ความคิดเห็นที่ 1 อันแรกต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า Flu กับ Cold มันแตกต่างกันตรงไหน สรุปแบบง่ายๆได้ว่า Cold นั้นมันจะออกอาการแบบต่อเนื่องหลังจากรับเชื้อหวัดแบบช้าๆ คือตอนแรกๆอาจเริ่มจากเจ็บคอก่อน ตอนเย็นแล้วพอตกกลางคืนจะเริ่มมีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกไม่สบาย ตามมาด้วยอาการจาม ค้ดจมูกวันรุ่งขึ้น มีเสมหะ เริ่มไอจามน้ำมูกไหล โดยอาการพวกนี้จะเกิดขึ้นตามลำดับในเวลาสองถึงสามวัน และช่วงที่เป็นไข้นั้น ไข้จะไม่สูงมาก และคนที่ป่วยสามารถลุก เดินเหิน ทำธุระต่างๆได้ หรือแม้กระทั่งไปทำงานได้ แม้ว่าจะรู้สึกไม่ค่อยสบาย เหนื่อย เพลีย และมีไข้ ซึ่งในขณะเดียวกันถ้าเป็น Flu อาการต่างๆที่ว่ามานั้น มันจะโจมตีภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรับเชื้อเข้าไป จะทรุดลงเร็วมาก จากที่โดนมากับตนเอง ไปทำงานตอนเช้ารู้สึกคันๆคอ พอตกบ่ายเสียงเปลี่ยน ตกเย็น เสียงแหบหายไปเลย เริ่มมีไข้สูง ปวดเมื่อยไปทุกส่วนในร่างกาย และเจ็บคอเหมือนมีใครเอาที่ขูดมะพร้าวมาขูดคอหอย กลืนน้ำลายอย่างยากเย็น เริ่มจามแต่พยามกลั้นไว้เพราะจามทีจะเจ็บปวดรวดร้าวจนน้ำตาร่วง ไอแห้งๆ(กลัวเจ็บคอถ้าไอแรง) นอนไม่ได้ นอนไม่หลับ หลับได้ทีละครึ่งชั่วโมง พอหมดฤทธิ์ยาก็จะตื่นเพราะไข้ขึ้น อาการที่ว่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยแยกง่ายๆได้ว่า หากใครเป็น Flu มันจะไม่เหมือนหวัดธรรมดาตรงที่คนเป็นจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ทำอะไรไม่ได้ กินไม่ได้ ต้องนอนอย่างเดียวไม่สามารถแม้กระทั่งเดินเข้าครัวไปต้มมาม่า หรืออย่างที่หมอที่นี่ได้ยกตัวอย่างไว้ว่าหากใครโดน Flu เล่นงานแล้วเห็นแบ็งค์ 10 ปอนด์ตกอยู่ที่พื้น ถ้าใครสามารถก้มไปเก็บแบ็งค์ได้แสดงว่าแค่เป็นหวัด เพราะคนที่เป็นFlu แค่ลุกไปห้องน้ำนี่ยังงานหนักเลย ให้ก้มเก็บของบนพื้นก็คงจะกองอยู่ตรงนั้นลุกไม่ขึ้นอีก จากคุณ : Gisele - [ 27 ธ.ค. 51 00:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาการทั่วๆไปของ Flu มีไข้สูง อย่างเฉียบพลัน (38-40 องศาC) พอไข้ลดก็จะเหงื่อแตก ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไอ ทั้งแบบแห้งๆและแบบมีเสมหะ จาม คัดจมูก หายใจไม่สะดวก นอนไม่หลับ ไม่อยากอาหาร หรือน้ำ บางรายอาจมีคลื่นไส้ อาเจียร จากคุณ : Gisele - [ 27 ธ.ค. 51 00:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าหากใครมีอาการเหล่านี้ วีธีรักษาคือต้องพักผ่อนให้มากๆ ใส่เสื้อผ้าให้อุ่นๆ ซื้อยาแก้ไข้หวัดที่มีขายมากิน เช่นพวกยาที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการ คัดจมูก ลดไข้ ที่ทั้งแบบชงน้ำร้อนดื่ม หรือแบบแคปซูล ถ้าไอก็ซื้อยาแก้ไอแบบน้ำเชื่อมเช่น Benylin หากเจ็บคอมากๆก็ให้หาซื้อสเปรย์มาฉีด มีขายหลายแบบเลือกทีลดอาการบวมและฆ่าเชื้อโรคในตัวเช่น Difflam Spray เป็นต้น ช่วยได้แยะเลย ฝืนทานอาหารหรือน้ำ เช่นนม ซุป ข้าวต้ม โจ๊ก อะไรน้ำๆที่กลืนง่ายๆประทังชีวิต เพราะหากร่างกายได้รับสารอาหารบ้างก็จะทำให้ฟื้นตัวเร็ว อย่าลืมทานยาทุกสี่ชั่วโมง เพราะพอยาหมดฤทธิ์ก็จะทรมานเหมือนคนใกล้ตาย อาการไข้ เหงื่อแตกพลั่กๆจะเป็นอยู่แค่ภายในเวลา 2-3 วัน หลังจากพ้นช่วงนี้ไปแล้วจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นตามลำดับ  แต่อาจจะเริ่มไอมากขึ้น ถ้าไม่มีอาการเจ็บหน้าอก หรือแสบหน้าอก เวลาหายใจ หรือหายใจติดขัด ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ โดยอาการต่างๆจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆภายใน ห้าวันหรือหนึ่งอาทิตย์ ส่วนอาการต่างๆเช่น ไอ หรืออ่อนเพลียจะต้องใช้เวลานานถึงสองสามอาทิตย์จึงจะดีขึ้น จากคุณ : Gisele - [ 27 ธ.ค. 51 01:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพกันให้ดีนะคะ และหวังว่าข้อมูลพวกนี้จะช่วยหลายๆคนให้รู้จัก Flu ได้ดีขึ้น เพราะที่กำลังระบาดอยู่นี้ ค่อนข้างรุนแรงกว่าทุกปี จะมีอาการเสียงแหบแห้ง ไอเป็นเลือด ควบคู่มาด้วย ไม่อยากให้ใครเป็นเหมือนดิฉัน น้ำหนักลดไปสามกิโลครึ่งภายในสี่วัน ไปหาหมอก็ไม่มีประโยชน์เพราะยาปฏิชีวนะไม่สามารถฆ่าไวรัสได้ ฆ่าได้แต่เชื้อแบคทีเรีย เพราะฉะนั้นหมอก็จะได้แต่บอกให้ไปรักษาตัวที่บ้านตามที่แนะไว้ข้างบนค่ะ Have a nice christmas and a wicked New Year xx จากคุณ : Gisele - [ 27 ธ.