บอกอะไรเกี่ยวตัวคนเขียนได้เยอะเลยค่ะ" It's the same to you. จากคุณ : X'Mas (Grace - Dusita) - [ 26 ธ.ค. 51 04:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 "เราได้อ่านเรื่องราวของหญิงไทยที่ได้พบรักกับหนุ่มต่างชาติหลายคนในพันทิบ เหมือนเรื่องราวจะดูสวยงาม และดูราบรื่นมากๆ เราก็เลยเกิดคำถามว่า มันสวยงามอย่างที่เล่ากันมาจริงมั้ย "        แนะนำให้คุณ จขกท. เข้าไปอ่านเรื่องราวของหญิงไทยที่แต่งงานมาอยู่อเมริกาแต่เกิดรักร้างไม่ราบลื่น จาก  www.lawanwadee.com   ดูบ้างนะคะ ดูเหรียญต้องดู 2 ด้านค่ะ แล้วคุณก็จะหาคำตอบได้ด้วยตัวเองว่า "มันสวยงามอย่างที่เล่ากันมาจริงมั้ย"        การครองคู่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและสงบ ตามคำนิยามของดิฉันก็คือ ความสามารถในการปรับตัวเข้าหากันโดยสันติค่ะ โดยใช้กำลังแห่งความรัก ความเข้าใจ รู้จักขอโทษ และการให้อภัยซึ่งกันและกันค่ะ .... ถ้ามีแต่ความรักอย่างเดียว...อาจจะไม่พอ         คู่ของคนชาติเดียวกัน เห็นกันตัวเป็นๆคบกันมานานกว่าจะได้แต่งงานกันยังต้องเลิกลา หย่ากันไปเยอะแยะ นะคะ ฉนั้นต่างชาติต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมนี่มันต้องใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจกันยากขึ้นไปอีกหลายชั้นนะคะ  ......ที่สำคัญตัวคุณเองเป็นนั่นแหล่ะที่รู้เค้ารู้(ตัว)เรา ดีที่สุด รวบรวมสติศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน( ข้อคิดดีๆ ของท่านอื่นๆที่ให้ใว้แล้วข้างบนก็เยอะ) แล้วถึงค่อยตัดสินใจ ด้วยตัวเอง เพราะคุณเองอีกนั่นแหล่ะที่จะต้องอยู่รับผลแห่งการตัดสินใจนั้นด้วยตัวของคุณเอง            โชคดี มีสุขนะคะ จากคุณ : แม่ขา - [ 26 ธ.ค. 51 11:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ เราตัดสินใจได้แล้วค่ะ และทำตามที่ตัดสินใจไปแล้วด้วย เราเลิกกับเค้าค่ะ! ไม่ใช่เพราะอิทธิพลของความเห็นในกระทู้นี้นะคะ แต่ทุกความเห็นมีประโยชน์ให้กลับมาคิดถึงเหตุและผลว่า เราควรจะอย่างนี้อย่างนั้นเพราะอะไร ประเด็นหลักที่ตัดสินใจเลิก คือ ความรู้สึกของเราเองค่ะ มันมีเซ้นส์บางอย่าง จากหลายๆ อย่างที่เราสัมผัสได้จากเค้าในหลายเดือนที่ผ่านมา บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ลองเจอตัวเป็นๆ กันก่อน แต่การพูดคุย การแสดงออกหลายๆ อย่าง มันก็สามารถบอกอะไรได้พอสมควรนะคะ สิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเลิกกับเค้า คือเมื่อวันคริสมาสต์ อีฟที่ผ่านมา เป็นวันแรกของ Holidays ของเค้า เราส่งอีการ์ดไปให้ และออนไลน์ไปคุย อวยพรเค้าให้มีความสุข แต่เค้าบอกเราว่า I hate holidays, feel so alone. This is not the way i like to celebrate a holiday จากนั้นเค้าก็'รมณ์เสีย บอกว่าไม่มีอารมณ์คุยแล้ว เราพยายามเข้าใจว่า อากาศที่นั่นกำลังแย่ ทำให้คนอารมณ์ไม่ดี และถ้าใครต้องใช้วันหยุดยาวๆ อย่างโดดเดี่ยว ย่อมจะรู้สึกแย่ แต่... เราบอกเค้าว่า เราอยู่นี่ไง เค้าบอกเราว่า มันแค่ออนไลน์ คุณไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ เราอึ้งมาก และแน่นอน เสียใจด้วย จุดเริ่มต้น มันไม่ได้เกิดจากเรา เค้าเป็นคนที่ออนไลน์มา และเราบอกเค้าแต่แรกแล้วว่า เราไม่ชอบความสัมพันธ์แบบออนไลน์ เค้าก็บอกว่า มันก็เป็นหนทางหนึ่งในการสื่อสาร สามารถทำให้เราใกล้ชิดกันได้มากขึ้นเหมือนกัน แล้ววันนี้เค้ากลับพูดแบบนี้ เพื่ออะไร เพื่อกดดันให้เราตัดสินใจไปอยู่กับเค้าเร็วๆ โดยไม่พยายามที่จะเข้าใจเราบ้างเลย เราก็สงสารเค้านะ แต่มันก็มีความรู้สึกโกรธปนอยู่ด้วย พยายามให้อภัย อยากบอกเลิกเดี๋ยวนั้น แต่เราพยายามอดทน พยายามเข้าใจ สุดท้าย มันไม่ไหวจริงๆ 2 วันต่อมา เค้าก็ยังหงุดหงิดๆ เกินกว่าจะทำความเข้าใจได้อีก เราเลยเพิ่งบอกเลิกเค้าไปเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้เอง เราก็เศร้านะ แต่คิดว่า ทำไมเค้าไม่ใช้เวลาเท่าที่มีอยู่ให้มีความสุข ไม่ว่ามันจะคือการออนไลน์ หรืออะไรก็ตาม ทั้งๆ ที่เค้าก็ยอมรับเองตั้งแต่แรกที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ เราไม่รู้หรอกว่าเราได้ตัดสินใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เค้าอาจจะเป็นเนื้อคู่ของเราจริงๆ ก็ได้ แต่... ถ้าเค้าใช่ เวลาจะบอกเอง ถ้าเค้าใช่ เค้าจะไม่ปล่อยให้เราหลุดลอยไปจากชีวิตเค้า เราเชื่อเช่นนั้น ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 26 ธ.ค. 51 13:25:09 A:192.168.0.17 X:124.120.44.150 TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่รู้จะบอกว่าไงแต่ขอเอาใจช่วยจขกท.