ความคิดเห็นที่ 2 อยุ่นี่ไม่ค่อยได้ไปวัดไปวากับเขาหรอก สำหรับทำบุญก็ให้มูลนิธิช่วยเหลือเด็กในสังคม Majblomman, Save the Children, คนไม่มีบ้าน, สร้างวัดเวียดนาม, Breast Cancer. ทางไทยก็ส่งเงินสนับสนุนเว็ปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และอยากจะสนับสนุนเว็ปสื่อสารอีกเว็ปหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าจะผิดกฎทางไทยหรือเปล่าว(กลัวโดนว่าเป็นผู้ก่อการร้าย) ตอนนี้เป็นสมาชิกใน Swedish Red Cross ค่าสมาชิกก็ตกไ ปอยู่ในการช่วยเหลือคนในประเทศต่าง และจะเข้าวงการช่วยเหลือคนใน Red Cross ด้วย ในตู้หนังสือก็มีหนังสือ วิธีสร้างบุญบารมี ของ สมเด็จพระญาณสังวร ที่พยายามทำตาม ได้ไปเรียน course พวก Psychology มาและทำให้เปลี่ยนแปลงในมุมมองของคนได้ดี และไม่คิดว่าคนที่บ้านั้นเป็นพวกแปลก มีความเห็นใจมากขึ้น พยายามทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ไม่หวังการตอบแทน อย่างเขียนบล็อกสื่อสารข้อมูลที่ดีให้คนอื่นได้อ่าน ตั้งกระทู้แนะนำอันนู้นอันนี้ให้คนอื่นได้อ่าน ช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ อย่าลืมว่าเราต้องเอาตัวให้รอดก่อน การทำบุญของเรามีแค่นี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 05:16:22 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 04:57:28 จากคุณ : สาวใหม - [ 3 ม.ค. 52 04:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปวัดค่ะ  พอดีอยู่ไม่ไกลจากวัดไทย  ทำอาหารไปถวายและก็มีบริจาครายเดือนช่วยค่าใช้จ่ายในวัด นอกนั้นก็มี Red cross บ้าง  บริจาคของที่เราไม่ใช้ให้กับมูลนิธิต่างๆ ซึ่งจะมีคนมาเอาถึงบ้าน และก็ทำทานกับแมวแถวๆ บ้าน การจะทำบุญทำทานถ้าเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยจิตใจที่จะให้จริงๆ มากน้อยไม่สำคัญ ให้ด้วยการส่งจากทางไกลหรือไม่ได้ไปด้วยตัวเอง ดีทั้งนั้นค่ะ  อย่างน้อยทำให้เราสบายใจมีความสุข  นี่ละบุญที่เราได้รับกลับมาค่ะ จากคุณ : ตกตะกอน - [ 3 ม.ค. 52 05:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีเวลาก็ทำอาหารไปถวายพระ ที่นี่มีวัดไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ เวลาอยู่บ้านก็จะสวดมนต์ทุกคืนสวดทีก็หลายบท  ตอนนี้กำลังหัดนั่งสมาธิอยู่ก็คิดว่าเป็นการสะสมบุญอย่างหนึ่ง ตรงหิ้งพระดิฉันจะมีที่ใส่เงินด้วย และถ้าวันไหนไม่ลืมก็หยอดเงินสะสมลงไปพอเต็มก็เอาไปทำบุญค่ะ ฝากเพื่อนที่เมืองไทยไปทำบ้าง กลับไปทำเองบ้าง ดิฉันกลับเมืองไทยบ่อยและจะไปทำบุญโลงศพ วัดบ้าง โครงการณ์อย่างอื่นบ้าง เสื้อผ้าข้าวของต่างๆที่เราไม่ใช้แล้วปีหนึ่งๆเยอะมาก คิดเป็นเงินก็หลายตังค์เลยค่ะ ก็เอาไปบริจาค ให้ British Heat Foundation หรือที่อื่นๆ จากคุณ : Rinta - [ 3 ม.ค. 52 05:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อนุโมทนากับคนใกล้วัดจ๊ะคุณนายตู่ และ คุณRinta ที่นี่(นิวเจอร์ซี่ย์)ก็ไม่มีวัดไทย..จึงใช้วิธีสวดมนต์ภาวนา..นอกจากนี้ก็ไปห้องจตุจักร(บางครั้งก็มีน้องๆหลังไมค์มาเรียก) ไปเป็นแม่ยกน้องหมาที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน..บัญชีที่เมืองไทยก็ทำโอนให้วัดพระบาทน้ำพุของหลวงพ่ออลงกตทุกเดือน.. ไปบริจาคเสื้อผ้ที่ไม่ใช้แล้วให้คนด้อยโอกาส.. นอกจากนี้ ก็สร้างความสุขให้คนรอบข้าง และครอบครัว..ส่วนความทุกข์ก็ให้เฉพาะคนที่ให้ทุกข์แก่เราก่อน  ฟิ้วววว... แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 05:25:47 จากคุณ : Panissar - [ 3 ม.ค. 52 05:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ไปวัด (นาน ๆ ที) ให้ครอบครัวที่เมืองไทยบริจาคแทน ให้มูลนิธิเด็กบ้าง วัด แล้วก็โรงพยาบาลต่าง ๆ แล้วแต่เค้าจะไป ส่วนที่อเมริกานี่ บริจาคเงินให้พวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กับไปบริจาคเลือด แล้วก็เอาของที่ไม่ใช้ไปให้ Salvation Army ที่เล็ง ๆ ไว้ ก็อาจจะไปร่วมโครงการปลูกบ้าน ทาสี ถอนหญ้า ให้คนยาก เป็นงานก่อสร้างน่ะ อยากจะทำมากกว่านี้ แต่ต้องดูความสามารถ (บางอย่างเราก็ไม่เข้าขั้น) และเวลาด้วย ช่วย ๆ กันนะ จากคุณ : Genuine XXX - [ 3 ม.ค. 52 05:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราเหมือนคุณ Genuine XXX ที่ไม่ไปวัด (เบื่อคนไทยที่วัด) เราไหว้พระพุทธทุกวันอาทิตย์ แผ่ส่วนกุศลให้ผู้มีพระคุณ ญาติ และคนที่ไม่มีญาติ ตอนนี้เราเป็นสมาชิกกับกลุ่ม Freecycle network ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยกันบรรเทาการทิ้งขยะใน landfill โดยจุดมุ่งหมายก็เพื่อเอาของที่เราไม่ใช้แล้วมาบริจาคให้กับสมาชิกคนที่เขาต้องการ  เป็นการทำบุญที่เห็นผลเลยว่าของที่เราให้ไปถึงผู้รับแล้วมีประโยชน์กับเขาด้วย...เราเคยเอาของไปให้ที่ salvation army เห็นกะตาว่า เขาเลือกเอาของที่เขาคิดว่าดีเก็บไว้...โยนของที่คิดว่าไม่ดีลงขยะอ่ะ...ถ้าสนใจเป็นสมาชิกก็เข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับ freecycle ในย่านที่คุณอยู่ได้นะ...http://www.freecycle.org  ไม่ต้องเสีย คชจ. ใดๆ ทั้งสิ้น  ได้บุญแล้วไม่ต้องเดินทางเพราะคนรับจะมาเอาของเอง อันนี้เป็นโครงการของเราเองที่จะทำในปีนี้...เนื่องจากที่ ikea จะมีผ้านวมแบบที่เป็นไส้ และก็มีปลอกผ้านวมขายต่างหาก...