ความคิดเห็นที่ 1 ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ การพูดฝึกได้จากการกล้าที่จะลองพูด คือขอให้ได้พูดไปก่อน ไอ้หลักการค่อยว่ากัน ถ้าผู้สนทนาใจดีช่วยแก้ไขให้ระหว่างพูดก็ถือว่าเราได้กำไรเพิ่ม มันเหมือนเป็นการวัดไปในตัวด้วยเลยค่ะ ว่าเค้าเข้าใจเรามากแค่ไหน และเราสามารถใช้คำให้หลากหลายได้แค่ไหนคะ เริ่มแรกตอนที่หนูอยู่ไทยเมื่อก่อนไปอ่านหนังสือของครูเคทมา แล้วก็ลองฝึกเองก็ช่วยได้ในระดับนึง ลองฟังข่าว ดูหนังบ่อยๆ แล้วจำให้ได้เป็นคำ เปล่งเสียงออกมาหลายๆ รอบให้เหมือน ฝึกให้ได้วันละสิบถึงสิบห้าคำก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายนะคะ แค่จับได้เป็นคำๆ หลังจากนั้นลองเป็นประโยคดูคะ อย่างประโยคทั่วไป ปลายๆ เสียงส่วนใหญ่มันก็จะต่ำลง อ้อ ถ้าอยากให้สำเนียงดูดีนะคะ พยายามไม่ต้องพูดชัดทุกคำค่ะ เพราะส่วนใหญ่มันจะเน้นแต่กริยา หรืออะไรที่เราต้องการจะบอก ส่วนประโยคคำถามท้ายประโยคส่วนใหญ่เสียงจะสูงหน่อย แล้วก็ให้เปิดข่าวหรือเพลงภาษาอังกฤษนอนทุกวัน ย้ำทุกวัน ภายในสามเดือนมันเหมือนภาษาอังกฤษมันฟังรื่นหูขึ้น แล้วเข้าใจมากขึ้น เพราะทุกทีที่เราไม่เข้าใจเพราะว่าเราออกเสียงไม่เหมือนเจ้าของภาษาอ่าคะ พยายามอ่านข่าวที่เป็นภาษาอังกฤษให้ได้ทุกวันก็จะดีมากค่ะ หรือเว็บไซต์ดีๆ ที่พี่สนใจจะยิ่งช่วยได้ เอาใจช่วยค่ะ ไม่เริ่มวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเราจะได้วันไหนจริงไหมค่ะ มีอะไรก็หลังไมค์นะคะ จากคุณ : I (Icing-CooL) - [ 8 มี.ค. 52 00:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1.ซื้อ CD บทสนทนาเบื้องต้นมา กรอกใส่หู แทนเพลง MP3 ติดกันซัก 3 เดือน 2.หัด พูดโดยการเลียนแบบฝรั่ง ดูเอาจาก DVD หรือ CD ที่ฟัง 3.พยายามอ่าน นสพ.ภาษาอังกฤษ อย่างเดียว 4.เอากระดาษแปะ สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านเป็นภาษา Eng 5.ฝึกเขียน บ่อยๆ ฝึกแปลบ่อยๆ จากคุณ : voz`  - [ 8 มี.ค. 52 00:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ...เอาความเสียใจมาเป็นแรงผลักดันไปในตัว... คุณทำถูกต้องแล้วค่ะ แล้วก็ไม่ต้องไปโกรธอะไรโต้ตอบอะไรเขา คำแนะนำจากคห.1และ2นั้นดีค่ะ ถ้าคุณทำได้อย่างนั้นแล้วทำอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าคุณจะเก่งขึ้นนะคะ  แต่ก่อน DVD ที่เราดูเพื่อฝึกฟังแล้วก็พูดก็คือเรื่อง Friends เราชอบเรื่องนี้เพราะว่าใช้บทสนทนาระหว่างเพื่อนๆ บทพูดเยอะดี เราฟังไป แรกๆก็เปิด subtitle เพราะว่าพอไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรก็รีบดูsubtitleแล้วจดไปหาความหมายเอา  ดูDVDไปพูดตามไปด้วย เนื่องเรื่องก็ขำๆอีกต่างหาก ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ จากคุณ : forbidden donut - [ 8 มี.