ความคิดเห็นที่ 1 เห็นใจจังเลยค่ะ ถ้าเป็นเรา เราคงไม่อยู่ตั้งแต่โดนทำร้ายครั้งแรกแล้วล่ะค่ะ ส่วนเรื่องฟ้องร้อง ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ แต่ก็ไปอ่าน ๆ ในเวปมา กรณีแบบนี้ฟ้องหย่าได้ค่ะ การหย่ามี หลายแบบ แบบแรก คือตกลงกันเองระหว่างสามี กับ ภรรยา แล้วก็ไปเซ็นเอกสารที่อำเภอเป็นอันจบ แบบที่สอง ให้ศาลเป็นผู้ไกล่เกลี่ยให้ แบบนี้จะใช้เวลา เพราะศาลจะต้อง สอบปากคำทั้ง สองฝ่าย จึงค่อยตัดสิน แบบที่สาม คือฟ้องร้องดำเนินคดี แบบนี้คือ ถ้าสามีไม่ยอมมาขึ้นศาล ก็ฟ้องได้ เรื่องแบ่งสินสมรส (ทรัพย์สินร่วมกันหลังจากที่แต่งงานแล้ว) ก็ตกลงแบ่งกันไป อันนี้นี่ระวังเรื่องหนี้ด้วยนะคะ กรณีมีหนี้ร่วม ยังไงเดี๋ยวรอ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ท่านอื่น ๆ มาให้คำแนะนำอีกทีนะคะ เป็นกำลังใจให้ ไม่อยากกลับเมืองไทยบ้านเราเหรอคะ จากคุณ : futomomo - [ 25 ม.ค. 52 23:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ทราบวิธีการ แต่ขอให้กำลังใจครับ แล้วถ้าต่อวีซ่า จะอยู่ยังไงล่ะครับ ถึงทางฝ่ายพ่อแม่จะดีกับเรา แล้วจะมองหน้ากันติดเหรอครับ อันนี้ผมไม่ทราบตื้นลึกหนาบาง แต่ดูวี่แววแล้ว กลับบ้านเรา ไม่สบายตัว สบายใจกว่าเหรอครับ ยังไงก็ขอให้พ้นไปอย่างราบรื่นนะครับ จากคุณ : teddyblooh - [ 25 ม.ค. 52 23:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ทราบว่ามีบุตรรึเปล่าคะ จริงๆ เราก็ไม่ทราบเกี่ยวเกี่ยบเรื่องการฟ้องร้อง แต่ว่าถ้ามีลูก ลูกคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ตัดสินใจกลับไทยหรือไม่มั้งคะ (ตอบความเห็นบนๆ) จากคุณ : แพนด้าหน้าใส - [ 26 ม.ค. 52 01:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเห็นใจ ปัญหาสามี่ภรรยา คุณบอกว่าสามีมีชู้ และทำร้ายร่างกาย แน่ใจแล้วหรือว่าเขาหมดรักเราแล้ว ไม่สามารถจะอยู่ด้วยกันได้อีก แต่งงานมานานกี่ปี คงยังไม่นาน เพราะบอกว่าเมษา วีซ่าหมดอายุ เรื่องแม่และคนในครอบครัวจะช่วยเรื่องวีซ่า และจะรับเป็นบุตรบุญธรรม ไม่ทราบคุณมีลูกด้วยกันหรือยัง จึงไม่สามารถตัดขาดจากเขาได้ การขอรับเป็นบุตรบุญธรรม การเดินเรื่องค่อนข้างยุ่งยาก ซับซ้อน แต่คนญี่ปุ่นสามารถเป็นคนค้ำประกันการขอวีซ่าได้ คิดว่าคุณคงยังอยากใช้ชีวิตอยู่ที่่ประเทศญี่ปุ่น จึงไม่อยากกลับไทย การอยู่ญี่ปุ่นคงเป็นทางเลือกของคุณแล้ว เล่ารายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยก็จะดีต่อการคิดช่วยให้ความคิดเห็น สามีภรรยาทะเลาะกันวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะดีกันแล้วก็เป็นได้ ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวอะไร มาเล่าให้ฟังบ้าง จะได้หาทางช่วยเหลือกัน จากคุณ : พนอจัน - [ 26 ม.ค. 52 06:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จำได้จากกระทู้เก่า ๆว่าให้ติดต่อสถานทูตไทยเพื่อขอรับคำแนะนำค่ะ ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ แก้ไขพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 13:06:11 จากคุณ : ดาวหิ่งห้อย - [ 26 ม.ค. 52 08:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นใจคุณจขกท. มาก ๆ ที่โดนทำร้ายจิตใจ+ร่างกาย  ขอตอบตามประสบการณ์ที่เคยได้รับรู้จากเพื่อน ๆ หลายคนมานะคะ   1). ประเด็นที่ 1.....ถ้าเรารู้ว่าสามีมีชู้......เราจะฟ้องหย่า เรียกค่าเสียหาย จำเป็นต้องมีหลักฐานค่ะ เพราะแค่คำพูดของเราอย่างเดียวไม่แน่นพอ  เช่น รูปถ่ายของเค้ากับผู้หญิงที่เป็นชู้กับสามีเรา (ถ้าได้รูปตอนที่เข้า หรือออกจากโรงแรม)  หลักฐานแบบนี้แน่นที่สุด  สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายหญิงได้ด้วย  แต่งานแบบนี้.....