ทุกๆ ปีก็จะมีลดราคาตัวไส้ผ้านวมเหลือแค่ผืนละ $1.99 (ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าช่วงหน้าร้อน) เราคิดว่าจะไปซื้อเก็บไว้ แล้วพอหน้าหนาวจะเอาไปแจกพวก homeless ที่ดีซี  สงสารเขามาก...นอนกันหนาวสุดๆ   ถ้าคุณ ขจท อยากทำบุญ ไม่ต้องไปทำด้วยตัวเองหรอกนะ...มีใจที่คิดจะทำก็ได้บุญแล้ว... จากคุณ : คนไทยในดีซี (bonong572) - [ 3 ม.ค. 52 06:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องตื่นการทำบุญด้วยการกทานหรือบริจาคถวายจตุปัจจัยนี่ บ่งบอกถึงความขี้เกียจของคนไทยได้อย่างหนึ่ง คือขี้เกียจจะทำบุญอย่างอื่น บุญกิริยาวัตถุ10(ลองพิมพ์คำๆ นี้ที่กรูเกิ้ลดูรายละเอียด)ซึ่งแจกแจงของลักษณะการทำบุญแบบต่างๆ ถึงสิบอย่างรวมถึงการทำทานด้วย การนั่งภาวนาขัดเกลากิเลสก็ถือว่าทำบุญ หรือแม้แต่บ[u]การตั้งใจทำงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ด้วยความสุจริต[/b]ก็ถือว่าเป็นการทำบุญ แม้กระทั่งการพลอยยินดีและพอใจที่ได้เห็นคนอื่นทำบุญแค่ยกมือกล่าวอนุโมทนาสาธุกับความดีของคนอื่นก็ถือว่าได้บุญแล้ว....... การถวายทานนั้น บุญจะน้อยจะมากไม่ได้ขึ้นอยู่ปริมาณและคุณค่าของสิ่งที่ทาน แต่อยู่ที่ใจของผู้ทานและศีลของผู้รับด้วย ที่พระพุทธองค์เคยเปรียบเอาไว้ว่า เมล็ดกล้าพันธุ์ดีแม้หว่านลงในนาที่ไม่สมบูรณ์ย่อมได้ผลที่ไม่ดีตาม หรืออีกนัยยะหนึ่ง เมล็ดกล้าพันเลวแม้หว่านลงในนาที่สมบูรณ์ก็ย่อมได้รับผลไม่ดีเช่นกัน ทานที่ถือว่าเป็นมหาทานในสมัยพระพุทธเจ้าก็คือทานที่นางสุชาดาถวายข้าวมธุปรายาสแด่สมณโคดมที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราก่อนที่สมณโคดมจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และทานที่ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งทานทั้งปวงก็คือ การให้ทานกัณหาและชาลีลูกอันเป็นที่รักของพระเวสสันดรแก่ชูชก ซึ่งเป็นการเสวยชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะอุบัติในอีกชาติมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ จะอย่างไรก็แล้วแต่ มีทานอีกประเภทหนึ่งที่ผู้ให้ไม่ต้องเสียสิ่งของหรือสมบัติอะไรเลยแม้แต่น้อยเป็นทานที่หลายคนนึกไม่ถึง ทานประเภทนี้ยิ่ง "ให้" มากเท่าไหร่กลับยิ่ง "ได้"มากเท่านั้น ไม่มีเสีย......เขาเรียกทานประเภทนี้ว่า "อภัยทาน" คือการให้อภัย.......ทานประเภทนี้ท่านจัดเอาไว้ว่าเป็นทานที่เหนือกว่าการให้สิ่งของใดๆ เสียอีก และที่เหนือไปกว่านั้น เรียกว่าสุดยอดของทานก็ว่าได้ ก็คือการให้ธรรมเป็นทาน สัพพะ ทานัง ธรรมะ ทานัง ชิเนติ การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง...... คำว่า "ธรรมะ" ในที่นี้ หากแปลตามความหมายที่แท้จริงก็คือ สภาพความเป็นจริงอันทรงอยู่(และจะดำรงอยู่ต่อไป) แปลอย่างนี้หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมไม่แปลว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าล่ะ?? ต้องอธิบายอย่างนี้ว่า คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นเป็นธรรมะ แต่ธรรมะไม่ได้เป็นของพระพุทธเจ้า ธรรมะคือสภาพความเป็นจริงนี้มีก่อนการกำเหนิดมนุษย์ และคำส่งสอนที่ถือว่าเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้านี้ พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติขึ้นเลย แต่ทรงตรัสรู้หรือค้นพบเอง(เหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบกฏต่างๆ นั่นเอง) เช่น น้ำย่อมไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ นี่ก็ถือว่าเป็นธรรมะคือสภาพความเป็นจริงอันทรงอยู่และจะดำรงอยู่ต่อไป ในโลกนี้มี "ธรรมะ"มากมายมีประโยชน์บ้าง ให้โทษบ้าง.....แต่ธรรมะที่พระพุทธเจ้าค้นพบและนำมาสั่งสอนนี้ พระองค์ทรงคัดสรรแล้วว่าเป็นธรรมะที่ให้ประโยชน์และเป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ ความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าทรงเคยตรัสและจำแนก "ธรรมะ" ออกเป็นส่วนๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนอาจจะทึ่ง ขอนำมาเล่าให้ฟังย่อๆ ล่ะกัน พระไตรปิฏกจำแนกธรรมะข้อออกเป็นห้าหัวข้อซึ่งเรียกว่า "ธรรมนิยามห้า" 1. อุตุนิยาม(Physical Laws) ธรรมะที่อยู่ในนิยามนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดินฟ้าอากาศ เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง หรือการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลต่าง พระพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสในเรื่องนี้อย่างละเอียดเพราะถึงรู้ไปก็ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ 2. พีชนิยาม (Biological Laws) ธรรมะที่อยู่ในนิยามนี้ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตของพืชและสัตว์ เกี่ยวเนื่องกับการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต พระพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสในเรื่องนี้อย่างละเอียดเพราะถึงรู้ไปก็ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ 3. จิตนิยาม (Psychic Laws) ธรรมะที่อยู่ในนิยามนี้ก็เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์ พระพุทธเจ้ากล่าวเรื่องนี้ไว้พอประมาณในพระอภิธรรมปิฏก 4. กรรมนิยาม (Kamic Laws) ธรรมะที่อยู่ในนิยามนี้เกี่ยวข้องก็เป็นเรื่องบุญเรื่องกรรมอย่างที่เรารู้ และเป็นนิยามที่พระพุทธองค์ทรงเน้นและนำมาสั่งสอนเพื่อเป็นแนวทางในการพ้นทุกข์ของมนุษย์ 5. ธรรมนิยาม (General Laws) ธรรมะที่อยู่ในนิยามนี้ก็เกี่ยวข้องกับการเป็นเหตุเป็นผลของสิ่งทั่วๆ ไปในโลกนี้พระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรรมนิยามและส่วนที่เป็นหนทางดับทุกข์ จะเห็นว่า "ธรรมะ" ทั้งปวงที่มีอยู่ในโลกนี้พระพุทธเจ้าทรงเน้นเฉพาะเรื่องกรรมนิยาม จิตนิยาม ...