ความคิดเห็นที่ 1 ความคิดเห็นที่ 1   แต่ละคนเห็นเราเป็นต้นไม้ใบหญ้าไปหมด ธรรมดาครับ ฝรั่งไม่ค่อยยุ่งมาก นายจ้างแย่มากๆให้เราไปเป็นแคชเชียร์เราก็ฟังฝรั่งไม่ค่อยรู้เรื่อง แคชเชียร์ใน mac นี่ถือเป็นตำแหน่งที่ดีน๊ะครับ หรือคุณชอบไปทอด fries หน้าเตาร้อน ๆ แบกถุงขยะใหญ่ ๆ ที่มีน้ำเจิ่งนองไปทิ้งในตู้บดขยะหล่ะครับ แล้วทั้งเมืองก็ไม่มีคนไทยอาศัยอยู่เลยเวลาเดินไปที่ ไหนกันสามคนก็เป็นเหมือนตัวประหลาดกันมากเลย เหมือนกะเหรื่ยงเลยละคะ ตอนนี้เราทั้งสามคนก็รู้สึกแย่มากกกกก นั่งกลุ้มใจกันทุกวันเลยละ ผมเดินไปทำงาน บางทีวัยรุ่นเดียวกัน ขับรถผ่านชูนิ้วกลลางใส่  ฟรักยูล์ มา กุด่ากลับ มาเตอร์ฟักเก้อ วู้ ๆ ๆ ๆ  สนุกดี แต่คนดีๆก็มีเยอะ say hi hello hey ! วอซซับ ก็เต็มไปหมด จะไปสนใจอะไร เราก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลากลับ เค้าก็บอกว่ากลับไปได้แล้ว เถียงไปเลย look at the schedule อย่าไป เออ ออตาม กุไม่กลับเมิงจะทำไม ส่วนตัวผมเคยโดนเหมือนกัน ไล่ออก? ลดชม.? เอาซี้ เอาเลย กุจะได้ไปเที่ยว ไปพักผ่อนบ้าง งานหนัก เงินดี พักผ่อน ๆ หลังๆ ขอกลับเอง มันไม่ให้กลับ 55 เพราะ กุรู้งาน ไอคนใหม่มา แดมเหมด ไม่รู้งาน 55 ตารางงานเปลี่ยนทุกอาทิตย์ ก็ต้องแจ้ง ให้นายจ้าง second job ทราบทุกอาทิตย์ครับ ผมไม่รู้ว่าที่ทำงานคุณเป็นยังไงนะครับ แต่อะไรอย่างนึงที่แน่นอน คือ spring เป็นช่วงที่งานน้อยต้องทำใจ 2. มีอะไรไม่พอใจเถียงไปเลย เถียง ๆ เถียง ๆ ๆ ๆ ไม่ต้องกลัว ตบตี ต่อยกันน๊ะครับ ฝรั่งมันชอบ ด่ากันมากกว่า เพราะถ้าต่อยตี ต้องไปโรงพักครับเรื่องใหญ่ ด่ากันไม่ผิด ด่าไปเลย สู้ต่อไป จากคุณ : skybookz.com (BOokz_psu)   - [ 26 มี.ค. 50 17:26:04 ]       ความคิดเห็นที่ 2   สู้ๆ นะคะ อยากได้อะไร ยังไงก็ไปบอกเค้าค่ะ อย่างเรา ไม่อยากเป็น housekeeping ก็ไปบอก HR เค้าก็หาตำแหน่งให้นะ จากคุณ : naughty monkey   - [ 26 มี.ค. 50 22:06:00 ]       ความคิดเห็นที่ 3   สู้ๆ ครับ พี่ก้อเคยโดนอย่างน้อง ต้องพิสูจน์ให้เค้าเห็น พี่เชื่อ มันต้องมีคนดีบ้างแหละนา มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ เราไปอยู่ที่นั่นแค่ 2-3 เดือน ไม่ได้อยู่ตลอดชีวิต เอาปรสบการณ์ที่เราพบ มาสอนเราตอนเรากลับมาดีกว่า (แล้วค่อยกลับไปเหยียบมัน ฮ่าๆๆ) สู้ๆ ว้อยยยย จากคุณ : ลิเบอรลัทท์ (Austin Dash)   - [ 27 มี.ค. 50 00:24:59 ]       ความคิดเห็นที่ 4   ย่าร้องไห้นะคะ เราหัวดำมีศักดิ์ศรีค่ะ ลุกขึ้นมาสู้ตามสิทะค่ะ เรื่องไรมาให้กลับก่อนเดี๋ยวก็โดนหักค่าแรงน่ะสิ หน้ามึนอยู่จนถึงเวลาตอกบัตรนะคะ เปลี่ยนตารางเหรอ เราก็บอกที่ second job ว่าตารางเรามันเปลี่ยนบ่อยอย่าว่าเราเลย "สามคนไปได้" เฮฮา เจ๊าะแจ๊ะเข้าไว้ มานจะได้งงว่าโดนมันเหยียดแล้วพวกชียัง "ยิ้มอยู่ได้" ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ค่ะ อย่ากลัวกับปัญหา แก้ไม่ได้ นึกไม่ออกก้เข้ามาแชร์กันที่นี่ จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 27 มี.ค. 50 00:42:39 A:203.188.5.162 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 5   ตอนแรกเลือกไปแมค ไวโอมิ่งเหมือนกันค่ะ แต่กลับตัวทันก่อน ที่ๆเราทำ ก็มีคนเอาเปรียบ นินทา เหมือนกันค่ะ ทั้งร้านมีคนไทยสองคนเองค่ะ สู้ๆนะคะ เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะว่าเป็นยังไง ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ จากคุณ : kittymuay  - [ 27 มี.ค. 50 01:45:06 ]       ความคิดเห็นที่ 6   เมืองกันดาร -ตอนนี้คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ลองเดินๆดูให้ทั่วสิคะ อาจจะเจออะไรดีดีก็ได้นะ รู้สึกว่าทุกคนที่นี่ไม่เป็นมิตรด้วยเลย แต่ละคนเห็นเราเป็นต้นไม้ใบหญ้าไปหมด ทุกคนคุยกันเหมือนไม่มีพวกเราอยู่ในร้าน -เค้าไม่เป็นมิตร เพราะเราเพิ่งเข้าไปอยู่ได้ไม่กี่วันมั้งคะ เดี๋ยวคงดีขึ้นนะคะ อย่าคิดมากเลย เพิ่งรู้จักกัน จะให้สนิทสนมเหมือนกับเพื่อนกันได้ไงล่ะคะ เอาเป็นว่า Be friendly หน่อยละกันนะคะ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทาย say hi อะไรไปเรื่อยเปื่อย เจอๆกันก็ทักๆเค้าก่อนบ้างค่ะ Just say Hi! พยายามจำชื่อเค้าให้ได้ how are u doing? เรื่อยเปื่อยๆ นายจ้างแย่มากๆให้เราไปเป็นแคชเชียร์เราก็ฟังฝรั่ง ไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือว่ากว่าจะรู้เรื่องก็ใช้เวลาพอสมควรเค้าก็มาว่าเราว่าเราช้าอีก แล้วก็ไล่เราไปทำงานอย่างอื่นแบบไม่เห็นว่าเป็นคนกันเลย -เหตุผลที่เค้าให้เป็นเป็นแคชเชียร์ เพราะมันเป็นงานที่ง่าย (ในความคิดของเค้า)ไงคะ คือ เค้าเองก็คงคาดหวังกับภาษาของคุณพอสมควร คือเค้าคิดว่าคุณจะ ใช้ภาษาได้อย่างที่พวกเค้าใช้กันหน่ะค่ะ พอฟังลูกค้าไม่รู้เรื่อง รับออเดอร์ช้า ลูกค้าอารมณ์เสีย ในครัวทำผิดอัน ทุกอย่างก็กลายเป็นปัญหาไปหมด ก็ธรรมดานะคะ ในฐานะที่เค้าเป็นนายจ้าง ก็ย่อมมีสิทธิ์จะเปลี่ยนให้คุณไปทำงานที่อื่น เพราะมันคือการแก้ปัญหาค่ะ อย่าคิดมากนะคะ พนักงานในร้านก็เหมือนกันคะ ชอบนินทากันซะจริง ชอบนินทากันลับหลังนึกว่าพวกเราไม่รู้เรื่องกันเลยมั๊ง -ถ้าได้ยินเค้านินทาจังๆ ก็ถามไปเลยค่ะ ว่า Do you guys have any problems bout me? Just let me know ถามไปเลย เค้าจะได้ไม่กล้าพูดอีก ถ้าไม่ใช่ คุณก็จะได้ไม่ต้องคิดมากไงคะ เราอยู่ในร้านกันมีแค่สามคนที่เป็นคนไทย แล้วทั้งเมืองก็ไม่มีคนไทยอาศัยอยู่เลยเวลาเดินไปที่ไหนกันสามคนก็เป็น เหมือนตัวประหลาดกันมากเลย เหมือนกะเหรื่ยงเลยละคะ -555+ อย่าคิดมากเลยน๊า ก็ธรรมดา เหมือนสายตาคนไทยเวลามองฝรั่งที่เข้ามาในไทยไงคะ บางทีคนไทยยังแซวเค้าเล่นเลย เราก็เหมือนๆกันล่ะค่ะ ธรรมดา ถ้าเค้าไม่ได้คุกคามอะไร ก็ say hi ตามประสา ยิ้มก็ได้นา แต่ถ้าเค้าถึงกับ discriminate เนี่ย ก็ MoToF_ckr ใส่หน้ามันไปเลยค่ะ ตอนนี้เราทั้งสามคนก็รู้สึกแย่มากกกกก นั่งกลุ้มใจกันทุกวันเลยละ -วู้ๆๆ ไม่เอาๆ อย่าเสียเวลากลุ้มขนาดนั้นค่ะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเถอะค่ะ คิดดูเล่นๆนะคะ ว่าเราเสียเวลามาคิดมากซะขนาดนี้ คนพูด เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน เค้าไม่เห็นจะคิดอะไรเลย อย่าเสียเวลาค่ะ เอาเวลาไปหาเพื่อนใหม่ฝึกภาษาดีกว่าเนอะ อีกเรื่องนึงกับนายจ้างคะ วันนี้จริงๆเวลาทำงานเราเลิกบ่ายสาม แต่พอแค่บ่ายสองมีพนักงานเข้ามาเพิ่ม ก็พวกเดียวกันกะเค้าละ อยู่ดีๆนายจ้างก็ไล่เรากลับเฉยเลยละ เราก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลากลับ เค้าก็บอกว่ากลับไปได้แล้ว -คือ เค้ามีสิทธิ์ send home เมื่อไหร่ก็ได้นะคะ ตราบใดที่ ชม.เฉลี่ยทั้งหมด ต่อ week ยังเป็นไปตามสัญญาอยู่ ถ้าคิดในแง่ของนายจ้างแล้ว ถ้าคุณยังไม่เป็นงาน แรกๆก็อาจจะส่งกลับไวหน่อย แต่พอหลังๆ คล่องตัวเมื่อไหร่ รับรองว่าไม่มี send home ให้ช้ำใจเลยค่ะ แต่อยากให้คิดอีกนิดนึงน๊า ตอนที่เค้าส่งคุณกลับเนี่ย อาจจะเป็นช่วงที่ไม่ busy รึเปล่าเอ่ย ลูกค้าน้อย คนน้อยมั้ยคะ ถ้าเป็นอย่างงั้น ก็เข้าใจนายจ้างเค้าเถอะค่ะ เรื่องปกติทีเค้าต้องลด cost ให้น้อยที่สุดค่ะ อีกอย่าง ถ้าคิดอีกแง่นึง วันนั้น คุณได้ไปกี่ชม.แล้วเอ่ย แต่คนที่มาอีกคนนึงเค้ายังไม่ได้ชม.เลยน๊า เค้าก็ต้องเฉลี่ยๆกันไปค่ะ วันนี้เราเครียดมากเลยละคะไม่รู้จะทำยังไงดี นั่งร้องไห้ไม่รู้จะกี่รอบต่อวันแล้ว ไม่มีความสุขเลย ขนาดตอนนอนก็เครียดนอนไม่หลับเลยทุกวัน -โอ๋ๆๆ ไม่เอานะคะ อย่าเสียน้ำตา ไม่ดีๆ ลอง มองออกไปรอบๆตัวนะคะ หาอะไรทำอย่าให้ฟุ้งซ่านเลยไปเดินเล่น ถ่ายรูป อะไรก็ได้ค่ะ อย่าเศร้าเลยนะ คิดปุ๊บ หาสาเหตุ หาวิธี แล้วเลิกคิดค่ะ ไม่งั้น ก็ต้องร้องไห้ซ้ำๆอย่างงี้อีกหลายรอบเลยล่ะ นายจ้างเค้ารู้ว่าเราหาจ๊อบสองได้ เค้าก็เปลี่ยนตารางงานเราไม่ให้ทำจ๊อบสองได้เลยคะ เราเลยกลุ้มใจมากเลยไม่รู้ว่าจะขอให้เค้าฟิกเวลาทำงานได้รึเปล่า เพราะตารางงานเปลี่ยนทุกอาทิตย์เลยคะ ความรู้สึกเราตอนนี้แย่มากเลยละ จิตใจเราหดหู่ เครียดจนปวดหัวไปหมดเลย มีใครแย่เหมือนเราบ้างคะตอนนี้ จะบอกนายจ้างดีมั๊ยคะว่าขอฟิกเวลาทำงานได้รึเปล่า กลุ้มใจจัง -อย่างที่บอกนะคะ ว่าแรกๆ เรายังเป็นพนักงานที่ประสิทธิภาพต่ำ คือยังทำงานไม่ได้ดั่งใจนายจ้าง ก็เป็นธรรมดาค่ะ ที่เค้าจะเปลี่ยนตารางเราไปเรื่อยๆ ลองพัฒนาตัวเองดูดีมั้ยคะ อะไรที่ทำไม่ได้ ก็ให้คนอื่นสอนซะ แล้วทำเองให้เป็น แล้วต้องทำให้เค้าเห็นด้วยล่ะ เค้าจะได้รู้ว่าเราก็ทำได้เท่าๆกับที่คนอื่นทำได้นะ อีกกรณีคือ ตารางมันเปลี่ยน เพราะ บางคนขอ offในวันนั้นๆ ไงคะ คือปกติ ถ้าเราจะขอ off เนี่ย เราควรจะแจ้งก่อน 2 weeks ถ้าฉุกละหุก หรือซี้กัน ก็ขอหยุดเอาดื้อๆเลยก็ได้ค่ะ พอเป็นอย่างงี้ ก็เลยต้องปรับเปลี่ยนตารางเวลากันทุกๆวีค ที่ TGI ที่มู๋ตุ๋นเคยทำ เค้ามีระบบที่สามารถจะเปลี่ยนกะ แลกกะ กันได้เอง พอได้แล้วก็แค่เรียก Manager มาเซ็นว่ารับรู้แล้วนะ ที่จะแนะนำคือ ลองทำไปก่อนซักพัก แล้วเอาตารางfirst job ไปให้ นายจ้าง 2nd job ดูทุกๆ week ต้องอัพเดทตลอดค่ะ เอาล่ะนะ อ่านมาถึงตรงนี้ หายใจลึกๆหนึ่งที แล้วลองคิดนะคะว่าเรามีจุดอ่อน มีข้อด้อย มีอะไรอีก ที่เรายังทำไม่ได้ มีอะไรอีกที่เรายังไม่รู้ ถ้ารู้ปัญหาของตัวเองแล้วก็แก้มันซะ แล้วเรื่องนายจ้าง ลองคิดว่า ถ้าเราเป็นนายจ้าง เราจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ บางทีถ้าคุณไม่พูดซะที เค้าก็ไม่มีทางรู้หรอกค่ะ ว่าคุณไม่แฮปปี้ เผลอเค้าอาจจะคิดว่าคุณพอใจดีด้วยซ้ำๅ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่า คุณ กล้าพูดแค่ไหน กล้าไฟท์แค่ไหน คุณกับนายจ้างซี้กันแค่ไหนด้วย เพราะถ้าคุณกับนายจ้างสนิทกันพอสมควร  อะไรๆก็จะง่ายขึ้น คุณจะมีอำนาจต่อรองมากกว่าเดิม คุณจะพูดจะบอกในสิ่งที่คุณต้องการได้มากขึ้น อย่าเกรงใจ อย่ากลัวที่จะพูดค่ะ คำง่ายๆ แค่ we need to talk แล้วบอกไปว่าคุณต้องการอะไร ไม่ชอบอะไร แค่นี้เอง ลองดูนะ กล้าๆหน่อย ปล. แนะนำอีกอย่าง มีเพื่อนที่เป็นฝรั่ง เค้าจะช่วยคุณได้เยอะนะ ทั้งเรื่องภาษา เรื่องอะไรต่อมิอะไร อย่าเกาะกลุ่มกันตลอดเวลาเลยค่ะ ไม่งั้น ภาษาไม่ดีขึ้นไม่รู้ด้วยนา สู้ๆ ลองดูนะคะ จากคุณ : ~คุณมู๋ตุ๋น จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นที่ 7   สวัสดีค่ะ จากคุณ : arzilian_arin   - [ 27 มี.ค. 50 06:48:37 ]       ความคิดเห็นที่ 8   สวัสดีค่ะ ดีจังเลยได้เข้ามาอ่านพอดี อยากเป็นกำลังใจให้นะค่ะ เราก็อยู่ ที่ Wyoming เหมือนกัน คุณไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียวนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราอยู่ที่นี่ก็บ้านนอกจริงๆๆ แต่ถ้าคิดถึงว่าภาระในการใช้จ่ายก็ประหยัดไปนะค่ะ ปีที่แล้วเราก็ได้ไปทำ Mcdonald's เหมือนกันค่ะ เราก็ทำแคชเชียร์ ตอนแรกก้ปรับตัวอยู่นานเหมือนกัน แต่เราก็ต้องจดจำสิ่งต่างๆ และเรียนรู้ให้ได้ คนเราต้องมีการเรียนรู้ค่ะ มันเป็นสิ่งที่ท้าทายดีนะค่ะ เป็นการพิสูจน์ตัวเองนะ คนเราต้องเจออะไรหลายอย่างค่ะ  อยากให้อดทนนะค่ะ เก็บประสบการณ์ที่มีค่านี้ไว้นะค่ะ อย่างที่อ่านจากข้างบนนะค่ะ มิตรภาพ สำคัญที่สุดนะค่ะ แล้วคิดเสียว่า เรามาพักผ่อนหละกัน แต่ก็เหนื่อย แต่ก็ต้องยิ้มกับสิ่งที่เราได้เลือกมา สู้ๆๆนะค่ะ จากคุณ : arzilian (arzilian_arin)   - [ 27 มี.ค. 50 07:31:12 ]       ความคิดเห็นที่ 9   อื่มม เท่าที่อ่านมา แนะนำเหมือน คห.6 เลยค่ะ ตามนั้นเลย เพื่อนที่อยู่กะเราตอนนี้ทำแมคไปสามคน มีคนนึงฟังอังกฤษไม่ทันเลยนะคะ แบบว่า คุยทีเมื่อยคอน่ะ หันมาขอซับไตเติ้ลจากเพื่อนตลอด แล้วเค้าให้ไปทำในครัวน่ะ เค้าก็โดนด่าเหมือนกันนะ แต่ทำไงได้อ่ะ แปลไม่ออกอ่ะ เค้าเลยไม่เครียดเลย ทุกวันนี้ไปทำงานขำขำตลอดเลย แต่มีปัญหากันหน่อยตอนสั่งงานเนี่ย แต่เมเนเจอร์เค้าดีน่ะ ก็สั่งให้คนที่ฟังรู้เรื่อง แล้วปล่อยให้สั่งกันเอง อยากให้ จขกท.พูดเลยค่ะ we need to talk แล้วจัดการเลย เราก็กะลังจะต้องพูดเหมือนกัน สู้ๆ จากคุณ : Claudia  - [ 27 มี.ค. 50 08:02:40 ]       ความคิดเห็นที่ 10   จขกท. จะกลับมาอ่านมั้ยน๊า จะหาหระทู้เจอป่าวหว่า สู้ๆนะค๊าเพื่อนๆ จากคุณ : ~คุณมู๋ตุ๋น   - [ 27 มี.ค. 50 16:22:39 ]       ความคิดเห็นที่ 11   มาดามคะ มีพี่ตอนนี้ทำmacอยู่Wyomingเหมือนกันคะ แต่สงสัยคนละสาขา พี่โทรมาเล่าว่าสนุกสนานมาก(สนุกแบบชนบท) นายจ้างใหญ่ดูแลดีมาก แต่เมืองนี้เงียบเหงา จริงๆอ่าคะ พี่ทำอยู่เมืองranderคะ มีเพื่อนๆคนไทยอยู่เต็มเลย ไม่ต้องเหงานะคะ จากคุณ : rosine  - [ 27 มี.ค. 50 18:59:22 ]       ความคิดเห็นที่ 12   Hi , I 'm working in McDonald of Riverton in the center of wyoming , Could you please state the branch of your mc?  I'm working in Riverton but living in Lander and everything is just fine like Rosine said , the supervisor pick us up and take us home everyday so if you're really in trouble plz contact us at 307 - 332 -5670. Almost people here are Thai so plz feel free to call and I'm sure we all can give you some good advices : D , in fact we are working on dealing with some @!$@#%#$^ supervisor(s) right now too. hehe จากคุณ : Ha (cinnamon gum)  - [ 27 มี.ค. 50 22:45:38 ]       ความคิดเห็นที่ 13   McDonald Riverton has 7 Thai people and 7 south American . We talk about supervisor and have a gossip too 555. saying Thai when you boring because They can't to understand you 555.I like. จากคุณ : cinnamon gum  - [ 27 มี.ค. 50 23:07:48 ]       ความคิดเห็นที่ 14   อดทน หน่อยนะค่ะ จขกท เรา ก็ทำงาน แมคเหมือนกัน แต่ที่ หลุยส์เซียน่า ส่วนใหญ่มีแต่คนดำ พูดรัวๆ กันระงมเลย  แต่ละวัน เราทำงานรอบร้านเลย เดี๋ยวไป grill  เดี๋ยว ไป drive Thru  เด๋ว เป็น Presenter ต้องใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ พยายามฟังนะ ยิ้มเข้าไว้นะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ ส่วนเรื่องตารางงาน มันจะออก ทุกอาทิตย์ ลองเอาตารางงานไปยื่นให้ นายจ้างของsecond job ดูนะ จากคุณ : :: Not Really ::  - [ 28 มี.ค. 50 09:02:59 ]       ความคิดเห็นที่ 15   เจ้าของกระทู้สู้ๆค่ะ ^ ^ จากคุณ : Nu~maiko  - [ 28 มี.ค. 50 23:21:11 ]       ความคิดเห็นที่ 16   เจ้าของกระทู้อย่าท้อค่ะ เท่าที่อ่านมา เราเคยเจอมาหมดแล้วค่ะ เด๋วก้อปรับตัวได้เองจิงๆค่ะ ที่ไหนก้อเจอปัญหาทั้งนั้นอ่ะ ตอนนี้มันหนาวๆอยู่ ร้านอาหารซบเทรา เด๋วพอร้อนขึ้น คนก้อจะเนอะ เค้าก้อจะให้เราทำงานตามเวลาเองแหละ เราเคยไปทำงานแต่ตั้งแต่เปิดร้าน ตามตารางต้องทำถึง 8 ชม. เค้าไล่กลับตอนบ่ายโมงนั่นแหละค่ะ หายไปหลายชม.