ความคิดเห็นที่ 1 อ่านแล้วแบบแอบอิจฉาตาร้อนผ่าว คิดว่ารายจ่ายนี่จะคำนวณจากรายรับนะคะ ถ้ารายรับได้เยอะอยู่ มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน ก็ไม่ต้องคำนึงถึงรายจ่ายมั้งคะ คือไม่อยากตัดก็ไม่ตัด แต่ถ้ารายรับลดลง หน้าที่การงานง่อนแง่น ถึงไม่คิดจะตัด ก็ต้องตัดลงหละคะ แล้วแต่ครอบครัว แล้วแต่สถานการณ์ด้วยคะ ของเราที่ตัดไม่ได้เลย คือ 1. ค่า after school ของลูก ถ้าตัดแล้ว หมายถึงว่าตัวเองไม่มีงานทำ ออกมาดูลูกเอง 2. ค่าเรียนเปียโนของลูก ยังไงก็คงตัดไม่ได้ เพราะถือเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ถ้าตัดก็เสียดายอยู่ 3. ค่าเรียน kumon อันนี้ ถ้าตัดก็หมายถึงว่าเราไม่มีงานทำเหมือนกัน มีเวลาหาโจทย์มาให้ลูกทำเอง 4. ค่าอาหาร ผัก ผลไม้ นม บางอย่างที่ต้องเป็นออแกนิค รู้ว่ามันแพง แต่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า 5. ค่า internet ตัดไม่ได้ เพราะสามีต้องทำงานที่บ้าน ถ้าตัดหมายถึงสามีไม่มีงานทำ เด๋วมาต่อ จะกลับบ้านละ มาต่อแระ 6. ค่าฮีทเตอร์ แฟนกลัวลูกไม่สบาย เวลาลูกอยู่บ้าน (นอกจากเวลานอน) จะต้องเปิดตลอดเวลา ค่าไฟเดือนเดือนนึงก็หลายตังค์อยู่ บางครอบครัวอาจจะคิดว่าสิ้นเปลือง แต่ก็แล้วแต่ ครอบครัวเราอยากให้ลูกอบอุ่น 7. ค่าเสื้อผ้าลูก ไม่รู้ว่ามันจะโตอะไรกันนักกันหนา เสื้อผ้าซื้อไม่ค่อยทันใช้เลย แป๊บเดียวขาเต่อไปแล้ว 8. ค่าบริจาคของโรงเรียนลูก ไม่ว่าเค้าขอบริจาคไรมา ก็จะต้องบริจาคให้เสมอ เค้าไม่ได้บังคับหรอก แต่เราคิดว่าช่วยได้ก็น่าจะช่วย แต่บางครอบครัวลูกเยอะ ก็อาจจะคิดว่าสิ้นเปลือง นานนานบริจาคทีก็ได้ คิดได้แค่เนี๊ยะคะ ปกติที่บ้านเราก็ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไรอยู่แล้ว จะเพิ่มหรือจะตัดก็มีผลใกล้เคียงกัน แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 08:35:50 จากคุณ : blueprint - [ 4 มี.ค. 52 08:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดิฉันคงจะต้องเป็นค่าเสื้อผ้าค่ะ ค่าครีมบำรุงผิวเครื่องสำอางทั้งหลายแหล่ ที่จริงไม่ได้ใช้เย๊อะนะคะ แต่เวลาซื้อทีก็เสียดายตังค์ที แต่ถ้าไม่ใช้ผิวก็แย่ ขอนอกเรื่องอิดนึงนะคะ ชอบBikram Yoga เหมือนกันเหรอคะ เพื่อนดิฉันชอบมาก พากันไปเล่น พาเราไปด้วยเล่นครั้งแรกตอนเล่นนี่สบายมาก เด็กๆ หัวเหอไม่ปวด ไม่มึน แต่พอกลับมาบ้านอาเจียนปางตาย พอเล่น ครั้งที่สอง ที่สาม อยู่ตัวแล้วไม่อาเจียน แต่หลังจากเล่นแล้วรู้สึกตัวสะอาดไปเลยเน๊าะคะ !!? จากคุณ : hamble pie - [ 4 มี.ค. 52 08:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1 ค่าอินเตอร์เนท กับค่าเคเบิ้ลทีวี คะ อันนี้ต้องมีไม่งั้นลงแดง 2 ค่าเครื่องสำอางคะ ปีนี้ซื้อตุนมาจากเมืองไทยพอสมควร แต่พวก เจลล้างหน้า โทนเนอร์พวกนี้ก็คงต้องซื้อใช้ตลอด ขาดไม่ได้คะ 3 ค่าทานอาหารนอกบ้าน สำหรับบ้านนี้ ต้องมีออกไปทานข้างนอกบ้าง ขืนทำกินเองทุกมื้อ คงอกแตกตายคะ อย่างน้อยสักวันนึงขอทานอะไรอร่อยๆ หน่อย 4 หนังสือ และ magazines บ้านนี้ขาดไม่ได้ เพราะคุณแฟนเป็นพวกหนอนหนังสือ เธออ่านแทบทุกชนิด ไป Borders เหมือนไปซุปเปอร์มาเกทเลย สำหรับเราไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่แฟนเค้าชอบก็ปล่อยเค้าไป ความสุขของเค้า 5 เสื้อผ้า บ้านนี้ชอบช๊อปปิ้งเสื้อผ้า แต่เน้นของลดราคา แฮ่ๆ นี่ว่าอยากได้ สกินนี่ยีนส์ อีกสักตัว โชคดีที่ไม่มีลูก ไม่งั้นคงต้องประหยัดมากกว่านี้ อิจฉาพี่แอน (ขอเรียกพี่แอนนะคะ) ที่ได้กลับเมืองไทยปีละ 3 หน ถ้ามีตังก็อยากกลับบ่อยๆ บ้าง คิดถึงแม่ แต่ทำงานบริษัทลางานปีนึงก็ได้แค่ไม่กี่วัน มากสุดก็แค่ สองอาทิตย์เอง เต็มที่แล้ว จากคุณ : Scooterella - [ 4 มี.ค. 52 08:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ค่าอินเตอร์เน็ต ตัดไม่ได้ค่ะ เพราะใช้โทรศัทพ์ทางเน็ต ติดตามข่าวสารต่างๆ ทำบล็อก ค่าอาหารตัดไม่ได้ ต้องกินดีอยู่ดี(ตามสมควร) ควบคู่กับมีความสุขในการทำบล็อกอาหารด้วย ค่ากิจกรรมลูก ลูกมีความสุขกับกิจกรรม วัยเด็กสั้นเหลือเกิน เค้ามีความสุขในกิจกรรมแม้ตัดได้แต่ก็ไม่อยากตัดค่ะ อยากมีค่าไปเที่ยวเมืองไทยปีละ๓ครั้งเหมือนคุณflymomจังค่ะ บ้านนี้๓ปีครั้งก็ยังยากเลย ฮ่ะๆ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 4 มี.ค. 52 09:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1. ค่าสกุลไทยค่ะ เล่มละ $4.25 สี่เล่มต่อเดือน ไม่สามารถตัดได้ค่ะ มีความสุขที่ได้อ่านนิยาย ทุกอาทิตย์จะรอให้หมดอาทิตย์จะได้ไปรับสกุลไทย รับมาเสร็จรอกลางคืนลูกๆหลับจะได้อ่านคนเดียวเงียบๆจากปกหน้าจนจบปกหลัง อ่านจบเก็บรวบรวมส่งต่อให้เพื่อนอีกต่างหาก คุ้มสุดๆ 2. ค่านมและไข่แบบออร์กานิคค่ะ ค่าอาหารก็ไม่ตัดค่ะ ถ้าเป็นเรื่องอาหารบ้านเราเต็มที่ค่ะ ต้องกินดีอยู่ดี 3. ค่าเสื้อผ้าและรองเท้าของลูกๆค่ะ เครื่องหนาวต้องครบชุด รองเท้าต้องครบทุกฤดู คุณสามีให้ความสำคัญกับรองเท้าและพวกโค้ทต่างๆมากค่ะ เพราะเค้าเป็นพวกชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน หนาวร้อนต้องสามารถไปได้หมดค่ะ 4. ค่าอินเทอร์เนท เพราะที่จ่ายอยู่ก็ต่ำสุดแล้วค่ะ แถมเป็นแบบไดร์อัพอีกต่างหาก แต่ก็จำเป็นเพราะตัวเองทำงานเสริมที่บ้านน่ะค่ะ ต้องส่งงานผ่านอีเมลช่วงวันหยุด 5. ค่าเสื้อผ้าตัวเองค่ะ ซื้อทุกเดือน จะคิดว่าเดือนนี้จะหาเสื้อสีอะไร แล้วก็ไปช้อปค่ะ ซื้อคุณภาพดี ราคาปานกลาง ไม่แพงมาก แต่ใช้ได้นานกว่าเสื้อผ้าราคาถูกค่ะ ตัวเองทำงานนอกบ้าน อายุก็มากขึ้นตำแหน่งการงานก็เปลี่ยนไป เวลาไปจัดงานข้างนอกต้องแต่งตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ให้ดูน่าเชื่อถือหน่อยน่ะค่ะ เวลาซื้อให้ตัวเองแล้วรู้สึกผิด ก็จะเดินไปซื้อเสื้อให้สามีสักตัวด้วยค่ะ เฮ่อๆๆ 6. ค่าของขวัญให้คนในครอบครัว ทั้งวันเกิดและวันคริสต์มาสค่ะ สุขทั้งคนให้ทั้งคนรับค่ะ บ้านเราไม่เน้นราคาอยู่แล้ว เน้นซื้อของที่ได้ใช้น่ะค่ะ คิดออกแค่นี้อ่ะค่ะ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 4 มี.