ส่วนนิยามอื่นๆ ที่เหลือจะเป็นที่สนใจของเหล่านักวิทยาศาสตร์เสียมากกว่า อดีตสามเณรน้อยลุ่มน้ำโขง :-) แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 06:12:14 จากคุณ : วัชรานนท์ - [ 3 ม.ค. 52 06:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทำตอนกลับเมืองไทย ส่วนมากจะทำบุญช่วยเหลือ พวกติดเชื้อเอดส์ ที่วัดพระบาทน้ำพุประจำ ทำทุกปี จากคุณ : Kun Toom - [ 3 ม.ค. 52 06:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทำแบบไม่ใช้แรงงาน ให้เงินอย่างเดียว.. ตั้งใจไว้ตั้งแต่ทำงานแล้วว่า จะหักเงินจากเงินรายได้รวมของเดือน 10% สำหรับบริจาค ก็ส่งให้มูลนิธิที่อเมริกานี่มาเป็นประจำแต่ละเดือน... มูลนิธิประจำก็ได้มาจากพวก watchdog อย่าง charity navigator แต่เดือน 2 เดือนนี้ไม่ได้ส่ง shop ลืม ยิ่งเดือนธันวา shop ลืมตัว.. แต่ต่อไปอาจลด ดูสภาพเศรษฐกิจก่อน.. จากคุณ : M. - [ 3 ม.ค. 52 06:28:38 A:71.166.27.194 X: TicketID:071236 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกดีจัง ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ ผมเองเพิ่งมาเริ่มทำบุญ (อามิสบูชา - บูชาด้วยสิ่ิงของ) จริงจังก็เมื่อ 2-3 เดือนมาเองครับ บริจาคเงินเดือนละจำนวนหนึ่งทุกเดือนให้กับมหาลัยเดิมที่จบมาบ้าง บริจาคสร้างวัด(ผ่านทางเนต) ล่าสุดเดือนที่ผ่านมาบริจาคให้เด็กชาวเขา (ผ่านเว็บอีก) ก็ให้ทางเว็บนี่แหละครับ แต่กำลังวานน้องสาวที่เมืองไทยให้เปิด paypal จะได้โอนเงินไปฝากแกทำบุญได้ (ข้อนี้ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือนร้อนนะครับ ต้อง budget เงินดี ๆ แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรา budget เงินดี ๆ และมีจิตตั้งใจทำบุญจริง ๆ เราก็จะมีเงินเหลือพอที่จะทำบุญได้บ่อย ๆ ครับ) และช่วงนี้ก็ทำบุญอีกอย่างคือ การเจริญภาวนา สวดมนต์ ทำตัวอยู่ในศีล (ปฏิบัติบูชา) ตามที่ได้ฟัง ๆ มา การปฏิบัติบูชาเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญมากกว่าอามิสบูชา แต่พูดแบบนี้ไม่ใช่หมายความว่าให้เลิกอามิสบูชานะครับ ผมว่าแต่ละคนก็มีวิถีการดำเนินชีวิตต่างกัน และพูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าผมมาปฏิบัติบูชาเพราะว่าอยากได้บุญมากกว่าการบูชาด้วยสิ่งของ แต่ตัวผมเองเห็นว่าปฎิบัติบูชาทำให้เราเองก็ได้พัฒนาตัวเองไปด้วยครับ เหมือน 2 in 1 หน่ะครับ ทำแล้วใจสบายดีด้วย แล้วเวลาเจอทุกข์เราจะได้รับมือมันทัน แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 06:44:02 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 06:43:27 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 52 06:42:04 จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง - [ 3 ม.ค. 52 06:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราทำแบบง่ายๆๆๆมากเลยคะ คือถ้าไปวัดไม่ได้อย่างช่วงนี้ คือไม่รุ้จักวัดที่ อินเดียน่า เราก็เลยนั่งสมาธิ สวดมนตร์ให้ได้มากที่สุด ไม่มีหิ้งพระ แต่ก่อน มานี้ไปไหว้มาหลายวัด ได้หนังสือสวดมนตร์จากวัดระฆังมาก็เอามาสวดก่อน ที่จะเข้านอน แล้วเราจะเอาหนังสือสวดมนตร์ไว้ตรงหัวนอน รวมถึงพระที่มี มาจากเมืองไทย คือสร้อยทองขาด เลยมีพระองค์เล็กๆๆอยู่เลยใส่ไว้ตรงหัว นอนพร้อมกับหนังสือสวดมนตร์อะคะ แต่ถ้ามีโอกาสไปวัดไทยที่ชิคาโก้ก็จะ ไปบริจาคเงินเท่าที่จะเป้นไปได้ แต่สิ่งที่ทำได้ก็สวดมนตร์แล้วก็นั่งสมาธินี้ แหละคะ จะช่วยให้ปัญญาเกิด แล้วการทำบุญมันก็หลายอย่างสำหรับตัวเอง ไม่ว่าจะช่วยคนที่เดือดร้อนกว่า เด็กแถวบ้านไม่เข้าใจ เราก็ช่วยสอนให้ คน ที่รู้จักที่มหาลัยเดือดร้อน ก้ช่วยเป้นธุระ ยังงี้ก็เป็นการช้วยที่ดี เหมือนการให้ ทาน แต่ไม่ใช้สิ่งของ เป้นนำใจและกำลังของเราเองคะ ทำบุญเยอะๆๆๆจะ ได้มีอะไรดีๆๆเข้ามาในชีวิต กลับบ้านก็จะไปทำบุญอีกชอบคะ รู้สึกดี จากคุณ : Friendlyjoycy - [ 3 ม.ค. 52 07:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 บุญกิริยาวัตถุ 10 การทำบุญในพุทธศาสนา 10 อย่าง คือ 1.ทานมัย      บุญสำเร็จด้วย             การบริจาคทาน 2.ศีลมัย        บุญสำเร็จด้วย             การรักษาศีล 3.ภาวนามัย   บุญสำเร็จด้วย             การเจริญภาวนา 4.อปจายนมัย   บุญสำเร็จด้วย        การประพฤติถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ 5.เวยยาวัจจมัย  บุญสำเร็จด้วย       การช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ 6.ปัตติทานมัย    บุญสำเร็จด้วย       การให้ส่วนบุญ 7.ปัตตานุโมทนามัย   บุญสำเร็จด้วย    การอนุโมทนาส่วนบุญ 8.ธัมมัสสวนมัย   บุญสำเร็จด้วย        การฟังธรรม 9.ธรรมะเทศนามัย      บุญสำเร็จด้วย    การแสดงธรรม 10.