ความคิดเห็นที่ 1 ตัวแม่เองที่รู้ดีที่สุดค่ะว่าควรจะส่งลูกไป หรือจะให้อยู่กับแม่ต่อจนถึงอายุเท่าไหร่ แต่ละครอบครัวแต่ละความคิดเห็น บางคนก็ว่าดีบางคนก็ว่าไม่ดีขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางครอบครัว และความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้เลี้ยงดู และที่สำคัญที่สุดคือดูที่ความพร้อมของลูกเป็นหลัก ยังไงก็ลองเขียนข้อดีข้อเสียในการส่งลูกไปเนอสเซอรี่ กับการให้ลูกอยู่บ้านกับแม่ดูค่ะว่าอันไหนมีน้ำหนักความสำคัญมากกว่ากันค่ะ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 7 ม.ค. 52 02:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณแม่พิจารณาเรื่อง มาตรฐาน ของ เนอร์ฯที่จะส่งลูกไปแล้ว...พอใจไหมคะ...ถ้าดีพอ ก็จะลดความกังวลใจได้ในระดับหนึ่งนะคะ          คุณ จขกท. ใกล้จะคลอดแล้วมีผู้ช่วยที่ใว้ใจได้อยู่ใกล้ๆบ้านหรือเปล่าคะ   ถ้ามีก็ต้องดูว่าเข้ากันได้ดีกับลูกหรือเปล่า เพราะหลังคลอดช่วงแรกคุณแม่และทารก ต้องปรับตัวทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ สักระยะ ไหนจะลูกคนโตอีก          การส่งลูกเข้าเนอรส์ช่วงนี้ อาจจะเป็นการดีที่คุณแม่จะได้มีเวลาช่วยในการปรับตัวของลูก กับสิ่งแวดล้อมใหม่(ในเนอรส์ฯ ทั้งเพื่อน ทั้งผู้ดูแล) ได้เต็มที่ อีกทั้งยังจะได้มีเวลาจัดเตรียมความพร้อมในการต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยนะคะ          การที่ลูกพูดช้า เวลาที่พาลูกไปรับวัคซีนหรือประเมิณพัฒนาการ ปรึษาคุณหมอได้ความว่าอย่างไรบ้างคะ ถ้าคุณหมอยืนยันว่าอวัยวะในการออกเสียงปกติ และมีพัฒนาการตามวัย ปัญหาอาจจะขึ้นอยู่กับการสื่อสารของคุณ กับลูกค่ะ ว่า ใช้ 2 ภาษาผสมกัน หรือยึดภาษาใดภาษาหนึ่ง          ถ้าแม่ใช้ 2 ภาษาผสมกันเด็กอาจจะต้องคิดหนักค่ะว่า คำที่จะพูดนี้จะใช้ภาษาไทยหรืออังกฤษดี เอาอันไหนขึ้นก่อนดีน้า ... ก็เลยตัดสินใจไม่พูดดีกว่า...แฮะๆๆๆ ดิฉันก็เดาใจเด็กไปเรื่อยนะคะ  (เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ)  ลูกลิง 2 ตัวที่บ้านเน้นพูดไทยกับลูกมาตลอดนะคะ (ไม่อยากให้ลูกจำภาษาอังกฤษผิดๆ เพี้ยน ๆ ไปจากแม่ค่ะ..อิอิ)   ซึ่งตอนพูดดูเหมือนเค้าจะนึกประโยคเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็ถอดคำเป็นภาษาไทยออกมา ฟังดูแล้วกลับหน้ากลับหลัง ขำๆ ก็ต้องพูดทวนประโยคแก้กลับไปค่ะ  บางทีพูดไทยแต่มีเสียงตัวอักษรตัวสุดท้าย ออกมานิดๆ เช่น โรงเรียนเน่อ( น.หนู)   คุณแม่ครับผมเมอะ(ม.ม้า) บางทีก็สับสนวรรณยุกต์ เช่น สีน้ำเงินเข็ม (แทนที่จะเป็นสีน้ำเงินเข้ม) บางทีอาม่าก็หลุดพูดภาษาโคราชออกมา " กินไห่หม๊ดเลย"  ลูกชายถามขึ้นมาทันทีว่า "กินมดเหรออาม่า"...