เรยเห็นมั้ย แล้วเป็นอย่างงี้อยู่นานด้วย ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เจ้านายเค้าก้อบอกว่ามันไม่คุ้มกะเงินค่าจ้าง เพราะขายอาหารได้น้อย เราก้อทำใจไปค่ะ เรื่องนินทาเนี่ย เราก้อนินทาเค้ากลับมั่งสิคะ เราพูดไทย เค้าฟังไม่รู้เรื่องหรอก หนุกออก ตั้งชื่อให้คนนั้นคนนี้สนุกสนาน อย่ากังวลเรยค่ะ หน้าที่ cashier สบายสุดๆแล้วค่ะ ไม่ต้องออกแรงเรย แค่กดๆๆๆ แล้วก้อยื่นของให้ เก็บเงิน แล้วเรื่องภาษา เด๋วต่อไปก้อชินแน่นอน ลูกค้าจะพูดอะไรมากมายกันเชียว มันก้อพวกชื่ออาหารและศัพท์ในร้านทั่วๆไป เด๋วก้อจำได้เอง เด๋วก้อฟังออก คำพูดมันเดิมๆ ซ้ำๆซากๆอะค่ะ "for here or to go?" "would u like a combo?" "anything else?" "thank you" "have a great day" ฯลฯ เรื่อง 2nd job.. ยังไงก้อต้องเอาตามตารางของงานหลักแหลคะ เราก้อเปลี่ยนตารางทุกอาทิดเหมือนกัน สู้ๆ จากคุณ : โบรา (ฮันจิอึน)  - [ 31 มี.ค. 50 19:29:44 ]       ความคิดเห็นที่ 17   hay ? dont worry na kub im right here beside you always if u dont hav anyone you have me stay beside na and everynight you sleep u will see me in you dream and every bad thing will turn into a better tomorrow na just wanna tell u i miz u alot....take care จากคุณ : staff - [ 1 เม.ย. 50 05:19:21 A:204.62.68.23 X: TicketID:056028 ]       ความคิดเห็นที่ 18   ทุกที่ก็เหมือนกัน Mc ในไทยตอนเราฝึกงานก็เหมือนกัน ต้องอดทน จากคุณ : รุ่นพี่ - [ 1 เม.ย. 50 22:05:57 A:124.120.159.158 X: TicketID:142181 ]       ความคิดเห็นที่ 19   จะเก็บกระทู้เข้าคลังทำยังไงค่ะ น้างามแสงเดือนบอกว่าให้ช่วยเก็บกระทู้ -สิ่งที่น่ารู้ก่อนออกเดินทาง -วันนี้จะมาร่ายยาวก่อนลูกนกขมิ้นเหลืองอ่อนจะออกโผบิน ไว้ในคลังให้หน่อย เอาไว้ให้เพื่อนหน้าใหม่  หน้าเก่าเข้าไปอ้างอิง (เราลองดูแล้วแต่ไม่เห็นได้เลย เพื่อนๆช่วยกันหน่อยนะ) จากคุณ : ปลาทอง (K-U-U-P-Y)  - [ 5 เม.ย. 50 17:20:09 ]       ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่มาเป็นกำลังใจ ตอนนี้ก็พยายามทำตัวให้เข้มแข็งขึ้น เจออะไรก็ให้ยิ้มสู้ไปแล้วคะ ขอบคุณมากเลยคะ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลย จากคุณ : เจ้าจองกระทู้จ้า (มาดาม ริงค์)  - [ วันจักรี 22:42:00 ]       ความคิดเห็นที่ 21   อย่าร้องนะ  เราจะร้องด้วย   น่าดีใจออกที่เค้าให้เป็นแคชเชียร์  ได้พูดได้คุยกะฝรั่ง  งั้นคงไม่คุ้มที่ได้มา ทุกคนมีปัญหากันทุกคนนะ  อย่าคิดมาก  จริงๆ  ทุกคนเลย  แตกต่างกันไป ของเรามันส่งไปเป็นเฮาส์คิปปิ้ง  งานบ้านที่ไม่เคยแต่  ตอนนี้เราต้องทำหมด  มือแหกแตกลอกด้าน  แถมไม่ได้พูดอีก  แรงงานพูดสเปน  นานๆได้พูดกะแขก เก่งแค่ไหน  พูดได้น้อยยังไง  ก้ต้องมาทำแบบนี้  เพื่อนไทยทั้งหมู่บ้านโดนเป็นเฮาส์เกือบหมด  ของเรามันขึ้นตรงกะบริษัทหางาน  ไม่ใช่โรงแรม  เลือกไม่ได้เลย  เพราะคนที่รอมันป้อนงานอีกเยอะเหมือนกัน  ทำงานไปน้ำตาคลอไป   แม่จะรู้มั๊ยว่าตอนนี้ลูกมาลำบากยังงี้  งานที่แม่ไม่เคยได้ให้แตะ  ตอนนี้ใครไม่รู้มาใช้ให้ทำ  และก้ต้องทำ และหนักเหนื่อยมาก  ยังคิดอยู่ว่าเรามาทำไมเนี่ย  เสียเงินมาทำงานโคดหนัก  ทุกอย่างแย่จัง   นี่ก้บ้านห่วยๆของเราhttp://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5242721/H5242721.html สู้ๆนะ โทรมาหาเราก้ได้ 321-460-8805 ตอนนี้ไปสมัครงานไว้ทั่วเลย  อยากออกจากโรงแรมใจจะขาดละ จากคุณ : *-.ami_R_sahi.-*   - [ 7 เม.ย. 50 21:43:57 ]       ความคิดเห็นที่ 22   hay ! its me again how are u i miz u alot na sorry didnt call u someday na krub just wish u to be happy that right now and right now everything alright ? if u want u call me anytime u want na ja takecare miz always จากคุณ : staff - [ 10 เม.ย. 50 03:08:34 A:204.62.68.23 X: TicketID:056028 ]       ความคิดเห็นที่ 23   เราอ่านกระทู้ละ อ่าก็อย่างนี้แหละชีวิตการทำงานตอนนี้เราก็ทำอยู่ที่ Universal Floridaงานก็หนัก เหนื่อยก็เหนื่อย แถมอเจนซี่ที่นี่ก็เอาเปรียบมากกกก หักค่านู่นค่านี่ตั้งหลายอย่าง อย่างวาเสียเงินมาเป็นแสนกะจะเอาประสบการณ์ดีๆกลับไป ที่ไหนล่ะได้แต่ประสบการณ์ห่วยๆ เพื่อนร่วมงานฝรั่งยังพอทนเพราะคนละเชื้อชาติกัน แต่คนไปทยด้วยกันนี่ซิ เห็นแก่ตัวเอาเปรียบคนไทยเหมือนกัน หวังแต่จะกอบกวยไม่คิดถึงคนอื่นที่คนทำงานได้ชั่วโมงน้อยๆ เฮ้อออ คิดแล้วกลุ้ม อยากกลับบ้านเหมือนกัน ฮือๆๆๆ จากคุณ : อยากกลับบ้าน - [ วันเถลิงศก (15) 09:37:37 A:70.118.90.241 X: TicketID:143113 ]       ความคิดเห็นที่ 24   ตั้งใจทำงาน อย่าให้อากาศหนาว มาทำร้าย คนของเราได้ เรื่องการทำงานที่แย่ๆเนี่ยไม่ตอนนี้หรือตอนหน้าคุณก้อต้องเจอกับมันอยู่ดี ขอให้ทนให้ได้นะครับ แล้วก้อบอกแล้วว่าการตามหาคุณมันไม่เป็นเรื่องยากเลย คิดถึงคนของหมี่นะ ถ้าเหนความคิดเหนนี้แล้วให้จำไว้ว่ามีคนคนนึงที่คิดถึงคุณอยู่เสมอนะ จากคุณ : หมีน้อยพุงใหญ่ (หมีน้อยพุงใหญ่) จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2จากกระทู้ข้างล่าง ตอนนี้ว่างงานเเล้วค้า เมื่อวานคนชื่อ beth (AAG) โทมาค่ะ ก้อบอกปัญหาไปเค้าบอกให้ไปซื้อจักรยานจาก วอลมาร์ท มาปั่นเอา ว่างั้น แล้วเราก้อบอกอยากเปลี่ยนงานเค้าบอกไม่ได้ยังไงก้อต้องอยู่ที่นั่นเราก้อเลยเซง พอตกเย็น ซุปที่ดูเเลเราที่บ้านเรียกเรามาคุยเป็นการส่วนตัว  เเล้วบอกว่ามีข่าวร้ายมาบอก  เรากอฟังเค้าบอก เค้าไล่เราออกจากงาน ไม่งั้นAAG ก้อไม่สามารถหางานใหม่ให้เราได้ ส่วนน้องอีกคนนึงเค้ากะลังเตรียมกลับเมืองไทยก้อโดนไล่ออกเหมือนกาน ก้อเหลือเพื่อนอีก ห้าคนอยู่ที่นี่ เมื่อคืนซุปก้อเรียกทั้งบ้านไปคุยว่าใครอยากเปลี่ยนอยากออกไหม แล้วก้อจัดตารางานงานให้ทุกๆๆคน เราว่าถ้าไม่เกิดเรื่องนี่ คงยังเฉยอยู่แน่ๆๆอ่ะ ตอนนี้เค้าก้อบอกให้เราอยู่จนกว่าจะได้งานใหม่ เค้าก้อใจดีอยู่แต่บางครั้งเค้าก้อนะ พูดไม่รู้ ถ้ามาพูดตั้งเเต่เเรกเราคงไม่ทำแบบนี้หรอก วันนี้ก้อเลยอยู่บ้านค้ะ เดี๋ยวคงต้องโทรหา AAG อีกรอบ แล้วก้อคงต้องรอคอยงานใหม่ต่อไป แต่อยากทราบว่าถ้าเราหางานเองจะได้ไหมค่ะ หรือว่าต้องรอ AAG หาใหม่ให้อย่างเดียว    ขอบคุณทุกคำเเนะนำ นะค่ะ  สู้ต่อไปนะค่ะทุกๆๆคน จากคุณ : frozenbow  - [ 28 มี.ค. 50 01:48:45 ]   -------------------------------------------------------------------------------- หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป     -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1   อ้าวมาไล่ออกกันง่ายๆได้งัยเนี่ย หนูๆทั้งหลายเดินทางเข้าสหรัฐอย่างถูกต้องค่ะ ทำงานได้อย่างถูกต้อง มีการประกันค่าแรงขั้นต่ำด้วย หนูทำใบ SSC หรือยังคะ เอาหลักฐานไปที่ออหหิศในเมืองที่หนูอยู่แล้วยื่นเรื่องเลยค่ะ หนูอยู่ที่ Daytona Beach ใช่มั้ยคะ หนูเป็นคนเดียวกันกับที่โพสต์เข้ามาเรื่อง 7 คนไม่มีงานทำใช่มั้ยคะ ถ้าไม่ใช่ก็เข้าไปอ่านหน่อยค่ะ มีเพื่อนๆเข้ามาให้ คคห ที่เป็นประโยชน์ค่ะ บอกเพื่อนคนนั้นวาอย่าเพิ่งกลับค่ะ ตอนนี้ก็ 1.ไปทำใบ SSC 2. ออกหางานเลย 3. ลองรองานที่เขาว่ามาดูซิ สู้ค่ะ ไฟท์ กัด ตอรอง เอาทุกรูปแบบ สุดท้ายก็เข้าไปแจ้งตำรวจ จำไว้ค่ะว่าเรามาอย่างถูกต้อง เขาไม่มีสิทะมาไล่เราออก สู้ให้โลกลือค่ะ ยิ่งเราบอกว่ามาทำกับเราแบบ "แบ่งแยกสีผิว" อคติทางด้านเชื้อชาติ" เขายิ่งกลัวค่ะ เข้าไปจืกๆๆๆๆๆๆๆเลย เมื่อไหร่จะให้ทำงาน แต่ขณะเดียวกันก็หางานของเราเองด้วยค่ะ จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 28 มี.ค. 50 08:18:14 A:203.114.99.165 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 2   ตอนนี้มี SSC เรียบร้อยเเล้วค้า   อยากจะหางานทำเองเเต่กลัวว่าจะผิดกฏหรือเปล่า เป็นซุปเค้าก้อใจดีอยู่ค้า บอกว่าให้อยู่จนกว่าจะได้งานใหม้ค้า  ตอนนี้ก้อกะลังลองสมัครแถว RENO อยู่ค้า ขอบคุณมากนะค่ะ เพื่อนหนูกลับไปแล้วอ่ะค่ะ เมื่อเช้านี้ หนูก้ออยากให้เค้าสู้ด้วยกานอยู่อ่ะค่ะ  แต่ตัวเองยังตกงานอยู่เลยอ่ะค่ะ เดี๋ยวมีอะไร จะมาเเจ้งความคืบหน้านะค่ะ สู้ตายอยู่เเล้วค่ะ จากคุณ : นู๋โบ (frozenbow)  - [ 29 มี.ค. 50 04:58:40 ]       ความคิดเห็นที่ 3   โธ่..กลับไปแล้วหรือ เราเสียค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางมาเป็นแสน ยิ่งได้ใบ SSC มาแล้วก็ทำงาน "ได้อย่างถูกกฏหมาย ได้ตามค่าแรงขั้นต่ำด้วย" หนูรองานด้วย เดินหางานด้วย อย่าลืมมาส่งข่าวด้วยนะคะ หนูคนที่น้าให้ข้อคิดเห็นเรื่องที่พักที่รีโน ใช่มั้ยคะ ได้ที่อยู่ใหม่หรือยังคะ กลับกันกี่คน เหลืออยู่กี่คน สู้ๆนะคะ นี่แหละชีวิต จะให้โรยด้วยกลีบกุหลาบได้งัยร่ะ จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 29 มี.ค. 50 10:55:45 A:203.188.28.211 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 4   น้าตามลงไปอ่านแล้วหนูโบที่น้าให้เข้าไปหาบ้านที่ www.craiglist.com จริงๆด้วย แล้วได้ที่อยู่ใหม่ยังคะ จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 29 มี.ค. 50 11:17:28 A:203.188.28.211 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 5   เป็น ผม walk in หางานใหม่เลย จากคุณ : skybookz.com (BOokz_psu)   - [ 29 มี.ค. 50 12:00:15 ]       ความคิดเห็นที่ 6   หางานเองเลย ไม่ต้องกลัว ยิ่งถูกให้ออกอย่างงี้อ่ะนะ เค้าว่าอะไรเราไม่ได้เลย ถ้าเราจะหางานใหม่ เออ ว่าแต่ทำ SSN ยังอ่ะ ถ้าทำแล้ว หางานใหม่ง่ายนิดเดียวเองนะ Are you hiring? สู้ๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ~คุณมู๋ตุ๋น   - [ 29 มี.ค. 50 12:31:08 ]       ความคิดเห็นที่ 7   ทำ SSC แล้ว จ้า  ขอบคุณค้า คุณมู๋ตุ๋น จากคุณ : frozenbow  - [ 30 มี.ค. 50 03:24:15 ]       ความคิดเห็นที่ 8   ขอแนะนำนะคะ พยายามหางานไปก่อน แต่ปล่อยให้ AAG หางานให้ด้วย อยากบอกว่า วีนแตก จิกไม่ปล่อยเนี่ยไม่ดีคะ ภาษาก็ไม่แข็งพอที่จะวีนแตก ระวังจะเข้าหน้า manager ไม่ติด นะ เพื่อนเราโดนมาแล้ว กะแย่ งานห่วยเลย จากคุณ : รุ่นพี่ - [ 1 เม.ย. 50 21:59:03 A:124.120.159.158 X: TicketID:142181 ]       ความคิดเห็นที่ 9   ตรงไหนหรือที่เด็กๆเขาวีนแตก จิกไม่ปล่อย คำว่าจิกๆๆๆๆๆ หมายถึงจืกถาม คือถามให้บ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเขาจะได้เร่งหางานให้ ไม่ได้แปลว่า "จิกกัด" กัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนูโบได้บ้านหรือยังลูก กลับไปกี่คน เหลืออยู่กี่คนคะ น้าจะไปประชุมที่ดีซีเดือนพค. หนูบอกอีเมล์แอดเดรสมานะคะ เราจะได้คุยกัน แล้วน้าจะให้เบอร์โทรที่พักที่โน่น น้าสมัครขออมยิ้มไม่ได้ซักที เบื่อต้องสมัครบัตรผ่านทุกเดือน เขาบอกว่าเลขบัตรประชาชนของน้าไม่ถูกน่ะ เอ๋า ก็บัตรของน้า น้าจะไปบอกผิดได้งัยล่ะ น้าละงง จากคุณ : งามแสงเดือน - จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 3Work & Travel experience sharing เฮ่ออออออ ขอมาบ่นหน่อย มีปัญหากะที่ทำงานหล่ะค่ะ จริงๆแล้ว job offer เรา มาเป็น busser น่ะ เก็บโต๊ะ ค่าแรงก็ชม.ละ 3.08+tips   เราก็คุยกะเค้าละนะ เค้าตกลงว่า ให้ฝึกงานไปก่อน ตำแหน่งงานอาจจะต้องโยกไปทำนู่นนี่ ต่างๆกันนะ พวกเราก็โอเค แต่ตั้งแต่เราทำงานมานี่ เค้าให้เราอยู่ในครัวตลอดเลยอ่ะ คือค่างานในครัวมันก็ดีกว่าอยู่นะ ต่อชั่วโมง ได้ 7 เหรียญอ่ะ ปัญหาคือ เราไม่มีปัญหากะงานในครัว เราทำครัวได้ สบายมาก แต่เพื่อนเราที่มาตำแหน่งงานเดียวกัน ก็ทำในครัวด้วยกัน แต่เค้าไม่ชอบงานในครัว ก็จำใจทำกันอยู่ แม่ครัวกวนโอ๊ยมากถึงมากที่สุด หวงเวลาทำงานอย่างที่สุด มาเช้าไม่ให้ clock in มาสายด่ากระจุย พวกเราทำตัวไม่ถูกง่ะ เวลาทำงานนี่พวกเราไม่อู้เลยนะ ไม่เคยเลย เรามั่นใจมากว่าเราไม่เคยยืนเฉยๆเลย (เพราะเราชอบทำครัวอยู่แล้ว มันก็เหมือนฝึกงานดี) เราถามเค้าตลอด how can I help you with that? You want me to do anything for you? I'm done now, what's next. คือขยันที่สุดแล้ว ยิ้มตลอด ทักเพื่อนร่วมงาน ทุกคนก็ยิ้มแย้มดี แล้วก็เฟรนด์ลี่ด้วย เราไม่มีปัญหากะงานนะ มันไม่ได้แย่อะไรขนาดทนไม่ได้ แต่แม่ครัวนี่แบบ สามวันดี สี่วันร้ายมากๆอ่ะ เรารู้ว่าวันก่อนเราผิดที่สายอ่ะ แต่สุดวิสัยจริงๆ เราเป็นวันเบาๆวันแรกอ่ะเลยท้องเสียด้วย เค้าอารมณ์เสียมาก ซึ่งเราก็เข้าใจว่า ต้องเตรียมเปิดร้านน่ะ แล้วมันอาจจะเตรียมของไม่ทันเวลาเปิดร้าน แล้วทีนี้เพื่อนเราไม่ผิดไง เราผิดเองอ่ะ เราเลยบอกว่า I'm so sorry. It's not her fault, it's all my fault ได้ผลแฮะ หยุดบ่นแล้วตั้งใจฟังว่าเราจะอธิบายอะไรอ่ะ เราไม่รู้จะพูดไงอ่ะว่าเป็นวันเบาๆ นึกไม่ออก ก็เลยบอกว่า I didn't feel well this morning, so I use the toilet too long time (งงโคด ไม่รู้จะพูดไง) เหมือนเจ๊แกจะเข้าใจมั้ง ก็หยุดบ่นไป แต่ตวาดแทน ว่าให้ทำทุกอย่างเร็วขึ้นๆได้มั้ย เพื่อนเราหมั่นไส้เลยทำช้าๆ เหอๆ แล้วพี่แกฟ้องเจ้าของร้านอ่ะ เจ้าของร้านถามเราว่าวันนี้ clock in  กี่โมง เราก็บอกไปตามตรงว่าเก้าโมงยี่สิบ (เข้าเก้าโมง) เค้าก็บอกว่า next time you late, (ทำมือบ๋อแบ๋) no job k? I'm not listening. เล่นง่ายวุ้ย เข้าใจนะว่า เรื่องเวลาที่นี่สำคัญมาก เรามั่นใจเลยว่าเราไม่เคยสายมาก่อน เค้าไม่สนใจเลยนะ เพื่อนๆเราก็บ่นนะ แบบ ไรว๊า แค่ยี่สิบนาทีเอง แต่เราก็พอเข้าใจนะว่า ที่นี่ เวลา สำคัญ คนละเรื่องกะที่ไทยจริงๆ จะมาเตือนเพื่อนๆว่า เรื่องเวลา สำคัญมากนะ ปล. จริงๆแล้ววันก่อน เพื่อนเราคนนึงเค้าต้องไปทำงานกะเราไง แต่เค้าป่วย พวกเราก็ไม่รู้จะโทรไปลางานยังไง ตอนเช้ายังไม่มีคนอยู่ที่ร้าน เราก็พยายามไปให้ไว จะได้ไปบอกเค้าว่า เพื่อนป่วย มาไม่ได้นะ เค้าวีนแตกเลยอ่ะแม่ครัวอ่ะ ตอนแรกบอก you're early สิบนาทีเนี่ยนะ.. เราก็จิ้มนาฬิกา บอก เก้าโมงไงๆ แล้วเค้าก็ถามว่า แล้วเพื่อนอ่ะ eh... can she take her day off today.. instead of tomorrow? cause she's sick เค้าป่วยก่อนวันหยุดเค้าอ่ะ no no NO!! It's doesnt work that way!! แล้วก็พาเราไปดูตารางงานอ่ะ SEE?? today I need her, I dont need her tomorrow. and I have staff called off this morning. SH-T now your friend is not coming too. so, just you and me now.. we have to work harder. เหวออออ แล้วเค้าก็บ่นทั้งวันเลย เฮ่อออแล้วก็แบบ ด่าๆเพื่อนเราตลอดเลยที่ไม่มา ไอตอนวันเบาๆเรา เราเลยบอกให้เพื่อนเราไปก่อนเลย บอกเค้าเลยว่า เราป่วย เราจะตามไปตอนสิบเอ็ดโมง แต่พอดีเพื่อนหาของไม่เจอ มันไม่ไปทำงานซะที แล้วเราดีขึ้นแล้วอ่ะ ก็คิดว่า เอาวะ ไม่ไปก็โดนด่า ไปสายก็โดนด่า ไปทำงานดีกว่า เดี๋ยวเค้าจะวีนอีก แล้วเพื่อนเราทำงานช้าด้วยไง สงสารมันถ้าต้องทำคนเดียวอ่ะ แล้วที่ร้านก็คงจะวุ่นมาก ก็เลยไป สรุป ขาดงานดีกว่ามั้งนี่ ไม่ดิสเครดิตตัวเอง จากคุณ : Claudia  - [ 28 มี.