ค. 51 01:40:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Last year, it took me 22 days to get over my cold. It was bad. จากคุณ : Lilac Girl - [ 27 ธ.ค. 51 01:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วเราไปติดหวัดนี้กันมาจากไหน ติดอย่างไร Flu Virus จะมีอยู่มากในน้ำมูก น้ำลายคนที่ติดเชื้อ ซึ่งผ่านต่อไปยังคนอื่นด้วยการจามแรงๆโดยไม่ปิดปาก จมูก หรือคนที่เป็นเอามือที่มีน้ำมูกน้ำลายไปสัมผัสตามพื้นผิวต่างๆ เช่นลูกบิดประตู โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ แล้วเราไปสัมผัสเข้าแล้วเอามือมาแตะหน้าตัวเอง หรือขยี้ตา แตะจมูก เพราะฉะนั้น คนที่เป็นหวัดควรที่จะล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่สั่งน้ำมูก ทิชชู่ก็อย่าทิ้งเรี่ยราด คนที่ยังไม่เป็นก็อย่าเอามือมาแตะหน้าตาตัวเองหรอหยิบอะไรเข้าปากโดยไม่ล้างมือ ปกติแล้วหลังจากรับเชื้อจะใช้เวลาฟักตัวตั้งแต่วันเดียวไปจนถึงสี่วันจนกว่าจะออกอาการ ส่วนคนที่ติดเชื้อหรือมีเชื้อในตัวจะสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นตั้งแต่ วันก่อนหน้าที่จะออกอาการหนึ่งวัน ไปจนถึงวันที่ห้าหลังจากออกอาการ จากคุณ : Gisele - [ 27 ธ.ค. 51 01:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 22 วัน นานมากเลยนะคะ ยังไงปีนี้ก็รักษาตัวให้ดี แต่งตัวให้อุ่นๆไว้นะคะ จากคุณ : Gisele - [ 27 ธ.ค. 51 01:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Flu ที่เคยเป็นหนักที่สุด เริ่มจากรู้สึกเจ็บตามตัว เหมือนจะหมดแรง ถัดมาอีกชั่วโมงเดียวไข้ขึ้น หมดแรงจริงๆลุกไม่ขึ้น นอนหมดสภาพเป็นอาทิตย์ พอเริ่มหาย อาการไอมาเยือน  น่าเบื่อมากๆ  ปีนี้เหมือนจะโชคดีที่สุขภาพแข็งแรงกว่าปีก่อนๆ  ไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้น ที่ทำงานมีบริการฉีดวัคซีนให้ฟรีแก่พนักงาน แต่ไม่เคยขอรับบริการสักที จากคุณ : Poo-Ma - [ 27 ธ.ค. 51 02:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ พี่ Gisele ได้ยินว่าเราสามารถไปหา GP ให้เค้าฉีดยากันไว้ก่อนได้ แล้วเมื่อวันก่อนเห็นในข่าว จนท.ก็บอกว่า อยากให้ประชาชนไปฉีดยากันไว้ก่อน เพราะตอนนี้ไข้หวัดระบาดมาก มีใครลองหรือยังคะ (กลัวเป็นไข้หวัดทรมาน :) แก้ไขข้อความนิดนึงค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 51 03:15:21 จากคุณ : ยูเคย์ (youkay) - [ 27 ธ.ค. 51 02:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ดิฉันก็กำลังเป็นหวัดอยู่เลย ยังไม่มีไข้โชคดีหน่อย แต่ก็ตาปรือมากๆเพราะจามวันละหลายๆรอบค่ะ ตอนนี้เป็นแค่หวัดคัดจมูก เสียงเปลี่ยนเพี้ยนเป็นหนุ่มแตกพาน ดิฉันก็พยายามดื่มชาร้อนๆบ่อยๆ ทานส้มวันละหลายๆลูกทีเดียว (ปกติไปทำงานจะพกน้ำผลไม้ไปวันละลิตรทุกวันอยู่แล้ว ดื่มหมดทุกวัน) แต่ตอนนี้ที่เป็นหวัดคิดว่ามาจากหลายสาเหตุ 1. ทำงานหนักไปหน่อย 2. พักผ่อนน้อย (จริงๆควรนอนวันละ 8-10 ชั่วโมง ถ้าเป็นไปได้) แต่เวลาต้องทำงาน 8-8 ติดๆกันหลายวัน ก็จะทำให้นอนได้น้อยลงกว่าที่ร่างกายต้องการ 3. คนไข้ + เพื่อนร่วมงานที่ทำงานก็เป็นหวัดกัน อาจจะทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ทั่วไปและเราก็รับมาได้ง่ายๆ แม้ว่าจะแข็งแรงมากก็ตาม 4. สามีก็ไปรับเชื้อหวัดมาจากที่อื่นเหมือนกัน รวมทั้งเป็นหอบหืดร่วมด้วย ยิ่งทำให้อาการหนักไปกันใหญ่ ต้องใช้พัฟช่วยหายใจทีเดียว นั่นคือก่อนที่ดิฉันจะได้รับเชื้อมานะ (สรุปแล้วคงจะรับเชื้อมาจากหลายทาง) ทางรักษาด้วยตัวเองของดิฉันคือ ... 1. ดื่มน้ำอุ่นๆตลอดเวลา/ชาร้อนๆ 2. ทานวิตามินซี (มาจากหลายแหล่ง เช่น ส้ม พลัม .. อัดๆเข้าไปแทนข้าวเลย) 3. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ 3 เวลา หรือ ทุกครั้งที่นึกได้ (ลดอาการเจ็บคอ) 4. หากเป็นไปได้ก็ต้องหยุดงาน พักผ่อน (อย่างเช่นวันนี้เป็นต้น) ก็ช่วยได้มากทีเดียวค่ะ โดยไม่ต้องทานยาแอนตี้ไบโอติค หมอเคยบอกไว้นานแล้วว่าหากเป็นหวัดต้องพักผ่อนให้มากที่สุดแล้วจะฟื้นตัวเร็ว แต่จริงๆแล้วการเป็นหวัดปีละครั้งนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กเล็กๆปีละ 5-6 ครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกัน ดิฉันก็ไม่เป็นหวัดมานานหลายปีแล้ว มาปีนี้คงได้รับเชื้อมาจากหลายแหล่ง โดยเฉพาะจากที่ทำงานมันก็ช่วยไม่ได้จริงๆอ่ะนะ ... แม้จะมีแอลกอฮอล์แฮนด์เจลพกติดกระเป๋าเครื่องแบบไว้ใช้ส่วนตัว แต่คนอื่นๆบางทีเขาก็ลืมที่จะล้างมือหรือใช้เจลฆ่าเชื้อโรค ... เราเองก็ต้องป้องกันตัวเองให้ได้มากที่สุดละค่ะ ... จะหยิบจับอะไรในที่ทำงานหรือถูกเนื้อต้องตัวคนไข้ก็สวมถุงมือทุกครั้ง สำหรับตอนนี้ก็ขอให้ตัวเองอย่าเป็นอะไรมากไปกว่านี้เลย เพราะแค่หวัดธรรมดาๆแค่นี้ก็จามจนตาปรือคัดจมูกน้ำมูกไหลจะแย่แล้ว ขอให้ชาวไกลบ้านรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ @>>เพิ่มเติม<<@@ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 51 03:40:19 จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง - [ 27 ธ.ค. 51 03:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากครับ กำลังเริ่มมีอาการพอดีเลย เจ็บคอ คันคอ ไอแบบแห้งๆมาสองชั่วโมงแล้ว เอาน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำมะนาวดื่มอยู่เพราะไม่มียาแก้ไอ ยังไงก็ขอให้หายป่วยกันเร็วๆทุกคนนะครับ จากคุณ : CHISWICK - [ 27 ธ.ค. 51 04:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นหวัดจากการออกกำลังกายกลางฝนและวันต่อไปก็โหมร่างกายด้วยการสอบทั้งวัน ไอ เป็นเดือนแถมเจ็บปอดอีก ไปกินยาไทยก็เป็นพิษเพราะร่างกายมันต่อต้านยานี้ ดีนะที่ได้ไปหาหมอ ได้ยามาแก้ก็เริ่มดีหน่อย รักษาสุขภาพ อย่าหักโหมตัวเองมากนะค่ะ จากคุณ : สาวใหม - [ 27 ธ.ค. 51 04:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นครั้งแรกที่โดน ฟลู เล่นงานค่ะ... แต่โชคดีไม่เลวร้าย และรีบไปฉีด ฟลู ช้อท ... จากนั้น อาการหายไป เป็นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ตอนไปทำงานข้างนอก อากาศหนาวมาก... หลังจากอุดอยู่ในบ้าน จนเมือ่ออกไปทำงานกลางแจ้ง เลยมีอาการครั่นเนื้อ ครั่นตัว แต่ไม่มีไข้ ไม่ตัวร้อน..... มีแต่อาการเจ็บผิวหนัง ปวดเมื่อยตามตัว ในตัวทั่วไปหมด เมื่อผิวหนังสัมผัสเสื้อผ้าที่ใส่ มีอาการเจ็บระคายเคือง... ที่แย่ๆคือ รู้สึกร่างกายอ่อนแอมากๆ... ไม่มีแรงที่แม้แต่จะเดินขึ้นบันได ลุกเดินไหนก็เนือยๆ... ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน... ทนกินยาแก้ปวดเมื่อย แบบลดอาการไข้อยู่ ๑ อาทิตย์ ก็ไม่หาย... กินไวตามิน ซี ๑ พัน มิลฯ วันละเม็ด หวังว่าจะช่วยสร้างภูมิ อาทิตย์ต่อมา.... หมอเลยนัดฉีดยา ฟลู ช้อท ให้... วันต่อมา.. รู้สึกร่างกายกลัมาเป็นปกติ... กระดี๊กระด๊า... มีแรงทำงาน สู้ความหนาวได้ไม่ยั่น จนหมดสัญญาทำงาน... ตอนนี้เป็นวันหยุดยาว สบายแล้ว ไม่ชอบอาการอ่อนแอแบบนั้นเลย จากคุณ : JidNince - [ 27 ธ.ค. 51 07:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทางป้องกันที่เห็นผลดีมาก ๆ คือไปฉีด "flu shot" ... วัคซีนนี้ยืนระยะได้สัก 1 ปี ... คือ จะเป็นหวัดธรรมดาและหวัดใหญ่ (flu) ได้น้อย ... คือลดได้ประมาณ 80% เลยครับ ... ส่วนการรักษาของ virus ... ก็ต้องรักษาตามอาการครับ   ยังไงรักษาสุขภาพกันนะ ... อะโรคา (อะไรสักอย่างนี่แหล่ะ ต่อไม่ถูกแล้ว ใครมาช่วยต่อหน่อย ... อิอิ) จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด - [ 27 ธ.ค. 51 08:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะ ที่อ่านมา ฟลู เหมือนไข้หวัดใหญ่เลย เคยโดนเล่นงานพักหลังๆ หลายที ตอนอยู่เมืองไทย อยู่ๆ ก็เจ็บคอ  มีไข้ ปวดหัวมาก ปวดตามตัว ไม่มีแรง เดินไม่ไหว (ล่าสุดก่อนเดินทางแทบจะแย่ ขึ้นเครื่องก็ปวดหู แก้วหูจะแตก) อยู่อเมริกา ก็เป็นบ้าง แต่ปรกติเราเป็นหวัดค่อนข้างจะหายยากอยู่แล้ว แม้ไข้ หาย แต่ก็มักจะหลงเหลือน้ำมูก และไอไว้นาน มาเที่ยวนี้ เพื่อนบอกว่า เขามีฉีดวัคซีนฟรี เลยพากันไปฉีด ได้ประมาณเดือนนึง ยังไม่ค่อยเป็นอะไร มีแต่หลังจากฉีดกลับมาวันแรก ไมเกรนขึ้น ซมเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไปฉีดวัคซีนหรือเปล่า จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 27 ธ.