ค. 52 01:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความกล้าจ๊ะ จะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาแย่ๆนี้ไปได้ พูดไปเหอะ สิ่งที่คุณเข้าใจ ไม่ต้องไปสนใจว่ามันจะต้องเป็นรูปประโยคที่สมบูรณ์แดะๆ พูดเยอะๆ ฟังเยอะๆ อย่าเพิ่งหวังว่าสำเนียงเราจะเหมือนเจ้าของภาษา มันต้องใช้เวลา ถ้าเจอพวกที่ล้อเลียนเนี้ย ก็อย่าไปถือโทษโกรธเค้า ใช้โอกาสให้เป็นโยชน์ ถามเค้าไปเลยว่า คุณพูดอะไรผิด สอนหน่อย ถ้าเราคิดในแง่บวก คิดอยากให้คนอื่นแนะนำ แล้วลดอีโก้ในใจตัวเองได้ เปิดใจให้กว้าง คนที่จะมีความสุขที่สุด คนที่จะได้รับประโยชน์ที่สุด ก็คือตัวคุณเองค่ะ หวังว่าพอจะเป็นกำลังใจให้คุณบ้าง อย่าอายที่จะพูด แรงกดดันไม่เกิน 3-6เดือนก็น่าจะพูดคล่องนะ โชคดีค่ะ จากคุณ : dcapar - [ 8 มี.ค. 52 01:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อก่อนเราเป็นคนที่แย่ภาษาอังกฤษมากๆ ตอนเรียนปริญญาตรีได้ D+ Eng ตั้งสองเทอมเลยอ่ะ โดนเพื่อนหัวเราะเยาะเหมือนคุณเลย แต่ก็ใช้วิธีดูหนังฟังเพลงเอา แรกๆ อาจจะไม่เข้าใจ สักพักก็จะเริ่มสามารถแยกแยะคำพูดได้ เวลามองสิ่งของก็พยายามนึกศัพท์ภาษาอังกฤษว่าคืออะไร ส่วนการพูดถ้าอยากได้สำเนียงฝรั่งก็ต้องกล้าเลียนแบบเค้า ไม่ต้องสนใจใครจะพูดอะไร ว่างๆ ก็หยิบหนังสือนิยายภาษาอังกฤษมาลองอ่านดู ได้ทั้งศัพท์และประโยคที่เค้าใช้จริงในชีวิตประจำวัน แล้วก็ลองอ่านออกเสียงให้เป็นสำเนียงฝรั่งดู น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะคะ จากคุณ : Tang_Siri - [ 8 มี.ค. 52 01:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 What's stopping you from learning English properly when you are already in England? I wonder! จากคุณ : genf - [ 8 มี.ค. 52 01:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่นเลย ขอนับถือ จขกท มากค่ะ ที่นำแรงกดดัน มาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันค่ะ สำหรับเรื่องการฟังนะคะ  แนะนำให้ฟังเพลงอังกฤษจ้ะ ฟังแล้วก็เปิดเนื้อร้องร้องตามไปด้วย เราจะได้รู้ว่า เขาลากเสียงกันยังไงค่ะ เพราะว่าเรายังติดสำเนียงไทย ๆ แล้วก็อ่านตรงตัวมากไปค่ะ ส่วนเรื่องการซื้อแผ่นซีดีมาฟังแล้วพูดตาม เรารู้สึกว่ามันเบื่อค่ะ เหมือนเราซื้อแผ่นซีดีมาให้หลานฟัง หลานก็เบื่อ __''  เราว่าเรียนอะไรที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตเรามันทำให้ซึมซับได้ไวกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนค่ะ ว่าชอบแบบไหน ^-^ ส่วนการอ่านเราก็พยายาม "พาตัวเอง"เลือกอ่านเว็ปที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น bangkokpost ค่ะ แล้วก็ซื้อนิยายฝรั่งมาอ่าน แต่เอาเล่มบางๆ นะคะ เช่น 30 หน้า ตัวหนังสือใหญ่ ๆ เพื่อสร้างแรงบัลดาลใจให้ตัวเองอยากอ่านมากกว่าเดิมค่ะ ^-^ เราอ่านตั้งแต่นิทานอีสป อ่ะค่ะ ___'' สำหรับ จขกท เราอยากแนะนำให้ซื้อเรื่องของ oxford   มันจะเขียนด้านข้างว่า Oxford Bookworms เราจะได้เป็นหนอนหนังสือไง ^-^ มันจะมีบอกระดับด้วย ว่าเรื่องที่อ่านมีกี่คำ อย่างเช่นเราตอนนี้ก็อ่านระดับ 4-5- 6  ใครจะว่าเราอ่านเรื่องที่ง่ายเกินไปเราไม่สนค่ะ เพราะว่าเราเป็นคนที่ชอบเขียนประโยคสลับ Tense ค่ะ (ซึ่งเป็นความชอบที่บกพร่องโดยสุจริต)   เลยต้องเอาเรื่องที่มีการใช้ Tense แบบชัด ๆ มาอ่าน ส่วนเรื่องที่อ่านเอามันส์ เอาสำนวน เอาลีลา เอารสชาติ ตอนนี้ก็อ่าน Macbeth, Oediphus,Antigone ซึ่งเราอ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง (แต่อัตราส่วนความไม่รู้เรื่องมันมากกว่า 55+)  แต่ถ้าให้ชอบจริง ๆ ก็คงเป็นเรื่อง A Steetcar Named Desire เพราะว่าเวลาเราเลือกเรื่องที่มันตรงกับความชอบเรา มันจะทำให้เราอ่านแบบว่าเข้าใจได้ในบริบท แม้จะไม่เปิดศัพท์ หรือว่าติดขัดคำบางคำ มันก็ทำให้เราอ่านได้แบบเข้าใจค่ะ ตอนนี้อ่านเป็นสิบ ๆ รอบแล้ว (:-)ีใจจังเลย) ส่วนเรื่องการฝึกการออกเสียงนะคะ เราก็ทำแบบนี้ค่ะ เวลาเราอ่านก็นอนอ่านคนเดียวในห้อง อ่านออกเสียงเลย เวลาเป็นบทสนทนา ก็ใส่วิญญาณนักพากย์เข้าไปเลย ^-^ เหมือนเราที่แอ้บพูดแบบเร็ว ฮ่าๆ อยากออกเสียงยังไงก็ออกเลย  เราว่ามันช่วยเรื่องการออกเสียงได้มากค่ะ เราหวังว่าวิธีการของเราอาจจะเป็นประโยชน์กับ จขกท นะคะ สู้ๆ ค่ะ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ - [ 8 มี.ค. 52 01:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยเป็นคนเหมือน จขกท เหมือนกัน วิธีจากประสบการณ์นะ อ่านหนังสือให้มากๆ อ่านข่าวเยอะๆ ฟังวิทยุทุกวัน ภาษามันจะได้เข้า หันออกไปคบสังคมบ้าง หางานที่มีแต่คนพูดภาษาอังกฤษ เรียนยามค่ำ เป็นต้น จากคุณ : สาวใหม - [ 8 มี.ค. 52 04:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เก็นความเสียใจใว้เถอะค่ะ ดิฉันเองถูกเพื่อนคนไทยด้วยกันหัวเราะเยาะเเถมเอาเราไปนินทาเรื่องเราพูดภาษาอังกฤษไม่ถูก เธอจบเเค่ม.3 เเต่เธอทำงานเกี่ยวกับฝรั่ง เธอเลยพูดใด้ ตัวดิฉันเองตอนนั้นเพิ่งจบปริญญาตรีมาเเละเพิ่งเข้าทำงานใหม่ ยังพูดสู้เธอไม่ใด้เลย ของพรรค์นี่เป็นทักษะ ฟัง-พูดบ่อยๆจะเก่งดูหนังฟังเพลงฝรั่งเยอะๆ ช่วยใด้ ดิฉันมาอยู่อเมริกา พูดผิด ไม่เห็นมีฝรั่งที่ไหนเขาหัวเราะ มีเเต่พยายามช่วย เฮ้อ... จากคุณ : Quel - [ 8 มี.