ค. 50 14:06:28 ]   -------------------------------------------------------------------------------- หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป     -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1   ตอนนี้เราก็อยากคุยกะ manager มาก ว่า เอ่อ เมื่อไหร่จะให้พวกเราออกไปเป็น busser เพราะ เบื่อแม่ครัวมาก และ น่าจะได้เงินเยอะกว่า และ งานในครัว หนักแบบ.. นึกว่าชั้นเป็น blender หรือเครื่องหั่นผักหรอจ๊ะ ให้เราตีน้ำสลัด แกลลอนนึง ด้วยมือ และตะกร้อมือ (วันที่เรามาสายน่ะ) แล้วพี่แกบอก Hey, you've been doing that thing for 20 minutes, it's not funny! (ใช่ not funny at all จ้ะ) I'm sorry, I'm doing my best. It's not good, it's ridiculous girl. You have to do things faster today, cause you're late!! Com'on =__= แล้วเป็นงี้ทั้งวัน กระแนะกระแหนทั้งวัน แบบ ชมคนอื่นว่า you work hard. good boy. แล้วชายตามองเราอ่ะ เห้ยเราตั้งใจทำงานตลอดเลยเหอะ เจอแบบนี้มันบั่นทอนจิตใจกันอ่ะ อยู่ๆแกก็ฮัมเพลง แล้วพอเราเงยหน้ามามอง ยิ้มๆ(เพระไม่รู้ทำไงอ่ะ วันนี้เกร็งๆ) เค้าก็แบบ.. I'm a crazy american -itch!! แล้วทำหน้ากวนๆอ่ะ แล้วตอนเราขอกินข้าว (ปรกติพวกเราจะได้กินข้าวประมาณบ่ายสาม เพราะลูกค้าไม่มี) วันนี้กะจะไม่ให้อ่ะ ตอบมาเฉยเลยว่า ชั้นไม่มีหน้าที่ต้องมาทำข้าวกลางวันให้พวกเธอนะ (โอ้ยแล้วที่ผ่านมาเธอเป็นคนถามตลอดว่าจะกินอะไร ไม่ให้ชั้นบอกเธอ ชั้นจะไปบอกใครล่ะจ๊ะ) ดีนะเรามีหน้าที่ทำสลัดด้วย เค้าก็พูดว่า โตแล้วหนิ อยากกินอะไรล่ะ ทำสิ (แน่จริงให้ทำดิ) แล้วก็มองหน้าเชฟฝั่งเรา(ที่มีหน้าที่ทำสลัด) ให้ทำแซนวิชให้พวกเราหน่อย เอ่อ.. คือทุกวัน เพราะพวกเราตั้งใจทำงาน แล้วเค้าก็ชมๆนะ เค้าก็ทำตามเมนูที่ร้านอ่ะ เป็นพวก wrap พวก burger มาให้กิน มีเฟรนช์ฟรายคู่มาให้ด้วย วันนี้ได้แค่แซนวิชอ่ะ ทำโทษกันขนาดนี้ แต่เชฟฝั่งเรา เค้าก็คุมเราช่วยเค้าทำออเดอร์อยู่แล้ว เลยให้เราทำแซนวิชเอง เสร็จโก๋สิคะ 555 ทำแซนวิชค่ะ แต่ทำซีซ่าร์สลัดใส่ลงไปในกล่องด้วย แล้ว chip ที่ต้องใส่ไปในจานออเดอร์ลูกค้า มันเหลือแต่เศษๆ ชิ้นเล็กๆหน่อยอยู่ก้นถุง เราก็เทลงกล่องหมดเลย ตักอโวคาโดลงกล่องด้วย(จากซุ้มสลัด) แล้วแพคโคลสลอว์ใส่กล่องกลับบ้านด้วย คือเพราะทำงานที่นี่เค้าอนุญาตให้กินอะนะ ตามปรกติ เราไม่ได้ทำไรผิดนา ปรกติเรากินกลางวันที่ร้านเรากินซุปด้วยเลยอีกถ้วย เข้าช้าวก็ไม่ได้กินมานะ แต่วันนั้นไม่ทนอยู่กินที่ร้านแล้วอ่ะ เพราะตอนนั้นกว่าจะได้ทำแซนวิชก็ประมาณสี่โมงกว่าแล้ว ก็กลับบ้านกินเลย จากคุณ : Claudia  - [ 28 มี.ค. 50 14:28:28 ]       ความคิดเห็นที่ 2   เราว่าถ้าเราคุยกะ manager นะ เค้าต้องบอกว่า ยังจัดตารางงานไม่เสร็จ ไม่ก็ ต้องฝึกไปก่อนล่ะ แน่ๆเลย เพราะเพื่อนเราบอกว่า ตอนนี้ยังอยู่ช่วง spring อ่ะ ถ้า summer งานถึงจะเยอะ เค้าถึงจะต้องการคนมาช่วยเสริฟมากกว่านี้ เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดไงดีอ่ะ เดี๋ยวแม่ครัวหาว่าเรามีปัญหากะเค้าเลยขอเปลี่ยนงานรึปล่าว เหอเหอ คือเราทำต่อได้นะ เราว่าเราอดทนได้อ่ะ แต่เพื่อนเราอีกสองคนอึดอัดมาก แล้วเราก็ตึงๆนิดๆด้วยอ่ะ เพื่อนคนนึงให้เราคุยให้แทนตลอดเลย แล้วก็ไม่แอคทีฟเลย ทำงานช้า งอแงหน่อยๆด้วย มันทำให้แม่ครัวยิ่งวีนขึ้นอีกอ่ะ >< ส่วนอีกคนที่เคยหยุดไป วันนี้โดนแม่ครัวแกล้ง สั่งงานเร็วๆ รัวๆๆ  คือคนนี้ฟังเก่งนะ แต่เจอแบบรัวสารพัดจะรัวเข้าไป แถมเพื่อนเราบอก เหมือนเค้าพยายามแกล้งพูดให้เข้าใจงานผิด จะได้ด่า เวรกรรม เค้าสั่งให้ไปเอา red onions เพื่อนเราก็ไปเอามา พอเอามา ก็วีน บอกจะเอา white เอ้ออ อึดอัดจัง ปล. อ่านจากคห.สองอีกรอบ เราก็ว่า เค้าไม่ได้พูดแรงอะไรนะ แต่แบบ ณ จุดนั้น เค้าทำหน้าทำตา ใส่อารมณ์ แล้วตวาดๆอ่ะ มันบั่นทอนจิตใจ เห้อออ ได้แต่สู้ต่อไป อดทนเน๊อ อดทน จากคุณ : Claudia  - [ 28 มี.ค. 50 14:40:53 ]       ความคิดเห็นที่ 3   สู้ๆๆ ต่อไปนะคะ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ประสบการณ์ และยังดี ที่มีงานทำ ไม่ถูกลอยแพเหมือนคนอื่นๆ เพราะเท่าที่อ่านมา เพื่อนๆบางคนที่ไม่มีงานทำก็มี สู้ๆๆเค้านะคะ เป็นกะลังใจให้ค่ะ จากคุณ : เอริ*ARI*  - [ 28 มี.ค. 50 18:50:51 ]       ความคิดเห็นที่ 4   นี่ละสนามฝึกใจชั้นยอดเลยละ แม่ครัวน่าจะอยู่ในวัยทองมั้งคะ มู๊ดดี้จัง เวลาเขาบ่นด่า เราก็ร้องเพลงลูกทุ่งมันๆสิคะ แถมหันตูดเต้นไปด้วยด้วย ร้องดังๆกลบเสียงยัยนั่นไปเลย เอาให้งงแตก จิตตกไปเลย จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 28 มี.ค. 50 22:42:51 A:125.25.8.221 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 5   ค่ะคุณเอริ เราก็คิดว่า เราโชคดีแล้วล่ะได้งานทำ ได้บ้านดี ก็ทำไปให้ดีที่สุดน่ะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ น้างามแสงเดือนคะ หนูก็พยายามไม่สนใจค่ะ ขำๆ ร้องเพลงไทยกะเพื่อนค่ะ แต่เรื่องวัยทองนี่อาจจะจริงค่ะ แฮะๆ อยากเข้ามาแชร์กะเพื่อนๆอะค่ะว่า เราก็เจอปัญหาแบบนี้ มีใครเป็นบ้างมั้ย แก้ปัญหากันยังไงน่ะ แต่ที่สุดแล้วก็ต้องอดทนแล้วก็สู้ต่อไปแหละเนอะๆ  สู้ๆค่ะ จากคุณ : Claudia  - [ 28 มี.ค. 50 23:42:56 ]       ความคิดเห็นที่ 6   ของเราก้อแย่ คนดำแกล้งส่งของให้เราช้าๆ เพื่อที่เราจะได้โดน manager ด่า แล้วคนดำอ่ะ นินทาตลอดเลย มันคงคิดว่าเราฟังไม่รุ้เรื่องมั้ง แอบเซ.งกะที่ทำงานเหมือนกัน จากคุณ : helloaloha  - [ 29 มี.ค. 50 00:28:38 ]       ความคิดเห็นที่ 7   เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราโชคดีไม่เคยเจออย่างนี้ คิดซะว่าเมื่อก่อนป้าแม่ครัวแกอาจเคยโดนทำแบบนี้ เลยเก็บกด พอมีโอกาสเลยเอาคืนบ้าง ยังงัยก็สู้ๆค่ะ จากคุณ : AUmi_J   - [ 29 มี.ค. 50 05:24:13 ]       ความคิดเห็นที่ 8   สู้ต่อไปครับ บางคนยังไม่ีมีงานจะทำเลย หุหุ จากคุณ : skybookz.com (BOokz_psu)   - [ 29 มี.ค. 50 12:05:37 ]       ความคิดเห็นที่ 9   สู้ๆน๊า เอาใจช่วย อย่าเกรงใจใครเลยถ้าคุณจะต้องลำบากใจ พูดออกไปเถอะค่ะ ทั้งเพื่อนทั้งเจ้านายนั่นแหละ แล้วถ้าคุณแฮปปี้อยู่แล้วกะงาน คุณอยากย้ายรึปล่าว ถ้าย้ายก็คุยเลย สู้ๆ แต่ถ้าเพื่อนจะย้าย ให้เค้าคุยเองนะคะ มันดูไม่ดีเท่าไหร่เลยที่คุณจะออกรับแทน พูดแทนทุกอย่าง สู้ๆนะคะ จากคุณ : ~คุณมู๋ตุ๋น   - [ 29 มี.ค. 50 12:28:48 ]       ความคิดเห็นที่ 10   This is call EXPERIENCE . ทำงานจริงไม่ใช่ WAT ก็ feel the same จากคุณ : รุ่นพี่ - จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 4จ๊อบสอง คือตอนนี้มาทำงานที่นี้ได้เกือบเดือนแล้วเงินได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ คำนวณกันแล้วว่าไงได้คืนไม่เกินสี่หมื่นแน่นนอนเลย เราเลยอยากขอข้อแน่ะนำหน่อยค่ะว่าจะทำไงดี แล้วดันมีปัญหาเรื่องsocice อีกเวนกำจริวๆๆเลยมีทางไหนจะหาจ๊อบสองได้บ้าง port st. lucie  florida จากคุณ : nu_may121  - [ 30 มี.ค. 50 05:37:39 ]   -------------------------------------------------------------------------------- หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป     -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1   Nu_May เข้าไปดูที่บอร์ดในวัดและในห้างนะคะ เขาจะแปะเรื่องงานไว้ หรือไม่ก็ซื้อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ดูหน้า job มีร้านอาหารไทยมั้ยคะ เข้าไปถามเลยค่ะ จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 30 มี.ค. 50 22:06:01 A:125.25.2.202 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 2   i think the problem is your apply for SSC card has a problem SURE SURE << Same me i have a way maybe u can use if u apply for SSC card u'll get document it say u have to wait for 4 weeks u can use this and J-1 for apply 2nd job <<maybe na kub but if u have document say u wait 2 week it mean u can apply for 2nd job and say to 2nd manager that i'll get SSC number in 1-2 week give me the job plz or another u want u can use a little <Go-Six> today i'll apply for 2nd job i hope i'll get it   Su Su na kub จากคุณ : Da svi da nia (V_Accy)  - [ 31 มี.ค. 50 01:43:15 ]       ความคิดเห็นที่ 3   เหอๆ ยังไม่ถึงเดือนเรย ยังมีเวลาตักตวงอีกเยอะ ค่อยๆหาไปนะคะ ตอนที่เราทำงานถึงช่วงนี้ ได้เงินมาไม่กี่รอบเอง แถมชม.ทำงานก้อน้อยกว่าที่25 ต่ออาทิดอีกอ่า อื่ม เท่านี้ก้อพอมีกินไปวันๆ เด๋วต่อไปค่อยเก็บเงินเที่ยว จากคุณ : ด๊กกู - [ 31 มี.ค. 50 19:40:18 A:124.120.174.62 X: TicketID:128965 ]       ความคิดเห็นที่ 4   อยุ่รัฐไหนคะ เผื่อจะช่วยได้ จากคุณ : patty - [ 1 เม.ย. 50 21:38:33 A:124.120.159.158 X: TicketID:142181 ]       ความคิดเห็นที่ 5   ความพยายามเยอะจิงๆ สู้ต่อไป ยัยบ๊อง 55 จากคุณ : นก (Are_Am_Is) แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 00:29:05 จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 5work & travel ความฝัน..............ที่เป็นแค่ภาพลวงตา สวัสดี เพื่อน ๆ ชาวบอร์ดไกลบ้านทุกคนนะครับ เราเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้ามาร่วมกับโครงการ work & Travel อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้รับรู้ถึงความจริง... ตั้งแต่วันแรกที่เดิรไปสมัครโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะว่าไปเป็นเพื่อนของเพื่อนเฉย ๆ แต่คนในบริษัท work & travel กับพูดกับเราดีมาก เป็นกันเอง แล้วก็แบ่งปันประสบการณ์ที่เคยไปมาให้เราฟัง ถึงความสวยหรู ความสนุกสนานในการไปเมกา ฯลฯ โอ้โห แค่นั้นแหละได้ยินเนื้อสั้นเลย อยากไปโครงการนี่มาก ไม่รอช้าสัมภาษณ์ ครั้งที่ 1 กับทางบริษัททันที แล้วภาษาอังกฤษของเราก็ไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็พอไปวัดไปวา ได้ เลยผ่านมาได้ด้วยดี เชื่อมั๊ยว่าสมัครตั้งแต่เดือนมิถุนายน แล้วเดินทางเดือนมีนาคม แต่เตรียมของไว้ตังแต่ตุลา แล้ว เห่อมาก ๆ แล้ววาดฝันไว้นะว่าไปทำงานคนจะเจอเพื่อนดี คนท้องถิ่นที่นูนคงจะมีแต่คนดี ๆ แล้วที่ทำให้ยิ่งแบบรู้สึกดีกับบริษัทนี่เข้าไปอีกคือ เค้าดูแลคอยส่ง sms บอกตลอดเวลาถ้ามีไรใหม่ ๆ แล้วก็ให้ข้อมูลในด้านดี ๆ ขอย้ำว่าในด้านดี ๆ แล้วก็พอถึงธันวา สอบสัมภาษณ์กับนายจ้างที่นูน ก็ตื้นเต้นทำไรไม่ถูก แต่ก็สัมภาษณ์ผ่านแล้วก็เปลี่ยนไวด์งานจากเดิมที่ไป แล้วเปลี่ยนเป็นแม็คโดนัล แล้วแล้ววันที่เดินทางก็มาถึง เชื่อมั๊ยยังมีความประทับใจส่งท้ายอีกนะมีพี่ ของทางบริษัทโทรมาบอกว่าอย่าลืมนะค่ะว่าวันนี้ขึ้นเครื่อง เตรียมของให้พร้อมนะค่ะ แล้วขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ แล้วอย่าลืมโทรมาบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะค่ะว่าถึงแล้ว ซึ้งรู้สึกดีมาก ๆ แล้วก็นั่งเครื่องมาที่อเมริกา แล้วได้รู้จักเพื่อน ๆ อีกกลุ่มที่นั่งเครื่องมาด้วยกัน เราก็ต่อสู้กันนะ มาถึงเมกาต้องรอเครื่องอีก 6 ชม. ก็นั่งรถเมลล์กันออกไปเที่ยวกันก่อน พอกลับมาคิดว่าปรับนาฬิกากันแล้วเรียบร้อย กับดูผิด เวลาเราช้ากว่า 1 ชม. เกือบตกเครื่องแล้ว แต่ดีที่พระคุ้มครองยังมาทันเวลาพอดี แล้วพอมาถึงเมื่องที่จะต้องทำงานก็มีนายจ้างที่นี่มารับ แล้วก็พาไปส่งนอนที่โรงแรมก่อน 1 คืนเพราะเรามาถึงที่นี่ดึกแล้ว ก็ดีนะ แต่พอเช้าขึ้นมา นายจ้างที่เป็นผู้ดูแลจริง ๆ ก็มา โอ้โห เค้าให้เราแยกกันกลับเพื่อน ๆ แล้วเป็นไง ก็แตกกันไป 3-4 หน่อ แล้วก็พาออกมานอกเมืองพาไปที่แรกก็บอกว่าบ้านมันยังไม่พร้อมคุณไปอีกบ้านดีกว่า แล้วเราถามว่าไปไหน ก็บอกว่าเราไม่รู้ แล้วเราบอกว่า ทำไมพาออกมาอยู่ที่นอกเมือง เค้าก็บอกว่าไม่รู้ ถามไรก็บอกว่าไม่รู้ ออ ลืมบอกไปว่าเรามาถึงกลุ่มแรกซึ้งพี่ ๆ ที่ทำงานอยู่ที่บริษัทนั้นบอกว่า มากลุ่มแรกก็สามารถเลือกที่ทำงานได้ก่อน เราก็คิดว่าเราเลือกที่อยู่ใกล้เมืองดีกว่าจะได้หางานที่ 2 ได้ อ้อ อีกอย่างนะถ้าใครคิดว่าจะมาที่นี่แล้วทำงานอย่างเดียวแล้วจะคุ้งทุนนะไม่ต้องคิดเลย ไม่มีทางแน่นอน เพราะอะไรเดี๋ยวเล่าต่อ พอเค้าพามาบ้านหลังที่ 2 นะโอ้โห หนักกว่าเดิมอีก อะไรก็ไม่มี มีห้างอยู่ห้างเดียว แล้วก็ไม่มีอะไรเลย โอกาสที่จะหาเงินให้ได้เยอะ ๆ นะดับวูบเลย ต่อมาเลยตัดสินใจโทรหาพี่ ๆ ที่บริษัทที่เค้ารับผิดชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ และไงคำตอบที่ได้มาเค้าบอกว่า น้องต้องคยเองนะครับพี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ อาวแล้วงี้ทำไงอ่ะ พี่พูดแบบปัดความรับผิดชอบมาก ๆ เราก็เลยลองใหม่โทรไปคุยกะนายจ้างมันเองมันก็บอกว่าไม่มีแล้วที่ ๆ คุณอยู่ดีที่สุดแล้ว อาวดีแล้วเหรอ เราก็เลยอยู่ ๆ ก็อยู่ว่ะ เด๋วหารถเมลล์แล้วค่อยไปเที่ยวในเมืองก้ได้ แต่เชื่อมั๊ย รถเมลลืก็ไม่มี คนแถวนี้เค้าบอกว่ามีรถเมลล์เฉพาะในเมืองเม่านั้น โอ้จะบ้าตาย แล้วไงเราก็ถามนายจ้างเค้าก็บอกว่าอยากไปเหรอ เอางี้เดี๋ยวเค้าพาไปเที่ยวแล้ววกัน เราก็ดีใจขึ้นมาแล้วว่าอย่างน้อยเค้าเป็นคนดี แต่เราคิดว่าเรามาถึงแล้วไม่น่าจะเกิน 2 ถึง 3 วันก็น่าจะได้ทำงาน แล้วไง รอไปเลย 10 วัน เพื่ออะไรเพื่อรอกลุ่มหลังที่เค้ามาก่อนแล้วค่อยไปปฐมนิเทศงานพร้อมกัน โอโห แทบบ้า 10 วันไม่รู้จะทำไรเลย นั่งแล้วก้นอน จะไปไหนก้ไม่ได้ ไม่มีรถเมล์ ไม่มีไรเลย บ้านทีวีก็ไม่มี โทรสับก็ต้องเดินไปเป็นกิโลเพื่อโทร นี่เหรออเมริกา ไม่เป็นอย่างที่คิด เลย แล้วไงต่อ วันไปปฐมนิเทศ เจอกลับเพื่อนกลุ่มหลังเลยแซม ๆ ถามดูว่าอยู่กันที่ไหนเหรอ คำตอบที่ได้แทบฉีกอกตัวเอง บอกว่าอยู่ในเมือง มีรถเมลล์ มีทีวี มีครบทุกอย่าง เฮ้ย ไรกันว่ะ ทำงี้ได้ไง เราก็เลยตกลงกับเพื่อกลุ่มแรกว่า จะคุยกับนายจ้างแต่เหมือนมันรู้ทันมันไม่ยอมเปิดโอกาสให้เราได้พูดเลย เจ๊บใจกด็เจ๊บใจนะ มาก่อน แต่กลับเป็นแบบนี้ แล้วต้องมาใช้ชีวิตป่าว ๆ ไม่มีไรเลยถึง 10 วัน โห้ นี่เหรอการมาอเมริการครั้งแรกของเรา แล้วเพื่อนที่มากลุ่มหลังนะก็คิดว่าจะดี แต่พูดกะแทกแดกดันอยู่นั้นแหละ ว่าเออบ้านเราดีเนอะมีอย่างนั้น มีอย่างนี้ ใกล้ที่นั้นใกล้ที่นี่ แล้วก็ว่า ๆ ก็นั่งรถเมลล์ไปเที่ยวได้ เออดี เอาเค้าไป ถ้าไม่เกรงใจนะจะลุกขึ้นไปถีบให้หน้าหงายไปเลย แต่แล้วไง เราก็กลับมาที่บ้าน มาคุยกับเพื่อน ๆ เรา แล้วก็บอกว่า ทำไมบริ?