|
กระทู้เล่าเรื่องส่งของไปเมืองไทย
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนส่งEMS เป็นขนม รองเท้า สาหร่าย อุด้ง ของเล่นเล็กๆไปให้หลานชายที่เมืองไทย
เขียนระบุไปว่า ของขวัญ และมูลค่าราคาของ 4000 Yen เรียกว่าเขียนตามความจริงของราคาสิ่งของ
ปรกติส่งไปสิบปี ไม่เคยต้องเสียภาษีเลย เพราะเป็นของกินของใช้เล็กๆน้อยๆ
แต่ครั้งนี้โดนเรียกเก็บภาษี 800 บาท ซึ่งถือว่ามากสำหรับค่าครองชีพที่ไทย ที่จะจ่ายกับของที่ไม่จำเป็น
ครั้งแรกที่ลูกไปรับของและต่อรองภาษี ตามที่ได้อ่านในกระทู้เก่าๆว่าสามารถต่อรองขอลดหย่อนภาษีได้
จึงกำชับให้ลูกสาวต่อรองกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ทำเรื่องขอลดหย่อนภาษีเอาไว้ ใช้เวลาพิจารณาสามวัน เมื่อวานซืนลูกสาวโทรมาบอกว่า ไปเอาของมาได้แล้ว เขาลดภาษีให้เหลือ 450 บาท
ก็นับว่ายังพอจ่ายไหว ไม่ถึงขนาดรับไม่ได้ นานๆเสียให้รัฐก็ถือว่าสมเหตุสมผล เป็นการช่วยชาติ
ที่นำมาเล่าให้ฟังนี้ก็เพราะจะได้เตือนๆท่านที่ต้องการส่งของไปเมืองไทยทางEMS ลูกสาวบอกว่า ตอนนี้โดนภาษีกันเกือบทุกคน มีมาร้องทุกข์ขอลดหย่อนภาษีกันมาก เรียกว่ากำลังเข้มงวดกวดขันของที่ส่งมาจากต่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าเป็นของฟุ่มเฟือย ต้องเรียกเก็บภาษี โดยคำนวณจากราคาที่เราเขียนหน้าถุงว่าเท่าไหร่ แล้วจะเรียกเก็บกี่เปอร์เซนต์ของราคาของที่เขียนหน้าถุง เป็นเพราะป้าเขียนราคาจริงๆเลยต้องเสียแพงถึงแปดร้อยบาท แล้วเขาก็คำนวณถึงค่าส่งด้วย ค่าส่งที่เขียนอยู่ที่ถุง เป็นเงิน 2,700 Yen ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็พันกว่าบาท เขาจึงคิดว่า ผู้รับจะสามารถเสียภาษีได้ จึงนำมาเล่าให้ฟังสำหรับท่านที่ต้องการจะส่งของไปเมืองไทยตอนนี้ ถ้าต้องโดนภาษีก็หนักเหมือนกันสำหรับคนรับทางโน้น ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว ที่บางครั้งเราอยากส่งของกินของใช้เล็กๆน้อยๆ ไปให้คนที่เมืองไทย แต่ถ้าเขาต้องเป็นคนจ่ายภาษี เขาก็คงลำบากไม่อยากรับของกินของใช้ที่ต้องจ่ายเกินเหตุ
ท่านใดมีประสบการณ์การเสียภาษีกับสิ่งของที่ส่งไปเมืองไทย กรุณามาเล่าสู่กันฟังเป็นประสบการณ์ด้วยค่ะ
จากคุณ :
พนอจัน
- [
26 ก.พ. 52 06:46:26
]
|
|
|
|
|