ค. 52 04:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดูการ์ตูนเด็ก ภาษาเด็กๆ ง่ายๆก่อนนะคะ แล้วค่อยเริ่มไปที่เพลง ทีวีโชว์ หรือ หนัง ก็ได้ค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยไป หลักไวยากรณ์แป๊ะไว้ก่อนก็ได้ เอาให้เข้าใจก่อน อย่างอื่น เดี๋ยวมันก็ตามมา จบแล้วต่อไปด้วยการดูสารคดีต่างๆ ตามด้วย สัมมนา หรือ ข่าว ค่ะ หรือ สุนทรพจน์ ก็ได้ค่ะ เผื่อเป็นการเรียนรู้ตามไวยากรณ์หน่อยนะจ๊ะ และจะช่วยได้มากถ้าที่ดูนั้นเป็นเรื่องที่คุณสนใจ เช่น ชอบสัตว์ ก็ดูสารคดีสัตว์ต่างๆ ชอบวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ก็ไปตามทางนั้นๆได้ค่ะ จะได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ ต้องฝึกเป็นประจำด้วยนะคะ สู้ๆ จ๊า จากคุณ : Kryta (kryta) - [ 8 มี.ค. 52 05:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ใครจะดูถูกเราก็ช่างค่ะ แต่ตัวของเราเองอย่าดูถูกตัวเองแค่นั้นพอ ถ้าเราไม่นับถือตัวเราเอง ยังไงก็ไม่มีทางประสพความสำเร็จคะ จากคุณ : I (Icing-CooL) - [ 8 มี.ค. 52 05:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 www.economist.com, www.nytimes.com ,www.japantimes.com อ่านเยอะๆ จากคุณ : guyver - [ 8 มี.ค. 52 06:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Don't give up na krab... จากคุณ : basura man (basura) - [ 8 มี.ค. 52 08:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 www.nitipoom.com  si krab...4 learning English.. จากคุณ : basura - [ 8 มี.ค. 52 08:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เหมือน คห 7 ครับ ผมเองเมื่อก่อนบัดซบมากกับภาษาอังกฤษ ทุกวันนี้ก็ยังบัดซบอยู่  กั่กๆๆ แต่ว่าผมอาศัยการฟังเพลงครับ แล้วหาเนื้อมาลองอ่านดู เริ่มจากเพลงง่ายๆ ก่อนก็ได้ครับ ที่ไม่มีความซับซ้อน อย่าง Leaving on a jet plane, Take me home country road อะไรแบบนี้  แล้วพยายามแปลพยายามเข้าใจบริบท การฟังเพลงช่วยได้หลายอย่างครับ 1. รู้สำบัดสำนวนต่างๆ ที่เพลงจะให้มา 2. รู้ที่มาที่ไปของสิ่งที่เขาจะสื่อในเพลงนั้นๆ 3. บางทีทำให้เรารู้การใช้ Phrasal words หรือพวกไวยากรณ์ แม้จะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ก็พอรู้บ้าง 4. สนุกกกว่าไปนั่งเรียนในห้องครับ ปล. เพลงที่ถ้าฟังแล้วเข้าใจ แล้วแปลออกได้เกือบหมด เข้าใจบริบทได้ แล้วสร้างเลเวลเทพได้ ก็อย่าง Stairway to heaven/Led Zeppelin, Hotel California/Eagles.  หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะเพลงพวกนี้ซับซ้อนเหลือเกิน เทพแต่ง กั่กๆๆๆ จากคุณ : พัฒน์ - [ 8 มี.