ค. 52 09:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 I'm in bed, no thai font na ka. Wow, I thought Lifetime fitness near home is expensive (very fancy) but yours are actually more expensive. Umm, I'll bite my lips and try it someday (they have hot yoga). What I don't give up... -My Japanese pattern magazine, 4 issues per year, cost me 78.20 dollars. -Charmin toilet paper, so soft -Tide detergent, unscented -Seven Generations spray -High speed internet (I don't watch Tv but cable tv, internet and phone is in the same bill, about 100 per month) -kids clothings, shoes -fabrics and notions for sewing (try to use the stash but have to buy them sometimes) -vacation once a year (try to do in cheaper way as possible) จากคุณ : ปรารถนา - [ 4 มี.ค. 52 09:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ Blueprintคะ ค่าฮีทเป็นอีกอย่างค่ะที่ดิฉันตัดไม่ได้ค่ะ บ้านนี้หน้าหนาวหนาวมากๆ หนาวนาน5-6 เดือน เปิดฮีท 68 ตอนกลางวัน กลางคืน 63 เรียกว่าไม่มีการเขียมค่ะ กลัวลูกไม่สบาย อ่านในกระทู้แจงว่าแม่บ้านบางคนเปิดฮีทต่ำมาก กลางคืนปิด สงสัยที่บ้านไม่ค่อยจะหนาว คุณ humble pie ดิฉันชอบโยคะร้อนมากกกกกกกค่ะ แต่ทุกครั้งที่เล่นไปได้ประมาณ ครึ่งทาง จะบอกกับตัวเองว่า กรูทนไม่ไหวแล้ววววว แต่เล่นเสร็จรู้สึกว่าตัวเบา แล้วสะอาดอย่างที่คุณว่าจริงๆค่ะ ทั้งๆที่เหงื่อท่วมตัวหัวเปียกหมดเลย เล่นแล้วมีความสุขมากๆ คุณ Scooterella ไม่มีลูกก็อย่างนี้ล่ะค่ะ ค่าใช้จ่ายน้อย พอมีลูกดิคะ ไม่รู้เงินทองมันหายไปไหนหมด ถ้าดิฉันมีวันวาเคชั่นแค่ปีละ 2 อาทิตย์ คงลงแดงตายไปนานแล้วค่ะ คนที่ทำงานดิฉันไม่ง้อวาเคชั่นนะคะเพราะเดือนนึงทำงานกันแค่ 8-13 วันเท่านั้นเอง แม่ปูขา ดิฉันก็ตัดค่าอินเตอร์เนทไม่ได้ค่ะ คริคริ ติดเน็ทมากๆค่ะ ทั้งลูกทั้งสามีคอนเฟิร์ม คุณแม่ลูกแฝดคะ ดิฉันก็ติดสกุลไทยค่ะ แต่กลับไปอ่านของแม่ทุกครั้งที่กลับบ้านค่ะ แม่จะเก็บไว้ให้ไม่ทิ้งค่ะ แจงจ๋า เสื้อผ้าของไทที่เก็บไว้ให้ปีเตอร์มีเยอะมาก สามกล่องใหญ่ๆ ซื้อบ้านเมื่อไรแล้วพี่จะทะยอยส่งนะ จากคุณ : flymom - [ 4 มี.ค. 52 09:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 1 อินเตอร์เนท ค่าเช่าดีวีดีจากบล๊อคบัสเตอร์ เคเบิ้ลทีวี ถ้าตัดอันแรกดิฉันคงคลั่ง สองอันหลังสามีคงคลั่งหนักกว่า 2. magazine มีรับทุกเดือนแค่เล่มด้วย และก้อซื้อประปรายเพิ่มบ้างที่ Borders เวลาได้คูปองส่วนลด 3. เสื้อผ้า รองเท้า ตัดไม่ลงเลยจริงๆ แต่ก็ลดลงบ้าง จากที่ช๊อปกระหน่ำทุกเดือนก็เหลือซื้อทีละน้อยๆ 4. พวกสกินแคร์นี่ก็จำเป็น แต่ซื้อทีก้อใช้ได้นานหลายเดือน พวกโลชั่นทาตัวทามือหมดก็ต้องซื้อเพิ่มทันที เครื่องสำอางค์ใกล้จะหมดก็ต้องซื้อ 5. ทานอาหารนอกบ้านนี่อย่างน้อยทุกวันเสาร์ถือเป็นการพักผ่อน ส่วนวันธรรมดาก้อพวกฟาสฟู๊ด 1-3 ครั้ง 6. พวก vacation ค่ะ ทุกปีต้องเผื่อเงินไปเที่ยวทุกช่วง winter, summer 7. ค่าทำผม เวลาผมเริ่มยาว 2 เดือนทีต้องกลับไปรีทัช ส่วนเล็บ 2-3 เดือนทีก็ทำ french nails เพราะชอบค่ะ จากคุณ : กุชชี่ - [ 4 มี.ค. 52 10:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 -- อินเตอร์เนต ไม่ยอมตัดเด้ดขาด ถ้ามีความเร็วสูงกว่าปัจจุบันก็จะยอมเสียเงินเพิ่ม -- ท่องเที่ยว ขอเเบบสบายมาก ปีละหนพอ นอกนั้นเอาเเบบปานกลางก้ได้ -- ค่า บริการ เมลล์ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ของ มายยูเอส ไม่อาจตัดได้ เพราะสะดวกในการสั่งของ เป็นสมาชิกนิตยสาร -- ค่าคลับที่เป็นสมาชิกอยู่ แพงแบบไม่คุ้มค่าอะไรเลย แต่ต้องเสียเพราะ ลูกต้องใช้สระน้ำ กับเพลย์เดย์ แม่ต้องใช้สนามเทนนิสบ้าง เขามีโยคะร้อนทุกวันอังคาร เห็นราคาโฆษณาพี่แอนเเล้ว ต้องไปลอง จากคุณ : mrs.night owl - [ 4 มี.ค. 52 10:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตัดไปหลายอย่างเหมือนกันค่ะ (จะว่าตัดก็ไม่เชิง เรียกว่ายักย้ายถ่ายเทงบประมาณมากกว่า) เช่นเอาเงินไปซื้ออุปกรณ์นั้นนี้ ก็ต้องตัดงบ  entertainment  พวก ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอลต่างๆออกไป ที่ตัดไม่ได้คือ 1. พวก เคเบิ้ลทีวี อินเตอร์เน็ท ไม่ได้ตัดเพราะสามีทำบริษัทเคเบิ้ล ไม่มี Netflix  แต่มี Video on Demand พวกหนังต่างๆลดครึ่งราคา เพราะเป็นพนักงานค่ะ 2. อาหารการกิน ไม่อั้นค่ะ เด็กกำลังโตอ่ะ บ้านนี้กินส้มอาทิตย์ละลัง (ที่ซื้อจาก Costco) ไม่รวมผลไม้อื่นๆ 3. กินข้าวนอกบ้าน อาทิตย์ละครั้ง for my sanity ค่ะ 4. กิจกรรมต่างๆของเด็กๆ เช่น ว่ายน้ำ เต้นรำ ฯลฯ ไม่งั้นก็นั่งจ่อมอยู่หน้าทีวีทั้งวัน ยิ่งหนาวๆอยู่ด้วย 5. สกีทริปค่ะ ไปอาทิตย์ละครั้งเลยแหละ แบบว่าบ้านอยู่ใกล้ 6. ค่าน้ำมันรถ 7. ค่าตัดขนหมา แต่ตัดปีละ 2-3 ครั้งพอ นี่ไม่ได้ตัดมา 6 เดือนแล้วนะ 8.  