ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยไปพักนะคะ (ไม่มีฝรั่งให้ไปด้วยแหละ) แต่แนะนำค่ะว่า เวลาไปให้แต่งตัววางตัวให้ดี ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเริดหรู แต่งตามสบายนี่แหละ  แต่ให้หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่เปิดเผยตัวมากเกินไป หรือรัดรูปมากไป วางตัวสุภาพแต่เป็นกันเอง หรือถ้าวิธีเป็นกันเองไม่ได้ผล งั้นคราวนี้เอาใหม่ ใส่สูตรไปเลยค่ะ เอากระเป๋าเอกสารพร้อม labtop ไปด้วย หาแว่นตากรอบเหลี่ยมใส่ ทำหน้าเหมือนอาเจ๊มหาภัย  รับรองพนักงานปล่อยขึ้นแน่ เค้ากลัวโดนกัด จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ - [ 27 ม.ค. 52 23:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยพักที่นั้นแต่เคยมีปัญหาเหมือนกันแต่ของดิฉันยิ่งกว่า เอาเป็นว่าหลายโรงแรมในไทยมีกฎแบบนั้นทางที่ดีบอกแฟนคุณให้ใส่ชื่อคุณในห้องพักด้วยจะได้ไม่มีปัญหา จากคุณ : pringles08 (pringles08) - [ 27 ม.ค. 52 23:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับเราแฟนจะจองชื่อเราเป็นแขกของเค้าด้วยเพราะส่วนใหญ่โรงแรมจะมีช่องให้กรอกค่ะว่าแขกที่มาพักมีแขกมั้ยแฟนเราก็จะกรอกชื่อเรา เพราะโรงแรมที่แฟนเราพักจะเข้มงวด ไม่ให้แขกที่เข้าพักหิ้วผู้หญิงเข้ามา และหากเราไม่ระบุไปตั้งแต่ตอนแรกก็อาจจะถูกเหมารวมว่าเป็นผู้หญิงอย่างว่า อีกอย่างการแต่งตัวก็ให้ดูดี เรียบร้อยเข้าไว้ เพราะเราเคยเห็นผู้หญิงไทยนั่งอยู่ล็อบบี้กับฝรั่งในโรงแรมหรูเห็นแล้วอายแทนเพราะน้องแกใส่กางเกงยีนส์สั้นมากๆ เสื้อสายเดี่ยว นมทะลัก ทาเล็บดำ ผมแดง แขกไปใครมาก็มองไปที่น้องผู้หญิงคนนี้เป็นตาเดียว จากคุณ : loveTRAVEL1977 - [ 27 ม.ค. 52 23:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คคห 2 ดิฉันพูดกับแฟนเหมือนกัน ย้ำนักย้ำหนาเรื่องเอาชื่อใส่จองไปด้วย แต่แฟนบอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย บ้านเค้าจองชือแค่คนเดียวก็เข้าพักได้เพราะห้อง เป็นโควต้าดับเบิลรูม   ก็บอกแฟนว่าเมืองไทยกับเมืองนอกไม่เหมือนกันเค้าก็ไม่เข้าใจ เลยไม่แน่ใจว่าเค้าตกลงทำจองชื่อเราด้วยหรือป่าว เพราะเอเจ่นซี่ที่บ้านเค้าทำให้อ่ะคะ จากคุณ : แฟนหึงขั้นเทพ - [ 27 ม.ค. 52 23:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 What happened was, unfortunately, pretty sad. The hotel's personnel had a wrong attitude, rude and unprofessional. And it is always worse when that kind of presumption comes from our fellow Thais, isn't it? It hurts us all the more. "คือไม่อยากโดนมองแบบนั้น  แต่คิดว่ามันต้องโดนมองอยู่แล้ว และเราควรจะทำอย่างไรดีคะ" If I were you, I wouldn't do a thing to improve my image/appearance. I'd be my own self. You know what you are, right? You are THEIR guest! However, try to choose a good/better place to stay. Because when a problem/situation arise, there's a better chance that they'll correct it. Good luck! จากคุณ : Genuine XXX - [ 27 ม.ค. 52 23:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราแนะนำให้ลงชื่อผู้เข้าพักเป็นชื่อทั้งคุณและแฟนค่ะ  เวลาเข้าออกจะได้ไม่มีปัญหา  เราเคยเจอกรณี Front บอกว่าใส่ชื่อแฟนคนเดียวก็ได้ หลังจากนั้นเวลาเราเข้าออกมีปัญหาค่ะ  เราไม่ได้มีปัญหาโดนชาร์ตเพิ่มนะคะ  แต่โดนมองอย่างว่า เผอิญว่าตอนนั้นทำงานแถวนานาด้วยแหละ เลยให้แฟนพักแถวนั้น  เรานะเซ็งมากๆเลย  ทั้งที่ห้องก็จ่ายเป็น 2 คนไปแล้วด้วย ตอนเช็คอินก็เช็คพร้อมกัน แต่ Front ว่าคนเดียวก็ได้ เราก็เออโอเค  แต่ิอย่าลืมว่าพนักงาน Front มีหลายคน  ย้ำว่าให้ใส่ชื่อคุณเป็นผู้เข้าพักด้วยค่ะ จากคุณ : มาม่าน้ำข้น - [ 27 ม.ค. 52 23:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต่างคน ต่างความคิด... ไม่สามารถห้ามไม่ให้คนคิดไปต่างๆนาๆได้ แม้แต่ทุกท่านที่มาร่วมอ่าน ร่วมออกความเห็นในกระทู้นี้ ..รวมถึงดิฉัน.. มีความคิดไปต่างๆนาๆเช่นกัน และมั่นใจได้ว่า ทุกท่านเองก็เคยมองคนอื่นๆในความคิดหลากหลาย.. เช่นกัน ไม่มีใครคิดดี คิดไม่ดีน้อยไปกว่ากัน... รวมถึงพนักงานโรงแรมในไทย โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียกระแสบ้าฝรั่งผู้ชายมันเยอะซะด้วยน่ะค่ะ จึงต้องไม่คิดตีตัวไปก่อนไข้... ไม่ต้องคิดอคติต่อใครล่วงหน้าเลย จะได้ไม่ต้องมากังวลล่วงหน้า จากคุณ : JidNince - [ 27 ม.ค. 52 23:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 I usually make hotel reservations under my name & my husband is my "guest". จากคุณ : Lilac Girl - [ 28 ม.ค. 52 00:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เคยมีปัญหาเลยนะค่ะเรื่องนี้  ปกติจองห้องคู่อยู่แล้วค่ะ แต่ว่าบางทีดิฉันก็อยู่บ้าง กลับบ้านบ้าง มาแค่รับประทานอาหารเช้าบ้าง เวลาจองจะจองเป็นชื่อแฟนคนเดียวค่ะ (เหตุผลทางธุรกิจของทางบริษัทค่ะ) เวลาเชคอิน ส่วนมากเขาก็ใส่ชื่อคนเดียวถ้าทาง front ไม่ถาม ซึ่งปกติก็ไม่เห็นมีใครถามเลยค่ะ เรื่องพนักงานมองก็มีบ้าง  เรื่องเลือกปฏิบัติ ดิฉันก็ยังไม่เคยเจอค่ะ เจอพนักงานโรงแรมส่วนมากน่ารัก  เรื่องการขอบัตรประชาชนสำหรับ joiner ห้อง  คิดว่าเป็นเรือ่งเหตุผลทาง secuirty เคยเจอค่ะ  แต่ก็ด้วยความสุภาพ เรื่องถูกมองคงมีมั้งค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้สนใจค่ะ  ใครจะนินทาก็เรื่องของเขา เรื่องการแต่งตัวคงมีส่วน อย่าง คห ข้างบนบอก  แต่หากเป็นการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว ดิฉันนิยมแต่งลำลองแบบมีสไตล์ค่ะ เจอหนักๆส่วนมากเป็นการเชคอินสายการบินไทย หรือสายการบินอื่นๆบางสายที่พนักงานเป็นคนไทย ขาเดินทางออกนอกประเทศไทยค่ะ เวลาเชคอินพร้อมกันกับแฟนค่ะ  ไม่รู้จ้องเล่นงานอะไรดิฉันหนักหนา  ตรวจวีซ่าแล้วตรวจอีก ทั้งๆที่อ่านไม่ออก (วีซ่าไม่ได้เป็นภาษาอังกฤษค่ะ) ต้องให้นั่งแปลวีซ่าให้ฟัง  แล้วยังไม่เชื่ออีกว่าที่บอกนมาถูกหรือเปล่า  แต่ถ้าเชคอินคนเดียวก็ไม่เจอ   ชีวิตมันก็แปลกๆยังงี้แหละค่ะ  ไม่ได้ดังใจในบางเรื่อง  ถือว่าเป็นรสชาติของชีวิต  เครียดไปทำไม ดิฉันพักโรงแรมต่างประเทศ ตั้งแต่ระดับ 3-5 ดาว ส่วนมากก็ไม่ได้ใส่ชื่อตอนเชคอินนะค่ะ แฟนเชคอินคนเดียวตลอดค่ะ ในโรงแรมแบบ business  แต่ถ้าเป็น holiday hotel ส่วนมากเขาขอพาสปอร์ตทั้งคู่ค่ะ จากคุณ : เจ้าเหมียวท่องโลก - [ 28 ม.