ทิฎฐชุกรรม          บุญสำเร็จด้วย     การทำความเห็นให้ตรง http://www.geocities.com/lotus4th/merit10.htm               บุญและบาป จิตเป็นตัวสะสม บุญ บาป กรรม กิเลส เอาไว้ใน ภวังคจิต สามารถนำติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปด้วย ลักษณะจิตเหมือนกระดาษซับที่สามารถซับน้ำเอาไว้ จิตเกิดดับ อันธรรมชาติของจิตนั้น ก่อนที่มันจะดับ ได้ถ่ายทอดทิ้งเชื้อ บุญ บาป กรรม กิเลส ไว้ในจิตดวงต่อไปเก็บไว้ทุกๆขณะ (ภวังคจิต หรือจิตภวังคนี้ หมายถึงองค์แห่งภพ หมายถึงจิต ตั้งแต่ปฏิสนธิ จนถึงจุติ คือตาย ขณะใดจิตมิได้ยกขึ้นสู่อารมณ์ทางทวารทั้ง 6 แล้ว จิตนั้นก็เป็นภวังค์ เช่น นอนหลับ)                    ลักษณะของบุญ บุญมีลักษณะที่จะเข้าใจง่าย ๆ อยู่ 3 ประเภท คือ 1. เมื่อกล่าวถึงเหตุของบุญ ได้แก่ การทำดีทุกอย่าง 2.เมื่อกล่าวถึงผลของบุญ  ได้แก่ ความสุขกายสุขใจ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า 3.เมื่อกล่าวถึงสภาพจิต ได้แก่ จิตใจที่สะอาด ผ่องใส              เพราะฉะนั้น บุญก็คือ การทำความดีอันเป็นเหตุทำให้จิตของตนผ่องใส สะอาด ถ้าพูดย่อๆ ก็คือ บุญคือความสุขนั่นเอง ดังพระพุทธวจนะว่า ภิกษุทั้งหลาย อย่ากลัวบุญเลย คำว่าบุญนี้เป็นชื่อแห่งความสุข                                               ลักษณะของบาป บาปมีลักษณะตรงข้ามกับบุญ 3 อย่าง คือ 1.เมื่อกล่าวถึงเหตุของบาป ได้แก่ การทำชั่วทุกอย่าง 2.เมื่อกล่าวถึงผลของบาป ได้แก่ ความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า 3.เมื่อกล่าวถึงสภาพจิต ได้แก่ความสกปรกเศร้าหมองของจิต    เพราะฉนั้นบาปก็คือ การทำความชั่วเป็นเหตุให้จิตใจสกปรกเศร้าหมอง แล้วส่งผลเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน ดังพระพุทธวจนะว่า ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า เพราะว่าความชั่วย่อมตามเผาผลาญในภายหลังได้ http://www.geocities.com/lotus4th/merit-sin.htm               ขอยกข้อธรรมเรื่องบุญกิริยาวัตถุ และความหมายของบุญ บาปมาไว้ข้างต้น และเสริมความเห็นดังนั้นะครับ ความสุขอันเกิดจากการทำดี ในความเชื่อว่า บุญคือความสุข ที่สามารถกระทำด้วยการสร้างความดีเป็นนิจ คนเราจึงสามารถทำบุญได้ด้วยจิตใจ ตลอดเวลา ปรับแต่งให้ภูมิธรรมสูงขึ้น โดยใช้ภูมิปัญญาที่มี ศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสอน หรือบทคัมภีร์ปรัชญาต่างๆ ตามแต่จะมีโอกาสและเวลาศึกษาปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองก่อน หลังจากนั้น จึงฝึกจิตให้มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเกิดมาไม่ต่างจากกัน (ไม่ต่างกัน ในความหมายนี้คือ ทุกสังขารต้องแตกดับ ต้องแก่ เจ็บ ตายทั้งนั้น) พระพุทธองค์ ได้ทรงแบ่งไว้แล้วว่ามีเวไนย และอเวไนย คือมีกลุ่มที่รับการสั่งสอนได้ และไม่ได้ หากจิตดวงไหน มีบุญสะสมมา ย่อมพร้อมจะรับคำสั่งสอน และปรับปรุงให้ดีได้ ดังที่ทรงเปรียบดอกบัวไว้สี่เหล่า ขึ้นกับว่าจะพร้อมขัดเกลากิเลสได้มากน้อย คนไหนมีภูมิธรรมและภูมิปัญญาที่สอดคล้องกันในทางสร้างสรรค์ ย่อมสามารถมีโอกาสเป็นบัวที่จะโผล่พ้นน้ำ ออกรับแสงตะวันได้ ในแง่ของปุถุชน การสร้างความดี ขึ้นกับความพยายามกำจัดกิเลสในใจตน แทนที่จะเสียเวลาไปโต้ตอบกับคนอื่น หรือสิ่งภายนอกที่มายั่วยุล่อลวง วิธีที่ดีกว่า คือชำระล้างจิตใจ ให้ลดความโกรธ โลภ หลงลงไปทีละน้อย การหมั่นฝึกฝน ย่อมจะทำให้พัฒนาจิตใจ เป็นคนที่รู้จักปฏิบัติธรรมมากขึ้น คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ จริงๆแล้วมีโอกาสที่จะเรียนรู้ ปฏิบัติบุญกิริยาได้มาก เพราะว่าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม บ้านเมืองสะอาด มีระบบระเบียบวินัยดีกว่า ในแต่ละวัน ฝึกทำจิตเป็นสมาธิ ระลึกให้เห็นความจริงของไตรลักษณ์ และแผ่เมตตาอย่างแท้จริงแก่สรรพสัตว์ ย่อมจะทำให้มีบุญสะสมในใจ พูดแบบชาวบ้าน คือ ไม่คิดร้ายต่อใคร ไม่คิดว่าใครคิดร้ายต่อเรา หรือมาตรแม้นว่ามีคนมุ่งร้ายทำลายเรา ก็ไม่โต้ตอบทั้งกาย วาจา ใจ บุคคลที่สามารถกระทำได้ดังนี้ ถือว่าได้ทำบุญ ได้พบความสุขจากการทำดี เป็นผู้ชนะใจตนเองได้ และในที่สุด ผู้อาฆาตมาดร้ายย่อมแพ้ภัยตนเองครับ ครอบครัวของผม ค่อนข้างใกล้ชิดกับกัลยาณมิตร และมีโอกาสได้รู้จักคนดี จึงทำให้ชีวิตราบรื่น และสามารถใช้ธรรมเป็นเครื่องกั้นให้พ้นคนพาลได้เสมอ เมื่อวานนี้ วันปีใหม่ ได้ไปกราบพระคุณเจ้าที่นับถือ และรับฟังเทศนาธรรม กลับมาด้วยจิตใจที่มั่นคง มีความสุขกับการสร้างกรรมดี เป็นผู้ให้เท่าที่ทำได้..ต่อไปครับ ขอบคุณครับสำหรับน้ำใจไมตรีและความสุขที่เราได้ทำบุญด้วยการมอบความเข้าใจแก่กัน     จากคุณ : ยอดทิวาพันแสง - [ 3 ม.ค. 52 07:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราโชคดีค่ะ ในแอลเอมีวัดไทยหลายที่ เลยได้ไปทำบุญไหว้พระด้วยตัวเองสะดวกเหมือนอยู่เมืองไทย จากคุณ : วิสกี้โซดา - [ 3 ม.ค. 52 08:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้ทำบุญ ใส่บาตร นานมากๆ เเล้วค่ะ แต่บริจาคเป็นรายๆ ไป ตามโครงการณืที่เห็นว่าดี จากคุณ : mrs.night owl - [ 3 ม.ค. 52 09:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ค่อยทำบุญตักบาตร แต่สวดมนต์เป็นบางครั้ง ไม่พูุดจาส่อเสียด ไม่ว่าร้ายใคร ทำจิตใจให้ผ่องใส รักษาศีลห้า เดินทางสายกลาง ไม่เบียดเบียนใคร บริจาคเงินแก่โรงเรียน Red Cross - Salvation Army องค์การขุดน้ำและเด็กน.ร.ที่ไปก่อสร้างร.ร.ในอัฟริกา PBS - Chicago Symphony Orchestra เป็นสมาชิก Freecycles เหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่จะบริจาคของ ไม่ค่อยได้ขออะไร ไปทำสวนและจัดดอกไม้ที่วัดใกล้บ้านค่ะ จับเเมวที่เพ่นพ่านหลังบ้านไปส่ง Anti Cruelty Society ด้วย จากคุณ : ป้าเองค่ะ (ป้านี่เอง) - [ 3 ม.