iTunes ชอบซื้อเพลง และการ์ตูนให้เด็กๆเวลานั่งรถนานๆค่ะ 9. ผ้าอ้อม และ baby wipes ไอซิสยังไม่เลิกเลย 10. เสื้อผ้ารองเท้าเด็ก ตัดไม่ได้ค่ะ หนาว ต้องมีเยอะๆ 11. เครื่องสำอางค่ะ บางทีไปเดินๆไม่ตั้งใจซื้ออะไร ก็ืได้ติดมือกลับมาทุกที เหมือนโดนสิง 555 มาอยู่นี่มี Crabtree & Evelyn ใกล้บ้าน เป็นพวกบ้าของหอมๆ เข้าไปละซื้ออกมาทุกที ต้องเอามาซุกซ่อนไว้ :P ตั้งแต่ย้ายมาอยู่แคนาดานี่งดซื้อไปเยอะมากๆเพราะ ไม่มียีห้อที่ต้องการ และราคาแพง ถ้าสั่งมาจากอเมริกา เคยเจอภาษีอ้วกมาแล้ว ลดละเลิกค่ะ ไม่รู้ ไม่ดู ไม่เห็น ไม่อยากได้ค่ะ จากคุณ : yinnerella - [ 4 มี.ค. 52 11:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ง่ายมากเลยค่ะ  เรื่องกินกับเรื่องเที่ยวเลย ตัดไม่ได้  แต่ตอนนี้คุณสามีที่รักกำลังอยากตัดงบท่องเที่ยว แอบเคืองอยู่เนี่ยค่ะ จากคุณ : offita - [ 4 มี.ค. 52 11:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 - เคเบิ้ลทีวี กับไฮสปีดอินเตอร์เน็ต เลือกโปรแกรมถูกสุดตอนนี้ ส่วนใหญ่ลูกดู แต่ลูกปอมดูหลายรายการนอกเหนือจากการ์ตูนทั้งหลายด้วย ลูกชอบดู รายการ Dirty Job, Wrecked, Pimp My Ride อะไรทั้งหลายที่เกี่ยวกับรถ สามีอยากได้โปรแกรมแพงกว่านี้ เพราะโปรแกรมที่มีอยู่ไม่มีรายการที่เขาชอบ แต่ห้ามไว้เขาก็พอทนได้ ช่วงนี้สามีติด facebook เลยไม่ค่อยสนใจทีวี ฮ่าๆๆๆ - อะไรต่างๆ ที่ลูกอยากได้ แต่ขึ้นอยู่กับเหตุผลและราคาของด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของจุกจิก เสื้อผ้า สี ดินสอ ของเล่น นาน ๆ ซื้อที ถ้าไม่แพงมากก็ซื้อให้ แล้วก็พาลูกไปกินแมคโดนัลด์ทุกอาทิตย์ ส่วนใหญ่ซื้อให้ลูกกิน แม่นั่งดู กินของเหลือจากลูก (น่ารันทดมั้ย) - พาลูกเที่ยวสถานที่เสริมความรู้เช่น พิพิธภัณฑ์เด็ก ไปทีก็หลายตังค์อยู่เพราะแม่ต้องเสียด้วย แต่ลูกมีความสุขอยู่ได้นาน ตั้งใจว่าจะพาลูกไปอย่างน้อยเดือนละครั้ง - อาหารการกิน ก็ซื้อของในราคาประหยัด ให้มีกินไม่อดอยาก ที่ตัวเองอยากให้ตัดเหลือเกินแต่คนต้นเรื่องตัดไม่ได้ คือ เบียร์ เดือน ๆ เปลืองค่าเบียร์หลายตังค์อยู่ ตอนนี้ริต้มเบียร์เองด้วยยิ่งไปกันใหญ่ แต่ก็ไม่อยากห้ามเพราะช่วงสองสามปีที่ผ่านมาค่อนข้างจะลำบากกันมามาก ตอนนี้พอที่จ่ายได้กับงานอดิเรกเพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ปล่อยเขาไปค่ะ จะได้คลายเครียดจากการทำงานด้วยค่ะ จากคุณ : ปอมปอมเกิร์ล - [ 4 มี.ค. 52 12:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตัดไม่ได้ -ค่ายิม แต่โชคดีที่ยิมที่ใช้เป็นยิมตำบลที่อยู่เลยไม่แพง -ค่ากีฬาลูก แต่บังเอิญเป็นที่ยิมตำบลเลยราคาถูก -ค่าเรียนเต้นลูก ค่าเรียนเปียโน อันนี้ลูกชอบและแม่ชอบด้วย แต่จะพูดกับลูกว่าต้องตั้งใจนะ เพราะมันแพงต้องซ้อม ถ้าซ้อมน้อยและไม่เอาใจใส่คิดว่าจะเลิกเหมือนกัน แพง -ค่าอาหาร แต่ตั้งกติกาตัวเองว่า ซื้อมาแล้วต้องกินให้หมดไม่เหลือทิ้งไม่ปล่อยให้เน่าคาตู้เย็น โชคดีที่อยู่ในที่ๆ ปลาถูกเพราะกินปลากันบ่อย -ค่าเสื้อผ้า แต่จะพยายามซื้อตอนเซลล์เท่านั้น อย่าน้อยต้องลด 30 เปอร์เซนต์แล้วค่อยซื้อ กระเป๋าแพงๆ ได้แต่ชื่นชมทางเนท(เวลาจะซื้อกระเป๋าที นึกว่า ส่งตังส์นั้นไปให้แม่ไปเที่ยว หรือซื้อโน่นนี่ จะทำให้เราหยุดความอยากได้ทันที) -ค่าเครื่องสำอาง เฉพาะตัวบำรุงหน้าตัวกันแดด เพราะใกล้ 40 แล้วเห็นว่าจำเป็นไม่กล้าเปลี่ยนไปใช้ของถูก แต่ซื้อของราคาปานกลางไว้ใช้สลับ -ค่าเดินทางท่องเที่ยว ปีละครั้งสองครั้งเพราะเราถือว่าเป็นการให้ความรู้กับลูกๆ แต่ก็จะแพลนนานๆ ซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ เพราะจะถูกขึ้น ส่วนการกลับเมืองไทย ปีนี้บริษัทสามีจ่ายทั้งครอบครัวเลยมีตังส์ไปเที่ยวที่อื่นแทน -ดรายเออร์ ชอบความนุ่มของเสื้อยืด ถุงเท้า ที่ออกมา และพับได้เลยไม่ต้องรีดซ้ำ ส่วนเสื้อทำงานสามี หรือเสื้อที่ต้องรีด จะตั้งให้เครื่องหยุดสำหรับเสื้อรีดแล้วเอาออกมาแขวนตากเพิ่มเตรียมรีด -เครื่องล้างจาน เพราะสะอาดร้อนแห้ง แต่จะเปิดเมื่อเต็มเอี้ยดเท่านั้น ยิ่งเวลามีคนมาเรียนทำอาหาร หรือมีแขกมาทานข้าว เราว่าจำเป็น แต่หม้อไหกระทะนี่ล้างเอง ค่าฮีทเตอร์(ที่บ้านเป็นแบบแก๊ซมาต้มน้ำ) ที่บ้านสามีก็ชอบเดินปิดตามจุดต่างๆเช่นกัน เพราะเค้าไม่หนาวไง (คนสวีเดน) เราคนไทยสามคนเลยใช้ผ้าห่มไฟฟ้าที่เตียงลูกและเตียงเรา ลูกสาวชอบเตะผ้าห่ม เลยใช้แบบวางใต้ผ้าปูที่นอน เวลาเข้าเตียงอุ่นๆนี่ มีความสุขจริงๆ กินไฟน้อยด้วย แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 14:02:00 จากคุณ : *พิณ* - [ 4 มี.