คงกลัวว่าอาม่าจะคันปาก..555        ได้เวลาไปรับลูกแล้วค่ะ โชคดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 52 12:03:30 แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 52 11:52:34 จากคุณ : แม่ขา - [ 7 ม.ค. 52 03:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับการส่งลูกไป nursery ค่ะ ถ้าคุณไม่ช่างคุย ลูกก็เลยไม่ค่อยได้พูด ถ้าเจอเพื่อน เจอครู อาจจะดีขึ้น และคุณก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับ น้องคนใหม่ด้วยนะคะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 7 ม.ค. 52 04:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดิฉันว่าน่าจะลองดูนะค่ะ วันแรกดิฉันก็ร้องไห้เลย เพราะลูกร้องไห้ตาม แต่ครูพี่เลี้ยงดีมาก แกใจดีมีอายุหน่อยนะค่ะ แกดีมาก ปลอบกล่อมลูก จนแกหยุดร้อง หลัง ๆ แกก็ติดครูไปเลย ดิฉันส่งลูกไปตอนขวบครึ่งค่ะ ดิฉันว่าข้อดีก็ทำให้ลูกเรามีสังคม เวลาไปไหนก็จะไม่กลัว แล้วก็ได้ภาษา ข้อเสียก็คือจะติดหวัดกลับมาประจำ อยากแนะนำให้ดูสถานที่เลี้ยงเด็กดี ๆ ที่มืออาชีพจริง ๆ ดิฉันโชคดีเพราะเนอร์เซอร์รี่ที่แรกของลูกดี เพราะเพื่อนแนะนำนะค่ะ โชคดีนะค่ะ จากคุณ : แม่จ๊ะ (rhinomom) - [ 7 ม.ค. 52 06:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ตอนแรกกะนอนไม่ตื่นแกล้งไปส่งลูกไม่ทัน พ่อเด็กรู้ทันรีบมาปลุกแต่เช้า บอกพ่อเด็กว่าไม่อยากให้ไป โดนบ่นอีก สุดท้ายก็เลยตามเลย เมื่อกี้เพิ่งส่งขึ้นรถไป พอครูปิดประตูรถ เห็นลูกร้องจ๊ากแล้วใจหาย มองตามรถไปเห็นลูกไม่ร้องแต่ทำหน้าแปลก ๆ งง แล้วรถก็ลับตาไปเราก็ได้แต่ตัดใจเดินกลับมาบ้าน ไม่รู้ตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่หรือเปล่า เนอสเซอรีใกล้บ้านก็มีที่เดียวด้วย ให้พ่อเด็กพาไปทำความคุ้นเคยก่อนก็ไม่ยอม แค่พาขับรถผ่านด้านหน้าครั้งเดียว คุณครูก็ไม่มีโอกาสได้คุยด้วย พ่อเด็กคุยผ่านโทรศัพท์อย่างเดียววันต่อมาก็มารับเลย เห็นหน้าคุณครูครั้งแรกเมื่อสักครู่นี่เอง เฮ้อออ เรื่องภาษานี่ใช้สองภาษา เค้ารับรู้ได้ทั้งสองภาษา แต่ไม่ยอมพูดตามเลย ได้แต่ส่งเสียงสัตว์ประหลาดออกมา นอกจากวันไหนอารมณ์ดีก็จะพูดตามย่าเป็นบางคำ ส่วนแม่สอนอะไรไม่พูดตามสักคำ ดูเหมือนไม่ค่อยอยากคุยกับแม่เท่าไร ติดพ่อกับย่าเป็นตังเม แต่สองคนนั้นไม่มีเวลาให้เพราะทำงานกันทั้งคู่ คิดถึงลูกจัง เริ่มเข้าใจหัวอกแม่ก็ตอนนี้ ตอนที่เราบอกว่าจะแต่งงานกับคนต่างชาติ แม่ร้องไห้คร่ำครวญเพราะอย่างนี้เอง จากคุณ : มุนีน้อย - [ 7 ม.ค. 52 07:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันเอาไปฝากตั้งแต่เค้าได้สี่เดือน ตอนแรกเค้าให้ดิฉันเข้าไปอยู่้ด้วยหนึ่งชั่วโมง แล้วปล่อยไว้กับคนเี้ลี้ยงอีกหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็เอาฝากทุกวันอังคารและพฤหัส เฉพาะตอนบ่าย จนถึงตอนนี้ค้า 15เดือนแล้ว เค้าไม่เคยร้องตามเลย พอไปถึงเจอเพื่อนๆนี่วิ่งเข้าหาเลย ออกจะชอบด้วยซ้ำเพราะมีของเล่นหลากหลายกว่า เรื่องภาษาดิฉันพูดไทยตลอด เค้าเข้าใจ แต่สอนให้เค้าพูด เค้าจะทำท่าทางอายม้วนต้วนไปเลย จากคุณ : blagnac1 - [ 7 ม.