ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่เห็นเค้าก็ใช้ทุก tense แล้วแต่ว่าพูดถึงอะไรนะ อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าโตมากับภาษาแบบนั้น คุ้นเคยกับภาษาที่ต้องเปลี่ยนรูปแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไร ก็เลยเคยชินที่จะใช้ เปลี่ยน tense เปลี่ยน verb กันอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิด จากคุณ : LittleCancer - [ 7 มี.ค. 52 11:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เท่าที่เคยสัมผัสก็ทุก tense ค่ะ present past future ส่วน perfect ไม่ค่อยนะคะ จะมีบ้าง ถ้ามันต้อง perfect จริงๆอ่ะ ถ้าไม่งั้นส่วนใหญ่ใช้ past แทน perfect passive ไม่ค่อยใช้ ส่วนใหญ่ใช้เขียนกันมากกว่าค่ะ จากคุณ : Yu!eZ - [ 7 มี.ค. 52 13:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากครับ แล้วแปลกๆละครับมีบ้างรึปล่าว วันก่อนดู Series เ ห็นพูด Past future perfect -- Should have done อย่างงี้เ ลยสงสัยว่าเค้าพูดกันบ่อยมั้ย จากคุณ : descendents - [ 7 มี.ค. 52 13:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^^ บ่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด จากคุณ : Match Point - [ 7 มี.ค. 52 14:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่า ทำไมมันยุ่งยากอย่างงี้ แล้วใช้ตอนไหนหรือครับ จากคุณ : 555 (descendents) - [ 7 มี.ค. 52 16:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าแกรมม่าภาษาไทยนี่ยากกว่าภาษาอังกฤษอีกค่ะ แค่คำนามก็แบ่งเป็น 5 อย่างแล้ว (สามานยนาม, วิสามานยนาม, สมุหนาม, อาการนาม, ลัษณะนาม) ไหนจะมี สรรพนาม วิเศษณ์ บุพบท สันธาน อุทาน การใช้คำพ้องรูปต่างๆ ที่ใช้ ณ โอกาสต่างๆ โวหารต่างๆ ที่ใช้เพื่อสื่อความหมายต่างๆ กัน รวมถึงถ้อยคำสำนวนต่างๆ ด้วย เราอาจจะไม่รู้ด้านทฤษฏีกันเท่าไหร่นักว่า ไอเจ้า นาม สรรพนาม วิเศษณ์ อะไรพวกนี้เนี่ย มันมีหน้าที่จริงๆ เอาไว้ทำอะไร ตัวไหนต้องต่อด้วยตัวไหน ถ้าสลับที่กันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น จะใส่คำเสริม หรือตัดคำตรงไหนอย่างไร แต่เราก็ยังสามารถใช้ภาษาไทยสื่อสารกันได้เข้าใจ จริงมั๊ยคะ ดังนั้นเราว่าการที่เค้าสามารถเล่นคำ สลับคำ เปลี่ยนรูปคำต่างๆ ก็เป็นเพราะเค้าใช้กันมาตั้งแต่กำเนิดนั่นแหละค่ะ เราเชื่อว่าความสามารถทางภาษาเป็น "ทักษะ" ถึงแม้ว่าคนชาติที่ไม่ได้เป็น native speaker of english ถ้าได้ฝึกฝนใช้งานบ่อยๆ ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนเล่นคำได้ไม่แพ้เจ้าของภาษากันเชียว ส่วนเรื่อง tense ต่างๆ นั้น เราว่าเราก็ได้ยินฝรั่งเค้าใช้กันหมดนะคะ ตั้งแต่ Present Continueous (I am doing) Present Simple (I do) Pass Simple (I did) Pass Continueous (I was doing) Present Perfect (I have done) Present Perfect Continueous (I have been doing) Past Perfect (I had done) Pass Perfect Continueous (I had been doing) Modals (Can, Could, able to, could have (done), may, might, should) Articles (a, an, the) Adjectives and adverbs (boring, bored, quick, quickly) passive and active และอื่นๆ อีกมากมาย ดูแล้วคุ้นๆ ตา คุ้นๆ หูกันหมดเลยใช่มั๊ยคะ ก็ใช้กันตามถนัดค่ะ :o) Ref.English Grammar in Use, Raymond Murphy เราไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากมายนักหรอกค่ะ แต่พยายามจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่ที่สำคัญก็อย่าลืมการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยค่ะ พอมานั่งอ่านหลักภาษาไทยดูอีกที ก็รู้สึกเหมือนว่าภาษาไทยที่ใช้กันในปัจจุบันนี่ยังมีใช้กันแบบผิดๆ อีกเยอะ ถ้าใช้ภาษาไทยให้ถูกจะฟังแล้วรื่นหูมากๆ เหมือนภาษาอังกฤษถ้าใช้ให้ถูกก็ฟังรื่นหูเหมือนกันค่ะ ==== แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 16:28:13 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 16:25:57 จากคุณ : Krapook-_-' - [ 7 มี.ค. 52 16:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เวลาที่ฝรั่งมันพูด มันพูดเป็นเรื่องปกติครับ เพราะมันใช้ในชีวิตประจำวันทุกวันๆ มีทุก tense ทุก verb  แต่เรากว่าจะพูดได้ เราต้องคิด เพราะมันไม่เป็นอัตโนมัติ แต่ถึงกระนั้น ผมว่า พูดให้ฝรั่งมันเข้าใจก็เพียงพอ กับการใช้ชีวิตประจำวันละครับ จากคุณ : พัฒน์ - [ 7 มี.ค. 52 17:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากๆครับที่ช่วยตอบ ทุกๆคห.เลย จากคุณ : descendents - [ 7 มี.ค. 52 17:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถามต่ออีกนิดครับ ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษได้แบบคนอ่านข่าวต้องอยู่ประมาณกี่ปี จากคุณ : descendents - [ 7 มี.ค. 52 18:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆ แล้วคนที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วทั้งที่เป็นเจ้าของภาษาเองและต่างชาตินั้น   เวลาพูดกันในชีวิตประจำวันไม่มีใครคิดถึงเรื่อง tense กันเลย   เพราะแม้แต่เจ้าของภาษาเองก็มีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง grammar จริงๆ  พูดตามๆ กันไปตั้งแต่เกิดตามอัตโนมัติ   ส่วนคนต่างชาติที่พูดกันคล่องก็เช่นเดียวกัน  มีทั้งที่เรียนรู้ grammar และทั้งที่ไม่รู้เรื่องเลย   แต่เมื่อไปอยู่ในถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษก็จะใช้วิธีจำประโยคแล้วใช้ตามๆ กันไปได้คล่องแคล่วเหมือนกัน ที่ จขกท ยกตัวอย่าง  should have done นั้น  ใน English grammar  ไม่มี past future tense    โครงสร้างประโยคนี้ใช้ should เป็น Modal verb  ซึ่งแปลว่า  "ควร" เหมือนกับ ought to    ดังนั้น should have done ในที่นี้จึงเป็น Perfect  Conjugation  with Should  จะเห็นได้ชัดถ้าใช้ ought to แทนดังนี้ You ought to have been more careful.  