ค. 52 00:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนเรายังไม่แต่งงาน เวลาจองบางโรงแรมเค้าไม่ให้คนไทยจองนะ แฟนเราจะชอบมาลงเครื่องดึกมากๆ เราต้องเข้าพักก่อน เก็บของแล้วถึงไปรอรับแฟนที่สนามบิน เราก็จะให้แฟนจองในชื่อแฟนและชื่อเราพร้อมกัน โดยเขียนข้อความไปตอนจองห้องแต่แรก ว่าเราเป็นคู่หมั้นนะ   พนักงานส่วนมากแล้วเค้าจะดีและรู้กาลเทศะ แต่ก้อจะมีบางคนเท่านั้นที่มองเราตั้งแต่หัวจดเท้า แต่พอแฟนเราแนะนำกับพวกเค้าแกจะบอกว่าภรรยาผม  เค้าก็จะมีท่าทีดีขึ้น อ้อ เราจะพักที่โรงแรมเดิมตลอดสองปี จนเค้าจำหน้าได้แล้ว อีกอย่างเวลาเราแต่งตัวหรือแสดงกิริยาก็ให้มีความสุภาพ เค้าจะได้ไม่ดูถูก จากคุณ : Cutie_May - [ 28 ม.ค. 52 00:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เคยโดนเหมือนกันตอนสมัยที่เป็นแฟนกันเวลาแฟนกลับไปไทยเราก็ไปค้างด้วยแค่บางคืนเช่น ศุกร์กับคืนวันเสาร์ วันธรรมดาที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานจะนอนบ้านตัวเองเพราะสะดวกกว่า  แต่แฟนจะพยายามหาที่พักที่มันใกล้ๆบ้านเรา แต่กระนั้นก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่โรงแรมแต่อย่างใดนะคะ เคยเจอแต่เจ้าหน้าที่สุภาพๆ เป็นมิตรดี หรือเราโชคดีเจอคนดีมาตลอดก็ไม่รู้ อย่าเพิ่งกังวลไปเลยค่ะ เปอร์เซ็นต์ได้เจอเจ้าหน้าที่โรงแรมดีๆมีมากกว่าไปเจอคนไม่ดี เชื่อเถอะ จากคุณ : hamble pie - [ 28 ม.ค. 52 01:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดิชั้นเคยพักค่ะโรงแรมนี้เลยเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วกับสามีก้อปกตินะค่ะไม่ได้มีไรหรือดิชั้นไม่ได้สังเกตุปะก้อไม่รู้ค่ะ แต่ที่มันน่าเบื่อโรงแรมนี้มากกกกกกกกๆ ก้อคือแท็กซี่หน้าโรงแรมกับสามล้อค่ะ ตื้อเรามากๆไปไหนก้อจะให้เหมาตลอดพอขึ้นไปด้วยก้อชวนเหมาไปโน้นไปนี่ พูดจนเราอยากลงเลยค่ะ พอเปลี่ยนจากแท็กซี่มาขึ้นสามล้อก้อพูดเหมือนกันอีก ชวนเราไปดูเพชรดูพลอยมีร้านโน้นร้านนี่ลดให้ชาวต่างชาติดูเฉยๆก้อได้ไม่ซื้อไม่เป็นไร   พูดแล้วเบื่อค่ะ คราวหลังสามีชวนไปพักที่นี่อีกดิชั้นบอกไม่ไปพักอีกเลยค่ะ เพราะเบื่อแท็กซี่กับสามล้อหน้าโรงแรมนี้ค่ะ จากคุณ : มาดามในยุโรป - [ 28 ม.ค. 52 01:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วมีความจำเป็นอย่างไร ในสถานะแฟนหรือสาวไทยที่ต้องเข้าไปในห้องพักของชาวต่างชาติ จำเป็นแค่ไหนหรือที่ต้องขึ้นไปในห้องทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนในสถานะที่ยังเป็นแฟน ทั้งที่ทราบดีว่าเป็นที่ลับตา ทำไมไม่เจอกันที่ล็อบบี้หรือห้องอาหารแทนในสถานะแฟน ? จากคุณ : วงแตก - [ 28 ม.ค. 52 01:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คห. 13 ทำวงแตกได้จริงๆ ^^" จากคุณ : Giggs - [ 28 ม.ค. 52 01:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้าไปอ่านกระทู้นั้นแล้วล่ะค่ะ เป็นเราๆก็ฉุนนะ แต่เอาจริงๆคุณเจ้าของกระทู้นั้นไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นไปห้องของเค้าเลย จากคุณ : pervpanda - [ 28 ม.ค. 52 02:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เวลากลับเมืองไทย หรือเดินทางไปที่ไหนก็ตาม ดิฉันเป็นคนวางแผนการเดินทางเอง ตั้งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบินยันจองโรงแรม ใช้ชื่อตัวเอง บัตรเครดิตตัวเอง เลยไม่ค่อยมีปัญหา เวลาเช็คอินสามีก็ไม่ได้มาช่วยอะไร ต่อมาพอมีลูก คนก็ไม่ใส่ใจแล้วค่ะ เรื่องโดนมองเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แม้แต่แต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว ก็ยังโดนมองในแง่ต่างๆอยู่ดี ทำใจไปแล้วล่ะว่าตัวเองเป็นเพศที่ 4 นานๆไปก็ชินไปเอง บางครั้งคนเรามักคิดไปเอง ถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ ก็เหมือนมีเกราะกำบังใจ ไม่ให้สิ่งเร้าภายนอกมาทำให้สะเทือนใจเราได้ คนไม่รู้จักเรามีสิทธิคิดได้ไปต่างๆนาๆ เราห้ามคนไม่ให้คิดไม่ได้ค่ะ พยายามทำใจตัวเองให้สงบเป็นพอ เพราะเขาเหล่านั้นไม่มีอิทธิพลในการดำรงชีวิตของเรา เจอกันแป๊บๆ ก็จากกันไป ไม่ควรเอามาใส่บ่าแบกหาม จากคุณ : yinnerella - [ 28 ม.ค. 52 02:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบ คห. 13 จำเป็นอย่างไร เป็นเหตุส่วนบุคคล   แต่ที่แน่ๆ  เพราะคนที่ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้  กร๊ากกกกก จากคุณ : มาม่าน้ำข้น - [ 28 ม.ค. 52 02:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เวลาเช็คอิน ก็เช็คพร้อมกันสองชื่อเลยค่ะ จากคุณ : สะแหลนจ้ะ - [ 28 ม.ค. 52 02:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เคยเจอเหมือนกันที่ภูเก็ต...