ค. 52 13:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มานั่งนึกๆ ดูแล้ว แทบไม่ได้ตัดค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพราะปกติในยามไม่คับขัน ก็จะใช้จ่ายระวังอยู่แล้ว ทำบัญชีเป็นนิจ ตอนนี้ก็เลยเหมือนยามปกติ คือแม้ยามปกติ ถ้าตอนปลายเดือน เอาบัญชีมาดู แล้วค่าใช้จ่ายในบางส่วนมันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ก็จะเช็คทันทีว่า เราจ่ายอะไรไป วางแผนเอาไว้หรือเปล่า หรือว่าซื้อมาอย่างนั้นแหละ ทีนี้ก็จะคิดกันเลยว่า เอ๊ะ นี่จำเป็นหรือเปล่า อะไรทำนองนี้น่ะ ที่ได้ลดลงไปแล้วคือ ค่าแม่บ้าน จากเดิม 2 วัน/สัปดาห์ เหลือ 1 วัน ปรากฎว่า บ้านสกปรกฝุ่นเยอะขึ้น ยิ่งมีลูก 2 คน ยิ่งแย่ใหญ่ ตอนแรกนึกว่า เออนะ วันไหนลูกอยู่บ้าน ทำงานหน้าคอมพ์ก็ไม่ค่อยได้ ดังนั้น่าจะทำงานบ้านได้บ้าง ปรากฎว่า มันเหนื่อยกายเป็นที่สุด เลยไม่ได้ทำ บ้านเลยสกปรก ถ้าแม่บ้านมาวันนี้ พรุ่งนี้ก็สกปรกแล้ว แบบว่ามีเด็กน่ะนะ มันรกง่ายมากๆ ยิ่งที่ก็ไม่ค่อยมีอยู่ด้วย แบบว่าตอนนี้เลยคิดว่า เวลาคือสิ่งมีค่า มันคิดออกมาเป็นเงินไม่ได้ ถ้าเราจ่ายเงินซื้อบริการไป แทนที่จะทำเอง (ในหลายๆ อย่าง) บางทีทำให้เราประหยัดได้มากกว่าทำเอง เพราะเราเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่อาจจะช่วยหรือเสริมทำให้เราได้รายได้เพิ่มขึ้นมา ตอบสั้นๆ คือ ไม่คิดว่าตัดอะไรไปกว่าเดิม จากคุณ : พธูไทย - [ 4 มี.ค. 52 16:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โอ้โห อ่านกระทู้นี้ ที่เพื่อนๆพูดมาเราตัดใด้ทุกอย่างแฮะ   ตัดให้น้อยลง(เข้ามาแก้เพิ่มนะคะ) บางอย่างลดลงใด้ตั้งเยอะ   สงสัยรายใด้บ้านเราจะน้อยมากๆ   แต่เพื่อนที่นี่(คนสก๊อต ขี้เหนียวมากๆ) กลับว่าเราเรื่องใช้ไฟฟ้ามากรายการ โดยเฉพาะหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่อุ่นทิ้ง(ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว) อาหารลูกๆ บางอย่างออร์แกรนิก บางอย่างไม่ เพราะไม่เชื่อใจซุปเปอร์ที่นี่   ตามร้านขายเนื้อค่อยเชื่อใจใด้  แต่ถ้าเป็นอาหารอีสาน เนื้อลดราคาเอามาทำดีที่สุดค่ะ(สำหรับเรา)  เราพยายามไม่ซื้อผลไม้นอกฤดูกาล แต่ก็ตัดของไทยไม่ใด้  แต่คิดกันว่าเรามาอยู่ต่างประเทศผลไม้และอาหารไทยคือสิ่งเดียวที่เราตัดไม่ใด้ ถ้าตัดก็ต้องย้ายกลับไทยค่ะ   ของหลายอย่างที่เราทำนอกจากจะเป็นการประหยัดแล้วเรากังวลถึงสภาวะโลกร้อนด้วย ถึงเราจะจัดอยู่ในคนกลุ่มน้อยที่ทำแบบนี้แต่ก็ดีเกี่ยวกับสภาพจิตใจ  และลูกๆก็เริ่มทำเหมือนกับที่แม่ทำค่ะ  อาจจะไม่ช่วยโลกใด้มากแต่เราปลูกฝังลูกให้มีนิสัยเหมือนเราใด้  เราเชื่อเรื่องโลกเราร้อนขึ้น และต่อไปอาจจะไม่ใช่แค่เศรฐกิจเท่านั้นที่กระทบโลก พ่อบ้านรับหนังสือNewScientist weekly £3.25/$5.95ทุกอาทิตย์  เราก็เลยต้องอ่านด้วย ไม่คิดตัดเล่มนี้ พออ่านหมดก็เอาไปใว้ที่คลีนิคใกล้บ้าน สังเกตุดูมีคนอ่านตอนรอหมอเหมือนกัน ทางบ้านจะติดหนังสือเล่มนี้ค่ะ     แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 17:24:50 จากคุณ : ลูกแมง - [ 4 มี.ค. 52 16:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ที่บ้านจะว่าไปก็ไม่ค่อยมีรายจ่ายเยอะ อาจจะเพราะลูกยังเล็ก กิจกรรมที่ต้องจ่ายก็ไม่ค่อยมี หรือ ไม่ก็ไม่ค่อยแพงค่ะ ที่หนักเลยคือ ค่าผ่อนบ้าน แต่ก็เหลืออีก 7 ปี ก็จะท่องไว้ว่า จ่ายค่าบ้านก่อน หลังจาก 7 ปีนี้ก็คงเบาไปได้เยอะ อาจจะมาหนักตรงลูกแทนก็เป็นได้ค่ะ ที่ไม่ตัดคือ ค่ากับข้าว เพราะตามธรรมดาก็ไม่เยอะอยู่แล้ว อยู่กัน 3 คน ก็ไม่มากมายอะไร ที่สำคัญที่ดิฉันขาดไม่ได้คือ ข้าว กับ บรรดาผัก ในร้านเอเชีย บางทีขึ้นราคายังไงก็ต้องยอมจ่าย เพราะมันทำให้มีความสุขในการเป็นอยู่ เคเบิ้ล ไม่ต้องจ่าย เพราะมันอิลลิเกิล แหะ แหะ ไม่ดีค่ะ ไม่ดี  แต่ก็ดีตรงที่ทำให้ดิฉันไม่ต้องไปเช่า ดีวีดี มาดูค่ะ ค่าน้ำมัน อันนี้ก็ตัดไม่ได้เพราะมันค่อนข้างตายตัวว่า อาทิตย์นึงทำอะไร ไปไหนบ้าง โชคดีมีรถคันเดียว เรื่องภาษีเลยไม่หนักค่ะ จริงๆสามีอยากจะดูรถไว้อีกคันให้ดิฉันเวลาลูกเข้าคินเดอร์ เพราะตอนนี้รถราคาถูกมาก แต่ก็ยั้งไว้ก่อน เพราะสถานการณืเศรษฐกิจ ยังไงก็ไม่น่าไว้ใจไปอย่างน้อย 2 ปี  ถ้าจะซื้อเงินสดก็เสียดายตังค์ ส่วนเงินผ่อนยังไงสามีก็ไม่ยอมจ่ายดอกแน่นอน เลยตัดไปก่อนค่ะ ค่าฟิตเนส นั้นไม่เคยมี แต่อาจจะต้องยอมจ่ายเป็นเครื่องออกกำลังกายมาไว้ที่บ้านแทน ดิฉันก็ว่า คุ้มค่ะ เพราะได้ใช้ทุกวัน ไม่เปลืองค่ารถอีก ที่เหลือ ก้ไปวิ่งแถวบ้าน กับ โยคะ เอา ค่านิตยสารไทย พลอยแกมเพชร กับ แพรว ยังไงก็ยอมจ่าย เพราะอย่างน้อยได้อ่านอะไรบ้าง แต่ที่บ้านไม่รับหนังสือพิมพ์ เลยก็ถัวๆกันไปค่ะ ค่าเสื้อผ้าของดิฉัน มีบ้างภายใน 4 เดือนอาจจะได้ซื้อสักตัวสองตัว ส่วนใหญ่จะช่วงเซล เปลี่ยนซีซันพอดี ก็ได้ถูกมากๆ  ที่สำคัญคือ ห้ามน้ำหนักเกิน เพราะมันจะกระทบตู้เสื้อผ้าอย่างแรงค่ะ ค่าเครื่องสำอางค์ น้ำหอม ไม่มีเลย ช่วงต้นปีนี้ เพราะไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ ส่วนค่าของขวัญของคนที่สนิทในครอบครัว เช่น พี่สาวสามี อันนี้ก็ตัดไม่ได้ กับ หลานอีกคน ที่ยังต้องให้เงินขวัญถุง ทุกวันเกิดจนครบ 18 ปี อันนี้ก็ไม่ตัดค่ะ มีอีกคนกำลังจะคลอดปีนี้ก็คงต้องให้เหมือนกัน   แต่เค้าก็ให้ลูกดิฉันด้วยทุกปี ก็เหมือนให้กันไปให้กันมา ค่าเที่ยว เน้นเมืองไทยอย่างเดียวค่ะ ทุกปีครึ่ง ต้องกลับเมืองไทยเพราะไม่อย่างนั้น ดิฉันคงเฉาตาย เรื่องเที่ยวที่อื่น กะว่ารอให้ลูกโตอีกนิด กับ ผ่อนบ้านให้เหลือสัก 3 ปี น่าจะดีขึ้น ไม่ต้องประหยัดงบจนเกินไปค่ะ ค่าอินเตอร์เนต นี่ไม่ตัดแน่นอน เพราะไม่งั้นคงอยู่ไม่ได้แน่ ค่ามือถือ น้อยมากๆ เพราะจ่ายเป็นพรีเพด แต่ก็มีแต่โทรเข้าไม่โทรออกอีก ก็เหลือคงเหลือเท่าเดิมอยู่ตลอดค่ะ ค่ารองเท้าลูก ไม่ประหยัดเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ซื้อเต็มราคานะคะ แค่รอช่วงเซล แต่เลือกแบบอย่างดีเลย เพราะหน้าหนาวใส่รองเท้าไม่ดี ก็สงสารลูก ให้เท้าอุ่นไว้ก่อนเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ส่วนเสื้อผ้าซื้อไม่บ่อย แต่ก็อาจจะทุก 6 เดือนได้ซื้อเพิ่มสักหน่อย เพราะตัวโตขึ้นค่ะ ส่วนใหญ่ก็มีเท่านี้ซึ่งก็คือ ค่าใช้จ่ายปกติในบ้านอยู่แล้วค่ะ อาจจะมีนอกเหนือ อย่างพวกเครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้าน ในครัว แต่ของพวกนี้ใช้ทีเป็น สิบปี จนเจ๊ง ก็ต้องยอมจ่ายตรงจุดนั้น อ้อ บางทีอะไรที่ไม่ใช้จริงๆ  สามีดิฉันก็ขายต่อในอีเบย์ จะว่าไปก็เรียกว่า ไม่ขาดทุนมากเท่าไหร่ บางอย่างก็ได้ราคาสูงกว่าตอนซื้อมาเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Walcher - [ 4 มี.