ความคิดเห็นที่ 1 ครั้งนี้ของเยอะมากๆ หิ้วของติดไม้ติดมือมาขายด้วย คงโดนนะ จากคุณ : ธนิตา - [ 23 ม.ค. 52 04:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยโดนแค่ 2 ครั้งค่ะ ของ tu-at-anz เค๊าแค่ให้สแกนใบนึง อีกใบนึงเค๊าเปิดดูด้วย แต่ไม่ได้ดูทุกซอกทุกมุมค่ััะ ถ้าโดนสุ่ม แล้วมีของประเภทเดียวกันเยอะ อาจจะเสี่ยงหน่อยนะคะ จากคุณ : tu-at-anz - [ 23 ม.ค. 52 04:38:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : pajaree_yu - [ 23 ม.ค. 52 05:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สุ่มค่ะ คนมาด้วยกัน เห็นกล่องๆ โดนก่อนเลย สแกนน่ะค่ะ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 23 ม.ค. 52 06:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าโดนแต่เอ็กซ์เรย์กระเป๋าค่ะ ไอ้แบบเปิดออกมาดูยังไม่เคย จากคุณ : Lilac Girl - [ 23 ม.ค. 52 06:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เสี่ยงค่ะคุณอาจจะโดนเรียกก็ได้ ไม่มีใครรู้ เอาเเน่นอนไม่ได้เเล้วเเต่ดวง เราเองก็เคยเอาโลชั่นน้ำหอมมาเยอะรวมเเล้ว ประมาณ 20 ขวด เเต่บริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เอามาขาย เอามาฝาก เเจก ญาติเยอะ คิดว่าถ้าเค้าเปิดเเล้วไม่ผ่านก็ให้ยึดไป หลายๆครั้งผ่าน          แต่มีครั้งหลังโดนเรียกทั้งเปิดหนึ่งใบ ผ่านเครื่องสแกนหนึ่งใบ เค้าก็ถามว่าเอากระเป๋า รองเท้ามาทำไมเยอะประมาณ 4-5 คู่ ต้องเสียภาษีน่ะ เราบอกว่าทำงานที่ outlet ซื้อได้ถูกมากเอามาใส่เอง เค้าก็ให้ผ่านเพราะเราบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เอามาขายเลยไม่ค่อยกลัว จากคุณ : เวนิซ (เวนิซ) - [ 23 ม.ค. 52 09:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 1. หลักการตรวจสิ่งของนำติดตัวของผู้โดยสารขาเข้า ณ ด่านศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อค้นหาสิ่งของต้องอากร  หรือสิ่งของต้องห้าม ต้องกำกัด ( prohibited  and restricted goods ) ขอเรียนว่า  ในทางปฎิบัติ  เจ้าหน้าที่ศุลกากร (  customs  officers )  ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดตรวจหีบห่อ  หรือกระเป๋าที่ผู้โดยสารนำติดตัวมา ทุกชิ้น  ทุกคน  และทุกเที่ยวบิน   เชื่อเถอะ  ขอให้สบายใจได้  เพราะอะไร  คำตอบมีดังนี้ 1. 1  เสียเวลา (วันหนึ่งๆ มีผู้โดยสารเข้ามาเป็นพันๆ คน ขืนเปิดดูกระเป๋าติดตัวผู้โดยสารทุกคน ทุกชิ้น  .... เจ้าหน้าที่จะเมื่อย  เหนื่อย  และถึงกับหน้ามืดเป็นลมตายในที่สุดแน่ๆ ) 1. 2. เสียความรู้สึกซึ่งกันและกันระหว่างเจ้าหน้าที่ กับผู้โดยสารขาเข้า 2.  