ค. 52 10:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แค่อ่านก็รู้สึกอิ่มเอิบแล้วครับ ยังไงขออนุโมธนาสาธุพี่ๆน้องๆทุกท่านเลยนะ ครับ และกราบสวัสดีปีใหม่ ขอให้บุญรักษาทุกท่านนะครับ จากคุณ : จขกท (zolam) - [ 3 ม.ค. 52 11:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อนุโมธนาสาธุค่ะ เราสวดมนต์หน้าคอมพิวเตอร์เปิดหน้าพระพุทธรูป แต่ใช้หนังสือสวดนะ แล้วแผ่เมตตา ให้ตัวเอง และเจ้ากรรมนายเวร เทวดา เวลาไปวัดก็ไปหยอดตู้ ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ กำลังจะหากระปุกไว้ เวลาสวดมนต์น้อมจิต แล้วหยอดเงินลงกระปุก เวลาไปวัดจะได้เอาไปบริจาคค่ะ จากคุณ : ToonyBerri - [ 3 ม.ค. 52 11:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับคุณวัชรานนท์ค่ะ ให้ 3 แต้มเลยค่ะ เรื่องการทำบุญเคยเขียนเรื่ององค์ประกอบไปแล้ว ที่สำคัญจริงๆก็จิตกรุณา ถ้าทำบุญหวังบุญก็จะไม่ได้บุญ 100% นะคะ จากคุณ : pixp - [ 3 ม.ค. 52 12:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ทำบุญ on-line ค่ะ เพราะบ้านอยู่ไกลวัด บริจาคเงินโดยตัดบัญชีธนาคารทุกเดือนให้กับ RSPCC เป็นมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก และก็ Dog Trust มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ บริจาคให้วัดไทยและมูลนิธิอื่นๆ บ้างตามครั้งคราว รวมรวบเสื้อผ้า ของในบ้านที่ไม่ต้องการใช้ให้กับมูลนิธิต่างๆ ที่เค้าเอาถุงบริจาคมาเสียบไว้ตามบ้าน เราก็เอาถุงนั้นไปวางไว้นอกบ้านให้เค้าเห็นตามวันที่เค้าระบุว่าจะมารับ คิดว่าอยู่บ้านเค้าเมืองเค้าก็ควรตอบแทนสังคมตามกำลังที่เราทำได้ ตอนอยู่เมืองไทยเวลาดูรายการทีวีที่เค้าไปถ่ายคนแก่ เด็ก หรือคนป่วยที่ไม่มีเงินหรือญาติดูแล แล้วให้เลขบัญชีธนาคารไว้ ก็โอนเงินไปให้เค้าค่ะ ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่คิดว่าช่วยเหลือคนที่เค้าลำบากกว่าเรา สิ่งที่ทำได้เมื่ออยู่ไกลบ้านก็คือสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกลม แต่ยังไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ (อันนี้ไม่ควรเลียนแบบ) คิดดี ทำดี ไม่เบียบเบียนคนอื่น อันนี้ง่ายสุดทำได้ด้วยตัวเองค่ะ จากคุณ : madam - [ 3 ม.ค. 52 14:30:43 A:86.144.131.45 X: TicketID:121253 ]

ความคิดเห็นที่ 21 I'm Christian.  I donate 10% of my income to my church every month.  Also, I donate for people who have no food and some organizations such as American Heart Association, American Cancer Society etc.  In addition, I always call my family in Thailand to donate in my behalf (they can withdraw money from my bank account). I have faith in being a rightousness, and I keep the promise to follow the Words of Wisdom.  To be a rightousness makes me being a happy person. จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 3 ม.ค. 52 14:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นานๆไปวัดไทยสักครั้ง หลังพระพุทธรูปที่บ้านมีขวดใส่เงินไว้วันละนิดหน่อย พอเต็มก็หาวิธีทำบุญทำทานค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นพระก็ได้ วันอาทิตย์ที่๔นี้นิมนต์พระมาทำบุญปีใหม่ที่บ้าน เปิดโอกาสให้คนไทยใกล้เคียงมาร่วมทำบุญด้วย พอเจอใครบอกบุญในพันทิป ถ้าทำได้ก็จะฝากทางบ้านส่งให้ ใครบอกบุญมาก็ทำตามกำลัง ที่ทำไม่สำเร็จคือลูกเขาไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่เขาก็เป็นคนดี จากคุณ : แม่ของอ๊บ (obst) - [ 3 ม.ค. 52 17:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อนุโมทนาด้วยค่ะ  นักเรียนอย่างเราก็บริจาคเงินนิดหน่อย  และหนังสือเรียนที่ไม่ใช้แล้ว ก็นำไปบริจาค  สวดมนต์บ้าง  บางวัน  ใจยังไม่ค่อยนิ่งอ่ะค่ะ  ยิ่งหน้าหนาว ยิ่งเหงา หดหู่ จากคุณ : แกงจืดวุ้นเส้น - [ 3 ม.ค. 52 21:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไปทำบุญที่วัดไทย ตามวันสำคัญทางศาสนา วัดไทยอยู่ไกลบ้านค่ะ ส่งเงินไปไทยฝากญาติพี่น้อง เพื่อนในไทยให้ช่วยทำบุญให้ด้วย ส่งเช็คทำบุญไปตามเวปต่าง ๆ ที่เห็นและเราศรัทธา ทำบุญกะโบสท์ฝรั่งด้วย เช่นโบสท์ใกล้บ้านใกล้ที่ทำงาน มีการบูรณะโบสท์ ก์เดินเฉย ๆ นำเงินไปทำบุญด้วย ด้วยจิตศรัทธา ซะงั้น ทำทานกับคนที่มีกินน้อย ไม่มีจะกิน ฝาหรั่งนี่แหละ เห็น ๆ น่าสงสาร ก็ ทำทานไป เผื่อแผ่ไป โดยที่เราไม่ได้เดือดร้อนอะไร ทำบุญทำทานไป โดยที่เราศรัทธา และเราไม่เดือดร้อน ทำให้จิตใจเราเบิกบาน ต่อยอดศาสนาให้ศาสนาดำเนินต่อไปได้ จะได้สั่งสอนอบรมคนให้เป็นคนดี  ไม่ได้หวังถึงชาติหน้า แค่ตอบแทนสังคมเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณ : น้านก (Aunti-นก) - [ 4 ม.ค. 52 04:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนมาก เอาเงินใส่ตาม charity box อ่ะค่ะ เวลาไปซื้อของก็จะมีมาตั้ง ๆ ไว้ เพราะอยู่ไกลวัดด้วย ค่าใช้จ่ายคงแพงกว่าเอาเงินไปทำอ่ะคะ จากคุณ : 2nd home - [ 4 ม.