โรงแรมฮอลิ.... (นานเกินสิบปีแล้ววว) มีเรื่องราวนิดหน่อย  ในที่สุดพนักงานต้อนรับก็ยอมขอโทษเราอย่างเสียไม่ได้  แถมยังแอบบ่นเป็นภาษาใต้อีกว่า   "ก็ตัวดำอย่างนี้  ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นผู้หญิงพรรค์นั้น" เกือบจะมีต่อยปาก (ถ้าเป็นชาย) ตอนท้ายจีเอ็มต้องมาขอโทษน่ะ  แฟนเราถึงจะยอม  แล้วก็ให้บัตรกินฟรีโน่นนี่หลายอย่างเลย แต่ท้ายสุดก็อยู่ไม่ครบกำหนดจอง  พอหาโรงแรมใหม่ได้  แฟนเราเช็คเอาท์ออกเลยค่ะ พูดถึงเรื่องคุณจขกท. ไม่ต้องไปกลัวใครคิดว่าเรายังไงหรอก  คนจะคิดมันก็คิด  จะแต่งตัวมิดชิดปิดถึงคอมันก็คิด  ยกตัวอย่างให้เห็นข้างบนไง  เพราะแค่ผิวคล้ำ  ก็คิดไปซะแล้วว่าต้องทำอาชีพนั้น เป็นตัวของเราเองดีที่สุด  เพราะลงท้าย...หากเราเป็นผู้หญิงหากินจริง ๆ  ก็ไม่ได้ไปหากินบนหัวมันนี่... จากคุณ : Amber n the Gang - [ 28 ม.ค. 52 02:24:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เวลาเจอพนักงานปฏิบัติถ่อยๆแบบนี้  ขู่ว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทเลยได้ไหมเนี่ย ฟังแล้วรู้สึก เศร้าใจจริงๆ จากคุณ : Chanin.U - [ 28 ม.ค. 52 02:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้นะ ถ้าเจอพนักงานมาพูดแบบนี้เราคงด่าเปิงไปแล้ว แฮ่ๆ จากคุณ : Scooterella - [ 28 ม.ค. 52 02:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่ใช่แฟน  ทำแทนไม่ได้   5555555++++ จากคุณ : sUnTaO - [ 28 ม.ค. 52 04:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห.13 งี่เง่าไปหน่อยรึเปล่า แล้วทำไม หญิงไทย ถึงจะห้ามเข้าล่ะ เขาไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นหรอ การกระทำใดๆที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ถ้าเขาพอใจที่จะทำแบบนั้น ย่อมไม่ผิดต่อใครทั้งนั้น จากคุณ : ...เอาเถอะ - [ 28 ม.ค. 52 05:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เอ่อ อันนี้ไม่ได้ดูถูกดูแคลนอะไรนะคะ เเต่โดยมากเกิดกับโรงเเรม ที่แขกส่วนมากมาพักแล้ว หิ้วหญิงบริการมาใช้ห้องด้วย เเล้วคนพวกนี้มักลักไก้โรงแรม แบบจองห้องเดี่ยว แต่ใช้ห้องคู่น่ะค่ะ โรงแรมพวกนี้ราคาถูก แขกก็เอาเปรียบเขาบ่อยครั้งมาก จนเขาต้องมีโพไลซี่หยาบคายแบบนี้ แขกพวกนี้มันก็ไม่ย่อยค่ะ พวกโรงเเรมแมนฮัตตัน ย่านสุขุมวิทก็เป็นแบบนี้ค่ะ โรงเเรมประมาณ หนึ่งดาว พนักงานเขาก้ดีลกับผู้หญิงบริการที่ติดตามมากับแขกบ่อย ที่จำได้เพราะตอนกลับเมืองไทย มีเพื่อนต่างชาติมาพักโรงแรมนี้ นัดแนะกันพอไปรอ เขาถามว่าถ้าจะขึ้นห้องต้องจ่ายเงินก่อน น่าโมโห โรงเเรมสี่ดาว ห้าดาวเขาไม่มีจุกจิกแบบนี้ นอกจากจองห้องเดี่ยว แต่มีคคนเพิ่มกินข้าวเช้าด้วย อันนั้นต้องจ่ายค่าอาหารเพิ่ม ก็เท่านั้น จากคุณ : mrs.night owl - [ 28 ม.ค. 52 06:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ต้องกังวลคะจขกท. ถ้าเจอแบบนั้นจิงๆก็งัดกันไปเลยว่าจะเอาไง ถ้ามีท่าทางกวนteen พูดจาไม่ดี ก็ขอคุยกับเมเนเจอไปเลยค่ะ ใครจะมองยังไม่ต้องไปสน เรามีสิทธิ์ของเรา ดิฉันไม่ค่อยได้สนใจแต่ถ้ามาพูดจาสกิดต่อมดิฉันก็ไม่ไว้หน้าพนักงานคะ จากคุณ : michigirl - [ 28 ม.ค. 52 06:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ก็ทำตัวเป็น แขกของโรงแรม เป็นลูกค้าสิคะ ก็เราเป็นจริงๆ นี่ มีปัญหาก็มาคุยสิ  ชั้นจะกินข้าวเช้าด้วย ตามสิทธิของชั้น ชั้นจะเอารถมาจอดในที่ๆ คุณให้แขกจอด ชั้นก็ใช้บริการเหมือนกัน แค่ชั้นกลับไปนอนบ้านตัวเองแค่นั้นเอง คนทำโรงแรมต้องมี service mind ลองมาหาว่าชั้นเป็น ญ อย่างว่า เด๋วแม่จะโวย 5555 เงินชั้น (หรือแฟนชั้น) จ่ายไปสำหรับสองคนนะ เวลากรอกในเว็บ คุณไม่ได้ให้ใส่ชื่อ guest นี่  (บางโรงแรมให้ระบุ ก็ระบุุไป) เรื่องมากนัก เดี๋ยวไปเขียนลง Tripadvisor เลย ฮึ่ม จากคุณ : lych (Lych) - [ 28 ม.ค. 52 09:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนตัวคิดว่าถ้าเราสามารถจองโรงแรมเองได้ก็จะจองเป็นชื่อเราเองร่วมกับ แฟน ตอนนั้นกลับเมืองไทยก่อนแฟน แฟนตามไปทีหลังและน้าก็จะมา จากนอกไล่เลี่ยกับแฟนด้วย เราก็ไปจองโรงแรมไว้ก่อนแฟนกับน้ามา และ เสียค่าจองมัดจำไป จองเป็นชื่อเราคนเดียวนี้แหละ ไม่แน่ใจเพราะจองไว้ 3 ห้อง ให้เรากับน้า และแม่กับพี่สาว พี่ชายไปรับน้าและต้องค้างที่โรงแรม ก่อนจะไปต่างจังหวัด แต่เราชอบที่นี่นะมันเล็กๆ และใหม่ พึ่งสร้างไม่กี่ปี และอีกอย่าง ชินกับที่นั้นเพราะเคยอยู่แถวประตูน้ำมานาน การบริการก็ดี แถมยืมจานชามเวลาซื้อกับข้าวมากินได้ด้วย ข้อเสียคือน่าจะใกล้ BTS หน่อย แต่พูดถึงเดินไปเซ็นทรัลเวิลด์สบายดี มาพูดถึงเรืองกลัวคนคิดว่าอย่างงั้น เราก็ไม่ค่อยจะแคร์มากคิดว่านะ ให้คนไทยด้วยกันดูถูกยังดีซะ กว่า อย่างน้อยก็ไทยด้วยกัน เพราะตอนนี้เราอยู่เมืองแขกความคิดพวกนี้ดูถูกหัวดำ บางทีมองนะกวนมากดูถูกโคตรๆ ผู้หญิงด้วย เวลาเราเดินกับ แฟน ก็เลยอยากบอกว่าเออขอโทษนะค่ะที่ดิฉันแต่งกับฝรั่ง ขอโทษนะค่ะที่ไม่ได้เป็นฝรั่งเหมือนแฟนเลยดูแปลก แต่อยากบอกว่ารักต่างเผ่าพันธ์มัน เป็นไปได้ และไม่ว่าแฟนดิฉันเป็นคนชาติอะไรดิฉันก็จะแต่งด้วยถ้าดิฉันรักไม่จำเป็นต้องเป็นฝรั่ง แต่พอดีว่าคนที่คิดว่าใช่เป็นฝรั่งคนนี้ และอีกอย่างคือ ดิฉันพลาดคนไทยคนนั้นที่น่ารักไปแล้วเพราะหลงโง่ไปชอบคนไทยอีกคนและเลือกคนนั้น สุดท้ายมันทำเราเจ็บอย่างแสนสาหัส คบกับคนไทยอื่นก็ไม่เวิร์ค มาคบกับญี่ปุ่นก็ท่าทางเหมือนมีเมียแล้วมาคบกับเราเปล่าวะ เลยบอกเลิกไปเลย มาคบกับคนฝรั่งเศสมันโคตรดีเลยโคตรดีกับผู้หญิงคนอื่น มากๆ มันฟันดะแม้แต่เพื่อนเรามันก็อยากฟัน ส่งสายตาเจ้าชู้สุดๆ จนเราทนไม่ได้ และเราก็มาเจอคนที่เราคิดว่าใช่อยากแต่งงานด้วยจังเลยคือฝรั่งอเมกันคนนี้ก็เลยเป็นรัก ต่างสีผิว ต่างเผ่าพันธ์ให้บางคนมองอย่างดูถูก และที่นี่จะยกย่องฝรั่งมากๆๆๆ ฝรั่งเป็นพระเจ้า มัน็เลยไม่ค่อยเห็นหัวเราเท่าไหร่ และอีพวกดำปื้ดบางตัวหรือนิโกรนะ มันไม่ค่อยมีเซอวิสไมด์เลย ตัวก็ดำใจยังดำอีก เราชักเริ่มไม่ค่อยชอบที่นี่แล้วดิ แฟนเราก็ด้วย ตอนแรกก็ดีใจ สุดๆ ได้ย้ายออกจากอเมกา ตอนนี้ชักยังไงซะแล้วเฮ้อ อเมกาคงจะฟรีด้อมกว่ามั้ง จากคุณ : naka - [ 28 ม.