ค. 52 08:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ฮึดสู้ ลูกผู้ชาย หยามไม่ได้ ฆ่าก็ไม่ได้ด้วย จากคุณ : jeejeeberry - [ 8 มี.ค. 52 09:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ควรออกจากสิ่งแวดล้อมเดิม และพาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ หากอยู่ในสถานะที่ทำได้ เช่น หารูมเมทฝรั่ง ไปเป็นอาสาสมัครอ่านหนังสือให้คนแก่ฝรั่งฟังที่บ้านคนชรา หรืออื่นๆที่เราชอบ จัดตารางชีวิตใหม่ ตัวอย่างเช่น... 1  เขียนศัพท์ใหม่และคำแปล ติดไว้หน้าตู้เย็น วันละสิบคำ ท่องให้ได้ก่อน ถึงได้เปิดตู้เย็นเป็นรางวัล 2 อ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้าวันอาทิตย์ เพราะจะหนาและรวมข่าวมาก อ่านทุกหน้า สาม ชม.และเขียน    สรุปข่าว เป็นภาษาอังกฤษ ศัพท์ใหม่ที่ไม่รู้ไฮไลท์เอาไว้ เก็บไว้ใส่สมุดเก็บไว้ 3  จันทร์ ถึง ศุกร์ หารายการทีวีเช่น Friends หรือที่ชอบ นั่งดูทุกวัน และพูดตาม ( แนะนำว่าควรดู    คนเดียว เพราะต้องออกเสียงตามดังๆ ) 4  ช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยง หลบหลีก ในการพูดภาษาไทย สักพัก 5  ควรคิด เรียบเรียงประโยคเป็นภาษาอังกฤษในหัว มากกว่าคิดเป็นไทยแล้วแปลเป็นอังกฤษ 6  ตื่นเช้าและก่อนนอน เปิดวิทยุ และฟังดีเจพูด และโทรไปขอเพลงที่เราชอบ การที่ไม่เห็นหน้ากัน    จะเพิ่มความกล้าพูดมากขึ้น และความกลัวจะค่อยๆลดลง รับรองผล หากบังคับตัวเราเองทำได้ แค่ หกเดือนเท่านั้น ก็ไม่มีใครกล้ามาดูถูกคุณแล้วค่ะ อย่าเพิ่งท้อก่อนนะ คุณนอนหลับฝันเป็นภาษาอังกฤษเมื่อใด นั่นคือคุณข้ามมาได้ขั้นนึงแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 10:58:48 จากคุณ : McMullence - [ 8 มี.ค. 52 10:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลงทุนไปเรียน Intensive English Course ที่ AUA เรียน จันทร์-ศุกร์ วันละ 6 ชั่วโมง 0900-1600 น. เรียนเข้มข้นได้ทักษะทั้งสี่ ฟัง พูด อ่าน เขียน หลักสูตรนี้มี 8 ระดับ ระดับละ 6 สัปดาห์ = 180 ชั่วโมง ผู้สมัครจะต้องเข้าทดสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษก่อน (AUA ใช้ข้อสอบ Michigan English Language Battery Test) และ สอบสัมภาษณ์ ภาษาอังกฤษ แต่ละระดับ มีนักเรียนห้องละไม่เกิน 20 คน อาจารย์ผู้สอนเป็นอาจารย์ขาวอเมริกัน หรือ แคนาเดียน ตำราและสื่อการสอนถือว่าดีมาก ผมเคยเรียน 2 ระดับ 6-7 ช่วงปี 1999 หลังจากนั้นมาเรียนภาษาอังกฤษ 8 สัปดาห์ ที่ New Zealand ปี 2003 สัปดาห์ละ 23 ชั่วโมง รู้สึกว่าดีใจมากที่ได้เรียน Course ของ AUA หนังสือตำราที่ใช้เรียนของ AUA