ค. 52 06:13:19 A:192.168.0.17 X:90.195.130.184 TicketID:196550 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่งไปทำบุญมาค่ะวันนี้ เราอยู่ห่างจากวัดไทยประมาณ45นาที เวลาจะไปวัดไทยก็จะเอาเหรียญออกจาะกระปุกออมสินเอาไปหยอดถวายที่ตู้ในวัดค่ะ บางครั้งก็ไปแล้วก็ถวายสังคทานด้วยค่ะ เรื่องทำบุญนี่เราว่าอยู่ที่ความตั้งใจค่ะ บางทีถ้าเราเห็นคนHomeless เราก็ซื้ออาหารให้เค้าทานนะ แต่ไม่ให้เงินค่ะ อีกอย่างคือเราจะโละเสื้อผ้าบริจาคให้มูลนิธิต่างๆประมาณปีละสองครั้งค่ะ แต่หลักๆจะเก็บตังค์กลับไปทำบุญที่เมืองไทยค่ะ ทำบุญช่วยสถานสงเคราะห์สัตว์พิการ ทำบุญโลงศพค่ะ กะว่าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสอยากจะเอาของไปบริจาคให้โรงเรียนที่ยากจน เลี้ยงอาหารกลางวัน แจกทุนการศึกษาด้วยค่ะ คุณย่าของสามีท่านมาอยู่ที่อเมริกาห้าสิบกว่าปีแล้วท่านสปอนเซอร์ทุนการศึกษาให้เด็กที่เมืองไทยค่ะ ค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนะคะ มีอยุ่คนนึงท่านส่งให้เรียนตั้งแต่ประถม จนจบมหาลัยเลยค่ะ จากคุณ : CaliGirl - [ 4 ม.ค. 52 07:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สาธุกับทุกๆ ท่าน ด้วยคับ ดีใจที่เห็นคนไทยไกลบ้านแต่ใจอยู่ใกล้ศาสนาพุทธของเรา ต่างจากคนไทยจำนวนมากในไทย วัดดีๆ อยู่ใกล้นิดเดียวแต่จิตใจกลับห่างไกล... ถ้ามีโอกาสได้ไปทำบุญที่วัด ด้วยตัวเอง ก็คงเป็นเรื่องดีครับ จะช่วยให้เรารู้สึกชื่นใจกว่าการบริจาคเงินทางเนท .... แต่จิงๆ แล้วผมก็คิดว่า สถานที่ไม่สำคัญเท่าไหร่คับ สำคัญที่ใจเรามากกว่า อย่างที่คนชอบพูดๆ กันว่า พระอยู่ที่ใจครับ ต่อให้มีพระเครื่องห้อยคอสิบๆ องค์ แต่ใจไม่นับถือ ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระ ก็ถือว่า เทียบชั้นไม่ติดกับคนที่ไม่มีพระห้อยติดตัว แต่สวดมนต์เป็นประจำ ภาวนาพุทโธๆเมื่อมีโอกาส และก็ถือศีลห้าได้เสมอๆ จากคุณ : K@U@R@T - [ 4 ม.ค. 52 21:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมอยู่ประเทศอิสลาม ไม่มีวัดไทย - บริจาคสตางค์ให้ผู้ด้อยโอกาสตามกล่องรับบริจค - บริจาคเลือด - ให้ทุนการศึกษาเด็กนักเรียน - แล้วแต่โอกาส เช่นฝากเพื่อนที่ไทยทำหนังสือพระ ฯลฯ ส่วนตัวรู้สึกว่าทำน้อยเกินไป อยากทำมากกว่านี้อีก จากคุณ : Ter - [ 5 ม.ค. 52 00:51:47 A:85.154.51.127 X: TicketID:182506 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไปวัดบ้างเดือนละครั้ง แต่ถ้ายุ่งก็ไม่ไป ทำออนไลน์ โดยฝากคนที่เมืองไทยโอนให้ ทำแล้วได้บุญหรือไม่ ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าทำแล้วสบายใจ กับบุญที่บ้าน แม่อยากได้อะไรให้หมด ลูกหลานอยากได้อะไรให้หมด ทำแล้วสบายใจ เห็นเค้ามีความสุขเราก็มีความสุข จากคุณ : รวมการเฉพาะกิจ - [ 5 ม.ค. 52 12:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สำหรับเรา ถ้าว่างก็ไปวัดค่ะ เดือนละหนึ่งครั้งอย่างต่ำ ^^ แต่ถ้าใครอยู่ไกลวัด หรือ ไม่สะดวก ก็มีเวปไซต์ทำบุญแนะนำค่ะ http://e-charity.thai.com/ เราทำเป็นประจำทุกปี แล้วปกติพวกพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่สนิทกันที่เมืองไทยก็จะบอกบุญกันมาบ่อย ๆ เราก็จะส่งเงินผ่าน paypal ร่วมทำบุญไปด้วยเป็นช่วง ๆ ไป ทำบุญแล้วอย่าลืมรักษาศีล แล้วก็เจริญสติ ภาวนาควบคู่กันไปด้วยนะคะ อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : น้องแหนมเนือง - [ 5 ม.ค. 52 14:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โมนทนากับทุกๆท่านค่ะ ส่วนกิ่งไม้ไทย ก็ หมั่นเจริญสติ เจริญภาวนา รักษาศีล 5 ให้เป็นปกติในชีวิตประจำวันค่ะ และรักษาศีลแปดในวันพระ  สวดมนต์ ไหว้พระ ฟังธรรม ทะนุบำรุงพุทธศาสนา ไปวัด ทำบุญ ตามโอกาส ตามกาล และตามเหตุ ตามปัจจัย ทำบุญอื่นๆ ก็ตามโอกาสตามกาล เช่น บริจาคช่วยสึนามิ มีโอกาสกลับไปเมืองไทย ก็ชอบไปปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆ เมืองไทยโชคดีมีวัดวาอารามที่สัปปายะเยอะ และมีครูบา อาจารย์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของโลกเยอะ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 21:10:30 จากคุณ : กิ่งไม้ไทย - [ 5 ม.ค. 52 21:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวดมนต์เข้าไปสิค้าบบบบบบ ก่อนนอน อย่าบอกว่าไม่มีเวลา ถ้ายังหายใจนั่นคือยังไม่ตาย ยังไม่ตายก็ยังมีเวลาครับ ร่ายไปเลยครับ อิติปิโส พาหุง ชะยันโต ชุมนุมเทวดา ชิณบัญชร แล้วก็แผ่เมตตา จบ จากคุณ : chonlapat81 - [ 5 ม.ค. 52 22:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นาน ๆ ไปทำบุญที่วัดทีค่ะ  แล้วก็ใส่บาตร ใส่ซองช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟทางวัดค่ะ  แล้วก็บริจาคเสื้อผ้าของลูกและของตัวเองที่ไม่ใช้แล้วให้แก่ getaway เค้าโทรมาแล้วก็จะมารับเองที่บ้านสะดวกดีค่ะ  รวมทั้งหนังสือของเล่นลูก ๆ ค่ะ จากคุณ : Nong@tacoma - [ 6 ม.ค. 52 01:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดิฉันไม่มีวิธีที่พิเศษในเรื่องการทำบุญในต่างประเทศ ... จะทำอะไรก็ได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว :- 1.ทำบุญกับคุณพ่อ-คุณแม่ก่อนเป็นอย่างแรก ทำบ่อยๆและทำเรื่อยๆก่อนที่จะไปถึงพระและวัดในต่างแดนเสียอีก 2.สวดมนต์ และกำหนดจิตเองเท่าที่จะเรียกสติกลับมาได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน 3.ให้อภัยคนได้ง่ายๆมาก เหมือนอย่างที่คุณวัชรานนท์ได้กล่าวถึงไว้แล้วเรื่องอภัยทาน 4.