ค. 52 10:19:54 A:91.72.78.94 X: TicketID:202044 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วางตัวดีๆ แต่งตัวดีๆ ค่ะ ให้แฟนแจ้งไว้ด้วยค่ะ ว่าเดินทางมาเยี่ยมคนรัก และจะเข้าพักด้วยกัน แสดงตัวตั้งแต่วันเช็คอินเลยค่ะ ให้เขาระบุไว้เลย พนักงานกะอื่นๆ เขาจะได้รู้ด้วย จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 28 ม.ค. 52 10:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอเล่าประสบการณ์ ในฐานะ คนมีแฟนฝรั่ง แล้วก็ไปเข้าพัก รร. (ในประเทศไทย) ขอย้ำว่า ในประเทศไทยนะคะ ไปประเทศอื่นไม่มีปัญหาค่ะ ครั้งนึง(ที่จริงมีหลายครั้ง) ไปเที่ยวสมุย แฟนจอง รร. แล้วก็ใส่ชื่อเราไปด้วย (มีหลักฐานยืนยันค่ะ) พอแฟนบินมาถึงเมืองไทย เราก็บินไปสมุย แฟนรอรับที่สนามบินสมุย เราก็ไปเช็คอินพร้อมกัน เวลานั้นก็ดึกแล้ว พนักงานต้อนรับที่โรงแรมนั้น ก็ดูให้การต้อนรับดีมาก คุยกับแฟนเราจ้อเชียว เราก็นั่งฟังยิ้ม ๆ แต่พอถึงขั้นตอนเช็คอิน เจ้าหล่อนดันหันมาถามเราเป็นภาษาไทยว่า "คุณจะพักกับแขกรึป่าวคะ" สะอึกเลยอิชั้น (ตอนนั้นเกิดอาการไม่แน่ใจว่าแฟนจองและใส่ชื่ออิชั้นจริงรีป่าว มาไล่เรียงทีหลัง) แต่มันสมควรหรือที่พนักงานของโรงแรม มาถามแบบนี้ ก็เห็นอยู่ว่าเรามาด้วยกัน พร้อมกัน มีกระเป๋าเดินทางมาด้วยคนละใบ ถามมาได้ คงเห็นสีหน้าอิชั้นเจื่อน ๆ เลยรีบกลบว่า ไม่ใช่อะไรค่ะ คือ เห็นในพาสปอร์ตว่า ไม่ได้บินมาจากเยอรมันด้วยกัน แน่... สอดรู้ อวดฉลาดอีก ตอนนั้นอึ้ง ตอบไปคำเดียวว่า ค่ะ (แต่กะว่าจะไปถามแฟนทีหลัง) แต่พอเข้าที่พักแล้วก็ลืม ๆ ไปไม่ได้ถามอีก แต่ 3 วันต่อมาเกิดเรื่องอีก ออกไปเที่ยวผับกับแฟน กลับเข้ามา รร. กลางดึก ก็ไปขอรับกุญแจเข้าห้อง เจอถามว่า "เอ่อ... คุณเพิ่งมากับแขก รึว่า..." ไม่ปล่อยให้ถามจบค่ะ อิชั้นหันขวับขึ้นจ้องหน้า ตาเขียวทันทีเลยทีนี้ ตอบแบบเน้น ๆ ว่า เข้าพักที่นี่พร้อมกับแฟน 3 วันแล้วค่ะ แล้วหน้ามุ่ยตาขุ่นจนกระทั่งถึงห้อง แฟนถามเป็นอะไร ทีนี้เราเลยไล่เช็คบิล ตั้งแต่ถามว่า จองเข้าพักที่นี่ใส่ชื่อเราด้วยจริงรึป่าว ชั้นเจอคำถามตั้งแต่วันเช็คอินแล้วนะ ทีนี้กลับกัน แฟนโกรธหน้าแดงเลย จะลงไปเอาเรื่องตอนนั้นให้ได้ ก็เห็นด้วยนะ ว่าการแต่งตัว การวางตัวดี ๆ ก็มีส่วนช่วย แต่ก็ใช้ไม่ได้ผลไปทุกที่หรอก บางทีแค่มองเห็นเราเป็นผู้หญิงไทยตัวดำ ๆ ตามสเป็คฝรั่ง มันก็ไม่คิดในแง่ดีแล้ว อันนี้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร สุดแต่ใครจะคิดยังไงก็ได้ แต่พนักงานโรงแรมพวกนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ จะมาแสดงกิริยา หรือใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมกับเราซึ่งอยู่ในฐานะแขกคนนึงเหมือนกัน อยากบอกผ่านกระทู้นี้ ไปถึงเจ้าของกิจการผู้ให้บริการทั้งหลายนะ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หรือร้านอาหาร ว่าให้อบรมพนักงานที่มีหน้าที่ให้บริการให้ดีด้วย เวลาที่เห็นฝรั่งไปกับหญิงไทย อย่ามุ่งสอพลอประจบแต่ฝรั่งแล้วทำไม่เห็นหัวผู้หญิงไทย นั่นไม่ได้ทำให้ฝรั่งปลื้มแล้วจะได้ทิปเยอะ ๆ นะ ขอบอก คนพิจารณาจ่ายทิปอยู่นี่ค่ะ ไม่ว่าในหัวสมองของพนักงานพวกนี้จะคิดต่ำช้ากับผู้หญิงไทยที่ไปกับฝรั่งแค่ไหน ก็ขอให้อบรมว่า ให้เก็บอาการไว้ให้มิดชิดเถอะ หลายครั้งที่แฟนเราไม่ปลื้ม พูดให้หน้าม้านไปก็หลายหน เช้า ๆ ลงมาเบรคฟัส เจอทักแต่ กุ๊ดม๊อร์นิง เสอ แฟนถามว่า ทำไมไม่กุ๊ดมอร์นิ่งมาดาม มั่ง ทำหน้าปูเลี่ยนๆ กัน รู้นะว่ามันกระอักกระอ่วน ที่ต้องทำเป็นมีมิตรไมตรี กับผู้หญิงที่ตัวคิดว่าเป็นผู้หญิงพรรค์นั้น แต่มันเป็นหน้าที่ ถ้ามันลำบากใจมากก็ควรไปหางานอย่างอื่นทำ ทุกวันนี้ก็ยังมีเรื่องอยู่ประปราย แฟนก็จะถามหาผู้จัดการอย่างเดียว อิชั้นก็เหนื่อยใจ ไม่อยากให้เป็นเรื่องหรอกถ้ามันไม่หนักหนาจนเกินไป จากคุณ : ยัยถึก - [ 28 ม.ค. 52 12:36:11 A:192.168.182.75 X:124.120.182.181 TicketID:180164 ]

ความคิดเห็นที่ 31 งี่เง่า เชียวหรือสำหรับความเห็นของผุ้ถามในกรณีถึงความจำเป็นที่ต้องเข้าไปอยู่ในห้องที่ลับตากับบุคคลที่มิใช่สามีหรือคนในครอบครัว เนื่องจากคำสอนของผุ้หลักผู้ใหญ่ให้พึงระมัดระวังและหลีกเลี่ยงในการเข้าไปอยู่กับบุคคลที่มิใช่สามีหรือคนในครอบครัว ซึ่งผู้ถามก็เห็นว่าเป็นสิ่งดีงามของวัฒนธรรมไทยที่ชี้แนะกันมา การเข้าไปพบกับบุคคลในโรงแรมไม่เป็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่ถ้ามีความจำเป็นอย่างกรณีของคุณมาม่าน้ำข้น มันจะเป็นการขัดแย้งกับวัฒนธรรมอันดีงามของที่ผู้หลักผุ้ใหญ่ได้ชี้แนะต่อลูกหลานหรือไม่ ผู้ถามได้อ่านหลายความเห็น ไม่ได้รับเกียรติเท่าที่ควรในกรณีเข้าไปพบกับบุคคลที่มิใช่สามีหรือบุคคลในครอบครัว การวางตัวของเราด้วยหรือเปล่าที่ทำให้เขาปรามาสเราได้ เพราะคุณค่าของคนเรามิได้อยู่ในสถานที่ลับตา แต่อยุ่อย่างไรให้มีคุณค่าและได้รับการยอมรับทั้งที่คนเข้าพบและสังคม เพราะเราทุกคนก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาเหมารวมใช่หรือไม่ จากคุณ : วงแตก - [ 28 ม.