ดังนั้น  แล้วเจ้าหน้าที่ศุลกากรเขาจะตรวจ  เขาจะเปิดกระเป๋า  หรือขอดูสิ่งของที่นำติดตัวมาเมื่อใด  คำตอบคือ ในเมื่อมีผู้โดยสารขาเข้าเดินทางมาจากทุกสารทิศทั่วโลก  ผู้โดยสารบางคนก็มาจากประเทศที่มิใช่แหล่งสินค้ายอดนิยมที่ต้องนำมาเสียภาษีในประเทศไทย  แต่หลายรายที่เดินทางมาจากเมืองที่เป็นแหล่งชอปปิ้ง  มีสินค้าที่ต้องเสียภาษีมากมาย   ดังนั้น  ขอเรียนว่า  เจ้าหน้าที่ศุลการกรจะ " เข้มงวด "  กับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองท่า  หรือจากประเทศเหล่านี้เป็นพิเศษ   Hongkong  ,  Korea,  Shanghai,  China, Singapore, India  เป็นต้น เพราะเมืองท่าเหล่านี้  หรือในประเทศเอ่ยนามมาดังกล่าวข้างต้น  มีสินค้าที่มีราคาถูกซื้อแล้วมาทำกำไรในเมืองไทยได้มากมาย  จึงมีพ่อค้าอาชีพ  ที่เรียกภาษาศุลกากรว่า  " พวกเซ็งลี้ "  ซึ่งได้แก่บรรดาอาเจ๊  เจ้าประจำทั้งหลายบินกันไปซื้อของกลับมาขายเดือนละหลายๆ  เที่ยว เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะขยันเปิดตรวจผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจุดเหล่านี้ ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศแถบยุโรป  หรือสหรัฐ (ซึ่งสินค้าต่างๆมีราคาแพงๆ ) หรือจากแอฟริกา  หรือจากประเทศในเอเซียที่มีสิ่งของที่ไม่เป็นที่นิยมในตลาดประเทศไทย  เช่นจากพม่า  จากลาว  (มีใครบ้าตั้งใจบินไปชอปปิ้งโดยเฉพาะที่พม่า  หรือที่การาจีบ้าง? ? ? )  จากฟิลิปปินส์  จากอินโดนีเซีย  จากปากีสถาน  หรือจากกรุงริยาดห์  หรือจากแฟรงค์เฟิรต  จากโรม  เป็นต้น พอไฟลท์ที่บินมาจากประเทศเหล่านี้ลง   เจ้าหน้าที่ศุลกากร  ส่วนมากจะปล่อยให้เดินผ่านช่องเขียวออกมากันตามสบาย  ยกเว้นอาจขอดูกระเป๋าบางรายที่เขา " สุ่ม "  หรือสงสัยว่าอาจซื้อสินค้าจาก  Duty  Free  Shop  ที่สนามบินมาเยอะเกินกว่าที่อนุญาต  เช่น  เหล้า  บุหรี่  เครื่องสำอาง  ฯลฯ  ที่มีจำนวนมากเกินกว่าจะนำมาใช้เอง  เขาก็ขอเก็บภาษีได้ (ปกติเขาอนุญาตให้นำบุหรี่ 1 ห่อ  และสุรา 1 ขวด  ติดตัวผู้โดยสารเข้ามาได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ส่วนเครื่องสำอางก็เป็นไปตามความเหมาะสมเพื่อใช้ส่วนตัว  มิใช่นำน้ำหอม  หรือครีม  หรือนาฬิกา ยี่ห้อดังๆ เข้ามา 10 ขวด หรือ 10 เรือน  แล้วบอกว่านำมาฝากญาติ  อย่างนี้เขาเก็บภาษีแน่นอน) พูดง่ายๆ  ว่า  " เสียเวลา "  ไปเปิดกระเป๋าตรวจผู้โดยสารที่มาจากร่างกุ้ง  หรือมาจากเวียงจัน  หรือจากการาจี  หรือจากเจดดาห์ หรือจากเอเธนส์ 3.  แต่ขอเรียนว่า  เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินสุวรรณภูมิจะไม่คิดว่าเป็นการ " เสียเวลา " ในการเปิดตรวจกระเป๋าผู้โดยสารที่นำติดตัวมาจากเมืองต่างๆ  ในจีน  หรือฮ่องกง   หรือเกาหลี  เพราะส่วนใหญ่เมื่อเปิดดูแล้วจะได้น้ำ  ได้เนื้อ  ทุกเที่ยวบินแน่นอน ขนาดเดินทางมาจากนิวเดลี   อาบังยังขนผ้าแขก   ภูษาอาภรณ์แขก   เครื่องประดับ รวมทั้งเครื่องเทศภารตะทั้งหลายมาส่งตลาดแขกในแถบพาหุรัดกันแทบทุกเที่ยวบิน หวังว่าคำอธิบายเรื่อง " เทคนิคในการตรวจสิ่งของติดตัวผู้โดยสารของศุลกากรที่สนามบินสุวรรณภูมิ " ตามที่ได้เปิดเผยมานี้  จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 52 18:34:26 จากคุณ : นายด่านภาษีฯเก่า (Detente) - [ 23 ม.