ให้ผ่านช่วงที่แย่ๆไปได้ในเร็ววันนะ จากคุณ : mengnoi - [ 26 ธ.ค. 51 14:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จากคุณ : X'Mas (Grace - Dusita) การใช้ภาษา หากเราใช้ภาษาของเราเอง บอกความเป็นตัวเราค่ะ การใช้ภาษาทุกภาษา ย่อมบ่งถึงวิธีคิดของเรา ดิฉันหมายความตามที่พูด หากคนใช้ภาษา ใช้ภาษาสะกดเเบบวัยรุ่น สั้นง่าย คุณก็พอจะบอกได้ว่า คนๆ นั้น อายุไม่มาก ยิ่งใช้คำสแลงมากขึ้น คุณอาจบอกได้ว่า คนๆ นั้นเป็นวัยรุ่น หากใช้คำพูดพรรณรเยอะ คุณอาจบอกได้ว่าคนๆ นั้น เป็นคนช่างสังเกตุ พอเข้าใจหรือยังคะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 27 ธ.ค. 51 08:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ถามใจตัวเองดีที่สุดค่ะ แต่สัญคัญที่ว่าขณะนี้คุณอยู่ในภาวะรักรึว่าหลง? ความรู้สึกของพ่อ แม่ ของคุณ ท่านจะห่วงมากถึงมากที่สุด ถ้าคุณไปไหนก็ไม่รู้ ยิ่งไปหาคนที่ท่านไม่เคยพบเจอเลย อย่างหลายๆคนบอก รักผ่านเน็ตก็คือความจินตนาการ ทุกอย่างสวยงาม น้อยคร้ง (นับครั้งได้เลยว่าทะเลาะกันในเน็ต..มีกี่ครั้ง?) คุณคงไม่ทะเลาะกันเรื่องกับข้าวที่คุณทำแล้วแฟนกินไม่ได้...ทางเน็ต ใช่ป่าวคะ? แต่ชิวิตแต่งงานต้องมีแน่นอนค่ะ (อันนี้แค่ตัวอย่างง่ายๆ) หลายคู่ที่สมหวังกะรักผ่านเน็ต มันก็แล้วแต่วาสนาของแต่ละคนไป เราเองก็เคยมีประสบการณ์การขอเป็นแฟนทางเน็ต แล้วก็ขอแต่งงาน ประมาณหนึ่งปีที่ทำความรู้จักกัน แต่เชื่อมั๊ยคะว่า เค้าไม่เคยคิดจะมาเมืองไทย อ้างนั่นอ้างนี่ พ่อป่วย งานยุ่ง แค่นี้ก็รู้แล้วค่ะว่าตอแห... เค้าทำเรื่องให้เราไปเมกา ส่ง จม.เชิญ เสีย คชจ. เรื่องค่าสมัครค่าวีซ่า ให้หมด แต่สุดท้ายบอกเราให้ออกค่าตั๋วให้ก่อนแล้วจะคืนให้ เราไม่ได้ งก หรอกนะ แต่ด้วยความเป็นจริง และด้วยความปลอดภัยของชีวิตเราเอง จะไปทำไม เค้ายังไม่คิดมาหาเราเลย คิดถึงความเป็นจริงและเปิดใจทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อลบล้างความตาบอดกะความรักที่สัมผัสไม่ได้เลย เชื่อมั๊ยคะว่า หลังจากที่เราบอกเค้าว่าลางานไม่ได้ เพราะไม่มีคนทำงานแทน ขอเวลาอีกซักสองเดือนจะไปหา และแล้วหนุ่มนั้นก็หายไปปปปปป ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเลย อาจเป็นชะตาฟ้าลิขิต คุณพระคุณเจ้าที่ยังคุ้มครองเราอยู่ ไม่งั้นเราอาจถูกหลอกไปขายก็ได้ ใครจะไปรู้หล่ะ.... และแล้วฟ้าก็ส่งพระเอกตัวจริงมาซะที หลังจากอยู่คานทองนิเวศน์มานาน บทจะเจอก็ง่ายๆ เราไปอบรมกับทางบริษัทฯ แล้วพระเอกก็ดันมาพักที่โรงแรมเดียวกัน เจอกันทุกเช้าที่ห้องอาหาร วันสุดท้ายเค้าก็เอาเบอร์อีเมลล์ให้ เราติดต่อกันอยู่สองปี เมลล์หากันบ้าง โทรบ้าง แล้วเค้าก็มาเยี่ยมเราปีละสองครั้ง เราพาไปรู้จักครอบครัว แล้วเราก็บินไปทำความรู้จักครอบครัวเค้าสองครั้ง ก่อนที่เราจะตัดสินใจแต่งงานกัน เราย้ายมาอยู่กะสามี ต้องสละทุกอย่างทั้งการงาน ห่างไกลครอบครัว ก็มีเหงาบ้าง สองปีกว่าละ ตอนนี้ก็มีความสุขดีค่ะ ทะเลาะกันบ้าง บางเวลา แต่ก็แฮปปี้ ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ค่ะ จากคุณ : สาวนอกเมืองมาอยู่เมืองนอก - [ 27 ธ.ค. 51 12:02:13 A:115.131.7.195 X: TicketID:179992 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เท่าที่ฟังคุณ จขกท บอกเล่าใน  คห  ที่ 56  ไม่ทราบว่าเขาพูด "I hate holidays, feel so alone. This is not the way i like to celebrate a holiday จากนั้นเค้าก็'รมณ์เสีย บอกว่าไม่มีอารมณ์คุยแล้ว" แล้วเขาปิดหน้าต่างแชท  sign out ออกไปทันทีไปด้วยเลยรึเปล่าคะ? ถ้าไม่ทำอย่างนั้นทันที  เราก้อว่าน่าเห็นใจในความเหงา ที่พูดระบายออกมาเหมือนกัน คงไม่มีเจตนาจะทำร้ายความรู้สึกคุณหรอกค่ะ  (เราก้อทำบ่อยนะ  ตอนสมัยที่ยังอยู่ห่างกับแฟน  เราจะขี้บ่น  น้ำหูน้ำตา  บางครั้งถึงร้องกรี๊ดต่อหน้ากล้อง  ก่นด่าโชคชะตาบ้าบอ  ....แต่เป็นเพราะเรารู้ด้วยว่า  สุดท้ายแฟนจะทำให้เรารู้สึกดี จนหัวเราะได้ แม้ว่าเขาจะเหงาเช่นกันและเบื่อหน่ายแถมเหนื่อยล้าจากการทำงานมากกว่าเสียอีก)   อีกอย่าง  คงเพราะเลือกแฟนที่ใจเย็น (เพราะเป็นครู)   ผู้ชายมักจะสติแตกอยู่ในใจไม่แสดงออก  ต่างจากผู้หญิง  ที่พอได้ร้องกรี๊ดปรี๊ดแตก  ก้อจะมีอาการดีขึ้น..    แต่ถ้า จขกท กำลังคบอยู่กับผู้ชายเจ้าอารมณ์ (เช่น ปิดหน้าต่างแชท sign out ออกไปทันที)  แนะนำว่าหลีกเลี่ยงได้มันจะดีกว่าจริง ๆ  เพราะอนาคตคุณจะต้องรองรับอารมณ์เขามากขึ้น จากความคุ้นชินของชีวิตแต่งงาน เด่วมาต่อค่ะ จากคุณ : cherry*viva - [ 27 ธ.