ค. 52 22:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดิฉันยังไม่ได้ส่งลูกไปเนอสเซอรี่เลยคะ อยู่กับแม่ทั้งวันแต่ว่าเค้าไม่มีปัญหาเรื่องพูดคะ พูดได้ทั้งสองภาษาคล่องแคล่วเป็นไหนๆ แต่ว่าช่วงที่คลอดลูกคนที่สองแล้วเลี้ยงคนโตไปด้วยนี่เครียดมากๆเลยคะ ถ้าน้องไปโรงเรียนก้อดีเหมือนกันนะคะคุณมุนีน้อยจะได้มีเวลพักผ่อน จากคุณ : @..pity..@ - [ 8 ม.ค. 52 03:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดิฉันเลี้ยงเองทั้งคู่ค่ะ ลูกคนโตเข้าเดย์แคร์ตอนสองขวบครึ่ง ตอนนั้นคนเล็กก็คลอดออกมาแล้ว ตอนแรกให้ไปเดย์แคร์อาทิตย์ละครึ่งวันก่อนให้เข้าเริ่มปรับตัว จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มวัน ให้พ่อเขาไปส่งไปรับ พ่อเขาใจแข็ง พอลูกถึงมือครูแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วก็ออกมา บอกลูกว่าถึงเวลาแล้วจะมารับนะ ดิฉันก็พูดไทยกับลูกอยู่คนเดียว ตอนนี้ลูกคนโตสี่ขวบแล้วพูดได้เป็นคำ ๆ ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้เลยค่ะ ตอนนี้เข้าพรีสคูลโปรแกรมพิเศษแบบมีเทอราพีสอยู่ในห้องด้วย เริ่มดีขึ้น เห็นครอบครัวคนอื่นเขาพูดสองภาษาแล้วลูกเขาไม่มีปัญหา ทำไมลูกเรามีปัญหาก็ไม่รู้ สงสัยเด็กรับได้ไม่เหมือนกัน โรงเรียนก็ตั้งเป้าไว้ว่าสี่ขวบครึ่งแล้วลูกเราต้องบอกชื่อตัวเองได้ ใครถามชื่อต้องบอกได้ ก็รอดูว่าจะได้ไหม จากคุณ : Sunny Shiny Day - [ 8 ม.ค. 52 13:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อก่อนก็เป็นเหมือนคุณ จขกท เลยค่ะ ลูกก็ไม่ค่อยพูด ตัวเราเองก็ไม่ค่อยพูด อยากให้เขามีสังคม เลยพาเขาไปเดย์แคร์ ลองให้เขาไปอยู่ 3 ชั่วโมง กลับไปรับ เขาร้องไห้ตลอดจนผล๊อยหลับไปเอง จากนั้นก็พาเขาไปอีก ยังเป็นเหมือนเดิม มีอยู่วันแอบไปดูเขา เห็นเขายืนร้องไห้ ครูพี่เลี้ยงเขาก็ปล่อยให้ยืนร้อง ไม่สนใจ  แต่เด็กๆ คนอื่นนอนหลับกลางวัน ตอนนั้นดิฉันเห็นลูกยืนร้องไห้แบบนั้นสงสารจับใจ เลยเลิกพาเขาไปเลยค่ะ เพราะแน่ใจจริงๆ แล้วว่าเขาคงยังไม่พร้อมจริงๆ จนมามีอีกคน แล้วเผอิญตัวเองต้องไปทำงาน แต่ยังไม่อยากพาเขาไปเดย์แคร์กัน เลยหา Baby sitter เพราะคิดว่าเขาคงเอาใจใส่ลูกเราได้ดีกว่าที่เดย์แคร์ ตอนแรกก็กังวล กลัวจะซ้ำรอยเดิมหรือป่าว แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีปัญหา ให้เขาช่วยเลี้ยงลูกมาประมาณปี จนในที่สุด คนโตเข้าโรงเรียน ส่วนคนเล็ก สองขวบกว่าๆ แล้ว ปรากฏว่าคนที่ช่วยเลี้ยงต้องไปเรียน