ทุกวันนี้ยังเก็บรักษาไว้อย่างดี ความเห็นส่วนตีว หากมีเวลา ทุนทรัพย์ และความขยันหมั่นเพียร ขอแนะนำ Course นี้ครับ อนี่ง การบ้านและหนังสืออ้านเตรียมบทเรียนวันต่อๆ ไป เยอะ ครับ ขนาด วันหยุดผมยังต้องอ่านหนังสือทำการบ้านเตรียมตัวทุกวันเลย แต่ก็ดีทำให้เรียนได้ผล สร้างดวามมั่นใจในการสื่อสารโต้ตอบในชั้นเรียนได้เป็นอย่างดี อีกอย่างที่ต้องขยันเพราะค่าเรียนแพงครับ จำได้ว่าจ่ายไปเมื่อปี 1999 ระดับละ 12,000 บาท ไม่รวมค่าหนังสือ ประมาณ 1,000 บาท แต่ถ้่าเทียบจำนวนชัวโมงเรียน บรรยากาศการเรียน การเอาใจใส่ของอาจารย์ผู้สอน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผมคิดว่าได้ผลดีครับ สำหรับผมถือเป็น Course ภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด เท่าที่เคยเรียนมาทั้งหมด จากคุณ : Thai in Hobart - [ 8 มี.ค. 52 11:52:24 A:124.187.236.58 X: TicketID:083310 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปแล้ว  จะเรียนรู้ภาษาอื่นใดให้ได้ผลเร็ว  ต้อง  ใกล้ชิดกับภาษานั้นๆให้มากที่สุด  ที่ดีที่สุดคือกับคนเป็นๆที่พูดภาษานั้น แนะนำทางลัดให้หนึ่งทาง 1. หากเป็นแม่หยิง  ให้มีปั๋วเป็นคนชาติที่พูดภาษาอังกฤษ ( อเมริกัน  ออสซี่  คาเนเดี่ยน อังกฤษ  ไอริช  นิวซีแลนเดอร์ เป็นต้น) 2. หากเป็นชาย หรือตุ๊ด  หรือเกย์  ให้หาภรรเมีย  หรือแฟนเป็นคนชาติที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่ข้อนี้  หากเป็นชายทั้งแท่ง  โอกาสค่อนข้างจะหาแม่หยิงต่างชาติที่เป็นคนพูดภาษาอังกฤษมาอยู่ด้วยยาก  ยากกว่าข้อ 1 . หรือตุ๊ด  หรือเกย์ นี่คือหนทางลัด  ได้ผลดีจริงๆ  มากมายหลายท่านในห้องพันทิพก็รู้อยู่เต็มอก ก็ขอเอาใจช่วย จากคุณ : Detente - [ 8 มี.ค. 52 11:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนที่ชอบกดคนอื่นให้ต่ำ ล้อเลียนคนอื่นเรื่องภาษาอังกฤษ เจอมาเยอะแล้วส่วนมากมีปมด้อย สามีเราไปเรียนที่เมลเบิ้น ก่อนไป is am are was were ยังไม่รู้จัก(จบม.3เกรด 1.9 อ่ะ) ไปถึงก็โดนหลายคนที่นู่นแอบเม้า แซวต่อหน้าก็เคย แต่สามีเราก็ไม่สนใจ ตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือ ฟังเทปในห้องสมุดตลอดเวลา เรียกได้ว่าไปเรียนจริงๆ 6เดือนผ่านไป สอบ ielts ได้ 7 คะแนนะ speaking ได้ 7.5 ส่วนไอ้พวกคนที่วันๆเอาแต่ล้อเค้า ป่านนี้ไม่รู้สอบ ielts ผ่านยัง ก็อยู่ที่ตั้งใจอ่ะค่ะ สู้ๆ จากคุณ : superkoy - [ 8 มี.ค. 52 14:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ...คุณ Detente ขา ถ้าวันหลังน้องเค้าเก่งภาษาอังกฤษแล้ว เกิดอยากได้ภาษาที่ ๓ แบบสเปน อิตาเลี่ยนไรงี้ มิต้องหาชาติอื่น ๆ เพิ่มตามคำแนะนำของพี่ท่านเหรอคะ อิ ๆ ล้อเล่นนะจ้ะ รักดอกจึงหยอกเล่น ว่าจะไม่แซวแล้ว แต่มันอดไม่ได้อ่ะ อ้อ น้องจ๋า สู้ ๆ จ้า ได้ผลไงมาเล่าสู่กันฟังมั่งนะ เพราะภาษาอังกฤษพี่ ก็ห่วยเหมือนกัน (พอดีหาสามีเป็นเมกันไม่ได้น่ะ คริ ๆ ) จากคุณ : Schnuckiputz - [ 8 มี.ค. 52 14:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 "โดนคนใกล้ตัวดูถูก" ความจริงคุณก็มีพื้นฐานภาษาอังกฤษนะเพราะเอาโครงสร้างเขามาใช้ในภาษาไทยได้ การเรียนรู้ภาษาต้องผ่านการใช้งานจริงและรู้จักสังเกต ตลอดจนต่อยอดสิ่งที่รู้แล้วกับเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ ก่อนที่หลายๆ คนจะเก่งในระดับสื่อสารได้ล้วนโดนดูถูกมาแล้วทั้งนั้น เมื่อถึงวันที่คุณใช้ภาษาอังกฤษได้ดีอย่าลืมไปขอบคุณคนใกล้ชิดรายนี้ด้วย อย่างน้อยเขาก็มีส่วนผลักดันให้คุณฮึดสู้นะ จากคุณ : ท้อถอยไปใย - [ 8 มี.ค. 52 16:32:54 A:210.86.215.208 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ  ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเราเองก้อไม่ได้เก่งอังกฤษเหมือนกัน แต่สิ่งนึงที่เราพบว่าจะทำให้ฝรั่งฟังเราเข้าใจเวลาเราพูด ส่วนใหญ่ไม่ได้อยุ่ที่แกรมม่านะคะ เราว่ามันอยู่ที่การลงเสียงหนักเบา หรือ stress นั่นเองค่ะ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ stress ค่อนข้างมีความสำคัญค่ะ เพราะฉะนั้นการฟังว่าคำๆไหนเจ้าของภาษาเค้าออกเสียงยังไง แล้วเลียนเสียงตามเค้าจะเป็นประโยชน์มากค่ะ จากคุณ : ปลาเปรี้ยว (น้อย) (Ares & Eros) - [ 9 มี.ค. 52 11:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^^ เอาใจช่วยค่ะ เราไปอเมริกาครั้งแรกตอนปี 2001 ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ไม่เข้าใจอย่างแรง ทั้งๆที่ตอนเรียนที่เมืองไทย วิชาภาษาอังกฤษนี่ได้เกรดสวยงามมาตลอดค่ะ ไปครั้งนั้นเอ๋อมากมายค่ะ พอกลับมาก็เริ่มมีเพื่อนติดต่อกันทางเมลล์ แชท ติดต่อกัน ก็ช่วยได้ระดับนึงค่ะ พอไปครั้งต่อๆไป ก็ดีขึ้นค่ะ คุยกับลุงฝรั่งทั้งวันทั้งคืน ตอนแรกก็ งูๆ ปลาๆ ค่ะ แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ จนเดี๋ยวนี้ มาเลยค่ะ ไม่มีกลัว อิอิ สู้ สู้ นะคะ ^^ จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง - [ 9 มี.ค. 52 19:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีอีกวิธีหนึ่งนะคะ ลองไปเป็นพวกอาสาสมัคร หรือ เข้ารวมกลุ่มกิจกรรมอะไรสักอย่างดูนะคะ การได้เข้าไปอยู่ในที่ ๆ จำเป็นต้องใช้ภาษาจริง ๆ อาจจะทำให้คุณสามารถเก่งได้โดยธรรมชาติก็ได้คะ จากคุณ : วิหคลม - [ 9 มี.