ค. 52 17:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแล้วก็แอบอิจฉาคุณจขกท.เช่นกันค่ะ และก็คิดเหมือนๆกับเพื่อนๆข้างบนด้วยว่า 1.ค่าอาหารตัดไม่ได้ ลดก็ไม่ได้  แต่เน้น คุณค่าทางอาหาร  มากกว่า 2. ค่ากิจกรรมลูกๆ  ตัดไม่ได้  เพราะเป็นสิ่งที่ลูกๆชอบและอยากทำ 3. ค่าเสื้อผ้า เครื่องใช้ ตัดไม่ได้แต่ลดได้ 4. กลับไทย 3-4ปีครั้ง ปีไหนไม่กลับ ส่งตังค์ให้แม่เป้นก้อน หรือ ไปเที่ยวประเทศรอบๆใกล้ฝรั่งเศส ทดแทมนกันเอา 5. พยายามตัดสิ่งที่เห็นว่าไม่จำเป้ฯ และฟุ่มเฟือย จากคุณ : Thatcha70 - [ 4 มี.ค. 52 18:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ค่าอินเตอร์เน็ทกับเคเบิ้ลทีวี  ตัดไม่ได้แน่นอนค่ะ  เพราะชอบดูกีฬากันทั้งคู่  แถมยังดูรายการเพลง คอนเสิร์ต ซีรีส์  อะไรอีก  ได้แต่เปลี่ยนจากของ Virgin มาเป็น Sky ให้ถูกลงเล็กน้อย   ค่ายิม  อันนี้ตัดไม่ได้เด็ด ๆ  เพราะดิฉันไปอาทิตย์ละอย่างน้อยสี่ถึงห้าวัน  บางทีคึก ๆ ก็หกวันเลย  ขอสามีไว้แล้ว อาหารการกิน  โดยเฉพาะอาหารออร์แกนิคและแฟร์เทรด (ไม่ได้ทั้งหมด  แต่เป็นส่วนใหญ่)  แต่อาศัยซื้ออย่างระมัดระวัง  พยายามไม่ให้ทิ้งเสียหาย  นอกนั้นดิฉันก็ชอบทำเค้ก ทำขนมอีก   เครื่องสำอาง  ก็บำรุงผิวมั่ง เติมสีสันให้ใบหน้ามั่ง  เพราะอายุเกินสี่สิบแล้วหลายปีอยู่  กลัวแก่เกินอายุไป เสื้อผ้า รองเท้า  มีมั่งแต่ไม่ค่อยบ่อยแล้ว  บางทีลดก็ไม่ถูกใจก็ไม่ซื้อ  ส่วนใหญ่ถ้าซื้อชุดกีฬาก็จะซื้อยี่ห้อดี ๆ ตอนลดราคา  ตกรุ่นหน่อยก็ไม่เป็นไร สตาร์บัคส์  ไม่ได้ทุกวันหรือบ่อยมากแล้ว  แต่ก็ยังไปบ้างตามสมควร   ค่าตัดขนดิโน่  ทีละหกสิบปอนด์  ทีนี้เปลี่ยนเป็นเดือนครึ่งไปหนึ่งครั้ง จากคุณ : Amber n the Gang - [ 4 มี.ค. 52 20:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนี้ประหยัดมากมายเลยค่ะ เพราะต้องส่งเงินไปผ่อนกระท่อมน้อยปลายนาที่เมืองไทย ค่าเงินสวีเดนตกฮวบฮาบ เวลาส่งเงินไปทีไรก็อยากจะร้องไห้ทุกที พยายามไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เลยไม่รู้สึกว่าต้องตัดอะไร ตอนซื้อดอกไม้สดมาปักแจกันจะรู้สึกผิดนิดหน่อย เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ก็ยังซื้ออยู่ทุกอาทิตย์ หุหุ จากคุณ : A-Chee - [ 4 มี.ค. 52 21:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตามติดอ่านมาจากกระทู้คุณแจงข้างล่าง คุยเรื่องเงินๆทองๆนี่ชอบ ที่ไม่ตัดคือ - อย่างที่บอกgym เป็นสมาชิกมา 12 ปีได้แล้วมั้ง เขาก็ไม่ขึ้นนะ กำลังคิดว่าเป็นloyal customer จะพยายามหาทางให้เขาลดค่าสมาชิกลงให้หน่อย - netflix เพราะจ่ายประมาณ 5+ เหรียญ/เดือน - ค่าเรียนเทนนิสของตัวเอง แต่แบบหาเพื่อนๆมาลงเรียนด้วย จะได้หารค่าเรียนกันไป นอกนั้น นึกไม่ออก ว่าส่วนตัวปกติก็ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรมาก อ้อ..ที่พยายามลดๆคือ ช็อปทางอินเทอร์เนตนี่แหละ อีบงอีเบย์ ไม่เข้าไม่ดู อย่างที่หยินบอก ไม่เห็น ไม่ซื้อ จากคุณ : Overseas - [ 4 มี.ค. 52 21:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อยากรู้ว่าชาวบ้านเขาเสียค่าฟิตเนสคนละเท่าไรต่อเดือน ไม่บอกที่นี่ กระซิบหลังไมค์ก็ได้ค่ะ เพราะอยากสมัครมาก คิดว่า100ดอลล์ต่อเดือนต่อคนนี่แพงไปไหม ราคานี้พ่วงลูก เล็กได้ เสียเพิ่ม 10 เหรียญ และให้เดย์แคร์ฟรีวันละ 2 ชม แต่ถ้าลูกเรียนว่ายน้ำจะเสีย 98 ดอลล์ เรียน 8 ครั้ง (กรุ๊ปละ 4คน) แต่สำหรับแม่ เข้าแจมกรุ๊ปฟิตเนส พวก โยคะ ฯลฯ ได้เลย ไม่เสียเพิ่ม  ว่ายน้ำได้ด้วย จากคุณ : ปรารถนา - [ 5 มี.ค. 52 00:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แจง ไม่แพงหรอกถ้าแจงเล่นอะนะ แบบว่าต้องไปอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งถึงจะคุ้มจ้ะ แจงลองถามเขาสิว่า ถ้ามีhealth insuranceแล้วได้ลดราคาไหม ที่นี่นะแจง ถ้าแจงมี health insurance ของ blue cross blue shield, medica, alina ได้ส่วนลดทันทีเลยเดือนละ 20 เหรียญ เพราะว่าอินชัวรันอยากให้คนไปออกกำลังกาย จะได้ไม่ป่วยบ่อยๆ จากคุณ : flymom - [ 5 มี.ค. 52 00:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บ้านนี้รัดเข็มขัดมานานแล้วคะ ดีหน่อยอยู่กัน 2คน แต่ที่ตัดไม่ได้เลยคือ -เคเบิ้ลทีวี อินเตอร์เนท -เสื้อผ้า รองเท้า ที่ลดราคา เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ต้องการอะไร จะไม่ไปเหยียบที่มอลล์เลย ไม่งั้น ต้องสอยกลับมาทุกทีซิน่า -ฟิตเนต รอดตัวไป เพราะที่อพาสเม้นต์ เขามีให้ ก็เล่นขำๆกันไป อาทิตย์ละ 4-5วัน -เรื่องเที่ยว เราจะกลับไทยปีละครั้งๆละ 1เดือน ไปทีไร ก็จะแวะไปประเทศใกล้เคียงด้วย ก็หาข้อมูลแน่เนิ่นๆ จะได้กะงบประมาณถูก ปีนี้จะแวะญี่ปุ่น คิดว่าคงจะไปเกสเฮาท์ที่หมู่แบคแพคเขาฮิตๆกัน พวกข้าวสาร หรือ k's house จะได้ประหยัด เอาไว้ซุกหัวนอนเป็นพอ ไว้ค่อยไปเป็นพระมเหสีที่บาหลี อิอิ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 5 มี.