จะไม่เจาะจงเรื่องการทำบุญ ว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่าทำเพื่อให้ได้บุญ เพราะส่วนตัวเองแล้ว ชอบให้เป็นทุนเดิม การทำบุญสำหรับดิฉันบางทีก็ทำทานไปด้วยในตัว 5. ปกติจะชอบไปปฏิบัติธรรมที่วัดเมืองไทยปีละครั้ง ดังนั้นใน 1 ครั้งนี้ก็จะบริจาคปัจจัยหลายๆอย่างมาก เช่น ... บริจาคค่าน้ำ-ค่าไฟให้วัด ... บริจาคเงินพิมพ์หนังสือธรรมะบ้าง ... ซื้อของแห้งบริจาคให้โรงทานต่างๆบ้าง และอื่นๆอีกหลายรายการ ฯลฯ ส่วนการอยู่ต่างแดนแล้วไม่ได้ไปวัดทำบุญนั้น ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่หากไม่ได้ทำบุญกับคุณพ่อ-คุณแม่ตัวเองเมื่อไหร่ จิตใจจะไม่สบายทันที ดังนั้นสำหรับดิฉันเองแล้วการทำบุญให้บิดร-มารดาถือเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าทำบุญให้พระหรือให้วัดเสียอีก แต่ไม่เคยขาดการทำบุญกับพระสงฆ์และวัดเหมือนกันค่ะ แต่ถือเป็นเรื่องรองมาจากพ่อแม่นะ ... เพราะทุกๆวันนี้ปฏิบัติเองที่บ้านก่อนนอนหรือไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ จิตใจก็ทำบุญในรูปแบบอื่นๆทางศาสนาอยู่แล้ว นั่นก็คือการนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ... ไม่ได้นั่งให้เห็นลูกแก้วลูกเดือยอะไรนะคะ แต่เป็นการนั่งให้เห็นทุกข์เวทนาของตัวเองเพื่อที่เราจะได้รู้จักแยกแยะให้ได้ว่า ... อะไรคือชื่อ เสียง เรียง นาม แยกให้ออกมาเป็นเรื่องๆไป ดังนั้นเวลาใช้ชีวิตตามปกติเราจะได้สามารถนำเอาออกมาใช้ในชีวิตธรรมดาๆของทุกๆวันได้ง่ายๆ นั่นคือ .. การไม่ยึดติดกับสิ่งใดใดนั่นเอง ขออนุโมทนาบุญแก่ทุกท่านค่ะ จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง - [ 6 ม.ค. 52 05:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พอมาไกลบ้านแล้วไม่ได้ทำบุญเลยค่ะ เพราะเคยสนทนาธรรม (เรียกงี้ป่าวหว่า) กะพระไทยในอเมริกา แล้วรู้สึกแปลกๆ ดูไม่ค่อยเคร่งค่ะ มีการไปแสวงบุญยังต่างประเทศทุกๆปีเพื่อหนีหนาวด้วย (อยากจะเรียกว่าเวเคชั่นจะบาปไม๊น้อ) แต่คงแล้วแต่วัดนะคะ เมืองอื่นอาจจะไม่เป็น พอมาอยู่นี่เลยเน้นทำทานค่ะ เปิดบัญชีไทยพานิชย์ออนไลน์ไว้ โอนเงินง่ายมากค่ะ ส่วนตัวชอบทำบุญกะสัตว์ เพราะไม่ได้เป็นนางงามเลยไม่รักเด็กเท่าไหร่ 555555 ถ้าเข้าไปดุในห้องจตุจักรจะมีกองทุนเยอะมากเลยนะคะ เผื่อเพื่อนๆสนใจค่ะ ------------------------------------------------------------------------------------- โครงการ "กองทุนสีทอง" http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7387537/J7387537.html ขอผู้มีใจเมตตารักสัตว์ ช่วยกันบริจาคเงินทำหมันให้กับน้องหมา น้องแมว และสัตว์เจ็บป่วย เพื่อลดประชากร หมา แมว ลดจำนวนหมา แมวจรจัด ที่ต้องเกิดมาไม่มีบ้าน ไม่มีอาหาร และต้องจบชีวิตลงข้างถนน หรือถูกจับไปทำลาย ซึ่งน่าสงสารมากค่ะ ผู้มีใจเมตตาสามารถช่วยแบ่งเบา "ป้าป๋อ" เจ้าของโครงการได้ โดยการบริจาค เิงิน ทำงานเข้าไปที่ บัญชี "โรงพยาบาลสัตว์สวนหลวง ธ.ไทยพาณิชย์ เสรีเซ็นเตอร์ บัญชีเลขที่ 175-212-3273" เมื่อท่านได้โอนเงินบริจาคแล้วรบกวนขอความกรุณาติดต่อแจ้ง ป้าป๋อ ที่ 085-022-9340 (เพื่อทำการเช็คยอดของโครงการ มิเช่นนั้นจะไปปนกับของทาง รพ.) เงินบริจาคของท่าน มีน้องหมา น้องแมวที่รอทำหมันจำนวนมากค่ะ ติดต่อขอรายละเีอียด หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ ป้าป๋อได้นะคะ 085-022-9340 จากคุณ : meddy - [ 6 ม.ค. 52 07:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 บัญชีถัดมาคือบัญชีฉุกเฉินค่ะ สำหรับสุนัขไร้เจ้าของที่ประสบเหตุหรือป่วยไข้ค่ะ มีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายตรวจสอบได้ บัญชีฉุกเฉินนะคะ ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยคาร์ฟูร์บางใหญ่ บ/ช สะสมทรัพย์ เลขที่ 094-0-12663-4 ชื่อบัญชี นายสุรชัย ศรีอรุณลักษณ์ เพื่อสุนัขจรจัด เข้าไปดูความโปร่งใสในบล็อกแกงค์ได้ค่ะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=dog ปล. แก้ไขลิงค์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 07:58:51 จากคุณ : meddy - [ 6 ม.ค. 52 07:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 บัญชีช่วยเหลือสุนัขจรจัดค่ะ โครงการสี่ขาหนึ่งหางไม่ต่างกัน ชื่อบัญชี '' นวลทิพย์ เกียรติอำไพ'' ''ธนาคาร กรุงเทพ สาขา สุขุมวิท 43 ออมทรัพย์ เลขที่ 172-0-834-751 ยังหาลิงค์ไม่เจอค่ะ ไว้ถ้าได้จะมาแปะนะคะ จากคุณ : meddy - [ 6 ม.ค. 52 08:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สารภาพค่ะ  มาอยู่ที่นี่(ออส)   ไม่เคยไปวัดเลย  เพราะวัดอยู่ไกลมากกกก  สวดมนต์  ก็ไม่ค่อยได้สวด  ยกเว้นแต่ไปเที่ยวต่างเมืองก็ยกมือไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทางหรือเฉพาะเวลาไม่สบายใจ ก็สวดมนต์ ให้ใจเย็นลงเท่านั้น    ส่วนเรื่องบริจาคตามตู้นี่ บอกตรงๆ เราไม่มั่นใจว่าจะถึงจริงมั้ย  พอจะทำจะทำ ก็คิดแบบนั้นเลยกลายเป็นว่าคิดไม่ดี  ทำไปด้วยใจไม่บริสุทธุิ์ คงไม่ได้บุญอยู่ดี   ที่ทำอยู่ แค่ส่งเงินกลับบ้าน  ให้คนที่บ้านเอาไปบุญ   การทำบุญของเราที่นี่   คงไม่มีอะไรไปมากกว่า การพยายามให้ตัวเองอยู่ในศีล ๕  ถึงแม้จะทำอยู่ได้แต่ ๔ข้อก็ตาม   เพราะยังดื่ม แอลกอร์ฮอล อยู่เรื่อย   ได้ทำบุญจริงๆจังๆ ก็เฉพาะตอนกลับไทยค่ะ จากคุณ : spy_mini - [ 6 ม.