ค. 51 09:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแชร์ด้วยค่ะค่ะ เราเพิ่งเขียนลงบล๊อกเมื่อวาน @@@@@@@@@@@@@@@@@@ เมื่อคืนไข้ขึ้นสูงมาก ปกติอยู่ในห้องก็จะไม่รู้สึกหนาว อุ่น ๆ สบาย ๆ แต่เมื่อวานหนาวมาก หนาวขนาดที่ว่า ขาแข็ง ไปเข้าห้องน้ำแล้วแทบกลับออกมาไม่ได้ กล้ามเนื้อกระตุก สั่นไปทั่งตัว ฟันงี้กระทบกัน แกร๊ก ๆ เลยหล่ะ (หนาวที่สุดเท่าที่เคยหนาว) แฟนก็ดูแลเต็มที่ หาผ้าให้ห่มสองผืน เอาน้ำร้อนใส่ขวดมาให้นอนกอด หายาให้กิน ประมาณตีสามเราตื่นขึ้นมาดื่มน้ำ รู้สึกโหวงเหวงมาก ๆ เหมือนไม่ค่อยมีแรง แล้วก็ล้มตึงลงบนพื้น น้ำหกกระจาย รู้สึกตัวคือเจ็บข้อศอกเล็กน้อย โชคดีมากที่หัวไม่ฟาดพื้น แฟนตกใจมาก ที่เห็นเรากองอยู่กับพื้น เค้าใส่ที่อุดหูเวลานอน แล้วได้ยินเสียงเราล้ม แฟนก็มาประคองกลับไปที่เตียง วันนี้เช้า หัวหน้าที่โรงเรียนเลยมารับไปหาหมอ สรุปว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ได้ยามากิน ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น แ่ต่ยังมึน ๆ ปวดหัวหน่อย @@@@@@@@@@@@@@@@@ จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท - [ 27 ธ.ค. 51 10:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาต่อให้คุณผัดไทยกุ้งสดค่ะ อโรคา ปรมาลาภาค่ะ คือการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ ขอให้ทุกๆคนมีสุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ จากคุณ : Kalimera - [ 27 ธ.ค. 51 13:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปฉีด flu shot มาสองปีซ้อนละ ปีที่แล้วไปฉีดพร้อมกับสามี ช่วงเดือน พ.ย หลังจากฉีดมาประมาณสองสามเดือนคุณ สามีไม่สบายแบบน้ำมูกไหล และไอแบบมีเสมหะอ่อนเพลียตลอด ไข้ขึ้นเล็กน้อย อาหารก้อทานไม่ค่อยได้เป็นระยะเวลา นับได้ จากเดือน เม.ย ถึงปลายเดือน พ.ค ก้อเดือนครึ่งพอดิบพอดี. ตัวเราเองนอกจากไมเกรนค์แล้วไม่ค่อยป่วยเป็นอะไรมากมายมานานแล้ว มาอยู่อเมริกา สี่ห้าปีไม่เคยป่วยเป็นหวัดเลยถึงแม้จะคลุกคลีกับเด็กๆทั้งวัน แต่ละวันมีเด็กที่เป็นหวัดมาให้ดูแล เราก้อไม่เคยติดหวัดจากเด็กๆแต่อย่างใด แต่พอสองปีที่ผ่านมาดันไปฉีดไอ้ flu shot กับเค้า นี่เลยค่ะ หนึ่งอาทิตย์หลังจากไปฉีดมา อยู่ๆก้อคลั่นเนื้อคลั่นตัว ไม่มีไข้แต่อาเจียรตลอด ทานอะไรไม่ได้เลย แค่ไ้ด้กลิ่นก้ออาเจียรแล้ว ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย คือทานไม่ได้ แม้แต่น้ำ อาเจียรจนเจ็บท้องไปหมด เป็นอยู่ สามสี่วัน ทุกครั้งหลังจากไปฉีด flu shot สามีแอบดีใจคิดว่าท้องเพราะอาการคล้ายกับการแพ้ท้องมาก ผลปรากฏ คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น some kind of strange flu ที่ flu shot ไม่สามารถ cover ได้ แป่ว!!!! แล้วจะฉีดไปอิกทำไรอิกล่ะ ( เป็นอยู่ทุกคร้งที่ไปฉีด flu shot )ดิดว่าปีหน้านี้ไม่เอาละ ไม่ใด้ช่วยอะไรเล้ย. ออกกำลังกายช่วยได้มากกว่า flu shot เสียอิก. ออกไปวี่งเล่นกับเด็กๆไห้เหงื่อแถมได้ออกกำลังกายด้วย. ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอพักผ่อนไห้เพียงพอ แค่นี้ก้อ ok แล้วจ้า. สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว. จากคุณ : Naty - [ 27 ธ.ค. 51 22:47:28 A:99.141.185.36 X: TicketID:187421 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กลับมาใหม่ เมื่อวาน ลืมโหวตค่ะ ใครเห็นด้วยโหวตโลดค่ะ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 28 ธ.