หรือ You should have been more careful. ท้ายที่สุดมี Tip จาก English Club ดังนี้ :- Many English learners worry too much about tense. If you stopped 100 native English speakers in the street and asked them about tense, one of them might give you an intelligent answer - if you were lucky. The other 99 would know little about terms like "past perfect" or "present continuous". And they would know nothing about aspect, voice or mood. But they can all speak fluent English and communicate effectively. Of course, for ESL it helps to know about tenses, but don't become obsessed with them. Be like those native speakers! Speak naturally! แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 23:37:38 จากคุณ : Scharfsinn (Scharfsinn) - [ 7 มี.ค. 52 18:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข้างบนคำตอบดีมากเลย ถึงจะไม่ได้บอกวิธีหรือเคล็ดลับพูดภาษาอังกฤษ แต่เข้าใจอารมณ์ native speaker ได้ดีขึ้นจริงๆ จากคุณ : 22 (descendents) - [ 7 มี.ค. 52 18:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฝรั่งส่วนใหญ่เค้าจะบอกเลยว่า เค้ารู้ว่าจะพูดอะไร อะไรถูก อะไรผิด เพราะเค้าเลียนเสียง เลียนประโยคจากพ่อแม่ ตั้งแต่เด็กค่ะ แต่ถ้าจะถามเค้าว่าอันไหน adv adj เนี่ย เค้าจะงงๆ แล้วบอกไม่แน่ใจ ประมาณนั้นเลยค่ะ ส่วน tense ส่วนใหญ่ก็ใช้หมดค่ะ perfect ก็ใช้นะค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย จากคุณ : kOi&kOy - [ 7 มี.ค. 52 19:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Should have done มันเป็นกรณีหนึ่งใน If clause ครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเทนส์ ถ้าเป็นเทนส์ มันอ้างอิงถึงเวลาไหนเหรอ แล้วที่ จขกท บอกว่า นี่คือ เทนส์  past future perfect เอ่อ ตกลงมันเป็น past หรือ future กันแน่ แค่ชื่อก็สับสนแล้วนะเนี่ย จริงๆแล้ว จำอารมณ์ประมาณว่า ฉันน่าจะทำมันนะเนี่ย (แต่ไม่ได้ทำ) อารมณ์นี้เลย ถ้ามีเหตุการณ์ประมาณ เช่น เพื่อนมาบอกว่า เฮ้ย เมื่อวานนี้ ห้าง XXX ลดราคาสินค้า 50%  ของดีราคาถูกมากมาย   คุณก็อาจจะพูดทำนองว่า โอ้ ฉันไม่น่าพลาดเลย  คุณก็อาจพูดได้ว่า I should have been there.  คือพออารมณ์นี้ ประโยคแบบนี้จะมาทันที ไม่ต้องไปคิดเรื่องเทนส์เลย  ใช้บ่อยๆ มันจะออกมาเอง จากคุณ : Tiger อู๊ด - [ 7 มี.ค. 52 21:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ซ้ำค่ะ ขอโทษค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 22:25:52 จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง - [ 7 มี.ค. 52 22:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 perfect เนี่ย ใช้บ่อยนะจ๊ะ รวมๆ เวลาเขาพูดเขาจะไม่มานั่งคิดเรื่องแกรมม่า รูปประโยคเลยค่ะ ใช้ความเคยชินล้วนๆ เผลอๆคนไทย จะเก่งเรื่องแยกแยะรูปประโยคมากกว่าพวกเขาด้วยซ้ำ แต่คนไทยจะไม่ค่อยได้ทักษะพูด ถ้าไม่ได้ฝึกฝนจริงๆจังๆ ขอแนะนำนะคะ ว่าถ้าอยากพัฒนาการพูดให้คล่อง ถ้าตอนนี้อยู่ต่างประเทศ เช่นอังกฤษหรืออเมริกาแล้ว ขอให้ฝึกพูดโดยตรงกับฝรั่งค่ะ ได้ผลจริงๆ อย่างบางคำหรือบางรูปประโยคเนี่ย ไม่เคยผ่านหูผ่านตาเลย แต่เราจะเข้าใจและจะจำไปได้ตลอดค่ะ ได้ผลดีกว่าฝึกท่องศัพท์ หรือ ฝึกจำรูปประโยคด้วยซ้ำค่ะ ลองดูนะคะ ยังไงภาษาอังกฤษก็ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะสนุกด้วยนะคะอยู่ที่การฝึกฝนล้วนๆค่ะ จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง - [ 7 มี.