ค. 52 02:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ว้าว อิจฉาคุณแอนได้ไปเมืองไทยปีละสามครั้งแน่ะค่ะ เรานี่ไปปีละครั้งเท่านั้นเอง ปีที่แล้วไม่ได้ไปเพราะติดภารกิจสำคัญ แต่ชอบเรื่องเที่ยวเหมือนกันก็อาศัยเที่ยวเอาในยุโรปนี่ล่ะค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ตัดไม่ได้เลยนะคะคือ ค่าอาหาร <<< กินกันดี ไม่มีวี่แววว่าจะน้ำหนักลดเลยค่ะบ้านนี้ :P คือกินทั้งทีก็ขอมีอย่างคุณภาพหน่อย แล้วส่วนตัวก็ชอบทำอาหารด้วยค่ะ แล้วก็มีรับผักผลไม้ออแกนิคแบบมาส่งที่บ้านเป็นลัง เดือนละสองครั้งด้วย ค่าเสื้อผ้า <<< ตัดไม่ได้ซักที ถึงแม้ว่าตัวเองจะตัวใหญ่ หาไซส์ไม่ง่ายเลย แต่ก็ยังดั้นด้นหาเรื่องเสียเงินจนได้ ยิ่งได้มีโอกาสไปช็อปที่ลอนดอนครั้งล่าสุดนี่ ทำให้รู้เลยว่า size doesn't matter หาได้หมด :-) ค่าเดินทางท่องเที่ยว <<< ต้องไปค่ะ ไม่งั้นจะลงแดงตายกัน เพราะมีกันแค่สองคน ไม่มีลูกด้วย อยู่บ้านด้วยกันนานๆ แล้วมันเบื่อหน้ากัน ต้องหาเรื่องเที่ยวในประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้านก็ยังดี ปีที่แล้วจำได้ว่าไม่มีได้ขึ้นเครื่องบินไปไหนเลย มีแต่ขับรถไปเที่ยวเกาะใกล้ๆ แล้วก็ขับไปเที่ยวเยอรมันกับปราก ปีนี้โปรแกรมเดินทางเลยเพียบ :-) ค่าอินเตอร์เน็ต <<< ตัดไม่ได้ค่ะ จริงๆ แล้วจะให้บริษัทที่เราทำงานออกก็ได้ แต่ว่าจะได้ความเร็วตามที่บริษัทกำหนดให้ สามีเราก็เลยไม่เอา ส่วนมือถือส่วนตัวไม่ได้ใช้เลยทำให้ประหยัดได้เยอะ เพราะใช้ของที่ทำงานให้ แต่ว่าก็ยังเก็บเบอร์ไว้ เพราะคนรู้จักเบอร์ส่วนตัวเยอะ ค่าสกินแคร์ <<< ไม่ได้ซื้อบ่อย ซื้อเฉพาะเวลามันหมดแล้ว หรือว่าอะไรที่คิดว่าน่าสนใจจริงๆ เครื่องสำอางค์นี่ไม่ได้ซื้อเกือบปีนึงได้แล้ว น้ำหอมนี่ไม่ได้ซื้อปีกว่าแล้ว เพราะมีที่คนให้มา ยังใช้ไม่หมดเลย ค่าน้ำมันรถ <<< ยังอยู่ในช่วงลองของอยู่ (เพราะเพิ่งได้ขับขี่เมื่อปลายปีที่แล้วเองค่ะ) เลยยังเมามันส์กับการขับรถอยู่ แล้วที่ทำงานก็ห่างไปเกือบสามสิบกิโลเมตร แต่สัญญาไว้กับตัวเองว่าถ้าอากาศดีขึ้นแล้ว (หรือซัมเมอร์นั่นเอง) จะเอาจักรยานขึ้นรถไฟไป แล้วก็ปั่นจากสถานีรถไฟไปที่ทำงานค่ะ เพราะรู้สึกได้เลยว่า ขับรถไปทำงานนี่สุขภาพแย่ไปเยอะเลย ค่าสังคม <<< นัดเจอเพื่อนคนไทย แล้วก็ไปทานข้าวกันข้างนอก อะไรประมาณนี้ค่ะ ต้องเจอจะได้ระบายออกบ้าง ได้พูดภาษาไทยบ้าง ไม่งั้นอยู่แต่บ้านกับที่ทำงานพูดแต่ภาษาเดนส์ ภาษาอังกฤษแล้วอึดอัดเหมือนกัน ค่าประกันและ pension <<< ไม่รู้สึกเท่าไหร่เพราะหักลบไปจากเงินเดือน ณ ที่จ่ายเลย จากคุณ : MingDK - [ 5 มี.ค. 52 02:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตัดไม่ได้สักอย่างค่ะพี่แอน แต่ปรับเปลี่ยนรสนิยมเล็กน้อย เพราะเปลี่ยน neighborhood ใหม่ จากสตาร์บัคกลายเป็น Mcdonald กับ Pete's เพราะแถวบ้านไม่มีสตาร์บัค อยากกินสตาร์บัคต้องขับรถไป เลยไม่ค่อยได้กิน เศรษฐกิจดีหรือไม่ดี ทำตัวเหมือนเดิมตลอดกาล 55 ไม่ติดลบ ไม่เป็นหนี้บัตรเครดิตก็โอเคละ ยังติดหนี้รูปพี่แอนอยู่ แต่ไม่รู้จะโพสที่ไหน อายคนเค้าค่ะ จากคุณ : SFO-CNX - [ 5 มี.ค. 52 08:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นี่แบบว่าโลเลเลยนะเนี่ย ปกติไม่ออกกำลังกายมานานมากแล้วนะ แต่ก่อนอยู่อพาร์ทเมนท์ก็มีไปวิ่งของส่วนกลางบ้าง ว่ายน้ำบ้าง อ่านอ่านมานี่โลเลเลย วันนี้มีใบโฆษณามาว่าเดือนละสิบเหรียญ เริ่มโลเล อยากไปมั่ง  พอตะกี้ไปดูที่โต๊ะที่ทิ้งใบโฆษณาไว้ ปรากฎว่าแฟนเราเอาไปทิ้งแล้ว อิตานี่นะชอบทิ้งมาก เห็นไรทิ้งหมด ของที่เราเอาไปซ่อนนะ พี่แกยังไปหามาทิ้งได้เลย บางทีซ่อนจนตัวเองลืม พอไปถามแฟนดู ปรากฎว่าอิเอาไปทิ้งตั้งนานแล้ว เซ็งมันเลยนะเนี่ย จากคุณ : blueprint - [ 5 มี.ค. 52 12:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ใด้รับการยืนยันจากสามีที่น้องๆสามคนที่อยู่อเมริกาเกือบยี่สิบปีทั้งสามคน แต่คนสุดท้องมีครอบครัวอยู่ซานฟรานว่าคนอเมริกันหายากที่จะขี้เหนียวค่ะ  ที่เพื่อนพูดมาเหมือนจะเป็นปัจจัยอีกอย่างในชีวิตประจำวัน เพราะคนอเมริกันสามารถเก็บเงินใด้มากกว่าอยู่ยูเค เพราะสองคนที่กลับมาก็มาใช้ชีวิตตอนหมดไฟสบายอยู่ที่นี่  แต่อีกคนก็ต้องต่อสู้กับเศรฐกิจไม่ให้บริษัทล้มอยู่ที่โน่นเพราะรายจ่ายของครอบครัวสูงงงงงมาก จากคุณ : ลูกแมง - [ 5 มี.ค. 52 12:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 พอเห็นกระทู้นี้ของพี่เบบเลยทำให้ได้มานั่งคิดค่ะ..ว่ามีค่าอะไรที่เราตัดไม่ได้บ้างหว่า.. ค่าอินเตอร์เน็ตและเคเบิ้ลทีวี..อันนี้เป็นตายยังไงก็ตัดไม่ได้ค่ะ..ขาดเน็ตแล้วเหมือนขาดอะไรที่สำคัญในชีวิต พานหงุดหงิดคนข้างๆ ไปด้วย..ส่วนเคเบิ้ลก็มาพ่วงกันกะเน็ตด้วย..เลยต้องจ่ายเหมารวมกันไปเลย.. ค่าอาหารการกิน..ก็ซื้ออย่างที่อยากกินอ่ะค่ะ บ้านนี้เน้นแอ๊ปเปิ้ล น้ำผลไม้ และก็น้ำอัดลมค่ะ..