ค. 51 00:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Flu shot มันจะเปลี่ยนทุกปี เพราะว่าแต่ละปีไวรัสจะมีการเปลี่ยนสายพันธ์ค่ะ วัคซีนก็จะผลิตมาเพื่อครอบคลุมสายพันธ์ที่คาดว่าจะฮิต ในปีนั้นๆค่ะ จึงป้องกันได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ เพราะเราอาจจตกเทรนด์เป็นสายพันธ์ไม่ฮิตก็ได้ ถามว่าทุกคนต้องฉีดไม๊ ถ้าฉีดได้ก็ดีค่ะ แต่ว่าวัคซีนมีราคาแพง (อย่างที่เราไปฉีดรวมทุกอย่างประมาณเกือบร้อยเหรียญ) ดังนั้นถ้างบจำกัดแนะนำให้ฉีดในเด็กเล็กไม่เกินสองขวบ กะคนสูงอายุหรือมีโรคประจำตัวค่ะ เพราะว่าคนหนุ่มสาวถ้าเป้นก็แค่ล้มหมอนนอนเสื่อ แต่คนแก่และเด้กเล็กอาจจถึงตายได้ นอกจากนี้วัคซีนยังมีผลข้างเคียงเช่น ไข้ขึ้น ปวดตรงที่ฉีด หรือาจทำให้กล้ามเนื้อออนแรงหรือปลายประสาทอัมพาตได้(แต่น้อยมากค่ะหนึ่งในแสนราย) สำหรับการรักษานอกจาที่คุณGisele แนะนำมาทั้งหมดแล้ว ถ้าเห็นท่าไม่ดีแนะนำไปพบแพทย์ค่ะ เพราะว่าจริงๆมียาต้านไวรัสฟลู ที่เมืองไทยมีก็คือ Tamiflu  แต่ก่อนให้ต้องเทสต์ก่อนว่าเป็นฟลูสายพันธ์เอหรือบีนะคะ ถึงจะให้ได้ แล้วถ้าไม่เป็นรุนแรงเค้าก้ไม่ให้กันเพราะยามีผลข้างเคียงมากค่ะ (คนละกรณีกับไข้หวัดนกนะคะ) จากคุณ : meddy - [ 28 ธ.ค. 51 03:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไช่ค่ะ ตามที่คุณๆข้างบนบอกมาว่าป้องกันได้ด้วย Flu Jab หรือ shot จะทำให้มีภูมิต้านทานไวรัส Flu ชนิดต่างๆ ดิฉันเองได้รับแจกฟรีทุกปีเพราะเป็นพนักงานของ NHS หรือที่เรียกว่า National Health Service ของประเทศนี้ แต่ช่วงที่เค้าเดินมาแจกตามวอร์ดที่โรงพยาบาล ดิฉันดันไม่ได้ทำงานช่วงนั้น เลยอด ถึงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสติดหวัดนะคะ ยังมีโอกาสติดได้เหมือนกัน หากช่วงนั้นตรากตรำมากๆ พักผ่อนไม่พอ ทานอาหารไม่ครบ ก็เสร็จเหมือนกัน แล้วเวลาที่เป็นไข้นี่มันหนาวจับใจจริงๆเลย  ตอนป่วยนี่นอนกอดกระเป๋าน้ำร้อนทั้งคืน หรือถ้านอนหงายก็เอามาวางไว้บนอก ยังสั่นกรั่กๆๆๆๆ เปิดอกอย่างไม่อายว่าตอนนั้นร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆเลย ปกติเป็นคนเข้มแข็งมากๆ แต่ตอนนั้นมันอ่อนแอมาก ไม่มีแรง ไม่ดื่มน้ำ ไม่อยากแตะอาหาร รู้เลยว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกวันเดียวคงจะแย่ ตอนนั้นกลัวตายมาก เพราะหากป่วยแล้วไม่มีน้ำและอาหารตกถึงท้อง มันจะทำให้ทรุดอย่างเดียว แถมไอทีนึง เลือดออกมาเป็นลิ่มๆเลย ดีที่ดิฉันรู้ว่าปอดตัวเองไม่เป็นอะไร  รู้ว่ามันแค่โจมตีระบบทางเดินหายใจ จึงไม่ตกใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงช็อกตายรีบแจ้นไปหาหมอ ดิฉันพยายามนั่งๆบนเตียง ไม่นอนราบ เพราะกลัวเสมหะไปคั่งที่ปอดจะยิ่งทำให้หายใจลำบาก ยิ่งไม่มีแรงจะไอขับมันออกมาอยู่ ถ้าปอดมีน้ำหรือเสมหะไปคั่งจะยิ่งแย่จนอาจต้องเข้าโรงพยาบาล ฟังตัวเองหายใจก็รู้ว่าปอดโล่งเพราะไม่มีเสียงครืดๆๆๆ ในปอดเวลาหายใจเข้า ออก แหมคอก็เจ็บเสียงก็ไม่มี ตอนนั้นหงุดหงิดที่สุดในชีวิต  แต่ก็ลากสังขารเดินไปหาหมอให้ฟังเสียงหายใจ(กันเหนียว เพื่อความมั่นใจ) เราไม่ไช่หมอยังไงก็ต้องให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรแทรกซ้อน จากคุณ : Gisele - [ 28 ธ.ค. 51 03:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อีกละค่ะ Flu มีหลายสายพันธุ์ หลักๆเลยจะมีสามชนิด  แบ่งเป็นแบบ A,B และ C โดยแบบที่หนึ่งหรือแบบ A จะแพร่บ่อย ทุกๆสองถึงสามปี และค่อนข้างจะรุนแรงกว่าแบบ B แถมยังมีหลายแบบหลายพันธุ์หลายแบบ มาโจมตีเรา บางทีติดกันไปทั้งทวีป ไม่ไช่แค่ระดับประเทศ แบบที่สอง แบบB จะไม่รุนแรงเท่า และไม่ค่อยแพร่สะพัดรวดเร็วรุนแรงเท่าแบบ A ซึ่งหากใครติดแบบที่สองร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันไปได้อีกหลายปี ซึ่งแบบที่สองนี้จะพบในเด็กๆที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ที่มีอายุระหว่าง 5-14 ปี มากกว่าพบในผู้ใหญ่ ส่วนแบบที่สาม C ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าไข้หวัดธรรมดาเท่าไรนัก ไม่ถึงกับป่วยหนัก แต่ละแบบก็ยังมีแยกตามสายพันธุ์อีกหลายชื่อ อย่างที่ข้างบนบอกค่ะ ถ้าเราไปฉีดมาแล้วมันมี Flu เทรนด์ใหม่ที่กำลังฮิตระบาด ไอ้ที่ฉีดมาก็ป้องกันไม่ได้จริงๆค่ะ หลายคนที่ทำงานได้รับ Jab ก็ยังเป็นกันระนาว จากคุณ : Gisele - [ 28 ธ.