ถึงเป็นแบบนี้ตอนอยู่ไทยนะทำกับเราเหมือนเราเป็นพระเจ้า แต่พอเรามาที่อเมริกาแล้ว ทำยังกะหมูกะหมา เฮ้อ เด๋วเค้ามาเยื่ยมบ้านเราต้องคุยหน่อยแล้ว อ้อลืมบอกไปบ้านที่อยู่นี้เป็นอพาร์ทเม้นท์เช่าเดือนละ 250$ ต่อเดือน แล้วก็ก่อนออกต้องจ่ายอีก 50$ เป็นค่าทำความสะอาดบ้าน เชื่อมั๊ยว่าก่อนเรามาอยู่มันบอกว่ามันทำความสะอาดแล้ว แต่คุณเอ้ย มีแต่ฝุ้น เศษขยะ แล้วก็ความสกปรกที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง ทุก ๆ อย่างในบ้านเลย แล้วไงเราก็มานั่งทำความสะอาดกันอะดิ เหนื่อยก็เหนือย บ้านก็อยู่บ้านนนอก ไรก็ไม่มี เซ็งมากเลยอยากกลับไทยมาก ๆ เลย แล้วขอเครื่องดูฝุ่นมันนะ ตั้งแต่วันที่มา จนถึงวันนี้ 3 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้เลย เหนื่อย ฝันไว้สูง แต่เหมือนตกนรก ต่อมาพอถึงวันแรกของการทำงาน ก็คิดว่าฝรั่งเค้าคงใจดีเนอะ เราเป็นนักเรียนมาใหม่เราไม่รู้เรื่องอะไรเค้าคงค่อย ๆ บอกเรา แต่พอไปทำงาน สอนให้เป็นแคชเชรีย โอ้โห คุณเธอจิ้ม ๆๆๆๆ แล้วก็กลับมาถามเราว่า ยูเค้าใจมั๊ย เฮ้อ ไม่บอกไรเลย แล้วให้ดูเอาใครจะไปเข้าใจว่ะ ก็ตอบไปว่า โน แล้วเค้าก็ทำหน้าไม่พอใจ แล้วก็ย้ายเราไปตำแหน่งอื่นไปอยู่ไดรืทรู ไงต่อเครื่องเป็นเครื่องอัตโนมัติ หมดเลย ใช้ไม่เป็น พอเราไปขอความช่วยเหลือก็ด่า ด่าจริง ๆ นะ แล้วอะไรก็ไม่บอกเราเลย เราต้องสาตาเร็วจริง ๆ อะถึงจำได้ แหม คนทำงานมาเป็นปี ๆ กันคนมาทำงานแค่ ชั่วโมงเดียวจะเอาอะไรมากมาย แล้วก็บางอย่างที่ลูกค้าขอเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วเมนูมีไรบ้างไปถามก็เจอด่าแล้ว เหมือนชีวิตอยู่ในนรกจริง ๆ แล้วก็ถ้าทำไรผิดนะก็จะยกขโยงกันมาแล้วว่าทำแบบนี้ได้ไงทำแบบนี้ขอก็เสียหมดดิ แล้วงี้จะทำไงแล้วลูกค้าต่อว่าใครจะรับผิดชอบ ยังไม่หมดแค่นั้นหลาย ๆ คนอาจจะรู้นะว่า เค้าอาจมีโค๊ตของเค้าเกี่ยวกับการสั่งของเพื่อความรวดเร็ว แต่แล้วไงเราจะรู้เหรอว่ามันคือไร อย่าง bac คือไร เราจะรู้ไม๊ แล้วก็มาด่าเราว่า ไม่รู้เหรอ ไม่ไหวเลยนะโอ้โห อยากออกจากงานวันนี้นเลย แล้วก็เชื่อมั๊ยว่าเค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นเด็กนักเรียน เรียนถึงปริญญาตรี เค้ารู้แค่ว่าเรามาจากบริษัทจัดหางาน โอ้โห เป็นไง แรงงานต่างด้าวดี ๆ นี่เอง แล้วเงินที่ให้หล่ะ ชม.ละ 8$ เป็นเหรด ขั้นต่ำเลย เยี่ยมไปเลย โดนเค้าโขกสับใช้แรงงานยังกะทาส ทำทุกอย่าง กำลังกวาดพื้นอยู่อีพวกพนักงานเก่ามันก็เขี่ยของลงมาตรงพื้นที่ทำความสะอาดแล้วแล้วก็ให้เราไปกวาดใหม่ แกล้งกันมั๊ย แล้วก็ตั้งแต่ตัวแม่ยันตัวลูก ใช้กันให้ว่าเล่นเลย เด๋วเรียก เด๋วเรียก แล้วก็ให้เราทำงานไม่ครบ ชม.ด้วยที่สำคัญวันไหนคนน้อยก็บอกว่า กลับได้แล้ววั้นนี้คนน้อย อาว แล้วงานนี่มีหลักอะไรแน่นอนบ้างเนี้ย งง มาทำไรมาเพื่ออะไร 3 เดือนที่อเมริกา มาแค่นี้เหรอ มาเพื่อเป็นคนใช้ให้คนอื่นเค้า ถ้า แล้วก็มาโดยที่บริษัทไม่รับผิดชอบเลย แล้วเชื่อมั๊ยต่อมา พี่ที่บริษัทมาเยี่ยมพร้อมกับนายหน้าจัดหางาน แล้วนายหน้าเป็นไง มาอย่างสงบเรียบร้อยพูดจาดี ต่างจากวันแรก แล้วเราก็ถามว่าเนี๊ยถ้าวันไหนเราอยากไปในเมืองเราจะโทรหาคุณนะ มันตอบว่าไง ตอบว่าไม่ได้ ถ้าอยากไปก็โทรเรียกแท๊กซี้มาเองแล้วกัน เพราะเค้าไม่ว่างหรอก แล้วถ้ามไม่มีอะไรสสำคัณก็อย่างโทรหาเค้านะ เค้าต้องการพักผ่อน อะไรว่ะ พูดงี้ได้ไง เหมือนแบบว่าสักแต่จะพูดเลย และพี่ที่บรริษัทไทยนะเราบอกว่า เนี๊ยเค้าสั่ง ๆๆๆๆๆ ทำแล้วเค้าก็ไม่บอกว่าทำไรเค้าก็มาด่า แล้วเราควรทำไง พี่เค้าตอบว่า น้องก็ต้องขอให้เค้าทำให้ดูก่อนแล้วเค้าด่าก็ต้องทนไว้นะ อาวซะงั้นเลย แล้วก็บอกอีกว่าเค้าใช้งานอย่างทาสเลยนะพี่ เอะอะอะไรก้เรียก แต่พวกพนักงานเก่า กับนั้นคุยกัน นั้งเฉย ๆ บ้าง แล้วทำไง พี่เค้าตอบมาว่า ถ้าเค้าไม่ได้เรียกให้น้องไปเช็ดรองเท้า พี่ก็คิดว่างานนั้นไม่ใช่งานทาสนะครับน้อง เราเป็นพนักงานเราก็ต้องทำซิครับ โอ้โหแค่นั้นแหละพูดไปรไม่ออกเลย แล้วเรายังถามต่อนะว่าเรื่องบ้านเรามาก่อนทำไมเราไม่มีสิทธิ์เลือกบ้านอ่ะ ก็บอกว่า มันขึ้นอยู่กับนายหน้าของเราที่นี่ครับ อาวแล้วเราถามมันก็บอกไม่รู้ ไม่รู้ พี่เค้าก็บอกว่า ก็คือ เค้าเป็นคนเลือกให้เราเอง หรือ แล้วแต่เราจะพูดกับเค้า โอ้โหนี่หรือความรับผิดชอบของบริท work & travel เชื่อมั๊ยว่าตอนนี้เราทำงานมาได้ 2 อาทิตย์แล้วปัญหามีทุกวัน แล้วงาน 2 ก็ ไม่ได้ เหมือนเอาเงินแสนมาทิ้งไงก้ไม่รู้ เฮ้อ ตอนนี้เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ เรื่องมันมีอีกเยอะ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง อ้อ เพื่อน ๆ คนไหนที่มีปรัสบการณ์แย่ ๆ โดยเฉพาะบริษัท แถวราชเทวี อยากเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังก็เชิญได้เลยนะ เราอยากรู้ของที่อื่นเหมือ่นกันเผื่อปีหน้ามาจะได้หาที่ดี ๆ มา จากคุณ : Kum_Lhae  - จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นที่ 1   เห็นใจค่ะ  ...มีเพื่อนทำธุรกิจ agency เกี่ยวกับโครงการ work & travel ...ก็ได้ยินได้ฟังมามากมายเหมือนกันค่ะ...และเท่าที่ทราบ agency ของเพื่อนแห่งนี้ ก็ดูแลน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ได้ดีพอสมควร...กิจการดีขึ้นทุกปี ตามลำดับ เรื่องแบบนี้...ถามผู้ที่มีประสบการณ์เคยไปกับโครงการนี้ เดี้ยนเชื่อว่าต้องมีทั้งดีและไม่ดี...เด็กบางคนไปแล้ว ได้รับประสบการณ์ที่*ดี*อยากไปอีก..ก็มีเป็นเรื่องปกติ    แต่เด็กบางคนไปแล้ว ได้รับประสบการณ์ที่*ไม่ดี* แต่ก็ยังอยากไปอีก..ก็มี    แปลก ??? แต่ถ้าถาม agency ...สำหรับเด็กที่อยู่ได้ดี มีความสุข ไม่มีปัญหาก็ถือว่าเป็น case ปกติ...agency ก็แค่เสมอตัว    แต่สำหรับเด็กที่มีปัญหาไม่ว่าเรื่อง ที่กิน ที่อยู่ จนไปถึงกับนายจ้าง....แม้ทาง agency พยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแล้ว ถ้ายังไม่เป็นที่พอใจของเด็กหรือผู้ปกครอง ...agency ก็มีแต่เสียชื่อเสียง...  ตราบใดที่...*อเมริกา* ยังเป็นความใฝ่ฝันของใครต่อใครมากมาย.....ที่อยากมีโอกาส จะไปเยี่ยมเยือน  ถ้าเลือกได้ ก็เลือกหนทางของโอกาสให้เหมาะสมกับตัวเราที่สุดเถอะค่ะ.... จากคุณ : Drama Queen (smoker!!)   - [ 1 เม.ย. 50 05:36:37 ]       ความคิดเห็นที่ 2   เราโพสไปในกระทู้คุณพี่โมะจังอ่าค่ะ แต่พอ refresh ดูอีกที มันหายไปแล้วอ่าค่ะ ประสบการณ์ไม่ค่อยดีเหมือนกันเลยค่ะ เราไปตอนแรกมันจะโขกสับเราเล็กน้อยนะคะ บางคนน่ะค่ะ แต่พอซักพักเจ้านายบอกว่าเราเป็นใคร เค้าก็จะปฏิบัติกับเราดีขึ้นค่ะ เราเจอแต่เพื่อนดีๆ นิโกรนะคะ คนขาวจะหยิ่งๆ ยังไงไม่ทราบ... ทนได้ ก็ทนไปก่อนนะคะ สู้เพื่อแม่ค่ะ จากคุณ : สู้ๆ ค่ะ (mimimimc)  - [ 1 เม.ย. 50 06:13:39 ]       ความคิดเห็นที่ 3   เห็นใจที่ไปเจอเรื่องแบบนี้นะ แต่ก็ขอบใจที่มาแบ่งบันประสบการณ์ให้รุ่นน้องได้ศึกษานะ บริษัท Agency ก็ทำงานแบบนี้กันทุกที่แหละ ขอให้ได้เงินก่อน เรื่องอื่นๆไว้ว่าที่หลัง คือก็ไม่ได้ว่านะว่า agency จะหาแต่ที่ทำงานแย่ๆให้ เพียงแต่ว่ามันก็มีความเป็นไปได้ว่า จะหาที่ห่วยๆในกรณีที่ว่าตัว agency เองไม่มีความสามารถพอจะหางานที่ดีให้กับเด็กๆที่เสียตังก์เป็นแสนๆเพื่อไปกับโครงการได้ อย่างไงก็มองโลกในแง่ดีเข้าไว้นะ อดทน คิดซะว่าเป็นการมาฝึกความอดทนล่ะกันนะ วันหลังไปเจอเรื่องแย่ๆ ก็จะได้อดทนได้ เพราะขนาดเรื่องแค่นี้ยังผ่านมาได้เลยจริงไหม.... สู้ๆนะ จากคุณ : CHiN (chinyu2002) จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าเห็นใจค่ะ ที่เจอเรื่องแบบนี้ สู้ต่อไปค่ะ อ้อ .. เจ้าของกระทู้เคาะ enter บ่อย ๆ หน่อยก็ดีนะคะ อ่านแล้วตาลายค่ะ จากคุณ : Noise219   - [ 1 เม.ย. 50 07:44:16 ]       ความคิดเห็นที่ 5   ,ประสบการณ์สุดบัดซบ เหมือนกันค่ะ ของบริสัท แถวๆ ลาดพร้าว ติดกับ ห้าง เซนๆ อะไรเนี่ยแหละค่ะ แย่มากกกก เหมือนที่เจ้าของกระทู้บอกว่า ตอนอยู่ไทยทำเหมือนเราเปนพระเจ้า พอมาที่นี่ มีปัญหาโทรกลับไป เจ๊แกบอกว่า พี่ก้อช่วยอะไรไม่ได้ พ่อคุณสิคะ ที่ตอนอยู๋ไทยบอกว่า มีปัญหาอะไรโทรมาได้ตลอดเวลา พอมานี่ คนที่นี่ เค้าไม่รู้ว่าพวกเราอะ อยู๋ไทยมีการศึกษาที่ดีนะ เค้านึกว่าเปนแรงงานทาส ไร้การศึกษา ดูถูกสุดๆค่ะ ส่วนเรื่องเช่าบ้าน ไม่ต้องพูดถึง 1250 ดอล ต่อเดือนค่ะ ค่ามัดจำอีก 1250 ดอล ตายไปเลยค่ะ ไม่รู้จะเสียเงิน แสนนึง มาลำบากทำไม มีอีกเยอะค่ะ แต่เอาแค่นี้ก่อน จากคุณ : เดี๋ยว บั๊ดดด - [ 1 เม.ย. 50 08:18:16 A:71.230.184.23 X: ]       ความคิดเห็นที่ 6   http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F5238369/F5238369.html อย่าตั้งความหวังอะไรไว้สูง บางคนเจอหนักกว่าคุณอีกนะ จากคุณ : โอเล่ (โอเล่ คุง)   - [ 1 เม.ย. 50 08:25:01 ]       ความคิดเห็นที่ 7   คุณ ค.ห.5 ครับ ย้ายบ้านด่วนเลยครับ ออกมาหาเองครับ หาดีๆจะได้ประมาณเดือนละ 250 -300 เหรียญครับ (ถ้าอยู่สักสี่คนก็หารกันตกคนละ 100 เหรียญเอง) อยู่แพงขนาดนี้ไม่ไหวหรอกครับ ส่วนความเห็นของผม ผมว่า Agency ไหนๆก็เหมือนๆกันครับ เวลาเราไปอยู่อเมริกาแล้ว เราก็ต้องช่วยตัวเองทั้งนั้น Agency ในไทยช่วยอะไรเราไม่ค่อยได้แล้วครับ ส่วนใหญ่อยู่ที่ดวงและนายจ้างของเรามากกว่าครับ ข้อแนะนำคือ ให้ไป Make friend กับฝรั่งแถวบ้านด้วยนะครับ (สำหรับคนที่อยู่ชนบท) ฝรั่งแถวบ้านเรานี้แหละครับ ที่จะพาเราไปเที่ยวไหนต่อไหน ส่วนใครที่จะไปปีหน้า พอเห็นงานไหนน่าสนใจ ขอเบอร์โทรศัพท์นักเรียนที่ไปรุ่นที่แล้วกับ Agency แล้วโทรไปสอบถามด้วยตนเองว่า การทำงาน ชั่วโมงงาน ที่อยู่ ที่กิน เป็นอย่างไร หา second job ได้ไหม เราจะได้เอาไปเป็นข้อมูลได้ว่า เราควรจะเลือกไปที่นี่ดีหรือไม่ ส่วนที่ไหนที่เค้า Random ที่ทำงานให้เรา อย่าไปเลือกนะครับ Agency W&T มีเป็นร้อยๆ เปลี่ยนไป Agency อื่นซะนะครับ (เราควรจะมีสิทธิงาน เลือกรัฐเอง ไม่ให้ให้คนอื่นมาเลือกให้) จากคุณ : Esprite  - [ 1 เม.ย. 50 13:51:36 ]       ความคิดเห็นที่ 8   ผมว่าคุณเตรียมตัวในบางเรื่องไม่พร้อมและคาดหวังสูงเกินไปว่าประเทศฝรั่งมันต้องดีกว่าเมืองไทย อะไร ๆ ต้องดีกว่า พอไปถึง เจอเมืองบ้านนอก ๆ ก็ผิดหวังเป็นธรรมดา แล้วก็อย่าหวังพึ่งเจ้าหน้าที่บริษัทเกินไป เค้าช่วยคุณไม่ได้หรอก ขนาดคุณซึ่งอยู่ในสถานการณ์จริงเอง ยังช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วเจ้าหน้าที่ที่อยู่เมืองไทย เขาจะช่วยอะไรคุณได้ มีแต่จะทำให้เจ้าหน้าที่และพ่อแม่พวกคุณเป็นห่วงเปล่า ๆ ส่วนเรื่องที่พัก จะเป็นแบบไหนคุณต้องคุยรายละเอียดกับนายจ้างตั้งแต่อยู่เมืองไทยแล้ว และถ้าไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ (ต้องมีหลักฐานลายลักษณ์อักษร) คุณเฉ่งได้ทันที ความจริงเดือนละ 250 ผมว่าไม่แพงเลยนะ ส่วนเรื่องการทำงาน การเรียนงาน คุณต้องรู้จักคุยรู้จักถามและศึกษาด้วยตนเองด้วย ไม่แปลก ถ้าภาษาไม่ได้ เค้าไม่ให้คุณทำ register หรอก อย่างน้อยเค้าต้องสอนคุณในระดับนึง แล้วคุณก็ฝึกฝนเอง ถ้าเค้าสอนเร็วไปหรือไม่สอนเลย คุณก็บอกเขาสิครับ บอกไปตรง ๆ ว่าไม่ทัน หรือสอนไม่เข้าใจ ต้องรู้จักต่อรองนะครับ ทำตัวให้ดูฉลาดเข้าไว้ ที่บอกว่าโดนแกล้ง โดนใช้งานหนักกว่าคนอื่น อะไรนี่ ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรม ก็คุยกับ store manager สิครับ ย้ำนะครับ คุณต้องดูแลตัวเองให้ได้ ส่วนงานสอง ถ้าอยากได้ก็ต้องขวนขวาย internet มีก็ใช้หาได้ ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็ลองคุยขอ extra hour จากงานแรกดู แต่คุณต้องทำให้เขาเชื่อก่อนว่า คุณ "สามารถ" รับผิดชอบได้จริง ที่ผมเคยไปมา ผมก็ทำงานเดียว ได้ทุนคืน กำไรอีกประมาณ 60000 บาท เพราะว่าผมขอ extra hour ได้เพราะ manager ไว้ใจ ได้ประโยชน์เพราะได้เรียนรู้ internal control การจัดการภายใน store ด้วย ส่วนใหญ่ผมว่า 80% ของคนที่ไป workandtravel แล้วบอกว่าไม่ดี ประสบการณ์แย่ ๆ เป็นเพราะตัวเองเตรียมตัวไม่ดี ดูแลตัวเองไม่ได้และคาดหวังสูงไป อีก 20% นี่คงดวงซวยจริง ๆ ที่เจอแต่คนไม่ดี แต่หลายคนแม้ดวงไม่ดี แต่เค้าสู้ชีวิต ไม่ยอมโดนเอาเปรียบ สุดท้ายเขาก็บอกว่าคุ้ม ได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย ที่พูดนี่ไม่ได้อยากให้เสียกำลังใจนะ แต่อยากเอาใจช่วยให้สู้ และพยายามต่อไปนะครับ จากคุณ : bypass boy - [ 1 เม.ย. 50 14:15:40 A:58.9.159.43 X: ]       ความคิดเห็นที่ 9   เห็นใจมากเลย เราก็มีเพื่อนมาทำงาน work & travel เหมือนกัน ได้สองอาทิตย์แล้ว ต่างกันมากเลย ทำไม เพื่อนอยู่ virginia  แล้วคุณอยู่ที่ไหน บอกได้ไหม จากคุณ : phutthan (Carn)  - [ 1 เม.ย. 50 22:08:42 ]       ความคิดเห็นที่ 10   ^ ^ คุณ bypass boy กระซิบหลังไมค์มาหน่อยได้ไหมครับ ว่าไปที่ไหนมา เพื่อจะบอกให้น้องไปบ้าง จากคุณ : Esprite  - [ 1 เม.ย. 50 22:14:54 ]       ความคิดเห็นที่ 11   ได้ยินเรื่อง Work and Travel มาเยอะค่ะ คนเล่าให้ฟังเพียบ มีทั้งแบบโชคดีสุดๆ ได้งานได้เงินกลับมา และอีกแบบที่ ไม่น่าจดจำเอาซะเลย ตอนแรกๆ เราเข้าใจว่าโครงการนี้เป็นเหมือนนายหน้าจัด หาแรงงานไทยไปทำงานที่อเมริกา แต่ว่าเลือกเอาไปเฉพาะ นศ.ปริญญาตรีเท่านั้น ไปแบบรู้เลยว่าจะไปทำงานอะไร ได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ ไปนอนที่ไหน แบบจัดไว้ให้เสร็จ พอใจแบบไหนก็จ่ายค่าดำเนินการ ค่านายหน้าไปซะ แล้วไปถึงก็ทำงาน หมดสัญญาก็กลับเมืองไทย.. ปรากฏว่าพออ่านไปอ่านมาหลายกระทู้แล้วกลับกลายเป็น ว่าเด็กไทยไปถึงมันไม่มีอะไรมารองรับเลยว่า จะได้ทำงาน อะไร จะได้ทำไหม (บางคนเล่าว่า สวนสนุกปิดทำการ เพราะว่าฝนตก หิมะตกฯ) ไม่แน่ว่าจะได้ทำอะไร ทำตอน ไหน แล้วก็ไม่แน่อีกว่าจะได้เงินเท่าไหร่ ไม่แน่ว่าจะไปนอน ที่ไหน ค่าที่พักเท่าไหร่แน่ก็ไม่รู้... บางคนบอกว่าเรื่องนี้ต้องแล้วแต่ดวงค่ะ บางคนก็โชคดี ได้งานอย่างที่อยากได้ ได้เงินกลับมาพอหักลบกลบหนี้ค่า นายหน้าที่เสียไปได้ มีเงินก้อนเล็กๆ กลับมา บางคนก็ไม่ เพราะว่าเอาไปเที่ยวหมดแล้วหลังหมดงาน แต่บางคนยิ่งกว่านั้น เราได้ยินมาว่าเด็กไทยบางคนไปถึง ตั้งหลายวันหลายอาทิตย์แล้วก็ยังไม่ได้งาน หรือได้แล้วก็ ออกแล้ว เดินหาใหม่ หรือไม่ก็ไม่ได้ชั่วโมงงานเหมือนที่ คำนวนมา บางคนแย่งงานกันเองกับกลุ่มเพื่อนที่ไปด้วยกัน บางคนทำอะไรไม่ได้เลยก็เลยไม่มีใครรับ พูดภาษาไม่ได้ ขี้กลัวไม่เชื่อมั่น ไม่แข็งแรง ทางร้านอาหารก็เกิดไม่รับ ขึ้นมาซะงั้น แต่ว่ารายจ่ายต่างๆ ถาโถมเข้ามา เด็กกลุ่มนี้ที่ได้งานน้อย หรือไม่ได้งานก็เลยต้องควักเงิน ส่วนตัวที่พ่อแม่ให้มามาประทังชีวิตไปก่อน มีคนเล่าให้ฟังว่ารุ่นน้องไปโครงการนี้จ่ายไปแสนกว่าบาทแต่ ไปได้ไม่ถึงเดือนก็โทรกลับมาร้องไห้กับพ่อแม่ว่ายังไม่ได้ งานอะไรซักอย่างเลย หรือถึงได้ก็ทำไม่ไหว ตอนนี้เงินที่ พ่อแม่ให้ไปก็ร่อยหรอลงเรื่อยๆ พ่อแม่ทนไม่ไหวก็เลยส่ง เงินไปเพิ่มให้อีกแสนนึง หวังว่าเมื่อได้งานเมื่อไหร่ก็จะคุ้ม ที่ลงทุนไป ปรากฏก็ไม่ได้ ต้องกลับเมืองไทยมาซะงั้น มีหนี้มาเรียบร้อยทั้งค่าโครงการฯ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทุกอย่าง แต่ว่ารายนี้เขาไม่กล้าบอกคน เป็นคนต่างจังหวัดคนรู้จัก เยอะกว้างขวางค่ะ เขาเลยไม่พูดถึงเรื่องเงินที่เสียไป ไม่ พูดว่าที่ไปมาเป็นยังไง เหมือนหรือไม่เหมือนที่คิดไว้ หรือ ทำงานอะไรมาบ้าง เพราะว่ากลัวญาติๆ จะว่า เขาเลยบอก ใครๆ ว่า "ให้ลูกไปแล้วคุ้ม ได้ประสบการณ์" แต่ว่าตัวลูก คนไปกลับยิ้มแหยๆ ไม่กล้าเล่าว่าประสบการณ์อะไรมาบ้าง แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 01:42:56 จากคุณ : Autumn Leaves จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความคิดเห็นที่ 12   ขอบคุณนะครับสำหรับทุกความคิดเห็น สำหรับความคิดเห็นที่ 5 นะครับ อย่างที่ผมบอกแหละครับ ผมก็ทำอย่างที่ผมควรจะทำ ขอร้องก็แล้ว พูดเพราะ ๆ ก็แล้ว ขอให้โชว์ให้ดูก็แล้ว แต่เค้าก็ยังด่า แล้วทำเหมือนไม่พอใจ เรื่องเพื่อนเป็นคนท้องถิ่นที่นี่ก็มีแล้วนะครับ แล้วเราก็ถามเค้า เค้าก็บอกว่าแม็คที่สาขานี่เป็นงี้แหละ พวก Manager ของที่นี่จะเป็นแบบนี่แหละ ชอบคิดว่าตัวเองอ่ะเป็นใหญ่ โหเอาเป็นว่าขอเล่าเหตุการแบบสด ๆ เลยแล้วกันน เราทำงานเกี่ยวกับ ไดร์ทรู แล้วก็เรียนรู้งานด้วยตัวเอง ขอย้ำว่าเรียนรู้ด้วยตัวเองจริง ๆ แล้ววันนี้อีนายจ้างมันเป็นไรก็ไม่รู้กินรังแตนมาหรือไงก็ไม่รู้ สั่งงานแบบไม่หยุดเลย ตั้งแต่ กวาดพื้นลานจอดรถ คิดดูว่ากว่าประมาณ 3 สนามเทนนิส อ่ะ ก็ ยังไม่พอให้มากวาดในร้านต่อ แล้วก็ถูพื้น เช็ดโต๊ะ ขัดกระจก เฮ้อ ไม่ได้ทำงานที่เรารับผิดชอบเลยวันนั้น เชื่อไม๊พนักงานที่เป็นพนักงานเก่าเค้าทำไรกัน โอ้โหแม่เจ้า นั่งจับกลุ่มเม้าส์กันอยู่ แล้วไม่ทำห่าอะไรเลย แล้วไงเด็กไทยนั่งทำงาน  แต่เด็กเก่านั่งดู แล้วยังไม่พอ เจ้านายมันบอกว่ามีไรก็เรียกใช้เด็กพวกนี่ได้เลย ก่อนหน้านี่ตอนที่ได้ทำงานที่ ไดร์ทรู แล้วเราก็รู้ว่าถ้าของมันค้างเกิน 30 นาที มันก็ต้องทิ้ง แต่ไงถังขยะมีเยอะแยะไม่ทิ้ง แต่มาทิ้งที่ตรงไดร์ทรู แล้วไม่ใช้เดินมาทิ้ง แต่โยนมา เชื่อป่ะครับว่าผมหลบแทบไม่ทัน มันไม่ได้โยนแค่ชิ้นเดียว แต่โยนมาเยอะมาก เราก็หลบช้า ขวา เราก็สงใสเราก็ไปถามว่าทำไมถึงโยนมาทางนี่ทำไมไม่ทิ้งตรงที่เค้ายื่นอยู่ แล้วเป็นไง มันทำหน้าเฉย ๆ แล้วก็แบะปากดำ ๆ ของมันอะแล้วก็เดินหนี้ เฮ้ยไรว่ะ งง วัฒนธรรมของเค้าเป็นแบบนี้เหรอ หรือเรายังไม่เข้าใจในวัฒนธรรมของเค้า โอเนะครับ เราขอไว้เค้านี้ก่อน แล้วไงจะมาเล่าต่อเรื่อย ๆ ปล. สำหรับคนที่อยากรู้ว่าอยูไหนนะครับ ผมอยู่ทางตอนใต้ของ อเมริกา รัฐที่มีตัวเบิลเยอะ ๆ อ่ะครับ สุดท้ายขอให้บุญเก่าที่ทำมาคุ้มครองหน่อยนะครับ จากคุณ : Kum_Lhae  - [ 2 เม.