ค. 52 13:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอาประสบการณ์มาแชร์ค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์กับ จขกท บ้าง ดิฉันมีประสบการณ์ที่แย่ๆอยู่ 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ดูเลวร้ายมากนัก ประสบการณ์ที่ดี น่าประทับใจอยู่ 1 ครั้ง เอาแย่ก่อนแล้วกัน ครั้งแรก ไปพักที่ รร. ในซอยสุขุมวิท 11 เพราะใกล้ที่ทำงานเก่าของคุณสามี เพราะคุณสามีต้องไปเคลียร์งานให้เสร็จก่อนเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน ตอนเช็คอินก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาเล็กๆ เกิดขึ้นตอนกำลังเช็คเอ๊าท์ค่ะ เหตุเกิดตอนที่ดิฉันเช็คเอ๊าท์ และคุณสามีกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องกระเป๋าเดินทาง ดิฉัน... เช็คเอ๊าท์ค่ะ พนักงาน... ไม่ทราบแขกของคุณชื่ออะไรค่ะ ? (ด้วยสีหน้าธรรมดา) ดิฉัน... ไม่พูดอะไร ระหว่างการสนทนา คุณสามีก็เสร็จจากหน้าที่ของตัวเองแล้วเดินกลับมาหาพอดี พร้อมกับ พนักงานอีกคนเดินกลับมาที่เค้าเตอร์แคชเชียร์ (คาดว่าน่าจะตำแหน่ง ใหญ่กว่าคนที่กำลังสนทนาอยู่กับดิฉัน) แล้วพนักงานคนเดิมก็ได้ส่งบิลค่าห้องให้คุณสามีดิฉัน คุณสามี... ยื่นบิลกลับมาให้คุณภรรยา พร้อมกับพูดว่า... คุณสามี...ภรรยาผมเป็นคนจ่ายครับ (บอกเป็นนัยว่า ผมไม่มีเงินจ่าย เธอคือผู้ดูแลเรื่องเงินทอง) พนักงาน รร. (คนแรกที่มีการสนทนากับดิฉัน) หน้าจืดลงสนิท พร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงาน แล้วทำหน้าเหมือนรู้ว่าตัวเองทำอะไร..พลาด..ไป แล้วพนักงานคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก็รีบกระตือรือร้นจัดการใบเสร็จ และเงินทอนให้ พร้อมกับรอยยิ้มและคำว่า..ขอบคุณค่ะ ส่วนพนักงานคนที่สนทนากับดิฉัน เธอก็ยังอยู่ในท่าทีของอาการ เอ๋อออออออ หน้าจ๋อย ! และยิ้มแบบ..เอ๋อๆ จ๋อยๆ ครั้งที่สอง ไปพักที่ รร. ในซอยข้างห้าง ดิเอ็มโพเรี่ยม เคยมาพักที่นี่สองครั้ง เพราะคิดว่าใกล้ห้าง ดิเอ็มโพเรี่ยม ก็กะว่ามาช๊อปที่นี่ เวลากลับมาจากต่างประเทศ และใกล้กับสถานทูตที่เราต้องต่อวีซ่าด้วย ทุกครั้งที่พัก ดิฉันเป็นคนจอง รร. เองตลอด เพราะสามียุ่งกับการทำงาน เลยยกหน้าที่ต่างๆให้ภรรยา และในการจอง ดิฉันใช้ชื่อทั้งสองคนตลอด ตอนนั้นยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุล ทั้งในบัตรประชาชนและพาสปอร์ต เพราะยังไม่ หมดอายุ ทุกครั้งที่มาพักคือ กลับมาจากต่างประเทศ ครั้งแรก.. ไม่มีปัญหาอะไร บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ครั้งที่สอง.. บริการก็ยังคงดีเหมือนเดิม แต่...ปัณหาเกิดตอนหลังจากกลับมาจากไปทานข้าวเย็นข้างนอกมา ตอนกำลังจะขึ้นลิฟท์ไปห้องพัก มี เจ้าหน้าที่ รปภ ยืนอยู่หน้าลิฟท์ รปภ.. ขอบัตรประชาชนด้วยครับ เรา.. มีอะไรหรือเปล่าคะ ? รปภ.. อ๋อ ถ้าแขกพาคนมาพักด้วย ต้องขอบัตรประชาชนครับ เรา.. อ๋อ ดิฉันก็เป็นแขกของ รร. ค่ะ มาพักที่นี่กับสามี จอง รร. ในนาม ของดิฉันและสามี       คุณช่วยไปเช็คที่เค๊าท์เตอร์ทีนะคะ รปภ ขอร้องให้รอระหว่างที่ไปเช็ค เรากับสามีก็รอ ซักพักคุณ รปภ เดินกลับมา รปภ..ขอโทษครับ ที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะมีแขกพาผู้หญิงมาพักด้วย คือมันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ เรากับสามีก็ยิ้ม แต่ก็อดเสียความรูสึกไม่ได้ พอขึ้นไปห้องคุณสามีก็กดโทรศัพย์ลงมาคุยกับรีเซ็ปชั่นนีสข้างล่าง ว่า..มีเหตุการอะไรเกิดขึ้น และบอกกับทาง รร.ว่า.. ทาง รร.คุณน่าจะมีการเช็คและเจ้าหน้าที่ของ รร.คุณ น่าจะมีการเช็คและรับรู้ก่อนปฎิบัติหน้าที่ว่า มีแขกมาพักห้องนี้ ห้องนั้นกี่คน ใครบ้าง หญิง, ชาย ? เพราะมันจะดีกว่านี้เยอะ และไม่ทำให้แขกที่มาพักอย่างเราต้องเสียความรู้สึก ถ้า..คุณไม่มาสุ่มเอาว่าใครคือแขก หรือใครคือแขกรับเชิญ (จากแขกของ รร. คุณ) !!! เจ้าหน้าที่ตรงรีเช็ปชั่นก็น้อมรับฟัง และกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาฟังประสบการณ์ดีๆ ค่ะ ตอนนั้นยังทำงานออฟฟิตอยู่ กับบริษัทแห่งหนึ่งแถวเพชรบุรีตัดใหม่ มีเพื่อนชาวต่างชาติมาเมืองไทย ก็นัดให้ไปเจอที่ รร. เชอราตัน แถวๆสุขุมวิท ดิฉันก็ไปพบเพื่อน (ยังอยู่ในชุด ออฟฟิต มีแฟ้มงานติดมือไปด้วย) และก็ต้องขึ้นไปพบเพื่อนที่ห้องของเขา    พอเดินเข้า รร. เจอกับบริการที่น่าประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก พอจะไปขึ้นลิฟท์ พนักงานก็ไม่ถามว่ามาหาใคร ? หรือขอบัตรประชาชนแต่อย่างใด !!! พนักงานยืนอยู่หน้าลิฟท์ก็สุภาพ ยกมือไหว้ สวัสดีครับ พร้อมโค้งงามๆ และถามว่า..จะไปชั้นไหนครับ? พร้อมกับ กดลิฟท์บริการด้วย และทั้งสองครั้งที่ไปพบเพื่อน คือครั้งแรกไปพบและขึ้นไปหาที่ห้องเขา ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ครั้งที่สองเขานัดทานข้าว เลี้ยงอาหารเย็นที่ห้องอาหารใน รร. ก็ไม่มีปัญหาอะไร บริการดี พนักงานสุภาพ ต้องขอชมด้วยว่า เชอราตัน บริการดีและทำให้เราประทับใจมาก ทุกๆครั้งที่ดิฉันต้องย่างกรายเข้าพักใน รร. ดิฉันก็แต่งตัวสุภาพปกติดี ไม่เคยใส่สายเดี่ยว หรือแต่งตัวโป๊รัดรูปหรือดูล่อแหลมแต่อย่างใด อย่างที่หลายๆคนข้างบนบอก การแต่งตัว การวางตัวของเรา มันก็มีส่วนให้คน มองเรา และก็อย่างที่คุณ yinnerella บอก ว่า..ถ้าคนเขาจะมอง เขาจะคิดดูถูก ถึงมีลูกแล้วมันก็ยังไม่วายที่จะมอง จะคิดกับเรา ไปต่างๆนาๆ   สุดท้าย อยากจะบอกว่า.. ขอให้ตัวเราเป็นคนคิดดีทำดี เชื่อมั่นว่า..เราทำดีที่สุดแล้ว เราไม่ทำให้ตัวเอง ผู้อื่น และสังคมเดือดร้อน ก็พอ ! ส่วนใครจะคิอะไรกับเรานั้น ช่างเขา เราไปห้ามเขาไม่ได้ โชคดีนะคะ จขกท อย่าคิดมาก จากคุณ : Mc Menaa - [ 28 ม.