ความคิดเห็นที่ 18
...เริ่มงานวันแรกที่บุดด้าบาร์... .....ผมเข้างานบ่ายสามโมงครึ่ง(จะเร็วไปไหน)...มาถึงก็ไม่มีอะไรคับ...ช่วยกันเซทร้าน วางจาน วางแก้ว เซทโต๊ะ..(วันที่ผมเทรนวันแรกวันพฤหัส..ผมนี่แทบช๊อก..มาถึงผมนับ server ได้ 22 คน)..ขนาดช่วยกันเซท พวกเราใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มในการเซ๊ทร้าน..ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็นั่งพับ napkin จากนั้นก็ว่างคับ...ช่วงนี้เป็นช่วงพักเบรคครึ่งชั่วโมง...(กินข้าว..เปลี่ยนชุด)...หลังจากนั้นเรามีประชุม staff กัน .....ก็เหมือนกับร้านอาหารฝรั่งทั่วไป ที่ก่อนเริ่มงาน พ่อครัว เมเนเจอร์ จะต้องเช็คความพร้อมของพนักงาน..พ่อครัวก็จะบอกว่าวันนี้มีอาหารอะไรใหม่..ลักษณะเป็นอย่างไร..ราคาเท่าไหร่...อาหารบางประเภทเหลือน้อย..เค้าก็จะบอกว่าเหลือกี่ออเดอร์..บลาๆๆ...แต่ทีเด็ดของร้านนี้ไม่ใช่เท่านั้น...เรามีสอบคับ...สอบ...(นึกว่าเรียนจบแล้วจะรอด...กรูหนีไม่รอดจริงๆเรื่องสอบเนี่ย) .......เมเนเจอร์ที่ร้านมีทั้งหมดสี่คน(อันนี้แค่เฉพาะส่วนห้องอาหารนะคับ..ไม่รวมบาร์) ...คนแรก..ปีเตอร์..ปีเตอร์เป็น general manager ใหญ่สุด..หน้าตาโหดสุดด้วย, คนทีสอง..นิวตัน นิวตันเป็นอีกคนที่คอยดูภาพรวมของร้านอาหาร(ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามีตำแหน่งนี้ไว้ทำไม), คนที่สาม..อู้ดดี้ floor manager, คนสุดท้าย ฟรองซ์ เป็นประมาณเมเนเจอร์อะไรก็ไม่รู้..แต่มันชอบถามพวกผมเรื่องไวน์ ผมเลยขอเรียกมันว่า เมเนเจอร์ไวน์ละกัน... .....หลังจากที่พ่อครัวมาบอกเรื่องอาหาร...ฟรองซ์เดินเข้ามาเลยคับ..พร้อมกันบอกทุกคนว่า วันนี้เรามีไวน์เทสติ้ง...(ผมก็งง..เทสอะไร)...จากนั้นฟลองซ์หยิบไวน์ขึ้นมาสามขวด...ขวดแรก​ champagne ขวดที่สอง pinot noir และขวดที่สาม Chardonnay .....เริ่มกันที่ขวดแรก...ฟรองซ์ริน champagne ให้พวกเราทุกคนดื่ม..ระหว่างที่ดื่มอยู่นั้นเอง ฟรองซ์....."จอห์น บอกชั้นมาซิว่าเชมเปนจ์นี้รสชาติเป็นไง" ผม.......แก้วแทบร่วงจากมือ...คือถ้าถามกรูกรูก็ตอบไม่ได้หรอกนะ...พอดีไม่ใช้นักดื่มไวน์..กรูดื่มแต่เบียร์เว้ย...(ตอนที่ทำงานที่ฟลอริด้า..มันไม่ได้มีหลายชนิดขนาดนี้ไงคับ..ผมก็เลยพอแถๆได้..แต่เมนูที่นี่ มีไวน์อยู่ประมาณเกือบสิบหน้ากระดาษ..มีเกือบทุกประเภท..มรึงจะเอาไวน์ประเทศไหน..กรูมีหมด).. จอห์น......เขย่าแก้ว "อืม..ไลท์บอดี้"...หลังจากนั้นชิม "อืม...ชั้นว่ามันมีกลิ่นพีชด้วยนะ".. ผม.....O_O ฟรองซ์...."very good"..จากนั้นมันก็อธิบายว่าแชมเปจน์ขวดนี้มาจากประเทศอะไร..ลักษณะอะไรยังไง บลาๆๆ ......นั่นแหละคับ..มันสุ่มถามจนครบสามขวด...ผมนี่ใจแป้ว...ถึงกรูจะพลิ้วแค่ไหน..ถ้ากรูโดนนี่..ไม่รอดแน่... ......หลังจากประชุมเส็ดก็ไม่มีอะไรคับ...ฟรองซ์ให้ผมไปเทรนที่ซูชิบาร์(คอยดูอาหารที่ออกมาหน่ะคับ..ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นไง)..วันต่อมา..ผมเข้าไปเทรนในครัว....