ค. 51 16:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ cherry viva เค้าไม่ได้ sign out หนีหรอกค่ะ เค้าก็บ่นโน่นบ่นนี่ต่อ แต่เรารู้สึกโกรธไงตอนนั้น แล้วมันก็มีอารมณ์อื่นๆ สะสมอยู่ด้วย เราเลยเครียด แล้วพอ 2 วันต่อมา เค้าก็ยังคงหงุดหงิดต่อเนื่อง เราก็เลยหมดความอดทนในที่สุด แต่... ไม่อยากบอกเลยว่า วันนี้เค้าโทรมาง้อแล้ว อืมมมมม ทำไงดี จากคุณ : จขกท (สับสนอีกแล้ว) - [ 28 ธ.ค. 51 01:05:13 A:124.120.86.53 X: TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อยากจะฝากเจ้าของกระทู้ไว้ว่า คนที่มีความสุขกับการอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ สำหรับเราเป็นคนไม่น่าอยู่ใกล้อย่างยิ่ง เพราะคนประเภทนี้มีความคาดหวังกับคนรอบข้างสูง ต้องการให้คนอื่นมาสร้างความสุขให้ตัวเอง ถ้าเขารักคุณจริง เขาจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ และไม่ว่าการตัดสินใจใดๆ มันจะไม่ขึ้นอยู่กับความต้องการของเขาภายเดียว ถ้ายังมีข้อสงสัย คบแล้วมันกราฟขึ้นกราฟลง ลองปล่อยให้มันตามเป็นไปตามอย่างที่มันเป็น เอาเวลาและพลังกายพลังใจไปแก้ปัญหาที่ต้องนี้คุณต้องเผชิญอยู่อย่างแท้จริงในชีวิตประจำวันจะดีกว่า ด้วยความห่วงใย จากคุณ : Appreciator - [ 28 ธ.ค. 51 07:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 63 โทรมาแล้วกลับไปหาอีกมั้ยค่ะ... จะบอกว่าพอเราอ่านกระทู้ของคุณ เราตัดใจเลยค่ัะ ^ ^ คนของเราพยายามน้อยกว่าคุณอีก....:(   ไม่เคยโทร :( email  ก็สั้นอย่างกับส่ง SMS ...5555 ไม่รู้จะไปยึดติดทำไม พยายามแล้วเหนือยใจมาก มาก คิดไปคิดมา แล้วเราว่าตัวเองคิดเองเออเองไปฝ่ายเดียวแหงมๆ แบบพวกฝันกลางวัน :P คิดแล้วเสียเวลา ทางความคิด....ตัดใจแล้วนอนหลับสบายขึ้นเยอะ ^ ^ รักตัวเองดีกว่า ของเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน จิีจ๊ะกันประมาณ 6 - 7 เดือน แล้วเขาก็ไป...จากนั้นก็แบบข้างบนอ่ะ...แต่ของเราไม่มีเรื่องอย่างว่ามาเกี่ยวเลยนะ...เราเลยหลงไง สุภาพจัง ^ ^ อย่างมากแค่จับมือ (ตอนหลังมาคิดสงสัยเราไม่มีเสน่ห์ อย่างแรง 5555) จงขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี ขอบคุณกระทู้นี้มาก มายค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 51 09:17:37 จากคุณ : ลิงดำ - [ 28 ธ.ค. 51 08:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อ้อ ลืมบอกไป เขาบอกว่าเราเป็นเด็กดีีเกินไป....อืมเข้าใจใช่ป่ะว่าเราหมายความว่าไง....แง่ม ผู้หญิงหวงตัวมันผิดหรือไงฟ่ะ คิดอีกโมโหอีก... จากคุณ : ลิงดำ - [ 28 ธ.ค. 51 08:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาช้าไปนิด   เราว่าจริงๆ คุณเจ้าของกระทู้รู้  ว่าควรทำยังไง     คุยแชทกันหรืออย่างอื่นก็ตามที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มันก็เหมือนโลกสวยงามในนิยาย  มันคือเรื่องที่เค้าอยากให้เรารู้ และเรื่องที่เราอยากให้เค้ารู้  แต่จริงๆ คือไม่รู้อะไรเลย  มันเป็นคนละฝั่งกระจก จับต้องไม่ได้   ความคิดเรา  ถ้าเค้ารักคุณจริง เค้ามาแน่ค่ะ   มาถึงตอนนั้น  ได้ใช้เวลาร่วมกัน  คุยกัน  ซื้อของด้วยกัน  เที่ยวด้วยกัน  แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน เรียนรู้นิสัยแท้ๆ ของกันและกันนานๆ  ตอนนั้นคุณจะรู้ว่า เค้าใช่ไม่ใช่ อย่างที่หลายๆ กระทู้ ในPANTIP ก็มีพูดถึงเยอะแยะ มาถึงเมืองนอก  ถูกหลอกไปขาย  ทำงานตัวเป็นเกลียว เงินไม่เคยได้  หรือเอามาทำความสะอาดบ้าน กับ...  หรือทุบตี  ไล่ออกจากบ้าน เราว่าหลายๆ คนในนี้ เคยเห็น  หรืออาจเคยช่วยกันมาแล้วด้วยซ้ำ   เพราะมันเกิดขึ้น  เราถือว่าเยอะเลยละ (อันนี้ยกมาแต่กรณีแย่ๆ)   รักตัวเองดีกว่า อย่างที่เพื่อนๆ ข้างบนบอก  ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันที่มองเห็นและจับต้องได้ค่ะ จากคุณ : spy_mini - [ 28 ธ.ค. 51 11:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อ่อ  เปงงั้นเหรอคะ  จขกท....  แหม  ค่อยยังชั่วนะ เราคิดว่าเขาก้อคงหงุดหงิดจิตแตกไปตามเรื่องตามราวเน๊อะ  เอางี้  ไหนๆก้อจะต้องไปเมกา (ในสักวันหนึ่ง  เมื่อเศรษฐกิจลงตัว)  ก้ออย่าพลาดไปพบเจอกัน แล้วลองใจเขาเล็ก ๆน้อยๆ  ประมาณว่า สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ  ไม่ก้อ  สังหารวีรบุรุษ ต่อหน้าเราไปเลย    คือเราหมายถึง  ดูชายต้องดูยามเผลอตัว หลุดเก๊ก  กับเวลาอารมณ์เสีย ว่าเขาเป็นคนฉุนเฉียวง่ายเกินไปหรือเปล่า ? มองโลกแบบไหน มีสปิริต มีน้ำใจหรือทัศนคติแคบ? ประมาณนั้น ส่วนแผนการจะเป็นยังงัยค่อย ๆคิดไปค่ะ  ยังมีเวลาอีกเยอะน่าดูอยู่เชียว ที่เราแนะนำอย่างนี้   เพราะการเอาแต่เจอกันใต้แสงเทียนและดินเนอร์ ไม่ช่วยให้ใครเห็นคาวามจริงอะไรได้มากมายนัก ในความสัมพันธ์ที่ (มีจุดมุ่งหมาย) ยั่งยืน เพื่อการแต่งงานร่วมชีวิตน่ะค่ะ เค้าโทรมาง้อ  ก้อดีแล้วล่ะ  ไหน ๆคุยกันมาตั้งนาน เสียดายเวลา จะยอมขาดทุนด้วยการบอกเลิกทำไม?  