ค. 51 04:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ ปีก่อนๆ ฉีดวัคซีนมาตลอด มาปีนี้ดันลืม ไม่ได้เอะใจ มีอยู่วันนังเนตรลูกผู้มีบุญคุณ ไม่รู้ไปเล่นกับใครมา กลับมาบ้านมีน้ำมูก ดิฉันก็เช้ดให้ โห ไม่เชื่อก้ต้องเชื้อ น้ำมูกสารพัดพิษ ภายในสองชั่วโมงดิฉัน ครั่นเนื้อครั่นตัว ล้มป่วย แบบไม่เคยป่วยเเบบนั้นมาก่อน นอนบนเตียงอยู่ 3 วันเต็มๆ นังลูกตัวดีของดิฉันไม่เป้นไรเลย โชคดีมาก นังแม่เเทบตาย อาทิตยืต่อมาเลยไปฉีดวัคซีนกันทั้งบ้านเลยค่ะ ไม่นึกเลยว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ จากคุณ : mrs.night owl - [ 28 ธ.ค. 51 10:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยวิธีธรรมชาติคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดนะคะ เราเองโดนฉีดวัคซีนมาก็หลายตัว แต่ให้ฉีด flu shot นี่เราไม่เอาด้วยดีกว่า บางวัคซีนเป็นข้อบังคับเราก็ต้องฉีด แต่ flu shot นี่แล้วแต่สมัครใจ เราศึกษาดูแล้วเห็นว่ามันไม่จำเป็นขนาดนั้น กลัวจะได้ไม่คุ้มเสีย จะต้องเป็นปีละหนก็ให้มันเป็น เดี๋ยวพอร่างกายฟื้นก็จะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติเอง สำหรับเราเราว่ามันดีกว่าการไปฉีดเชื้อเข้าร่างกายแล้วทำให้เราป่วยขึ้นมาโดยไม่จำเป็น แถมอาจจะมีผลข้างเคียงอื่นๆอีก อยากให้ลองศึกษา ลองอ่านดูแล้วค่อยตัดสินใจ อย่าเชื่อโฆษณาโดยทันที "Avoid Flu Shots, Take Vitamin D Instead" เป็นบทความโดยคุณหมอ Donald W. Miller, Jr. อาจารย์ที่ยูดับ http://www.lewrockwell.com/miller/miller27.html   ลองอ่านดูนะคะ - ผลข้างเคียงในบางรายค่อนข้างจะน่ากลัว - สารตะกั่วใน flu shot - "Seventy percent of doctors do not get a flu shot. " ขอให้แข็งแรงกันทุกคนนะคะ จากคุณ : Windchime - [ 28 ธ.ค. 51 17:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ : Gisele ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชย์ค่ะ เราอยู่เบลเยี่ยม คนป่วยกันเป็นประจำ คงพอๆกับอังกฤษเพราะภูมิอากาศคล้ายกันมาก คืออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และฝนตกตลอดปี เป้าหมายในหน้าหนาวนี้ของเราคือจะไม่เป็นหวัดเป็นไข้ สิ่งที่เราทำคือคล้ายๆกับคุณ แต่เราไม่กินอาหารเสริม ไม่กินยา เรากินเครื่องเทศ กินผัก เราออกกำลังกายกายแจ้งด้วยการเดิน แกว่งแขน ทุกวันแม้ว่าอากาศติดลบ คุณเชื่อไหมว่าถ้าการไหลเวียนโลหิตดี คุณจะไม่รู้สึกหนาว ถ้าเริ่มครั้นเนื้อครั้นต้ว ทำตัวให้อุ่นด้วยผ้าพันคอและถุงเท้า และ ดื่ม Masala Tea เดินออกกำลังกายข้างนอกบ้านเพื่ออากาศที่ดีกว่า แล้วคุณจะไม่ป่วย ที่สำคัญเวลาอยู่ในที่ปิด ที่มีคนป่วย เราใช้ mask ปิดปากและจมูกของเรา และไม่กินอาหารร่วมโต๊ะกับคนป่วย เพราะการสัมผัสสิ่งของร่วมกัน มีโอกาสติดเชื่อมากกว่าการไอจามรดกัน ถ้าหน้าหนาวนี่รอดไปได้ทั้งฤดู จะแจ้งบอกอีกที จากคุณ : ตาน - [ 28 ธ.ค. 51 19:16:05 A:78.20.218.88 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้นี้มีประโยชน์มาก ขอบคุณทุกท่าน จากคุณ : yuy - [ 28 ธ.ค. 51 19:35:10 A:124.121.27.213 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห. 20 หมอโรคติดเชื้อมาเอง จากคุณ : pha-sea-pha - [ 28 ธ.ค. 51 19:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แวะเข้ามาอ่านข้อมูลดีๆ ขอบคุณมากๆนะคะที่เอามาแบ่งปันกันจะได้ทราบว่า ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรถ้าเป็นขึ้นมา ขอให้ จขกท  มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ จากคุณ : สายน้ำริน (yoja) - [ 28 ธ.ค. 51 20:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ จากคุณ : Deedy79 - [ 29 ธ.ค. 51 02:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เคยได้ยินมาว่า หวัดมีสามพันกว่าสายพันธุ์ และจะไม่เป็นซ้ำสายพันธุ์เดิม อยากรู้จังว่าถ้าเป็นครบหมดสายพันนั้น จะไม่เป็นหวัดอีกเลยจริงรึเปล่า เรื่องก้มลงหยิบแบงค์สิบ จะเอาไปลองใช้ดูครับ ขอบคุณมากๆ ฮาดี จากคุณ : goodnightcry - [ 29 ธ.