เลยไม่มีใครช่วย เลยต้องพาคนเล็กเข้าเดย์แคร์ ตอนแรกคนเล็กนี่ทำหน้าเหมือนจะร้อง แต่พ่อเขาไปส่งๆ ปุ๊บ หันหลังกลับไม่ได้สนใจ ปรากฏพอตัวเองไปรับ เขาดูปกติดีค่ะ เคยแอบไปดูเขาด้วย ดูเขาเล่นปกติดี คุณแม่ลองขับรถไปแอบดูเขาบ้างสิคะ ไปดูว่าตอนอยู่ที่เนริสเขาเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องภาษา คนโตตอนแรกก็พูดช้าค่ะ ตอนนั้นตัวเราเองพูดไทย พ่อเขาพูดอังกฤษด้วย จีนด้วย จนตอนหลังพาไปทำ speech therapy ค่ะ  แล้วก็มีใช้ sign language บำบัด เวลาเขาต้องการอะไรพยายามให้เขาพูดก่อนๆ จะให้สิ่งที่เขาต้องการดูนะคะ  ตอนแรกๆ อาจจะใช้เวลานาน (มากๆ) แต่อดทนทำไปเรื่อยๆ พยายามกระตุ้นเขาให้พูดไปเรื่อยๆ ดูนะคะ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 52 10:23:22 จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 9 ม.ค. 52 10:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องพูดช้าเนี่ยะ เดี๋ยวเค้าก็หายค่ะ ลูกชายดิฉันก็ 2 ภาษาเลยช้ากว่าคนอื่น ตอนนี้เข้าพรีสคูล 3 ขวบ 3 เดือน พูดได้เป็นประโยคแล้ว เมื่อก่อนภาษาไทยนำหน้าแต่ตอนนี้ภาษาอังกฤษนำไปแล้วค่ะ กลับมาพร้อมอะไรใหม่ ๆ ทุกวัน ฟังไทยรู้เรื่องแต่ตอบเป็นอังกฤษ พอเราย้ำไทยไป2-3 รอบเค้าก็ยังเป็นอังกฤษอยู่ แก้ไขให้แล้วเค้าก็พูดไทยตามเน่อ ๆ แล้วก็ถามกลับมาเป็นอังกฤษ หลายรอบเข้าดิฉันก็หมดความอดทนในการพูดไทยค่ะ หลงกลตอบไปเป็นอังกฤษอีก ตอนนี้เลยเป็นปัญหาของแม่ซะเอง555  กลายเป็นว่าพูดภาษาไทย สอนเค้าเนี่ยะยากกว่าอีกค่ะ เด็กเค้าจะปรับตัวกับเพื่อน สิ่ิงแวดล้อมใหม่ได้เร็วค่ะ อาจจะยากในอาทิตย์แรก ถ้าแม่ไม่เห็นก็พอไหวค่ะ แต่ถ้าเห็นลูกร้องเนี่ยะหัวใจจะสลายนะคะ ไม่เป็นไร ยิ่งมีเพื่อนเล่น เค้าก็จะชอบไปเองคะ คุณก็จะได้มีเวลากับคนเล็กเต็มที่ จะได้พักผ่อนด้วยนะคะ จากคุณ : ลิปสติค - [ 9 ม.ค. 52 15:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กลับมาอีกรอบค่ะ ผ่านไปสามวัน ดูเหมือนจะดี ลูกดูร่าเริง กลับมาพูดมากกว่าเดิมแต่ยังไม่เป็นภาษาอะไรสักอย่าง พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บก็ร้องหาของกินทันที หลังจากนั้นก็อึออกมา เป็นแบบนี้สามวันซ้อนเลย ถามเพื่อนบ้านที่ส่งลูกไปทีเดียวกัน เค้าบอกว่าลูกเค้าก็เป็น ตอนแรกคิดว่าที่เนอสเซอรี่ไม่ได้ให้อะไรทานหรือไงนะ ครูบอกว่าพาเด็กออกกำลังกายก่อนปล่อยกลับบ้าน เด็กเลยหิว นอกจากนี้เค้ายังเล่าให้ฟังอีกว่าถามลูกเค้าดูแล้วว่าลูกเราเป็นไงบ้างตอนอยู่เนอสเซอรี่ ร้องไหม ลูกเค้าก็เล่าให้ฟังว่าลูกเราไม่ร้องเลย วันแรกเดินตามเค้าตลอด ลูกคนข้างบ้านนี่ห้าขวบแล้วอีกสามเดือนจะเลื่อนไปอยู่อนุบาล ได้ฟังแบบนี้ก็วางใจในระดับหนึ่ง ก็พยายามไม่คิดอะไรมากเกินไป ส่วนเรื่องภาษานี่พ่อกับย่าใช้ภาษาเกาหลี