คบไปก่อนค่ะ  ต่อให้สุดท้าย ((สมมัติว่า))  คนนี้อาจไม่ใช่  Mr .right  แต่คุณ จขกท  จะได้กำไรจากการได้รู้จักผู้ชายเพิ่มขึ้นอีกประเภทหนึ่งงัยคะ ขอยก Positive  thinking   จากมุมมองของอัจฉริยะคนหนึ่ง ที่ว่า "ฉันไม่ได้ล้มเหลวนับร้อยครั้ง แต่ฉันได้ค้นพบวิธีที่ไม่ประสบความสำเร็จนับร้อยวิธีต่างหาก” จากคุณ : Thomas Alva Edison ---------- (cherry*viva) - [ 28 ธ.ค. 51 14:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มาช้าไปหรือเปล่า แต่ก้ออยากแชร์ประสบการณ์ ดิฉันว่าเรื่องของคุณยังดีกว่าดิฉันมากมายคะ ถ้าเป็นดิฉันคงจะปล่อยวางไม่จริงจังกับการแชตกับคนนี้เท่าไหร่คะ ถือว่ามีเพื่อนคุยอยู่อีกทางซีกโลกนึง ดิฉันจะคิดคะว่าการที่เค้ายังไม่ได้มาหาเรามันเหมือนเป็นการให้เราได้เรียนรู้ชีวิตบางส่วนของเค้าผ่านทางหน้าจอเท่านั้นคะ แต่มันจับต้องไม่ได้และมันก้อยังไม่เริ่มความสัมพันธ์ครั้งนี้ของเราเลย เรืองของดิฉันแย่กว่าคุณคะ เราแชตกันเจอกันทางเวปหาคู่ ใช้เวลาคุยกันหกเดือนเค้าก้อตัดสินใจบินมาเจอคะ แต่ก่อนเจอนี่สิกว่าเค้าจะบินมาอ้างโน่นนี่สารพัด พ่อแม่เสียห่างกันแค่สองวัน ขาหักบ้างหละ หรือก้อลางานไม่ได้บ้างหละ เราก้อทำใจไว้แล้วหละว่าคนนี้ท่าทางแปลกๆ แต่เราก้อโง่เชื่อเค้าหละ จนเราพูดว่าอย่ามาวาดฝันอนาคตกับเราเลยถ้าคุณไม่มายืนอยู่ตรงหน้าชั้น จนสุดท้ายเค้าก้อยอมมาหาเราก้อเรียนรู้กันได้สองอาทิตย์ก้อท่าทางดีคะเราเข้ากันได้ดี พอหลังจากนั้นที่เค้ากลับไปทริปแรก ก้อแชตกันอีกแปดเดือน ไอ้ระหว่างแปดเดือนก้ออ้างอีกคะว่างานยุ่งลาไม่ได้ ไอ้เราก้อไม่ค่อยอยากจะเชื่อและไม่อยากคุยกับเค้าแล้ว เค้าก้อเอามุขวาดฝันอนาคต(ที่เค้าจะใช้เป็นประจำระหว่างแชต)ที่จะมีเราทั้งสอง และลูกๆของเราทั้งสาม ชีวิตครอบครัวของเราที่ประเทศเค้า โอ้โหมันสวยหรูงดงามมาก แต่คะแต่ไม่เคยคิดจะทำเลยมีแต่พิมพ์มาเป็นตัวหนังสือทางเอ็มเอสเอ็นเท่านั้น เหมือนสร้างวิมานในอากาศไปวันๆ จนแปดเดือนผ่านไปทริปที่สองก้อมาหาเราอีก คราวนี้เราก้อพาทัวร์เจอเพื่อนเรา พ่อแม่เรา เพื่อนที่ทำงานเรา ทุกอย่างเปิดเผยหมดกว่าทริปแรก พอเค้ากลับไปเราก้อเหมือนบอกใบ้เค้า(ไม่เคยพูดเรื่องแต่งงาน) ว่าแบบชั้นมีวันหยุดเหลือนะปีนี้ชั้นไปเยี่ยมยูได้นะ เค้าก้อเริ่มแปลกๆไป การติดต่อน้อยลง เริ่มหายๆไปบางวัน จนวันนึงเพิ่งแชตกะเค้าได้ยังไม่ถึงสิบนาทีเค้าพลาดคะ เค้าส่งไฟล์มาให้เราแต่เค้าคงพลาดที่ไฟล์เค้ามันติดมาว่าเค้าไปเปิดเวปหาคู่อยู่ เราก้อเลยเข้าไปเปิดดูก้อเจอว่าเค้าแอบไปเปิดโพรไฟล์ใหม่ในเวปหาคู่คะ(หลังจากมาหาเราแล้ว)ว่าหาเมียอยากมีลูกอยากแต่งงานมาก เราแทบล้มทั้งยืน ว่านี่เค้าหลอกเรามาเป็นปีๆเลยหรอเนี่ย ทั้งๆที่พยายามจับผิดแล้วเค้าก้อเนียนจนจับไม่ได้เลย ตอนที่เราจับได้ถามเค้าว่ายูยังเข้าเวปหาคู่เหรอ ยูกำลังหาสาวคนใหม่เหรอ เท่านั้นแหละคะ เค้าปิดคอมหนีไปเลยไม่มาอธิบายอะไรทั้งสิ้น จนดิฉันต้องเขียนเมล์ไปง้อ(เหมือนเราทำผิด) เค้าก้อตอบกลับมาสั้นๆคะว่า เค้าไม่พร้อมแต่งงาน โอ้แม่เจ้าคุยกันปีกว่า เอาแต่มุขแต่งงานมีลูกมาใส่ในหัวตลอด ไอ้เราก้อนึกว่าจริง จากวันนั้นจนวันนี้ดิฉันก้อยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากเค้าอีกเลยเค้าหายไปจากชีวิตดิฉันอย่างถาวร เค้าตัดการติดต่อดิฉันทุกทางคะ ตอนนี้เค้ากำลังคบอยู่กะสาวทางเวปหาคู่คนนึงคะ(ไม่ได้สืบคะเผอิญเค้าไปสมัครhi5 แล้วระบบมันคงส่งลิงค์มาแอดดิฉันอัตโนมัติหน่ะคะเลยได้รู้ว่าเค้ากำลังคบกับเด็กสาวคนนึงอยู่ ดิฉันไม่รู้จะสงสารน้องคนนี้ดีหรือเปล่าคะ เพราะไอ้เมล์ที่เค้าเขียนมาบอกเลิกหน่ะเค้าเขียนมาบอกว่าที่เค้าหาสาวใหม่หน่ะเพราะเค้าไม่พร้อมเรื่องแต่งงานเพราะดูเหมือนดิฉันกำลังเร่งรัดเค้า และเค้าก้อจะทำแบบนี้กะสาวคนใหม่ถ้าเธอมาเร่งรัดเค้าแต่งงานเหมือนกัน(แต่ว่าในเวปหาคู่เค้าเขียนชัดเจนคะว่าหาเมีย อยากมีลูก) ดิฉันหวังมากคะว่าน้องคนนี้จะไม่เสียรู้และเชื่อมุขแต่งงานของฝรั่งคนนี้ เพราะฝรั่งคนนี้ก้อยังแอบไปเปิดลงโพรไฟล์เดิมกับเวปหาคู่อีกอันนึงซึ่งน้องคนนี้คงไม่ทราบ จากที่ดิฉันเจอเค้าก้อแค่คบดิฉันแค่เป็นholiday girl