ค. 52 20:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เคยมีคนบอกเหมือนกันเรื่องแกรมม่า ว่าอย่าเพิ่งไปห่วงมากตอนเริ่มๆพูด แต่ประสบการณ์ตรงของเรามันค่อนข้างตรงกันข้ามค่ะ อาจจะแปลกกว่าชาวบ้านเค้า ก่อนมาเรียนต่างประเทศ เราก็เหมือนนักเรียนไทยทั่วไปที่อ่อนมากเรื่องการฟังและพูด อาศัยทำสอบข้อเขียนให้ได้คะแนนดีพอที่มหาลัยเค้ารับเข้าเรียน ช่วงนั้นอ่านหนังสือเยอะมาก ฝึกฟังกับพูดก็ทำแต่ไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ จนพอมาถึงต่างประเทศ มาเดี่ยวๆ ไม่มีใครรู้จักเลย สถานการณ์มันบังคับให้ต้องฟัง ต้องพูด ต้องช่วยเหลือตัวเอง ตอนนั้นไอ้แกรมม่ากับทักษะ Writing ช่วยเราได้เยอะค่ะ เวลาฟังเค้าพูด บางคำฟังไม่ออกหรอก (ก็ไอ้เสียงในหัวเรากับเสียงคุณฝรั่งมันไม่เหมือนกันนี่เนอะ) แต่รูปประโยคมันทำให้เราเดาได้ว่าเค้าพูดว่าอะไร แล้วก็สำนึกได้ว่าเราออกเสียงผิดนี่หว่า เวลาเราจะพูดบ้าง เราก็แต่งประโยคในหัวก่อน เหมือนตอนทำข้อสอบเลย วิธีนี้ทำให้เราคิดเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย แล้วก็จะสื่อสารได้เอง แต่จะช้านิดนึง พออยู่ไปซักพัก ฟังคนพูดภาษาอังกฤษทุกวัน เราก็เริ่มโต้ตอบเร็วขึ้นด้วย ตอนนี้ไม่ต้องใช้วิธีแต่งประโยคในหัวก่อนพูดแล้ว บางประโยค ใช้ซ้ำๆมันก้อจำได้เองโดยอัตโนมัติ แต่เรื่องแกรมม่า ลืมไปเยอะแล้วค่ะ ... แป่ววว.. ปลอบใจตัวเองว่าเราเริ่มใช้ภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติมากขึ้น จากคุณ : The Starry Night - [ 10 มี.ค. 52 23:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากฝึกภาษาอังกฤษจากภาพยนตร์ ร้าน Movie Script มี Script หนังให้เพื่อนๆ เลือกตามความต้องการ โดยทางร้านเราจะจัดส่ง Script หนังเย็บกระดูกงูพร้อมปกหน้าหลังอย่างดี แต่สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สนใจอยากได้คำแปลหรือคำศัพท์จากหนังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้มากขึ้นเพื่อนสามารถเมล์เเจ้งเพิ่มพร้อมกับชื่อหนังมาที่เมล์นี้ moviescript@live.com โดยทางเราจะใส่คำแปลไว้ในบทพูดภาษาอังกฤษเพื่อให้เพื่อนๆสามารถดูได้ง่าย ส่วนคำศัพท์ทางร้านจะเย็บเป็นอีกเล่มเพื่อความสะดวกในการอ่านและพกพา ราคา Script 100 บาท คำแปล 75 บาท คำศัพท์ 75 บาท สั่งครบ 3 เรื่อง ส่ง Ems ฟรี สั่งครบ 2 เรื่อง ลงทะเบียนฟรี ติดต่อ moviescript@live.com รับประกัน ไม่โกงแน่นอน 100% ของได้อย่างรวดเร็วหลังท่านโอนเงิน ฝึกภาษาอังกฤษวิธนี้รับรองได้ผลชัวร์ป๊าบบบบบ "ขอให้เพื่อนๆลองส่งชื่อหนังมาก่อนทางเรารับรองจะหาหนังให้ตรงกับความต้องการ" จากคุณ : moviescript@live.com - [ 12 มี.ค. 52 12:07:43 A:124.121.176.126 X: TicketID:207702 ]