ค. 51 03:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดิฉันป่วยบ่อยช่วงนี้ ทั้งๆที่เป็นคนแข็งแรงออกกำลังกายมาตลอด สงสัยวัยชรากำลังมาเยือน แต่Flu นี่ ไม่เคยเป็นมานานแล้วค่ะ ก็ไม่ทราบว่ามีภูมิต้านทานหรือปล่าว ขอบคุณมากค่ะ  คุณGisele และหลายท่านที่เอาความรู้มาเผื่อแผ่กันจะได้ไม่ประมาทเวลาเกิดป่วยขึ้นมาจริงๆ จากคุณ : Rinta - [ 29 ธ.ค. 51 17:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 Sawasdee kha..I've been having this flu for about 10 days and didn't even get to celebrate Christmas cause I spent most of my time in bed having a fever. lol This time it got me pretty bad so I might consider having a flu jab for the next year. Hope everyone is well and healthy na kha. จากคุณ : หมูหนาว - [ 29 ธ.ค. 51 19:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่สบายมาอาทิตย์นึงแล้วค่ะ วันอาทิตย์ที่แล้วไปเล่นpaint ballมา ปรากฎว่าวันต่อมาไม่สบายต้องนอนซมทั้งวัน ตอนนี้ก็ยังไม่หายเลยค่ะ เป็นหนักกว่าเดิมด้วยซ่ำ วันนี้ไปหาหมอมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตอนนี้ก็เครียดนิดหน่อยเพราะว่าต้องทำรายงานและอ่านหนังสือเตรียมสอบ แต่สมองตื่อมาก T_T กลัวจะทำเสร็จไม่ทัน ปีสุดท้ายแล้วก็อยากจะทำเกรดให้ดี ไม่สบายแถมยังต้องอยู่คนเดียวอีก เพื่อนที่สนิดมันก็กลับบ้าน ที่ห่อก็เหลือคนอยู่ไม่กี่คน เหงา เศร้า คิดถึงแม่สุดๆ (อันที่จริงก็คุยกันเกือบทุกวัน แต่ก็ยังเหงาอยู่ดี) ช่วงนี้depressedสุดๆ พยายามนั่งสมาธิเตือนสติตัวเองอยู่ทุกวัน ขอโทษนะคะที่บ่นเสียยาวเลย จากคุณ : หลานสาวชาวนา - [ 30 ธ.ค. 51 05:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กระทู้นี้ มีประโยชน์จริง ๆ  ขอบคุณทุกความเห็นเลย เคยสงสัยเรื่อง flu ถามคนโน้นคนนี้ ก็ให้รายละเอียดไม่เหมือนกัน จริง ๆ เราก็ไม่อยากฉีด flu shot แต่โอกาสเสี่ยงเราเยอะ เพราะทำงานกับคนเยอะ และที่ทำงานเป็นแบบปิด ทุกคนหายใจร่วมกัน เลยต้องฉีดกันไว้ จริง ๆ ก็อ่านเจอว่าฉีดแล้วอาจจะมีผลข้างเคียง แต่ก็ต้องยอม จากคุณ : silkywind123 - [ 30 ธ.ค. 51 06:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อยากบอกเพิ่มเติมนะคะ จากประสบการณ์ตรงแล้วก็คุณหมอบอก อาจาร์ยบอก ถ้ามีน้ำมูกไหลล่ะก็ พยายามเลี่ยงการดื่มนมนะคะ นมมีสารไปเร่งให้มีน้ำมูกค่ะ จากคุณ : vee - [ 30 ธ.ค. 51 13:40:35 A:97.90.141.180 X: TicketID:131351 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี ๆ อย่างนี้ค่ะ ดิฉันก็เพิ่งฟื้นตัวจาก Flu เหมือนกัน อาการก็เหมือนกับที่คุณบรรยายไว้ไม่มีผิด  เกิดมาไม่เคยเป็นไข้หวัดหรือไข้อะไรที่ร้ายเท่านี้  แถมที่แย่คืออาเจียนตลอด  ไม่สามารถ "กระเดือก" อะไรลงคอได้  ขนาดชายังดื่มไม่ได้เลยค่ะ  ออกมาหมด พอดีขึ้นเล็กน้อยแล้วไปทำงาน  ก็กลับมาเป็นต่ออีก   หมอให้ยาแก้อาเจียนมาอย่างเดียว นอกนั้นก็ไม่ได้ให้ยาอะไร  ดิฉันก็ต้องลากสังขารมานอนแบ็บอยู่ที่บ้านจนเริ่มดีขึ้นแล้ว ที่แย่ก็คือ  คนที่บ้าน ทั้งสามี ทั้งลูก  ติดกันไปด้วย  ตอนนี้ยังไอแค่ก ๆ กันอยู่ทุกคน  หมอบอกดิฉันว่าอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองอาทิตย์  กว่าจะค่อยยังชั่วขึ้น  มาพิจารณาดูก็เห็นว่าท่าจะจริง  เพราะนี่ก็สองอาทิตย์แล้ว  แต่ยังมีอาการอยู่เลย  ขนาดว่าเป็นคนแข็งแรงและดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี แม้จะกลัวเข็มฉีดยา  ปีหน้าคงต้องไปฉีด Flu jab แล้วค่ะ  เข็ดจริง ๆ เลย ยิ่งเวลาไม่สบายแล้วใจจะอ่อนแอ  ดิฉันนอนร้องไห้น้ำตาไหลพรากเป็นบ้าอยู่คนเดียว  เพราะคิดถึงตอนเด็ก ๆ ที่ไม่สบาย เป็นไข้หวัดแล้วแม่คอยดูแล ป้อนข้าวต้ม ป้อนน้ำ  พาลให้หดหู่ไปกันใหญ่... จากคุณ : Amber n the Gang - [ วันปีใหม่ 23:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตั้งแต่ไปรับวัคซีค ฟลู(แบบพ่นใส่จมูก) มา 2 ปีซ้อน กลับรู้สึกว่าเวลาไม่สบายนี่ เป็นหนักกว่าที่เคยเป้น จะหวัดะรรมดาก้ไม่ใช่เพราะหนักกว่า จะฟลูหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ (เพราะยังก้มเก็บแบงค์ 10 ใด้อยู่..5555) ขอเรียกว่าเป็น " หลู "(ฟลู+หวัด) ก็แล้วกันนะคะ...            