ย. 50 09:57:34 ]       ความคิดเห็นที่ 13   ตอนนี้อยู่ที่อเมริกาค่ะ.. เราเป็นคนนึงที่ทำงานมาตลอด ตั้งแต่ม.3 ก็ทำงานช่วงซัมเมอร์ตลอด ถ้าใครเคยทำงานที่ร้านอาหาร พวกที่เปิดตามห้างอย่างเช่นไดโดม่อนหรือเอม.เคจะรู้ว่าเป็นงานที่หนัก หรือตามงานหนังสือแห่งชาติที่ต้องคอยตะโกนทั้งวัน จนวันหลังๆไม่สามารถพูดได้เลย ยืนติดต่อกันสิบชั่วโมงก็ยังเคยเลยค่ะ ^ ^" -- แต่เราเข้าใจนะ ว่าการทำงานต่างๆมันไม่ง่าย เพราะเราเวลาอยากได้อะไรก็จะต้องทำงานหาเอง เลยได้ทำงานมาหลายประเภท เข้าใจเลยว่าการทำงานต้องเจอคนหลายแบบ ต้องมีทั้งดีและไม่ดี และคงไม่มีงานไหนที่ไม่เหนื่อย พอรู้ว่าต้องมาทำแมคฯก็พอนึกออกว่างานหนักแน่ เลยไม่ได้คิดว่ามานี่ต้องเจอคนดีดี หรืองานสบายๆ เลยค่ะ แต่ที่เรารู้สึกแย่ เพราะว่าเวลาที่เราฟังรายละเอียด เราฟังจากลมปากของพนักงานในบริษัท ที่เค้าจะพยายามแนะนำเรา โดยบอกรายละเอียดต่างๆ แต่แน่นอนว่าไม่ได้บอกรายละเอียดที่ไม่ดี เช่นว่า ' มาแล้วน้องอาจจะต้องรองาน 10 วันนะตามกฎหมาย ถ้ารอยังไม่ถึง 10 วันก็ช่วยไม่ได้ ' หรือ ' น้องก็อดทนไปนะ ถึงเขาจะด่าน้องก็อย่าไปสนใจ (เพื่อนเราโดน co - worker ด่า Bitch ก็ยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไร) น้องมีหน้าที่ทำงาน ก็ทำงานไป ' คำพูดเหล่านี้ไม่เคยได้ยินก่อนมาเลยสักครั้งเดียว เรื่องสัญญาที่ต้องรองาน 10 วัน ก็พึ่งมารู้ที่อเมริกานี้เองค่ะ.. บางคนอาจจะบอกว่า เพราะเราเองนั่นแหละที่หาข้อมูลมาไม่ดี ยอมรับค่ะๆ เพราะอยู่ในมหาวิทยาลัยเรียนหนัก แล้วก็เตรียมตัวสอบ และเพราะเรามั่นใจในศักยภาพของบริษัทที่ดูน่าไว้วางใจ พี่ๆทุกคนพอเราก้าวเข้าไปจะมีคนมาเทคแคร์เราเสมอ แค่เรานั่งนิ่งๆยังมีคนมาคอยคุยกะเราตลอด ทุกคนใจดีสุด -- ดังนั้น เราจึงได้ไว้วางใจ จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก (สำหรับเรา มากโขเลยง่ะ) เพื่อมาหาประสบการณ์ และหาเงินที่นี่ เพราะเราเป็นคนทำงาน ไม่กลัวงานหนักอยู่แล้ว เลยคิดว่าน่าจะพอไหวค่ะ พอมาที่นี่จริงๆ งานก็เป็นอย่างที่คิดไว้เลย !! ~ ก็หนักพอตัวเลยค่ะ เพื่อนๆที่ไม่เคยทำงาน ต้องยืนรวดเดียวเจ็ดแปดชั่วโมง แล้วทำงานหนักตลอดก็เจ็บขา ปวดจนเดินบ่ได้กันไปตามๆกัน แต่เราโอเคนะ (ชินจากบ้านเกิดแว้ว ^ ^ ) แต่ที่ลำบากใจก็คือ คนที่นี่จะทำกับเราเหมือนเราเป็นแรงงานที่ไร้การศึกษา จะทำกับเราเหมือนว่าเราโง่ (แค่พูดหรือฟังภาษาอังกฤษได้ไม่ค่อยดี เค้าก็คิดว่าโง่แล้ว เพราะเราจะทำอะไรได้ช้ากว่าเขา และอาจจะผิดมากกว่าเขาค่ะ) จะมีเมเนเจอร์คนเดียวที่รู้ และปฏิบัติกับเราเหมือนเป็นนักศึกษาที่เสียค่าธรรมเนียม ตามกฎหมายระหว่างประเทศมาร่วมโครงการ (สำหรับเรานะ แต่ละที่คงไม่เหมือนกัน) บังเอิ๊ญญญญ --- ไอร้านเรามันมีคนไม่ดีเยอะน่ะค่ะ เหอๆ งานหนักน่ะเราไม่กลัวหรอก แต่ตลอดเวลาที่เขาดุด่าเราตลอด คอยข่ม ตวาดสั่ง แล้วตัวเองก็ยืนสั่งทำหน้าตาเยาะๆใส่เรานี่ มันทำให้เรารู้สึก fail มากกก จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับเรื่องของเรานะ เรามีกัปตันที่แย่มากคนนึง -- เป็นคนที่ชอบสั่ง ทำงานชุ่ยและขี้เกียจมาก วันนึงลูกค้ามาสั่งโอรีโอ้ แมคเฟลอร์รี่กับเรา เราก็ไปทำ แต่ผงมันจะหมด เราเลยต้องหมุนเครื่องหลายเพื่อให้ได้ผงตามปริมาณปกติ เจ๊ก็มาแล้วก็ตวาดเราว่า ยูไม่รู้หรือว่าเค้าให้หมุนแค่สองครั้ง แล้วเขาก็ทำให้ดู แต่ผงมันน้อยมาก เค้าก็เอาช้อนคนๆแล้วยื่นให้เรา ให้เราเอาไปส่งให้ลูกค้าเลย เราก็มองหน้าแล้วถามว่า เอาไปให้เลยเหรอคะ (เพราะจริงๆมันต้องปั่นก่อน)?? เค้าก็บอกว่าเอาไปเลย ที่นี้เราก็เอาไปยื่นให้ ลูกค้าก็โมโห แล้วก็เรียก 'Mamm... Mamm!!' คือ เรียกเจ๊คนนั้นนั่นเอง เค้าก็มา ลูกค้าก็บอกว่านี่มันไม่ใช่ไอศรีมอย่างนี้ เจ๊คนนั้นก็หันมาถอนหายใจใส่เรา แล้วก็มองหน้าเราเหยียดๆแล้วค่อยเดินไปปั่นมาให้ลูกค้า......กลายเป็นความผิดของเรา ถ้าเค้าพูดเร็ว แล้วเราฟังไม่เข้าใจดีนัก (เราไม่ใช่คนที่ภาษาอังกฤษแย่นะคะ ก็พอใช้ได้)เจ๊คนนี้จะดุด่าเรา เค้าไม่ได้ทำร้ายร่างกายเราหรอกคะ แต่อยากเตือนเพื่อนๆให้รู้ไว้เลยว่าจิตใจของเราต้องเข้มแข็งมากเลยทีเดียวนะ ที่จะไม่รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับโครงการแบบนี้... ก็อยากจะขอเตือนเพื่อนๆไว้น่ะค่ะ ว่าถ้าจะไปกับเอเจนซี่ไหน ถึงแม้เขาจะดูแลเราอย่างดีแค่ไหน อย่าไว้ใจเด็ดขาด !! ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับดวงค่ะ เพราะเค้าไม่ได้สนใจจริงๆ หรอกว่าเด็กที่ไปจะไปเป็นอยู่แบบไหน สิ่งที่เขาสนใจคือ ' จะเอาเด็กไปใส่ตามที่ว่าง ที่มันเหลืออยู่ได้มากแค่ไหน ' เท่านั้นเองค่ะ ตอนก่อนที่จะมา เขาไม่ได้เน้นเราในเรื่องต่างๆ จิปาถะในใบ Job Offer เลยค่ะ -- แต่หลังจากมาที่นี่ เวลาเรามีคำถามถามเขาว่าทำไมถึงมีปัญหาเกิดขึ้น เพราะก่อนจะมาเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องแบบนี้ให้เราได้ยินมาก่อนเลยสักครั้งเดียว เขาจะพูดแค่ว่า ' น้องดูในใบ Job Offer หรือยังครับ !? ถ้ามันมีแสดงว่าช่วยไม่ได้ น้องเลือกไม่ได้ครับ น้องทำไม่ได้ครับ..etc..' อะไรประมาณนี้ค่ะ ระวังให้ดีนะคะ ต้องอ่านรายละเอียดในใบ Job Offer ให้ดีนะคะ ! ขออีกเรื่องนะ -- เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราผิดหวังมาก คือ เขาเป็นคนบอกเองว่าจะทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้น้องๆได้อยู่ด้วยกันตามที่ต้องการมากที่สุด เรามีเพื่อนที่จะไปด้วยกันแค่คนเดียวเองค่ะ ! เราสัมภาษณ์ผ่าน แต่เพื่อนเราไม่ผ่าน เพื่อนเราเสียใจมาก ร้องไห้ พี่ๆเค้าก็มาปลอบกันใหญ่ แล้วก็ให้รีบเลือกโครงการอื่น เพื่อให้สมัครไป ส่วนเราถามว่า เราสามารถไปกับเพื่อนได้ไหม เราต้องการมาก ต้องการจริงๆ -- เขาบอกว่าไม่ได้ น้องเซ็นสัญญาไปแล้ว เราก็ยอม เพราะคิดว่ามันเป็นระบบของเขา ต่อมา เราพึ่งรู้จากเพื่อนที่มาด้วยกันว่า ความจริงเรื่องนี้เปลี่ยนได้ เพื่อนเราเองเปลี่ยนมาสองครั้งแล้ว แต่เขาไม่ยอมให้เปลี่ยนเพราะแค่ ' มันยุ่งยาก ที่จะหาคนมาเติมให้เต็ม ' -- ที่ยิ่งไปกว่านั้น ไซด์งานของเรามีการเปิดรับคนเพิ่ม !! แต่ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวที่จะบอกเรา กับเพื่อนเราว่าจะมีการเปิดรับอีก สุดท้ายต้องแยกกันไปคนละที่ -- ก็โตๆ กันแล้วค่ะ แค่แยกกันน่ะอยู่ได้ ไม่มีปัญหา แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาพูด กับสิ่งที่เขาทำนั้นไม่เหมือนกัน !! เขาไม่ได้ช่วยเราอย่างเต็มที่หรอกนะคะ เพราะงั้นถ้าหากเพื่อนๆที่จะไป มีปัญหาอะไร ต้องเรียกร้องสิทธิของตัวเองให้เต็มที่ อย่าเชื่อแค่ลมปากใครง่ายๆเด็ดขาดค่ะ.. นี่เป็นเรื่องของเรา เขียนมาซะเยอะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแบ่งปันเรื่องราวกัน ความจริงยังมีอีกมาก แต่แค่นี้พอดีกว่าค่ะ ^ ^~~ จากคุณ : Cho - [ 2 เม.ย. 50 11:59:43 A:75.65.174.223 X: ]       ความคิดเห็นที่ 14   จากคุณ Cho "แต่ที่ลำบากใจก็คือ คนที่นี่จะทำกับเราเหมือนเราเป็นแรงงานที่ไร้การศึกษา จะทำกับเราเหมือนว่าเราโง่" -__-' ฝรั่งพวกนั้นเขาไม่รู้กันหรือไงนะว่าเด็กไทยที่ไปน่ะเรียนมหาลัยกันทั้งนั้น แล้วก็เสียเงินเยอะมากๆด้วยถึงจะไปได้ ไม่ใช่เด็กมหาลัยทั่วไปด้วยซ้ำ โหวตดีกว่า จากคุณ : 2am and the rain is falling  - [ 2 เม.ย. 50 12:18:21 ]       ความคิดเห็นที่ 15   สงสัยนิดส์หนึ่งง่ะ แบบว่าเด็กไทยปริญญาตรีเนี่ย เทียบของเขาแล้ว เท่า High school เขาหรือเปล่า แล้วฝรั่ง เขาไม่ค่อยวัดที่ใบปริญญา เขาวัดกันที่ประสบการณ์ ใช่หรือเปล่า เรายังอยากไปโครงการนี้เลย แต่ไม่มีตัง ทุกวันนี้ยังต้องใช้เงินกู้ยืมเรียนต่อ อยู่เลย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่ไกลบ้านค่ะ สู้ สู็ จากคุณ : manta_anne   - [ 2 เม.ย. 50 17:18:44 ]       ความคิดเห็นที่ 16   ฝรั่งพวกนั้นเขาไม่รู้กันหรือไงนะว่าเด็กไทยที่ไปน่ะเรียนมหาลัยกันทั้งนั้น แล้วก็เสียเงินเยอะมากๆด้วยถึงจะไปได้ ไม่ใช่เด็กมหาลัยทั่วไปด้วยซ้ำ ผมว่าคนอเมริกาหลายคนก็ยังมอง Asian ว่าเป็น 2nd class people อยู่ดีนะ แล้วพวกนี้เค้าก็ไม่สนว่าเราจะเรียนมหาลัยหรืออะไร ก็เป็นแค่คน Asian คนนึงที่มาทำงานนะ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เค้าจะแสดงออกกับเราอีกแบบ แล้วอีกอย่างเด็กไทยไม่ค่อยชอบตอบโต้นะ มีอะไรๆก็ยอมเค้าไป .... ผมว่าจริงๆแล้วเราควรที่จะต้องแสดงออกเพื่อรักษาสิทธิ์ของเราให้มากกว่านี้นะ จากคุณ : xonez  - [ 3 เม.ย. 50 00:57:06 ]   ~*~)  - จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 23   ข้อที่ 1 ก่อนขึ้นเครืองบินออกไปจากประเทศไทย กรุณาถอดหัวโขนที่มีอยู่ทิ้งไว้ที่ประเทศไทย ไอ้ที่ชอบพูดๆกันนัก ไม่รู้หรือว่าฉันเป็นนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยมีปริญญานะจ๊ะ ขอโทษเถอะ ไม่ว่าจะฉลาดได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองมาจากสำนัก ตักศิลาในสวรรค์ชั้นไหน แต่ในนรกตรงนั้น พูดก็ไม่ชัด พูดไม่รู้เรื่อง ใช้เครื่องมือไม่เป็น แล้วก็ไม่เห็นทำอะไรได้อย่างคนเก่าๆเขาทำ กันได้"ง่ายๆ". ก็อย่าหวังจะให้เพื่อนร่วมงาน respect ทำใจเสีย จะ high school drop out หรือปริญญาตรี ก็ได้ 8 เหรียญฯเท่ากัน แถมยังทำไม่ได้เท่าพวก high school drop out อีก อย่างนี้น่าจะลืมๆไปชั่วคราวก็ได้นะว่าเป็น"นักศึกษามหาวิทยาลัย" จะได้ไม่เจ็บใจมากนัก ข้อที่ 2 จำไว้ว่า นี่คือ"ธุรกิจ" ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณในเรื่องนี้ ก็เพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ รวมทั้งคุณด้วย การจะไปหวังให้เขา มาปฏิบัติกับคุณเหมือนญาติสนิทมิตรสหาย รับไปเที่ยว ยอมเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาหรือไว้ให้คุณบ่นนอกเวลาทำงานเขา หวังมากไป ไอ้การที่พอไม่มีงานแล้วนายจ้างไล่กลับบ้านนะ บอกได้ว่าเรื่องปกติ ไม่เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อตอนคุณมาหรือเกิดกับคุณเป็นครั้งแรก มันเกิดมานานแล้วและเกิดกับทุกคนที่เป็นลูกจ้างแรงงาน คุณอยากจะอยู่ในที่ทำงานเพราะอยากได้เงิน คิดไหมว่านายจ้างเขาไม่มีราย ได้เข้าร้านเขาก็อยากจะลดค่าใช้จ่าย จะให้เขามาจ่ายให้คุณนั่งเฉยๆได้ อย่างไร กรุณาคิดสองทาง ข้อที่ 3 จำไว้ว่าการเข้าไปเป็นคนใหม่ในที่ทำงานไหนๆก็เหมือนกันทั้งนั้น ทุกคนเขาจ้องดูก่อนทั้งนั้นว่า "จะเล่น" อะไรกับคุณดี ของธรรมดามาก ในที่ทำงานที่เป็นชนชั้นแรงงานของคนยากจนขาดการศึกษาอมรม การแสดงออกก็จะมาแบบรุนแรงตรงไปตรงมา คนที่เคยคุ้นเคยกับสังคม ใส่หน้ากากย่อมจะทนไม่ได้เป็นธรรมดา ในที่ทำงานคนมีระดับมีการ ศึกษาหน่อยก็ จะมาในรูปของการ "ต.แหล ใส่หน้ากากกัน" นี่สิน่ากลัวกว่า ข้อที่ 4 จำไว้ว่าคนอเมริกันชอบคนกล้าที่ไม่กลัวคน และกลัวคนกล้า ถ้าคุณ "อ่อน" เข้าหาแบบวัฒนธรรมไทย ก็โดนเหยียบจมดินเท่านั้น ไม่เคยเห็นด้วยกับโครงการลักษณะนี้ ก็ไอ้ตรงส่งคนที่ประเทศไทยสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทรัพยากรพัฒนาประเทศชาติ ไปเป็นแรงงานขั้นต่ำในอีกประเทศหนึ่งไปเป็นคนใช้ให้คนอีกชาติหนึ่งใช้ คนของเราได้อะไรขึ้นมาที่จะนำมาพัฒนาประเทศชาติมาพัฒนาอนาคตของตนเอง นอกจากความคิดเพ้อเจ้อ จะไปเมืองนอก ไอ้ที่บอกว่าได้ประสบการณ์นะ ฟังแล้วเบื่อ (ไง กลับมาแล้วจะได้มากวาดประเทศไทยให้สะอาด ไปเลยหรือไง) แต่ก็เข้าใจ เด็กบางคนมองเพียงมุมเดียวคือ นี่คือโอกาสไปเมืองนอกที่ง่ายที่สุด ถ้าในชีวิตคุณได้มีโอกาสไปเมืองนอกเพียงครั้งเดียวกับโครงการแบบนี้ เมื่อแก่ตัวจะได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า เคยไปมาแล้วอเมริกานะ ไปล้างส้วมมา (เรื่องจริงเพราะเจอมาแล้ว "นิสิต"รุ่นน้องจากสถาบันเดียวกัน เจอทำงานเป็นแม่บ้านในโรงแรมรวมล้างส้วม) ไม่ได้ดูถูกงานที่ใช้แรงงาน เห็นลูกเพื่อน พ่อแม่มีสตางค์เยอะแยะ หยุดเทอมลูกไปเดินกวาดถนนในสวนสนุกหาสตางค์ใช้ น่าภาคภูมิใจ เพราะรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เขาไม่ต้องเสียเงินเป็นแสน เพราะเขาเกิดและโตที่นี่ แต่ถ้า้ต้องเสียเงินเป็นแสน บางคนได้ยินมาว่าต้องไปกู้เงินเขามา เพื่อไปทำงานใช้แรงงานแบบนั้น เพียงเพราะ อยากไปเที่ยวเมืองนอก อยากไป shopping เมืองนอก ไม่เข้าใจว่าคิดได้เพียงแค่นั้นหรือ จากคุณ : ? - [ 4 เม.