คุณจขกท. จะต้องมีเวลาไปคอยเฝ้าเค้าแล้วถ่ายรูปมาให้ได้ ซึ่งสามีคุณอาจจะรู้ตัวเสียก่อน  น่าจะวานเพื่อนฝูงที่สนิทกัน และเค้ายินดีช่วย (สามีไม่เคยเห็นตัวมาก่อน) หรือจ้างนักสืบ ให้เค้าช่วยทำให้ ประเด็นที่ 2......โดนทำร้ายร่างกาย  ควรไปพบแพทย์ พร้อมกับไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ลงบันทึกประจำวันไว้ (ถึงพ่อแม่สามีคุณจะก็รับรู้ก็ตาม....แต่เราจะแน่ใจได้หรือคะ? ว่าเค้าจะเข้าข้างเราจริง ๆ เพราะอย่างไรก็ตาม คนเป็นพ่อแม่ ต้องเข้าข้างลูกตัวเองอยู่แล้ว ควรทำแบบไม่ให้พ่อแม่สามีรู้นะคะ)  อันนี้...เป็นหลักฐานสำคัญมากในกรณีที่เราต้องการฟ้องหย่า เรียกค่าเสียหาย ขั้นตอนการฟ้องร้องแบบที่คุณคห.ที่ 1 ได้ตอบไว้แล้ว   2. เรื่องวีซ่าที่ใกล้จะหมด.....ถ้าสามีไม่ต่อวีซ่าให้เรา (ใจร้ายจริง ๆ )  รีบไปติดต่อสอบถามกับทางนิวกัง พร้อมทั้งพาพ่อแม่สามีไปด้วย อาจจะมีทางช่วยเหลือได้  เพราะถ้าพ่อแม่เค้ายินดีเป็นคนค้ำประกันให้เรา สามารถทำได้ แบบที่คห.ที่ 4 พี่ต้อยแนะนำไว้  ส่วนการรับเป็นบุตรบุญธรรมนั้น....ขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากมากกว่า ไม่ทราบว่า.....มีลูกด้วยกันหรือเปล่าคะ?  แต่จากคำถามที่ถามไว้นั้น  คิดว่าคุณจขกท. คงไม่อยากกลับไปอยู่เมืองไทย  อยากอยู่ญี่ปุ่นมากกว่า  แต่ถ้าต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับสามีคุณ ถ้าเรื่องถึงขั้นฟ้องร้องแล้ว คงมองหน้ากันไม่ติด แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 08:16:35 จากคุณ : เต่าญี่ปุ่น - [ 26 ม.ค. 52 08:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พ่ีๆได้ให้คำแนะนำไว้ละเอียดแล้ว ดิฉันขอเพ่ิมเติมเรื่องนักสืบเอกชนจากท่ีพ่ีเต่าญ่ีปุ่นเขียนไว้นะคะ ปีท่ีแล้วเพื่อนสนิทชาวญ่ีปุ่นของดิฉันหย่ากับสามี  เพื่อนได้ปรึกษากับนักสืบเอกชน เพราะอยากได้ภาพถ่ายของสามีและหญิงคนใหม่   แต่่ต้องล้มเลิกความตั้งใจท่ีจะใช้บริการของนักสืบ เพราะว่าค่าจ้างแพงมากๆค่ะ  สืบ 5 วัน  วันละ 5 ชม  คิดค่าจ้าง  สองล้านห้าแสนเยน ถ้ามีลูก  และยังไม่อยากกลับเมืองไทย  คิดว่าทำวีซ่าติดตามลูกได้นะคะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : ช้างครับ - [ 26 ม.ค. 52 18:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำคะ ลืมใส่ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องนี้ไม่ใช่ตัวดิฉันคะ เป็นเพื่อนสนิทน่ะคะ เค้ายังไม่มีลูกด้วยกันน่ะคะ ยังไงจะถามเค้า แล้วมาถามในนี้เพิ่มเติมเรื่องคำตอบนะคะ ขอบคุณอีกครั้งคะ จากคุณ : *โคนัน* - [ 27 ม.ค. 52 09:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แสดงความเสียใจและเห็นใจค่ะ ดิชั้นรู้จักกับเพื่อนฟิลิปปินส์คนนึง รู้จักผิวเผินค่ะ  เค้าแต่งงานอยู่กินกะคนญี่ปุ่น มีลูกชาย 1 คน เรียนที่เดียวกันกะลิงของดิชั้น สามีคนญี่ปุ่น หย่าขาดจากภรรยาญี่ปุ่นคนเก่าไม่ได้ เนื่องจากภรรยาไม่ยอมเซนต์ใบหย่าให้ หากจะหย่า เค้าเรียกร้องเงินจำนวนมากค่ะ กะเอาให้มันตายทั้งคู่ทั้งคะ  หยาบไปนิดส์นุงค่ะ สาวฟิลิปปินส์คนนี้ เลยได้ต่อวีซ่าปีต่อปี รวมถึงลูกชายด้วยค่ะ ใช้นามสกุลพ่อได้ แต่การทำนิติกรรมอะไรก็ตาม ไม่มีผลเลยค่ะ   ภรรยาชาวญี่ปุ่นคนนั้นคงเจ็บแค้นมาก อยู่ขวางคอเลยดีกว่ามั้ง จากคุณ : Mnki - [ 27 ม.ค. 52 11:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 hi จากคุณ : hi (pupi) - [ 28 ม.ค. 52 20:13:45 ]