ค. 52 13:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณยัยถึกเหมือนกันเลยค่ะ ที่อยู่ตอนนี้ที่เมืองแขก พักอยู่เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ก็เป็นเหมือนกันมีแต่กู๊ดมอร์นิ่งเซอ ไม่มีหรอกมาดาม หรือเป็นทำเนียมของประเทศนี้นะที่ทักแต่ผู้ชาย หรือว่าเพราะเราคือหัวดำเลยDiscrimination ครั้งล่าสุดกลับจากข้างนอกเดินผ่านคุณดำเจ้าหน้าที่ตรงที่จอดรถ เราเดินขึ้นห้องคนเดียวไม่มีการทักมองหน้าเราอย่างเดียวไม่ยิ้ม เราน่าจะแอบฟังว่าถ้าฝรั่งที่เป็นคู่เดินผ่านมานจะกู๊ดมอร์นิ่งเซออย่างเดียว หรือกู๊ดมอร์นิ่งมาดามด้วย ถ้าเรารู้ว่าDiscrimination จะพูดตอกกลับลอยๆให้หรือตรงๆไปเลย ถ้ามองหน้าอย่างยายดำกะว่าจะพูดว่า What the f_ck are you looking for? บางทีมันทำให้เราแบบว่าอย่างร้านอาหารข้างล่างนี่เวลาเราไปคนเดียวเขาอยากจะต้อนรับเราไหมนี่เพราะไปกับแฟนตลอด ยังไม่เคยไปคนเดียว นี่ก็กะว่าจะให้แฟนโทรไปขอบริษัท ขอย้ายไปที่อื่นได้ไหม เพราะถ้าเป็นอพาร์ทเม้นท์อย่างเดียว มันไม่มีพนักงานโรงแรมเกลื่อนกลาดเหมือนโรงแรมมีแค่ตรงLobby และอาจจะไม่ต้องคิดมากว่ามัน เลือกปฏิบัติไหม เพราะเรากับแฟนเคยไปเยียมห้องเพื่อนเขาที่บริษัทจัดให้ก็เห็นเขายิ้มไม่มีคำทักทายเป็นพิธีรีตองอะไร คิดไปเองเปล่าเนี่ย ยังไงก็ขอให้เขาดีกับเราด้วยเถอะ และต่อไปแฟนอาจจะไม่ค่อยได้ไปไทยกับเราเท่าไหร่ เราก็ลัลลาไม่มีใครมอง จากคุณ : naka - [ 28 ม.ค. 52 16:43:33 A:91.72.78.94 X: TicketID:202044 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ naka จริง ๆ แล้วยัยถึกไม่ได้สนใจเลยนะ ว่าพวกเค้าจะทักหรือไม่ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะสำคัญอะไร ไม่ต้องการให้ใครมาแสดงท่านอบน้อมใส่เหมือนที่เห็นพวกเค้าทำใส่ฝรั่งหรอก แต่คุณแฟนนั่นแหละ ที่ไม่ยอม บอกว่า เมื่อให้เกียรติเค้า ก็ต้องให้เกียรติผู้หญิงที่ไปกับเค้าด้วย ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นโสเภณีหรือไม่ก็ตาม เกียรติของความเป็นคน และเป็นลูกค้าของโรงแรม ต้องเท่ากันค่ะ นี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ยัยถึกต้องตัดสินใจจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลแฟน เพราะตั้งใจว่าจะกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ เวลาเช็คอินเข้าพักในโรงแรม จะได้ไม่มีปัญหามากนัก อ้อ.. ลืมบอก จขกท.ว่า ช่วงแรก ๆ ก็ต้องทำใจหน่อย เหมือนยัยถึกช่วงคบกับแฟนใหม่ ๆ จิตตกไปเยอะเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้ว ดีชั่วตัวเรารู้เอง ไม่ต้องไปสนใจชาวบ้านหรอกค่ะ จากคุณ : ยัยถึก - [ 28 ม.ค. 52 17:30:10 A:192.168.182.75 X:124.120.188.127 TicketID:180164 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องขอบคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ สำหรับทุกท่านที่สละเวลามาตอบนะคะ ทุกคคห เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเชียวค่ะ  ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่หลายๆ คนได้เจอะเจอและ เล่าให้ฟังนะคะ บางครั้งโรงแรมน่าจะมีpolicy ที่ดีกว่านี้นะคะ อย่างหลายท่านว่า ว่าหลายโรงแรมก็ไม่เป็นเช่นนั้น แล้วแต่ระดับของโรงแรม แฟนจะเข้าพักโรงแรมแถวๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าอย่างไรแล้วจะกลับ มาเล่าให้ฟังนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นกับดิฉันกันบ้าง   เรื่องการแต่งกายนั้นดิฉันไม่เป็นห่วงเลย เพราะว่าโดยส่วนตัวจะไม่ไช่คนเปรี้ยว  และไม่เคยนุ่งสั้นเวลาเดินด้วยกันกับแฟนที่เมืองไทย  เพราะรู้ตัวว่าแต่เดินกับฝรั่งก็เป็นจุดสนใจมากพออยู่แล้ว คงไม่เน้นความสนใจของสายตาผู้คนด้วยการแต่งกายให้ล่อแหลมเข้าไปอีก แต่จะเน้นการแต่งกายที่ดูดี มีสไตล์แทน แต่เรื่องใน รร นั้นบางครั้งคิดว่ามันคงอึดอัด เพราะเราต้องอยู่ที่นั่นตลอดทริปที่แฟนอยู่ เดินผ่านลอบบี้ทุกครั้งก็คงรู้สึกแย่ เมื่อโดนสายตาม และคำพูดที่ไม่สมควร ขั้นแรกดิฉันคงต้องให้แฟนทำจองชื่อให้ด้วยอย่างที่หลายท่านว่าไว้ ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆ ท่านด้วยความจริงใจค่ะ แล้วจะมา up date  นะคะ เดือนหน้านี้จะมาเล่าค่ะ จากคุณ : South East Bangkok - [ 28 ม.ค. 52 17:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไง  หากคนมันจะดูถูกว่ามากับฝรั่งมันก็ดูถูก เราเองนี่แหละ  ตอนยังอยู่ไทย เพื่อนฝรั่งไปพักโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งริมถนนสุขุมวิท เราพึ่งเสร็จจากงานแถลงข่าว  ก็แต่งชุดทำงานนั้นแหละ แวะไปหาเืพื่อนตามที่นัดกันไว้ ไม่ได้ขึ้นไปหาบนห้องด้วย   ตอนลงจากรถไฟฟ้าก็โทรไปบอกเพื่อนแล้ว   ว่ามาถึงแล้วนะ กำลังจะเข้าไป ให้ลงมาได้เลย  แล้้้วเพื่อนลงมาหา เพื่อนชวนไปกินข้าวด้วยกันก่อน ที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งนั้น   ก็เอ้า  ไปกินข้าวด้วยกัน ผลคือ  ไปเจอกับสายตาสะกัดดาวรุ่งจากพนักงานเสริฟบนห้องอาหารยอดตึกนั้นแหละ กริยาที่เขาแสดงออกกับเรา มันบ่งบอกให้เราเห็นเลยด้วยว่าเขาดูถูก ดูแคลน ตั้งแต่ตอนเริ่มสั่งเครื่องดื่ม อาหาร  เอามาเสริฟ  วางแก้วน้ำให้เรานี่ก้นแก้วแทบแตก เราได้แต่งมองหน้ากันไปมากับเพื่อนเรา   เพื่อนเรายังพูดติดตลก "เขาไปโกธรใครมา" เลยรีบกินๆ กันให้เสร็จ  แล้วออกจากสถานอโคจรนั้นให้เร็วที่สุด อะไรกัน เป็นผู้หญิงไทยมากับชาวต่างชาติ  ต้องหมายหัวกันไว้เลยหรือว่า "เชิญดูถูกได้ตามอัทยาศัย" สำหรับเรา ทัศนคติของคนมันเปลี่ยนยาก   เลยบอกตัวเองว่า  "ช่างแม่มมัน" โมโหไหม?  