ช่วงไหนสามีเดินทาง แล้วมาเข้าพันทิพดึกดื่น ติดต่อกันหลายวัน อาการเจ็บคอจะนำมาก่อนเลย ซึ่งปกติถ้าเริ่มเจ็บคอขึ้นมานิด จะกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นทันที เข้าห้องน้ำตอนไหนก็บ้วนตอนนั้นค่ะ กระป๋องเกลือจะมีประจำในห้องน้ำไว้เลยค่ะ ถ้าช่วงไหนละเลยนี่ ได้เรื่องเลยค่ะ            เคยมีอาการเจ็บคอมาก เสมหะเขียวอี๋ มีไข้ ไปหาหมอ หมอจะแค่รักษาตามอาการ ไม่ยอมให้ยาปฏิชีวนะมากิน โดนมา 2 รอบก็เลยถอดใจค่ะ รักษาตัวเองแต่เนิ่นๆดีกว่า    ดิฉันดีอย่างที่ถ้าไม่สบายจะพยายามหาของกินค่ะ ไม่ค่อยหยากแต่ก็ต้องกินค่ะ ถือเป็นการส่งกำลังบำรุงให้ร่างกายเอาไปสู้กับเชื้อโรค ....กินส้ม กินวิตามินซีเยอะๆ .....ดื่มน้ำมากๆ ต้มน้ำเก๊กฮวยดื่มเองบ้าง ....กินไทลินอลทุก 4 ชั่วโมง(มีอาหารหรือขนมลองท้องก่อนทุกครั้งด้วยค่ะ) ....เช็กตัวด้วยน้ำอุ่นปานกลาง จะไม่อาบน้ำเลย จะช่วยได้เยอะ  รับรอง ....กำชับลูกไว้ว่าคุณแม่ไม่สบาย อย่าทำให้คุณแม่เหนื่อย ไปรับผิดชอบตัวเองไปก่อน...(ดีที่ลูกยอมเชื่อแฮะ...) ...ฉีดพ่นน้ำมันยูคาลอปตัสในห้องนอนก็จะช่วยให้หายใจคล่องขี้น นอนหลับพักผ่อนได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ ...พอเริ่มดีขึ้นก็เปลี่ยแปรงสีฟัน ผ้าปูที่นอนซักยกชุดเลยค่ะ ไม่งั้นเชื้อโรคมันจะยังมาวนเวียน... ....ออกกำลังกายจะเป็นแบบไม่เป็นทางการก็เหนื่อยอยู่แล้วค่ะ รับส่งลูกไปโรงเรียน ตื่นเช้าจนต้อนเข้านอน ถ้าพ่อเค้าอยู่ก็จะได้นอนเยอะหน่อยค่ะ      คุณ จขกท. ทำงานในสถานพยาบาล ได้สัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆเป็นประจำ ถ้าวีคเมื่อไหร่เจ้าเชื้อโรค กระโจนใส่แน่ๆค่ะ เทคแคร์นะคะ    ปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่าน   สุขกาย สบายใจกันไปตลอดปี นะคะ จากคุณ : แม่ขา - [ 2 ม.ค. 52 11:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกท่าน ใครที่ยังไม่ป่วยก็รักษาตัวให้ดีๆส่วนใครที่ติดหวัด ทั้งเล็กและใหญ่ก็ขอให้หายไวๆนะคะ จะแวะมาบอกคนที่กลัวเข็มว่า Flu Jab นี่เท่าที่เคยฉีดมาเข็มมันจิ๋วๆนะ แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เหมือนเข็มฉีดยาทั่วๆไป หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าดิฉันลัวเข็มฉีดยาแบบขึ้นสมอง ขนาดถ้าโดนฉีดยาหรือเจาะเลือดจะเป็นลมทุกที แต่ Flu Jab นี่สบายมาก ไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะมันเล็กกระจึ๋งเดียว ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางฝั่งอเมริกาหรือประเทศอื่นๆจะเหมือนกันไหม คิดว่าไม่น่าที่จะแตกต่างกันมากนัก ส่วนคนที่ได้รับเชื้อตัวเดียวกันกับดิฉัน หลายๆคนจะทราบว่า รู้สึกได้เลยว่าเกิดมาในชีวิตไม่เคยป่วยหนักขนาดนี้มาก่อน ไม่สามารถดื่มหรือกินอะไรได้เลย ปกติถ้าป่วยจะดื่มน้ำแยะๆ กินผลไม้ได้ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือหรือทำอะไรอื่นๆได้ แต่ไม่ไช่ไข้หวัดใหญ่อันที่กำลังระบาดนี้ เพราะดิฉันทำอะไรไม่ได้เลย แค่ลุกไปอาบน้ำก็ยังกลายเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ขนาดคนแข็งแรงและเข้มแข็งอย่างดิฉันยังล้ม เดินจากห้องนอนไปเข้าครัวยังต้องลงคลาน เพราะเหนื่อยและอ่อนแอ กินซุปไปแค่สองช้อนก็อ้วกออกมาหมด  ซึ่งมันปาฏิหารมากสำหรับคนอย่างดิฉันจะกินไม่ได้ ปกติถ้าป่วยจะกินมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า นัยว่าเพื่อบำรุงรักษาตัว สามียังตกใจ เพราะปกติถ้าดิฉันป่วยจะไม่เคยนอน จะหยุดงาน(ไม่แพร่เชื้อให้คนไข้ ที่ส่วนมากจะเป็นคนชรา) แต่มีออกไปช็อปปิ้ง กินข้าว ไปดื่มกับเพื่อนได้ ไม่มีละที่จะมานอนซม โห..... แต่คราวนี้มันไม่เหมือนทุกๆครั้งค่ะ  โดนFlu ต่อยจนกรรมการนับถึงสิบก็ยังลุกไม่ได้เลย   สื่อสารก็ไม่ได้เสียงแหบหายไปเลย ยิ่งพยามพูดก็ยิ่งเหนื่อย ช่วงนั้นร่างกายอ่อนแอด้วย เลยเป็นหนัก รับไปเต็มๆ จากคุณ : Gisele - [ 3 ม.ค. 52 04:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าใครแพ้ไข่ ฉีดที่คลีนิคธรรมดาไม่ได้นะคะ ต้องไปฉีดกับหมอภูมิแพ้ อันนี้ประสบการณ์ โดยตรงกับลูกชายค่ะ จากคุณ : ปรารถนา - [ 4 ม.ค. 52 02:48:36 ]