ย. 50 11:00:57 A:69.224.182.179 X: ]       ความคิดเห็นที่ 24   อยากไปก็ต้องทนให้ได้นะ มันไม่ได้สวยหรูหรอก ไปทำงานไม่ได้เที่ยวเล่น อยากได้เงินก็ต้องทำให้ได้ ทำไม่ได้ก็ออกกลับ โครงการก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้หาเงิน แล้วที่คิดว่าเอาเงินแสนไปทิ้งก็ไม่ถูกหรอกนะ ก็เข้าใจว่าโมโหที่เอเจ่นไม่เป็นแบบที่พูดไว้ แต่เรื่องนี้พี่ว่ามันอยู่ที่นายจ้างที่เมกาด้วยแหละ เป็นแบบนี้ก็หลายที่ ไม่ได้ดีไปหมดหรอก จากคุณ : my-kokoro จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 6เรื่องแย่ๆที่มา WORK ที่ FLORIDA ตอนนี้เราอยู่ Marco Island ทำงานในร้านขายของที่ระลึก พวกชุดว่ายน้ำ เราทำสองอาทิตย์แรกก็ดีอยู่หรอกนะ คนเข้าร้านเยอะมาก ทำงานตลอด กลับก่อนไม่ได้ ทำวันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง คิดคำนวณดูกลับไปก็คงกำไรเยอะอยู่เหมือนกัน แต่พอสองอาทิตย์ให้หลังอยู่ๆก็ low season คนน้อย นายจ้างก็เริ่มลดชั่วโมงเหลือวันละ 5-6 บางวันก็น้อยกว่านั้น แต่นั่นถือว่ายังดี แต่ตอนนี้เราไม่ได้ทำงานมาเกือบอาทิตย์แล้วเพราะนายจ้างพยายามย้ายเราให้ไปทำอีกร้านนึงซึ่งคนมากกว่า ซึ่งทำให้ต้องหยุดงานไป แต่ก็ยังไม่ได้เรื่อง เหมือนร้านนั้นก็ไม่ได้ต้องการคนเพิ่ม ซึ่งรู้สึกเหมือนโดนปล่อยอ่ะ แถมเพื่อนเราทำแคชเชียร์แล้วเงินหายซึ่งปกติแคชเชียร์จะประจำอยู่ 3 คน แต่ถ้ายุ่งๆคนอื่นก็ทำได้ ซึ่งหากเงินหายก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งสามคน ซึ่งเงินหายไป 200 กว่าเหรียญ ต้องจ่ายคนละ 80 เหรียญ มันยังบอกอีกว่าหากไม่จ่ายก็จะไม่ลงตารางงานให้ คือไม่ให้ทำงานอีกที่นึงนั่นเอง แย่มากเลยอ่ะ ไม่ได้ทำงานตั้งหลายวัน แล้วยังต้องเสียให้มันทั้งที่ไม่ได้รุเรื่องอารัยเลย เหมือนโดนจี้ชัดๆ second job หายากมากๆ ไปร้านไหนก็บอกว่า slow เราหามาแทบทุกร้านแล้วทั้งร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้า ต่างๆ ตามที่เสิทใน mapquest ปั่นจักรยานแทบทั้งเกาะ แดดก็ร้อนมากด้วย แก็ไม่มีงาน ได้แต่กรอก application ทิ้งไว้เค้าบอกว่าจะโทรกลับ แต่ก็ไม่  งานบางอย่างเช่น server ก็ต้องใช้ประสบการณ์และเราอยู่อีกแค่เดือนเดียวเค้าก็ไม่รับ คิดเหมือนกันนะว่าจะไปหางานที่เมืองอื่นเช่น naple ที่อยู่ใกล้ๆ แต่ก็มันก็ติดงานหลักที่ทำวันละไม่ถึง 5 ชั่วโมง มันก็ต้องเดินทางลำบาก ทางเดียวที่จะไป naple ได้คือรถ CAT ซึ่งมันหมดประมาณ 4 โมงเย็น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย  หรือไม่หากเราสามารถหางาน restaurant ที่ได้ tip เยอะๆและมานคุ้มกะที่เราจะย้ายที่พักมาอยู่ naples ละออกจากงานที่ทำประจำ มันก็โอเคนะ แต่มันก็ต้องมาหางานที่ naple การเดินทางก็ลำบาก ไม่รุจะหาได้รึเปล่า เพราะเราคิดว่ามันก็คง low season เหมือนกัน ใครอยู่แถว  naples ก็บอกหน่อยนะว่าแถวนั้นมีร้านอาหารที่คนเยอะๆ หรืองานอะไรที่หาได้บ้าง ก็ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ จากคุณ : Lhaza_apzo   - [ 27 เม.ย. 50 09:12:53 ]   -------------------------------------------------------------------------------- หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป     -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1   If anyone stay in Naples,please come to tallk. จากคุณ : Ngam Saeng Duean - [ 27 เม.ย. 50 14:55:52 A:63.226.202.88 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 2   จขกท. นี่ออยรึเปล่า ?? เราปิ๋มนะ :D เกาะนี้หางานจิงๆ แหละ เรายื่น application เป็นล้านๆ ที่แล้ว T^T จากคุณ : หอยน้อยในโคลนตม   - [ 27 เม.ย. 50 22:50:41 ]       ความคิดเห็นที่ 3   เรายื่น application เป็นล้านๆ ที่แล้ว  << same same but i'm in gulf shores Alabama na sadly mak mak next month lew miz u thailand จากคุณ : Da svi da nia (V_Accy) จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 6เรื่องแย่ๆที่มา WORK ที่ FLORIDA ตอนนี้เราอยู่ Marco Island ทำงานในร้านขายของที่ระลึก พวกชุดว่ายน้ำ เราทำสองอาทิตย์แรกก็ดีอยู่หรอกนะ คนเข้าร้านเยอะมาก ทำงานตลอด กลับก่อนไม่ได้ ทำวันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง คิดคำนวณดูกลับไปก็คงกำไรเยอะอยู่เหมือนกัน แต่พอสองอาทิตย์ให้หลังอยู่ๆก็ low season คนน้อย นายจ้างก็เริ่มลดชั่วโมงเหลือวันละ 5-6 บางวันก็น้อยกว่านั้น แต่นั่นถือว่ายังดี แต่ตอนนี้เราไม่ได้ทำงานมาเกือบอาทิตย์แล้วเพราะนายจ้างพยายามย้ายเราให้ไปทำอีกร้านนึงซึ่งคนมากกว่า ซึ่งทำให้ต้องหยุดงานไป แต่ก็ยังไม่ได้เรื่อง เหมือนร้านนั้นก็ไม่ได้ต้องการคนเพิ่ม ซึ่งรู้สึกเหมือนโดนปล่อยอ่ะ แถมเพื่อนเราทำแคชเชียร์แล้วเงินหายซึ่งปกติแคชเชียร์จะประจำอยู่ 3 คน แต่ถ้ายุ่งๆคนอื่นก็ทำได้ ซึ่งหากเงินหายก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งสามคน ซึ่งเงินหายไป 200 กว่าเหรียญ ต้องจ่ายคนละ 80 เหรียญ มันยังบอกอีกว่าหากไม่จ่ายก็จะไม่ลงตารางงานให้ คือไม่ให้ทำงานอีกที่นึงนั่นเอง แย่มากเลยอ่ะ ไม่ได้ทำงานตั้งหลายวัน แล้วยังต้องเสียให้มันทั้งที่ไม่ได้รุเรื่องอารัยเลย เหมือนโดนจี้ชัดๆ second job หายากมากๆ ไปร้านไหนก็บอกว่า slow เราหามาแทบทุกร้านแล้วทั้งร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้า ต่างๆ ตามที่เสิทใน mapquest ปั่นจักรยานแทบทั้งเกาะ แดดก็ร้อนมากด้วย แก็ไม่มีงาน ได้แต่กรอก application ทิ้งไว้เค้าบอกว่าจะโทรกลับ แต่ก็ไม่  งานบางอย่างเช่น server ก็ต้องใช้ประสบการณ์และเราอยู่อีกแค่เดือนเดียวเค้าก็ไม่รับ คิดเหมือนกันนะว่าจะไปหางานที่เมืองอื่นเช่น naple ที่อยู่ใกล้ๆ แต่ก็มันก็ติดงานหลักที่ทำวันละไม่ถึง 5 ชั่วโมง มันก็ต้องเดินทางลำบาก ทางเดียวที่จะไป naple ได้คือรถ CAT ซึ่งมันหมดประมาณ 4 โมงเย็น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย  หรือไม่หากเราสามารถหางาน restaurant ที่ได้ tip เยอะๆและมานคุ้มกะที่เราจะย้ายที่พักมาอยู่ naples ละออกจากงานที่ทำประจำ มันก็โอเคนะ แต่มันก็ต้องมาหางานที่ naple การเดินทางก็ลำบาก ไม่รุจะหาได้รึเปล่า เพราะเราคิดว่ามันก็คง low season เหมือนกัน ใครอยู่แถว  naples ก็บอกหน่อยนะว่าแถวนั้นมีร้านอาหารที่คนเยอะๆ หรืองานอะไรที่หาได้บ้าง ก็ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ จากคุณ : Lhaza_apzo   - [ 27 เม.ย. 50 09:12:53 ]   -------------------------------------------------------------------------------- หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป     -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1   If anyone stay in Naples,please come to tallk. จากคุณ : Ngam Saeng Duean - [ 27 เม.ย. 50 14:55:52 A:63.226.202.88 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 2   จขกท. นี่ออยรึเปล่า ?? เราปิ๋มนะ :D เกาะนี้หางานจิงๆ แหละ เรายื่น application เป็นล้านๆ ที่แล้ว T^T จากคุณ : หอยน้อยในโคลนตม   - [ 27 เม.ย. 50 22:50:41 ]       ความคิดเห็นที่ 3   เรายื่น application เป็นล้านๆ ที่แล้ว  << same same but i'm in gulf shores Alabama na sadly mak mak next month lew miz u thailand จากคุณ : Da svi da nia (V_Accy) จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 7มาช่วยเสริม : Tips ก่อนไป Work and Travel ครับ   เห็นกระทู้ของคุณน้างามแล้วล่ะครับ ตอนแรกก็กะจะไปแจมด้วย เพราะว่ามีเพื่อนๆ น้องๆหลายคนที่รู้จักก็คุยเรื่อง Work and Travel ที่ปีที่แล้วผมไปมา เลยคิดจะรวบรวมเกร็ดต่างๆที่เคยเจอมา โพสต์ลงที่นี่ แต่พอเริ่มพิมพ์ ก็รู้สึกว่าจะยาวเกิน เลยแตกมาไว้ต่างหากดีกว่า ต้องออกตัวก่อนว่า ที่มาแนะนำเนี่ยเป็นประสบการณ์ตรง ซึ่งอาจจะมีการเข้าใจไปเองแบบผิดๆบ้าง หรือตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว ยังไงก็ฟังหูไว้หูด้วยนะครับ เริ่มเลยดีกว่า ---------------------------------------------------- เรื่องของมือถือ เรื่องการโทรกลับมาเมืองไทย คิดว่าทุกคนคงจะไปหา Calling Card ถูกๆกลับเมืองไทยได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น มาพูดถึงเรื่องมือถือดีกว่า เพราะนอกจากจะเอาไปเพื่อเป็นนาฬิกาปลุก หรือเก็บเบอร์โทร ไหนๆก็เอามือถือไปแล้ว ก็ควรจะซื้อซิมมาใส่ไว้ด้วย - มือถือที่ใช้ได้ต้องเป็นรุ่นที่เป็น Tri-band หรือ Quad-band (ที่ US ใช้คลื่น 1900 MHz หรืออาจจะมี 850 MHz เสริมบ้างในบางที่) ซึ่งสามารถซื้อซิมที่นั่นใส่ใช้ได้ ซึ่งมีอยู่สองแบบด้วยกัน o แบบเติมเงิน ก็เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ตอนที่ไป ใช้ของ T-mobile ตกประมาณนาทีละ 35 cent o แบบรายเดือน แนะนำว่า อย่างน้อยควรมีสักคนในกลุ่มที่เปิดใช้บริการแบบนี้ โดยควรเลือกแพคเกจที่มีช่วงเวลาโทรไม่อั้น ตอนที่ไปนั้นเพื่อนไปสมัครใช้ของ Cingular ซึ่งจ่ายรายเดือนประมาณ 50$ แต่ได้อัตราค่าโทรถูกกว่า และที่สำคัญ โทรหลังสองทุ่มวันธรรมดา และวันเสาร์อาทิตย์ทั้งวันได้ไม่จำกัด ซึ่งมีประโยชน์สุดๆ อย่างไรก็ตาม แพคเกจรายเดือนมักพ่วงมากับการซื้อเครื่องใหม่ ยังไงก็ไปคุยกับพนักงานก่อนแล้วกันว่าเราจะเปิดใช้ได้ไหม (ถ้าจะเอาแค่ซิมมาใส่เครื่องของเรา) และอย่าลืมแจ้งเค้าด้วยว่าเราจะต้องเลิกใช้บริการภายในเดือนไหน เพราะถ้าไม่เคลียร์ตรงนี้ให้ดีๆ เวลาเราเลิกสัญญาก่อนกำหนดอาจต้องเสียค่าปรับนะ - การโทรกลับเมืองไทย โดยใช้ Calling Card ส่วนมากจะมีเบอร์โทรเข้าศูนย์ปกติสองแบบ คือเบอร์ศูนย์ปกติ และเบอร์ Toll-Free ซึ่งถ้าโทรตามตู้สาธรณะทั่วไป การโทรเบอร์ Toll Free สามารถทำได้โดยไม่ต้องหยอดเหรียญอะไร (แต่บางที่ก็ไม่สามารถทำได้) อย่างไรก็ตาม เบอร์ Toll Free เนี่ย เวลาเราโทรไป เค้าก็จะหักเงินค่าโทรเพิ่มจากมูลค่าบัตรเราอยู่ดี ดังนั้น การที่เรามีมือถือที่สามารถโทรได้ไม่จำกัดเวลา จะช่วยเราเซฟค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้ ที่สำคัญคือเราจะไปนั่งคุยตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องไปนั่งทนยืนแข็งที่ตู้โทรศัพท์ - ส่วนมือถือแบบเติมเงิน อันนี้ก็แล้วแต่ละคน ถ้ามีสักคนสองคนในกลุ่มที่เปิดเบอร์แบบรายเดือน มีช่วงเวลาโทรฟรีแล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องมีคนซื้อซิมเติมเงินมาใช้อีก แต่การมีมือถือใช้หลายๆคน จะมีประโยชน์มากในช่วงที่ไปเที่ยว ถ้าไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ซึ่งมักจะมีการแตกกลุ่มกันไปเที่ยวคนละที่ หรือแตกกลุ่มไปพักที่ต่างๆ การที่มีมือถือกันหลายๆคน จะทำให้ช่วยโทรตาม นัดเจอกันได้สะดวกกว่า เคสของผมเองที่เจอมา ก็คือ ตอนไปนิวยอร์ก ได้แบ่งกรุ๊ปกันไปสองกลุ่ม กลุ่มนึงไปถึงก่อน ซึ่งพบว่าที่พักห่วยมาก เลยจะย้ายที่พักใหม่ โชคดีที่วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ เลยได้โทรมือถือฟรี (จากแพคเกจรายเดือน) ก็โทรๆๆล่าโรงแรมในนิวยอร์กเป็นสิบๆที่ รวมไปถึงโทรนัดแนะ คอนเฟิร์มกับเพื่อนอีกกลุ่มที่จะตามมา นี่ถ้าไม่มีมือถือก็ไม่อยากจะิคิดว่าจะวุ่นขนาดไหน ข้อควรระวัง!!! มือถือที่นั่น คิดค่าบริการหมด รวมไปถึงเบอร์ Toll-Free ด้วย เพราะฉะนั้น อย่าเอามือถือไปโทรเบอร์ Toll Free ของ Calling Card ล่ะครับ เดี๋ยวจะเสียตังค์สามต่อ ค่าโทรที่นั่นโหดยิ่งกว่า GSM Advance ที่นี่ เพราะนอกจากจะคิดเป็นนาทีแล้ว เมื่อเรากดปุ่มโทรออกปุ๊บ มันก็จะคิดตังค์ทันที ซึ่งหมายความว่า ถึงโทรไปสายไม่ว่าง หรือปลายทางไม่รับ ก็โดนเก็บตังค์หมด ที่สำคัญที่สุด >>ฝ่ายรับสาย ก็เสียตังค์ด้วยนะครับ<< ไม่ใช่แค่ฝ่ายโทรออกอย่างเดียว ฉะงั้นถ้าใช้มือถือแบบเติมเงิน ก็เติมเงินไปเลย 50$ รับรองว่าใช้หมดชัวร์ๆ ดีกว่าเติมทีละ 20$ เพราะว่ามันจะได้นาทีมากกว่านะครับ -------------------------------------------- เฮ่อ มันยาวจริงๆด้วยนะเนี่ย ไว้เดี๋ยวจะทยอยมาโพสต์เพิ่มละกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 50 23:56:32 จากคุณ : rafflets  - [ 3 มี.ค. 50 15:53:02 ]     -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1   รอฟังอยู่นะคะ =) จากคุณ : Fujivara no sai ([[ T-pc ~ ]])  - [ 3 มี.ค. 50 17:59:25 ]       ความคิดเห็นที่ 2   ขอ Tips ด้วยคน จากคุณ : Saka-ya  - [ 3 มี.ค. 50 20:15:35 ]       ความคิดเห็นที่ 3   คุณคือ ลูกผู้ชายตัวจริง !! ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ จากคุณ : ผู้ล่าฝัน (ผู้ล่าฝัน)  - [ 3 มี.ค. 50 20:17:51 ]       ความคิดเห็นที่ 4   มารออ่านค่ะ ^^" (ขอบคุณสำหรับข้อมูลมือถือนะคะ) จากคุณ : Paradise is Nowhere  - [ 3 มี.ค. 50 21:42:08 ]       ความคิดเห็นที่ 5   ขอบคุณทุก คห. คร้าบ ^_^  มาต่อกันเลยดีกว่า เรื่องการเดินทาง >>เครื่องบิน สิ่งที่ต้องทำใจกับการบิน Domestic ในอเมริกา คือ เรื่องกระเป๋าหาย หรือกระเป๋ามาไม่ทัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ดังนั้น ก่อนการเดินทาง กรุณาเตรียมเสื้อผ้าสำรองไปในเป้ติดตัวด้วย กรณีที่หากระเป๋าที่ Airport ไม่เจอ ให้ไปแจ้งที่ศูนย์ claim กระเป๋า ที่สนามบินปลายทาง เช่น นั่ง EVA มาลงที่ LA แล้วต่อเครื่อง American Airlines ไปที่ Baltimore ต่อ ถึงแม้ว่ากระเป๋าที่มาจาก EVA Air จะหายที่ LA ก็ให้ไปแจ้งกระเป๋าหายกับ American Airlines ที่ Baltimore เลย ส่วนมากถ้ากระเป๋ามาไม่ทัน กระเป๋าจะถูกส่งตามมาภายในวันสองวัน แต่ถ้ากรณีกระเป๋าหาย เค้าจะมีช่วงเวลาที่ทางสายการบินจะตรวจสอบตามหากระเป๋าเรา ซึ่งถ้ากระเป๋ามันหายตั้งแต่ก่อนมาถึงอเมริกา ก็ทำใจไว้ได้เลยครับว่า 'ยากส์' ที่จะหาเจอ จากนั้นถ้าไม่เจอ จะส่งเอกสารมาให้เรากรอกเพิ่มเติม อธิบายลักษณะกระเป๋า และทรัพย์สินที่มีอยู่ข้างใน ถ้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ซึ่งสุดท้ายแล้ว เค้าก็จะเว้นช่วงเวลาตามหาอีก ถ้าไม่เจอ ถึงกำหนดเวลา เราก็สามารถทำเรื่องขอเคลม รับเช็คเงินสดมูลค่าเท่ากับที่เราได้กรอกๆเอาไว้ หรือไม่ก็รับเป็นเหมือน voucher ตั๋วเครื่องบินที่มูลค่าสูงกว่า (แต่เลือกช้อยส์แรกไปเหอะครับ ได้เงินมากอดอุ่นใจกว่าเยอะ) ที่เขียนมาเนี่ย เพื่อนผมเจอมาหมดแล้วครับ ซวยจริงๆ ไปลง LA กระเป๋ามาม่าหาย พอลง Baltimore กระเป๋าอีกใบก็ดันมาไม่ทันอีก แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี ตรงที่เคลมมูลค่าได้เกินเนี่ยแหละครับ 555 อย่างไรก็ตาม ถ้าเราบังเอิญหวยออก ประมาณว่า กระเป๋าที่หายเนี่ย มีแต่ของถูกๆทั้งกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นมาม่าเอย สารพัดขนมที่ยัดเข้าไปก่อนมา ตอนที่เค้าส่งแบบฟอร์มมาให้กรอกทรัพย์สินในกระเป๋าเนี่ย เขียนเข้าไปเหอะครับ รองเท้า เสื้อโค้ต อะไรก็ตามแต่ที่นึกได้ เผื่อฟลุคว่าเค้าหาไม่เจอจริงๆ เราจะได้เช็คคืนกลับมาตามมูลค่าทรัพย์สินที่รายงานไว้ครับ (แต่แน่นอนว่ามีเพดานมูลค่าเช็คที่สามารถทวงได้ ตอนนั้นก็ทวงขำๆไปเกือบสามร้อยเหรียญ ก็ได้มาตามนั้นแหละครับ แต่ถ้าทวงเว่อร์ๆแล้วเค้าดันเจอกระเป๋าเราจริงขึ้นมา ก็ ไม่รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น) จากคุณ : rafflets  - จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โทรศัพท์ของโนเกียรุ่นไหนบ้างคะ ที่ใช้ที่อเมริกาได้ รบกวนบอกเท่าที่คุณraffletsทราบก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : JuSt Walking  - [ 3 มี.