ค. 52 12:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ง่ะ...พี่คนนี้ขั้นเทพ! จากคุณ : จอมโจรหัวใจไม่ลวงโลก - [ 23 ม.ค. 52 14:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แจ่มแจ้งแดงจ๋าแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : pajaree_yu - [ 23 ม.ค. 52 19:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อีกคำถามนะคะ ถ้าลงไฟลท์ดึกๆหลังเที่ยงคืนเนี่ย เจ้าหน้าที่จะน้อยกว่าและเข้มงวดน้อยกว่าไฟลท์กลางวันไหมค่ะ เพราะจำได้ว่าเคยบินลงไฟล์ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ออกมาตรงศุลการกรไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ประจำเคาท์เตรอ์เลยค่ะ จากคุณ : pajaree_yu - [ 23 ม.ค. 52 19:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่งกลับไปเดือนที่แล้ว เครื่องลงตอนเกือบตี 1 เจ้าหน้าที่เค้าขอสแกนกระเป๋าใบใหญ่ใบเดียว เสร็จแล้วก็ให้ผ่านไม่ได้เปิดดูอะไร จากคุณ : MC_Sand - [ 23 ม.ค. 52 21:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เขา 24 ชม นะ ไฟลท์ดึกก็มีโอกาสโดนเหมือนไฟลกลางวัน แน่นอนไม่ได้ จากคุณ : Khun KP - [ 26 ม.ค. 52 11:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ของเราน่ะค่ะ กลับจากเกาหลีเมื่อกลางปีที่แล้ว อื้อหือ...เครื่องสำอางอื้อเลยค่ะ ทั้ง Etude, Skin Food, La Neige เยอะไปหมดเลยค่ะ ไอ้เราก็กังวลเหมือนกันเพราะทั้งเพื่อนทั้งเรา ขนกันมาเยอะพอสมควร ไหนจะซีดีที่แบกใส่กระเป๋าเป้มาเต็มอีกล่ะ แต่เครื่องเรามาถึงตอนตีหนึ่งกว่าๆค่ะ กว่าจะออกมาถึงเคาน์เตอร์ได้ก็ตีสองกว่าแล้ว แต่น่าประหลาดใจมากเลยค่ะว่า "ไม่มีเจ้าหน้าที่แม้แต่คนเดียว" อันนี้ไม่ได้พูดเล่นนะคะ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว เราเข็นกระเป๋าออกมากับเพื่อนสบายใจเลยค่ะ พูดติดตลกนิดหน่อย - ตอนจะขึ้นเครื่องน่ะค่ะ เขาตรวจกระเป๋าเป้เราแล้วก็พบว่ามีแต่ซีดีเกือบสามสิบแผ่น เขาก็มองหน้าเราเหมือนกัน แต่เรายิ้มๆแล้วชี้เสื้อเราขากลับ (มีรูปศิลปินเกาหลีสกรีนอยู่น่ะค่ะ) แล้วก็บอกเขาเป็นภาษาเกาหลี (หวานๆ) ว่า "ฉันเป็นแฟนเพลงเขาน่ะค่ะ" เจ้าหน้าที่สองสามคนเห็นแล้วก็ยิ้มๆแล้วให้ผ่านมาน่ะค่ะ คิดว่าถ้าบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เอาไปขายใคร ฝากเพื่อนฝากญาติ ก็โอเคค่ะ เจ้าหน้าที่ไทยไม่ใจร้ายกับคนไทยด้วยกันเองขนาดนั้นหรอกค่ะ จากคุณ : zachariah - [ 27 ม.ค. 52 01:42:37 A:58.9.222.21 X: TicketID:202397 ]