ค. 52 09:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ได้อ่านบุญของแต่ละท่านแล้ว ขออนุโมทนาด้วยค่ะ ตั้งแต่มาอยู่นี่ ไม่ได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดเลยค่ะ วัดในแดนโสมไม่เหมือนวัดบ้านเรา ผู้คนก็ไหว้แตกต่างจากเรา พระพุทธรูปก็ไม่เหมือนบ้านเรา ไปวัดมาก็หลายเดือนก่อน ก็ไหว้พระไปค่ะ แต่ไม่มีโอกาสเหมือนตอนอยู่ไทย ได้แต่สมาทานศีล 5 ตอนตื่นนอน  ,แผ่เมตตา, และรักษาจิตให้ละเว้นอบายมุข แต่ก็มีบ้างที่ศีลขาดอยู่ค่ะ แต่ก็ตั้งใจว่า จะต้องรักษาให้ได้ น่ายินดีสำหรับคนที่ได้อยู่ใกล้วัดนะคะ ได้มีโอกาสทำบุญบ่อยๆ และได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระสงฆ์ด้วย ก็ขอให้ทุกท่านบุญรักษาค่ะ จากคุณ : เลื้อย - [ 6 ม.ค. 52 11:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไปวัดไทยครับ เดือนสองเดือนไปครั้ง ตามที่มีโอกาส แล้วก้อมีบริจาคเงินออนไลน์บ้างครับ จากคุณ : fiattario - [ 6 ม.ค. 52 15:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บอกตามตรงว่า  อยู่ที่ต่างประเทศไม่ค่อยได้ไปบริจาคตามตู้รับที่วัด  หรือ ซองผ้าป่า หรือไปวัดไทยเลย เพราะอยู่ไกล    การทำบุญในความคิดส่วนตัวและที่ดิฉันทำอยู่ก็คือ   โอนเงินให้แม่ที่เมืองไทย  ให้ท่านนำไปใช้จ่าย  ซื้อเสื้อผ้า อาหารบำรุงดีๆ  ที่ท่านชอบ  และช่วงเทศกาลต่างๆ  แม่ก็จะเอาเงินส่วนที่เราส่งไปให้  ซื้อยารักษาโรค   และสิ่งจำเป็นให้คนแก่ หรือคนที่ขาดกว่าเราแถวๆบ้าน หรือ แถวๆหมู่บ้านที่แม่อยู่   หรือบางเดือน แม่ก็จะขอจ่ายค่าน้ำ และ ค่าไฟให้วัดป่าที่ยังไม่มีกำลังทรัพย์มากมาย แต่ที่สำคัญในการทำบุญของดิฉัน คือทำกับพ่อแม่  พระในบ้านก่อน  ให้ท่านมีความสุข   แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 23:48:47 จากคุณ : Thatcha70 - [ 6 ม.ค. 52 23:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แนะนำ website ให้เพื่อนๆ ค่ะ เผื่ออยากเข้าไปอ่านหรือคุยปัญหาธรรมะ www.dungtrin.com www.watpa.com www.wimutti.net www.jarun.org จากคุณ : ศรีธนา - [ 7 ม.ค. 52 08:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ปกติก็จะส่งเงินให้แม่ไปทำให้ค่ะ ตัวเองเข้าวัดไม่ได้ มันร้อนนนน จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 7 ม.ค. 52 08:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ meddy>>>>>High Five จากคุณ : แม่ยกน้องหมา (Panissar) - [ 7 ม.ค. 52 11:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นานๆก็จะไปวัดไทยทีนึงค่ะ ช่วงปีใหม่จะพยายามไปทุกปี เพราะเค้าจะนิมนต์พระนานาชาติมาค่ะ เราก็ได้ใส่บาตร ถวายปัจจัย ไม่ก็ช่วงเข้าพรรษา วิสาขบูชา เพราะต้องเดินทางไกลกว่าจะถึงวัดไทย นานๆได้ไปที แต่ก็ถือว่าว่ายังดีที่ได้ทำบุญค่ะ ถาว่างเลยบางทีก็ไปอยู่ปฎิบัติธรรมยาวสองอาทิตย์เลย ว่าแต่ว่าจริงไหมค่ะ ที่ทำบุญต้องทำด้วยตัวเอง ฝากกันทำไม่ได้หรอค่ะ จากคุณ : Lonely Me - [ 7 ม.ค. 52 13:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ที่เคยไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เมืองที่ผมไปอยุ่ก็หาวัดไทยไม่ได้เหมือนกันครับ แต่ จะใช้วิธีการทำบุญโดย บริจาคเงินตามร้านสะดวกซื้อ ที่เขาจะมีพวกกล่องรับบริจาคครับ เงินได้มาอย่างบริสุทธิ์ เราเต็มใจทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ ผู้รับต้องการรับอย่างบริสุทธิ์ใจ เท่านี้ผมว่าผลบุญก็น่าจะส่งล้วนะครับ จากคุณ : ไอ้แสน - [ 7 ม.ค. 52 14:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 7 ม.ค. 52 18:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่ใด้ไปวัดเลยค่ะ แต่จะใส่ซองฝากเพื่อนไปแทน แต่ทุกครั้งที่กลับเมืองไทย จะไปบริจาคเงินที่โรงพยาบาลตำรวจซื้อโลงศพให้ศพไร้ญาติค่ะ คุณพี่ตำรวจที่อยู่ข้างล่างหน้าลิฟท์นี่ใจดีมากค่ะ พาขึ้นไปชั้นบนและพากลับมาส่งข้างล่างเพราะเป็นคนกลัวผีมากๆ ตอนแรกกะแค่ฝากเงินให้พี่ตำรวจแต่พี่เค้ายืนยันให้ขึ้นไปเองเพราะช่วงปีใหม่จำเป็นมากๆ บางทีเห็นญาติๆที่มาจากต่างจังหวัดมารอรับศพกัน คิดว่าทำบุญแบบนี้ก็ช่วยคนอื่นใด้เหมือนกันค่ะ แต่ขนลุกสุดๆตอนเซ็นชื่อบริจาคแล้วยื่นมือรับไบเสร็จจากเจ้าหน้าที่เพราะกลิ่นธูปแรงจริงๆค่ะ จากคุณ : ลูกแมง - [ 7 ม.ค. 52 19:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ส่วนใหญ่ทำทานมากกว่า ไม่มีโอกาสทำบุญเท่าไหร่ บริจาคให้ ASPCA เดือนละ 18 เหรียญ หักบัญชีเลย สิ้นปีใช้หักภาษีได้ด้วย ช่วยหมาแมวไม่ให้ถูกฆ่า บางทีก็ให้ homeless เหรียญ หรือ 2 เหรียญ เวลาขับผ่านไปตามสี่แยก  เห็นเขาถือป้ายขอเงิน รู้สึกว่าอาศัยบ้านเมืองเขาอยู่ แต่เรามีโอกาสที่ดีกว่า แต่ให้เฉพาะตอนกลางวัน กลางคืนไม่กล้าหรอก กลัวโดนทุบหัว จากคุณ : silkywind123 - [ 7 ม.ค. 52 23:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวดมนต์ทุกวัน แวะไหว้พระและทำบุญที่วัดป่าเลไลยก์ใกล้ๆบ้านบ้างในวันหยุดค่ะ จากคุณ : Th( SG ) - [ 8 ม.ค. 52 12:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มีคนมาให้ทำบุญถึงหน้าบ้านทุกอาทิตย์ค่ะ กดกริ่งเกือบทุกเย็น หน้าหนาวจะได้ทำบุญน้อยหน่อยเพราะนักแสวงบุญทั้งหลายอยู่ใต้ผ้าห่มกัน  จริงบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็ทำไปตามอัตภาพ ไปเมืองไทยก็ไปทำบุญตุนไว้ ไม่ชอบฝากเงินใครไป กลัวว่าเดี๋ยวขึ้นสวรรค์เทวดาจะบอกว่า มีคนขึ้นเผื่อแล้ว :P จากคุณ : ZOMG - [ 8 ม.ค. 52 15:30:49 ]