ค. 52 22:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเรียนวิชา writing อาจารย์ให้แยกแยะอันไหน adj adv verb noun จากประโยคที่ให้มา native เองยังตอบไม่ค่อยได้เลย คนที่ไม่ใช่ native กลับตอบได้มากกว่า แปลกแต่จริง! จากคุณ : pofong - [ 7 มี.ค. 52 23:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 555 จำผิดจริงๆ ครับชื่อเรียก Tense เนี่ย พยายามผสมดูแต่จำผิด จากคุณ : 555 (descendents) - [ 8 มี.ค. 52 00:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่มีใครมานั่งแยกหรอกค่ะ พูดไปโดยอัตโนมัติ ก็เหมือนเราพูดไทย ไม่เห็นเราเคยมานั่งคิดว่า ตอนนี้จะพูดยังไง ประธานตัวไหน กรรมตัวไหน จากคุณ : Le Cielo - [ 8 มี.ค. 52 09:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบเท่าที่พอรู้นะครับ การที่หลายคนรู้สึกว่า non-native speaker อย่างเราๆ รู้ศัพท์เกี่ยวกับภาษา (metalinguistic terms) อาทิ ชื่อ tense, part of speech ได้แม่นยำกว่า ก็เป็นเพราะเราเรียนกฏภาษาอังกฤษกันแบบ explicit ครับ ในขณะที่ฝรั่งเคัาใช้ของเค้ากันแบบอัตโนมัติ แต่อาจจะไม่ได้รู้ศัพท์พวกนี้เท่าเราเท่านั้นเอง ถ้าถามว่าการรู้คำพวกนี้คือปลายทางของการเรียนภาษาไหม ก็ไม่ใช่ เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการเรียนภาษามากกว่า ฝรั่งใช้ tense หมดมั้ย ถ้าพูดถึงในแง่ tense ของภาษาอังกฤษที่เราเรียนกันว่ามี 12 tense  (ไม่ใช่ในแง่ภาษาศาสตร์ ซึ่งจริงๆแล้ว 12 tense ที่ว่าเป็นการผสมกันระหว่างสิ่งที่เรียกว่า tense กับ aspect) นั้น ผมว่าในชีวิตจริงใช้กันไม่หมดหรอกครับ บางอันอย่าง past perfect continuous นี่ ยากมากที่จะมีฝรั่งพูดออกมา (ผมเชื่อว่าไม่มี ขนาดภาษาเขียนที่ formal มากกว่าก็ยังไม่เคยเห็น) นอกจากนี้ บางประโยคจริงๆ ก็ไม่มี tense ครับ เช่นประโยคที่ใช้พวก modal verb จริงๆแล้วถือว่า tenseless ส่วนใช้อันไหนเยอะสุดนี่ เดาว่าเป็น present simple, past simple นอกจากนี้พวก  modal ที่ว่าไม่มี tense ก็เยอะครับ สิ่งที่ยากสำหรับ non-native speaker เวลาพูดนั้นมีหลายอย่างครับ แต่ที่หลักๆคิดว่าเป็นเพราะบางครั้งเรารู้กฏก็จริง ถ้าให้ท่องออกมาก็บอกได้เป็นฉากๆ ให้เขียน writing ก็อาจจะได้ แต่เนื่องด้วยการพูด ส่วนใหญ่ก้ต้องตอบทันที เราถึงเอาสิ่งที่เรารู้ออกมาใช้ไม่ทัน บางครั้งอาจจะไม่เคยเอามาใช้เลย หรือเคยใช้แล้วแต่คราวนั้นๆมันไม่ออกมา ทั้งนี้ก็ต้องฝึกฝนหละครับ ฟังหรืออ่าน (input) จะได้เห็นตัวอย่าง เช่นว่า คำนั้นใช้อย่างไร คำนั้นออกเสียงอย่างไร หรือต้องลองพูดออกมา (output) ให้ได้เห็นว่าเออ ถ้าอยากจะพูดอย่างนั้น พูดออกมาไม่ได้ หรือพูดออกมาแล้วฝรั่ง ไม่เข้าใจเราเลย เราก็จะได้เอาจุดนี้ไปแก้ไข Speaking เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา และสำหรับผม คิดว่าเป็น skill ที่ยากครับถ้าจะให้เข้าใกล้ความเป็น native สำหรับเรื่องการเรียง adjective, noun