ค. 50 23:34:07 ]       ความคิดเห็นที่ 7   >>รถ ขอพูดถึงเรื่องการนั่งรถข้ามเมืองละกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นนั่งไป Outlet เมืองข้างๆ หรือนั่งออกจากเมืองที่ทำงานไปเมืองใหญ่ใกล้ๆ ซึ่งส่วนมากหลายๆคนก็จะนึกถึง Greyhound กันใ่ช่มั้ยครับ แต่ปีที่แล้วที่ไปมาเนี่ย ผมก็ยังไม่ได้ไปนั่ง Greyhound สักทีเล้ย เหตุก็เพราะว่า นั่งแทกซี่ตลอดครับ!!! อย่าเพิ่งมาหาว่าผมไฮโซนะ ฟังผมดีๆก่อน ว่า... ถ้าคิดจะเดินทางออกนอกเมืองพร้อมกันหลายๆคน ระยะสั้นๆไม่เกินสามชั่วโมง ให้ลองสอบถามราคา Shuttle (รถตู้รับจ้าง) หรือ Taxi ประจำเมืองที่เราอยู่ (หรือเมืองข้างๆ) ก่อน อย่าเพิ่งไปคิดว่ามันแพงเหมือนในเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราต้องหอบสัมภาระอันหนักอึ้งของเราไปด้วยแล้ว ควรเลือกใช้บริการรถพวกนี้เป็นอย่างยิ่งครับ เพราะแค่เทียบกับว่า การที่เราต้องไปให้ตรงเวลา หอบกระเป๋าขึ้นรถเมล์หรืออะไรก็ตามแต่ไปสถานีรถเกรย์ฮาวนด์ เสียตังค์ค่าน้ำหนักเกินหลายสิบเหรียญ (เกรย์ฮาวนด์มีลิมิตน้ำหนักสัมภาระที่เราขนขึ้นได้ครับ ลองไปหาในเว็บไซต์ดูเอาเองละกันครับว่าเค้าคิดเท่าไหร่ แต่ที่รู้แน่ๆคือมันแพง!!!) แถมยังต้องนั่งรถบัสแคบๆ ดีไม่ดีก็วิ่งอ้อมโลกซะตั้งไกล อย่างเมืองที่ผมไปอยู่เนี่ย ถ้าจะไปดีซีโดยนั่งเกรย์ฮาวนด์ กว่าจะไปถึงก็ตั้งหกชั่วโมง ในขณะนั่งแทกซี่แค่สามชั่วโมงเท่านั้นเอง >>> ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนหารค่าใช้จ่ายจริงๆแล้ว ทั้งๆที่สบายกว่ากันหลายร้อยเท่า กลับเสียเงินน้อยกว่าไปนั่งเกรย์ฮาวน์ดซะอีก !!! พูดอย่างงี้เหมือนจะใจร้ายกับ Greyhound เกินไป ยังไงก็เช็คราคาให้ดีทั้งสองตัวเลือกก่อนแล้วกันครับ บางครั้ง Greyhound อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าก็ได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนจะจองรถ Shuttle ต้องตกลงเรื่องราคาให้ดีก่อนนะครับ เวลาจองก็อย่าลืมที่จะแจ้งเขาด้วยหากเรามีสัมภาระเยอะๆ บอกไปเลยว่าคนๆนึงนี่มีกระเป๋าใหญ่สองสามใบ เขาจะได้จัดรถ และคิดราคาพวกเราได้ถูกต้อง ไม่งั้นถ้ารถไม่พอเราก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก แถมเสียเวลาเที่ยวอันแสนจะน้อยนิดของเราด้วย และสุดท้ายก็คือ อย่าลืมให้ทิปคนขับด้วยนะครับ แถมท้ายอีกที อันนี้เคยใช้บริการมาเห็นว่าโอเคเลยบอกต่อครับ ถ้าจะเดินทาง ไปกลับ New York &#8211; Washington DC โดยรถโค้ช ลองเช็คไปที่ www.easternshuttle.com  มีรถออกจากไชน่าทาวน์ที่ DC ทุกวัน one-way 20$, ไป-กลับ 35$ ซึ่งถูกกว่า Greyhound ครับ (นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรเลยนะเนี่ย) ----------------------------- วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกันครับ เดี๋ยวค่อยมาต่อวันจันทร์อีกที จากคุณ : rafflets  - [ 3 มี.ค. 50 23:48:08 ]       ความคิดเห็นที่ 8   > คห.6 ลองเข้าไปเปิดคู่มือ ไม่ก็ search ในเน็ตก็ได้ครับ ถ้าเป็น Triband คือรับคลื่น GSM  1900 MHz ได้ก็ถือว่า OK ครับ ของ Nokia ส่วนมาก ถ้าไม่ใช่รุ่น series 2 หรือ 1 (รุ่นถูก) ก็น่าจะใช้ได้หมดนะครับ จากคุณ : rafflets  - [ 3 มี.ค. 50 23:52:50 ]       ความคิดเห็นที่ 9   ดีจัง มี walkie-talkie มั๊ย เท่ห์ดี แต่ไม่เคยได้ใช้ T_T จากคุณ : skybookz.com (BOokz_psu)   - [ 4 มี.ค. 50 01:04:30 ]       ความคิดเห็นที่ 10   ขอบคุณครับ ผมอยู่ CONNECTICUT แต่อยากเที่ยว NIAGARA อะครับ ตอนแรกผมคิดว่า จะนั่ง AMTRAK ไป แต่มันก็แพงอยู่ ประมาณ $105 อะครับ ไปคนเดียวด้วย มีวิธีไหนที่สะดวกกว่านี้หรือเปล่าครับ ช่วยแนะนำด้วยนะฮะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่างๆ ครับผ้ม จากคุณ : ผู้ล่าฝัน (ผู้ล่าฝัน)  - [ 4 มี.ค. 50 09:27:33 ]       ความคิดเห็นที่ 11   ขอบคุณ จขกท ที่ช่วยให้ข้อมูลค่ะ แต่ว่าน่าจะทำลิงค์ไปอยู่ในกระทู้ของดิฉันด้วยก็จะดีนะคะ เขาจะได้อ่านทีเดียวเลย จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 5 มี.ค. 50 01:23:16 A:58.8.143.219 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 12   จขกท ไปแมรี่แลนด์มาหรือป่าวค่ะ พอดีว่าจะไปที่ Aberdeen อ่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค่ะ จากคุณ : sove (sove)  - [ 5 มี.ค. 50 13:25:58 ]       ความคิดเห็นที่ 13   ลิงค์ของคุณงามครับ "สิ่งน่ารู้ก่อนเดินทาง" http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H4978470/H4978470.html สิ่งน่ารู้ก่อนออกเดินทาง#2{แตกประเด็นจาก H4978470} http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5084690/H5084690.html คห.9 > พูดถึง Walkie Talkie ที่นายจ้างให้หรือเปล่าครับ? ผมว่า จะให้ดี ภาวนาให้อย่ามีดีกว่า เพราะจะโดนว.ตามไปทำงานตลอดนะ หึหึ คห. 10> ผมไม่ได้ไป Niagara น่ะครับเลยให้คำแนะนำอะไรไม่ได้ แต่ยังไงก็ลองถามคนแถวนั้นดู จะเพื่อน จะนายจ้าง หรือใครก็ได้ เผื่อเค้าอาจให้คำแนะนำอะไรดีๆก็ได้นะครับ ที่จริง หาเพื่อนไปเที่ยวน่าสนุกกว่าไปคนเดียวนะครับ ^^ อย่างน้อยก็อุ่นใจ มีอะไรจะได้ช่วยกันได้ คห. 12> ทำที่ MD แหละครับ แต่ไม่ได้ผ่านไปแถว Aberdeen เลย แต่ดูจากแผนที่แล้ว อย่างน้อย ก็ใกล้ๆ DC ตอนเที่ยวน่าจะสบาย ไม่ไกลมาก จากคุณ : rafflets  - [ 5 มี.ค. 50 22:25:51 ]       ความคิดเห็นที่ 14   ลิงค์มาที่นี่ก็ดีค่ะ แต่อยากให้ จขกท ทำลิงค์เรื่องเสริมของคุณไปไว้ที่ดิฉันโพสต์ไว้ว่า "วันนี้จะมาร่ายยาวฯ" เพื่อให้คนที่เข้าไปในกระทู้ของดิฉันได้อ่านของคุณด้วยน่ะค่ะ เพราะคนที่รอคำตอบอยู่ตรงโน้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 5 มี.ค. 50 22:37:08 A:58.8.144.94 X: TicketID:134511 ]       ความคิดเห็นที่ 15   โอ้ ตอบเร็วมากเลยครับ (แอบตกใจเลยนะเนี่ย) ขอบคุณนะครับ เพิ่งรู้ตัวว่าลืมลิงค์อีกหน้านึงให้ ขอโทษด้วยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5175653/H5175653.html เดี๋ยวจะไป reply ไว้ ----------------------------- วันนี้มาต่อกันเลยนะครับ Subway/Metro ก่อนอื่นขอย้ำอีกทีว่าความเห็นเหล่านี้มาจากการไปเที่ยวมาครั้งแรกนะครับ ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรก็ต้องขออภัยไว้ก่อน วันนี้จะพูดคร่าวๆเกี่ยวกับรถที่ DC กับ NY นะครับ ซึ่งสภาพทั้งสองที่นี่ แตกต่างกันลิบลับอย่างกับอยู่คนละประเทศ สำหรับ Washington DC ถ้าใครได้ลองนั่งแล้วจะรู้ว่า รถไฟใต้ดินที่นี่สภาพดีมากๆ มีเบาะนุ่มๆให้นั่งได้แทบทุกครั้งที่ขึ้น แต่ราคาก็แพงกว่า New York และนอกจากนี้ ตั๋ว Day Pass ก็มีจำกัดช่วงเวลาที่ใช้ได้ของวัน ไม่ได้ใช้ได้เต็มๆวัน เพราะฉะนั้น ลองวางแผนก่อนซื้อตั๋ว ถ้าจะไปตระเวนเที่ยวทั้งวันก็ซื้อ Day Pass ไป แต่ถ้าคิดดูแล้วจะไปลงแค่ไม่กี่ที่ ก็ซื้อแบบเที่ยวไปจะคุ้มกว่า อย่าลืมด้วยว่าที่เที่ยวใน DC พวก Smithsonian, White House, Capital Hill มันติดๆกันอยู่แล้ว บางครั้งเราก็เดินเที่ยวต่อๆกันเลย ไม่ได้มุดเข้ามุดออกบ่อยๆ นั่งขาออกจากที่พัก แล้วก็เดินเที่ยวๆๆๆๆ นั่งอีกทีก็ตอนขากลับ ถ้าเป็นแบบนี้ซื้อแบบเที่ยวเดียวจะประหยัดกว่าครับ ส่วนที่ New York กรุณาทำใจให้ดีก่อนจะใช้บริการแล้วกันนะครับ เดี๋ยวไปเจอแล้วคงรู้เอง หึหึ บันไดรถใต้ดินนิวยอร์กแคบมาก แคบประมาณให้คนสองคนเดินสวนกันได้เท่านั้น ที่สำคัญคือไม่มีบันไดเลื่อน ส่วนมากจะต้องเดินเอาเอง ดังนั้น>>กรุณาพึงระลึกไว้ให้ดีๆหากจะต้องแบกกระเป๋าเดินทางไปด้วย หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง<< บางสถานีอาจดีหน่อยตรงที่มีลิฟต์ แต่พอประตูลิฟต์ปิดก็แทบจะอยากคลานออกมาจากลิฟต์ทันที เนื่องด้วยกลิ่นเหม็นอับฉี่ -_- (เฮ่อ) ส่วนตัวสถานีก็ออกจะแปลกๆ บางสถานี เวลาจะเปลี่ยนชานชาลา ต้องปีนขึ้นมาบนพื้นดินก่อนแล้วค่อยหารูมุดลงไปอีกชานชาลาแทน (อารมณ์เหมือนจะนั่งสายสีลม ต้องขึ้นที่ประตูสยามเซนเตอร์ แต่ถ้านั่งสายสุขุมวิท ต้องไปขึ้นฝั่งสยามสแควร์) ซึ่งทางเข้ามันก็จะมีป้ายเขียนอยู่ว่าประตูนี้ไปสายไหนได้บ้าง สังเกตดีๆแล้วกันนะครับ ความงงของระบบ Subway ยังไม่สิ้นสุดแค่นั้นครับ เพราะว่าทุกๆวัน จะมีประกาศการซ่อมแซม ทำให้รถไม่วิ่งบางสายในบางช่วง หรือไม่รถบางขบวนก็มีการวิ่งแบบ Express (คือไม่จอดบางสถานี) ซึ่งป้ายประกาศพวกนี้ มีติดไปทั่ว แต่แสนจะทำความเข้าใจยากสำหรับกระเหรี่ยงเข้ากรุงแบบพวกเรา ยังไงก็พยายามตรวจสอบให้ดีๆ เวลานั่งอยู่ในรถก็คอยฟังประกาศที่พนักงานเขาจะเตือนให้ดีๆละกันนะครับ เช่น เตือนว่าจะวิ่ง express ไม่จอดอีกกี่สถานี แต่ไอ้พวกการเปลี่ยนแปลงหยุมหยิมพวกนี้ในพวก Downtown หรือส่วนล่างๆของ Manhattan จะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ที่สำคัญอีกประการก็คือ กรุณาตรวจสอบให้ดีก่อนว่า ที่พักของเรา รถ subway จะวิ่งถึงกี่โมง เพราะแต่ละสายมีเวลาปิดเปิดไม่เท่ากัน อย่าเที่ยวเพลินจนเลยเวลารถสายนั้นปิดล่ะครับ เดี๋ยวจะลำบากเอา  ยังไงก็เอาใจช่วยนะ ที่เล่ามาไม่ได้จะให้กลัวนะครับ แต่เพื่อแนะนำว่า ควรสังเกตให้มากๆ คอยตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จะได้เที่ยวอย่างไร้อุปสรรคครับ จากคุณ : rafflets จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นที่ 16   คราวนี้ก็มาถึงเรื่องสำคัญสุดสำหรับการไป Work แล้วล่ะครับ ก็คือ 'การทำงาน'นั่้นเอง ยังไงก็ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า อย่าคาดหวังเป็นอันขาดนะครับว่าจะได้กำไร มาโครงการนี้มีโอกาสสูงมากๆๆๆๆ ที่จะขาดทุน  ถ้าเราไม่ได้ Second Job ก็คงยากที่จะได้กำไร หรือบางครั้งได้มาก็จริงแต่พอไปเที่ยวแล้วก็ขาดทุนอยู่ดี (แต่สำหรับที่เอาไปเที่ยวนี่ ผมไม่อยากเรียกว่าขาดทุนนะ อยากเรียกว่าเป็น &#8216;กำไรชีวิต&#8217; มากกว่า) นอกจากนี้ ไอ้พวกเรื่องภาษาเนี่ย บางครั้ง เราอาจโชคร้าย ได้ไปทำงานในแผนกที่เพื่อนร่วมงานมีแต่พวกคนแม็กซิกัน ที่พูดเป็นแต่ภาษา Spanish แต่พูดภาษาอังกฤษแทบจะไม่ได้เลยก็เป็นได้ ผมว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกๆที่หลายๆคนพลาดไปอย่างน่าเสียดายอย่างที่สุด คือการที่มัวแต่ทำงานจนไม่ได้เผื่อเวลาเที่ยวเอาไว้เลย ยังไงผมก็คิดว่าควรจะเผื่อเวลาเที่ยวสักอาทิตย์หรือมากกว่า (ผมเที่ยวซะสองอาทิตย์ด้วยซ้ำ) ไม่งั้นจะมานั่งเสียดายทีหลังว่า อุตส่าห์ได้ไปอเมริกาทั้งที กลับไม่ได้ไปเห็นอะไรเลยนอกจากที่ทำงานตัวเอง วกกลับมาที่เรื่องการทำงานใหม่ เนื่องจากประสบการณ์ first job ของผมไม่สู้จะดีนักเท่าไหร่ ก็เลยขอฝากกฏข้อสำคัญที่ต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจคือ อย่าไว้ใจใคร และ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แล้วก็ พยายามสร้างความสัมพันธ์ เกาะกลุ่มกับเพื่อนๆคนไทยที่ไปด้วยกันให้ดีๆนะครับ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ ส่วนเรื่องอื่นๆที่อยากจะฝากไว้ก็คือ... - ทำใจหากได้ชั่วโมงทำงานต่ำ บางครั้งชีวิตมันก็แย่อย่างงี้แหละ -_- - อย่ายอมถูกเอารัดเอาเปรียบ เช่น นายจ้างชาร์จค่าที่พักเพิ่มจากสัญญาของเราโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือ มีการพูดไม่ดีกับเรา หรือ เราสามารถโทรแจ้งเอเย่นต์ทางเมืองไทย และทางอเมริกาได้ อย่างไรก็ตาม ห้าม ห้าม และห้าม ใช้อารมณ์เหนือเหตุผลในการโต้ตอบเป็นอันขาด เพราะเราตกอยู่ในสถานเสียเปรียบนายจ้างอยู่แล้ว ยึดกฏระเบียบไว้เสมอ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฏ เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ - เวลาตอกบัตรเข้าทำงาน เก็บบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน เสมอ ถ้าระบบการตอกบัตรไม่มีบันทึกให้ ต้องจดเวลาเข้าออกเอง เวลามีปัญหา เช็คออกมาไม่ตรง เราจะได้ไปเถียงเค้าได้ นอกจากนี้ ควรรู้ว่า เรามีสิทธิ์ที่จะขอดูเวลาเข้าออกงานของเราที่ทางนายจ้างบันทึกไว้ - อย่าวางของมีค่าทิ้งไว้ใน Locker หรือที่ไหนก็ตาม ระวังจะโดนจิ๊กไป - หาเพื่อนคนไทยในเมืองเดียวกัน (ถ้ามี) เวลามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ เช่น โดนเค้าไล่ออกมาก็มาอยู่ด้วยกันได้ จัดปาร์ตี้เล็กๆสนุกๆกัน กระทั่งเวียนไปขอของกินตามร้านต่างๆที่คนไทยไปทำงาน 555 ครับ ก็อย่างที่พูดไว้ ถ้าเราโชคร้ายไปเจอนายจ้างที่ไม่ดี  อย่าไปยอมให้เขากดขี่ ก้มหน้าก้มตารับกรรมเป็นอันขาดนะครับ เราต้องแสดงให้เขารู้ว่า เรารู้ว่าเรามีสิทธิ์อะไร และเราไม่ยอมให้เขาเอาเปรียบได้ง่ายๆ พูดกับเขาด้วยความมีเหตุผล อย่าใช้อารมณ์นำ ทุกอย่างจะดีเอง แล้วก็ ตักตวงความสุขไว้บ้างนะครับ  อย่าเอาแต่ประหยัด หรือเก็บเงินจนตัวเองต้องลำบาก ไว้เดี๋ยวจะมาต่ออีกวันหลังนะครับ ยังไม่ยอมจบง่ายๆหรอก ยิ่งเขียนยิ่งมันส์แฮะ จากคุณ : rafflets  - [ 5 มี.ค. 50 23:51:48 ]       ความคิดเห็นที่ 17   ปูเสื่อรอค่ะ ขอบพระคุณมากๆ เลยค่ะ เป็นประโยชน์มากๆ เลย อยากให้แนะนำเรื่องการหา second job ด้วยค่ะ จากคุณ : chocoroll  - [ 6 มี.ค. 50 09:59:48 ]       ความคิดเห็นที่ 18   walkies talkies มันเหมือน ว. ครับ แต่มันเป็นฟังชั่นตัวนึง ของ โทรศัพท์ครับ คิดเงินอย่างไรไม่ทราบ ประเทศไทย โทรศัพท์รองรับ แต่เครือข่ายไม่รองรับ อุอุ จากคุณ : skybookz.com (BOokz_psu)   - [ 6 มี.ค. 50 11:40:18 ]       ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณจิงๆ ค่ะ สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้เพื่อนไปถึงแล้ว ปรากฏว่าค่าที่พักขึ้นจากที่ตกลงไว้ กะว่าตามไปจะไปโวย เพราะเค้าส่งเมลมาบอกเองว่าราคาเท่านี้ให้อยู่ได้ 6 คน แต่พอไปถึงให้อยู่ได้แค่4 และก็คิดเป็นรายหัว แพงมากกกก เหมือนกะว่าทำงานเอาเงินไปให้ค่าบ้านอย่างเดียว เรากะว่าตามไปจะไปหาที่ใหม่ ถ้าหาไม่ได้ทำไงค่ะ จากคุณ : หนู (nuike)  - [ 6 มี.ค. 50 19:50:46 ]       ความคิดเห็นที่ 20   ลืมถามเรื่องอาหารการกิน น้ำหนักขึ้นรึเปล่าค่ะ มีอะไรแนะนำว่าควรจะลองกินดู แล้วได้กินอาหารไทยบ้างป่าว??? ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ จากคุณ : หนู (nuike)  - [ 6 มี.ค. 50 19:52:22 ]       ความคิดเห็นที่ 21   คห 18 > อันนี้ไม่ทราบครับ ลองไปถามที่นั่นเอาเองละกันนะ คห 19 > เอาใจช่วยครับ ผมว่าไล่บี้ตั้งแต่ที่เอเย่นต์เมืองไทยเลยครับ ให้ผู้ปกครองของเพื่อนๆในกลุ่มช่วยกันรุมจี้ก็ดีครับ ส่วนทางเพื่อนของคุณที่อยู่ที่นั่น ก็ให้โทรติดต่อเอเย่นต์ที่อเมริกาด้วย แต่เรื่องที่พักนี่บางครั้งก็พูดยากเหมือนกันครับ เพราะเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ทางนายจ้างฝั่งนั้นเขา 'ช่วย' เราหาที่พัก ก็คล้ายๆกับชั่วโมงทำงานที่เขาแค่ 'ประมาณ' ชั่วโมงขั้นต่ำเอาไว้ ซึ่งพอทำจริงเราก็อาจได้ชั่วโมงน้อยกว่าที่เขาเขียนได้ ยังไงก็ให้เพื่อนๆที่นั่นหาที่พักอื่นๆเป็นทางเลือกแล้วกันครับ บางครั้งที่ที่เราหาได้ก็ดีกว่าที่เดิมที่เคยอยู่นะเอาใจช่วยครับ คห 20 > เอ่อ อันนี้อาจเป็นคำตอบแสลงใจครับ ประมาณว่า ก่อนไป น้ำหนักผมกับเพื่อน(ผู้หญิง) ห่างกันประมาณ 12 โล พอทำงานเสร็จ ปรากฏว่า น้ำหนักเราเท่ากันครับ (พบกันครึ่งทาง ฮ่าๆ) กรุ๊ปผมที่ไปกันเนี่ย ผู้หญิงน้ำหนักจะขึ้นกันแทบทุกคน ส่วนผู้ชายก็ลดกันถ้วนหน้า ไม่รู้เป็นอะไรกัน เรื่องของกินนี่ ผมว่าพอไปก็คงรู้เองแหละครับว่าอยากกินอะไร มันน่ากินไปโม้ดดด ส่วนอาหารไทยเนี่ย ยังไงผมก็เชื่อว่าคนไทยหาวิธีที่จะได้กินอาหารไทยอยู่แล้วแหละครับ ถึงไม่ไทยแท้ก็ไทยประยุกต์แหละ เรื่องอย่างงี้คนไทยถนัดอยู่แล้ว จากคุณ : rafflets  - [ 6 มี.