วันๆ ขาดไม่ได้เลยอ่ะ.. **และที่สำคัญที่ซู๊ดดด** ค่าอุปกรณ์ทำสบู่ค่ะ 555 อันนี้ตัดไม่ได้เด็ดขาดดดด น้ำมัน น้ำหอม EO, FO โมล อูยๆๆๆ เห็นอะไรก็อยากได้ไปหมด ขนาดเสื้อผ้า รองเท้ายังยอมไม่ซื้อก็ได้นะคะ..เก็บตังค์ไว้ซื้อของทำสบู่ดีกว่า 555 จากคุณ : กะตุ้งนิ้ง - [ 5 มี.ค. 52 17:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตัดไม่ได้เลยสักอย่างค่ะ  ได้แต่คอยลดๆเอาค่ะเพราะ - เคเบิ้ลทีวีคุณแฟนบ้าบอลค่ะต้องดูทุกแมท - ค่าท่องเที่ยวอันนี้ยิ่งพูดไม่ได้เลยเพราะเค้าต้องไปผ่อนคลาย(เค้าว่างั้น) - อินเตอร์เน๊ตนี่ยิ่งตัดไม่ได้ค่ะม่งั้นดิฉันลงแดงแน่ๆ สรุปก้อคือตัดไม่ได้เลยสักอย่างค่ะ นอกจากตัดใจไม่เฉียดใกล้ร้านที่มีของสวยๆงามๆล่อตาล่อใจและล่อเงินออกจากกระเป๋าอันแห้งๆของเรา จากคุณ : bellagallo - [ 6 มี.ค. 52 01:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ค่าใช้จ่ายที่ตัดไม่ได้อันดับหนึ่งคือ เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของลูกค่ะ ยังไงก็ต้องยอมจ่ายตรงนี้ แม้ว่าจะพยายามประหยัดซื้อตุนตอนเซลล์ แต่บางทีก็กะไม่ถูก ต้องซื้ออยู่เรื่อยๆ เด็กกำลังโตอ่ะนะ อันที่สองคือของกิน รู้สึกว่าไปจ่ายของทีไร ทำไมหนักไปทางอาหารทุกที ก็พยายามควบคุมราคาตามสมควร แต่ถ้าลูกเอ่ยปากอยากกินนะ ก็ต้อง ดั้นด้นไปหาซื้อให้ วันก่อนไปซุปเปอร์ฯเจ้าลูกสาวเกิดอยากกินกล้วยไข่ ไอ้เราก็ว่ามันแพงเหลือเกิน แต่ก็ยอมซื้อให้ พร้อมบอกลูกว่ามันแพงนะลูก กินให้หมดหล่ะ อย่าทิ้งไว้จนเน่า จ่ายค่าเสียหายไป 3.5 ยูโรค่ะ มีทั้งหมด 9 ลูก อันนี้จำได้เพราะว่าลูกสาวสี่ขวบ กำลังฮิตนับเลข เธอก็นับอยู่นั่นแหล่ะ เอิง...เดอ...ทรัว... ยัยแม่แอบร้องไห้กระซิกๆ กล้วยอะไรฟระ แพงอิ๋บอ๋าย ซื้อกล้วยหอมยังถูกกว่าตั้งเยอะ แล้วไปกระซิบลูกด้วยนะ อย่าอยากกินบ่อยนะลูก รอไว้กลับเมืองไทย ราคาเท่านี้ แม่ซื้อให้หนูกินได้หลายหวีจนอิ่มเลย 555+ กลับมาเขียนรายจ่ายที่ตัดไม่ได้ต่อนะคะ เป็นเรื่องเที่ยวเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนงบกลับไทยไม่พอ ก็เปลี่ยนมาเที่ยวใกล้ๆเป็นประเทศ เพื่อนบ้านหรือต่างจังหวัดแทน จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 6 มี.ค. 52 05:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 - ของลูกทุกอย่างอ่ะค่ะ - อินเตอร์เน็ท - กระดาษชำระใช้เหมือนพี่แจง - ของหลายอย่างใช้แบรนด์ร้าน เช่น Target ไม่ได้ เพราะแพ้อ่ะค่ะ - อาหาร - ค่าไฟจาก heater กลัวลูกหนาวค่ะ จากคุณ : Angel N. - [ 6 มี.ค. 52 06:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เปิดดูกระทู้พี่แจงก่อนอ่ะ เหมือน ๆ จะตอบกระทู้พี่แจง แต่จริง ๆ ตอบกระทู้พี่แอน คชจ. ที่ตัดไม่ได้..... -ค่าเคเบิ้ล+อินเตอร์เนต เพราะมาด้วยกัน -ค่าโทรศัพท์มือถือ  เพราะบ้านนี้ไม่มีแลนด์ไลน์ -ค่าผ้าอ้อม ผ้าเช็ดก้น (อ่านพี่ปอมเขียนแล้ว สงสัยคงต้องทำบ้าง เพราะตอนนี้ใช้เปลืองมาก ๆ  แค่ฉี่ก็ยังใช้เช็ด ถ้าเป็นอย่างอื่น อย่างต่ำสามแผ่น แล้วที่สำคัญ ลูก ๆ มันชอบดึงไปเล่นมาก โดยเฉพาะยัยนิกกี้ ) -ค่าน้ำมันรถ ประกันรถ   นึกออกแค่นี้... บ้านนี้ลูกไม่เคยมีกิจกรรมอะไรทำเลย  ไม่ว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้มีกิจกรรมอะไรเลย  เห็นลูกคนอื่น ๆ มีกิจกรรมนอกบ้านกันเยอะแยะไปหมด  เราแปลกเพื่อน ลูกคลุกอยู่แต่ในบ้าน เล่นกันเองสามคนพี่น้อง บางทีก็ ดูทีวี เล่นคอมฯ ตามประสา  ... ตอนนี้ถึงอยากให้ทำกิจกรรมก็ไม่สามารถจ่ายได้ค่ะ คงต้องหากิจกรรมแบบไม่ต้องเสียเงินให้ทำบ้างดีกว่า รู้สึกว่าเขาอยู่แต่ในบ้าน คงไม่ดีเท่าไร ( ฮีตเตอร์บ้านนี้ตั้งไว้ 74 องศา ตลอดวัน ตลอดคืน แต่บางที มันกลายเป็น 75 เอง...คนใต้ขี้หนาวค่ะ ได้ยินว่าตั้งหกสิบแปด...กรี๊ด  เมื่อวานพ่อบ้านปรับลดเหลือ 72 องศา เพราะอากาศไม่หนาวเท่าไร ดิฉันยังเคืองเลย ตื่นเช้ารีบปรับคืนให้เหมือนเดิม...ดีที่บ้านเล็ก ถ้าบ้านใหญ่ ๆ นี้ จ่ายค่าแก๊สบานเบ๊อะแหง ๆ เลย) จากคุณ : gw - [ 6 มี.ค. 52 11:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ที่ตัดไม่ได้ - ค่าอินเตอร์เน็ต และเคเบิ้ลทีวี ถ้าไม่มีนี่ คุณสามีอาจจะมีอาการคลุ้มคลั่ง ทุรนทุรายได้ - ค่าหนังสือ อันนี้เป็นตัวดิฉันเอง ซื้อมาอ่านทันรึไม่ทัน ทุกเดือนต้องมีรายการสั่งซื้อ ซักเล่มก็ยังดี - ค่าสมาชิกยิมรายปีของสามี - ค่าใช้จ่ายของแมว ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ทราย ขนม ของเล่น วัคซีน หรือค่าประกันรายปี - ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง คุณสามีขอนัก ขอหนาว่าอย่างน้อยต้องได้ลาพักร้อนกลับเมืองไทยปีละครั้ง เป็นฝรั่งที่รักเมืองไทยมาก จากคุณ : Tascha - [ 6 มี.ค. 52 16:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ฮีตเตอร์เราตั้งไว้เกือบๆ 70 แต่ตอนกลางคืน ลดไปให้ประมาณ 60 ต่ำกว่านั้นไม่ได้กลัวท่อ แตก  คนที่พูดว่าปิดฮีตเตอร์นี่ ปิดจริงๆเหรอ หรือว่าตั้งไว้ต่ำพอที่จะให้ท่ออยู่ได้ 75 เนี่ยร้อนไปแล้วหล้า ตั้งอย่างนั้นไปอยู่ไปเมืองไทยเลยไหม 555 ประชดๆ ได้ยินว่าตอนนี้ทางไทยร้อนตับแตกเลยทีเดียว ถ้ากลัวผ้าห่มหลุดให้ลูกใส่ ถุงนอนที่ทำจาก fleece ที่มีซิปข้างหน้าซิ อุ่น ไม่หลุด ไม่อันตราย ยกเว้นว่าเขาจะตื่นมาแล้วเดินทั้งๆที่ใส่อยู่ คงเดินแล้วล้มแน่ๆ จากคุณ : ปรารถนา - [ 6 มี.