อะไรที่คุณว่ามานั้น จะบอกว่าภาษาไทยไม่ยุ่งยากก็ไม่ใช่หรอกครับ ภาษาไทยเอง ก็มีเรื่องพวกนี้เหมือนกัน แต่เพราะว่าภาษาไทยเป็น native language ของคุณคุณเลยรู้สึกว่ามันไม่ยากเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามขอเสริมความเห็นที่ 10 นิดนึงครับ ที่ว่า native speaker เวลาพูดกันไม่มีใครคิดถึงเรื่อง tense กัน จริงๆจะว่าเค้าไม่คิดก็ไม่ถูกซะทีเดียว อย่าลืมว่า tense มีผลต่อความหมาย (meaning) และความเหมาะสม (appropriateness) การที่เค้าจะพูดประโยคออกมา สมองก็ต้องคิดออกมาแล้วหละว่าจะต้องสื่อความหมายที่ต้องการได้ หรือเป็นการสื่อโดยใช้ภาษาที่เหมาะสม เพียงแต่มันออกมาแบบอัตโนมัติ เร็วเหมือนไม่ได้คิดเท่านั้นเอง แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 11:43:50 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 11:26:53 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 11:17:37 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 11:10:31 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 11:02:34 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 10:56:28 จากคุณ : MashedPotato - [ 8 มี.ค. 52 10:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 *3 Should have done เช่นถ้าบอกว่า You should have done that. ประโยคนี้ไม่มี tense ครับ แต่มี modal verb คือ should ผสมกับ aspect คือ perfect ให้ความหมายเป็นอดีต คือคุณควรจะทำนั่นนะ (ในอดีต แต่จริงๆ คุณ ไม่ได้ทำ เป็นการแสดงความเห็นแบบ past judgment นั่นเอง) เทียบกับภาษาไทยก็ประมาณว่า "รู้งี้ตอนนั้นเธอน่าจะทำสิ่งนั้น" ครับ จากคุณ : MashedPotato - [ 8 มี.ค. 52 11:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลองเอาตัวเองมาตั้งอยู่ในสถานะการณ์ของ จขกท ดูว่า  ตอนที่ตัวเองเริ่มเรียน tense ในภาษาอังกฤษก็งงเหมือนกัน   จำที่ครูสอนมาเป็นสูตร  รู้เป็นสูตรอีกว่า tense ไหนใช้กับเวลาไหน   แต่พอจะมาใช้ในชีวิตจริง   ประโยคที่จะใช้ก็ไม่เหมือนกับในตำราเสมอไป   คราวนี้ก็จะเกิดคำถามว่า   แล้วจะใช้ tense ไหนถึงจะถูกต้อง จากประสบการณ์จริงของตัวเองซึ่งอาจแตกต่างจากคนอื่นก็ได้คือ   การอ่านภาษาต่างชาติที่ต้องการเรียนนั้น   เป็นบันไดขั้นต้นสำหรับทักษะอื่นๆ ที่จะตามมา  ไม่ว่าจะฟัง   พูดหรือเขียน เพราะการอ่านนั้นเรามีเวลามากมายที่จะทำความเข้าใจกับประโยค  และมีเวลาวิเคราะห์ทางด้าน grammar ด้วย   เมื่อเริ่มอ่านมากๆ เข้าจนคุ้นชินกับการใช้ภาษานั้นแล้ว   พอมาได้ยินเขาพูดกันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในหนังหรือในสถานะการณ์อื่น   ก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้นทันทีเพราะประโยคเหล่านี้เราผ่านจากการอ่านมาแล้ว จขกท ลองอ่านหนังสือที่เป็นเรื่องเล่าดู  อาจจะเป็นนิทานสำหรับเด็กหรือนิยาย  อะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบ   อ่านแล้วถามตัวเองดูว่า  เข้าใจเรื่องราวหรือเปล่า    เพราะการใช้ tense  นั้นคือการลำดับเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นเอง   ถ้าเข้าใจก็แสดงว่า  คุณเข้าใจการใช้ tense ด้วย   คราวนี้คุณก็สามารถเอาไปใช้การได้จริงๆ จากคำถามของ จขกท  นั้นแสดงว่า คุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจไฝ่หาความรู้  สังเกตุว่าจะตั้งกระทู้ถามทำนองนี้อยู่เนืองๆ   จึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่า   คุณจะประสบความสำเร็จในอนาคต จากคุณ : Scharfsinn (Scharfsinn) - [ 8 มี.