โมโหสิ  แต่ก็  "ช่างแม่มมัน"  จะให้เราไปออกงิ้วแว๊ดๆ มันก็ไม่ได้อ่ะ เพราะคนพวกนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนทัศนคติหรอก ที่สำคัญ เราไม่ได้เป็นอย่างที่มันคิดนี่หว่า หน้าที่การงานเราดีกว่าคนๆ นั้นตั้งเยอะ  (อ๊ะ  มันมองเราแบบดูถูกเราก็ดูถูกมันบ้าง ถือว่า  วินๆ ล่ะกันนะ) แต่จะำทำอะไร ไปที่ไหนในที่สาธารณะกับเพื่อนฝรั่ง  ก็ต้องระวังและเซฟตัวเองให้มากที่สุดล่ะ นี่ก็ยังไม่เคยไปเมืองไทยกับแฟน  แต่คงไม่มีปัญหาเรื่องโรงแรมหรอก เพราะคงไปพักบ้านแม่  แต่ถ้าต้องเจอสายตาอำมหิตพวกนั้นในสถานที่อื่นๆ ก็คงจะบอกตัวเองเหมือนเดิมคือ  "ช่างแม่มมัน"  ใส่ใจไปก็เท่านั้นแหละ  เงินเดือนไม่ขึ้นสักหน่อย  หุหุ จากคุณ : soulfighter - [ 28 ม.ค. 52 18:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เคยเจอเหมือน คหที่ 32 เลยค่ะ แต่พอดิฉันเป็นคนหยิบคีย์การ์ดออกจากกระเป๋า เบลบอยอีกคนเลยตะโกนบอกเพื่อนเขาที่กำลังจะเข้ามาตะครุบประตูลิฟท์ไม่ให้มันปิด ว่า เฮ้ย แขกโว๊ย แขก รร. ดิฉันก็ทำเป็นถามว่า มีอะไรหรือคะน้อง เขาก็ว่า ขอโทษครับ ขอโทษ ไม่มีอะไรครับ นึกว่าไม่ใช่แขกของ รร. การเช็คเนี่ย น่าจะมีเทคนิคกันสักหน่อย ไม่ใช่เดินโทงๆ เข้ามาถามยังกะทำงาน ตม. เป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร  ดิฉันไปหาลูกค้าที่โอเรียนเต็ล ประทับใจมาก ระหว่างนั่งรอ ก็มีพนักงานเข้ามาถาม แล้วก็นั่งย่อตัวลงค่ะ ไม่ได้ยืนค้ำหัว ทั้งๆที่ดิฉันอาจอายุน้อยกว่าด้วยซ้ำ เธอถามว่า ขอโทษนะคะ รอใครเหรอคะ ไม่ทราบว่าอยู่ห้องไหนคะ ติดต่อได้หรือยังคะ  เผื่อจะได้โทรตามให้ แล้วระหว่างรอ จะรับเครื่องดื่มอะไรไหมคะ ทางบาร์เรายินดีบริการค่ะ เท่านั้นล่ะค่ะ ประทับใจมากกก เขาช่างมีวิธีถามได้น่ารัก พนักงานก็หน้าตาดี สมควรแล้วที่ได้ห้าดาว อ้าวนอกเรื่องละ คิดเหมือน คคห อื่นๆนะคะ ก็รวมไปสองชื่อเลย หรือคุณไปเช็คอินด้วยซะเลยก็ดีค่ะ ไปให้พนักงานต้อนรับเห็นหน้าซะเลย จากคุณ : ZOMG - [ 28 ม.ค. 52 18:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เรากับแฟนไปพักโรงแรมดังๆ แถวดอนเมือง สุวรรณภูมิ สุขุมวิท ยังไม่เคยโดนดูถูกเลย เราเองไม่ใช่คนแต่งตัวดีมีคลาสอะไร เพียงแต่งตัวธรรมดา และวางตัวให้เหมาะสม ก็ไม่น่าจะมีปัญหา หรือถ้ามีปัญหานี้ขึ้นก็ไม่ต้องสนใจค่ะ จากคุณ : Tang_Siri - [ 28 ม.ค. 52 18:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เคยมีประสบการณ์แย่ๆ กับโรงแรมฮิลตันหัวหินค่ะ   ไปรับประทานอาหารในคืนวันปีใหม่ที่ห้องอาหารของโรงแรมกับสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติกับ คุณแม่ของสามีและเพื่อนของคุณแม่สามีอีก 2 คน เราเป็นคนไทยคนเดียวในกลุ่มนั้นค่ะ    หลังจากทานอาหารเสร็จก็ตกลงกันว่าจะเข้าไปที่ผับของโรงแรมเพื่อฟังเพลง พนักงานด้านหน้าผับที่นั่นไม่ให้เราเข้า เราแต่งตัวสุภาพปกติ แต่เค้าขอดูบัตรประชาชนของเราคนเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่มาเป็นกลุ่ม   สามีเราโกรธมาก เดินไปเอาพาสปอร์ตของเราที่เป็นพาสปอร์ตต่างชาติ จากประเทศที่เราอยู่ให้เค้าดู พนักงานเปลื่ยนไป นอบน้อมขึ้น แล้วเชิญให้เข้าไปในผับ แต่สามีเราไม่เข้าไปค่ะ และพูดกับพนักงานว่า รู้สึกเสียความรู้สึกกับโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย แต่แม้แต่คนไทยก็ไม่ต้อนรับ แล้วก็เดินออกจากโรงแรมนั้นค่ะ จริงๆ ฮิลตั้นเป็นโรงแรมที่ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ    เสียความรู้สึกมากๆค่ะ ได้แต่ทำใจอ่ะ จากคุณ : เพนกวินสวีเดน - [ 28 ม.ค. 52 19:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าเป็นเรา ถ้าโดนถาม จะบอกว่า ฉันเป็นแขกที่พักที่นี่ เช็คอินท์ชื่อฉัน ส่วนฝรั่งคนนี้ ฉันหิ้วมาจากข้างถนน แถวนี้แหละ จากคุณ : silkywind123 - [ 28 ม.ค. 52 19:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ปีที่แล้ว ท่องเที่ยวกับแฟน พักมากกว่า 20 โรงแรม ทุกโรงแรม แฟนจัดการจอง (ไม่รู้จองชื่อใคร ไม่เคยถาม เห่ะๆๆ) เวลาเช็คอิน เราก็ไปยืนเกาะขอบเคาท์เตอร์กับแฟนเลยค่ะ ถ้าเค้าขอบัตรประชาชน เราก็ให้ แต่บางที่ก็ไม่ขอค่ะ ยังไม่เคยรู้สึกโดนมองด้วยสายตาเป็น ญ อย่างว่านะคะ หรือว่าดิชั้นความรู้สึกช้าไปเอง ฮ่ะๆๆ จากคุณ : HuGGie - [ 28 ม.ค. 52 20:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แหะ แหะ ที่บ้านเป็นภรรยาธิปไตย ไปไหนจองชื่่อเรา  สามีเป็นผู้ร่วมพัก ก็ต้อนรับดีทุกที่นี่คะ ทั้งในและนอกเมืองไทย ถ้าไปแบบ วอล์คอิน เราก็เป็นคนกรอกเอกสารเข้าพัก บางที่ ถ้ามัวแต่อืดอาดสามีกรอกก่อน เขาก็ขอดูบัตร ก็ให้เขาดู มีสามีต่างชาติ ห้ามคิดมาก อย่าขี้น้อยใจและกังวล พูดกับใครก็สบตาเขาไปตรงๆ มาดต้องมั่น แต่ไม่ก้าวร้าว โวยวาย อยากใส่สายเดี่ยวก็ใส่ไป อยากนุ่งมินิ ก็ไม่เป็นไร อยู่ชายหาดก็ใส่บิกินี่ จากคุณ : frechdachs - [ 28 ม.ค. 52 20:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เช็คอินพร้อมแฟนนั้น  ทางฟร้อนเค้าจะขอบัตรประชาชนเราไป ก๊อปปี้ไช่ไหมคะ หรือเค้าจะต้องขอไหมกันแน่คะ   (ขอถามเพิ่มเติมจาก คคห 41 ค่ะ) จากคุณ : South East Bangkok - [ 28 ม.ค. 52 20:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นกฎของโรงเเรมทุกแห่งล่ะค่ะ เขาจะต้องขอหลักฐานประจำตัวผู้เข้าพัก พาสปอร์ต หรือบัตรประชาชน ในกรณีคุรไม่พกพาสปอร์ต จากคุณ : mrs.night owl - [ 28 ม.ค. 52 21:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เขาขอดูได้ค่ะ แต่จะคืนให้ และไม่ควรให้เขาเอาไปก๊อปปี้ หรือเก็บไว้ เอกสารส่วนตัวคุ่ะ แต่ถ้าเขาไม่ใช่สามีภรรยา เขาอาจจะขอเก็บไว้ จากคุณ : frechdachs - [ 28 ม.