ค. 52 21:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สะดุดมากค่ะ สามีใครที่ติด facebook 5555 ของบ้านแอนที่ตัดไม่ได้เลยก็ 1. ค่า netflix ค่ะ ยังไงก็ตัดไม่ได้เด็ดขาด พ่อลูกติดมาก ไม่งั้นจะไม่มีอะไรให้ดู 2. ค่า internet หัวใจของบ้านเลยค่ะ  ยังไงก็ห้ามตัด 3. ค่าคอนแท็คเลนส์  ประหยัดไม่ได้ค่ะ   เพราะสะดวกมากกว่าแว่นตา มันรวมไปถึงค่าน้ำยาทั้งหลายด้วย 4. ค่าท่องเที่ยว .... ตั้งแต่มีลูก กลับเมืองไทย ทุกปีค่ะ  บางปี กลับ 2 ครั้งด้วย แถมบางปี มีไปประเทศข้างๆ ด้วย  ถ้าไปแวะอย่างประเทศญี่ปุ่นนี่ คำนวณดูแล้ว ไม่แพงขึ้นเท่าไหร่เลย เพราะไปเปลี่ยนเครื่องที่นั่น ก็แวะเที่ยว 4-5 วัน  ก็เสียแค่ค่าโรงแรม กับจุกจิกเพิ่มเท่านั้นเองค่ะ 5. อือออ ค่าฮีทเตอร์ ก็เปิดตลอด กลัวลูกไม่สบาย 6. ค่า skin laser ยังไงเรื่องนี้ขอเรื่องเดียว บางรายการนี่ เทียบราคาแล้ว แพงกว่าเมืองไทย แต่รับได้ก็ทำ แต่บางรายการแพงเวอร์ ก็กลับไปทำเมืองไทยค่ะ  ชอบมาก 7. ค่าเรียน extra  ทั้งหลายของลูก  ไม่ตัดค่ะ ลูกชอบเรียนเทควันโด้มาก เลยลง membership ให้ไปเลย เป็นรายปี พอลูกบอกว่า อยากเรียนอะไร ก็จะพาไปเรียนค่ะ  ส่วนไอซ์สเก็ต ลูกเรียนแล้วติดใจ แต่ไม่มาก เลยให้เรียนไถๆ ตามเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่แพงเท่าไหร่  ล่าสุด ค่าเรียนว่ายน้ำ indoor ทีแรกคิดว่าจะตัด แต่ลูกกำลังไปได้สวย เลยไม่หยุด ให้เค้าเรียนต่อ 8. ค่าอุปกรณ์กีฬาของตัวเอง ไม่ตัดค่ะ จากคุณ : Second impact - [ 7 มี.ค. 52 07:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สงสัยฮีสเตอร์ของยูเคกับอเมริกาค่ะ  ว่าเหมือนกันใหมคะ  ที่นี่จะร้อนแต่แห้งมาก สังเกตุจากต้นไม้พวกดอกกล้วยไม้จะไม่งามเลยทั้งๆที่ฉีดนำ้พ่นความชื้นตลอด   ที่นี่เราแพ้เพราะจมูกจะแห้งมาก  จะปวดหัวและที่ผ่านมาเป็นไวนัสอักเสบ  หมอก็บอกว่าคนที่นี่เป็นกันเยอะ  แต่เพื่อนเราที่บ้านเค้าใช้เตาผิง เค้าไม่มีปัญหาเหมือนเราเลยค่ะ  แต่บ้านเค้าหนาวมากเพราะเป็นบ้านเก่าหินแกรนิต  เพื่อนๆที่เปิดฮีสตอนกลางคืนด้วยไม่เคยมีปัญหาไซนัสหรือจมูกแห้งเลยหรือคะ  บ้านเราใช้ผ้าปูเตียงไฟฟ้าแทน เราว่าน่าจะอุ่นกว่านะ  ปรับตั้งเวลาใว้  พอนอนหลับมันก็ปิดแต่อุ่นใด้จนเช้าเลย  และที่บ้านจ้างคนมาเลฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาบ้าน  อยากใด้บ้านแบบนอร์เวย์กับสวีเดน พ่อบ้านคิดว่าระบบกันความร้อนของเค้าดีกว่าบ้านที่ยูเคมาก ส่วนค่าโทรศัพท์กับอินเตอร์เน็ต  พ่อบ้านใช้เป็นรายจ่ายของบริษัท สิ้นปีก็ทำบัญชีค่าใช้จ่ายเคลมภาษีเอา  ค่าอินเตอร์เน็ตบอดแบรนด์สมัยนี้ก็ถูกมากๆจนไม่น่าจะตัดทิ้งเลยนี่คะ  แต่คอมใช้ไฟเปลืองมากๆ บ้านใหนใช้หลายเครื่องตอนกลางคืนก็น่าจะปิดสวิตไปเลยค่ะ  เพราะเสี่ยงกับไฟใหม้มากกว่าเสียเงิน   แต่ที่บ้านก็มีตู้ปลาอีกอย่างที่เสียบไฟเยอะเหมือนกันค่ะ   คนใหนทำงานนอกบ้านทั้งสองคนก็คงเหนื่อยพอที่จะทำงานบ้านทำกับข้าวกินเอง  แต่เราแม่บ้านไม่ใด้ทำงานก็ต้องทำเองหมด(ยกเว้นหน้าต่าง)เพราะค่าจ้างสิบปอนด์ต่อชั่วโมงมันแพงจนน่าเสียดายค่ะ  ถ้าถูกๆก็น่าลุ้นหน่อย จากคุณ : ลูกแมง - [ 7 มี.ค. 52 15:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณลูกแมง เราต้องเปิดเครื่องทำความชื้นพร้อมๆกับเครื่องทำความอุ่นค่ะ จากคุณ : ปรารถนา - [ 8 มี.ค. 52 03:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 พี่แจง ... พ่อบ้านหนูก็บ่นร้อน แต่เมียขี้หนาว แถมลูกสาวมันชอบใส่แต่ชุดบาง ๆ บังคับให้ใส่เสื้อแขนยาวมันก็ไม่ยอมใส่  ส่วนลูกชายคนเล็กบางคืน มีถอดชุดนอนออกเอง เหลือแต่ผ้าอ้อม ก็เลยกันเหนียว ทำให้ห้องอุ่นไว้ก่อน ค่าแก๊สเดือนนี้อานเลย  พ่อบ้านเลยพูดประชด (เหมือนใครไม่รู้) บอกว่า ก็เล่นตั้งไว้เจ็ดสิบสี่ เจ็ดสิบห้า ไม่ถึงสองร้อยก็บุญแล้ว อ๊า....ทนร้อนได้นะค่ะ แต่ทนหนาว...ทนได้ไม่ดีเหมือนทนร้อน..... จากคุณ : gw - [ 9 มี.ค. 52 04:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โอววว เห็นรายจ่ายของพีแอนแล้ว ก็น่าจะตัดไม่ได้จริง มันเป็นความชอบจริงค่ะ ...เห็นที่เพื่อนๆพี่ๆว่ากันมา เอมี่แทบจะไม่ในรายการเลยค่ะ เพราะที่บ้านเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีไม่กี่ชิ้น เตาอบไม่มี เครื่องล้างจานไม่มี ฟิตเนสไม่เคยไป ร้านทำผม ปีนึงจะเข้าครั้งนึง ถ้าต้องม้วนผมหรือแต่งทรง ทำเองค่ะ ...ค่าโทรศัพท์ก็ถูก เพราะไม่ค่อยโทร ดูละครไทยก็ยูทูป นิตยสารไม่เคยรับ เพราะอ่านไม่ออก ฮ่าๆๆ ...เสื้อผ้านี่ จะซื้อจะเฉพาะที่อยากได้จริงๆ และจะซื้อช่วงเซลล์เท่านั้นค่ะ บางทีก็ไปแอบดูแบบเขามา ว่าจะหัดเย็บเอง ส่วนปาป๊าแทบจะไม่ซื้อเลยค่ะ เพราะที่ซื้อมาให้จากเมืองไทยยังใส่ไม่หมดเลย ไม่รู้เป็นอะไรชอบใส่เสื้อเก่าๆ ....กินข้าวนอกบ้านเนี่ย แทบจะไม่ เพราะไม่เคยถูกปากร้านอาหารที่นี่เลยค่ะ แต่บางทีนัดเจอเพื่อนก็ไปกินกันนอกบ้านบ้าง เอมี่จะไม่กินอาหารสเปนเลยค่ะ อยู่มาจะสองปี กินอาหารไทยทุกมื้อ แต่ใช่ว่าจะแพง เพราะชอบดัดแปลงอาหาร เรื่องวัตถุดิบจึงไม่ค่อยมีปัญหา ขอให้มี พริกกับน้ำปลา เอมี่อยู่ได้ค่ะ   ******แต่ๆๆๆๆๆ มีบางสิ่งที่มันอดที่ซื้ออยู่เรื่อยๆไม่ได้ ........มันคือพวกผ้า พวกของที่จะทำงานฝีมือ งานสบู่ ขาดไม่ได้ค่ะ ถ้าไม่ได้ซื้อ เหมือนจะขาดใจ เพราะว่าเอมี่ไม่ได้ทำงาน ก็ได้พวกงานอดิเรกพวกนี้แหล่ะ ช่วยให้คลายเหงาได้ จากคุณ : ANGEL IN THE BLUE - [ 10 มี.ค. 52 17:27:10 ]