เท่านั้นเองและหวังว่าน้องคนใหม่จะไม่โดนเหมือนดิฉัน อยากให้เจ้าของกระทู้ทำใจให้สบายคะ ขนาดฝรั่งเค้าบินมาหาเราถึงที่เค้ายังหลอกกันได้ แล้วนี่จะให้บินไปที่โน่นไปเจอเค้าดิฉันว่ามันเสี่ยงมากกว่าหลายร้อยเท่านะคะ ต้องขอโทษที่เอาประสบการณ์ตัวเองมาเล่าในนี้ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ จขกท กำลังกังวลหรือเปล่าแต่อยากชี้ให้เห็นว่ามันก้อยังมีฝรั่งอีกมุมนึงที่เป็นแบบนี้ ดิฉันหวังว่าเรื่องของคุณ จขกท จะไม่แย่เหมือนดิฉันนะคะ เอาใจช่วยคะ จากที่อ่านในเวปพันธิปก้อจะเจอกระทู้ที่ประมาณ จขกท อ่านเจอว่า เจอกันรักกันพาไปอยู่ด้วยกันแบบสวยหรู ดิฉันไม่เคยอ่านเจอ(หรืออาจจะพลาดเพราะไม่ได้เข้ามาบ่อยคะ) ที่ว่าเจอกับฝรั่งทางเนตแล้วโดนหลอกในรูปแบบไหนบ้างต่างกันไป จากคุณ : อยากร่วมแชร์ประสบการณ์ - [ 28 ธ.ค. 51 18:06:09 A:115.67.35.19 X: TicketID:199259 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ คห 63 และ 66 คะ ตอนนี้บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ากลับไปคบหรือเปล่า แต่ก็คุยด้วย ไม่ได้โกรธกันแล้ว เพียงแต่มันก็เปลี่ยนๆ ไปจากเดิม คือ เราไม่รู้สึกคาดหวังกับอะไรอีก ทั้งเรื่องจะไปโน่นของเราเอง และเรื่องจะลงเอยกับเค้ายังไง ทำใจได้แล้วมั้งคะว่า การคบกันทางเน็ตมันต้องมีสติมากๆ เพราะใครจะพูดจะเขียนไงก็ได้ เค้าบอกเราว่า เค้าไม่สนใจใครอื่นเลยนะที่ออนไลน์มาหาเค้า และขอเราอย่าสนใจคนอื่นด้วย เราน่ะไม่สนอยู่แล้ว เพราะคนเดียวก็เหนื่อยจะตายชัก จะหาภาระหน้าจอเพิ่มอีกทำไม แต่เค้านี่สิ เราบอกได้เลยว่า เราไม่เชื่อหรอก แต่ก็แค่ไม่เชื่อนะ ไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไร อยู่ๆ ก็ปลงได้ซะงั้น คิดว่า การออนไลน์จะให้เค้ามานั่งซื่อสัตย์กับเราคนเดียว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว บนโลกไซเบอร์ ทุกคนคิดว่ามีสิทธิเลือก ก็ต้องมีหลายๆ ตัวเลือก เลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง คิดอย่างนี้ก็ดีนะคะ สบายใจดี สำหรับคุณ คห 67 คะ เราเริ่มอ่านหากระทู้ของคนที่มีแฟนต่างชาติ หรือเป็นแม่บ้านต่างชาติอ่าน ก็ตอนตัดสินใจลองคบกับเค้า (ทางออนไลน์) นี่แหละค่ะ บางเว็บตั้งเป็นชมรมเมียฝรั่งเลยซะงั้น เรื่องราวก็สวยงาม หวานชื่น นั่นจึงเป็นที่มาที่เราสงสัยจนมาตั้งกระทู้ถามไง เราไม่ได้อคติหรือโจมตีใครนะคะ อย่างที่บอกว่า เห็นชีวิตคู่เค้าดี ก็ดีใจด้วย เพียงแต่เรารู้สึกว่ามันช่างราบรื่นจริงๆ แต่ทำไมเรากะเค้า คุยกันแค่ทางออนไลน์ ยังอุตส่าห์มีเรื่องเครียดๆ มีเรื่องระแวง และโกรธกันได้เลย ก็เลยมองว่า ไม่เห็นสวยงามขนาดนั้นซักหน่อย ส่วนกระทู้ที่ผู้หญิงถูกหลอก หรือไปลำบากลำบน เราก็หาอ่านนะ เลยเป็นที่มาของความกลัว และกลายมาเป็นความสับสนนั่นแหละ จากคุณ : จขกท - [ 28 ธ.ค. 51 20:10:16 A:192.168.0.17 X:124.120.90.175 TicketID:194870 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มาดูความคืบหน้า... คนเราเจอกันทุกวัน เห็นหลายๆ คู่ยังจับไม่มั่นเลย นี่คนไกล ต่างภาษา เผื่อใจ หรือตัดใจดีกว่าค่ะ ถ้าทั้งกลัวและสับสน ปล. เคยมีแฟนมาก่อนมั้ยคะ ... เพราะกรณีเรา เราไม่เคยมีแฟนค่ะ พอมีคนมาเอาใจ ยิ้มหวาน ส่ง SMS มา ใจมันเลยหวิวค่ะ...ปลิวไปเร็วและไกล...โชคดีที่รู้ตัวทัน...ถือเป็นประสบการณ์ค่ะ อ้ออิจฉาคนที่เขาประสบความสำเร็จเหมือนกันนะ...แต่ชีวิตใคร ชีวิตมันค่ะ ต้องเลือกเอง จากคุณ : ลิงดำ - [ 28 ธ.ค. 51 20:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 70 จงขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี  คำนี้ได้ใจมากมาย และขอเข้าร่วมสมาคมด้วยคนนะฮ่ะ ขนาดอิช้าน นานๆเจอกันครั้งแต่ส่ง SMS  กันประจำ แต่มาวันนี้ ตาสว่างแล้วค่ะ บางครั้งการวิ่งตามอะไรบางอย่างมันเหนื่อยแสนเหนื่อย การรักใครสักคน มันยิ่งเหนื่อยเข้าไปใหญ่ หากเป็นการรู้สึกดีๆก็ขอหยุดอยุ่แค่นั้น เหนื่อยค่ะ  เอาเวลามารักตัวเอง หาความสุขให้กับตัวเองเยอะๆดีกว่า บางครั้ง เรา อาจจะเจอคนที่ใช่สำหรับเรา(ในความคิดของตัวเราเอง) แต่สำหรับ เขา เราอาจจะไม่ใช่ the one ของเขาคนนั้นงัยคะ อิช้านมันพวกรู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก (แม้เค้าจะไม่ได้มาเอาเงินเอาทอง แต่มาหลอกให้รักเนี่ย มันสุดทน) เช้านี้ตื่นขึ้นมา หูตาสว่าง ตอนนี้รู้ตัวค่ะ ว่าคงไม่ใช่สำหรับเขา ความรักก็เท่านี้ หากคนทั้งคู่เป็นของกันและกัน และเกิดมาเพื่อคู่กัน สุดท้ายก็ไม่แคล้วกันหรอกค่ะ สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขพบเจอแต่คนดีๆคะ จากคุณ : Nada Sousou - [ 28 ธ.