ค. 52 21:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่เคยเจอคำถาม แต่อาจจะมีบ้างนานทีปีหนที่พนักงานจะต้อนรับสามีมากกว่าเรา เช่น เราถามเป็นภาษาไทย เขาก็จะไม่ตอบเรา ต้องให้เราถามกับคนอื่น เป็นต้น จากคุณ : yuy - [ 28 ม.ค. 52 21:52:27 A:124.122.193.21 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 47 " นี่ก็ยังไม่เคยไปเมืองไทยกับแฟน  แต่คงไม่มีปัญหาเรื่องโรงแรมหรอก เพราะคงไปพักบ้านแม่  แต่ถ้าต้องเจอสายตาอำมหิตพวกนั้นในสถานที่อื่นๆ ก็คงจะบอกตัวเองเหมือนเดิมคือ  "ช่างแม่มมัน"  ใส่ใจไปก็เท่านั้นแหละ  เงินเดือนไม่ขึ้นสักหน่อย   หุหุ " I have to quote K. soulfighter ah ka. So true. Haha. จากคุณ : คนรักแมวตี๋ - [ 29 ม.ค. 52 04:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พูดถึงโรงแรมแล้วจี๊ดเหมือนกัน เคยมองจากการดูถูกของพนง.โรงแรมเหมือนกัน อย่างว่าคนเราไปเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้ จากคุณ : Malibule (malibule) - [ 29 ม.ค. 52 13:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แล้วถ้าผู้ชายขึ้นไปหาผู้หญิงที่ห้องล่ะ จะโดนมั๊ยคะ สงสัยจริงๆ จากคุณ : .ar.. - [ 1 ก.พ. 52 20:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แฟนมาเมืองไทย เราจัดการพาไปพักโรงแรม แฟนกรอกชื่อตัวเอง และตลอดเวลาที่อยู่โรงแรม เราไม่เคยขึ้นไปห้องเค้าเลยคะ เค้าเข้าใจดี เราจะนัดเจอกันที่ห้องอาหารตลอด แต่พนักงานจะทักแต่แฟนตลอดเหมือนกันคะ แต่เราไม่คิดมาก เพราะไม่อยากสนใจคนอื่น เรารู้ตัวเราว่าอะไรเป็นอะไร แค่นี้ก็มีความสุขแล้วคะ จากคุณ : มิมิว - [ 3 ก.พ. 52 22:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เคยโดนเหมือนกันคะ แบบตอนแรกก็ซีเรียสมาก แฟนก็เข้าใจว่าเรารู้สึกอย่างไร ตอนไปเว็คอิน เค้าไม่ให้เราเข้าไป แฟนก็บอกว่านี่แฟนผมมาด้วยกัน ก็โอเคจบไป พอวันกลับนี่สิคะ กำลังจะไปสนามบินให้พนักงานเรียกแท็กซี่ให้ เค้าหันมาถามเราว่า จะไปกะแขกด้วยหรือป่าว เราก็ยินอึ้ง ๆ เซ็ง ๆ ส่วนเรื่งอทักทายกันนี่ไม่ต้องพูดถึงคะ ไม่มองหน้าเราเลย ทักทายแฟนอย่างเดียว เราก็แต่งตัวเรียบร้อยจะแย่แหละ ทำใจคะ ทำใจ นานาจิตตัง จากคุณ : LOVE ME@LOVE PET - [ 4 ก.พ. 52 17:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 53 จะโดนว่าไหมหนอถ้าจะบอกว่าเห็นด้วยกับคุณวงแตก เราเค้าใจคุณวงแตกนะ คิดว่าแกคงเตือนในฐานะผู้ใหญ่น่ะ จากคุณ : หัวใจใส่ชุดนักเรียน - [ 5 ก.พ. 52 03:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ....... ทำตัวตามสบาย แต่งตัวตามกาละเทศะ.... อย่าเดินกอดกันออกมาจากห้อง อย่าเดินไปลูบกันไป........ ถ้าแต่งงานกันแล้ว ก็อย่าลืมใส่แหวนแต่งงานกันทั้งคู่....... ถ้าแฟนคุณปฎิบัติกับคุณอย่างผู้หญิงที่มีคุณค่า....... ใครๆก็ไม่มองว่าคุณเป็นอย่างอื่นหรอกค่ะ............. จากคุณ : itims - [ 6 ก.พ. 52 11:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เราเคยเจอกะตัว เเต่ไม่ใช่ที่โรงเเรมอ่ะ เป็นสปอร์ตคลับชื่อดังที่พัทยา (คงรู้นะ) ขับรถจากกรุงเทพฯไปส่งเพื่อนชาวสก็อตเเลนด์ 2 คนที่นั้น และเราก็ไปกะเพื่อนอีก 2 คน ผู้ชายคน ผู้หญิงคน ตอนเพื่อนเราลงทะเบียน เจ้าหน้าที่ผู้ชายเค้าก็เดินมาคุยกะเราด้วยอาการสุภาพอ่ะนะ ว่าต้องขอโทษด้วยนะครับเเต่ที่นี้มีกฎระเบียบระบุไว้ บลาๆๆ เเต่เค้าไม่ได้พูดตรงๆว่าห้ามเอาผู้หญิงเข้าอ่ะ เราก็เเบบค่ะๆ เเต่พี่ไปคุยกะเค้าเองดีกว่านะคะ เราเข้าใจว่าเค้าจะบอกกฎของที่นั้นอ่ะ เจ้าหน้าที่ก็เดินไปคุยกะเพื่อนเราสักพัก ก็กลับออกมาขอโทษเรา เราก็แบบงงๆ อะไรเหรอ  จนเพื่อนเราเล่าให้ฟังว่าเค้ามาบอกว่าห้ามพาผู้หญิงมานอนอ่ะ แล้วเพื่อนเราก็โวยกะเค้าไปอ่ะ ว่าคุณพูดแบบนี้ได้ไง เค้าเป็นเพื่อนผม เค้าเป็นผู้หญิงดีมีการศึกษานะ เเล้วเค้าก็ขับรถมาส่งผมจากกรุงงเทพเนี้ย บลาๆๆ เเบบวีนสุดชีวิต เจ้าหน้าที่เค้าก็ขอโทษใหญ่เลย  คิดเเล้วก็ขำ เราก็แบบ ว่าเเล้วเชียว ตงิดๆ เเต่ก็ไม่ได้อะไรกะเค้าหรอกนะ เข้าใจว่ามันเป็นกฏอ่ะ เเต่เเบบเซ็งๆอ่ะ ทำไมต้องมองเป็นผู้หญิงไทยเป็นเเบบนั้นไปซะหมดขนาดเราไปกันเป็นกลุ่มนะ ยังคิดแบบนั้นได้อีก เห้อ จากคุณ : himawari_dpu - [ 6 ก.พ. 52 16:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ประสบการณ์ ที่เกิดจริงกับเราคือ เมื่อสองปีก่อน กลับไปไทยคนเดียว ก็ไปเที่ยวที่สมุยคนเดียว ตอนนั้นไม่เคยไป ก็เลยหาห้องพักแถวๆหาดแฉวง เพราะมันสะดวกที่สุด เข้าพักแล้วเช่ามอเตอร์ไซด์ เพื่อขี่แถวๆนั้น (ขี้เกียจเดินมากกก) พอตกกลางคืนออกไปหาข้าว ขนมกินนานนน ไปนิ๊ด กลับเข้ามา ยามจะไม่ให้เข้าซะงั้น บอกว่าที่นี่ไม่ให้เข้ามาหาแขก แอบปี๊ดแตก แต่หลังจากคุยกับยามแล้ว ก็ให้อภัยเขานะ เพราะว่า โดนเจ้าของสั่งมา และตอนเราเช็คอิน เขาก็ไม่เห็นเรา ไม่รู้จักเรา หลังจากรู้ว่าเรามาคนเดียวนะ อยู่หลายวัน เลยบอกสถานที่ควรเที่ยว และ แหล่งอันตรายๆ ที่ควรระวังอีก แต่ด้วยว่าอาจจะเป็นคนไม่ค่อยรู้ธรรมเนียมสังคม   หรือว่าอะไรไม่รู้ เขาไม่พูดขอโทษนะ แต่ถึงไม่พูดเราก็สามารถรับรู้ได้เองว่า เขาอาย และพูดกับเราดีมากๆๆเลย ไม่มีการดูถูก แต่กลับเป็นนอบน้อมแทน อยากให้รู้ว่า เราคือคนส่วนน้อย ที่มีตัวตนอยู่ แต่ส่วนมากเขาก็แอบเนียน แบบเราๆ ก็มี จึงอย่าถือสากับพนักงานที่เขาไม่สามารถจะเข้าใจ และเรียนรู้ ในวินาทีแรกที่เขาได้เห็นหน้าเราเลยค่ะ เราต้องอธิบาย เพื่อเขาจะได้รู้จักเรา หรือต้องทำดีกับเขา ถ้าอยากให้เขาทำดีกับเรา แต่ ถ้าอธิบายแล้วยังหาคำตอบไม่เจอ ก็วีนให้ถึงที่สุดเท่าที่จะวีนได้เลยค่ะ อิ๊ อิ๊ จากคุณ : geao - [ 8 ก.พ. 52 07:35:31 ]