ค. 52 15:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เพื่อนๆตอบกันดีจังเลยค่ะ และเห็นด้วยกับคุณ Scharfsinn ว่า คำถามของจขกท.แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนใฝ่หาความรู้ ก่อนเราจะมาเรียนต่างประเทศ เคยมีคนแนะนำเราอย่างชุ่ยๆว่า ไม่ต้องไปสนใจหรอก เรื่อง tense อะไรเนี่ย ใช้แต่ present tense มันอย่างเดียว ฝรั่งก็รู้เรื่อง เราฟังแล้วรู้สึกขัดใจมาก เพราะเราเป็นคนชอบด้านภาษา และเราก็อยากใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคนที่มีความรู้ ถึงจะไม่มีวันเทียบเท่า native ก็เถอะ จริงอยู่ว่า พูดมั่วซั่วไปอย่างไร ฝรั่งเข้าใจก็จริง แต่พูดออกมาแล้วเหมือนคนไม่มีการศึกษา ใครเค้าจะยอมรับ นี่เรามองไกลๆถึงเรื่องความก้าวหน้าทางการศึกษา การทำงานด้วยนะคะ อ่านกระทู้นี้แล้วเลยถูกใจมากมาย ว่ามีเพื่อนๆที่เห็นความสำคัญของการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง กันเยอะแยะ ถึงจะไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของเราก็ตาม ส่วนตัวเรา การดูทีวี ช่วยได้มากๆ ฟังบ่อยๆ มันก็ติดหัวมาเอง เพื่อนเราบางคนชอบเปิด closed caption ไปด้วย เพราะว่าจะได้เห้นประโยคกันจะๆไปเลย อันนี้เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าทำให้ทักษะด้านการฟังด้อยลง เพราะมัวแต่อ่าน ไม่ยอมฟัง แต่ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนนะคะ เราว่าถ้าตั้งใจศึกษา ไม่ว่าจะวิธีใดก็ดีทั้งนั้น จากคุณ : เม - [ 10 มี.ค. 52 09:14:36 A:192.168.0.17 X:76.238.130.176 TicketID:077556 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใช่ค่ะ ฝรั่งเค้าพูดกันทุก Tense เลย แรก ๆ เราก็คิดว่าไม่ต้องสนใจ พูดไปก่อน ฝรั่งน่าจะเข้าใจ แต่จริง ๆ แล้วเค้างงนะ เพียงแต่บางคนเค้ามีประสบการณ์คุยกับคนเอเชียบ่อย ๆ เค้าก็พอจะเดาได้ว่าเราหมายถึงอะไร แต่สำหรับบางคนที่ไม่เคยคุยกับคนเอเชียที่ภาษาอังกฤษแย่จนถึงปานกลาง เขาจะงงมาก ไม่รู้ว่าเราพูดอะไร สำเนียงก็ฟังยาก แถมไวยากรณ์แย่อีกต่างหาก ยิ่งสื่อสารกันลำบากจนถึงขั้นไม่รู้เรื่องเลย เราเคยถามนายเรานะ ให้อธิบายเรื่องไวยากรณ์ เขาอธิบายไม่ได้ เขาบอกว่าเป็นอะไรที่อธิบายยาก ฮ่า ฮ่า เพราะงั้นบางคนถึงพูดว่าจะเรียนไวยากรณ์ต้องเรียนกับอาจารย์คนไทย จะเข้าใจได้ง่ายกว่า จากคุณ : ข้าวหอม - [ 11 มี.ค. 52 14:51:21 A:202.129.41.250 X: TicketID:207707 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แต่จากประสบการณ์เวลาพูดถ้าไม่ชัวร์ ก้อใช้presentไปฝรั่งก้อจะงงน้อยกว่า พยายามใช้tenseนะ จากคุณ : my chiro - [ 12 มี.ค. 52 23:25:52 ]