ค. 51 23:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นครูค่ะ  อยากจะมาแชร์ข้อมูลว่า สถิติหย่าร้างในอเมริกา (คือ ประมาณ ๕๗%ค่ะ) จากคุณ : ต้นจั่น - [ 29 ธ.ค. 51 02:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 72 Love will keep us alive, een sometime it's hurt. we stil want to do it.It' s wonderful tonight baby, It's a fairy tale or not just only you know. good Luck xxx จากคุณ : Lab moo - [ 30 ธ.ค. 51 03:54:06 A:192.168.0.17 X:92.4.5.17 TicketID:198175 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เรื่องของ จบข จากความคิดเห็นส่วนตัวเลยนะค่ะ ซึ่งอาจผิดหรือถูก ลองพิจารณาดูนะค่ะ ถ้าเป็นดิฉันจะลองคบไปก่อนคือไม่ซีเรียสอยากจะถามหรือพูดอะไรก็จะทำเพื่อให้ เค้ารู้ตัวตนของเราจริง ๆ ด้วย คือประมาณว่า บอความรู้สึกไปเลยว่า สมมุตินะค่ะ เนี่ยคุณมาใส่อารมณ์กับฉันเรื่องวันคริสมาส ในมุมมองของฉันมันแปลว่างี้ งี้นะ และเรื่องที่คุณไม่กระตือรือร้นจะมาทำไมมีเหตุผลอะไร เพราะโดยปกติคนรักกันเค้าไม่ใช่อย่างนี้ คือเท้าความนิดนึงว่าเมือก่อนดิฉันก็เคยกลัวว่า ถ้าเราบอกหมด แชร์หมดมันจะเป็นผลเอื้อให้เค้ารู้จุดอ่อนเรา แล้วเค้าจะหลอกเราได้ง่าย แต่ตอนนี้ดิฉันเชื่อว่าความจริง ยังงัยก็ดีที่สุดคือไม่ได้หมายถึงว่าคุณโกหกเค้านะค่ะ แต่ผู้หญิงเราก็จะต้องหว่าดระแวงเป็นเรื่องธรรมดา ปัญหาที่ตามมามีแน่นอนค่ะ แต่ยังงัยส่วนตัวดิฉันก็คิดว่า ปัญหาในเรื่องของการบอกทุกอย่างก็แก้ง่ายกว่าปิดบัง ด้วยนานาเหตุผล แล้วทีนี้เวลาก็จะบอกคุณเองว่าเค้าเป็นคนอย่างไร แค่นี้อย่าพึ่งตัดสินเค้าเลยค่ะเราไม่เสียเปรียบน่ค่ะแค่คุยแต่ต้องคุมตัว เองอย่าเสียใจเด็ดขาดลองคุยไปเรื่อย ๆ ดิฉันเข้ามาร่วมแชร์ค่ะ ดิฉันก็เคยมีประสบการณ์ผิดหวังมา จากตัวดิฉันเอง คือเค้าเป็นหนุ่มอิสลาม ตุรกี ดิฉันไปหาเค้า คบมาได้ 1 ปี คร่าว ๆ นะค่ะ ทุกอย่างเหมือนไปได้สวย แต่ดิฉันไม่ พรมจารีย์ เค้าก็เลยเลิกกับดิฉัน ก็เจ็บมากค่ะแต่เข้าใจประเพณีเค้า หรือนิสัยเห็นแก่ตัวก็ไม่ทราบนะค่ะ ต่อมาคือดิฉันมีเพื่อนอยู่ อเมริกา กับสามี อเมริกาค่ะ เพื่อนดิฉันเค้าไปลงเวปหาคู่ ที่อเมริกาให้ แต่ในโพรไฟล์เธอลงว่า เธอมีเพื่อนไทย และตอนนี้เธอมีสามี และ ลูกที่นั่นแล้ว อยากจะช่วยเพื่อน(ดิฉัน)และ อยากช่วยหนุ่มอเมริกาบางคนที่โดนสาวไทยหลอก(คือ บางคนโดนสาวไทยหลอกโดยการคือดิฉันก็เข้าใจว่า สาวไทยก็ไม่แน่ใจในหนุ่มต่างชาติ ก็มีหลายคนไว้เผื่อ แต่เผอิญ แฟนดิฉัน(ตอนนั้นยังไม่เจอกันนะค่ะ)เค้าจริงจัง อยากแต่งงานด้วยแต่สาวไทยคงมีคนที่ใช่กว่านั้นแล้ว ก็เลยเลิกติดต่อกับแฟนดิฉัน ต่อเนื่องนะค่ะ ที่นี้เพื่อนดิฉันเลยช่วยเค้าในการติดต่อดิฉัน เราติดต่อกันได้ 1 เดือนครึ่งเค้าก็มาหาดิฉัน(ด้วยตั๋วเก่าที่จะมาหาสาวไทยคนเดิมแต่สาวไทยหาย ไป เค้าบอกดิฉันว่า เค้ากำหนดวันมา แต่สาวหายไป 2 อาทิตย์ ก็กลับมาบอกว่า น้องชายเสีย เค้าก็เลยบอกดิฉันว่า ถ้าเป็นคุณจะคิดอย่างไร เพราะเรากำลังซีเรียสเรื่อง กำหนดการวันมา และอะไรต่าง ไ ในเมืองไทยอยู่ แต่เธอก็หายไป เค้าพูดประมาณว่า เค้าเข้าใจว่าน้องเสียเป็นอะไรที่สำคัญ แต่น่าจะบอกเค้าหน่อย แค่อีเมล์บอกก็ยังดีไม่ใช่หายไป) เค้ามาหาดิฉัน 4 วัน เพราะ ครั้งที่แล้วเค้าไปเที่ยวประเทศอื่นเลยเหลือวันลาแค่นี้น่ะค่ะ ในระหว่างที่อยู่ด้วยกันเค้าสุภาพ ไม่ล่วงเกินมีบ้าง ไม่มาก ที่นี้เรื่องที่จะรบกวนน่ะค่ะ เกรงใจจริง ๆ ค่ะ ว่าที่นี่เป็นกระทู้ของ จบข ดิฉันควรจะตั้งกระทู้ใหม่เพื่อถามผู้มีประสบการณ์ แต่พออ่านเรื่องคุณแล้ว กลัวว่าคนที่อ่านและช่วยตอบที่นี่จะไม่เห็นกระทู้ของดิฉันที่ตั้งใหม่ คือประมาณว่าอยากได้ความคิดจากคนที่นี่ เพราะอ่านแล้ว แต่ละคนที่ตอบมีความคิดหลากหลาย ที่เป็นความคิดในโลกขงความจริง เหมือนอยากช่วยด้วยความจริงใจไม่เอาเรื่องประสบการณ์ของตัวเองเข้ามาใส่น่ะ ค่ะ เลยรบกวนถามในนี้เลยน่ะค่ ต้องขอโทษ จบข และท่านอื่นด้วยนะค่ะ เรื่องที่รบกวนแชร์ คือ เค้าเอาแหวนเพรชมาหมั้นดิฉันด้วยน่ะค่ะ ราว กะรัตคริ่ง และให้เงินไว้ส่งเอกสารส่วนตัวไปให้เค้าเพื่อนทำวีซ่าคู่หมั้นให้ แต่เรื่องนี้ดิฉันไม่ได้ตาโตนะค่ะ แต่อยากเล่าเพื่อนรายละเอียดในการแชร์ประสบการณ์น่ะค่ะ แต่ปัญหาคือ เค้าเป็นอินเดีย แต่ไปเรียนต่อโท ที่ อเมริกา และได้ซิตีเซ้น(เค้าอายุ 46)ไปอยู่ได้ประมาณ 20 ปีแล้วค่ะ มีคอนโด กับรถที่ชิคาโก้ ทำงาน เอ็นจิเนีย แฟแนนเชียล....