แม่พูดไทย ถ้าเปิดทีวีก็จะให้ดูแต่ช่องภาษาอังกฤษ ลูกคงมึน ประกอบกับที่ผ่านมาอยู่กับแม่เพียงลำพัง เลยไปกันใหญ่ ตอนนี้ก็หวังว่าไปเนอสเซอรี่แล้วพัฒนาการทางภาษาจะดีขึ้นบ้าง ตอนพาไปตรวจร่างกายและพัฒนาการก็ปกติดีทุกอย่าง เข้าใจว่าคงเป็นเพราะสภาพแวดล้อมไม่อำนวยมากกว่า เค้าเลยพูดช้า หรือไม่ก็เป็นที่นิสัยด้วย เพราะไม่ใช่แค่แม่ที่ไม่ค่อยพูด พ่อก็พูดน้อยมาก ๆ ด้วย ผู้ชายบ้านนี้เป็นแบบนี้กันทั้งบ้านแทบไม่พูดเลย จากคุณ : มุนีน้อย - [ 10 ม.ค. 52 14:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนให้ลูกไปวันแรก ครูบอกว่าลูกไม่ยอมทานอาหารเลยค่ะ ไม่อึด้วย คงแปลกที่และคิดถึงแม่ กลับบ้านลูกกินไม่หยุดเลย แอบสงสรลูก วันต่อมาครูบอกลูกก็ค่อยกินตามเพื่อน แต่กินไม่เยอะ ไม่นานลูกก็ทานได้เป็นปกติค่ะ จากคุณ : แม่อิหนู (bigbuta) - [ 22 ม.ค. 52 13:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาเพิ่มเติมค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ได้ส่งลูกไปเนิสทั้งอาทิตย์เพราะหิมะตกทุกวันอากาศก็หนาวติดลบ แถมลูกเป็นหวัด ส่งไปได้สามวันก็อยู่บ้านยาว ที่นี้เมื่อต้นอาทิตย์ก็เริ่มส่งไปอีก รอบนี้มีงอแงไม่ทำท่าไม่อยากไป แกล้งนอนหลับตา ไม่ยอมทานข้าว เกาะแม่ให้แม่อุ้มเดินเองไม่ได้ สารพัดวิธี พอรถมารับวันแรกทำท่าร้องไห้ เราก็เป็นห่วง พอถึงเวลารถมาส่งตอนเย็น ไม่อยากเข้าบ้านซะงั้นจะตามไปเล่นกับเพื่อนอีก สรุปอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ก่อนไปทำเป็นอ้อนงอแงไม่อยากไป แต่พอขึ้นรถได้แล้วมีสีหน้ากระดี้กระด๊าขึ้นมาทันที รู้สึกว่าเค้าร่าเริงขึ้นเยอะ พูดมากขึ้นด้วย ส่วนเรื่องกินเหมือนเดิม กลับมาบ้านได้วิ่งใส่ตู้เย็น เปิดหาของกินก่อนเลย ดูเหมือนจะรักแม่มากขึ้น ชอบให้แม่กอด ตอนนอนก็มาขอซุกอกเองทั้งที่ก่อนหน้าไม่เข้าใกล้แม่เลย จากคุณ : มุนีน้อย - [ 23 ม.ค. 52 00:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราส่งลูกสาวไปเนอสรี่ ตอนขวบกว่าคะ สามวันแรกเค้าให้มาลองก่อน วันแรก 30 นา วันต่อมา เพิ่มเป็น 1ชม คะ ไม่มีปัญหาแรกๆร้องหาแม่เหมือนกัน พอนานไปมีแต่จะร้องอยากไปโรงเรียนคะ ไปสามวันต่ออาทิตย์คะ จันทร์ พุทธ ศุกร์ บ่ายจะมีอาหารกินเล่นให้ด้วยนะคะ พูดถึงเรื่องถ่าย เห้อ ไม่รู้เป็นอะไร ไปเนอสร์ เนี่ยไม่ถ่าย มาถ่ายตอนกลับมาบ้านแล้ว นะคะ สงสัยจะห่วงเล่นมากไปเลยไม่ยอมเข้าห้องน้ำที่โรงเรียน แหมแต่น่าหมันใส้นะ เพราะว่าตอนไปส่งเนอสรี่เนี่ย วิ่งไปเลยคะ ไม่มีการบ๊ายบายหลอก ห่วงเพื่อนนะคะ คิดว่าน่าจะส่งไปนะ ลูกจะได้มีการพัฒนาการอยู่ร่วมกับเพื่อนๆด้วยนะคะ แต่ก่อนหวงของเล่นที่บ้าน ตอนนี้ไม่แล้วคะ แบ่งๆกันเล่น ลองดูสิคะ จากคุณ : jane_bkk@hotmail.com (TaTo*Bkk) - [ 25 ม.ค. 52 02:09:56 ]