จากนั้นก็ตามด้วยบาร์ดริ้งค์...หลังจากนั้นผมเทรนที่ floor(เดินตาม server หน่ะคับ)อีกสี่วัน...และแล้วก็เริ่มทำจริง... ......ก่อนอื่นขอย้อนไปเรื่องอาหารนิดหนึ่ง...อาหารที่นี่ถือว่าแพงหูฉี่เลยทีเดียว...ค่าเฉลี่ยต่อหัวต่อลูกค้าหนึ่งคนจะประมาณ 100 ดอล...หน้าที่ของ server ไม่ใช่แค่แนะนำอาหารเหมือนร้านทั่วไป...ยังรวมไปถึงการจูงใจลูกค้าให้สั่งโน่นสั่งนี่..รวมถึงอธิบายส่วนประกอบภายในเมนูอย่างละเอียด...แล้วไงอ่ะคับ..ก็งานเข้ากรูอีกตามเคย... .....ถึงเรื่องการพูด ตอนแรกผมคิดว่าไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเท่าไหร่ แต่เอาเข้าจริง เรามันก็ไม่ใช่เจ้าของภาษา..ศัพท์ที่ใช้ในการชักจูง...ผมพูดเองฟังเองยังไง มันก็ไม่ลื่นไหลเท่าฝรั่ง...นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ร้านนี้มี server เอเชียแค่สองคน จากทั้งหมดประมาณสามสิบคน..(ผมกับยูมิ(คนอินโดหน่ะคับ))...แต่ยูมิเธออยู่นี่มาเป็นสิบปีแล้วไง..ถึงสำเนียงจะแหม่งๆบ้าง แต่ผมก็ยังยกให้เธอเป็นตัวเก๋าของร้าน...(เคยมีลูกค้าที่มากินที่ร้าน แล้วประทับใจการบริการของเธอ..จนกระทั่งไปโพสชมเธอลงเวป)...อีกอย่างเมนูที่นี่ ให้ฝรั่งจำยังยากเลย...นับประสาอะไรกับด้วงเอเชียอย่างผม...(ผมใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆในการท่องเมนู) ยกตัวอย่าง... ที่ร้านมี app ชื่อ chicken samosa สิ่งที่ผมต้องอธิบายคือ ......ummm...marinated chicken thign with plumwine,ginger,garlic,five spice then further seasoned with salt,pepper,palm sugar....wrapped with wheat flour wrapper into triangle form...then baked until golden and crispy...served with creamy sesame sauce which is composed with sesame seed,egg yolk,mustard แล้วก็อะไรอีกอันไม่รู้..จำไมไ่ด้ แหะๆ ....นี่แหละคับสิ่งที่ผมต้องท่องจำ...นีี่เป็นเพียงหนึ่งในร้อยจิงๆที่ผมต้องจำภายในหนึ่งอาทิตย์...นอกจากอาหารแล้ว ผมต้องท่องชื่อไวน์ในร้านที่ขายเป็นแก้วทั้งหมด​ ว่ามาจากแคว้นอะไร..ปีไหน..ชื่ออะไร..(ประมาณสองหน้ากระดาษ)..แล้วแต่ละชื่อนี่ก็...เอากรูให้ตายเลยสิ....มีหมด ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน อิตาลี..ฯลฯ(ลำพังออกเสียงภาษาอังกฤษบางคำ กรูก็แย่อยู่แล้ว)... ........แล้วจะให้ผมทำไง..ก็นั่งท่องหัวโตสิคับ...ก่อนเริ่มงานผมมีเทสกับเมเนเจอร์..เค้าจะให้กระดาษเรามาแล้วเขียนบรรยาย สิ่งที่เค้าถามลงไป...(กรูไม่เคยขยันขนาดนี้มาก่อนเลย..ขอบอก) ......แต่ก็อย่างที่สุภาษิตว่าไว้ ความพยายามอยู่ที่นั่น...ความสำเร็จอยู่ที่ไหน (ม่ายช่าย...ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นต่างหาก)..ผมผ่านการสอบมาได้อยากตื่นเต้น...ทีนี้ก็มาถึงวันทำจิงสิคับ...และแล้วเรื่องตื่นเต้นก็ได้เริ่มขึ้น
จากคุณ :
ลู้ค skywalk<newyork>er
- [
25 ม.ค. 52 13:56:40
A:192.168.0.17 X:69.112.170.7 TicketID:201407
]
|
|
|