ทุกอย่างดูโอเค ถ้าเว้นเรื่องกิน คือกินเหมืนแขกน่ะค่ะ(ดิฉันไม่ได้ว่าแขกนะค่ะ คือบางคนก็กินสุภาพ)แต่แฟนดิฉันเค้าเป็นประมาณ มูมมาม เสียงดัง เลอะเทอะ กินเร็ว และนอนกรน มีกลิ่นแขกนิดหน่อย แต่สำหรับคนไทยมันจะได้กลิ่นอย่างชัดเจนตลอดเวลา ที่นี้เรื่องที่รบกวนคือ ดิฉันยอมรับว่ายังไม่ได้รักเค้า(ผิดค่ะ ดิฉันยอมรับ)แต่ดิฉันมีปัญหาเรื่องการเงิน คือดิฉันมี พ่อแม่ที่แก่แล้ว 2 คนที่ดิฉันต้องเลี้ยงดู และเศรษกิจไทยเงินเดือนดิฉีนไม่พอจะเลี้ยงน่ค่ะดิฉันก็เลยว่าจะแต่งกับเค้า แต่ก็ไม่ได้ขออะไรมากมาย ขอแค่มีที่อยู่ และเงินส่งมาให้ทางบ้านแม่บ้างให้แกได้พอใช้ แต่เพื่อนที่ติดต่อให้ดิฉันบอกว่า เรื่องที่ดิฉันรับไม่ได้น่ะ ต้องชัวร์นะเพราะอยู่ด้วยกันทุกวันมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ดิฉันมั่นใจว่าจะทนให้ได้ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ดิฉันไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่อยากทำหน้าที่เรื่องพ่อแม่ให้ดีที่สุดเท่านั้นเองน่ะค่ะ ทุกคนที่เข้ามาช่วยตอบคิดว่าดิฉันควรจะไปด้วยวีซ๋าคู่หมั้นมั้ยค่ะ ไปแล้วดิฉันก็กลัวงานทางนี้ แน่อยู่แล้วว่าลา ไม่ได้ ถึง 3 เดือนก็ต้องหางานใหม่ซึ่งไม่รูจะได้มั้ย เลยรบกวนถามผู้ที่มีสามีอยู่ที่เมกาด้วยน่ะค่ะ ว่า ซิกติเซ้นอย่างแฟนดิฉันจะพอ ซับพอร์ตดิฉันได้มั้ยขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : - [ ] จากคุณ : คนหนึ่ง - [ 30 ธ.ค. 51 09:17:28 A:124.120.194.15 X: TicketID:199408 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แหม ตาลาย คุณ คห  73 ไม่ย่อหน้าเลยนะคะ     อ่านดูแล้วน่าเห็นใจค่ะ  กำลังคิดหาคำแนะนำดี ๆ  ขอเวลานิดนึงค่ะ เห้อ  แต่ก้อหาคำตอบยากจัง  สำหรับคนที่ไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ต้องทนเหม็นแขกอย่างเรา  แถมเอาแต่ใจไม่สามารถเสียสละเพื่อใคร (แม้แต่พ่อแม่) แบบนี้ได้ด้วยจิคะ  ดีไปอย่างที่พ่อแม่รวยกว่าเรา มีแต่เราต้องไปพึ่ง  (เกาะกินเป็นระยะ ๆ) แหะ แหะ เอาละ  รอคำตอบท่านที่ใจดีข้างล่าง มาช่วยคุณ คห 73 ได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันหน่อยจ้า แหม  ถ้าหล่ออย่างนายแบบปากีฯคนนี้จะยอมเหม็นโรตีมะตะบะทุกวันเชียยยยย จากคุณ : Imran Abbas ----------------- (cherry*viva) - [ 30 ธ.ค. 51 11:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 75 มาย่อหน้าให้ 73 ค่ะ ------------------------------- เรื่องของ จบข จากความคิดเห็นส่วนตัวเลยนะค่ะ ซึ่งอาจผิดหรือถูก ลองพิจารณาดูนะค่ะ ถ้าเป็นดิฉันจะลองคบไปก่อนคือไม่ซีเรียสอยากจะถามหรือพูดอะไรก็จะทำเพื่อให้ เค้ารู้ตัวตนของเราจริง ๆ ด้วย คือประมาณว่า บอความรู้สึกไปเลยว่า สมมุตินะค่ะ เนี่ยคุณมาใส่อารมณ์กับฉันเรื่องวันคริสมาส ในมุมมองของฉันมันแปลว่างี้ งี้นะ และเรื่องที่คุณไม่กระตือรือร้นจะมาทำไมมีเหตุผลอะไร เพราะโดยปกติคนรักกันเค้าไม่ใช่อย่างนี้ คือเท้าความนิดนึงว่าเมือก่อนดิฉันก็เคยกลัวว่า ถ้าเราบอกหมด แชร์หมดมันจะเป็นผลเอื้อให้เค้ารู้จุดอ่อนเรา แล้วเค้าจะหลอกเราได้ง่าย แต่ตอนนี้ดิฉันเชื่อว่าความจริง ยังงัยก็ดีที่สุดคือไม่ได้หมายถึงว่าคุณโกหกเค้านะค่ะ แต่ผู้หญิงเราก็จะต้องหว่าดระแวงเป็นเรื่องธรรมดา ปัญหาที่ตามมามีแน่นอนค่ะ แต่ยังงัยส่วนตัวดิฉันก็คิดว่า ปัญหาในเรื่องของการบอกทุกอย่างก็แก้ง่ายกว่าปิดบัง ด้วยนานาเหตุผล แล้วทีนี้เวลาก็จะบอกคุณเองว่าเค้าเป็นคนอย่างไร แค่นี้อย่าพึ่งตัดสินเค้าเลยค่ะเราไม่เสียเปรียบน่ค่ะแค่คุยแต่ต้องคุมตัว เองอย่าเสียใจเด็ดขาดลองคุยไปเรื่อย ๆ ดิฉันเข้ามาร่วมแชร์ค่ะ ดิฉันก็เคยมีประสบการณ์ผิดหวังมา จากตัวดิฉันเอง คือเค้าเป็นหนุ่มอิสลาม ตุรกี ดิฉันไปหาเค้า คบมาได้ 1 ปี คร่าว ๆ นะค่ะ ทุกอย่างเหมือนไปได้สวย แต่ดิฉันไม่ พรมจารีย์ เค้าก็เลยเลิกกับดิฉัน ก็เจ็บมากค่ะแต่เข้าใจประเพณีเค้า หรือนิสัยเห็นแก่ตัวก็ไม่ทราบนะค่ะ ต่อมาคือดิฉันมีเพื่อนอยู่ อเมริกา กับสามี อเมริกาค่ะ เพื่อนดิฉันเค้าไปลงเวปหาคู่ ที่อเมริกาให้ แต่ในโพรไฟล์เธอลงว่า เธอมีเพื่อนไทย และตอนนี้เธอมีสามี และ ลูกที่นั่นแล้ว อยากจะช่วยเพื่อน(ดิฉัน)และ อยากช่วยหนุ่มอเมริกาบางคนที่โดนสาวไทยหลอก(คือ บางคนโดนสาวไทยหลอกโดยการคือดิฉันก็เข้าใจว่า สาวไทยก็ไม่แน่ใจในหนุ่มต่างชาติ ก็มีหลายคนไว้เผื่อ แต่เผอิญ แฟนดิฉัน(ตอนนั้นยังไม่เจอกันนะค่ะ) เค้าจริงจัง อยากแต่งงานด้วยแต่สาวไทยคงมีคนที่ใช่กว่านั้นแล้ว ก็เลยเลิกติดต่อกับแฟนดิฉัน ต่อเนื่องนะค่ะ ที่นี้เพื่อนดิฉันเลยช่วยเค้าในการติดต่อดิฉัน