ค. 50 23:30:16 ]       ความคิดเห็นที่ 22   จขกท ไป MD เมืองอะไรหรอคะ เพราะกำลังจะไป Ocean City เผื่อมีอะไรแนะนำค่ะ :) จากคุณ : OC. - [ 7 มี.ค. 50 01:56:45 A:58.8.38.36 X: TicketID:140084 ]       ความคิดเห็นที่ 23   คห 22 > ทำที่ OC แหละครับ ถ้ามีอะไรจะถามก็หลังไมค์มาได้นะครับ เมื่อวานกำลังจะโพสต์ต่อ อยู่ดีๆพันทิปก็ล่มเอาดื้อๆ มาต่อเรื่อง 2nd Job กันเลยนะ - เราสามารถหา Second Job ได้ทันที โดยไม่ต้องรอบัตร Social Security (ถ้าเค้าให้กรอกก็บอกไปว่ากำลังทำอยู่) อย่าลืมว่ายิ่งเราหางานได้เร็ว เราก็สามารถ Start งานได้เร็ว แล้วก็ได้เงินมากขึ้นนะครับ - การ walk in เข้าหางานเนี่ย พยายามอย่าไปเกินกลุ่มสองคน ร้านเขาไม่มีปัญญารับหมดหรอกครับ ส่วนมากพอไปสมัคร ถ้าเขาให้กรอกโน่นนี่แล้วบอกว่าจะโทรกลับไป  ก็ทำใจได้เลยครับว่า งานนี้ ยากส์ เพราะส่วนมากแล้ว ถ้าเราได้งานนั้นจริง เขาก็จะบอกเลยว่าต้องการคนช่วยอยู่ - >>>>พยายามหางานที่ได้ทิป เพราะนั่นหมายถึงแหล่งเงินมหาศาล<<<<< -  เวลากรอกฟอร์มเรื่องภาษี ถ้าเป็นไปได้ ให้เช็ค exempt tax ทุกอัน รวมไปถึง federal tax ด้วย (คือไม่ต้องจ่าย tax สักเซนต์เดียวว่างั้น) ถ้าไม่ได้ ก็ติ๊กแค่จ่าย federal tax เพราะว่า การทำ tax refund นั้น ถ้าจ้าง tax back ช่วยเคลมให้ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 75$ หรือไม่ก็มีบางที่คิดเป็น % ของเงินที่เคลมได้ ยังไงผมก็ว่า ได้เงินมากอดไว้ก่อนน่าอุ่นใจสุดครับ อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งเสียดาย ถ้าค่าเงินบาทปีต่อมามันแข็งขึ้นอีก - ข้อดีในการทำงานร้านอาหารคือมักได้กินฟรี ไม่ก็ได้อาหารกลับบ้านมาทานฟรี ที่สำคัญบางร้านเนี่ย มูลค่าของกินที่เราได้กินฟรีไปนี่เป็นร้อยๆเหรียญเลยนะ อย่างเช่นร้านอาหารซีฟู้ด เป็นต้น ยิ่งถ้าทำกัีนหลายๆคน เลิกงานเหนื่อยๆมา ก็เอาอาหารที่ขนกลับมารวมเป็นอาหารมื้อดึก ตั้งวงกินกันอีกก่อนไปนอน ^^ จากคุณ : rafflets  - [ 7 มี.ค. 50 08:59:12 ] จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 24   มาต่อเรื่องงานที่มักจะได้กัน >>เป็นข้อสรุปคร่าวๆจากประสบการณ์ที่อ้างอิงจากเพื่อนๆในกลุ่มที่ทำมา<< ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วรายละเอียดพวกนี้ก็แตกต่างกัน แล้วแต่ร้านที่เราได้ไปทำอยู่ดี แล้วก็ ขอย้ำอีกทีว่าพยายามหางานที่ได้ทิป เพราะรวยกว่าแน่นอนครับ o Dishwasher : ล้างจาน งานนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านเลยจริงๆ ว่าความโหดนั้นมากน้อยเพียงใด บางร้านงานล้างจานอาจเป็นงานง่ายๆ มีจานให้ล้างไม่เยอะ จนอาจจะได้นั่งพักเป็นชั่วโมง  ในขณะที่บางร้าน จานมาเยอะจนแทบจะทำไม่ทัน แถมก็มาเป็นกระทะร้อนที่ต้องขัดกันมันส์ระเบิด แต่ส่วนมากแล้ว  งานนี้จะเหนื่อย รายได้จะเป็นแบบตายตัว เช่น 7$/hr จะมากน้อยขึ้นกับร้านที่ทำ บางร้านอาจให้มากหน่อยเช่น 9$/hr แต่ก็อาจไม่คุ้มเพราะเหนื่อยสุดๆ สู้ทำ 7$ แต่ชิลๆดีกว่า o Bus Boy/ Busser เป็นเด็กเก็บโต๊ะ หน้าที่แต่ละร้านไม่เหมือนกัน บางร้านก็แค่เก็บโต๊ะ จัดโต๊ะ แต่บางร้านก็ต้องช่วย Server ในการเสิร์ฟอาหารด้วย วิธีการทำความสะอาดโต๊ะแต่ละร้านก็แตกต่างกัน รวมไปถึงการให้เงินก็ต่างกัน บางที่ให้เป็น fixed rate เหมือน Dishwasher ในขณะที่บางร้านให้เป็น fixed rate + tips เช่น ที่ร้านผมไปทำให้ 3$/hr + Tips โดย Tips จะแบ่งจาก Server ทุกคนรวมกัน ซึ่ง Server แต่ละคนจะให้ทิป Busser ประมาณ 10% ของทิปที่ตัวเองได้ แต่ถ้าเราตีซี้กับเด็กเสิร์ฟ ช่วยเหลือเค้าดี อาจได้คะแนนพิศมัยให้มาซะ 15% งานนี้ถือว่าค่อนข้างสบาย มีความสุข เพราะได้อยู่ในตัวร้านอาหาร ไม่ได้ร้อนเหมือนในครัว แถมได้มีโอกาสเม้าท์กับคนในร้านด้วยกัน (Busser, Server, Cashier) ฝึกภาษาไปในตัว แถมยังได้เดินไปเดินมา เห็นกิจกรรมหลายๆอย่าง นอกจากนี้ ถ้าลูกค้าไม่น้อยจริงๆ ส่วนมาก 90% จะได้เงินมากกว่า Dishwasher ในบางคืนที่พีคๆ รายได้รวมทิปแล้วเราอาจทำเงินสูงถึง 25$/hr เลยก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเหนื่อยมากกว่าปกติหน่อย แต่ไม่เหนื่อยเท่าพวกล้างจานแน่นอนครับ o Server งานนี้ บอกได้คำเดียวว่า ร ว ย ชัวร์ๆครับ บางครั้งทำงานสองสามชั่วโมง ได้เงินมาเป็นร้อยเหรียญ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกับการเป็น Server เพราะต้องใช้ภาษาเยอะมาก เด็กเสิร์ฟที่นี่ไม่เหมือนเมืองไทยนะครับ  เพราะต้องเข้าไปคุยเจ๊าะแจ๊ะกับลูกค้าตลอด คอยถามว่าอาหารเป็นไง เอาอะไรไหม หรือคุยเรื่องสัพเพเหระไป เพราะยิ่งคุยมาก ก็ยิ่งได้ทิปเยอะ นอกจากนี้ การแบกถาดอาหารมาเสิร์ฟก็ใช้สกิลสูงเหมือนกัน ใช้มือเดียวต่อหนึ่งถาด ซึ่งมีอาหารมากองเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เห็นแล้วจะรู้ซึ้งเองครับ o เป็นพนักงานขายอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไอติม โดนัท ฯลฯ พวกนี้จะได้ fixed rate ประมาณ 7$ บวกกับทิปหน้า Cashier ซึ่งถือเป็นรายได้เสริม ไม่ได้มากเหมือนพวก Busser/Server (นึกถึงทิปที่เราหยอดหน้าร้านสเวนเซ่นส์ ซึ่งไม่ได้เป็นธรรมเนียมให้ต้องจ่าย ต่างกับพวก Server ที่ต้องได้ทิปประมาณ 15%) กลเม็ดการเพิ่มทิปคือ คุยกับลูกค้าให้ดีๆ เคลียร์กล่องทิปบ่อยๆให้ไม่ดูมีทิปในกล่องมากไป (แต่ก็ไม่ใช่โหรงจนไม่มี) หรือไม่ก็เพิ่มทอปปิ้ง หรือใส่ของให้ลูกค้าเยอะเว่อร์ๆ ไปซะ (ถ้าไม่โดน ผจก เขม่นซะก่อน) รายได้ขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน ส่วนมากจะได้น้อยกว่า Busser เล็กน้อย แต่งานบางลักษณะ เช่น ขายไอติมหน้า Counter ที่มีคนนั่งกินอยู่ตรงนั้น ก็จะได้ทิปมากกว่า (เพราะมีโอกาสได้บริการ และคุยกับลูกค้ามากกว่านั่นเอง) o เป็นคนครัว อันนี้ต้องมีสกิลของตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รายได้ก็เป็น fixed rate อาจจะสูงกว่า dishwasher บ้างแต่ก็ไมได้สูงมากมายอะไรนักเพราะเพิ่งเข้าไปทำ ข้อดีคือ ได้กินฟรี หรืออาจทำอาหาร จิ๊กกลับไปกินที่บ้านต่อได้ แต่สรุปก็งั้นๆแหละ o งานอื่นๆ ก็แล้วแต่จะคิด แต่ถ้ามี student center อยู่ในเมือง ก็ลองแวะๆเข้าไป ลองหาประกาศรับสมัครงาน อาจจะเป็นงานแปลกๆเช่น งานทำสวน พวกงานที่จ้างเป็นรายคนนี้ ถ้าโชคดีได้นายจ้างดีจะเจ๋งมาก เพราะบางงานสบายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ได้ตังค์มากมาย ของอย่างงี้อยู่ที่จังหวะและดวง ยังไงก็เอาใจช่วยให้หางานดีๆทำได้นะครับ จากคุณ : rafflets  - [ 7 มี.ค. 50 09:09:06 ]       ความคิดเห็นที่ 25   ผมทำ  แมค ที่alabama ไม่รุ้ว่า จะเป็นอย่างไร ภาษา ก็ งูๆปลาๆ  คงไม่    ย่างก็ประกอบแฮมเบอร์เกอร์แน่เลย แอบ งง อะ คับ exempt tax ,  federal tax  อ่านแล้ว ยัง ง ง คับ ช่วยอธิบายให้หน่อยได้ไหมคับ จากคุณ : pasta_popcorn  - [ 7 มี.ค. 50 10:46:18 ]       ความคิดเห็นที่ 26   งงเหมือนกันอ่ะ ขอเรื่อง TAX อีกรอบ จากคุณ : Saka-ya  - [ 7 มี.ค. 50 11:48:48 ]       ความคิดเห็นที่ 27   โอ้วว.. เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ อ่านแล้วชักตื่นเต้น ไม่รู้จะหา second job ได้ปะเนี่ยๆ อิอิ กลัวเค้าไม่รับเราอะ มี trick ปะคะ แฮ่ะๆ ขอบพระคุณเจ้าของกระทู้มากเลยค่ะ จากคุณ : chocoroll  - [ 7 มี.ค. 50 13:07:02 ]       ความคิดเห็นที่ 28   ถ้าเราใช้มือถืออยู่ที่อเมริกา แล้วจะให้ทางที่บ้านโทรไป ต้องให้ที่บ้านกดโทรออกยังไงหรอค่ะ จากคุณ : mui (olelism)  - [ 7 มี.ค. 50 16:42:31 ]       ความคิดเห็นที่ 29   เรื่อง tax นี่ มันน่างงจริงๆครับ ฟอร์มมันเขียนภาษาอังกฤษก็จริงแต่อ่านไม่รู้เรื่องเล้ย ให้ตายสิ เอาเป็นว่า ส่วนมากทุกเอเย่นต์ เค้าจะแนะนำให้เรากรอกฟอร์มโดย ติ๊กจ่ายแค่่ federal tax (ภาษีของรัฐบาลกลางสหรัฐ) อย่างเดียว ส่วนพวก state tax (ภาษีของรัฐนั้นๆ) หรือภาษีอื่นๆ  ให้ติ๊กว่าไม่ต้องจ่าย (exempt) ไป แต่เพื่อนผมบางคนก็ติ๊ก exempt หมดเลย (เพราะนายจ้างของเขาแนะนำมา) ก็เลยไม่ต้องจ่ายภาษีเลยสักเซนต์ ดังนั้น ก็น่าจะแสดงว่า เราไม่ต้องไปจ่าย tax อะไรสักอย่างหรอกครับ ติ๊กไม่ต้องจ่ายให้หมดเลยดีกว่า ส่วน คห 27 เนี่ย ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับว่าเขาจะไม่รับเรา เพราะยังไงเกือบร้อยทั้งร้อย เราไม่ได้งานในที่แรกที่เราเข้าไปถามหรอกครับ ใช้คติ 'ด้านได้อายอด' เข้าไว้ เขาไม่ไล่ตะเพิดเราออกจากร้านหรอกครับ เราไม่ได้ไปทำอะไรผิดสักหน่อย ออกจะดูใจดีให้กำลังใจและความฝันลมๆแล้งๆแก่เราด้วยซ้ำ หลายๆที่คุยซะดิบดี แล้วก็ไม่ติดต่อกลับมา เป็นเรื่องแสนจะธรรมดาครับ คห 28 > ก็โทรเหมือนโทรไปอเมริกาปกติเนี่ยแหละครับ จะเลือกใช้ 001 006 009 บริการของอะไรก็ตามแต่สะดวก แต่อย่าลืมว่า เวลาเรารับสายเนี่ย เราก็ต้องเสียค่ามือถือนะครับ (ถ้าไม่ได้สมัครแบบมีช่วงเวลาโทรฟรี) ทางที่ดี โทรจากที่อเมริกากลับบ้านผ่านการ์ดโทรจะดีกว่า หรือไม่ก็ให้ทางบ้าน'ยิง' มาคุยว่าให้โทรกลับก็ได้ จากคุณ : rafflets  - [ 7 มี.ค. 50 22:06:06 ]       ความคิดเห็นที่ 30   ขอบคุณค่ะเรื่องรุ่นของโทรศัพท์ กระทู้มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ จากคุณ : ความเห็นที่6ค่ะ (JuSt Walking)  - [ 7 มี.ค. 50 23:37:32 ]       ความคิดเห็นที่ 31   วันนี้มาต่อเรื่องเบาๆเกี่ยวกับการชอปปิ้ง ครับ >>Tips ไม่ว่าจะใช้บริการอะไร ตั้งแต่ นั่งแทกซี่ กินข้าวที่ร้านอาหาร หรือพักโรงแรม อย่าลืมให้ทิป ปกติแล้วจะให้ที่ 15% ซึ่งทำให้เวลาจะไปใช้บริการอะไรก็ต้องคิดให้ดีเหมือนกัน เพราะต้องบวกทั้งแวตและทิปส์เข้าไปอีก รวมๆก็ปาเข้าไปเกือบเกือบ 30% ของราคาเดิม แต่ย้ำอีกทีว่าควรจะจ่าย ถ้าทำงานในตำแหน่งที่ได้ส่วนแบ่งจากทิป เช่น เป็นคนขาย เป็น Busser (เด็กเก็บโต๊ะ) เป็น Server หรือเป็น Housekeeping ในโรงแรม จะรู้ซึ้งดีว่าทิปมีความหมายมากเพียงใด >>Supermarket - เวลาไปซื้อของในพวกซุปเปอร์ ทำบัตรสมาชิกด้วย (สมัครฟรี) จะได้ซื้อของในราคาถูกลงมา คอยเช็คราคาว่าที่ซุปเปอร์ไหนมีโปรโมชั่นอะไร - หลายๆที่ที่โปรโมชั่นจำพวก 3 for 10$ (คือ สามชิ้นในราคา 10$) เราไม่จำเป็นต้องซื้อถึง 3 ชิ้น เราสามารถซื้อ 1 ชิ้นในราคา 3.33$ ได้ (เช็คให้ดีก่อน >>Alcohols จะซื้อได้ต้องอายุเกิน 21 ปี และมักจะต้องเอา Passport ไปแสดงยืนยันอายุของเรา >>VATs - ราคาสินค้า รวมไปถึงค่าอาหารตามร้านอาหารที่อเมริกายังไม่มีการรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม - ไม่สามารถเคลมภาษีจากการซื้อสินค้าใดๆได้ - แต่ละรัฐจะมีภาษีต่างๆกัน ส่วนมากเมืองใหญ่ๆภาษีจะแพง โดยเฉพาะที่ NYC ถ้าจำไม่ผิด ภาษีจะอยู่ที่ 13% ในขณะที่รัฐ Delaware ไม่ต้องเสียภาษีสักแดงเดียว ฉะนั้นถึง Outlet ที่นิวยอร์ก กับเดลาแวร์จะขายสินค้าเดียวกันในราคาเดียวกัน แต่การซื้อที่ Delaware ก็ทำให้ save ไปได้ถึง 13% เลย >>Credit Cards - ร้านส่วนมากรับบัตรเครดิต VISA, Mastercard จึงเป็นการดีอย่างยิ่งที่จะเตรียมบัตรเครดิตไป เผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินหลายๆอย่าง หรือใช้แทนเงินสด ถ้าไม่อยากหอบเงินเป็นพันๆเหรียญเดินในเมือง - สำหรับบัตร ATM ต้องมีสัญลักษณ์ PLUS เท่านั้น ถึงใช้ได้ ซึ่งถ้าเป็นบัตรเดบิต ส่วนมากจะมี PLUS อยู่แล้ว หมายความว่ากดเงินจากตู้ที่นั่นได้ แต่ไม่นิยมให้ใช้ เพราะว่าชาร์จค่ากดต่อครั้งแพงมาก นอกจากนี้ ร้านค้าส่วนใหญ่ที่อเมริกา ไม่รับบัตรเดบิตที่ใช้ VISA Electron (ซึ่งบัตรเดบิตเกือบ 100% ที่เมืองไทยจะใช้ VISA Electron) - อีกประโยชน์ของการซื้อของผ่านบัตรเครดิตคือ ทำให้เราสามารถซื้อของ หรือทำการจองตั๋ว/ที่พักผ่านทางเนตได้ ไม่ว่าจะเป็น amazon.com, ebay.com ฯลฯ ซึ่งหลายๆครั้งก็มักจะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อตามร้านทั่วไป อย่างไรก็ตาม บางเว็บไซต์จะไม่รับบัตรเครดิตที่ออกให้โดยธนาคารนอกประเทศ >>Money Orders Money Orders หรือ ธนาณัติ เป็นอีกวิธีในการจ่ายค่าชำระต่างๆ เช่น การจองแพคเกจทัวร์ เราสามารถทำการมัดจำได้โดยส่ง Money Orders ไปที่บริษัทนั้นๆ Money Orders สามารถทำได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ หรือตามซุปเปอร์ เซเว่น ก็ทำได้เช่นเดียวกัน ทำง่ายๆครับ ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ------------ จากคุณ : rafflets  - [ 8 มี.ค. 50 00:51:53 ]       ความคิดเห็นที่ 32   จขกท แอดมาหน่อยได้มั้ยคะ? จะขอถามเกี่ยวกับ OC น่ะค่ะ ขอบคุณค่า :) จากคุณ : OC / zwice@hotmail.com - [ 8 มี.ค. 50 03:42:55 A:58.8.36.234 X: TicketID:140084 ]       ความคิดเห็นที่ 33   อธิบายเรื่องเชคท่องเที่ยวหน่อยนะคะ ว่าทำไง ใช้ไงอะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : milk (buttermilkcream)   - [ 8 มี.ค. 50 16:43:49 ]       ความคิดเห็นที่ 34   จขกท เป็นเกย์ครับ คห.3 จากคุณ : ชื่อนี้มีคนใช้แล้ว   - [ 9 มี.ค. 50 22:22:59 ]       ความคิดเห็นที่ 35   กำลังจะไป OC เหมือนกันค่ะ ได้ทำงานเป็นServer แต่ไม่รู้ว่าไปถึงจริงๆจะได้ทำหรือเปล่า เพราะคิดว่าภาษายังไม่ดีพอ ออกแนวกะเหรี่ยงด้วยซ้ำค่ะ แล้วที่สำคัญไม่มีเพื่อนไปด้วยอ่ะค่ะ เรื่องที่พักก็ยังไม่แน่นอน อยากได้รับคำแนะนำดีดีจากเจ้าของกระทู้อีกน่ะค่ะ ช่วยแอดมาด้วยนะคะ bana_jang@hotmail.com จากคุณ : banana - [ 10 มี.ค. 50 01:06:29 A:125.25.192.88 X: TicketID:140361 ]       ความคิดเห็นที่ 36   คห. 33 > ไม่เคยใช้ครับ โทษที คห. 34 > ถ้าไม่รู้จักกันจริงๆ ก็ไม่ต้องมาโชว์เกรียนที่กระทู้นี้หรอกครับ คห. 35 > เรื่องภาษา ฝึกกันได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องเพื่อน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มีคนไทยไปลงทำงานที่เมืองนี้เยอะ จากคุณ : rafflets จากคุณ : คนบ่น - [ 29 มี.ค. 52 00:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมาอ่านใหม่ก็ดีอย่างหนึ่ง ได้ทบทวนความจำแต่หนหลัง จากคุณ : งามแสงเดือน - [ 30 มี.ค. 52 00:01:22 A:118.172.67.112 X: TicketID:134511 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เราไป OC มา ปีที่แล้วอ่ะ แต่เป็นช่วงซัมเมอร์ ถ้ามีอะไรสงสัยก้อลองถามดูได้นะ จะพยายามตอบอ่า จากคุณ : Lumee (LuMee) - [ 30 มี.ค. 52 23:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ทราบว่าอยู่เมืองไหนของไวโอมิ่ง พีก็อยู่ไวโอมิ่ง เมืองไชแอนท์ เมืองที่น้องอยู่ชื่อเมืองอะไร และถนนอะไร จากคุณ : Duja - [ 31 มี.ค. 52 06:43:07 A:72.175.113.182 X: TicketID:210352 ]