เราติดต่อกันได้ 1 เดือนครึ่งเค้าก็มาหาดิฉัน(ด้วยตั๋วเก่าที่จะมาหาสาวไทยคนเดิมแต่สาวไทยหาย ไป เค้าบอกดิฉันว่า เค้ากำหนดวันมา แต่สาวหายไป 2 อาทิตย์ ก็กลับมาบอกว่า น้องชายเสีย เค้าก็เลยบอกดิฉันว่า ถ้าเป็นคุณจะคิดอย่างไร เพราะเรากำลังซีเรียสเรื่อง กำหนดการวันมา และอะไรต่าง ไ ในเมืองไทยอยู่ แต่เธอก็หายไป เค้าพูดประมาณว่า เค้าเข้าใจว่าน้องเสียเป็นอะไรที่สำคัญ แต่น่าจะบอกเค้าหน่อย แค่อีเมล์บอกก็ยังดีไม่ใช่หายไป) เค้ามาหาดิฉัน 4 วัน เพราะ ครั้งที่แล้วเค้าไปเที่ยวประเทศอื่นเลยเหลือวันลาแค่นี้น่ะค่ะ ในระหว่างที่อยู่ด้วยกันเค้าสุภาพ ไม่ล่วงเกินมีบ้าง ไม่มาก ที่นี้เรื่องที่จะรบกวนน่ะค่ะ เกรงใจจริง ๆ ค่ะ ว่าที่นี่เป็นกระทู้ของ จบข ดิฉันควรจะตั้งกระทู้ใหม่เพื่อถามผู้มีประสบการณ์ แต่พออ่านเรื่องคุณแล้ว กลัวว่าคนที่อ่านและช่วยตอบที่นี่จะไม่เห็นกระทู้ของดิฉันที่ตั้งใหม่ คือประมาณว่าอยากได้ความคิดจากคนที่นี่ เพราะอ่านแล้ว แต่ละคนที่ตอบมีความคิดหลากหลาย ที่เป็นความคิดในโลกขงความจริง เหมือนอยากช่วยด้วยความจริงใจไม่เอาเรื่องประสบการณ์ของตัวเองเข้ามาใส่น่ะ ค่ะ เลยรบกวนถามในนี้เลยน่ะค่ ต้องขอโทษ จบข และท่านอื่นด้วยนะค่ะ เรื่องที่รบกวนแชร์ คือ เค้าเอาแหวนเพรชมาหมั้นดิฉันด้วยน่ะค่ะ ราว กะรัตคริ่ง และให้เงินไว้ส่งเอกสารส่วนตัวไปให้เค้าเพื่อนทำวีซ่าคู่หมั้นให้ แต่เรื่องนี้ดิฉันไม่ได้ตาโตนะค่ะ แต่อยากเล่าเพื่อนรายละเอียดในการแชร์ประสบการณ์น่ะค่ะ แต่ปัญหาคือ เค้าเป็นอินเดีย แต่ไปเรียนต่อโท ที่ อเมริกา และได้ซิตีเซ้น(เค้าอายุ 46)ไปอยู่ได้ประมาณ 20 ปีแล้วค่ะ มีคอนโด กับรถที่ชิคาโก้ ทำงาน เอ็นจิเนีย แฟแนนเชียล.... ทุกอย่างดูโอเค ถ้าเว้นเรื่องกิน คือกินเหมืนแขกน่ะค่ะ(ดิฉันไม่ได้ว่าแขกนะค่ะ คือบางคนก็กินสุภาพ)แต่แฟนดิฉันเค้าเป็นประมาณ มูมมาม เสียงดัง เลอะเทอะ กินเร็ว และนอนกรน มีกลิ่นแขกนิดหน่อย แต่สำหรับคนไทยมันจะได้กลิ่นอย่างชัดเจนตลอดเวลา ที่นี้เรื่องที่รบกวนคือ ดิฉันยอมรับว่ายังไม่ได้รักเค้า(ผิดค่ะ ดิฉันยอมรับ)แต่ดิฉันมีปัญหาเรื่องการเงิน คือดิฉันมี พ่อแม่ที่แก่แล้ว 2 คนที่ดิฉันต้องเลี้ยงดู และเศรษกิจไทยเงินเดือนดิฉีนไม่พอจะเลี้ยงน่ค่ะดิฉันก็เลยว่าจะแต่งกับเค้า แต่ก็ไม่ได้ขออะไรมากมาย ขอแค่มีที่อยู่ และเงินส่งมาให้ทางบ้านแม่บ้างให้แกได้พอใช้ แต่เพื่อนที่ติดต่อให้ดิฉันบอกว่า เรื่องที่ดิฉันรับไม่ได้น่ะ ต้องชัวร์นะเพราะอยู่ด้วยกันทุกวันมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ดิฉันมั่นใจว่าจะทนให้ได้ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ดิฉันไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่อยากทำหน้าที่เรื่องพ่อแม่ให้ดีที่สุดเท่านั้นเองน่ะค่ะ ทุกคนที่เข้ามาช่วยตอบคิดว่าดิฉันควรจะไปด้วยวีซ๋าคู่หมั้นมั้ยค่ะ ไปแล้วดิฉันก็กลัวงานทางนี้ แน่อยู่แล้วว่าลา ไม่ได้ ถึง 3 เดือนก็ต้องหางานใหม่ซึ่งไม่รูจะได้มั้ย เลยรบกวนถามผู้ที่มีสามีอยู่ที่เมกาด้วยน่ะค่ะ ว่า ซิกติเซ้นอย่างแฟนดิฉันจะพอ ซับพอร์ตดิฉันได้มั้ยขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : - [ ] จากคุณ : คนหนึ่ง - [ 30 ธ.ค. 51 09:17:28 A:124.120.194.15 X: TicketID:199408 ] ---------------- เราเองก็แบ่งวรรคแปลกๆ เนอะ -*- อ่านง่ายขึ้นมั้ยเนี่ยยยยย แบ่งวรรคให้เฉยๆ ไม่ใช่เรื่องของเรานะ....55555 เรื่องของลิง ลิงยอมแพ้ไปแล้ว ใจไม่สู้ค่ะ -*- แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 16:12:38 จากคุณ : ลิงดำ - [ 30 ธ.ค. 51 13:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ถึงคุณลิงดำ แฟนของคุณเป็นซิติเซ้นแล้วสามารถซัพพอร์ตทำวีซ่าให้คุณเดินทางไปอเมริกาด้วยวีซ่าคู่หมั้นได้ค่ะ แต่คุณเพิ่งเจอกับแฟน 4 วันเองนะคะ ซึ่งถือว่าน้อยมาก (ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัย เราเอามาจากกการที่คุณเขียนไว้) ทำวีซ่าคู่หมั้นได้ยากมากค่ะ อีกทั้งหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแฟนต้องมีมากพอสมควร ส่วนเรื่องส่วนตัว เพื่อนคุณก็ได้เตือนแล้ว ซึ่งเราเองก็อยากบอกกับคุณแบบนี้ แต่คุณเองก็มีคำตอบให้กับตัวเองแล้ว ยังไงไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณต้องยอมรับกับผลที่เกิดขึ้นให้ได้นะคะ จากคุณ : Tang_Siri - [ วันสิ้นปี 07:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คหที่.74 ถ้าได้แบบรูปที่โพสมา อิช้านยอมเหม็นค่ะ ย้อมยอม ยอมๆๆๆ จากคุณ : Nada Sousou - [ วันสิ้นปี 12:36:46 ]